web stats

ข่าว

 


SISTER SISTER (Special) - บทที่ 11 Pieces Of Us

โพสต์โดย: anhann วันที่: 20 สิงหาคม 2019 เวลา 23:35:03 อ่าน: 114



บทที่ 11 Pieces Of Us





"เจคบอกจะช่วยหาทุนให้"

"ใครคะ"

ไอรีนชะงักเมื่อคาร่าทักขึ้น  มือที่กำลังยกตุ๊กตากบหนีเจ้าดุคกับสายตาที่กวาดไล่อ่านหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกหยุดลง  เธอหลุดปากพูดถึงคนอื่นระหว่างอยู่กับสามีตัวเองได้ยังไง  แต่เธอไม่ได้คิดอะไรกับเขานี่นา  ทำไมจะพูดถึงไม่ได้ล่ะ  ถ้าไม่เล่าแล้วคาร่าไปรู้ทีหลังก็คงโดนโกรธแย่

"ลูกค้า  ผู้ชายคนนั้นน่ะ"  เธอเล่า  คาร่าเงยหน้าขึ้นจากแล็ปท็อป  ละมือจากงานมามองเธอ  นัยน์ตาคมหลังเลนส์แว่นมีแววอยากรู้อยากเห็น  แต่ไม่ได้ระแวงจนน่ากลัว  ไอรีนแอบโล่งใจ  เธอไม่อยากมีปัญหากับคาร่า  ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม 

"น้องสาวเขาเพิ่งเสียไปเพราะมะเร็ง  เขาเลยอยากช่วยคนอื่นที่ยังพอจะมีหวังอยู่"

"แล้วเขาทำงานอะไรคะ"  คาร่าสนใจ  ถึงจะไม่ค่อยชอบให้ไอรีนไปสนิทสนมกับใคร  แต่ก็เข้าใจได้ว่าทำงานแบบนี้ต้องมีคนรู้จักไว้บ้าง  ที่จริงก็ทุกงานนั่นแหละ  พ่อแม่เธอยังต้องมีคนรู้จักทั่วไปหมดเลย  ถ้าเราไม่มีตัวตน  แล้วใครจะมาเห็น  มาจ้างงานเราล่ะ  พ่อเธอเคยพูดไว้แบบนี้

"พวกทัวร์สนามฟุตบอลอะไรทำนองนี้แหละ"  ไอรีนตอบ

"โอ้  ฉันลืมไปเลยว่าเมืองเรามีสนามฟุตบอลดัง"  คาร่าอุทาน  "เรายังไม่ได้ไปดูบอลกันเลย  พี่ไอ  เมื่อไหร่เราจะได้ไปคะ"

"นี่ไง"  ไอรีนจิ้มนิ้วบนหัวเจ้าดุค  มันจึงเลิกสนใจกบตัวเขียวที่งับเล่นอยู่มางับนิ้วเธอแทน  ไอรีนยกหนีและดึงหูมันเล่นเบาๆ  เจ้าดุคก็ส่งเสียงขู่ไม่จริงจังใส่เธอก่อนจะกลับไปงับกบเล่นต่อ  คาร่าดึงกบไปและเอาของเล่นขัดฟันมาให้มันแทะแทน  แต่เจ้าดุคก็ไล่ตามกบไปอีก  ไม่ยอมเล่นของเล่นที่คาร่าเอามาให้  เจ้าลูกหมากะเผลกน้อยลงแล้ว  มันยังเด็ก  กระดูกซ่อมแซมตัวเองได้เร็วกว่าหมาโต

"อีกอย่าง  หมอไม่ให้ฉันขึ้นบันไดเยอะ  อัฒจันทร์ข้างล่างก็มองไม่ถนัด  แล้วฉันก็ไม่ได้ชอบดูฟุตบอล"

คาร่าหัวเราะแห้งๆ  อุ้มเจ้าดุคขึ้นมานั่งตักตัวเอง  เอาตุ๊กตากบมาให้มันด้วย  ดุคก็นอนเล่นกบ  ไม่สนใจเธอเท่าไหร่

"แล้วยอดจากวันแสดงโชว์เป็นยังไงบ้างคะ"

"ก็พอได้  แต่ยังไม่ดีมาก  หักค่าใช้จ่ายแบบน้อยที่สุดเลยนะ"  ไอรีนพูดอย่างหนักใจ  "มันไม่ใช่ความผิดของเราหรอก  ทุกคนพยายามทำดีที่สุดแล้วละ  ทุกวันนี้ใครๆ ก็ต้องประหยัดกันทั้งนั้น"

คาร่าพยักหน้าเห็นด้วย  เธอกับไอรีนก็เหมือนกัน  ถ้าไม่มีเงินเก็บไว้ตั้งแต่ช่วงที่ยังเฟื่องฟู  เราคงไม่กล้าคิดเรื่องมีลูกแน่ๆ 

"พรุ่งนี้ต้องวานให้รอนนีกับฟิลลิปยกหนังสือที่จะเซลออกมาวางให้  แล้วฉันจะค่อยๆ จัดมัน"

"ฉันไปช่วย"

"ไม่ว่างก็ไม่ต้อง  ฉันทำได้  ของแค่นี้  เดี๋ยวให้โซเฟียช่วย  จินนี่ก็ว่าจะมาช่วยอยู่นะ"

"ยายเด็กแสบนั่นน่ะเหรอ"

"เขาโตเป็นสาวแล้วนะ"  ไอรีนส่ายหัวให้คาร่าที่ทำหน้ายี้เมื่อนึกถึงน้องสาวโซเฟียที่เคยเป็นเด็กหญิงตัวน้อยมาเกาะกระจกร้านดูหนังสือ  แต่ไม่กล้าเข้ามาเพราะไม่มีเงิน  คาร่าเป็นคนพาจินนี่เข้ามาหาเธอ  ขออนุญาตให้เด็กน้อยเข้ามาอ่านหนังสือในร้าน  และให้โอกาสโซเฟียมาฝึกงานที่ร้านเพื่อช่วยเราอีกแรงแลกกับค่าแรงและขนมที่เป็นของเหลือขายในแต่ละวัน 

"ก็ดีค่ะ  เผื่อฉันมาไม่ทัน"  คาร่าเห็นด้วย  แกล้งโยนกบตัวเขียวไปกลางห้อง  เจ้าดุคก็ลุกจากตักเธอไปวิ่งไล่ตามมัน  ร่าเริงราวกับเป็นคนละตัวกับที่เธออุ้มมาจากข้างถนน  เห็นแล้วก็มีความสุขไปด้วย

"เดี๋ยวก็ขาหักอีกรอบ"  ไอรีนบ่น  เธออุตส่าห์ประคบประหงมดูแลเจ้าดุคอย่างดี  ไม่ชวนมันเล่นอะไรที่มันจะต้องวิ่ง  กลัวขามันจะไม่หาย  แต่เจ้าแว่นกลับทำแบบนี้  ไม่รู้จักกลัวซะบ้างเลย

"มันเป็นลูกหมา  พี่ไอ  มันต้องเล่น  เป็นเรื่องปกติของมัน  พี่จะให้มันนอนนิ่งเป็นตุ๊กตาไม่ได้  แบบนั้นมันคงป่วยแล้วละ"  คาร่าอธิบายใจเย็น  และออกจะขำเมื่อไอรีนทำท่าปกป้องเจ้าดุคเหมือนเป็นลูกชายจริงๆ  ไอรีนอาจจะคิดแบบนั้นก็ได้  สัญชาตญาณความเป็นแม่มีอยู่ในตัวผู้หญิงทุกคน  เธอเองก็มี  อยู่ที่ว่าเราแสดงออกมากแค่ไหน  แต่ไอรีนคงเกี่ยวกับฮอร์โมนในร่างกายตอนนี้ด้วย  ยาที่กินบำรุงอยู่ทุกวันคงมีผลไม่มากก็น้อย

"หมอนัดมันเมื่อไหร่  ต้องเอ็กซ์เรย์อีกใช่ไหม"  ไอรีนเปลี่ยนเรื่อง  ไม่อยากเถียงกับคาร่า  พยายามกดความขุ่นเคืองเอาไว้  ถ้าเธออาละวาดใส่สามีอย่างไร้เหตุผลบ่อยๆ  อาจโดนเบื่อก็ได้  คาร่าเหนื่อยมากพอแล้ว  เวลาจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้  มีแค่เฉพาะที่บ้านเท่านั้น

"อาทิตย์หน้าค่ะ  ถ้ากระดูกต่อดีแล้วก็คงตัดเฝือกออกได้  แต่จริงๆ มันควรจะแทะออกเองได้นะ  ปกติหมาจะรำคาญของพวกนี้  มันเคยกัดเล่นบ้างไหม  พี่เห็นบ้างหรือเปล่า"  คาร่าถาม  สงสัย  เธอไม่เคยเห็นดุคมันทำ

ไอรีนส่ายหน้า  "มันกัดไม่ถึงมั้ง  แต่เวลามันเดินก็สลัดๆ อยู่แหละ"

"มันจะกัดไม่ถึงได้ยังไง"  คาร่าไม่เชื่อ  เธอจึงทดลองจับขาข้างที่ใส่เฝือกของดุคดันมาทางปากมัน  เจ้าลูกหมาก็ไม่สนใจเฝือก  มันชอบตุ๊กตากบตัวเขียวที่เธอซื้อให้มากกว่า  งับเล่นจนเปียกน้ำลายหมดแล้ว

"จะไปแกล้งมันทำไมอีก"

"ทดสอบดูเฉยๆ"

ไอรีนปลงกับความซนของเจ้าแว่น  แต่เธอก็ชอบแบบนี้  คาร่ามีทั้งความเป็นเด็กและผู้ใหญ่อยู่ในตัว  เวลาที่เธอหดหู่  เศร้าใจกับอะไรสักอย่าง  เธอก็ได้ความสดใส  ความขี้เล่นขี้แกล้งของเจ้าแว่นนี่แหละช่วยให้หัวเราะได้  หากเมื่อมีปัญหาอะไรขึ้นมา  คาร่าก็ยังช่วยเธอคิดได้ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ในตัวที่มี  ประสบการณ์การทำงานที่ทำร่วมกับพ่อแม่มาตั้งแต่ยังเด็ก  คาร่าไม่ได้เรียนอย่างเดียวมาทั้งชีวิตแบบเธอ  เธออาจจะได้เกรดดีในชั้นเรียน  แต่การใช้ชีวิตนอกห้องเรียนแทบจะไม่ได้เรื่องเลย  เป็นแบบที่แม่ชอบบ่นเป๊ะ

"พี่ตั้งชื่อลูกหรือยัง"

คำถามนี้ชะงักเธออีกรอบ  ไอรีนสบตาคมๆ ในเลนส์แว่นใส  มันมีความหวังและความกระตือรือร้นอยู่ในนั้น  --  อาห์  คาร่าแค่ยี่สิบสอง  แต่เรากำลังจะมีลูกด้วยกันจริงๆ แล้วใช่ไหม 

ไอรีนก้มมองหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกบนตักตัวเอง  เธอเงยหน้าขึ้นและยักไหล่ให้คาร่าอย่างอายๆ  อีกฝ่ายก็ยิ้มขำๆ กลับมา

"เอาไว้ค่อยคิดตอนพี่ท้องก็แล้วกันค่ะ  ตอนนี้คิดเรื่องงานก่อน  และก็เรื่องเจ้าตัวยุ่งนี่ด้วย  ใช่ไหม  ดุค  เข้าห้องน้ำเองได้แล้วนี่นา  เก่งนะเนี่ย  พูดรู้เรื่องแบบนี้ต้องให้รางวัลหน่อยแล้ว"  คาร่าพูด  พลางสอนให้เจ้าดุคยื่นขาหน้ามาให้  แล้วเอาขนมให้มันกินเมื่อลูกหมาทำตามคำสั่งได้อย่างดี

"ให้พ่อแม่เธอช่วยคิดบ้างก็ได้  หลานท่านเหมือนกัน"  ไอรีนบอก

คาร่าพยักหน้าเฉยๆ  ไม่สนใจนัก  มัวแต่เล่นกับเจ้าดุคเพลิน  ไอรีนก็ไม่อยากทักท้วงอะไรนัก  อยู่บ้านแบบนี้ก็อยากให้เจ้าแว่นได้พักผ่อนบ้าง  พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นเช้ามากๆ อีก  คาร่ามีไปทัศนศึกษากับเพื่อนๆ ที่มหาวิทยาลัย  ถึงจะไปแค่ใกล้ๆ  แค่โรงงานในเมืองเดียวกันก็ต้องออกไปรวมตัวกันแต่เช้า  เธอจึงอาสาดูแลเจ้าดุคเอง  และจะติดรถพ่อออกไปร้าน  ไม่ต้องให้คาร่าไปส่งเหมือนทุกวัน  ที่จริงเธอก็อยากจะมีรถอีกสักคัน  แต่มันไม่จำเป็น  เปลืองที่จอด  เปลืองค่าน้ำมัน  ค่าบำรุงรักษา  ค่าภาษี  อะไรจุกจิกอีกเยอะแยะ  บ้านพ่อแม่เธอก็มีรถคนละคันแล้ว  ถ้าจำเป็นต้องใช้ก็ยืมท่านสักคันก็ได้

"แล้วคนชื่อเจคนี่อะไรคะ"

ไอรีนกะพริบตา  เงยหน้าขึ้นจากหนังสือคู่มือเลี้ยงลูกที่ยังอ่านไม่ถึงไหนเลย  เธอมองคาร่างงๆ  ลืมไปแล้วเรื่องผู้ชายคนนั้น  แต่ดูเหมือนเจ้าแว่นจะยังติดใจอะไรอยู่

"พี่บอกว่าเขาจะช่วยหาทุนให้  ทุนอะไร"  คาร่าถาม  พยายามไม่ใส่ความไม่ชอบใจส่วนตัวลงไป  เธอไม่ชอบให้ไอรีนพูดถึงใครอย่างสนิทสนมแบบนี้  ต่อให้เธอเข้าใจว่าไอรีนต้องรู้จักใครบ้างก็เถอะ  เธอยอมรับว่าบางทีเธอก็นิสัยไม่ดี  อยากให้ไอรีนเห็นว่าเธอเป็นคนเดียวที่พี่เขาพึ่งพาได้  ถึงจะเหนื่อยยังไง  เธอก็อยากเป็นคนคนนั้น  ทั้งที่รู้ว่ามันเป็นความคิดที่เห็นแก่ตัว 

"ก็เกี่ยวกับโครงการนั้นไง"  ไอรีนตอบ  ได้กลิ่นความไม่พอใจไหลออกมาจากน้ำเสียงและสีหน้าของคาร่า  เจ้าแว่นใจน้อย  ชอบน้อยใจอะไรไม่รู้อยู่เรื่อย  ทีกับเรื่องอื่นมั่นใจนัก  พอเป็นเรื่องเธอทีไรชอบทำแบบนี้ตลอด  ทำเหมือนเธอไม่น่าไว้ใจ  ทำเหมือนเธอไม่รัก  หรือเธอแสดงออกมาไม่พอให้รู้สึกว่าเธอรักมากขนาดไหน

เธอจะอยากมีลูกกับคนที่เธอไม่ได้รักหรือไงล่ะ  เจ้าบ้านี่!

"เอาไว้จะให้เขามาคุยกับเธอละกัน  ว่างวันไหน"

"พี่คุยเองเลยค่ะ  ช่วงนี้ฉันยุ่ง"

"พูดเองนะ"

คาร่าพยักหน้า  ไม่มองหน้าภรรยา  อุ้มเจ้าดุคขึ้นมากอดเป็นตุ๊กตา  เจ้าลูกหมาก็พยายามจะงับแว่นเธอ  เธอก็ยิ้มกับมันและดุไปเบาๆ  ไอรีนเอื้อมมือมาตีหัวเข่าเธอ  ทำหน้างอนๆ ได้น่ารักมาก  คาร่าลืมไปเลยว่าตนกำลังงอนหรือน้อยใจภรรยาอยู่

"ยิ้มเลย"  ไอรีนสั่ง  พลางเรียกเจ้าดุคมาหาตัวเอง  เจ้าหมาน้อยงง  ไม่รู้จะไปหาใครดี  แต่พอไอรีนเรียกมันอีกทีด้วยน้ำเสียงเหมือนเรียกลูกชาย  เจ้าดุคก็ดิ้นจากอ้อมแขนแด๊ดดี้ซีไปหามัมมิไอแทน

"โอ้โห  อะไรอะ  ดุค"

"ลูกชายคนโตฉัน"

คาร่าหลุดยิ้ม  ลืมไปเลยว่างอนไอรีนอยู่  แต่ด้วยความเขิน  เธอเลยทำได้แค่ขยับเข้าไปกอดคนตัวเล็กกว่าและจูบขมับไอรีน  บอกให้รู้ว่าที่งี่เง่าแบบนี้ก็เพราะเธอรักและหวงมากแค่ไหน

ไอรีนยกมือขึ้นลูบหัวคาร่า  ปล่อยเจ้าดุคที่ดิ้นดุ๊กดิ๊กลงไปจัดการกับเจ้ากบเขียวของมันต่อ  เพราะเธอจะปลอบแด๊ดดี้ซีของมันบ้าง  เธอจูบคาร่าและแอ่นตัวให้อีกฝ่ายจับหน้าอก  ครางชอบใจกับแรงบีบเคล้น  มีอะไรกันไม่ได้  แค่ได้สัมผัสกันบ้างก็ยังดี  เธออยากรู้สึกถึงความรักจากสามีตัวเอง

"ท้องอืดๆ ยังไงไม่รู้อะ" 

คาร่าเลิกคิ้ว  ทัดผมข้างใบหู  มองหน้าท้องไอรีนที่เปิดเสื้อให้ช่วยดูความเปลี่ยนแปลง  "อ้วนขึ้นมั้ง  บำรุงเยอะ  พุงน่าฟัดมากเลยอะ"

"อย่านะ  จั๊กจี้"  ไอรีนร้องห้าม  หัวเราะคิกคักเมื่อคาร่าก้มลงจูบพุงตัวเอง  รอบเอวเธอหนาขึ้นเพราะสารพัดของบำรุงจากสูตรที่แม่หามาให้กิน  หมอยังชมเลยว่าเธอจัดการตัวเองได้ดีมาก  ร่างกายเธอเหมาะสมสำหรับการฝังตัวอ่อนแล้ว  เธอกับคาร่าดีใจมากหลงจากฟังผลเสร็จ  แต่หลังจากนั้นเธอก็นึกถึงเรื่องที่ร้าน  ถ้าใส่ตัวอ่อนแล้ว  เธอจะไปร้านไม่ได้ราวๆ ห้าวัน  หรือนานกว่านั้น  บางทีอาจโดนคาร่าบังคับให้อยู่บนเตียงตลอด  ต้องย้ายลงไปนอนห้องนั้นอีกครั้ง  คงไม่ได้เล่นกับเจ้าดุคด้วย  ข้อห้ามสารพัดจะต้องตามมา  หมอบอกเธอคร่าวๆ แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง  ต่อไปจะไอหรือจามก็คงจะลำบาก  ถ้าลูกติดแล้วก็ยังต้องกลัวจะหลุดอีก  ยากเย็นเหลือเกิน

"ไม่น่าเกลียดเหรอ" 

"น่ารักออก"  คาร่าตอบ  แกล้งบีบเนื้อขาวๆ บนหน้าท้องไอรีนเล่น  เจ้าของมันตีมือเธอดังแปะ  เขินจนหน้าแดง  เราเล่นกันอยู่พักหนึ่ง  เจ้าดุคก็คาบตุ๊กตากบสีเขียวมานอนเล่นข้างๆ  ไอรีนเอื้อมมือไปดึงเจ้าตัวเล็กมาหา 

"เขาบอกว่า  ถ้าอยากให้หมากับลูกเราเข้ากันได้  ต้องให้พวกเขารู้จักกันตั้งแต่อยู่ในท้อง"  ไอรีนเล่าให้คาร่าฟัง  จับหน้าเจ้าดุคมาวางบนพุงตัวเอง  ลูกหมาตัวน้อยก็ดมฟุดฟิด  แต่ไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก  คงเพราะยังไม่มีเบบี๋อยู่ในท้องของเธอ  ถ้ามีสุนัขจะรู้สึกได้ก่อนเราเสียอีก

"ฉันอยากให้พวกเขาเป็นเพื่อนกัน  อยู่ร่วมกันได้"

"ฉันไม่ทิ้งมันหรอก"  คาร่าบอก  แกล้งดึงหูดุคเล่น  มันก็แกล้งงับมือเธอ  พอเธอยกหนีมันก็เห่าเสียงแหลมแบบหยอกเล่น  ทั้งตลกและน่ารัก  คาร่าคิดไม่ออกเลยว่าเธอจะทิ้งมันลงได้ยังไง

"อยู่กับเรานะ  ดุค  เดี๋ยวน้องมาแล้ว  แม่ฝากน้องด้วยนะ"  ไอรีนพูดกับลูกหมาทั้งที่ไม่แน่ใจว่ามันจะรู้เรื่อง  แต่สายตาไร้เดียงสาของมันที่มองเธอมาก็เพียงพอแล้ว

"เป็นแม่ลูกกันแล้ว  แล้วฉันเป็นอะไรล่ะ"  คาร่าถามยิ้มๆ อย่างไม่คิดมาก  ไอรีนหยิกแก้มเธอพร้อมทำท่ามันเขี้ยว  "ฉันเป็นหมาหัวเน่าหรือเปล่านะ"

"ใช่  เน่าเหม็นหึ่งเลยแหละ"  ไอรีนตอบกึ่งหัวเราะ  เจ้าแว่นหน้าบูด  แต่จูบเธอจนเกือบหายใจไม่ออก  ต้องยันอกให้ห่างออกไป  "ปล่อยนะ  ไอ้บ้านี่  ดุค  จัดการแด๊ดดี้ซีให้แม่หน่อย"

"อย่านะดุค"  คาร่าห้ามกึ่งหัวเราะ  เพราะเจ้าดุคดันเชื่อฟังไอรีน  มาปีนตักเธอและพยายามจะเลียหน้า  "ดุค  ไม่เล่น  น้ำลายเปื้อนหมดแล้ว  พี่ไอ  บอกดุคออกไปเลย  เดี๋ยวฉันหักคอมันนะ"

"กล้าทำลูกหมาตัวเล็กๆ ก็ลองสิ"  ไอรีนพูดไปขำไป  มองคาร่าลุกหนีเจ้าดุค  วิ่งไปรอบห้อง  เจ้าลูกหมาสีเปรอะก็วิ่งไล่ตามอย่างไม่ลดละ  แม้ขาจะไม่ดี  แต่ไอรีนสังเกตได้ว่ามันวิ่งดีขึ้นกว่าอาทิตย์ที่แล้วเยอะ  คงจะใกล้หายแล้วจริงๆ  ตอนนี้ก็ซนมากเลยด้วย  มันกลายเป็นขวัญใจของบ้านเธอไปแล้ว  แม่เธอชอบมันมาก  ถ้าวันไหนเอาไปฝากเลี้ยง  แม่จะยินดีรับมันไปโดยไม่บ่นอะไรเลย  และมันก็จะกลับมาหาเธอด้วยกลิ่นหอมฟุ้งตลอด  ไอรีนคิดว่าคงเกี่ยวกับที่แม่เหงา  อยากมีอะไรทำนอกจากทำสวนดอกไม้ข้างบ้านเวลาคิดงานไม่ออก  หรือต้องการผ่อนคลายสมอง  ต่างจากแม่ของคาร่าที่มีงานให้ทำเยอะจนไม่มีเวลาเหงา  แต่ก็ยังอุตส่าห์มาดูแลเรื่องอาหารการกินให้เธอ  หาของบำรุงมาแข่งกับแม่เธอเลยละ  เธออ้วนขึ้นเพราะสองแม่นี่เอง

"แว่น  พอแล้ว  ลิ้นห้อยแล้วนั่น" 

"เหนื่อยแล้วเหรอ  ตัวเล็ก"  คาร่าหัวเราะ  นั่งลงรอให้ดุคมากระโดดใส่ตัวเองและกอดมันไว้  เจ้าก้อนขนตัวอุ่นๆ  สะอาดสะอ้านที่ได้รับการดูแลอย่างดีจากไอรีนและคุณแม่  ช่วยผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยจากงานให้เธอได้อย่างเหลื่อเชื่อ  ถึงจะต้องเหนื่อยเพิ่มเพราะต้องคอยดูแลมัน  แต่เธอกับไอรีนก็รู้สึกดี  เธอไม่เสียใจเลยที่รับมันมาเลี้ยง

"ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ  เธอเล่นกับดุคไป"  ไอรีนพูดแล้วยิ้มเมื่อเห็นคาร่าทำท่าเหมือนอยากจะประท้วง  "อยู่เป็นเพื่อนลูกชาย  ห้ามงอแง"

"ก็ได้"  คาร่าทำหน้ายู่  ปากจู๋  แต่ยิ้มเมื่อไอรีนมาจุ๊บปากเธอเบาๆ  ภรรยาสาวลูบหัวเจ้าดุคที่เธออุ้มอยู่ด้วยก่อนจะหอบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป  คาร่าอดรู้สึกไม่ได้ว่าเราดูเป็นครอบครัวมากขึ้น  ถึงตอนนี้จะยังมีแค่เจ้าดุค  เธอกับไอรีนก็รักมันเหมือนเป็นคนในครอบครัว

"ไปนั่งเล่นกันตรงนู้นดีกว่า  เล่นตุ๊กตากบไปเลย  แด๊ดดี้ซีจะทำงานบ้างแล้ว"  เธอพูดกับเจ้าดุค  วางมันลงข้างๆ ตัว  เอาตุ๊กตากบกับของเล่นขัดฟันให้มัน  แล้วยกแล็ปท็อปขึ้นมากางทำงานต่อ  แต่ไม่วายหันไปเล่นกับลูกหมาอยู่นั่นเอง  เดี๋ยวคงจะโดนไอรีนบ่นอีกแน่ๆ

.............................................

ไอรีนทำได้แค่เช็กรายการหนังสือที่จะวางขายลดราคา  และจัดมุมให้มันดูสวยน่าสนใจ  รอนนีกับฟิลลิปรวมถึงโซเฟีย  ไม่ยอมให้เธอยกหนังสือสักเล่มเดียว  เธอคิดว่าพวกเขาคงโดนคาร่าล็อบบี้มาหมดแล้วแน่ๆ  แต่คนในร้านทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเธอมีข้อจำกัดในการทำงาน  เธอต้องทำงานอยู่แต่ชั้นล่าง  ไม่สามารถขึ้นบันไดได้  หลายครั้งต้องไหว้วานให้เพื่อนๆ ไปยกของลงมาให้  เธอเกรงใจพวกเขา  ส่วนใหญ่จึงใช้เจ้าแว่น  ให้สามีเธอช่วยยกลงมาให้เอง  ดีกว่าไปใช้คนอื่น  รอนนีก็จะบ่นว่าเธอจะเกรงใจทำไม  ไร้สาระ 

ทำไมจะไม่เกรงใจล่ะ  เธอไม่ชอบที่ตัวเองไร้สมรรถภาพแบบนี้นี่นา  เธอเคยทำได้ทุกอย่างที่อยากทำ  แต่ตอนนี้แทบไม่ได้เลย  มันทั้งอึดอัดใจ  รำคาญตัวเองด้วย  ใครไม่เป็นเธอ  ไม่มีทางเข้าใจ

"หน้างอจังคุณ"

ไอรีนเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่สูงมากจนเธอรู้สึกเป็นคนแคระเมื่อยืนใกล้เขา  นายเจคโผล่มาเหมือนรู้ว่าเธอกำลังต้องการที่ระบายอารมณ์อยู่พอดี  อารมณ์หงุดหงิดนะ  ไม่ใช่อย่างอื่น

"ดูคุณว่างงานนะ  มาได้ทุกวัน"  เธอแขวะเขา  หมอนี่ก็ยังยิ้มได้

"ผมเป็นลูกค้าประจำ  คุณขายของได้ทุกวันไม่ดีหรือไง" 

"ก็ดี  งั้นซื้อไปเยอะๆ นะ  ฉันต้องการเงิน" 

"คุณนี่ตรงดีจริงๆ" 

"ฉันไม่ชอบเสแสร้ง  ฉันคงรังเกียจตัวเองตาย"  ไอรีนพูดตามตรง  ยิ่งหงุดหงิดเมื่อเห็นนายเจคอมยิ้ม  เขาเป็นผู้ชายหน้าตาดี  เธอกลัวคนอื่นจะเข้าใจผิดว่าเราเป็นอย่างอื่นกัน  โชคดีที่ช่วงนี้เจนลาไปเยี่ยมแม่ที่เชสเตอร์  ไม่อย่างนั้นคงหาเรื่องเหน็บเธอให้โมโหอีก

"ก็ดี  ผมชอบ"

"แต่ฉันไม่ชอบ"  เธอพูดโพล่ง  วางกระดาษโฆษณาหนังสือลดราคาลงบนโต๊ะดังปึก  รู้สึกว่าเขาจ้องเธออย่างสงสัย  แม้จะไม่ได้มองเขาจึงพูดออกไป  "ฉันรู้ว่าคุณไม่คิดอะไรกับฉัน  แต่การที่คุณมายืนอยู่แบบนี้  อาจจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดๆ ได้  และทำให้คนรักของฉันไม่สบายใจ  ช่วงนี้ฉันไม่ควรเครียดด้วย"

"คุณไม่สบายเหรอ"  เจคถาม  ดูเหมือนเขาจะเดือดร้อนขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ  "ไปหาหมอไหมคุณ  ผมเรียกแท็กซี่ให้  หรือคุณจะตามแฟนคุณมาล่ะ"

"ฉันไม่ได้เป็นอะไร  และฉันไปหาหมอประจำอยู่แล้วค่ะ"  ไอรีนพูดปนขำ  จะว่าไปเขาก็น่ารักดีเหมือนกัน 

"ไปหาหมอประจำ  แปลว่าคุณป่วย --"

"ฉันกำลังทำกิ๊ฟท์ค่ะ"  เธอพูดโพล่ง  ไม่อยากอ้อมไปอ้อมมาแล้ว  ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องป่าวประกาศให้ใครฟังก็ตาม  นายเจคอึ้งไปนิด  เหมือนเขากำลังทบทวนว่าเธอพูดอะไร  ไอรีนแกล้งไม่พูดต่อ  อยากรอดูว่าเขาจะรู้เรื่องไหม

"คุณกำลังจะมีลูก"  เขาถาม  ดูแปลกใจแต่มีแววยินดี  ไอรีนผงกหัว

"อย่าบอกนะว่าคุณท้องอยู่"

"ยังค่ะ  แต่ใกล้แล้วละ"  ไอรีนตอบด้วยรอยยิ้ม  ดีใจที่ได้แบ่งปันเรื่องนี้ให้ใครๆ ฟัง  นอกจากคนในครอบครัวและเพื่อนๆ  แม้จะไม่แน่ใจว่าคนฟังจะรู้สึกอย่างไร  จะสมเพชเธอไหม  ที่อยากมีลูกทั้งที่เป็นแบบนี้ 

มันผิดตรงไหน  ครอบครัวเธอก็เหมือนครอบครัวอื่นๆ นั่นแหละ

"ถ้าทำหน้าแบบนี้ก็ไปห่างๆ ฉันเลยค่ะ  เราคงไม่เหมาะจะคุยกัน"

"ลูกคุณคงใจร้อนน่าดูเลยนะเนี่ย  ดูจากคุณแม่แล้ว"  นายเจคพูดกึ่งหัวเราะ  เขาจ้องท้องเธอจนรู้สึกเขิน  ต้องคว้าหนังสือมาบัง

"บอกว่ายังไม่ได้ท้องไง  จ้องขนาดนี้  เดี๋ยวฉันฟ้องพ่อนะ"  ไอรีนขู่  แต่มันกลับดูน่ารักในสายตาคนมอง  และเธอไม่รู้ตัวเอง  นายเจคจึงยิ้มขำๆ และโบกไม้โบกมือ  เดินหนีไปทางอื่น  แต่ไม่วายทิ้งท้ายแขวะเธอว่า  มิน่าดูเธออ้วนขึ้น  แก้มจะเป็นกระติกแล้ว

"ไอ้บ้า" 

"ว่าใครน่ะ  ไอรีน" 

รอนนีโผล่มาพอดี  เธอจึงฟ้องเขา  และชี้ๆ ไปทางนายเจค

"นายว่าเขาเป็นหรือเปล่า  ดูให้ฉันหน่อยสิ" 

"ต้องลองคุยดู"  รอนนีตอบ  "มีเบอร์เขาไหมล่ะ"

"ไม่มี  เอ้ย  มีอยู่นะ  วันนั้นเขาให้ไว้"  ไอรีนพูด  รู้สึกว่ารอนนีมองเธอแปลกๆ จึงรีบส่ายหัวทันที  "เขาไม่ได้จีบฉัน  เขารู้ว่าฉันแต่งงานแล้ว  เขาแค่จะช่วยหาทุนให้โครงการเราเลยให้เบอร์มา  นามบัตรน่ะ  ฉันไปเอาก่อน  อยู่ในลิ้นชักที่เคาน์เตอร์  หรือนายจะไปคุยกับเขาเลยก็ได้  ว่างไหมล่ะ"

รอนนียังไม่ได้ตัดสินใจ  แต่มีคนช่วยตัดสินใจแทนแล้ว 

"ผมอยากจะพิมพ์หนังสือสักเล่ม  ต้องทำยังไงบ้างครับ" 

ไอรีนมองหน้านายเจคที่อยู่ๆ ก็กล้าขึ้นมาเฉยเลย  เขายักคิ้วให้เธอ

"เอ่อ  ไปคุยกันข้างบนดีกว่าครับ  ห้องทำงานผมอยู่ชั้นสาม"

"ดีเลยครับ  ผมยังไม่เคยขึ้นไปเลย  อยู่แต่ชั้นนี้  เบื่อแล้ว"  นายเจคพูด  พลางมองไอรีนที่เบะปากให้เขาอย่างหมั่นไส้  เขาเดินตามรอนนีไป  แต่ยังไม่วายหันมายิ้มกวนๆ ให้เธออีก

"หึ  เลิกแอ๊บได้สักที"  ไอรีนงึมงำ  แล้วสะดุ้งเฮือก  เกือบจะกรี๊ดเมื่อมีคนมากอดคอเธอจากด้านหลัง  เธอหันไปตีอีกฝ่ายอย่างเคืองใจ

"โอ๊ย  เจ็บ!"  คาร่าร้องเสียงหลง  แต่ยังยิ้มได้ให้ไอรีนนึกคันมืออยากจะตีให้เจ็บอีกที  เธอต้องจับมือไว้และโอบไหล่พาเดินกลับเคาน์เตอร์  พลางกระซิบเบาๆ ปลอบว่า  เดี๋ยวลูกค้าจะตกใจวิ่งหนีออกจากร้านไปหมด  เพราะนึกว่ามีระเบิด

"ทำไมกลับเร็ว  โดดมาเหรอ"

"คิดถึงเมีย  เอ้ย  ไม่ใช่ค่ะ  จริงๆ ก็ใช่แหละ  แต่ไม่ใช่แบบนั้น"  เจ้าแว่นพยายามอธิบาย  "คือไปมาเรียบร้อยแล้ว  แล้วก็รีบกลับมานี่ไง  ไม่ดีเหรอ  แต่จริงๆ นี่ก็เย็นมากแล้วนะ  ไม่คิดถึงกันบ้างเหรอ"

"คิดถึงทำไม  เจอกันทุกวัน"  ไอรีนว่า  อยากแกล้งคาร่าคืนที่ทำให้เธอตกใจก่อน  แต่กลับมีบางคน  ไม่สิ  บางตัวไม่ให้ความร่วมมือกับเธอเลย  เจ้าดุคกระโดดๆ อยู่ในตะกร้า  จะออกมาหาเจ้าแว่น  แถมเห่าเสียงแหลมให้ต้องดุ  แต่มันก็ไม่ยอมเงียบจนกว่าคาร่าจะเข้าไปอุ้มและกอดมัน

"น่าหมั่นไส้  รักกันเว่อร์มาก  เอากลับบ้านไปอยู่ด้วยกันเลยไป"

"มัมมิไอโกรธแล้ว  ทำไงดี  ดุค"  คาร่าพูด  อุ้มเจ้าดุคมาหาไอรีน  เอาใจภรรยา  ไอรีนเอาศอกแหลมๆ ถองท้องเธอ  เขินจนหน้าแดง  ทำให้เธอยิ่งอยากแกล้งมากขึ้น  แต่ไอรีนไม่มีเวลาเล่นกับเธอกับเจ้าดุคแล้ว  มีลูกค้าเดินมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์  และมีผู้ชายคนหนึ่งเดินตรงมาเหมือนตั้งใจจะมาหาเธอ  เธอไม่แน่ใจว่ารู้จักเขา  จนกระทั่งจำได้ว่าเคยเจอที่ไหน

"คาร่าใช่ไหม  ผมขอคุยด้วยหน่อย" 

"ฉันจำไม่ได้ว่าเรารู้จักกัน"

"โอ้  เย็นชาชะมัดเลย"

"ขอโทษนะ  คือเราไม่ --"

"คุณ  อย่ากวนเขาสิ"  ไอรีนหันมาดุนายเจค  คาร่าจึงหันมามองเธองงๆ  เธอจึงต้องแกล้งทำเป็นปัดขนเจ้าดุคบนไหล่คนตัวสูงให้  เป็นการเอาใจคุณสามีและให้นายเจคเห็นว่าเธอกับคาร่าใกล้ชิดกันจริงๆ  แต่เธองงมากที่เขาลงมาจากชั้นบนตั้งแต่เมื่อไหร่  หรือรอนนีไม่ว่างแล้ว  หรือเขาเห็นคาร่ามาเลยมาแกล้งเล่น  เขาจะเอายังไงกับเธอกันแน่นะ

"ผมกำลังจะพูดเรื่องจริงจังอยู่ต่างหาก"  นายเจคบอกไอรีน  และหันไปหาคาร่า  "คุณเป็นคนดูแลเรื่องกองทุนผู้ป่วยมะเร็งใช่ไหม"

คาร่าพยักหน้า  ส่งเจ้าดุคให้ไอรีนอุ้ม  พอเข้าสู่โหมดทำงาน  เธอก็จะเป็นอีกคนหนึ่ง  "เชิญชั้นสองค่ะ"

"ไม่  คุยตรงนี้แหละ"  ไอรีนขัด  ไม่อยากให้นายเจคอยู่กับคาร่าตามลำพัง  ระแวงว่าเขาจะแกล้งเจ้าแว่นของเธอแบบที่แกล้งเธอ  เธอกลัวคาร่าจะต่อยหน้าเขา  ไม่ใช่อะไร  บทจะใจร้อน  เจ้าแว่นก็ไม่ใช่เล่นเหมือนกัน

"ตรงมุมเล่านิทาน  ตอนนี้ไม่ได้ใช้งาน  ฉันจะไปฟังด้วย  ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน"  เธอชี้แจง  เจ้าแว่นเห็นด้วย  จึงขอไปเตรียมสถานที่ก่อน  "ไหนคุณบอกจะคุยกับรอนนี"  ไอรีนถาม  มองนายเจคอย่างกังขา

"ผมนัดเขาไปกินข้าวเย็นแล้ว  ขอบคุณที่เป็นห่วง  ตอนนี้ผมอยากทำงาน  หวังว่าคุณคงเป็นมืออาชีพพอ" 

ไอรีนไม่ได้ตอบเขา  เธอขบฟันและเดินตามหลังไป  ไม่ยอมให้เขาอยู่กับเจ้าแว่นของเธอสองคนหรอก         



........................................



SISTER SISTER (Special) เปิดจองวันนี้ - 5 กันยายน 2562

 สั่งจอง : http://bit.ly/2OWPAUG หรือ Inbox หรือ ไลน์ anhann

*ราคาเล่มละ 250 บาท ส่งฟรีลงทะเบียน (เฉพาะช่วงจอง) EMS เพิ่ม 60 บาท Kerry 70 บาท

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น