web stats

ข่าว

 


ด้วยแรงแห่งรัก ตอนที่ 5 อริเก่า

โพสต์โดย: ยามเย็น วันที่: 16 กรกฎาคม 2017 เวลา 14:37:11 อ่าน: 160

"ให้ตายเถอะ ไม่คิดไม่ฝันว่าคนที่ทำให้ขิมเจ็บได้คือน้องชายของยัยหน้าต้มจืด" อเดลว่าเมื่อเจอคู่อริเก่าที่เคยไปเรียนที่โรงเรียนประจำเดียวกันตอนอยู่เมืองนอก

"ถ้ารู้ว่าไอ้นี่เป็นน้องเธอ วันนั้นฉันจะบอกตัวเองให้ไม่สลบ เพราะฉันจะเอาขวดเหล้าฟาดหน้ามันให้ได้เลย".ขิมว่า.แล้วกอดอกจ้องหน้าวินที่ มองมาที่ตัวเอง

"ถ้าฉันรู้ว่าวันนั้นน้องจะทำให้แกเจ็บได้ ฉันจะไปด้วยแล้วช่วยหยิบจานเขวี้ยงหัวแกซ้ำอีก" วารินว่าแล้วกอดอกมองขิมและอเดลอย่างเดือดๆ

"ไสหัวกลับไปเลยไป ฉันจะได้เอาน้ำมนต์มาพรมไล่เสนียด" ขิมว่าเสียงดังเพราะไม่ชอบขี้หน้าวารินและตอนนี้ไม่ชอบทั้งสองคนด้วย ยิ่งรู้ว่าวินเป็นน้องของวาริน ขิมยิ่งไม่ชอบ

"นี่ อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะยะ ฉันไม่ชอบหน้าแกเลย พอเห็นแกแล้วนึกถึงนังพิณ ฉัน..."

"อย่ามาพูดถึงพี่สาวของฉันนะ" ขิมลุกขึ้นโดยไม่สนความเจ็บแล้วตวาดผู้หญิงตรงหน้าเสียงดังอย่างเดือดดาลนั่นทำให้วารินตกใจ "ไม่ต้องคุยกันแล้ว ไสหัวกลับไปเลย ไปเจอกันที่ศาลก็แล้วกัน!"

"เออ เอางั้นแหละ" วารินว่าแล้วลุกขึ้น แต่วินดึงมือพี่สาวไว้

"ไม่ได้นะพี่ริน ผมจะขึ้นศาลไม่ได้เด็ดขาด" วินบอกพี่สาว วารินมองหน้าน้อง

"ฉันว่าฉันอยากให้แกขึ้นศาลมากกว่า มันดีกว่าต้องมาคุยกับยัยเด็กนี่เป็นไหนๆ"

"ฉันว่าเธอหุบปากแล้วนั่งลงดีกว่า น้องเธอฉลาดที่เลือกจะคุยเพราะยัยเด็กนี่ที่เธอว่าสามารถทำให้ภาพลักษณ์ดีๆ ของน้องเธอที่สร้างไว้พังทลายลงได้" อเดลพูดกับวารินด้วยใบหน้าสวยที่กวนประสาท "หากทำให้ว่าที่คู่หมั้นไม่ชอบใจ เดี๋ยวน้องเขาจะไม่อยากหมั้นด้วยเปล่าๆ เพราะตอนนี้ก็ดูหล่อนไม่ค่อยตื่นเต้นกับงานหมั้นเท่าไร ใช่ไหม"

"ผมไม่ชอบใจคำพูดของคุณเท่าไร" วินว่า อเดลยกขาขึ้นพาดขาอีกข้างของตัวเองอย่างสง่าในมาดผู้ดี

"ไม่แปลกหรอกฉันเองยังไม่ชอบเวลาฉันพูดเลย เว้นแต่ตอนที่เห็นหน้าโมโหไม่พอใจของคนที่ฉันไม่ชอบขี้หน้า อย่างตอนนี้ไง" อเดลสวนนั่นทำให้วินเดือด

"สันดานเสียไม่เปลี่ยน" วารินจิกกัดอเดล อีกฝ่ายยักไหล่ เบะปากมองบนกวนประสาทอีกคน

"ฉันก็ว่างั้น ไม่เหมือนเธอนะที่เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อน ฉันว่าเมื่อก่อนเธอสันดานแย่แล้วแต่ตอนนี้แย่กว่าเดิมอีก"

"เธอ แก นังอเดล" วารินกรี๊ด แล้วจะเข้ามาตบอเดล แต่ขิมเข้ามายืนประจันหน้าขวางทางเอาไว้

"เอาสิ ถ้าเธอทำพี่อเดลเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียวฉันกัดเธอไม่ปล่อยแน่" ขิมบอกด้วยใบหน้าจริงจัง วารินที่ง้างมือเตรียมตบอเดลเงยหน้ามองขิมด้วยความโกรธปนโมโห และยิ่งโมโหมากกว่าเดิมเมื่อมองผ่านขิมไปเห็น อเดลส่งรอยยิ้มท้าทายมาให้จากด้านหลังของคนตัวสูงที่ขวางอยู่ วารินมองหน้าขิมอีกครั้งแล้วลดมือลง

"ฉันเกลียดแก" วารินบอกขิมแล้วมองหน้าอเดล "แกก็เหมือนกัน แกกับนังพิณไม่ว่าเมื่อไรก็เอาแต่หลบหลังนังเด็กนี่"

"ฉันบอกว่าอย่าพูดถึงพี่ฉัน" ขิมว่าแล้วผลักวาริน ทำให้วารินเซถอยหลัง ดีที่วินรับตัววารินไว้ได้ อเดลรีบลุกขึ้นรั้งแขนขิมที่โมโหเอาไว้

"มันจะมากไปแล้วนะ ที่แกโดนไปรอบที่แล้วไม่เข็ดสินะ" วินว่า ขิมยักยิ้ม

"ฉันไม่เข็ดหรอกเพราะแกมันกากเกินกว่าที่จะทำให้คนอย่างฉันเข็ดได้" ขิมว่าสวน

"ขิม ใจเย็นก่อนเถอะ" อเดลบอกน้องแล้วดึงขิมให้เข้ามาหาตัว กันไว้ไม่ให้ขิมทำอะไรหรือไม่ให้ทางนั้นทำอะไรขิมได้

"ใจเย็นเหรอ มันจะทำร้ายพี่ ขิมไม่คุยอะไรทั้งนั้น" ขิมว่า

"เราจะกลับ พี่ไม่อยากมองหน้าคนพวกนี้" วารินบอกวิน

"ไม่ได้นะพี่ แค่เรื่องนี้และครั้งนี้ครั้งเดียว" วินบอกแล้วดึงพี่สาวเข้าหาตัวก่อนจะกระซิบบอก "ผมทำให้น้องเดือนผิดหวังไม่ได้ และพ่ออยากจะให้เราจบปัญหาก่อนที่ทางนั้นจะมองเราในด้านลบ พี่ก็รู้ว่าพ่อหวังตำแหน่งประธานบริษัทยักษ์ใหญ่นั่น"

วารินมองหน้าน้องชายแล้วสะบัดหน้าใส่อย่างไม่ชอบใจที่ต้องยอมอ่อนข้อให้ขิมและอเดล

"งั้นก็รีบพูดเถอะ" วารินว่า อเดลยักยิ้มมองวารินอย่างชอบใจที่เห็นอีกคนยอมแบบนี้ ปกติวารินไม่ใช่แบบนี้ หล่อนเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ไม่แคร์ใคร อยากพูดหล่อนก็พูด อยากทำหล่อนก็ทำ ไม่เห็นหัวใครสักคน ดูเหมือนว่าวารินจะรักครอบครัวไม่เบาเลย

"ฉันไม่..." ขิมจะไล่พวกนี้ไป

"ขิม ใจเย็นหน่อย" อเดลปรามขิม ขิมมองหน้าอเดลแล้วค่อยๆ นั่งลงอย่างไม่ชอบใจนัก ตาก็มองสองพี่น้องที่มองหน้าแล้วพึมพำเถียงกันไปมาเบาๆ

"จะเอาไงก็รีบพูดมาเถอะ" ขิมบอกแล้วมองค้อนสองพี่น้องที่หันมามองตัวเอง

"แล้วจะเอาไงล่ะ เราส่งคนไปคุยก็ไม่ยอม แล้วต้องการอะไร" วิน ถาม ขิมขมวดคิ้วงง

"คุยเหรอ คุยอะไร" ขิมถาม

"อ้อ เขาส่งคนไปคุยกับพี่ที่บ้านน่ะ"

"แต่พี่ไม่บอกขิมสินะ" ขิมว่า "คิดจะบอกกันไหม"

"คิด แต่ลืมไง มันไม่สำคัญเท่าไร"

"แล้วจะเอาไงไม่ทราบฮึ ส่งคนไปพูดก็แล้ว จะเอาเงินเท่าไรก็ว่ามา เราไม่อยากไปศาล เข้าใจตรงกันนะ" วารินพูด ขิมกดคิ้วต่ำมองวารินอย่างไม่อยากจะเชื่อว่ามีอีกคนจะกล้าพูดแบบนี้

"เงินเหรอ เธอคิดว่าพวกฉันต้องการเงินงั้นเหรอ" ขิมถาม

"มันจะเป็นอะไรไปล่ะ มีแล้วมีอีกไม่ได้รึไง" วารินว่า

"แค่ขอโทษมาก็จบแล้วไหม" ขิมสวน "เพราะสันดานน้องของเธอทำให้ฉันเสียหาย เอาคำโป้ปดใส่ร้ายป้ายสีฉันกับน้องเดือนเพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้นในการทำร้ายร่างกายคนอื่น ฉันไม่พอใจนิสัยห่วยๆ แบบนี้เลยไม่ปล่อยผ่าน หากไม่ทำนิสัยแบบนั้นฉันก็ไม่เอาเรื่องหรอกก็แค่เรื่องทะเลาะ ต่อยตี อารมณ์ไม่ดีตามภาษาวัยรุ่น ให้เหตุผลว่าหวงหญิงเฉยๆ มันจะตายรึไงทำไมต้องตอแหลด้วย"

"แค่ขอโทษจากใจจริง ทำได้ไหมคะ" อเดลมองหน้าวินแล้วถามอย่างสุภาพในแบบของผู้ใหญ่เพราะไม่อยากให้ขิมเดือดไปมากกว่านี้ เลยอยากให้จบไป เบื่อพวกนี้เต็มที

วินมองหน้าคนสวยที่มีเรื่องกับตัวเอง ทั้งๆ ที่ใบหน้าสวยขนาดนี้แต่แววตาและท่าทางกลับดุดันจนน่าขยาด แววตาคู่งามที่มองมาไม่มีแววเป็นมิตรหรือเกรงกลัวเขาที่เพิ่งทำร้ายไปเลย

"ฉันขอโทษ" วินบอกขิม ขิมยักยิ้มส่งแววตาเหยียดหยามไปให้

"คำว่า จากใจจริง คงไม่รู้จักสินะ" ขิมว่า แล้วถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย "แต่เอาเถอะ คิดว่าแค่นายยอมมาเพราะกลัวผู้หญิงไม่หมั้นจนหัวหด แถมยอมขอโทษอีกแค่นี้ก็สะใจมากพอแล้ว"

ขิมกระแนะกระแหนหนุ่มหน้าคมหล่อแต่มองดูเอ๋อๆ อย่างตั้งใจแล้วกอดอกพิงพนักพิงโซฟาด้วยท่าทีสบายๆ โดยไม่สนว่าสองพี่น้องจะทำหน้าตาอารมณ์เดือดร้ายยังไงบ้าง

"จบแล้วใช่ไหม จะได้กลับ" วารินว่าแล้วลุกขึ้น

"จะอยู่ทำไมล่ะ รอนายกมาตัดริบบิ้นเชิญกลับรึไง" ขิมว่า นั่นทำให้อเดลขำ

"ปากดีนักนะ ถ้าไม่ติดว่าฉันเป็นรองแกฉันจะด่าแก แล้วรักษาคำพูดด้วย ไปถอนแจ้งความซะ" วารินว่าแล้วเดินสะบัดแขนกระทืบเท้าออกไป วินลุกขึ้นโดยที่จ้องหน้าขิมและอเดลที่นั่งอยู่ข้างกัน

"แค่ครั้งนี้แหละที่ฉันจะยอม"

"อย่าเพิ่งพูดเลย ทุกรายที่พูดแบบนี้กับฉันไม่มีแค่ครั้งเดียวสักคน กลับไปซะไม่อยากเห็นหน้านาย หมั่นไส้" ขิมสวนแล้วยักยิ้มอย่างสมเพชให้ผู้ชายตรงหน้าที่มองเธออย่างอยากจะฆ่า แต่เขาก็เดินไปเมื่อเสียงของพี่สาวตะโกนเรียกเสียงดัง



"ยัยหน้าต้มจืดนั่นยังร้ายเหมือนเดิมเลย" อเดลว่าแล้วคิดถึงตอนที่ทะเลาะกัน ตอนนั้นยังเด็กอยู่เลย ยัยวารินนั่นตั้งใจจะสาดต้มจืดเต้าหู้อ่อนใส่พิณ แต่ก็โดนขิมที่อายุน้อยกว่ายื้อแย่งแล้วราดต้มจืดเต้าหู้ใส่แทน วารินร้องไห้ลั่นแต่พิณก็ร้องเหมือนกันเพราะพิณชอบกินต้มจืดเต้าหู้อ่อนมาก มันไม่มีโอกาสบ่อยที่อยู่เมืองนอกจะได้ทานเพราะแม่ของพิณเป็นคนเดียวที่ทำเป็นซึ่งไม่ได้ทำให้กินบ่อยนัก

"ยิ้มแบบนั้นทำไม" ขิมถาม นั่นทำให้อเดลรู้สึกตัว

"อะไร ยิ้มแบบนั้นยิ้มแบบไหน"

"ก็ยิ้มแบบเพ้อๆ เหมือนคิดถึงความหลังอะไรพรรค์นั้นไง เวลาพูดถึงยัยนั่นอย่ามายิ้มแบบนั้นนะมันไม่อิน ขิมไม่ชอบ" ขิมว่า อเดลไม่เข้าใจเพราะไม่รู้ตัวว่าทำหน้าแบบไหนไป

"เธอกำลังหวงฉันเหรอ"

"อะไร หวงอะไร" ขิมรีบแย้งเสียงสูง นั่นทำให้อเดลหัวเราะชอบใจ จริงๆ ก็แอบดีใจแล้วเขินด้วย แต่ท่าทางของขิมมันน่ารักเกินไป

"เธอ ฮ่าๆๆ ขิม... เธอเป็นคนที่ดูออกง่ายจริงๆ นะ" อเดลว่าแล้วดึงแก้มใสของขิมอย่างมันเขี้ยว "เธอเริ่มจะรักฉันแบบที่รักพิณแล้วสิ"

"ไม่ใช่หรอก" ขิมว่า "อย่ามาสำคัญตัวเองหน่อยเลยป่ะ ก็แค่ไม่ชอบยัยนั่น"

"แล้วทำไมต้องหน้าแดงล่ะ" อเดลถามหยอก นั่นทำให้ขิมยิ่งเดือดบ่ายเบี่ยงเข้าไปใหญ่ อเดลเลยแกล้งถามขิมต่อแบบนั้นจนเริ่มจะทะเลาะกันแล้วอเดลก็ลงมือทำร้ายคนเจ็บทันที



เสียงคนโวยวายด่ากราดและกรี๊ดทำลายข้าวของเสียงดังลั่นบ้าน ทำให้คุณนายของบ้านที่ลงจากรถรีบสาวเท้าเข้าบ้านอย่างเร่งรีบ พอเข้ามาก็เจอสาวหน้าคมร่างเล็กผู้เป็นลูกสาวกำลังปัดแก้วน้ำส้มในมือคนรับใช้จนตกแตกแล้วตามด้วยการด่าคนรับใช้ผู้โชคร้ายคนนั้นครั้งยิ่งใหญ่

"เป็นอะไรน่ะลูก ไปกินรังต่อรังแตนที่ไหนมา" วรรณารีบถามลูกสาว

"ก็ดูนังนี่สิคุณแม่ มันบ้ารึเปล่าก็ไม่รู้ เอาน้ำส้มมาให้แต่ตัวสั่นอย่างกับผีเข้า ยื่นให้หนูอย่างกับหนูเป็นปีศาจ ใครจะไปกินลงกันถ้าเจอแบบนี้ อารมณ์เสีย วันนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ" วารินว่า

"ไปเจออะไรมาลูก"

"ก็คนแย่ๆ ไม่รู้ทำไมโลกมันเล็กนัก คนมีเป็นร้อยเป็นล้านไม่เจอ ดันไปเจอนังพวกนั้น" วารินว่า "พูดแล้วอารมณ์เสีย คืนนี้ไม่อยู่บ้านนะคะ" วารินตัดบทแล้วลุกขึ้นเดินปึงปังขึ้นห้อง

วรรณามองตามลูกสาวจนสุดสายตา

"เขาไปทำอะไรมาพวกแกรู้ไหม" วรรณาถามคนรับใช้

"ไม่ทราบค่ะ แต่ว่าคุณหนูออกไปกับคุณวิน พอกลับมาทั้งคู่ก็อารมณ์ไม่ดี คุณวินก็ขับรถออกไปข้างนอกเร็วมากเลยค่ะ ส่วนคุณหนูวารินก็เป็นอย่างที่คุณผู้หญิงเห็น" คนรับใช้เก่าแก่ที่เข้ามาปรนิบัตินายหญิงของบ้านบอก

"ถ้าไปกับตาวินก็เป็นเรื่องปกติที่จะอารมณ์เสียทั้งนั้นแหละ" วรรณาว่าแล้วยกน้ำมาดื่ม

คนรับใช้ลอบถอนหายใจ รู้สึกเหนื่อยกับอารมณ์ของคนบ้านนี้ คุณนายคนนี้มักจะโอ๋ลูกสาว ไม่ต่างกับคนเป็นพ่อ ส่วนลูกชายมักจะโดนบ่นเพราะมักจะก่อเรื่องวุ่นๆ เกี่ยวกับชื่อเสียงให้ตลอด มองเหมือนจะรักลูกลำเอียงแต่จริงๆ โอ๋ลูกสองคนจนนิสัยไม่เป็นผู้เป็นคนสักคน คุณวารินยังดีหน่อยที่ถึงไม่ทำงานแต่ก็ไม่ทำเรื่องเดือดร้อนอะไรนอกจากใช้เงินเก่ง แต่คุณวินนั้นมักจะมีเรื่องนั่นเรื่องนี้ให้พ่อแม่ตามแก้ตลอด



ตอนนี้ย่ำห้าทุ่มแล้ว แต่อเดลยังย่ำเท้าเดินถือเอกสารที่พ่อต้องการอยู่

"คุณหนูครับ คุณท่านให้กลับบ้านด่วนเลยครับ" โจนาธาน คนของพ่ออเดลบอกเมื่อรับโทรศัพท์จากเจ้านาย

"อืม โจ นายเอาเอกสารไปให้พ่อก่อนเลย ฉันจะไปซื้อบะหมี่เจ้าอร่อยไปฝากขิมสักหน่อย" อเดลบอกเมื่ออยู่ในย่านของสถานบังเทิงและพื้นที่แสวงหาอาหารการกินตอนดึก ทั้งร้านข้าวต้ม ส้มตำ บะหมี่ข้างทาง ผลไม้ อาหารตามสั่ง ทุกอย่างมีหมด และที่แน่ๆ มันมีร้านโปรดของพิณกับขิมด้วย

"ให้ผมซื้อแล้วเอาไปให้ก็ได้นะครับ" โจนาธานอาสา "ผมเป็นห่วงคุณหนู เดี๋ยวคุณท่านจะเป็นห่วงกระวนกระวายน่ะครับ" อเดลยิ้มให้ลูกน้องของพ่อ

"ไม่มีใครตามฆ่าฉันหรอกน่า ไปเถอะ รีบไปได้แล้ว ฉันอยู่แบบนี้มานานแล้วไม่เห็นเป็นอะไรเลย"

"ครับ" โจนาธานตอบรับแล้วเดินไปถึงแม้ตอนแรกเขาจะทำท่าทางไม่เต็มใจนัก อเดลจึงเดินไปที่รถของตัวเอง

"ยัยอเดล" อเดลหันไปทางต้นเสียงเพื่อดูว่าเป็นใคร แต่พอเห็น อเดลก็ยักยิ้มกับสภาพของคู่อริที่เพิ่งปะทะกันไปวันนี้ เสื้อผ้าหน้าผมที่สวยงามไม่เข้ารูปเข้ารอย คิดว่ามันเป็นเพราะเจ้าตัวเต้นโยกย้ายเบียดเสียดกับผู้คนในสถานบันเทิงที่หล่อนเพิ่งออกมาเป็นแน่ และคงไม่ต้องให้บอกว่าสาวร่างเล็กหน้าตาคมสวยที่กำลังเดินมานี่เมาแค่ไหน เอาเป็นว่าโลกของหล่อนตอนนี้พื้นคงเป็นหลุมขรุขระ ทางคงคดเคี้ยวบิดเบี้ยวน่าดูเพราะเดินเซทุลักทุเลมาเชียว เห็นแล้วเหนื่อยแทน

"ไง ยัยหน้าต้มจืด สภาพทุเรศลูกตามาก ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ทักคนอื่นเด็ดขาดแต่จะรีบหลบกลับบ้านมากกว่า เพราะสภาพเธอมันน่าสมเพชจนอยากจะอ้วก" อเดลว่าคนที่เดินมาพลางส่ายหน้าระอากับภาพที่เห็นก่อนจะหันหลังเดินไปตามทางของตัวเองแต่เดิมอย่างไม่แยแสคนเมา

"จาหนีไปหนาย... ยัยเดล มาคุยกานให้รู้เรื่องนะ" คนเมาพูดเสียงยานคางเรียกแล้วรีบสาวเท้าไปดึงรั้งแขนอเดล อเดลหันกลับไปตามแรงดึงอย่างไม่ชอบใจกับสิ่งที่วารินกำลังทำ

"วาริน ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอหรอก แต่ฉันมีอะไรจะบอกตามประสาเพื่อนมนุษย์นะ เธอควรกลับบ้านได้แล้ว หน้าตาก็ดี การศึกษาก็ดี มาทำตัวเหลวไหลเมาเหล้าเมายา แต่งเนื้อแต่งตัวใส่เสื้อผ้าโชว์นั่นนี่ในสถานที่แบบนี้ แถมไม่มีคนตามมาดูแลสักคน เดี๋ยวก็ได้เป็นแม่คนก่อนจะทันตั้งตัวหรอก" อเดลว่าแล้วปัดมืออีกคนที่จับแขนตัวเองออกแต่วารินกลับจับแน่นขึ้นมากกว่าเดิม

"ฉันดูแลตัวเองได้... เอิ๊ก" วารินว่าแล้วเรอเอากลิ่นแอลกอฮอล์ออกมาอย่างยากจะอดกลั้นเพราะความเมาทำให้เลือดลมท้องไส้ปั่นป่วน

"อื้อหือ..." อเดลย่นจมูกแล้วเบนหน้าหนีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเหม็นเหล้าของอีกคน "ฉันไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยายสันดานเธอจริงๆ"

"เพราะแกนั่นแหละทำให้ฉัน... เอิ๊ก... หงุดหงิด" วารินว่าแล้วชี้หน้าอเดล มือข้างที่จับแขนอเดลอยู่ก็จับแน่นเพราะตอนนี้อเดลเป็นเหมือนเสาหลักที่ตัวเองกำลังเหนี่ยวรั้งไม่ให้ร่างกายล้มพับไป

"เอิ่ม ได้บอกแล้วนี่ ฉันรับรู้แล้วว่าเธอหงุดหงิดเพราะฉัน" อเดลพูดแล้วพยายามเกร็งแขนให้วารินยึดจับ ตอนนี้วารินมีสภาพที่น่าสมเพชเหลือเกิน ขนาดว่ายืนเฉยๆ กับเธอตรงนี้หล่อนยังเอนหน้าเอนหลังจะล้มหงายให้ได้เลย "จะทำให้หงุดหงิดกว่านี้อีกเพราะฉันจะสงเคราะห์เธอด้วยการเรียกแท็กซี่ให้"

"ม่ายต้อง... เอิ๊ก มาช่วยฉัน ฉันม่ายมีทาง เอิ๊ก... ให้แกช่วย"

"นั่นแหละที่มันจะทำให้เธอหงุดหงิดไง" อเดลพูดแล้วดึงวารินให้เดินตามมาในขณะที่ตัวเองมองหาแท็กซี่

"ม่ายปาย ปล่อยนะยายบ้านี่ อย่ามาจับตัวฉัน" วารินว่า
 
"ได้" อเดลปล่อยตามที่หล่อนต้องการ
 
"ว้าย" วารินล้มหัวทิ่มลงพื้นเมื่อไม่มีที่ยึดจับ อเดลขำมองคนสวยที่พยายามจะลุกขึ้นด้วยท่าทางของคนเมา มันทุลักทุเลจนทนดูไม่ได้
 
"ดูไม่ได้ยิ่งกว่าหมาข้างถนนอีก" อเดลว่า "งั้นก็ตามสภาพเลยนะวาริน ฉันจะไปล่ะ"
 
"หยุดน้า" วารินสั่งเมื่ออเดลเดินไปโดยไม่สนใจตัวเอง แต่อเดลก็ไม่หันกลับมาวารินจึงฮึดแรงลุกขึ้นแล้วรีบเดินตามอีกคนไปเพื่อจะด่า เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะเดินบนโลกที่เอนเอียงหมุนคว้างให้ทันอเดลโดยที่ตัวเองจะไม่ล้ม
 
"ฉันบอกให้หยุด นังอเดล" วารินจิกหัวเรียกคนที่กำลังเปิดประตูรถสปอร์ตคันสีดำ ได้ผล อเดลหันมามอง

"เรียกฉันให้ดี หรือถ้าเรียกดีๆ ไม่ได้ก็อย่าเรียก หุบปากไว้" อเดลว่าวารินที่เดินเซมาหา ใบหน้าคมแดงระเรื่อเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แววตาคมของวารินปรือราวกับจะหลับแต่หล่อนก็พยายามจะมองเธอด้วยแววตาจิกกัดไม่ชอบใจ
 
"ฉันบอกให้แกหยุด ทำมายแกม่าย... หยุด"

"ขอโทษที เธอกำลังเห่าอะไรอยู่น่ะ พอดีฉันฟังภาษาหมาไม่เป็น"

"แกว่าฉันเป็นหมาเหรอ... นังนี่..." วารินว่าแล้วยกมือที่ไร้เรี่ยวแรงจะฟาดอเดล แต่อเดลยกมือคว้าจับแขนของวารินไว้ "ว้าย" วารินร้องเมื่อร่างที่พุ่งเข้าหาอเดลเพื่อจะตบทรงตัวเองไม่อยู่ ทำให้ใบหน้าของวารินกระแทกไหล่อเดลจังๆ

"กลับบ้านไปซะยัยริน สติและแรงจะยืนยังไม่มีคิดจะหาเรื่องคนอื่นอีก" อเดลพูดแล้วดันไหล่วารินออกจากตัว แต่ดูเหมือนโชคไม่เข้าข้างอเดลสักเท่าไร

"เออ... เอิ๊ก อ๊อก" วารินเลอออกมาครั้งสุดท้ายแล้วอ้วกเอาต้นตอของกลิ่นเหม็นเปรี้ยวออกมาด้วย
 
"แหวะ ยัยวาริน ยัยบ้าเอ๊ย" อเดลสบถเมื่อวารินอ้วกใส่ไหล่เธอ เรื่องกลิ่นคงไม่ต้องพูดถึงว่ามันเหม็นแค่ไหนและมันเหม็นมากกว่าเดิมสิบเท่าได้เมื่อมันเป็นของเสียจากคนที่เราไม่สนิท ไม่ชอบหน้าแบบนี้
 
แต่ดูเหมือนความซวยของอเดลจะยังไม่จบสิ้นเมื่อวารินหมดแรงข้าวต้มทิ้งตัวซบหน้าลงกับอ้วกของตัวเองตรงไหล่ของอเดล ทำให้อเดลต้องรับมือทั้งอ้วกและเจ้าของอ้วกในตอนนี้ ใจคิดว่าตัวเองน่าจะกลับตามที่     โจนาธานบอกแต่แรก
 
"ฉันไปทำเวรทำกรรมกับแกไว้สินะยัยวาริน" อเดลบ่นแล้วดันวารินให้ไปฟุบหน้ากับกระโปรงรถของตัวเอง ก่อนที่เธอจะค่อยๆ ถอดเสื้อนอกของตัวเองที่เลอะอ้วกออกอย่างพยายามไม่ให้เศษอาหารและเศษของเหม็นเปรี้ยวต่างๆ ติดเปื้อนเสื้อหรือที่อื่นอีก พอถอดออกได้เธอก็ทิ้งเสื้อนอกราคาแพงลงกับพื้นแล้วมองเสื้อแขนกุดผ้าชีฟองด้านในของตัวเองที่มีคราบเหม็นเปรี้ยวเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนที่จะมองปัญหาชิ้นใหญ่ที่หน้ากระโปรงรถ
 
"แล้วฉันจะต้องทำยังไงกับเธอ บ้านเธออยู่ไหนก็ไม่รู้ แล้วมันจะมาหมดแรงทำไมตอนนี้เนี่ย" อเดลบ่น แล้วเข้าไปค้นตัวของวารินเพื่อหาโทรศัพท์ แต่พอเจอก็ต้องอารมณ์เสียมากกว่าเดิมเพราะโทรศัพท์ของนางล๊อครหัสจะโทรหาใครที่นางรู้จักก็ไม่ได้ สุดท้ายอเดลเลยต้องพาวารินกลับบ้านอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องที่ตั้งใจจะซื้อของไปให้ขิมเลยต้องยกเลิกไปตามสภาพ


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น