web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 99
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 92
Total: 92

ผู้เขียน หัวข้อ: ผิดเพราะ...รัก ตอนที่ ๗  (อ่าน 1472 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ n-ew

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 93
ผิดเพราะ...รัก ตอนที่ ๗
« เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 13:39:57 »
ตอนที่ ๗

   มุมหนึ่งไม่ไกลจากตรงนั้นนัก แพรตะวันเพ่งมองรถสีดำที่เข้ามาจอดที่ช่องจอดรถประจำของปลายฝันอย่างแปลกใจ และเธอแน่ใจว่าไม่ใช่รถของคนในคอนโดนี้แน่นอน ที่ตรงนั้นค่อนข้างสว่างทำให้แพรตะวันที่ยืนอยู่ด้านหน้ารถ แม้จะอยู่ไกลออกมาแต่ก็ทำให้มองเห็นคนในรถสองคนกำลังจูบกัน ทำให้แพรตะวันชะงักเท้าที่กำลังจะเดินออกไป และรีบถอยกลับแทบไม่ทัน เมื่อมองเห็นผู้หญิงที่ลงจากรถคันนั้นเป็นปลายฝัน คนที่เธอกำลังรออย่างกระสับกระส่ายด้วยความเป็นห่วง เพราะปลายฝันไม่เคยกลับดึกมากขนาดนี้จนเธอต้องลงมาดู
   ปลายฝันเดินอย่างเลื่อนลอย และรู้สึกสับสนกับการกระทำของณัฐนที ทำให้เธอสับสนว้าวุ่นใจเหลือเกิน
   แพรตะวันทำเป็นเหมือนว่าเพิ่งเดินออกจากลิฟท์ ทันทีที่ปลายฝันเดินเข้าประตูคอนโดมาก็เจอแพรตะวันพอดี
   “แพรจะไปไหนดึกป่านนี้แล้ว” ปลายฝันแปลกใจที่เจอแพรตะวัน
   “ก็จะลงมาดูฝันนะแหล่ะ แพรเป็นห่วงทำไมกลับดึกจังโทรไปก็ไม่รับ” แพรตะวันต่อว่าเสียงเรียบ
   “ฝันขอโทษ...พอดีมือถือแบตหมด เลยไม่ได้โทรบอก” ปลายฝันเสียงอ่อยอย่างรู้สึกผิดที่เห็นว่าแพรตะวันเป็นห่วงเธอ
   “ไม่เป็นไรรีบขึ้นห้องดีกว่า ดึกแล้วฝันจะได้พักผ่อน พรุ่งนี้ต้องทำงานแต่เช้าไม่ใช่เหรอ” แพรตะวันบอกก่อนจะเดินนำปลายฝันเข้าลิฟท์ที่มาพอดี

   เช้านี้ปลายฝันยืนรอรถแท็กซี่อยู่หน้าคอนโด แพรตะวันที่รู้ตั้งแต่เมื่อคืนว่าปลายฝันไม่ได้ขับรถกลับคอนโด รีบตื่นแต่เช้าทั้งๆ ที่เช้านี้เธอไม่ได้มีงานเช้า แต่เธอก็รีบตื่นเพราะตั้งใจจะไปส่งปลายฝันที่บริษัท แต่เธอแกล้งถามไม่อยากให้ปลายฝันรู้ว่าเธอรู้ และเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืน
   “ฝันมายืนทำอะไรตรงนี้จ๊ะ”
   “อ้าวแพรวันนี้ออกเช้าเหรอ ฝันคิดว่าแพรจะออกสายๆ ซะอีก”
   “ก็ไม่ได้รีบอะไรหรอกแต่อยากออกเช้าบ้างจ๊ะ ว่าแต่ฝันเหอะทำไมยังไม่ไปอีกล่ะค่ะ” แพรตะวันแกล้งถาม
   “เอ้อ...ฝันรอแท็กซี่อยู่ คือ...เมื่อคืนฝันจอดรถไว้ที่ออฟฟิศค่ะ เพื่อนมาส่ง” ปลายฝันบอกความจริงอย่างเลี่ยงไม่ได้
   “อ้าว...แล้วทำไมฝันไม่บอกแพรล่ะ แพรจะได้รีบไปส่งแต่เช้า”
   “ก็...ฝันไม่อยากรบกวนแพร ก็...บริษัทแพรอยู่คนละทางกับของฝันนี่นา” ปลายวันเสียงอ่อย
   “รบกวนอะไรกันไปเหอะ แพรไปส่ง เดี๋ยวก็ไปทำงานสายพอดี”แพรตะวันพูดจบก็ดึงกระเป๋าของปลายฝันมาถือไว้ ก่อนจะเดินนำไปที่รถของเธอที่จอดอยู่ไม่ไกล
   แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะเดินไปถึงรถที่จอดอยู่ ก็มีรถอีกคันมาจอดใกล้ๆ เป็นณัฐนทีนั่นเองที่เดินลงจากรถเดินมาที่ทั้งคู่ยืนอยู่
   “ฝัน...โชคดีจังที่ทีมาทัน” ณัฐนทีบอกกับปลายฝัน โดยไม่ทันได้ดูว่ามีอีกคนยืนอยู่ใกล้ๆ
   “ทีมาทำไมคะ” ปลายฝันถามอย่างแปลกใจ
   “ก็เมื่อคืนฝันจอดรถไว้ที่ออฟฟิศ ทีเป็นห่วงก็เลยจะมารับไปส่งที่ทำงานไงค่ะ” ณัฐนทีบอกก่อนจะมองเลยไปที่แพรตะวันที่ยืนอยู่
   “เอ้อ...ที... นี่แพรค่ะ แพร... นี่ทีเพื่อนฝัน...เพิ่งกลับมาจากไต้หวัน ที่ฝันไปทานข้าวด้วยเมื่อคืนค่ะ” ปลายฝันจำเป็นต้องแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
   “สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ณัฐนทีเอ่ยทักแพรตะวันก่อนอย่างยิ้มๆ
   “สวัสดีค่ะ ยินดีที่รู้จักเช่นกันนะคะ เคยได้ยินฝันพูดถึงอยู่เหมือนกันค่ะ วันนี้ได้เจอตัวจริงซะทีนะคะ”แพรตะวันทักทายณัฐนที ก่อนจะลอบมองดูณัฐนที หน้าตาจัดว่าดี หุ่นดี อย่างที่ใครเห็นแล้วต้องเหลียวมองซ้ำ มิน่าปลายฝันถึงไม่เคยลืมได้ซะที
   “ไหนๆ ทีก็มาแล้วให้ทีไปส่งฝันนะคะ” ณัฐนทีหันไปคุยกับปลายฝัน
   “เอ้อ...” ปลายฝันหันไปมองแพรตะวันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไงดี
   “ไหนๆ ทีเค้าก็ตั้งใจมาแล้วฝันไปเถอะ แพรก็จะได้ไปทำงานเลย” แพรตะวันจำต้องพูดออกไปแบบนั้น เพราะเธอไม่อยากให้ปลายฝันต้องลำบากใจ
   “แพร...” ปลายฝันหันไปมองหน้าแพรตะวัน อย่างรู้สึกแปลกๆ ที่แพรตะวันยอมง่ายๆ
   “ไปเถอะฝันสายแล้ว นี่คะกระเป๋า” แพรตะวันยื่นกระเป๋าให้แพรตะวันก่อนจะเดินไปที่รถ โดยมีสายตาปลายฝันมองตามอย่างแปลกใจ
   “ไป...ฝัน เชิญคะ” ณัฐนทีเปิดประตูรถให้ปลายฝัน ทำให้ปลายฝันต้องเข้าไปนั่งในรถอย่างไม่อาจเลี่ยงได้

   แพรตะวันมองตามรถของณัฐนทีที่มีปลายฝันนั่งไปด้วยจนลับสายตา ด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเธอถึงยอมให้ปลายฝันไปกับคนอื่นง่ายๆ แบบนี้
   อาจเป็นเพราะคนคนนั้นเป็นณัฐนที คนที่เธอก็รู้ว่าปลายฝันรักและรอมานาน เธออยากให้ปลายฝันมีความสุข หลังจากนี้ก็คงแล้วแต่ปลายฝันจะตัดสินใจ ถึงแม้ว่าการตัดสินใจนั้น จะทำให้เธอกับปลายฝันต้องแยกทางกัน เธอก็ต้องยอมรับมัน เพราะเธอก็รู้ดีแก่ใจว่าเธอก็ไม่ได้เป็นคนดีของปลายฝัน และที่สำคัญเธอก็มีคนอื่นนอกจากปลายฝันด้วย ถ้านี่จะเป็นการไถ่บาปที่เธอทำกับปลายฝันเธอก็ยินดีที่จะทำ
   “ฝันเป็นอะไร โกธรทีเหรอ” ณัฐนทีเอ่ยถาม เพราะตั้งแต่นั่งรถมาด้วยกัน ปลายฝันยังไม่พูดอะไรสักคำ
   “เปล่าคะ ฝันจะโกธรทีเรื่องอะไรคะ”
   “ก็ที่ทีมารับฝัน แล้วคนรักของฝันจะว่าอะไรไหม”
   “ไม่มีอะไรหรอก แพรเค้าเป็นคนตรงๆ ถ้าเค้าจะว่า เค้าคงว่าตั้งแต่เมื่อกี้แล้วล่ะค่ะ อย่าห่วงเลย” ปลายฝันบอกให้ณัฐนทีหายกังวล ทั้งๆ ที่ในใจเธอตอนนี้ รู้สึกสับสนในความเป็นแพรตะวันไม่น้อยที่แพรตะวันยอมปล่อยให้เธอมากับณัฐนที ซึ่งเธอรู้ว่าแพรตะวันก็รู้ว่าณัฐนทีเป็นคนในอดีตของเธอ
   “จริงๆ แล้วทีไม่ต้องมารับฝันก็ได้ ไม่น่าต้องมาลำบากเลย”ปลายฝันบอกณัฐนทีหลังจากนิ่งเงียบไปนาน
   “ทีอยากมาเจอฝันนี่ค่ะ ฝันรู้ไหมเมื่อคืนทีนอนไม่หลับเลย อยากให้เช้าเร็วๆ จะได้เจอฝัน” ณัฐนทีบอกปลายฝันเสียงหวาน อย่างไม่อาจปิดบังความรู้สึกของตัวเอง ขณะที่เอื้อมมืออีกข้างที่ว่างจากการขับรถ มากุมมือปลายฝันไว้
   นั่นกลับทำให้ปลายฝันนิ่งอึ้งอย่างนึกไม่ถึงกับการรุกเร้าของ   ณัฐนที ปลายฝันรู้สึกเหมือนโลกกำลังจะหยุดหมุน เธอรู้สึกสับสนว้าวุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
   “ขับรถดีดีค่ะที รถเยอะเดี๋ยวเกิดอุบัติเหตุ” ปลายฝันบอกเลี่ยงก่อนจะค่อยๆ ดึงมือออกจากการเกาะกุมของณัฐนที
   “ฝันรักเค้ามากไหม มากเท่ากับที่เคยรักทีหรือเปล่า” จู่ๆ ณัฐนทีก็เอ่ยถามขึ้นมา
   “อะไรนะคะ” ปลายฝันไม่อยากจะเชื่อว่าณัฐนทีจะถามคำถามนี้
   “ทีถามว่าฝันรักแพรมากไหม แล้วรักมากเท่ากับที่เคยรักทีหรือเปล่า” ณัฐนทีย้ำคำถามเดิม
   “ฝันขอไม่ตอบนะคะที แล้วฝันไม่ชอบคำถามนี้ด้วยค่ะ”     ปลายฝันบอกเสียงเรียบ
   “ทำไมฝันถึงตอบไม่ได้ล่ะ” ณัฐนทียังไม่ยอมลดละ
   “ไม่ใช่ฝันตอบไม่ได้ แต่ฝันไม่อยากตอบ” ปลายฝันเสียงแข็ง จนณัฐนทีต้องเงียบไปอย่างยอมจำนน

   ณัฐนทีรู้สึกตัวว่าเธอไม่สมควรถามคำถามโง่ๆ แบบนั้นออกไป แต่เพราะวันนี้เธอเห็นตัวจริงของแพรตะวันแล้ว
   แพรตะวันไม่ได้มีอะไรด้อยไปกว่าเธอแม้แต่น้อย เธอเห็นสายตาของปลายฝันที่มองแพรตะวัน มันเหมือนปลายฝันห่วงความรู้สึกของแพรตะวันมาก มากจนเธอกลัวว่าปลายฝันจะไม่เหลือความรู้สึกนั้นให้เธออีกแล้ว
   เมื่อก่อนที่อยู่ห่างไกลกัน เธอก็มักจะบอกกับตัวเองเสมอว่าปลายฝันคงมีคนอื่นแล้ว เหมือนกับที่เธอก็มี แล้วเมื่อไหร่ที่เจอกัน ระหว่างเธอกับปลายฝันคงเป็นได้แค่เพื่อนกัน
   จนเมื่อวานที่เธอเจอกับปลายฝัน ความรู้สึกที่เธอเป็นมันช่างเหมือนกับครั้งแรกที่เธอเจอกับปลายฝัน เมื่อหลายปีก่อนมันรู้สึกหลงรัก อยากเป็นเจ้าของของเธอ ซึ่งเธอก็ไม่เข้าใจความรู้สึกนี้ของเธอเลยเหมือนกัน ทั้งๆ ที่เธอก็รู้ว่าปลายฝันมีเจ้าของแล้วในตอนนี้ แต่เธอก็ยังอยากแย่งของที่เคยเป็นของเธอกลับคืนมา
   “ขอบคุณนะคะที ที่มาส่ง” ปลายฝันบอกเมื่อณัฐนทีจอดรถหน้าออฟฟิศเธอ
   “จะไม่ชวนทีไปดื่มกาแฟสักหน่อยเหรอคะ” ณัฐนทีทำหน้าออดอ้อน
   “อย่าดีกว่าค่ะ ฝันสายแล้วพอดีมีประชุมด้วย ขอโทษนะที เอาไว้ฝันขอแก้ตัววันหลังนะคะ” ปลายฝันบอกก่อนรีบลงจากรถทันที เธอกลัวว่าณัฐนทีจะทำอะไรบ้าๆ เหมือนเมื่อคืนอีก

   “แพร ฝันถึงออฟฟิศแล้วนะคะ” ปลายฝันโทรหาแพรตะวันทันที ที่ถึงที่ทำงานทำเอาแพรตะวันแปลกใจ
   “ขอบคุณนะฝัน ที่โทรบอกแพร” แพรตะวันบอกปลายฝันอย่างรู้สึกงงๆ ที่ปลายฝันโทรบอกเธอ เพราะนานมากแล้วที่ปลายฝันไม่ได้ทำแบบนี้
   “แพรถึงบริษัทหรือยังคะ”
   “ถึงแล้วค่ะ แพรขับรถแป๊ปเดียวก็ถึงรถไม่ติด” แพรตะวันตอบคำถามปลายฝันอย่างรู้สึกดี
   “งั้น...แค่นี้ก่อนนะ ฝันต้องเข้าประชุมแล้วล่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะแพร” ปลายฝันบอกแพรตะวันอย่างรู้สึกดี ที่แพรตะวันไม่ได้ต่อว่าอะไรให้เธอต้องลำบากใจ
   แพรตะวันวางโทรศัพท์ลงด้วยรอยยิ้มในหน้า เธอรู้สึกดีที่ปลายฝันโทรมาเพราะอย่างน้อยๆ มันทำให้เธอรู้ว่าปลายฝันก็ยังคงเป็นห่วงความรู้สึกของเธออยู่
   แพรตะวันทำงานอย่างรู้สึกอารมณ์ดีไม่น้อย นานๆ เธอกับปลายฝันจะได้มีโอกาสคุยกันดีๆ แบบนี้ สักที
   “พี่แพรคะ มีคนมาหาค่ะ” เสียงลูกน้องร้องบอกเบาๆ อยู่หน้าห้อง
   “ใครเหรอนุ้ยลูกค้าหรือเปล่า” แพรตะวันเงยหน้าจากงานขึ้นถาม ก็เจอกับคนที่มาหายืนอยู่ตรงหน้าพอดี
   “มิริน” แพรพึมพำชื่อนั้นในลำคอ
   “พี่แพร” มิรินเรียก ก่อนจะรีบเดินเข้ามาหาแพรตะวันที่โต๊ะ ที่แพรตะวันนั่งทำงานอยู่
   “รินมาได้ไงคะ” แพรตะวันเอ่ยทักอย่างไม่รู้จะทำอะไรดีไปกว่านั้น
   “รินก็มาหาพี่แพรค่ะ”
   “เอ้อ...รินมีธุระอะไรกับพี่เหรอ” แพรตะวันรู้สึกทำอะไรไม่ถูก เมื่อเจอมิรินบุกมาหาแบบนี้
   “รินคิดถึงพี่ค่ะ พี่ไม่ยอมรับโทรศัพท์รินเลย เกลียดรินมากเลยเหรอคะ” มิรินตัดพ้อแพรตะวันทันที
   “เอ้อ...พี่ว่าเราไปคุยกันที่อื่นดีกว่านะ พอดีพี่กำลังจะไปทานข้าว รินทานหรือยังจ๊ะ” แพรตะวันคงได้แต่พูดกับมิรินดีดี เพราะที่นี่เป็นที่ทำงานของเธอ
   “ยังคะ รินนั่งรถมาตั้งไกล กลัวจะไม่เจอพี่ รินดีใจนะคะที่ได้เจอพี่แพร” น้ำเสียงมิรินบ่งบอกว่าดีใจจริงๆ
   แพรตะวันพามิรินออกมานั่งร้านอาหาร ไม่ไกลจากที่ทำงานของเธอมากนัก ทั้งสองนั่งทานกันเงียบๆ แพรตะวันลอบมองมิริน รู้สึกซูบผอมไปเยอะ ใบหน้ามีแต่ร่องรอยของความเศร้าหมอง เธอรู้สึกใจหายที่เห็นสภาพมิรินคนที่เธอรักเป็นแบบนี้
   “รินไม่สบายเหรอเปล่า ดูหน้าซูบๆ ไปนะ” แพรตะวันอดถามอย่างเป็นห่วง โดยไม่สามารถปิดบังความรู้สึกได้เลย
   “พักนี้รินนอนไม่ค่อยหลับค่ะ” มิรินเอ่ยเสียงแผ่วเบา เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างมาจุกอยู่ที่ลำคอ เมื่อได้ยินเสียงที่ห่วงใยเธอจากแพรตะวัน
   “มีปัญหาอะไรเหรอ ถ้าพี่ช่วยได้ก็บอกนะ” แพรตะวันอดสงสารมิรินไม่ได้ เพราะเธอรู้ว่ามิรินต้องรับภาระทางบ้านหนัก
   “รินขอบคุณค่ะ พี่แพร รินคิดถึงพี่เหลือเกิน” มิรินเอื้อมมือมาจับมือแพรตะวันไว้
   “พี่แพรค่ะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เวลาที่ไม่มีพี่เหมือนโลกมันว่างเปล่า รินไม่อยากมีชีวิตอยู่โดยไม่มีพี่อีกแล้ว ให้โอกาสรินอีกครั้งได้ไหมคะ” มิรินออดอ้อนทั้งคำพูดและแววตา
   “แต่รินก็มีเค้าดูแลอยู่แล้ว อย่าดึงพี่เข้าไปอีกเลยนะคะริน”    แพรตะวันพยายามบ่ายเบี่ยงโดยที่เธอไม่กล้าสบตามิรินเลย เพราะเธอกลัวว่าเธอจะใจอ่อน
   “มันไม่เหมือนกันนะคะพี่ ระหว่างพี่กับเค้าถ้าให้เลือกรินเลือกพี่ รินจะเลิกกับเค้าอย่างเด็ดขาด รินจะพยายามทำงานพิเศษเพิ่ม ให้โอกาสรินนะคะพี่แพร หรือว่าพี่ไม่รักรินแล้ว พี่รู้ไหมว่าเวลาแต่ละวันที่ไม่มีพี่มันทรมานแค่ไหน แม้แต่เสียงพี่ก็ไม่ให้รินได้ยิน” มิรินน้ำตาไหลอย่างห้ามไว้ไม่อยู่
   แพรตะวันเห็นน้ำตามิรินไหลพราก เธอรู้สึกทรมานใจเหลือเกิน เธอยอมรับว่าเธอก็รักและคิดถึงมิริน ไม่น้อยไปกว่าที่มิรินมีให้เธอหรอก แต่การกระทำของมิรินที่ผ่านมา มันบอกให้เธอใจแข็งเพื่อที่เธอจะผ่านมันไปให้ได้
   “รินอย่าทำแบบนี้ซิ อย่าร้องไห้นะคะ เดี๋ยวคนเค้าก็หาว่าพี่รังแกรินหรอก” แพรตะวันพยายามปลอบให้มิรินหยุดร้อง
   “ต่อไปนี้พี่จะรับโทรศัพท์รินทุกครั้งดีไหม” แพรตะวันต่อรอง
   “หมายความว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมใช่ไหมคะ” มิรินจับมือแพรตะวันเขย่าอย่างดีใจ
   แพรตะวันยิ้มไม่ตอบ ปล่อยให้มิรินเข้าใจแบบนั้นไปก่อนก็คงดี จะได้เลิกร้องให้ซะที ถ้าขืนปล่อยให้ร้องต่อเธอคงใจอ่อนจนยอมตามความต้องการของมิรินแน่ๆ
   “พี่ขอโทษนะคะ ที่ไปส่งรินไม่ได้ พอดีพี่มีงานต้องเคลียร์จ๊ะ” แพรตะวันบอกมิรินขณะที่ยืนรอรถแท็กซี่
   “ไม่เป็นไรคะรินเข้าใจ แค่รินได้เจอพี่ได้คุยกับพี่ แล้วพี่แพรยอมยกโทษให้ริน รินก็ดีใจที่สุดแล้วค่ะ” มิรินกอดแขนแพรตะวันแนบแน่น ทำเอาแพรตะวันใจอ่อนวูบไหวไปกับการกระทำของมิริน
   แพรตะวันยืนมองตามรถแท็กซี่ที่มิรินนั่งจนลับสายตา ก่อนจะเดินกลับเข้าไปบริษัท ยังไม่ทันจะเดินถึงห้องทำงานเลย
   “พี่แพรค่ะ มีแขกรออยู่ที่ห้องทำงานคะ” เสียงนุ้ยลูกน้องเดินมาบอก
   “ใครเหรอนุ้ย” แพรตะวันเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
   “วันนี้มันอะไรกันนักหนา ไม่ต้องได้ทำงานกันพอดี”แพรตะวัน อดบ่นเบาๆไม่ได้
   “ป่าน” แพรตะวันเอ่ยทักอย่างงงๆ เมื่อเห็นคนที่นั่งรอเธออยู่
   “สวัสดีคะแพร” สายป่านเอ่ยทักแพรตะวันเสียงใส
   “มาได้ไงคะ”
   “มาธุระแถวนี้ค่ะ จำได้ว่าแพรทำงานอยู่แถวนี้ ว่าจะให้เลี้ยงข้าวซะหน่อย มาไม่ทันแพรออกไปซะก่อน” สายป่านบอกเหตุผลที่มานั่งรอเธออยู่ที่นี่
   “เหรอคะ ก็ป่านไม่โทรบอกล่วงหน้านี่นา แพรเลยอดได้เลี้ยงเลยเนอะ” แพรตะวันยิ้มแหยๆ วันนี้มันเป็นวันมหาโชคหรือยังไงนะ แพรตะวันคิดแต่ก็ยังยิ้มกว้างให้สายป่าน
   “เปลี่ยนเป็นตอนเย็นได้ไหม” สายป่านบอกยิ้มๆ
   “ต้องขอเป็นวันหลังแล้วล่ะค่ะ วันนี้งานแน่นมาก คงจะดึกเลยค่ะกว่าจะเสร็จ” แพรตะวันบอกปัด
   “แพรติดป่านไว้ก่อนก็ได้ วันหลังป่านจะมาทวงค่ะ”
   “ได้ แต่ขอบอกล่วงหน้าด้วยนะคะ มาด่วนแบบนี้ไม่เอานะ”
   “จ้างั้น...ป่านไปก่อนดีกว่า แพรจะได้ทำงาน”
   “แพรเดินไปส่งที่รถค่ะ” แพรตะวันเดินไปส่งสายป่านที่รถ
   “แพร...ป่านคิดถึงแพรมากนะคะ” ป่านบอกกับแพรก่อนจะขึ้นรถขับออกไป
   วันนี้มีแต่คนบอกคิดถึง คิดถึง เธอควรจะดีใจใช่ไหมเนี่ย แพรตะวันยิ้มอย่างสับสนกับความคิดตัวเอง





 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.