web stats

ข่าว

 


SISTER SISTER (Special) - บทที่ 9 No Place Like You

โพสต์โดย: anhann วันที่: 16 สิงหาคม 2019 เวลา 21:28:32 อ่าน: 125



บทที่ 9 No Place Like You





คาร่ากลายเป็นคนฝึกสุนัขไปแล้ว  เมื่อเช้าเธอตื่นขึ้นเพราะกลิ่นไม่พึงประสงค์  แน่นอน  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  เจ้าดุคปล่อยระเบิดออกมาเลอะพื้นห้อง  โชคดีแค่ไหนแล้วที่มันคลานออกมาจากที่นอนเล็กๆ ของมันก่อน  ไม่อย่างนั้นคงต้องเอาไปซักอีก  แต่เธอก็ต้องมาเช็ดพื้นเลอะอึ  ขณะที่ไอรีนนั่งบีบจมูกมองอยู่บนเตียง 

ดูเอาเถอะ  คนอยากเลี้ยงแต่ไม่ยอมเก็บอึหมา

จากนั้นเธอจึงตั้งใจจะฝึกเรื่องขับถ่ายให้เจ้าดุคเพื่อเธอจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาทำความสะอาดบ้านแบบนี้อีก  และเพื่อตัวมันเองด้วย  แต่ด้วยขามันเข้าเฝือกอยู่ข้างหนึ่งจึงทำให้ค่อนข้างลำบากในการสอน  เพราะมันจะเดินไปอึหรือฉี่เองไม่ได้  ตอนนี้เธอจึงต้องซื้อผ้าอ้อมสุนัขมาใส่ให้มันไปก่อน

"แค่ชั่วคราวค่ะ"  คาร่าแจ้งกับภรรยา  เธอต้องออกไปซื้อผ้าอ้อมมาให้เจ้าดุคเพราะเมื่อวานลืมนึกถึงว่าเจ้าลูกหมาเดินไม่ได้  จริงๆ ก็ได้  แต่ต้องเขย่งเอา  และมันดูลำบากไปนิด  นั่นแหละ  ตอนนี้ไอรีนเลยอุ้มมันแทบจะตลอด  ดูเหมือนจะรักเจ้าดุคไปแล้วด้วย  มันมาอยู่บ้านแค่วันเดียวเองนะ 

เจ้าดุคมาอยู่บ้านแค่ไม่ถึงวัน  แต่มันได้ใจไอรีนไป  ขณะที่เธอต้องใช้เวลาตั้งหลายปีกว่าไอรีนจะมองเธอมากกว่าแค่เด็กข้างบ้าน  อีกเป็นปีกว่าจะได้เป็นแฟน  และอีกเกือบสองปีกว่าจะได้แต่งงานกัน

ไม่เป็นไร  ยังไงเธอก็เป็นสามีไอรีนแล้ว  แต่เจ้าดุคเป็นแค่หมา

"เดี๋ยวพอมันพอจะเดินถนัดแล้วค่อยสอนกันใหม่  ฉันซื้อห้องน้ำมาให้มันด้วย  จะเอาตั้งไว้ข้างล่าง  แล้วหัดให้มันเข้าเอง"

"แล้วมันจะเหม็นในบ้านหรือเปล่า"  ไอรีนถาม  เกรงใจกลัวพ่อแม่คาร่าจะไม่ชอบ  ถ้าเป็นพ่อแม่ตัวเองก็ว่าไปอย่าง

"เราก็ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ค่ะ  ฉันซื้อสเปรย์ดับกลิ่นกับน้ำยาทำความสะอาดมาแล้ว"  คาร่าชูถุงอุปกรณ์ทำความสะอาด  น้ำยาดับกลิ่น  น้ำยาฆ่าเชื้อโรค  พร้อมกับของเล่นหมาที่ลืมซื้อเมื่อวานด้วย  เปลืองนะเนี่ย

"ยุ่งยากเนอะ"

"ก็มันจำเป็น" 

ไอรีนยิ้มแห้งๆ  แต่พอก้มลงมองเจ้าดุคที่อุ้มอยู่ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้แย่อะไรนัก  ยังไงคาร่าก็รับภาระไปเยอะแล้ว  เธอแค่เลี้ยงมันเท่านั้นเอง

"เรียบร้อยแล้ว  ก็ไปกินมื้อเช้ากันเถอะ"  คาร่าชวนภรรยา  ตอนนี้ในบ้านมีแค่เราสองคนกับเจ้าดุค  พ่อแม่เธอไปทำงานกันหมดแล้ว  เธอบอกให้พวกท่านกินมื้อเช้ากันก่อนไม่ต้องรอพวกเธอ  เพราะเรามีเรื่องยุ่งๆ ต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อน  แต่ไอรีนดื่มนมรองท้องไปแล้วแก้วหนึ่ง  ยังไงก็ต้องกินอะไรบ้าง  ไม่ให้โปรแกรมการดูแลสุขภาพว่าที่คุณแม่รวน

"ให้ดุคกินของมันด้วย  เราจะได้ลองฝึกมันเข้าห้องน้ำด้วยเลย"

"แล้วผ้าอ้อมมันล่ะ"

"ถ้าจำเป็นก็ค่อยใช้  หรือจะให้มันใส่ตอนนอนก็ได้  แต่เราตกลงกันแล้วนะว่า  ดุคจะต้องนอนที่นอนของมัน"

ไอรีนย่นจมูกใส่คนเก๊กดุ  แต่ไม่โต้เถียงอะไร  รู้ว่าคาร่าทำถูกแล้ว  ถ้ามัวแต่เอาใจมันแบบเธอก็คงจะเสียหมาหมดแน่ๆ

"พี่จะเลี้ยงมันแบบลูกก็ได้  แต่ฝึกวินัยไว้น่าจะดีกว่านะ"  คาร่าพูด

"ทราบแล้วค่ะ"  ไอรีนแกล้งประชด  คาร่ายิ้ม  ชะโงกหน้าเข้ามาจูบแก้มเธอ  ชวนเธอลงไปข้างล่างด้วยกัน

เรากินอาหารกันในครัว  เป็นอาหารที่คุณแม่คาร่าทำไว้เผื่อ  เจ้าดุคก็กินของมัน  คาร่าสั่งห้ามไม่ให้เธอเอาอาหารคนให้มันเด็ดขาด  เป็นการฝึกอีกอย่าง  ไอรีนต้องทำใจแข็งเอาไว้  ห้ามหลงกลสายตาเว้าวอนของลูกหมา  คาร่าบอกว่าเป็นฝึกตัวเธอเองด้วย  ในอนาคตข้างหน้าเวลาเลี้ยงลูกจะได้อึด  ไม่ตามใจพวกเขามากไป  ไม่อย่างนั้นจะเท่ากับเราทำร้ายลูกตัวเอง

เจ้าแว่นเก่งเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย

"พี่จะเอามันไปร้านด้วยเหรอ"  คาร่าถามเมื่อเห็นไอรีนจ้องลูกหมา  ไม่ค่อยตั้งใจกินอาหารเช้าของตัวเอง 

"ถ้าไม่เอาไป  มันจะอยู่กับใคร"  ไอรีนย้อนถาม  และชิงพูดต่อก่อนคาร่าจะทันได้แย้ง  "แม่พี่ไม่ว่างหรอกนะ  ต้องเขียนนิยาย  อีกอย่าง  แม่คงฝึกมันไม่ได้  เราต้องฝึกมันเอง"

"พี่น่ะเหรอ"

"ก็ฉันสิ  จะมีใครอีกล่ะ  เธอก็ไม่ได้อยู่ทั้งวันสักหน่อย"

"แต่ว่า...  แต่ร้านเราไม่ให้หมาเข้าไม่ใช่เหรอ"  คาร่าถาม  ไม่มั่นใจ  ลืมนึกไปเลยว่ามีป้ายห้ามสุนัขเข้าแขวนอยู่หน้าร้านด้วยไหม

"ไม่มีสักหน่อย"  ไอรีนบอก  "เธอจำไม่ได้เหรอ  เธอเป็นคนบอกเอง  ว่าไม่ให้แขวน  กลัวว่าพวกที่พาหมามาด้วยจะไม่กล้าเข้าร้าน  แต่ก็ไม่ค่อยมีใครเอาเข้ามาหรอก  ส่วนใหญ่เขาผูกเอาไว้หน้าร้าน  คงเกรงใจน่ะ"

คาร่าพยักหน้าหงึกหงักอย่างเข้าใจ  จิ้มไส้กรอกใส่ปาก  เห็นเจ้าดุคชะเง้อมองมาจากพื้นครัวก็ส่ายหัวให้มัน  "ไปกินของตัวเอง  ดุค"

"ดุเนอะ"  ไอรีนแกล้งบ่น  แต่ไม่ขัดการสอนสุนัขของคาร่า  เพราะเธออาจโดนบังคับให้ต้องเก็บระเบิดเจ้าดุคเองก็ได้

"พอเขากินเสร็จ  ราวๆ ห้านาทีหรือสิบนาที  เขาก็จะถ่าย  เราก็เริ่มสอนได้เลย"  คาร่าพูดแบบคนมีความรู้จนถูกมองด้วยสายตากังขา  "ฉันดูในเนตมา  คลิปกับบทความ"

"โอ้  ฉันลืมไปว่าสามีตัวเองเนิร์ดแค่ไหน"  ไอรีนพูดขำๆ แกล้งยกเท้าไปเขี่ยขาคาร่า  คุณสามีหัวเราะ  แต่เจ้าดุคดันเห่าเสียงแหลมขึ้นมา

"ดูเหมือนเขาจะคิดว่าพี่ทำร้ายฉันแหละ"  คาร่าวิเคราะห์  ไอรีนทำหน้าเหลือเชื่อ  "เขาคงจำได้ว่าฉันเป็นคนอุ้มเขามาจากถนน"

"แล้วทีเวลาฉันอุ้ม  ไม่เห็นจำบ้างเลย"  ไอรีนทำท่าน้อยใจ  คาร่าลุกขึ้นมาหอมแก้มเธออย่างเอาใจ  แล้วจึงเข้าไปสอนเจ้าดุคเข้าห้องน้ำหมาที่ซื้อมาให้มัน  ไอรีนขำท่าทางคุณสามีที่คุยกับหมาเป็นตุเป็นตะ  แต่คิดว่าเจ้าดุคคงฟังคาร่ารู้เรื่องอยู่บ้าง  เพราะมันเดินเขย่งๆ วนๆ อยู่ในนั้นแป๊บหนึ่งก็ฉี่รดเสาพลาสติกในห้องน้ำหมาที่มีไว้สำหรับหมาตัวผู้  คาร่าชมเจ้าดุคว่ามันเก่งมากและให้ขนมมันหลังจากมันทำตามคำสั่งได้

"ต้องให้รางวัลเขาด้วยนะคะ"  คาร่าย้ำกับไอรีน  "พี่ต้องอยู่กับเขามากกว่าฉัน  เพราะงั้นพี่ต้องฝึกเขาด้วย  ต้องให้เขาเชื่อฟังพี่  ไม่ใช่รอแต่ฉันคนเดียว  นะคะ"

"รู้แล้วน่า"  ไอรีนพูดเสียงรำคาญ  "แล้วจะเอาห้องน้ำมันไว้ในครัวแบบนี้เหรอ  พ่อแม่เธอจะบ่นเอานะ"

"เดี๋ยวเอาไปไว้หน้าห้องน้ำดีกว่าค่ะ"  คาร่าตอบ  "แต่จะสอนให้เขาหัดไปเข้าในสวนด้วยละกัน  ให้เดินดีกว่านี้ก่อน  เนอะ  ดุค"

ไอรีนอมยิ้ม  มองคาร่าเล่นกับลูกสุนัข  ความมีจิตใจดี  ขี้สงสาร  แต่เข้มงวดในแบบของคาร่า  ทำให้เธอพอจะมองออกว่าคุณสามีจะเลี้ยงลูกเราได้ยังไง  ดูจากการเลี้ยงลูกหมานี่แหละ  เธอเสียอีกที่คงจะตามใจลูกแบบผิดๆ เพราะสงสาร  ทนเห็นสายตาออดอ้อนไม่ได้

"ถ้าพี่เอาดุคไปร้านด้วย  ก็ต้องเอาห้องน้ำนี้ไปด้วยนะ  พี่ไอ  และห้ามรังเกียจอึเขาเหมือนเมื่อเช้าด้วย  ไม่งั้นก็เอาไปฝากคุณแม่พี่ไว้"  คาร่าพูดขณะเก็บจานชามที่กินเสร็จแล้วล้างทำความสะอาด  ให้ไอรีนเอายาป้อนเจ้าดุคแทน  ไอรีนต้องฝึกทำของพวกนี้  เพราะคนที่จะอยู่กับเจ้าดุคมากที่สุดก็คือไอรีนนั่นเอง  ต้องดูกันต่อไปว่าไอรีนจะทนไปได้สักกี่วัน  บางทีเราอาจต้องเอาเจ้าดุคไปไว้บ้านจอห์นสัน  ให้คุณแม่ของไอรีนเลี้ยงมัน

"บอกว่าจะเลี้ยงเองไง"  ไอรีนชักฉุน  หงุดหงิดคาร่าที่ทำเหมือนเธอเป็นเด็กที่แค่อยากได้ของเล่น  เห่อของใหม่  ไม่ทันไรก็จะเบื่อ  และทิ้งมัน

"ฉันแค่เป็นห่วง  กลัวพี่จะไม่ไหว"  คาร่าบอก  จัดการเรื่องของคนเสร็จแล้วก็มาเอาห้องน้ำหมาไปทำความสะอาดต่อ  จากนั้นก็เอาไปตั้งไว้ใกล้กับห้องน้ำคนตรงชั้นล่าง  โชคดีที่เธอเดาได้ว่าไอรีนจะต้องเอาลูกหมาไปร้านด้วยจึงซื้อห้องน้ำมาสองอัน  ไม่ต้องแบกอันนี้ไปๆ มาๆ

"แต่ช่วงที่พี่ใส่ตัวอ่อนกลับ  พี่จะเดินไม่ค่อยได้นะ  คงต้องให้คุณแม่ช่วยดูให้ไปก่อน"

ไอรีนพยักหน้าอย่างจำใจ  พลางอุ้มเจ้าดุคขึ้นมานั่งบนตัก  เจ้าหมายังหงอยๆ อยู่  เพราะเจ็บแผล  แต่ดูเหมือนมันจะพยายามเล่นกับเธอราวกับไม่อยากให้เธอเก้อ 

คาร่าเข้ามานั่งยองๆ ข้างๆ  ไอรีนเงยหน้าขึ้นสบตาคมในเลนส์แว่นอันใหม่  คราวนี้คาร่าใช้แว่นทรงกลมๆ แบบเดียวกับแฮร์รี่  พอตเตอร์เลย  แต่หน้าตาน่าจะไปอยู่สลิธีรินมากกว่านะ

มือเรียวสวยๆ วางบนหัวเจ้าหมาสีเลอะเทอะขณะมองตาเธอ  ไอรีนรู้สึกได้ว่าคาร่ากำลังตั้งใจจะปลอบเธออยู่ในแบบของเขา 

"เราเลี้ยงเขาร่วมกับลูกเราได้ค่ะ  แต่ต้องมีกฎเกณฑ์"  คาร่าบอก  ยิ้มน้อยๆ ให้ว่าที่คุณแม่สบายใจ  เธอเลิกคิ้วเมื่อไอรีนโน้มตัวมาจูบริมฝีปาก

"ขอบใจ"  ไอรีนกระซิบ  มองตาหลังเลนส์แว่น  "ขอบใจที่เกิดมา  และขอบใจที่รักฉัน"

แก้มคาร่าแดงเรื่อ  คนที่ปกติชอบทะลึ่งและแกล้งเธอเสมอ  ตอนนี้กัดปากตัวเอง  กลายเป็นสาวน้อยขี้เขินไปแล้ว  ไอรีนกลั้นขำจนปวดแก้ม

"ไปร้านกันดีกว่า  ช่วยดึงหน่อยสิ"

"ให้เขาเดินเองก็ได้  พี่ไอ"

"ไม่เอา  ช้า"  ไอรีนอ้าง  อันที่จริงอยากอ้อนคาร่าบ้าง  ตั้งแต่เช้ามัวแต่ยุ่งกับเจ้าดุค  แค่วันแรกยังเป็นแบบนี้  แล้ววันต่อๆ ไปจะเป็นยังไงนะ

แต่คาร่าไม่ได้ช่วยดึงไอรีนขึ้น  เธออุ้มคนตัวเล็กจนตัวลอยแทน

"ไม่เอา  ไม่เล่น  เดี๋ยวก็เจ็บท้องหรอก  หายดีแล้วเหรอ"

"อาห์  จริงด้วย"  คาร่าอุทานอย่างนึกขึ้นได้  แต่ยังกอดไอรีนไว้ก่อนจะปล่อยลงยืนเอง  เธอขำเจ้าดุคที่เหมือนจะตัวลีบอยู่ในอ้อมอกไอรีนเลย 

จะว่าไปก็อิจฉามันเหมือนกันนะ  หน้าอกนุ่มๆ แบบนั้น

"ไม่ต้องมาทำสายตาทะลึ่งเลย  ไปเตรียมรถ  สายแล้ว"

"พะยะค่ะ  เจ้าหญิง"

ไอรีนจะอ้าปากดุคาร่าอีก  เพราะคึกเสียเหลือเกิน  แต่เธอก็โดนจูบปิดปากเสียก่อน  คาร่าหัวเราะคิกเมื่อผละออกไป  คว้ากุญแจรถและหิ้วกระเป๋าสำหรับเจ้าดุคติดมือไปด้วย  ไอรีนมองตามพลางส่ายหัวเบาๆ

"ทำใจหน่อยนะดุค  แกเลือกเขาเองไม่ใช่เหรอ"  เธอบอกกับลูกหมา  ลูบหัวมันอย่างเอ็นดู  และรีบออกจากบ้าน  เพราะคาร่าร้องเรียกแล้ว

.............................................

แน่นอน  ไอรีนเป็นคนขี้เห่อ  แต่เธอพยายามจะไม่แสดงออกมาก  โดยเฉพาะต่อหน้าคาร่า  เวลาอยู่คนเดียวก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง  ตอนนี้เธอแทบจะไม่อยากทำงานเลยแหละ  อยากแต่จะเล่นกับเจ้าดุค

"ไอรีน  รับของหน่อยสิ" 

ไอรีนยืดตัวขึ้นจากพื้นหลังเคาน์เตอร์  เธอนั่งเล่นกับเจ้าดุคที่นอนอยู่ในตะกร้า  คาร่าให้มันนอนในนี้จะได้ไม่ไปรบกวนใคร  เจ้าดุคมันไม่ค่อยเห่าอยู่แล้ว  ไม่ค่อยเล่นด้วย  หลับอย่างเดียว  ไม่แน่ใจว่าเพราะยังเจ็บขาหรือเปล่า  ตอนนี้จึงไม่ค่อยมีใครเห็นไอรีนนัก 

หญิงสาวรับแท็บแล็ตจากพนักงานส่งของ  เกือบจะลากนิ้วเซ็นชื่อตัวเองลงในนั้นแล้ว  แต่เจนมาดึงมันออกไปก่อนและทำหน้าดุใส่

"ตรวจของหรือยัง  จะเซ็นน่ะ"  เจนว่า  พยักพเยิดหน้าไปทางกล่องพัสดุบนเคาน์เตอร์  ไอรีนจึงไปจับมันมาพลิกดู  "มันคืออะไร  ใครสั่งมา  ดูชื่อคนส่งด้วยสิ"

ไอรีนทำตามเพื่อนบอก  ยังไงเจนก็รอบคอบเวลาทำงาน  เป็นพวกไอคิวสูงแต่อีคิวต่ำ  พอกับเธอนั่นแหละ

"ร้านหนังสือเก่าอะไรสักอย่าง" 

"ไหนดูซิ"  เจนขอ  ไอรีนจึงเลื่อนกล่องไปให้เพื่อน  เจนพลิกมันดูอย่างระวังราวกับกลัวว่ามันจะเป็นระเบิดเวลา

"ฉันไม่ได้สั่งอะไรมานะ"  ไอรีนบอก  พลางขอแท็บเล็ตจากพนักงานส่งของมาเซ็นให้เขา  เขาจะได้กลับไปสักที  ถ้าเป็นของอันตรายจริงๆ เขาคงไม่กล้ายืนรออยู่ตรงนี้นานแบบนี้ 

"ยายดาน่า"  เจนบอกหลังจากจัดการทำลายกล่องเรียบร้อย  เจอหนังสือในห่ออย่างดีอยู่ในนั้น  "ตายล่ะ  ไอรีน"

"อะไร"  ไอรีนตกใจไปด้วย  เมื่อเจนทำเสียงตื่นตกใจแบบนี้  "เป็นของไม่ดีเหรอ"

"เปล่า  มันดีเกินไปต่างหาก  ยายบ้านั่นเอามาจากไหนนะ"  เจนพูดเร็วๆ  พลิกหนังสือเก่ากึ้กไปมา  พลางตีมือไอรีนที่จะดึงไปดูบ้าง

"อ้าว  ก็จะช่วยดู"

"ขอดีๆ สิ  หนังสือเก่าขนาดนี้เดี๋ยวก็ขาดหมดหรอก" 

ไอรีนหน้างอแต่พอใจเมื่อเจนส่งหนังสือให้ดูบ้าง  เจนยกหูโทรศัพท์ภายในไปเรียกรอนนีลงมาจากโรงพิมพ์  เพราะเขารู้เรื่องหนังสือเก่ามากกว่าพวกเธอ  หมอนั่นมีคอลเลคชั่นของนักเขียนเจ๋งๆ เยอะทีเดียว

ระหว่างรอรอนนีลงมาดูหนังสือ  ไอรีนจึงถือโอกาสนั่งลงเล่นกับดุค  เจนชะโงกหน้าลงมาดู  และวิจารณ์ด้วยน้ำเสียงเหมือนแม่พอลล่าของเธอ

"ขี้เห่อเหมือนเด็กน่ะ  ไอรีน"

ไอรีนชักสีหน้า  เงยหน้าขึ้นมองเพื่อน  "คนแบบเธอมีสิทธิมาว่าฉันด้วยหรือไง"

"เฮ้  พูดแบบนี้หมายความว่าไง --"

"อะไรกันสาวๆ  อยู่ด้วยกันแป๊บเดียวก็เสียงดังแล้ว"  รอนนีปรามสองสาวที่เข้ากันทีไรต้องมีเรื่องทุกที  ที่จริงเขาก็หงุดหงิดเจนที่ยังไม่ยอมรับความช่วยเหลือจากโครงการของร้าน  แต่ก็เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัว

"นี่ไง  หนังสือที่บอก"  เจนส่งหนังสือให้เขาอย่างเบามือ  รอนนีรับไปพิจารณา  ไอรีนเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยคน  ขณะมือยังลูบหัวเจ้าดุคอยู่  อยากให้มันรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นี่  ท่ามกลางเสียงผู้คน  ร้านเธอค่อนข้างเงียบสงบ  มีเสียงเพลงแจ๊สเบาๆ จากแผ่นเสียงของคาร่าที่ยืมคุณพ่อมาเปิดบางแผ่น  คลออยู่ในร้านเพื่อสร้างบรรยากาศ  แต่บางวันมันก็ค่อนข้างคึกคักด้วยเสียงเด็กๆ ที่จะมาฟังนิทานกัน

"ดูเหมือนจะมีราคา"  รอนนีพูด  ฟังดูเลื่อนลอยเหมือนคนเพ้อ  เขาลูบคลำหนังสือด้วยความรักจนไอรีนกับเจนมองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมาย  พวกเธอเคยเห็นรอนนีเป็นแบบนี้มาก่อนแล้ว  เขารักใคร่หนังสือเก่ามากกว่าแฟนหนุ่มทั้งหลายในชีวิตที่ผ่านมาของเขาอีกกระมัง 

"ดาน่าคงไปเดินเล่นแล้วเจอมันมามั้ง"  ไอรีนสันนิษฐาน

"ฉันอยากรู้ว่ามันราคาเท่าไหร่"  เจนถาม  สนใจราคาค่างวดของสิ่งของตามประสานักบัญชี  "ดาน่าจะกล้าซื้อของแพงๆ หรือ  เพิ่งไปทำงาน"

"ฉันว่ามันน่าจะอยู่ในกองที่เขาวางขายถูกๆ น่ะ  ในลอนดอนมีร้านแบบนั้นอยู่นะ"  รอนนีเดา  เขาจะส่งข้อความไปถามดาน่าทีหลัง  ถ้าเพื่อนว่างก็คงจะตอบกลับมา  เขาคิดแบบนี้  ไม่ทันไรโทรศัพท์ไอรีนก็ดังลั่น

เจ้าของโทรศัพท์อิดออดไม่ค่อยอยากลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ตัวเล็กที่แอบเอามานั่งเล่นลูกหมา  เจนแทบจะหยิบมาปาใส่ให้เลย

"ถ้าเป็นผัวโทรมาคงรีบรับแล้วแหละ"  เจนแขวะเพื่อนอย่างคันปาก  ไอรีนถลึงตาใส่เธอ  พลางรับสาย  ทำปากขมุบขมิบบอกเพื่อนๆ ว่าดาน่าโทรมาตามที่พวกเขาคาดไว้จริงๆ

"ใช่  ฉันได้หนังสือแล้ว  เธอเอามันมาจากไหน  ดาน่า"  ไอรีนถาม  ไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลา  "แล้วทำไมเธอจ่าหน้าถึงฉันล่ะ"

"เจ้านายฉัน  เขาให้ฉันไปช่วยหาของให้ในห้องเก็บของ  ฉันเลยเจอหนังสือเล่มนั้น  คิดว่ามันน่าจะทำอะไรได้บ้าง  เลยลองขอเขาดู  เขาก็บอกว่าอยากได้ก็เอาไปเลย  ฉันเลยส่งไปให้เธอลองเช็กดู  ถ้ามีค่าก็ขายไปเลย  เอาเงินไปใส่กองทุน"  ดาน่าเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส  ไอรีนเดาว่าเพื่อนคงจะมีความสุขดีกับชีวิตใหม่ในเมืองหลวง  แต่ดาน่าเป็นคนปรับตัวเก่ง  ตอนนี้อาจยังสนุกตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆ อยู่ก็ได้

"ว่าแต่  ยายเจนยอมเข้าร่วมหรือยัง"  คำถามนี้ดันสายตาไอรีนไปหาเจนที่แอบเข้ามาเล่นกับเจ้าดุคในเคาน์เตอร์ด้วยคน  ดูเหมือนเจ้าลูกหมาจะกลายเป็นของเล่นของคนในร้านไปแล้ว  รอนนีพยายามจะเอาขนมคนมาให้มันกิน  โดนคาร่าดุไปคนหนึ่งแล้วด้วย

"คุยกับเขาเองไหม"  ไอรีนถาม  ไม่ใช่บอกปัด  แต่จนใจจริงๆ

ดาน่าเงียบไปเล็กน้อย  คงกำลังตัดสินใจอยู่  นาทีต่อมาเพื่อนก็แจ้งกลับมาว่าจะโทรหาเจนด้วยตัวเอง  รอให้พักเที่ยงก่อน  เราบอกลากันและวางสาย 

ไอรีนแบมือไปหารอนนี  ขอหนังสือคืน  เขาอิดออดจะไม่ยอมให้

"ให้ฉันช่วยไปหาราคาให้เอาไหม  ฉันมีคนรู้จักอยู่ในวงการเยอะนะ  รับรองไม่ยึดไว้หรอกน่า"  รอนนีให้เหตุผลที่เขาจะไม่คืนหนังสือตอนนี้  ไอรีนจึงขอถ่ายรูปไว้ก่อน  เธอจะให้คาร่าเอาไปช่วยเช็กให้เหมือนกัน

"ช่วยๆ กัน  งานจะได้เสร็จเร็ว"  ไอรีนบอกเขา  รอนนีส่ายหัวอย่างไม่เชื่อถือ  "เพื่อเป็นการป้องกันด้วยไง  นายจะได้ไม่ซวยคนเดียว  ถ้าอยู่ๆ หนังสือมีค่าเล่มนี้หายไป"

"ร้านเรามีกล้องวงจรปิด  ไอรีน"  รอนนีเตือน  แล้วโบกไม้โบกมือให้เพื่อนสาวจอมจุ้น  "โอเค  ฉันไปทำงานต่อละ  ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม"

ไอรีนสะบัดมือไล่เขา  รอนนีเอื้อมมือมาเขกหัวเธอและเดินหมุนตัวจากไปด้วยท่าเดินราวกับแซม สมิธใน MV เพลง  How do you Sleep

เจนกำลังจะเดินตามรอนนีไป  แต่ไอรีนร้องเรียกเพื่อนเอาไว้ก่อน

"มันไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอกนะ  ถ้าเธอจะยอมรับความช่วยเหลือน่ะ  ไม่มีใครคิดว่าเธอเป็นขอทาน  ฉันคนหนึ่งละที่ไม่เคยคิด"  ไอรีนพูดสิ่งที่เธอตั้งใจจะพูดกับเพื่อนมานานแล้ว  แต่ไม่มีโอกาสสักที  เพราะเจนชอบหลบหน้าเธอตลอด  ยิ่งเวลาคาร่าอยู่ด้วย  เจนยิ่งเลี่ยงไปที่อื่น  คงรู้ตัวว่าคาร่าไม่ค่อยชอบ  ที่จริงเจ้าแว่นก็ไม่ได้ไม่ชอบเจน  แค่ไม่ชอบพฤติกรรมที่ทำกับเธอ 

"ตามใจเธอก็แล้วกัน  ฉันไม่บังคับ" 

"เธอนิสัยดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่  ไอรีน"  เจนพูด  ไอรีนคงโกรธน่าดู  ถ้าเธอไม่เห็นสีหน้าเพื่อนเสียก่อน

"ถ้าจะชมก็พูดดีๆ  อย่ามาทำซึน"  ไอรีนว่า  เจนเบะปาก

"พูดมาก  เอาใบสมัครมา" 

ไอรีนดึงแผ่นพับมาจากแสตนด์ที่ตั้งบนเคาน์เตอร์ตรงหน้าเจน  ยัดใส่หน้าจะทิ่มตาเพื่อนอยู่แล้ว  "เขียนเสร็จแล้วก็เอามาวางไว้ที่นี่  จะส่งให้"

เจนพยักหน้าแต่โดยดี  แล้วเดินจากไป  ไอรีนยิ้ม  ดีใจที่เพื่อนยอมอ่อนลงให้  อันที่จริงเธอจะเขียนแทนเจนก็ได้  แต่เธอไม่อยากก้าวก่ายเรื่องของเพื่อนมากเกินไป  คาร่าจะพาลบ่นเธอด้วย  ถ้าเจนไม่เอาด้วยแล้วต่อว่าเธอเข้าอีก  ต้องแบบนี้แหละ  ดีแล้ว

ไอรีนก้มมองเจ้าดุค  เห็นมันหลับอยู่จึงทำงานตัวเองบ้าง  มัวแต่เล่นกับมันตั้งแต่มาถึงร้านแล้ว  วันนี้คาร่ามาส่งเธอแล้วไปเรียน  บ่ายๆ คงจะมาพร้อมกับพวกนักแสดงที่จะมาเล่นโชว์เปิดหมวกหน้าร้าน  เธอคงต้องหามื้อกลางวันกินเอง 

"กล่องนี้วางตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ"  เสียงสุภาพเอ่ยถาม  ไอรีนผละจากแล็ปท็อปที่กำลังเช็กราคาหนังสือเก่าที่ดาน่าส่งมาให้  พบชายหนุ่มคนที่เคยแซวเธอกับเจน  ไอรีนยิ้มทักทายเขาแบบมืออาชีพและระมัดระวัง

"เพิ่งวางไม่กี่วันนี้ค่ะ  สนใจบริจาคไหมคะ  ตามกำลังค่ะ  ไม่บังคับ"

เขาหยิบธนบัตรร้อยปอนด์สองใบออกมาจากกระเป๋าสตางค์  แต่ไม่หย่อนลงในตู้  เขายื่นมันให้เธอแทน  ไอรีนจำได้รางๆ ว่าปกติชายคนนี้จะจ่ายค่าหนังสือเป็นบัตรเครดิต  เธอเคยอ่านชื่อเขาในนั้น  หากไม่เคยจำได้ว่าชื่ออะไร  ไม่ใช่ธุระที่เธอจะต้องจำ

"ค่าอะไรคะ  ถ้าเป็นเงินบริจาค  ช่วยหย่อนลงกล่องด้วยค่ะ"  ไอรีนพูด  ซ่อนความรำคาญใจเอาไว้  ยังไงเขาก็เป็นลูกค้าประจำ  เธอต้องรักษาลูกค้าที่มีอยู่เอาไว้  ถ้าการมีเพิ่มมันยาก

"ก็ผมอยากให้กับมือคุณ  แค่ส่งมือมารับ  มันจะเป็นอะไรไปครับ  เงินไม่ใช่น้อยๆ  ถ้าหายไปจะว่ายังไง"  เขาพูด  ยังสุภาพขัดกับยิ้มกวนๆ

"ถ้ากลัวหายขนาดนั้นก็ไม่ต้องบริจาคหรอกค่ะ"

"หยิ่งจริงๆ เลยนะคุณ  ผมรู้แล้วว่าคุณแต่งงานแล้ว  ผมก็แค่ --"

เสียงเห่าของเจ้าดุคดังแหลมขึ้นมาแทรก  ชายหนุ่มพยายามมองหาตัวมัน  เขาจึงเจอลูกสุนัขสีเปรอะๆ นั่งขู่โชว์เขี้ยวเล็กๆ อยู่ในตะกร้าหวายเตี้ยๆ ข้างเก้าอี้ของไอรีน  เขาไม่แน่ใจว่าควรจะกลัวหรือเข้าไปอุ้มมันดี

"โอ๊ย  น่ารัก!"

ไอรีนขมวดคิ้วฉับ  แปลกใจกับเสียงของลูกค้าหนุ่มที่เปลี่ยนไปทันทีที่เขาพูดกับเจ้าดุค  มันให้ความรู้สึกเหมือนเธอคุยกำลังคุยกับรอนนี 

หรือว่า...

"คุณเลี้ยงหมาด้วยเหรอ  ร้านนี้เอาหมาเข้ามาได้ด้วยเหรอ"

ไอรีนไม่ตอบ  แถมยังกรุ้มกริ่มทำให้เขาเริ่มรู้สึกตัว  เขาทำกระแอมเหมือนมีอะไรติดคอ  หน้าแดงเรื่อ  และเอาเงินที่ถืออยู่ยัดลงไปในกล่อง

"คุณนี่กวนจริงๆ"  เขาพูด  "ผมชื่อเจค  ช่วยจำไว้ด้วยละ"

"ขอบคุณค่ะ  สำหรับเงินบริจาค  เงินของคุณจะได้ช่วยต่อชีวิตคน  ไม่ต้องห่วงค่ะ"  ไอรีนพูดตามหลังเขา  เจคหันมายิ้ม  ผงกหัวน้อยๆ ให้เธอแล้วจากไป  ไอรีนเพิ่งสังเกตว่าวันนี้เขาไม่ได้ซื้อหนังสือ  แต่เข้ามาซื้อกาแฟที่อีกเคาน์เตอร์  มีถุงเมล็ดกาแฟในมือเขาด้วย 

"ขอบใจนะดุค"  เธอก้มลงลูบหัวลูกหมาที่ช่วยเห่าขู่นายเจคให้ทั้งที่ตัวเล็กนิดเดียว  แถมยังขาเดี้ยงอีกด้วย  นี่แหละ  เพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์

"พี่ไอ  นั่งอยู่ตรงนั้นตลอดเลยเหรอ"  เสียงกวนๆ ของบางคนที่ไอรีนรู้จักดีดังขึ้น  หญิงสาวเหลือบตาขึ้นค้อนเจ้าแว่นหน้าทะเล้น  แต่เจ้าดุคกลับเห่าบ๊อกๆ ต้อนรับคาร่า  และกระดิกหางเร็วจนก้นสะบัด (ปกติออสเตรเลียน เชเพิร์ดจะไม่มีหาง  เพราะเกิดมาเป็นแบบนั้นเองหรือโดนตัดตั้งแต่แรกเกิด  หากอยู่ในสหรัฐอเมริกากับแคนาดาจะนิยมแบบไม่มีหาง  ขณะที่ในยุโรปและสหราชอาณาจักรไม่อนุญาตให้ตัดหางสุนัข  เพราะเป็นการสร้างความเจ็บปวดให้กับสัตว์โดยไม่จำเป็น)

"เปล่า  เพิ่งมานั่งนี่แหละ"  ไอรีนตอบ  ทำไม่รู้ไม่ชี้ใส่คาร่าที่แอบย่องเข้ามาเล่นกับเจ้าดุค  อุ้มมันไปคลอเคลียแทนที่จะจุ๊บเธอเหมือนทุกครั้งที่กลับมาเจอหน้ากัน 

อะไรกัน  เธอเสียสามีให้หมาไปแล้วเหรอ

"รอพวกเขาเตรียมตัวกันแป๊บนะ  เดี๋ยวจะเริ่มแล้วละ"  คาร่าบอกไอรีนที่จ้องหน้าเธอด้วยสายตาดุๆ  เหมือนเธอทำอะไรผิดสักอย่าง  "วันนี้มันงอแงหรือเปล่า  กินอะไรได้ไหม"

"มันน่ะกินแล้ว  ฉันนี่  ยังไม่ได้กิน"  ไอรีนว่าเสียงขุ่น  แย่งเจ้าดุคมาอุ้มเอง  ยกมันหนีคาร่าที่จะมาขอคืนด้วย  "ไม่ให้  ต้องบอกก่อนว่ามีของกินมาฝากฉัน  ไม่ใช่มีแต่ขนมหมา"

คาร่าเหลือบมองถุงที่เธอวางไว้บนเคาน์เตอร์  ซองขนมของเจ้าดุคโผล่ออกมาจากถุงสีน้ำตาลนั้น  เธอจึงหัวเราะแห้งๆ ให้ภรรยา

"รักหมามากกว่าฉันแล้ว"

"เปล่าน้า  แค่คิดว่าพี่คงกินแล้ว  มันเลยเที่ยงแล้วนี่นา"

"ยังไม่ได้กิน  รอเธอ"  ไอรีนอ้าง  ใครจะบอกล่ะว่ามัวเล่นกับหมาอยู่จึงไม่นึกหิว  แต่พอเห็นหน้าคาร่าก็นึกหิวขึ้นมาเลย  ไม่ใช่หิวแบบนั้นนะ

"งั้นไปกินที่ร้านคุณพ่อกัน  หรือเบื่อแล้ว  สั่งพิซซ่ามากินกันไหม"

"อยากกินอาหารเกาหลี"

คาร่าเลิกคิ้วแปลกใจ  นานๆ ครั้งไอรีนจะบ่นอยากกินอาหารจากบ้านเกิดของคุณแม่  ส่วนเธอกินอาหารจีนบ่อยอยู่แล้ว  แม่เธอหัดทำอาหารจีนให้พ่อกิน  เธอก็ทำได้อยู่บ้าง  พ่อเธอชอบพาไปไชน่าทาวน์ด้วย  แต่ถ้าถามพ่อว่าคิดถึงบ้านที่ฮ่องกงไหม  ท่านก็จะยิ้มเจื่อนๆ และตอบว่านิดหน่อย  แม่เธอเคยเล่าว่า  บ้านพ่อที่ฮ่องกงความเป็นอยู่ไม่ค่อยดีนัก  เป็นเหตุหนึ่งที่พ่อตั้งใจมาเรียนและทำงานที่นี่  แล้วก็ได้เจอกับแม่  สร้างครอบครัวที่นี่แทน  ทุกปีพ่อก็จะไปเยี่ยมบรรพบุรุษที่ประเทศจีน  เธอก็เคยไปกับท่าน  เราไปกันทั้งครอบครัว  มาช่วงเธอแต่งงานแล้วนี่แหละ  ที่ไม่ได้ไป  ไอรีนยังไม่เคยไปเยี่ยมบรรพบุรุษทางฝั่งพ่อเธอ  แต่เคยเจอญาติบางคนแล้วในวันแต่งงานของเรา  เธอเองก็ยังไม่เคยไปเกาหลีเหมือนกัน  คุณพอลล่า  แม่ของไอรีนพูดเองว่าไม่จำเป็นต้องไปก็ได้  เพราะที่นั่นยังไม่ยอมรับความรักของเพศเดียวกัน  รังแต่จะทำให้อึดอัดใจไปเปล่าๆ  ไอรีนเองก็ไม่รู้จักวัฒนธรรมของที่นั่นเท่าไหร่นัก  วันงานแต่งเราก็มีญาติทางฝั่งแม่ไอรีนมาแค่คนเดียว  รู้สึกว่าจะเป็นหลานชายแม่ไอรีนที่มาเรียนต่อที่นี่  อาศัยอยู่ในลอนดอนอยู่แล้ว  เขาเป็นพวกหัวสมัยใหม่ด้วย  จึงไม่รู้สึกอะไรกับพวก
เรา  ถ้ารังเกียจเราละก็  คุณพอลล่าก็คงไม่ชวนให้มาแน่นอน

เธอเคยถามพ่อว่าทำไมบรรพบุรุษของพ่อถึงไม่ได้อยู่ฮ่องกงในเมื่อบ้านพ่ออยู่ฮ่องกง  พ่อก็ตอบว่าพ่อแม่ของพ่ออพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่  ดังนั้น  บรรพบุรุษของพ่อจึงอยู่ที่นั่น  ตอนนี้ปู่กับย่าเธอก็กลับไปแผ่นดินใหญ่แล้วเหมือนกัน  จะเหลือก็แค่ญาติบางคนของพ่อที่ยังอยู่ฮ่องกง  พวกเขาคงไม่ค่อยสนิทกันนัก  คาร่าสันนิษฐาน  เธอก็ไม่ค่อยเจอญาติทางพ่อเท่าไหร่ 

"อยากกินเหรอ"  คาร่าถาม  อุ้มเจ้าดุคด้วยมือข้างหนึ่ง  อีกข้างก็จิ้มโทรศัพท์หาร้านอาหารเกาหลีที่มีส่งเดลิเวอรี่  ไอรีนคงไม่ไปกินที่ร้านแน่  ถ้าพวกเขาไม่ให้เอาดุคเข้าไปด้วย

"นานๆ กินทีก็ดี  หรืออาหารจีนก็ได้  อะไรที่ไม่ใช่พิซซ่า  เบอร์เกอร์น่ะ"  ไอรีนบอก  เอาเท้าเขี่ยคาร่าให้ถอยออกมา  เธอจะคิดเงินให้ลูกค้า

"ลูกหมาน่ารัก"  เสียงเด็กผู้หญิงร้องทัก  ไอรีนเหลือบมอง  เด็กน้อยมากับคุณแม่ที่กำลังจะจ่ายเงินให้เธอ  "หนูขอเล่นกับมันหน่อยได้ไหมคะ"

"ไม่เอาค่ะ  ป๊อปปี้  เกรงใจพี่ๆ เขาบ้าง  และเจ้าลูกหมาก็ขาเจ็บอยู่  เห็นไหม  มีเฝือกด้วย"  คุณแม่ของเด็กน้อยห้ามลูกสาว  พร้อมกับอธิบายให้ลูกฟัง  ไอรีนได้ยินมันด้วยก็รู้สึกทึ่ง  เด็กน้อยอายุประมาณห้าหรือหกขวบเท่านั้นเอง  แต่ไม่งอแงเลยเมื่อไม่ได้ทำอย่างใจ  แถมยังขอโทษเธอโดยที่แม่ไม่ได้สั่งด้วย  เธอจะสอนลูกได้อย่างนี้ไหมนะ  ลูกเธอจะน่ารักแบบนี้ไหม

"ไม่เป็นไรค่ะ  เล่นได้"  คาร่าเอ่ย  เดินออกไปนั่งยองๆ ลงตรงหน้าเด็กน้อย  อุ้มเจ้าดุคให้เด็กหญิงได้แตะตัวมัน  พลางบอกว่าจะเล่นอะไรได้กับลูกหมาที่เจ็บแบบนี้  ไอรีนเผลอมองคาร่าคุยกับเด็กจนเกือบลืมคิดเงินให้ลูกค้าจนกระทั่งได้ยินเสียงกระแอมเบาๆ  ตามด้วยเสียงกระซิบ

"ถ้าคุณคิดจะมีลูกอยู่  ต้องรู้จักใจเย็นๆ นะคะ  แบบนี้น่ะใช้ได้"

ไอรีนหน้าแดง  เพราะลูกค้าบุ้ยใบ้ไปทางคาร่า  เจ้าแว่นผู้ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยก็เงยหน้าขึ้นยิ้มตาปิดให้เธอ  น่ารัก  น่ามันเขี้ยวจนอยากฟัดสักที  แปลว่าเธอไม่ได้คิดผิดที่อยากจะมีลูกกับเจ้าแว่นสินะ

เด็กหญิงกับคุณแม่จากไปแล้วพร้อมเสียงพูดคุยร่าเริง  ไอรีนมองหน้าคาร่าที่จ้องเธอด้วยสายตาแปลกๆ  ยิ้มก็แปลกๆ ด้วย

"อะไร  สั่งอาหารหรือยัง  เดี๋ยวโชว์เล่นก็อดหรอก" 

"อยากได้ลูกสาวหน้าตาเหมือนพี่จัง"  คาร่าบอก  ชะโงกหน้ามาจุ๊บแก้มไอรีนดังจุ๊บ  แล้วอุ้มเจ้าดุคไปเลือกอาหารในโทรศัพท์ด้วยกัน  คุยกับมันเหมือนมันรู้เรื่องด้วย 

ไอรีนมองทั้งคู่แล้วส่ายหัวไปมา  เธอจับปากกาขึ้นมาทำงาน  หากเผลอมองไปทางคาร่าอีกที  เจ้าแว่นก็หันมาสบตาเธอพอดี  เธอหันหน้าหนี 

ทำไมมันเขินก็ไม่รู้  อยู่ด้วยกันมาตั้งนานแล้วนะ                   


เจ้าดุค





..........................................


จองหนังสือเล่มนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ - 5 กันยายน 62  นะคะ 

สนใจติดต่อ ไลน์ anhann  จ้า   :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

17 สิงหาคม 2019 เวลา 19:24:46
เออเจ้าดุคมันหล่อเชียว
แสดงความคิดเห็น