web stats

ข่าว

 


SISTER SISTER (Special) - บทที่ 14 Stay With Me

โพสต์โดย: anhann วันที่: 29 สิงหาคม 2019 เวลา 08:30:06 อ่าน: 307



บทที่ 14 Stay With Me





ดูเหมือนไอรีนจะอารมณ์ดีมากจนไม่เหมือนคนเพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล  คาร่าดีใจที่เป็นอย่างนี้  เวลาไอรีนเครียดทีไร  เธอก็อดนิ่งเฉยไม่ได้ทุกที  ยิ่งตอนนี้ไม่ใช่ไอรีนคนเดียวด้วย

แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าเป็นฝาแฝดหรือไม่  หากผลเลือดก็ยืนยันแล้วว่าคุณภรรยาเธอตั้งครรภ์แล้วจริงๆ  เมื่อครบ 5 สัปดาห์คุณหมอจะให้ไอรีนไปอัลตร้าซาวน์ดูอีกครั้ง  คราวนี้ก็จะทราบผลที่แน่นอน  อย่างไรก็ดี  ตอนนี้ไอรีนก็เริ่มระวังตัวมากขึ้นแล้ว 

แต่เรื่องอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย  เป็นอีกเรื่องหนึ่ง...

"ท้องยังแฟ่บอยู่เลยนี่"  ดาน่าวิจารณ์  ซึ่งทำให้ไอรีนไม่พอใจ  คาร่าต้องรีบเข้ามาช่วยแก้สถานการณ์ให้

"ท้องสาวก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ" 

"นั่นสิเนอะ" 

ดังนั้น  ไอรีนจึงใจคอดีขึ้น 

"ส่วนเรื่องหนังสือ..."

"เราไปคุยกันข้างนอกดีไหมคะ"  คาร่าแทรก  เบี่ยงเบนความสนใจของดาน่ามาทางตัวเองแทนไอรีน 

"แว่น  ฉันไม่ได้ป่วย"  ไอรีนแย้ง  รู้ทันพฤติกรรมสามี  "คุยตรงนี้ละ"

คาร่าจำใจยอม  อย่างไรเสีย  ไอรีนก็ต้องจัดการเรื่องนี้เอง  เพราะเกี่ยวกับเพื่อนของเจ้าตัว  เธอไม่สามารถตัดสินใจแทนได้  อันที่จริงเธอก็ถือเป็นคนนอกสำหรับพวกเขาด้วย

"งั้นฉันพาดุคไปวิ่งเล่น"  เธอตัดสินใจให้เวลาส่วนตัวภรรยา  ไอรีนจึงเอ่ยขอบคุณเธอด้วยรอยยิ้มซาบซึ้ง 

คาร่าพาเจ้าดุควิ่งเล่นไปได้สักพักก็ชวนมันนั่งพักเหนื่อยที่ศาลาข้างบ้านด้วยกัน  เอาชามของมันใส่น้ำสะอาดให้เจ้าลูกหมากิน  สักพักเจ้าตัวยุ่งก็นอนหมอบอยู่ข้างเท้าเธอ  หลับสบายใจ  ส่วนเธอก็มองนู่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย  พลางนึกถึงเรื่องที่แม่บอก  เธอต้องทำห้องไว้ให้เด็กๆ ด้วย 

แล้วจะทำตรงไหนล่ะ  คงต้องทำในบ้านหลังนี้แหละ  พ่อกับแม่อนุญาตตั้งนานแล้วว่า  ถ้าเธออยากจะต่อเติมตรงไหนก็ทำได้ตามสบาย  แค่ไปขออนุญาตกับทางเขตให้ถูกต้องก็พอ  แต่ก่อนอื่นต้องปรึกษาไอรีนว่าจะเอายังไงดี  ดูเงินในบัญชีที่เรามี  ตอนนี้คงลดไปเยอะแล้ว  ค่าทำอิ๊กซี่กับค่าใช้จ่ายระหว่างเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นก็ปาเข้าไปไม่รู้กี่ปอนด์แล้ว  ถ้าเราซื้อบ้านด้วย  คงหนักกว่านี้  บางทีก็อาจจะต้องเก็บเงินไปก่อนพลางๆ ระหว่างรอเด็กๆ คลอดออกมา  พอคลอดก็ต้องใช้เงินอีกเพียบ 

ค่าทำคลอด  ค่านอนโรงพยาบาล  ค่าเสื้อผ้า  ค่านม  ค่าผ้าอ้อม  ถ้าสองคนก็ต้องเพิ่มไปอีกเท่าหนึ่ง  มีแต่รายจ่ายทั้งนั้น  จะหาเงินทันไหม

"นั่งถอนหายใจอะไรอยู่"

คาร่าเงยหน้าขึ้นมองคุณแม่ที่ช่วงนี้รู้สึกจะกลับบ้านเร็วทุกวัน 

"คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยค่ะ"  เธอตอบ  แม่ทำท่าเหมือนไม่ค่อยเชื่อ  จึงต้องสารภาพออกไปว่ากลุ้มใจเรื่องอะไร  แม่ก็ทำหน้าตาราวกับว่าเธอคิดมากไปเอง  "ต้องคิดสิคะ  เรื่องแบบนี้จะมาให้แม่จ่ายให้ได้ยังไง"

"ก็ถือซะว่าแม่ให้หลานก็ได้นี่คะ"  แม่พูดอย่างไม่คิดมาก

"แม่กับพ่อก็ช่วยมาเยอะแล้วนะคะ"  คาร่าแย้ง  ไม่สบายใจ  "แค่ให้อยู่ที่บ้านด้วยก็มากพอแล้ว  ไหนคุณพ่อยังจะยกที่ให้ลูกทำบ้านอีก  แค่นี้ก็รบกวนไม่รู้เท่าไหร่แล้วค่ะ"

"คาร่า  ยังไงของพวกนี้ก็ต้องเป็นของลูกทั้งหมดนะถ้าพ่อแม่ไม่อยู่  เราสร้างมันมาเพื่อลูกทั้งนั้น"  แม่บอก  ลูบไหล่ปลอบใจเด็กแว่นตัวโต

"อย่าพูดอย่างนี้สิคะ  แม่กับพ่อต้องอยู่ไปนานๆ  อยู่เล่นกับตัวเล็กๆ ของลูกก่อน"  คาร่าเผลองอแง  ทำให้แม่ขำเธอ 

"โอเค  งั้นทีนี้บอกแผนของลูกมาซิ" 

คาร่าไม่อยากปฏิเสธแม่จึงเล่าแผนในใจให้แม่ฟังคร่าวๆ  แม่ก็ดูจะเข้าใจเธอ  คงเพราะแม่ผ่านอะไรแบบนั้นมาหมดแล้ว

"ค่อยๆ ทำไปทีละอย่าง  คาร่า  มันไม่ได้มาพร้อมกันหมดหรอกจ้ะ  ลูกกับไอรีนยังมีเวลาตั้งรับ  อย่างเช่น  ค่าทำคลอด  ค่าเสื้อผ้าของใช้เด็กๆ  พวกนี้ยังไม่ต้องรีบคิดเลย  ยังต้องรออีกตั้งเก้าเดือน  หรือถ้าคลอดก่อนก็ยังมีเวลาอยู่  ส่วนใหญ่เด็กแฝดจะคลอดก่อนน่ะ  ไม่ต้องกลัวนะ  ตอนนี้ลูกคิดเรื่องที่อยู่ให้พวกเขาก่อนละกัน  เพราะมันต้องใช้เวลาสร้าง  ไม่ใช่ทำได้วันสองวันเสร็จ"

"จริงด้วย"  คาร่าอุทาน  แล้วยิ้มแห้งๆ  "ลูกลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ"

"นี่แหละ  แบบนี้ไง  ลูกถึงไม่ควรคิดอะไรคนเดียว  ต้องปรึกษากัน  เผื่อมีอะไรตกหล่นจะได้ช่วยกันเตือน"  คุณนายปาร์คให้ข้อคิด  นางก้มมองลูกสุนัขสีเปรอะที่เงยหน้าขึ้นมองนางด้วยดวงตาใสๆ ซึ่งใครๆ ก็ต้องแพ้พ่ายให้มัน  แม้จะไม่ใช่คนรักสัตว์อะไรมากมายนัก  เจ้าดุคจึงย้ายที่อยู่จากพื้นขึ้นมาบนตักคุณยายคนนี้บ้าง

คาร่าเห็นด้วยกับแม่  เธอจึงเล่าแผนในใจต่อ  และได้ข้อคิดมาจากคุณแม่หลายอย่าง  รู้สึกสบายใจขึ้นมากจนกล้าจะไปคุยกับไอรีนแล้ว

"ส่วนตอนนี้ลูกก็ทำใจให้สบาย  ต้องคอยดูแลไอรีนด้วย  เพราะมันก็จะมีเรื่องนู่นนี่มาอยู่เรื่อยๆ แหละจ้ะ  โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ  ถ้าเป็นแฝดก็จะยิ่งมีปัญหามากขึ้น  ร่างกายแม่จะต้องรับภาระเพิ่มขึ้น  เสี่ยงมากขึ้น"

"ถ้างั้นทำให้เหลือคนเดียวไม่ดีกว่าเหรอคะ"

"ไม่ได้  คาร่า  เขาเกิดขึ้นมาแล้วก็ต้องให้อยู่ต่อไป  ยกเว้นเขาจะมีสิ่งผิดปกติรุนแรง  หรือทำให้ไอรีนเจ็บป่วยมากจนต้องเลือก  เขาเป็นชีวิตแล้วนะลูก  จำไว้"

"ขอโทษค่ะ"  คาร่ายิ้มแห้งๆ  พอนึกถึงสุขภาพไอรีนขึ้นมาเธอก็ลืมหมดเลยทุกอย่าง  แม้แต่ลูกที่อุตส่าห์ทุ่มเทสร้างขึ้นมาร่วมกัน  เธอยอมรับเลยว่า  เธอไม่ใช่คนที่ดีนัก  หากสลับกันไอรีนคงเลือกลูกมากกว่าชีวิตตัวเอง  ตามประสาคนเป็นแม่

"ลูกจะต้องคิดให้รอบคอบนะคาร่า  ลูกจะคิดถึงแต่ไอรีนคนเดียวไม่ได้แล้ว  เพราะตอนนี้มีชีวิตบริสุทธิ์อีกสองชีวิต  หรืออาจจะแค่อีกหนึ่งที่ลูกต้องดูแลเพิ่มขึ้นมาด้วย  เข้าใจไหมคะ"

"แต่ลูกเสียไอรีนไปไม่ได้"

"หากวันนั้นเกิดขึ้นจริง  คนที่จะเลือกไม่ใช่ลูก  คาร่า  แต่เป็นไอรีน"

คาร่าไม่อยากฟังคำนี้เลย  เธอรับมันไม่ได้แน่  ได้แต่ภาวนาให้มันไม่เกิดขึ้น  เราคงไม่โชคร้ายกันขนาดนั้น

"เอาเถอะ  แม่ก็ชักจะเลอะเทอะไปใหญ่แล้ว  จะพูดให้ลูกกลัวทำไมก็ไม่รู้เนอะ  เอาเป็นว่าทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็แล้วกันค่ะ"  คุณนายปาร์คปลอบใจลูกสาว  เท่ากับปลอบใจตัวเองด้วย  ที่จริงนางเองก็กลัวว่าไอรีนจะไม่สบาย  หรือเกิดเรื่องราวที่ไม่คาดคิดขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์  ตัวนางเองก็เคยเกือบจะสูญเสียคาร่าไปเหมือนกัน  นางดีใจเหลือเกินที่วันนั้นไม่ได้ตัดสินใจผิด  และวันนี้นางได้มีลูกสาวที่งดงามทั้งร่างกายและจิตใจแบบนี้       

คาร่าพยักหน้าให้แม่  แต่สีหน้ายังไม่สู้ดี  เธอกลัวจริงๆ  ดีใจที่แม่เปลี่ยนเรื่องพูดแล้ว  จากนั้นก็ขอตัวเข้าห้องไป  ทิ้งเธอไว้กับเจ้าดุคที่นอนเอาหัวหนุนตักเธอ  ให้เธอลูบหัวมัน  บรรเทาความตึงเครียด 

นั่งเหม่ออยู่นานแค่ไหนไม่รู้  จึงได้ยินเสียงไอรีนดังแว่วมา  หันไปหาก็เจอไอรีนยืนอยู่หน้าบ้าน  คงจะออกมาส่งดาน่า  เธออุ้มเจ้าดุคลงให้มันวิ่งไปหาไอรีนเอง  แล้วเธอค่อยเดินตามไป

"เป็นอะไร  ทำไมทำหน้างี้ล่ะ"  ไอรีนถาม  ผิดสังเกต  ปกติคาร่าจะยิ้มตาหยีทุกทีที่เจอเธอ  คงคิดถึงเรื่องนั้นอยู่แน่ๆ 

"นี่  ไม่ต้องอุ้มนะ  เดินเองได้  ไม่ได้เป็นอะไร"  เธอรีบห้ามเมื่อคาร่าทำท่าจะมาช้อนตัวเธอขึ้น  รีบคว้าแขนคุณสามีเอาไว้  กอดมันแน่น  ไม่ให้เจ้าแว่นมีโอกาสมาอุ้มเธอได้  เธอก็กลัวคาร่าจะปวดหลังเหมือนกันนะ

"แล้วลุกมาทำไม  หมอให้นอนเยอะๆ ไม่ใช่เหรอ"  คาร่าถาม  มองคนตัวเล็กที่ดูท่าทางสบายดีเกินไป  เธอกลัวว่าไอรีนจะฝืน  เราสองคนก็งี่เง่าพอกันนั่นแหละ 

"ใครบอก  หมอบอกให้เดินบ้างหรอก"  ไอรีนแย้ง  ทำหน้าล้อเลียนคนตัวสูง  คาร่าทำปากยื่นหน่อยๆ  เธอจึงเขย่งเท้าขึ้นจูบปากนุ่มๆ  เจ้าแว่นจึงค่อยยิ้มออก  จูบเธอกลับมา  รั้งเอวเธอเข้าหาตัว  ถอนริมฝีปากออกไปและโอบกอดเธอไว้  ให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นห่วงใยผ่านสัมผัส

ทำไมเธอจะจำไม่ได้ล่ะ  ตอนเจ้าแว่นอุ้มเธอไปโรงพยาบาล  ท่าทางหวาดกลัว  ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแบบนั้น  ตอนนั้นถึงเธอจะเจ็บจะกลัวมากๆ ก็ยังดีใจที่คาร่าอยู่ด้วย  มาเป็นเพื่อนกัน  ถ้าต้องไปคนเดียวหรือไปกับคนอื่นก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้มแข็งได้เท่านั้นหรือเปล่า

"หมอฉีดยากันแท้งให้แล้ว  ไม่เป็นไรหรอก"  เธอพูด  คางเจ้าแว่นขยับขึ้นลงบนบ่าเธอ  พยักหน้ารับรู้  แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับ 

"เข้าห้องดีกว่า  ฝนทำท่าจะตก"

ไอรีนปล่อยให้เจ้าแว่นพากลับห้อง  ถูกบังคับให้ขึ้นเตียงอีกแล้ว  เสียดายที่ไม่ใช่แบบนั้น  นอนเฉยๆ จริงๆ  นอนเฉยๆ มานานเป็นเดือนแล้ว

"เอาดุคไปล้างเท้าก่อนนะ"  คาร่าบอกภรรยา  ไอรีนชอบให้ดุคนอนข้างๆ  เหมือนกลัวจะเหงา  เธอเพิ่งพามันไปวิ่งเล่นที่สนามมา  เท้ามันเลอะ

"ถ้าเธอไม่มีธุระอะไร  ก็มานอนด้วยกันสิ"  ไอรีนชวน  คาร่าเหลียวมามองเธอและยิ้มให้ก่อนจะเรียกเจ้าดุคไปเข้าห้องน้ำด้วยกัน 

พออยู่คนเดียวแล้วก็อดเหม่อไม่ได้  ไอรีนนั่งพิงหลังกับหมอนใบโตที่เอามาวางรองกับหัวเตียง  มือเธอลูบเบาๆ บนท้องน้อย  เธอท้องสมใจแล้ว  รู้ผลเร็วเกินคาดด้วย  ถ้าไม่ตกเลือดและคาร่าพาไปโรงพยาบาล  หมอคงยังไม่ตรวจเลือดเช็กฮอร์โมนให้เธอ  ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องเผื่อใจไว้ก่อน   ผลอาจยังไม่แน่นอน  เพราะเพิ่งเจ็ดวันเท่านั้น  วันนี้เข้าสู่วันที่แปดแล้ว  แทบจะไม่มีเลือดออกมาจากช่องคลอดเธอแล้ว  อาจเพราะยากันแท้งที่หมอฉีดให้  และยาสอดกันแท้งอีก  เธอใช้ยามากจนเบลอ  สอดยาจนรู้สึกช่องคลอดหลวมไปหมดแล้ว  แต่คงเป็นความรู้สึกเธอที่มันสอดง่ายกว่าช่วงแรกๆ ที่ต้องทำ

เดี๋ยวคลอดลูก  หมอก็ต้องจัดการมันอยู่ดีแหละ  จะคลอดธรรมชาติได้หรือเปล่าก็ไม่รู้  บางทีอาจจะต้องผ่าคลอด  คิดแล้วก็หวาดเสียว

กลิ่นบางอย่างเตะจมูกเธอจนต้องขมวดคิ้ว  ไอรีนเงยหน้ามองคาร่าที่ถือจานอะไรบางอย่างมาด้วย  แน่นอนว่าจะต้องเป็นมัน  ไม่ใช่กลิ่นลูกดุคของเธอหรอก

"อะไรน่ะแว่น"

"พุดดิ้งยอร์กเชียร์กับเนื้อย่าง"  คาร่าตอบ  งงกับท่าทางของไอรีนที่ทำเหมือนรังเกียจของชอบของตัวเอง  "คุณพ่อพี่แวะเอามาให้เมื่อกี้เอง"

"เอาออกไป!"  ไอรีนพูดเสียงดัง  บีบจมูกพลางสะบัดมือไล่สามี

คาร่าไม่รู้จะทำยังไงดีจึงต้องถือจานกลับออกไป  มองหน้าเจ้าดุคที่เงยหน้าขึ้นมองเธอเหมือนกัน  แล้วก็ชวนมันออกไปด้วยกัน  เธอจะแบ่งให้มันกินสักชิ้น  คงไม่เป็นไรหรอก

"อ้าว  ทำไมถือออกมาล่ะ"  เกร็กถามลูกเขย  แปลกใจ  คาร่ายิ้มเก้อๆ  เขามองแล้วก็เริ่มเข้าใจ  "ไม่เป็นไร  แพ้ท้องล่ะสิ  ลูกกินแทนก็ได้  หรือให้ดุคช่วยกิน"

"น่าเสียดายนะคะ  พ่ออุตส่าห์ตั้งใจทำมา"

"ไม่เป็นไร  ไม่เป็นไร  เรื่องเล็กน้อย" 

คาร่ายิ้มแห้งๆ ให้พ่อตา  ซึ่งกลับไปรวมกลุ่มคุยกับพวกผู้ใหญ่ต่อ  เธอกับดุคจึงมาจัดการพุดดิ้งกับเนื้อย่างด้วยกัน  มันอร่อยมาก  เจ้าดุคก็คงชอบเหมือนกัน  มันขอเพิ่มตั้งหลายชิ้น  ถึงอย่างนั้นเธอก็ให้มันกินมากไม่ได้  เดี๋ยวมันจะท้องเสีย  อึเยอะ  เดือดร้อนอีก  และถึงจะกินกันสองคน (หนึ่งคนกับหนึ่งตัว) ก็ยังกินไม่หมด  ตอนนี้จึงต้องเอาที่เหลือไปแช่ตู้เย็นเอาไว้ก่อน

"คราวนี้จะเอาอะไรไปให้มัมมิกินดีล่ะ"  เธอย่อลงนั่งคุยกับเจ้าดุคที่กำลังจะถ่ายท้องอยู่ในห้องน้ำของมัน  ต้องให้เจ้าลูกหมาจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะเข้าห้องไปหาไอรีนได้ 

"เป็นไง  เจออาละวาดเข้าแล้วล่ะสิ" 

คาร่าเงยหน้าขึ้นยิ้มกับแม่ยาย  พ่อตาเธอคงไปฟ้องมาแน่ๆ 

"หนูก็ถามพี่เขาเอาสิคะ  ว่าอยากกินอะไร  ไม่ยากหรอก  ตอนแม่ท้องพี่เขาก็เป็นแบบนี้แหละ"  แม่ยายบอกเสียงใจดี  คาร่ายิ้มใจชื้นขึ้น

"เอาดุคไว้นี่ก่อนก็ได้  เข้าไปคุยกัน"

"ไม่เป็นไรค่ะ  พี่ไอคงอยากเจอดุค"  คาร่าบอกแม่ยาย  "เขารักของเขาค่ะ"

"นั่นสิเนอะ  ไม่รู้ทำไมรักนักหนา"  คุณพอลล่าแกล้งแปลกใจ

แม่ยายขอตัวกลับไปแล้ว  เจ้าดุคก็จัดการตัวเองเสร็จพอดี  คาร่าพามันเข้าไปล้างตัวในห้องน้ำ  แล้วปล่อยให้เดินตามเธอมาเอง  ไม่อุ้มให้เคยตัวแบบไอรีนทำ

คาร่าอมยิ้มเมื่อเข้ามาในห้องแล้วเจอไอรีนหลับคอพับพิงหัวเตียง  บนตักยังมีหนังสือที่ตั้งใจจะเอามารีวิวลงเพจกับแล็ปท็อปที่เปิดทิ้งไว้  ไอรีนยังเป็นคนเดิมที่ขยันทำงานแบบไม่เจียมตัวอย่างที่เพื่อนๆ ของเจ้าตัวชอบว่า 

แต่แบบนี้แหละ  น่ารักแล้ว

เธอจุ๊ปากห้ามเจ้าดุคไม่ให้เห่า  แต่ไอรีนก็ดันหูไวได้ยิน  พอลืมตาขึ้นมาก็เรียกหาลูกดุคทันที  คาร่าต้องอุ้มมันขึ้นไปให้  และคุณภรรยาก็ขยี้ตางัวเงีย  ปิดปากหาว  ตั้งท่าจะทำงานต่อ

"พักก่อนไม่ดีเหรอ"  คาร่าเอ่ยถาม  ไอรีนส่ายหัว  แบมือขอน้ำเปล่า  เธอรินใส่แก้วส่งให้  คุณภรรยาเอ่ยขอบคุณเธอ  เรียกให้เธอก้มลงไปหาและจุ๊บแก้ม  รอยยิ้มใสๆ แต่แฝงไว้ด้วยคำขอโทษซึ่งเธอเข้าใจดี  เหมือนไอรีนจะพยายามบอกว่าใส่ใจเธออยู่ตลอด  แม้ว่าตอนนี้ตัวเองจะไม่ค่อยปกตินัก

"ดาน่าบอกว่าจะไปจัดการเรื่องนั้นเอง  แล้วจะมาบอก"  ไอรีนเล่า  ถึงคุณสามีจะดูไม่ค่อยอยากรู้นัก  คาร่าคงไม่มีสมองไปสนใจเรื่องอื่นเท่าไหร่  เธอสังเกตได้  หลังจากเธอตกเลือดต้องเข้าโรงพยาบาล  นอนค้างไปหนึ่งคืน  คาร่าก็เกาะติดเธอเป็นตังเม  งานการไม่ค่อยอยากไปทำ  เรียนก็ไม่อยากไป  ให้เพื่อนส่งเลคเชอร์มาให้ตลอด

"พรุ่งนี้เธอไปทำงานเลยนะ  รู้ไหม"

คาร่าเลิกคิ้วมองภรรยาเก้อๆ  โดนไล่อีกแล้ว  ไอรีนคงรำคาญเธอที่ติดแจแบบนี้  หรือแค่อาการของคนแพ้ท้องเฉยๆ

"ฉันไม่เป็นไรแล้ว"  ไอรีนพูด  อ่านสีหน้าคุณสามีออก  เธอดึงคาร่าลงมานั่งข้างๆ คนละด้านกับเจ้าดุค  จับคางเจ้าแว่นไว้ให้มองหน้ากัน

"ถ้าเธอไม่ทำงาน  เราจะไม่มีเงินนะ"

คาร่าทำหน้ายู่  ถูกจี้ใจดำอีกแล้ว 

"แล้วลูกเราจะเอาอะไรกิน  เราขอพ่อแม่ไม่ได้นะ  รู้ไหม  ฉันถึงได้ต้องทนทำอยู่นี่ไง" 

เจอภรรยาพูดออกมาแบบนี้  คุณสามีเด็กก็หน้าจ๋อยหนักกว่าเดิม

"โอเค  ไม่บ่นก็ได้  ถ้าเธอเหนื่อยก็พักก่อน"

"ฉันไปเอางานมาทำในนี้ละกัน"  คาร่าพูด  ลุกขึ้นจะไปหยิบงานตัวเองมาทำบ้าง  แต่พอรู้สึกว่ามีคนมองตาม  จึงเหลียวมามอง  ไอรีนอมยิ้มเหมือนขำอะไรสักอย่าง  เธอก็เขินหน้าแดง

"ไปเอางานมาทำเลย  ไม่ต้องมามัวมองอยู่"  ไอรีนแกล้งไล่  แทนที่คาร่าจะรีบไป  กลับมาวิ่งกลับมาหอมแก้มเธอหนึ่งทีแรงๆ  ให้เธอต้องตีแขนอย่างมันเขี้ยว  "ไปทำงาน  ไม่งั้นไม่ต้องมาแตะฉันเลย"

"มัมมิใจร้ายจังเลยค่ะ"  คาร่าหยอก  หอมแก้มภรรยาอีกที  แล้วจึงยอมออกไป 

ไอรีนส่ายหัวกึ่งยิ้ม  ลูบหัวเจ้าดุคพร้อมกับลูบท้องตัวเอง  พลางแนะนำให้เจ้าลูกสุนัขรู้จักน้องของมัน  แปลกที่เจ้าดุคมองหน้าเธอเหมือนมันรู้เรื่องที่เธอพูด  มันกระดึ้บๆ มาอย่างระวังเอาหัวหนุนท้องเธอด้วย

..................................

ไอรีนรู้ซึ้งแล้วว่าคนท้องลำบากยังไง  ถ้าเธอไม่มีคาร่าก็คงลำบากกว่านี้มาก  เธอพยายามจะลุกไปทำมื้อเช้าเอง  (หมอไม่ได้ห้ามเธอเดิน  แค่ให้เดินอย่างระมัดระวัง)  แต่แค่เดินไปใกล้ห้องครัว  เธอก็ทนกับกลิ่นในนั้นไม่ได้แล้ว  อาหารบางอย่างที่เคยชอบกินก็กินไม่ได้  รู้สึกเหมือนตัวเองนิสัยไม่ดีเลย  เรื่องมากเกินไป  น่ารำคาญด้วย  เจ้าแว่นจะเบื่อเธอไหม?

ไม่หรอก  เธอเป็นเมีย  เป็นแม่ของลูกเขานะ!

"อยากกินช็อคโกแลตร้อนใส่มาร์ชเมลโล่"  ไอรีนพึมพำเบาๆ  ทำเหมือนไม่ได้หวังให้ใครได้ยิน  แต่คนที่โต๊ะเขียนหนังสือก็อมยิ้มทั้งที่ตายังติดอยู่กับหน้าจอแล็ปท็อป  "อยากกินจังเลยเนอะ  ดุค"

"ดุคน่ะเหรอจะอยากกินช็อคโกแลต  มันกินไม่ได้"  คาร่าพูด  หันไปเลิกคิ้วมองภรรยานั่งหน้าง้ำกอดตุ๊กตาหมีตัวโตอยู่บนเตียง  ข้างๆ มีหนังสือสำหรับเอามารีวิวขายในแฟนเพจเฟซบุ๊กและแล็ปท็อป  เพราะไปร้านไม่ได้จึงต้องทำงานที่บ้านแทน  ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร  ร้านไม่ได้ยุ่งมาก  วันไหนมีจัดงานที่ร้านเธอก็จะไปดูแทนให้  จ้างเด็กพาร์ตไทม์มาช่วย  จินนี่น้องสาวของโซเฟีย  เป็นต้น

"โอเค  ก็ได้"  เธอยอมแพ้  เซฟงานและลุกขึ้น  สีหน้าแม่ของลูกจึงเปลี่ยนไปอย่างง่ายดาย  "แล้วจะอาเจียนไหม..."

ไอรีนชักสีหน้าอีกรอบ  แล้วก็เปลี่ยนจากโมโหมาเป็นงอแง  ซบหน้ากับหัวเจ้าหมี  ส่วนเจ้าดุคก็เงยหน้ามองคุณแม่งงๆ  เจ้าลูกหมากระโดดลงเตียงไปเตรียมตัวจะวิ่งไปกับแด๊ดดี้ซีแล้วนะ 

ตั้งแต่คาร่าพาไปถอดเฝือกมาแล้ว  เจ้าออสเตรเลียนเชเพิร์ดสีเลอะก็รื่นเริงมากขึ้นเป็นสองเท่า  เกือบจะกระโดดขึ้นเตียงเองได้แล้วด้วย  จริงๆ ก็แค่ปีนขึ้นไปเกาะๆ แล้วให้มัมมิไอช่วยจับขึ้นให้นั่นแหละ

"ไม่หรอกมั้ง"  ไอรีนอ้อมแอ้ม  ไม่แน่ใจว่าจะกินอะไรได้บ้าง  บางทีอะไรที่อยากกินมากๆ ก็กินได้นิดเดียว  แล้วก็ต้องส่งให้คาร่ากินแทน  แอบให้เจ้าดุคกินบ้างตอนเจ้าแว่นไม่อยู่  ถ้าคาร่ารู้ว่าเธอให้ลูกชายคนโปรดกินสิ่งที่ไม่ควรกินก็คงจะโดนบ่นเยอะเลยละ

"ลองดูก็ได้"  คาร่าบอก  ยิ้มใจดีให้ภรรยา  พอเปิดประตูเจ้าดุคตัวดีก็วิ่งนำหน้าเธอออกไปเลย 

"ให้อยู่นอกห้องเลยดีไหมน่ะ"  ไอรีนแกล้งว่า  หมั่นไส้เจ้าลูกหมา

"มันอยู่ไม่ได้หรอก"  คาร่าพูดยิ้มๆ  "เดี๋ยวมานะคะ"

ไอรีนพยักหน้าหงึกๆ  มองคาร่าเดินตามเจ้าดุคออกไปแล้วจึงผลักตุ๊กตาออกจากตัว  ลุกขึ้นจากเตียงอย่างระวัง  เธอหยิบหนังสือที่ให้เจนส่งมาจากร้านให้สำหรับรีวิวขึ้นแฟนเพจเฟซบุ๊ก  มาจัดวางให้ดูสวยเพื่อถ่ายรูป  นำไปประกอบการรีวิว  ใช้ฉากเป็นห้องนอนห้องนี้แหละ 

ตั้งแต่เดินขึ้นชั้นบนไม่ได้  เธอก็เริ่มจัดห้องนี้ใหม่  ให้คาร่าช่วยย้ายของมาจากข้างบนบางชิ้น  บางชิ้นก็สั่งมาใหม่ให้ร้านมาส่งให้ถึงหน้าบ้าน  สั่งของกระจุกกระจิกน่ารักๆ มาเพื่อจัดฉากสำหรับถ่ายหนังสือประกอบรีวิว  เธอใช้แค่กล้องโทรศัพท์มือถือเท่านั้น  พอคาร่าเห็นเธอทำแบบนี้แล้วก็เสนอจะซื้อกล้องดีๆ สักตัวเอาไว้ให้ใช้  แน่นอนว่า  เธอปฏิเสธทันที  เจ้าแว่นจึงให้เธอยืมกล้องเก่าที่ปกติใช้ถ่ายที่ร้านมา  แต่เธอก็ยังถนัดกล้องมือถือมากกว่า  บางครั้งเธอก็ให้คาร่าถ่ายให้  การถ่ายรูปกับเธอไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่

คาร่ากับเจ้าดุคกลับมาขณะไอรีนจัดที่ถ่ายรูปตรงที่นั่งริมหน้าต่างเสร็จพอดี  กลิ่นชอคโกแลตร้อนโรยมาร์ชเมลโล่หอมน่าดื่มมาก  แถมแก้วมัคที่คาร่าใช้ใส่มันมาก็สวย  เพราะเป็นอันที่ไอรีนเลือกมาเอง  เธอจึงห้ามใจไว้และนำมันมาประกอบฉากเสียก่อน  คราวนี้ได้โอกาสใช้เจ้าแว่นช่วยถ่ายให้ด้วยเลย  มีสามีคนเดียวก็ต้องใช้ให้คุ้ม  --  ก็ต้องมีคนเดียวสิยะ!

"ขายออนไลน์ได้เยอะเหรอคะ"  เจ้าแว่นถามหลังจากถ่ายรูปเสร็จ  และยกแก้วชอคโกแลตร้อนมาส่งให้ไอรีนดื่ม

"ไม่เยอะหรอก  แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไร"  ไอรีนตอบ  ประคองแก้วขึ้นเป่าและดื่มอึกเล็กๆ  เห็นเจ้าดุคนั่งมองตาละห้อยก็ทำหน้าตาล้อเลียนมันจนเจ้าลูกหมาเห่าเสียงแหลมใส่เธอ  ดุคมันรู้ว่าเธอหยอกเล่น  อยู่ด้วยกันทุกวัน  เรารู้นิสัยกันแล้ว  แต่ยังไงดุคก็ยังดูเหมือนจะรักคาร่ามากกว่าอยู่ดี 

แหงล่ะ  แด๊ดดี้ซีพาไปวิ่งเล่นได้นี่นา

"ถือเป็นการโฆษณาร้านด้วย  หนังสือมันก็เหมือนๆ กัน  เราต้องทำให้เขามาซื้อเราแทนที่จะซื้อคนอื่น  ต้องมีจุดสนใจ  มีข้อเสนอที่ดีกว่า  หรือเขาชอบเรา"

"ชอบแบบไหนคะ"  คาร่าแกล้งถาม  มือเล็กๆ จึงยื่นมาบีบจมูกเธอ  เจ้าแว่นแกล้งทำเสียงงอแง  พอคนตัวเล็กขยับขึ้นจุ๊บปากเธอก็ยิ้ม  ไอรีนส่งแก้วให้เธอไปวางบนโต๊ะ  มันเกะกะเวลาเราจูบกัน 

ไอรีนจับมือคาร่าไปวางบนท้องตัวเอง  มันเริ่มนูนขึ้นมานิดหน่อย  อายุครรภ์เข้าสู่สัปดาห์ที่สี่แล้ววันนี้  เมื่อครบห้าสัปดาห์คุณหมอนัดให้ไปอัลตร้าซาวน์ดูให้แน่ใจว่าได้ฝาแฝดหรือไม่  คาร่าพยายามจะไม่คิดมาก  ไม่ว่าผลจะออกมายังไง  เธอก็ต้องเลี้ยงพวกเขาอย่างดี  เธอจะดูแลไอรีนให้มากขึ้น  พยายามทำทุกเวลาที่อยู่ด้วยกันให้มันดี

"เจ็บนม  ตึงมากเลย" 

คาร่าเลิกคิ้ว  อมยิ้มมองไอรีนแอ่นหน้าอกให้ดู  ไม่เคยจะอายเธอเลยนะ  แน่ละ  ก็เห็นกันมาหมดแล้ว  มันตึงแน่นจริงๆ ด้วย  คาร่าคิดขณะลองจับทรวงอกภรรยาดูตามที่เจ้าตัวอยากให้จับเหลือเกิน 

"แว่น  ฉัน..."

เสียงเรียกแบบนี้  คาร่าเข้าใจทันที  เธอจึงจัดการล่อเจ้าดุคออกไปเล่นข้างนอกก่อน  ให้มันนอนเล่นกับตุ๊กตากบตัวโปรดของมัน  แล้วกลับมาทำเรื่องที่ค้างไว้  ไอรีนยืนกัดเล็บตัวเองอยู่กลางห้อง  ท่าทางคงยังกลัวอยู่  เราไม่ได้มีอะไรกันมาตั้งแต่ไอรีนเตรียมตัวใส่เด็กๆ  ถึงวันนี้ก็สองเดือนแล้ว  เธอเองก็กลัวจึงพยายามทำเป็นไม่รู้สึกอะไรเวลาไอรีนพลิกตัวมาซุกซบเธอตอนนอนใกล้กัน  บางคืนไอรีนก็ขอให้จูบนานๆ  มันอดไม่ได้หรอกที่จะรู้สึก  เธอไม่ใช่หุ่นยนต์ไร้ความรู้สึกสักหน่อย

เรามองตากันแล้วไอรีนก็ยื่นมือมาหา  คาร่ารับมันและเข้ามาหา

"เบาๆ คงไม่เป็นไรมั้ง"  ไอรีนพูดปนหอบเบาๆ  หลังจากจูบยาวนาน  เธอแอ่นกายให้คาร่าสัมผัส  บีบเคล้นทรวงอกที่กำลังสะสมน้ำนม  คนท้องเป็นแบบนี้ทุกคนหรือเปล่าไม่รู้  เธอก็ไม่ได้เป็นบ่อย  แต่บางทีอยู่ๆ มันก็เกิดมีอารมณ์ขึ้นมา  แล้วก็ไม่กล้าขอให้คาร่าทำให้  กลัวลูกจะหลุด

แข้งขาเธอเริ่มอ่อนตอนคาร่าช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มเข้าเอว  พาเธอมาหย่อนลงเตียงอย่างเบามือแล้วตามมาจูบเธอต่อ  ไอรีนดึงกระโปรงชุดนอนให้เลิกขึ้นสูงๆ  โชว์เรียวขาขาวเนียนที่อีกฝ่ายชอบจูบมัน  คาร่าถอดแว่นออก  ไล่จูบตั้งแต่หัวเข่าเธอจนมาถึงต้นขาด้านใน  กางเกงในเธอถูกพรากออกไป  ไอรีนแยกขาออกเปิดทางให้เรียวนิ้วเชี่ยวชาญถูคลึงซอกไซ้ส่วนลี้ลับของตน  เธอครางหวิว  รู้สึกดีมาก  มันอาจจะเป็นความโหยหาสัมผัสแบบนี้ 

ความอยากถูกสามีเอา...

"เข้าไปข้างในได้ไหม  แต่อย่าแรงนะ"  ไอรีนขอ  แล้วก็ได้ตามนั้น  คาร่าใช้แค่สองนิ้วและระมัดระวังมาก  มากกว่าเวลาเธอสอดยาเองซะอีก  นิ้วเท้าไอรีนบิดงอขณะอารมณ์ถูกดึงให้สูงขึ้น  เธอเผลอกระแทกสันเท้าใส่หลังคนด้านบน  แต่คาร่าคงไม่รู้สึกอะไร  กำลังกินนมเธอเพลิน

ทั้งบีบทั้งเค้นจนเหมือนนมจะแตก

"แว่น  ลึกอีกนิด  เร็วหน่อย  อาห์  นั่นแหละ!"  เธอร้องสั่ง  พลางยกสะโพกขึ้นลงตามแรงมืออีกฝ่าย  เธอแทบลืมไปเลยว่าท้องอยู่  เกือบจะพลิกตัวขึ้นมาควบคาร่าเองแล้ว  อารมณ์รักใคร่มันห้ามกันได้ยากจริงๆ

ของที่ใหญ่กว่านิ้วถูกแทรกเข้ามาแทน  เธอเป็นคนขอให้เจ้าแว่นทำ  แรงกระแทกกระทั้นและการเสียดสีสร้างเสียงร้องให้เธออย่างไม่อาจยั้ง  มันไม่เจ็บเลยสักนิด  ยิ่งได้ยินเสียงคาร่าครางอยู่ข้างหู  ก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์ให้รุนแรงขึ้น  เวลาใช้เจ้านี่เราจะรู้สึกด้วยกันทั้งสองฝ่าย  ไม่ใช่เธอสบายตัวอยู่คนเดียว  ถึงอย่างนั้นเจ้าแว่นก็ไม่ได้รุนแรงเท่ากับผู้ชาย  ถนอมเธอมากๆ

ชั่วโมงหฤหรรษ์ผ่านไปพักหนึ่งแล้ว  แต่เราสองคนยังนอนเปลือยก่ายเกยกันอยู่  ไอรีนคิดถึงบรรยากาศแบบนี้  ตอนที่ออกซิโตซินทำหน้าที่ต่อจากเอนดอร์ฟิน  ทำให้เรายิ่งผูกพัน  เธอชอบมองคาร่าจูบท้องเธอและลากปลายนิ้วไปมาบนท้องน้อยที่นูนขึ้นนิดหน่อยนี้ 

"คิดชื่อได้แล้วมั้ง"

"รอให้รู้ก่อนว่ามีกี่คนจะได้ตั้งถูก"  คาร่าอ้าง  อมยิ้มขี้เล่นจนโดนหยิกแก้ม  และมือเดียวกันก็ลูบมันอย่างอ่อนโยน  "พี่มีไว้ในใจหรือยัง"

ไอรีนทำท่านึก  วางมือตัวเองลงบนมือคาร่า  สอดนิ้วมือเข้าด้วยกัน  ชอบการแตะเนื้อต้องตัวกัน  "คุณแม่เธอว่าไงบ้าง"

"ก็บอกให้ตั้งตามคุณตา  คุณยาย"

"อืม  ก็ดีนะ"

"หมายถึงคุณตา  คุณยายของฉันนะ"  คาร่าบอก  ไอรีนทำหน้านึกขึ้นได้  "พวกท่านอยู่ยอร์กเชีย"

"ฉันจำได้"  ไอรีนบอก  "แต่ชื่อพวกท่านไม่ได้  เจอแค่ครั้งเดียวเอง"

"ตาชื่ออเล็กซ์  ยายชื่อแคทรีน่า" 

"ถ้าเอาชื่อพวกท่านจะต้องไปขอก่อนหรือเปล่า"

"ให้แม่บอกให้ก็ได้"

"ไม่เอาอะ  เธอโทรไปบอกพวกท่านเองเลย  ไม่ได้เจอกันมากี่ปีแล้ว  ส่วนของฉัน  ตายหมดแล้ว  ไม่ต้องถาม"

คาร่าทำหน้าแหย  "เดี๋ยวคุยกับแม่ก่อนว่าจะให้ไปรับพวกท่านมาที่นี่ดีไหม  แบบตอนงานแต่งเรา"

"เราไปเองก็ได้มั้ง"

"ไม่ได้หรอก  นั่งรถนาน  มันไม่เหมือนเครื่องบิน  รถไฟยิ่งไม่ได้เลย  ท้องแบบนี้ไม่เหมือนท้องธรรมชาติ  อันตราย" 

พอคาร่าเตือนแบบนี้  ไอรีนก็พยายามจะลุกขึ้น  อยากไปห้องน้ำเช็กตัวเอง  คาร่าจึงช่วยพยุงเธอขึ้น  เอาใส่คลุมมาให้สวมและพาไปส่ง

"ฉันเข้าไปเอง"

คาร่าปล่อยให้ภรรยาเข้าห้องน้ำไปลำพัง  แม้จะอยากดูแลปกป้องก็ต้องให้เวลาส่วนตัวกันบ้าง  ต้องไปรับลูกชายกลับเข้ามาด้วย  เธอจึงจัดการตัวเองก่อนแล้วจึงเปิดประตูไปตามหาเจ้าดุค  ไม่เจอมันในห้องรับแขก  เห็นประตูบ้านแง้มอยู่จึงรีบออกไปดู  กลัวมันจะวิ่งออกไปถูกรถชน  พ่อแม่เธอยังไม่กลับมาด้วย  แม่ไอรีนก็ออกไปร้านคุณพ่อตา

เธอเรียกชื่อมัน  เพราะบางทีดุคก็ซ่อนตัวเก่งเวลาอยู่ในสวน  ถ้าไม่มองหาให้ดีก็หาไม่เจอ  มันชอบเล่นซ่อนแอบแบบที่ไอรีนยังโมโห  หาตัวลูกไม่เจอ  เจ้าตัวแสบก็ชอบแกล้งมัมมิเหลือเกิน  เธอต้องมาตามหาให้  ดุคจะวิ่งร่าเริงออกมาจากที่ซ่อนทันทีที่ได้ยินเสียงเธอ  แล้วจะกระโจนมาหา  เธอก็ต้องแกล้งเดินหนีไม่สนใจ  ไม่ให้เจ้าตัวเล็กบังอาจมาเล่นแรงๆ กับเธอ  ต้องฝึกไว้ตั้งแต่ตอนนี้  เพราะอีกไม่กี่เดือนเจ้าดุคจะไม่ได้เป็นเจ้าตัวเล็กแบบนี้อีกแล้ว  แต่มันก็คงจะติ๊งต๊องไม่เปลี่ยนไปหรอก

"ดุค"  คาร่าเรียกชื่อเจ้าลูกหมาอีกครั้ง  เสียงดังกว่าครั้งก่อนๆ  แต่เจ้าดุคก็ยังไม่มา  เธอจะเรียกซ้ำอีกครั้งก็ได้ยินเสียงเห่า  จึงรีบเดินตามไปดู  และเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มมันไว้อยู่นอกรั้ว  พอเจ้าดุคเห็นเธอพยายามจะดิ้นลงมาจากอ้อมแขนหญิงสาว  แต่เจ้าหล่อนไม่ยอมปล่อย  เจ้าดุคร้องโวยวายพยายามจะกัด  คาร่ารีบวิ่งไปแย่งลูกหมาของเธอคืนมาก่อนที่ดุคจะกัดคน

"คุณเป็นใคร"  เธอถาม  เสียงเย็นชา  หากสาวแปลกหน้าก็ยังจ้องแต่ลูกหมาของเธอตาเขม็ง  "ฉันถามว่าคุณเป็นใคร"

"ลูกหมาของฉัน"  เจ้าหล่อนว่า  จ้องหน้าคาร่า  "ถึงมันจะโตแล้ว  แต่ฉันจำมันได้  สีมันไม่เหมือนใคร  ฉันจำได้"

"หมาตัวนี้ไม่มีเจ้าของ  ฉันให้หมอเช็กแล้ว  ไม่มีชิพที่ตัวมัน"

"ฉันยังไม่ได้เอาไปใส่  ไม่มีเวลา"

คาร่าส่ายหน้าไม่เชื่อ  "คุณจะมาอ้างแบบนี้ไม่ได้  ถ้าไม่มีหลักฐาน  หมาตัวนี้ก็เป็นของฉัน  ฉันดูแลมันมาสองเดือนแล้ว"

"แล้วถ้าฉันพิสูจน์ได้ล่ะ" 

"คุณก็เอามันไป"

ถึงจะพูดออกไปแบบนั้นแต่ใจเธอก็หายวาบ  นึกถึงวันที่ไม่มีเจ้าดุควิ่งเล่นกับเธอแล้วก็ขอบตาร้อนขึ้นมา  ไอรีนก็คงร้องไห้แน่นอน  ภรรยาเธอรักเจ้าลูกหมาตัวนี้เหมือนลูกตัวเอง  เลี้ยงดูแลมันอย่างดี  แม่ยายเธอด้วย

สาวแปลกหน้าจ้องหน้าคาร่าเหมือนเห็นเป็นผู้ร้าย  เจ้าหล่อนยังไม่ยอมออกไปห่างจากรั้วบ้านเธอ  จนกระทั่งไอรีนเดินออกมา  คงได้ยินเสียงเธอคุยกับใคร

"เกิดอะไรขึ้น"

"คุณเจ้าของร้านหนังสือนี่"

ไอรีนเลิกคิ้ว  จำไม่ได้ว่าใครทักเธอ  ลูกค้าในร้านเธอจำไม่ได้หมดทุกคนหรอก  นอกจากจะเป็นคนประจำหรือเคยคุยกันอย่างนายเจคที่ตอนนี้หายหัวไปไหนก็ไม่รู้  ดาน่ากับรอนนีคงตามล่าตัวอยู่

ถึงอย่างนั้น  เธอก็ยังพูดด้วยอย่างสุภาพ

"มีธุระอะไรเหรอคะ  นี่บ้านฉันเอง"

"ฉันรู้  ฉันมาตามหาหมา"

"หมา?"

"ฉันเคยเห็นคุณอุ้มมัน  แต่ฉันไม่แน่ใจ"

"เรื่อง?"

"ว่ามันเป็นหมาของฉันที่หลุดมาหรือเปล่า"  หญิงสาวอ้ำอึ้ง

ไอรีนเงยหน้ามองคาร่าที่สั่นหัวให้เธอ  ลูกสาวทนายความคนดังคงจะห้ามไม่ให้เธอพูดอะไรที่จะเป็นหลักฐานให้เราแพ้เรื่องนี้

"แฟนฉันบอกว่ามันไม่มีชิพแสดงว่าใครเป็นเจ้าของ  และฉันเป็นคนคุยกับหมอที่ตรวจมันเอง  ถ้าเป็นของคุณ  แล้วทำไมไม่มีชิพล่ะ"

"ฉันยังไม่ได้เอาไปใส่  ฉันเพิ่งขอมันมาจากญาติ  เขาเลี้ยงไม่ไหว  มันมีพี่น้องหลายตัว  ฉันว่าจะเอามันมาช่วยเลี้ยงตัวหนึ่ง  แต่มาอยู่บ้านได้วันเดียว  มันก็หลุดหายไป"

"เหรอคะ  แต่ฉันไม่เคยเห็นป้ายตามหาลูกหมาเลยนะ"  ไอรีนพูดนิ่งๆ  มีสติกว่าคาร่าเมื่อครู่เสียอีก  เจ้าแว่นทึ่งกับความเป็นผู้ใหญ่ของภรรยา  เมื่อกี้เธอโมโหที่เหมือนถูกกล่าวหาว่าเป็นขโมยจึงหงุดหงิดและเผลอแสดงอารมณ์โกรธออกไป

"ถ้ามันเป็นของคุณจริง  และถ้าคุณรักมัน  คุณควรจะตามหามัน  ถูกไหมคะ  แล้วมันชื่ออะไรล่ะ"

"เอ่อ..."  สาวแปลกหน้าเริ่มตะกุกตะกัก  คาร่าได้โอกาสจึงเอ่ยเสริม

"ฉันไม่ได้จะว่าคุณโกหกนะ  แต่ถ้าคุณไม่ได้รักมัน  ไม่ได้ผูกพันก็อย่าทำแบบนี้เลย  หรือคุณอยากจะได้เงิน"

"นี่คุณ  พูดจาดูถูกกันขนาดนี้เลยเหรอ  คุณเป็นใคร"

"เจ้าของนามสกุลที่ฉันใช้"  ไอรีนตอบ  ภายนอกยังนิ่งอยู่  แต่ในใจชักกรุ่นๆ แล้ว  ใครว่าเธอยังพอรับได้  แต่อย่ามาแตะต้องเจ้าแว่นของเธอหรือเจ้าดุค 

สาวแปลกหน้าไม่ได้ทำท่าแปลกใจราวกับรู้อยู่แล้วว่าเธอกับคาร่าเป็นอะไรกัน  ไอรีนหงุดหงิดตัวเอง  น่าจะเอะใจแต่แรกแล้วว่า  ถ้ารู้ว่าเธออยู่ที่นี่ก็แปลว่าผู้หญิงคนนี้ต้องรู้อะไรเกี่ยวกับเธอและครอบครัวไม่น้อย  บางทีอาจจะรู้ด้วยก็ได้ว่าพ่อแม่คาร่าเป็นใคร  พ่อแม่เธอด้วย

"แล้วคุณจะเอายังไง"  เป็นหล่อนที่ถามขึ้นมา 

ไอรีนรีบจับแขนคาร่าเอาไว้  เกรงว่าจะหลุดอาการ  ลองมาแบบนี้ผู้หญิงคนนี้คงต้องการอะไรสักอย่างแน่  แต่ไม่ใช่เจ้าดุค

"มีอะไรไปสู้กันในศาลค่ะ"  คาร่าเสนอ  ท่าทางมั่นใจเกินกว่าที่รู้สึก  ใจหนึ่งก็กลัวว่าหากอีกฝ่าย (ที่ยังไม่ได้บอกชื่อเสียงเรียงนาม) มีหลักฐานว่าเป็นเจ้าของเจ้าดุคจริงๆ เธอกับไอรีนจะเสียลูกรักไป  เธอแน่ใจด้วยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางจะเลี้ยงดูแลเจ้าดุคได้ดีไปกว่าเธอกับไอรีน  หล่อนอาจจะทำท่าเหมือนรักมัน  แต่เธอรู้สึกได้ว่ามันเป็นแค่การแสดง

"คุณท้าฉันเองนะ"

"ฉันไม่ได้ท้า  แต่ถ้าคุณมีหลักฐานก็เอามาดูกัน"  เจ้าแว่นพยายามใจเย็น  เพราะมือเย็นๆ ของไอรีนที่จับแขนเธออยู่  ช่วยปลอบโยนเธอ

"ก็แค่หมาตัวเดียว  ถึงกับต้องให้ศาลตัดสินเลยเหรอ"  หล่อนดูงง 

"แน่นอนค่ะ"  คาร่าตอบ  "อันที่จริง  ฉันยังไม่รู้ชื่อคุณด้วยซ้ำ  อยู่ๆ คุณก็มาอุ้มหมาฉัน  มากล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าของมัน  ทั้งที่มันไม่ได้มีท่าทางว่าจะจำคุณได้เลย"

"มันเพิ่งมาอยู่กับฉันวันเดียว"

"ต่อให้แป๊บเดียว  หมาก็จำได้ค่ะ  หมาสามเดือนแล้วด้วย  มันต้องจำได้อยู่แล้ว"

"อะไรนะ  สามเดือนเหรอ"

ไอรีนขมวดคิ้วกับท่าทีประหลาดใจของคนแปลกหน้า  ขณะที่คาร่าเริ่มยิ้มได้อย่างมั่นใจขึ้น 

"ดูเหมือนคุณจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยค่ะ"  เจ้าแว่นจี้  คนถูกจี้ชักสีหน้า  ดูโกรธขึ้นมาทันที  "เอาเถอะ  ฉันว่าวันนี้คุณกลับไปก่อน  ไปหาหลักฐานมา  แล้วเราค่อยมาคุยกัน  ดีไหมคะ"

"ก็ได้  แล้วฉันจะกลับมาอีก"  หล่อนสะบัดเสียงให้คาร่า  และคิดจะไปโดยไม่เอ่ยลา  แต่แล้วก็หันกลับมาใหม่  "อ้อ  ฉันชื่อซีโมน  มิลน์นะ  ช่วยจำเอาไว้ด้วย"

คาร่ามองอีกฝ่ายนิ่งๆ  ไม่ตอบรับไม่ปฏิเสธ  มีแต่ไอรีนที่รับคำลา  แม้มันจะไม่ค่อยเหมือนคำล่ำลานัก  พอซีโมนจากไปแล้ว  เธอจึงรีบดึงคาร่าเข้าบ้านทันที  กลัวว่าจะล้มพับไปเสียก่อน  เธอเวียนหัวตลอดการปะทะคารมของคาร่ากับซีโมน  หากพยายามอดทนเอาไว้

"นั่งพักนะคะ  เดี๋ยวฉันเอาน้ำให้"

ไอรีนมองคาร่ากระวีกระวาดบริการเธอแล้วก็นึกสงสาร  เจ้าแว่นคงจะใจเสียไม่น้อยไปกว่าเธอ  เราสองคนรักเจ้าดุคเหมือนๆ กัน  แม่เธออีกคน  ถ้ามันต้องจากไป  บ้านเราก็คงจะเงียบเหงาแย่  แม่เธอก็คงจะเหงากว่านี้  แต่ที่สำคัญคือเธอกลัวว่า  ยายซีโมนนั่นจะเลี้ยงมันได้ไม่ดี  หรือไม่รักมัน

เธออุ้มเจ้าดุคขึ้นมานั่งตัก  มันรีบซุกเธอทันที  เจ้าลูกหมาเหมือนจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร  บางทีมันอาจสัมผัสความเศร้าในใจเธอได้  มันคงอยากปลอบเธอบ้าง  เธอก็ลูบหัวมันและหอมศีรษะ  เจ้าดุคตัวโตกว่าวันแรกที่เธอเจอมันที่คลินิกสัตว์มากแล้ว  แต่ยังเป็นลูกหมาอยู่ดี

เป็นลูกของเธอ  เป็นพี่ชายของเจ้าตัวเล็กในท้องเธอ

"ฉันจะไม่ยอมให้ใครมาเอามันไปหรอก"

ไอรีนเงยหน้ามองคาร่า  เห็นสีหน้าสามีแล้วก็นึกกลัวใจ  ลองคาร่าพูดแบบนี้ออกมาก็แปลว่าไม่ยอมจริงๆ  ยายซีโมนอะไรนั่นคงเจอหินเข้าแล้ว  เล่นกับใครไม่เล่น  เล่นกับลูกสาวทนายความ  แถมยังเป็นลูกสาวที่คลุกคลีกับคุณพ่อทนาย  ทำงานร่วมกันมาตลอดด้วย  คาร่าเวลาทำงานไม่ใช่คนเดียวกับตอนที่อยู่กับเธอนะ  เหมือนสวมหัวโขนหรือใส่หน้ากากอีกหน้าเลย

และเธอชอบแบบนี้แหละ

"แล้วถ้าเขาเกิดมีหลักฐานล่ะ  เราจะทำยังไง  ถ้ามีคนมายืนยันว่าเป็นของเขาจริงๆ"  ไอรีนถาม  เสียงกังวล  ลูบตัวเจ้าดุคที่นอนสบายบนตักของเธอ  ราวกับลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้มีคนจะมาเอามันไปจากบ้านเรา

"ก็ให้มันรู้ไปค่ะ"  คาร่าตอบ  หนักแน่น  "ถ้าหล่อนเป็นเจ้าของจริง  ฉันจะขอซื้อ  ยังไงฉันก็ไม่ให้ดุคไปอยู่กับยายนั่นแน่  ดุคมันก็คงไม่อยากไป  และไม่ต้องกลัวเรื่องหล่อนจะโก่งราคานะ  เราเช็กได้ว่าราคาจริงๆ มันควรจะเท่าไหร่  อีกอย่าง  การขายลูกหมาอายุต่ำกว่าหกเดือนก็ผิดกฎหมายด้วย  ยิ่งไม่ใช่ฟาร์มที่มาตรฐานแบบนี้นะ"

"หัวหมอนะ"  ไอรีนว่า  อันที่จริงก็ตั้งใจชมสามี  เธออยากให้รางวัลคาร่า  แต่ตอนนี้ร่างกายคงไม่สู้แล้ว

"ดื่มน้ำแล้วนอนดีกว่า  ตื่นมาแล้วค่อยทำงาน"  คาร่าแนะ  เข้าใจว่าไอรีนคงเหนื่อยมากแล้ว  เราเพิ่งมีอะไรกัน  แถมยังมาเครียดเรื่องเจ้าดุค 

"มานอนด้วยกันสิ"  ไอรีนชวน  รับน้ำจากคาร่ามาดื่มแล้วก็เอนตัวลงนอน  ให้เจ้าดุคมานอนข้างๆ ตัวเหมือนเคย

"หลับไปก่อนก็ได้ค่ะ  เดี๋ยวฉันมานอนด้วย"  คาร่าบอก  ลูบศีรษะภรรยาและจูบหน้าผาก  ไอรีนหลับตาไปได้ครู่หนึ่งก็ผล็อยหลับไป  เจ้าดุคก็ซุกมัมมิไอนอนอย่างสบายใจ  คาร่ายิ้ม  เธอชอบภาพแบบนี้

และจะไม่มีวันให้มันหายไปด้วย!

หญิงสาวขยับแว่น  และหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นมา  กดเบอร์โทรด่วน  แต่พามันออกไปคุยข้างนอกห้อง  ไม่ให้รบกวนสองชีวิตที่กำลังหลับสบายอยู่ด้วยกัน             


..............................


* เปิดจองหนังสือถึงวันที่ 5 กันยานี้นะคะ  อย่าลืมเด้อ   :58: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น