web stats

ข่าว

 


Viewfinder - บทที่ 7 What I Like About You

โพสต์โดย: anhann วันที่: 09 กันยายน 2019 เวลา 21:34:49 อ่าน: 707





บทที่ 7 What I Like About You





แสงแดดในตอนกลางวันของลาสเวกัสในช่วงซัมเมอร์รุนแรงจนแสบดวงตา  เคลลี่ต้องสวมแว่นกันแดดระหว่างเดินสำรวจพิพิธภัณฑ์นีออนที่ซึ่งรวบรวมป้ายไฟนีออนวินเทจที่เคยประดับตามคาสิโน  ร้านอาหาร  คลับ  โมเต็ลจากถนนฟรีมอนต์ 

มันน่าทึ่งมากที่ได้มาเห็นอะไรแบบนี้ด้วยตาตัวเอง  แม้จะต้องทนร้อน  ตัวเธอน่ะชอบอยู่แล้ว  อะไรสมบุกสมบันแบบนี้  แต่บางคนน่ะสิ

เคลลี่อมยิ้มเมื่อเห็นแอนน์ยืนจ่อพัดลมมือถืออยู่  แก้มเปลี่ยนเป็นสีชมพูจัด  เหงื่อไหลลงมาตามโคนผมเป็นประกายอยู่บนหน้าผาก  ผมหน้าม้าที่เพิ่งตัดมาเปียกโชก  จนต้องเสยขึ้น  ใบหน้างอแงเล็กน้อยน่ารักเหมือนเด็ก  เห็นแล้วอดเอ็นดูไม่ได้  ทั้งที่อีกฝ่ายอายุมากกว่า

"ฉันไม่เข้าใจ  พวกเธอมาถ่ายอะไรกัน" 

คิ้วเคลลี่กระตุก  เหลือบมองสาวตัวสูงข้างๆ ที่ลืมไปแล้วว่ามาด้วย  แต่เงานารูมิก็ช่วยบังแดดให้เธอได้เหมือนกัน  ตัวบางไปนิดหนึ่ง

"ไม่ร้อนบ้างเหรอ"

"ร้อนก็ไปหลบในรถ"  เคลลี่พูดเสียงไร้อารมณ์  ก้มลงส่องกล้องต่อ  เธอกำลังจะได้ภาพสวยๆ ของแอนน์ไปไว้ลงอินสตาแกรมแล้ว  แต่ตัวป่วนที่ไร้ศิลปะในหัวใจก็มาบังกล้องเธอให้ต้องถอนหายใจเฮือก  กี่ครั้งแล้วเนี่ย!

"ฉันเคยบอกแล้วนะ  ว่าอย่ามาบังหน้าฉัน"  ช่างภาพสาวว่าเสียงดุ  นารูมิหน้ามุ่ย  ยอมหลบทางให้  แต่ก็ยังมาย่อตัวอยู่ข้างๆ เธอ  มองไปทางเดียวกัน  เคลลี่กดชัตเตอร์สองครั้งก็ยืดตัวขึ้น  จ้องหน้าอีกฝ่ายที่ยืดตัวตาม 

"อะไรล่ะ  เธอไม่ให้ฉันบังกล้อง  ก็ไม่บังแล้วไง"

"ขอบใจ  แต่ไปไกลๆ ด้วย  รำคาญ"  เคลลี่พูดอย่างไม่เกรงใจ  "ฉันจะทำงาน  ไม่มีสมาธิ  ไปรอในรถ  ถ้าไม่มีอะไรทำ  หรือจะกลับไปเลียก้นเจ้านายเธอก็ได้  จะไปไหนก็ไป  แต่อย่ามาอยู่ใกล้ฉัน"

"ไปก็ได้  ดุอย่างกับหมา"  นารูมิแยกเขี้ยวใส่เคลลี่แล้วสะบัดหน้าเดินจากไป  ช่างภาพหน้าดุยกนิ้วกลางส่งตามหลัง  ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ไปไหนไกล  ยืนมองผู้ร่วมทางอีกสองคนอยู่ห่างๆ  ตามคำสั่งของเจ้านายที่ไม่ได้พูดอะไรมากกว่าให้อยู่กับคนพวกนี้เลย  ถ้าเธอไม่ได้เพิ่งทำงานแค่สองสามวัน  และดันไปเบิกเงินเดือนล่วงหน้ามาแล้ว  คงจะหนีกลับไปนานแล้ว

เบื่อจะตาย  ร้อนก็ร้อน!

หากขณะที่ยืนร้อนๆ เซ็งๆ อยู่นั้นเสียงโทรศัพท์มือถือ (อีกหนึ่งอย่างที่ได้มาจากงานนี้) ก็ดังขึ้น  นารูมิล้วงมันออกมาจากเสื้อแจ็กเก็ตหนัง  กดรับทันทีที่เห็นไอดีคนโทรมา

"พวกเขาทำงานกันอยู่ค่ะ  แบบที่ฉันถ่ายรูปส่งไป"  เธอรายงานให้วิคโตเรียฟังก่อนที่อีกฝ่ายจะถามไถ่  คงไม่มีอะไรที่เจ้านายอยากรู้มากกว่านี้

"ฉันต้องอยู่กับพวกเขาไปจนกว่าพวกเขาจะกลับเลยหรือคะ"

"ฉันกำลังคิดอยู่"  วิคโตเรียตอบ  นารูมิฟังแล้วก็ไม่ได้ซักไซ้เจ้านาย  แต่ถ้าเธอเห็นว่าวิคโตเรียกำลังทำอะไรอยู่ก็คงไม่กล้าพูดอะไรด้วยซ้ำ

เสียงคราง...

หญิงสาวขมวดคิ้ว  เอาโทรศัพท์มาดูให้แน่ใจว่าเสียงมาจากไหน  แต่พอชัดเจนว่ามาจากมัน  เธอก็แทบอยากจะตัดสายทิ้งทันที

ผู้หญิงบ้าอะไร  โทรมาคุยงานตอนกำลังเล่นจ้ำจี้อยู่  นารูมิคิดอย่างขนลุก  แต่เธอน่าจะเดาได้อยู่แล้ว  ว่าคงไม่มีคนปกติที่ไหนจ้างให้เธอมาตามผู้หญิงธรรมดาๆ แบบนี้  แม้ว่าอนาสตาเซีย  บราวน์จะเป็นคนดังในแวดวงของวล็อกเกอร์  มีผู้ติดตามมากมายจนน่ากังขาว่ามาดูอะไรกัน  แค่ผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่ง  พูดนู่นพูดนี่ให้ฟังในคลิป  มีสาระบ้างไม่มีบ้าง  ถ่ายรูปสวยๆ มาให้ดู  ไม่เห็นจะมีอะไรเลย

แต่จะว่าไปคนพวกนี้ก็ทำงานหนักน่าดูเหมือนกันนะ  โคตรร้อน!

"แนท"

นารูมิกะพริบตา  ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ  จึงจำได้ว่าตนติดสายอยู่  มัวแต่มองเคลลี่เช็ดเหงื่อให้อนาสตาเซียเพลิน  เจ้าเด็กนั่นดูอ่อนโยนจนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะพูดจากวนประสาทเธอได้  และยั่วโมโหเก่งมาก 

แค่คนร่วมงานกันจำเป็นต้องดูแลกันขนาดนี้เลยหรือไง  ยังไม่เคยมีใครทำอะไรให้  หรือมองเธอด้วยสายตาแบบที่เคลลี่มองอนาสตาเซียเลย  ถ้าจะบอกว่าอิจฉาก็คงได้อยู่ละมัง

"คะ  คุณวิค"  ปากเธอขยับตอบ  แต่สายตายังมองสองคนนั้นอยู่  วิคโตเรียอยากจะให้เธอทำอะไรกันแน่  จะให้แยกพวกเขาออกจากกันหรือ  เธอไม่ชอบแบบนี้เลย  ถึงเธอจะดูหยาบกระด้าง  เธอก็ชอบเห็นคนรักกันนะ

มันคงเป็นอะไรที่เธอคงไม่ได้สัมผัสเอง  แค่ได้เห็นก็นับว่าโชคดีแล้ว

"โทษทีนะ  เดี๋ยวฉันโทรกลับ"

วิคโตเรียตัดสายไปดื้อๆ  ยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรเลย  แต่ก็ดีแล้ว  เธอก็ไม่ได้อยากฟังเสียงคนเล่นหนังสดกันหรอก  ถ้าเกิดรู้สึกแบบนั้นขึ้นมาจะไม่มีที่ลง  เดือดร้อนอีก  --  โอ้  ชีวิตคนโสดก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรอกน่า

นารูมิสะดุ้งเมื่ออยู่ๆ เจ้าเด็กเคลลี่ก็ตวัดสายตาคมๆ นั่นมามองเธอเหมือนจะขู่ไม่ให้เดินตามเจ้าตัวที่กำลังจะเดินตามอนาสตาเซียไปถ่ายงาน

หญิงสาวถอนใจเฮ้อ  เธอมาทำอะไรอยู่ตรงนี้กันนะ  ถ้าแม่มองลงมาจากข้างบนและเห็นเธอเข้าคงจะด่าเธอน่าดู  อุตส่าห์เรียนจบมาก็สูง  แต่มาทำงานบ้าอะไรแบบนี้  เอาเถอะ  งานออฟฟิศที่ไหนจะได้เงินมากอย่างนี้  แค่เดินตามผู้หญิงสองคน  มันจะเป็นอะไรไป  วิคโตเรียไม่ได้ใช้เธอไปส่งยาสักหน่อย  อย่างมากก็ดูต้นทางให้พวกผู้ชายกระทืบคน

เสียงโทรศัพท์ดังอีกครั้ง  นารูมิล้วงมันขึ้นมาดูอย่างมีความหวัง  แต่ก็มีเพียงข้อความจากวิคโตเรียว่าให้อยู่ไปก่อนจนกว่าจะเปลี่ยนคำสั่ง

"อยู่ก็อยู่สิ  ฉันเลือกอย่างอื่นได้ไหมล่ะ"  นารูมิพึมพำ  เตะก้อนหินแก้เซ็ง  แล้วสะดุ้งเมื่อมันไปโดนหลอดไฟดวงหนึ่งบนป้ายนีออนอันหนึ่งแตก 

"ชิ่งดิวะ  แนท  จะยืนเซ่ออยู่ทำไม"  เธอสั่งตัวเองให้วิ่ง  เพราะขาไม่ค่อยอยากจะทำตามสมองเท่าไหร่เลย

..............................................

กลิ่นเหงื่อ  กลิ่นเซ็กซ์  การได้เห็นตัวเองถูกกระทำในกระจกเงาช่วยฉุดอารมณ์เธอให้สูงขึ้น  หลังจากตกลงใจว่าจะทำตามสัญญากัน  จอร์แดนก็มาอยู่กับเธอทั้งวันทั้งคืน  เราร่วมเพศกันแทบตลอดเวลาเหมือนคนไม่เคยมีอะไรกันมาก่อน  แต่เธอก็ไม่ได้เจอเขามาสองเดือนแล้ว  จอร์แดนไปทำงานเยอรมัน  เพิ่งจะกลับมาวันที่เธอตามแอนน์ไปลาสเวกัสพอดี  แล้วเขาก็รู้...

วิคโตเรียลูบเส้นผมนุ่มของคนที่ตะคองกอดกัน  จอร์แดนวางคางบนบ่าเธอ  เบี่ยงหน้ามาจูบซอกคอ  เธอเอนศีรษะเปิดทางให้ตัวเองถูกสัมผัส  ฝ่ามือเรียวนวดเคล้นทรวงอก  เธอกดเอวเขาให้เคลื่อนตัวเข้าใส่แรงขึ้น  สรุปแล้วเธอไม่ได้รังเกียจมันสักนิดที่เขามีอะไรเหมือนผู้ชาย  ตอนเธอมีอะไรกับแอนน์  เธอก็ต้องการให้มีอะไรมาสอดใส่ในช่องคลอดเธอเหมือนกัน

"ทำไมคุณไม่ปล่อยเธอไป  วิค"  จอร์แดนถาม  เสียงเขาอู้อี้เล็กน้อยขณะซุกไซ้สองเต้าเต็มตึงของภรรยาทางพฤตินัย  "คุณจะใจร้ายกับเธอหรือ"

"ไม่ใช่เรื่องของคุณ"  วิคโตเรียตอบ  จับหน้าสวยๆ ของจอร์แดนมาจูบและสอดลิ้นเข้าไปในปากอีกฝ่ายที่ดูดมันอย่างหิวกระหาย  เจ้านั่นสอดเข้าสอดออกเร็วและแรงขึ้น  เธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังตอดรัดมันเหมือนกะจะเอาให้ตาย  เจ้าของมันหน้าแดงก่ำครางสะท้านในปากเธอ  แล้วเขาก็กระตุก

จอร์แดนทรุดลงทับเธอทั้งตัวหลังจากปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่  เนื้อตัวเขาสั่นอย่างน่าสงสาร  อีกสักพักเขาก็จะหลับ  สลบไปเลยแหละ  แล้วเธอก็จะได้ไปทำอย่างอื่นสักที  ยังพูดกับนารูมิไม่รู้เรื่องเลย

"ไม่คิดบ้างเหรอว่า  คุณใช้งานเธอหนักเกินไป" 

"มันเป็นธุรกิจระหว่างเรา"  วิคโตเรียตอบ  เสียงเย็นชา  กดหัวคนพูดมากลงตรงหว่างขาเธอ  หลับตาและจินตนาการว่าจอร์แดนเป็นคนอื่นที่เธออยากให้ทำแบบนี้ให้  เธอคิดถึงสัมผัสของลิ้นเล็กๆ แสนเชี่ยวชาญนั้น  คิดถึงกลิ่นกายหอมกรุ่นของหญิงสาวที่เป็นเพศหญิงร้อยเปอร์เซ็นต์  คิดถึงเสียงร้องเซ็กซี่น่ารัก  คิดถึงเรือนร่างบอบบางที่เต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งน่าชื่นชม  ดวงตาสีช็อกโกแลตหวานเยิ้มยามมีอารมณ์รัก

เธอรักแอนน์หรือเปล่า  หรือรักแค่สัมผัสพวกนั้นกับเรือนร่างหล่อน

วิคโตเรียกัดปากตัวเองไม่ให้ร้องเรียกชื่อผู้หญิงในจินตนาการ  และดึงจอร์แดนขึ้นมาจูบกัน  ปล่อยให้เขาสอดใส่เจ้านั่นเข้ามาอีกครั้ง  เขาเคยพูดว่าไม่เคยนอนกับใครบ่อยเท่าเธอมาก่อน  เจ้านั่นไม่เคยตื่นตัวมากเท่านี้  แต่กับเธอแค่มองหน้าก็มีอารมณ์แล้ว  เธอควรจะดีใจดีไหมนะ

"จะเอาให้ฉันท้องให้ได้  ใช่ไหม  แดน"

"ฉันอยากมีลูกกับคุณ"  จอร์แดนตอบ  จับปลายคางวิคโตเรียอย่างอ่อนโยน  สบตาขออนุญาตก่อนจะเบียดริมฝีปากลงไป  วิคโตเรียจูบกลับ  ยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดเอวเธอ  เปิดทางให้เจ้านั่นเข้าไปลึกขึ้น  เสียงเนื้อกับเนื้อฉ่ำน้ำเสียดสีกันน่ารังเกียจนัก  แต่ทำไมมันมีความสุขมากขนาดนี้กันนะ

"ฉันจะยอมแต่งงานกับคุณ  ถ้าคุณไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวฉัน"  วิคโตเรียต่อรอง  มองหน้าจอร์แดนที่กำลังขย่มเธออย่างเมามันจนไม่สนใจอะไร  "นะ  แดนนะ  เหมือนที่ผ่านมาไง  ยังไงฉันก็เป็นของคุณ"

จอร์แดนยังไม่ตอบ  ได้แต่มองวิคโตเรียด้วยสายตาไม่เข้าใจ  และไม่อาจหยุดสิ่งที่ทำอยู่ได้  ภายในตัววิคโตเรียคล้ายหลุมดำ  ดูดกลืนเธอจนหาทางออกแทบไม่ได้  แต่มันไม่ได้เย็นยะเยือก  มันอบอุ่น...เร่าร้อน

"ฉันต้องการผู้หญิงสักคน  เอาไว้ใช้เวลาคุณไม่อยู่"

"คุณป่วย"

วิคโตเรียเลิกคิ้ว  มองคู่หมั้นอย่างตกใจ  หากจอร์แดนยังโยกใส่เธอต่ออีกหลายครั้งจนกระทั่งหยาดน้ำอุ่นๆ ไหลซึมเข้ามาในตัวเธอ  ตั้งแต่ตกลงกันว่าจะแต่งงาน  เจ้าคู่หมั้นจัญไรของเธอก็เลิกสวมถุงยางอนามัย  และสั่งให้เธอเลิกกินยาคุม  ถ้าเธอไม่ท้องภายในเดือนนี้ก็บอกว่าจะพาเธอไปหมอตรวจด้วย  จะอยากมีลูกไปทำไมนะ  เจ้ากะเทย!

"ฉันไม่ได้ป่วย"

"คุณเป็นนิมโฟมาเนีย"  จอร์แดนพูดปนหอบเหนื่อย  ทรุดตัวลงทับวิคโตเรียเต็มตัว  อีกฝ่ายก็พยายามดันเธอออก  แต่เมื่อไม่สำเร็จก็ก่ายตัวเธอเหมือนจะให้รำคาญและผละออกไปเอง  ที่ไหนได้เธอชอบจะตาย

"คุณว่าฉันเป็นโรคจิตเหรอ  แดน"  วิคโตเรียว่า  ตบแก้มสามีอย่างไม่เป็นทางการจนแดง  แต่ไม่แรงจนจอร์แดนโมโห  เจ้ากะเทยหน้าสวยกลับยิ้มเหมือนชอบ  แถมยังคลอเคลียเธอราวกับนี่เป็นการร่วมรักครั้งแรกของเราทั้งที่มันปกติ  ช่วงเวลาตลอดห้าปีที่หมั้นกันมา  เราก็เป็นอย่างนี้กันตลอด

จอร์แดนไปต่างประเทศบ่อย  เราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน  แต่แทบจะทุกครั้งที่เจอกัน  เราก็ร่วมเพศกัน  ไม่ว่าจะในห้องทำงานหรือห้องน้ำ  เธอไม่รู้สึกว่ามันผิดปกติ  มันก็แค่เซ็กซ์  เธอชอบเซ็กซ์  มันช่วยให้หายกังวลได้

"ก็คุณต้องการ...มาก"  จอร์แดนเน้นคำสุดท้าย  มองตาภรรยาทางพฤตินัยอย่างอ่อนโยน  แม้วิคโตเรียมองเธอตาเขียวปั๊ด  "สังเกตตัวเองสิวิค  คุณต้องการมาก  เรามีอะไรกันกี่ครั้งแล้ววันนี้  และคุณไม่เคยปฏิเสธฉันเลย  คุณเหมือนต้องการถูกกลืนกินด้วยซ้ำ  คุณน่าจะไปหาหมอหน่อยนะ"

"ไปหาให้คนอื่นรู้ว่าฉันเป็นบ้างั้นเหรอ  อยากให้คนอื่นรู้หรือไง  แค่คุณให้ฉัน  มันจะเป็นปัญหาอะไรกันล่ะ  จอร์แดน  ฉันนอนกับผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย  ไม่เสียหายหรอก  ฉันอยู่ไม่ได้จริงๆ  นะ  แดน"

จอร์แดนทำหน้าขยาด  ถึงจะรักก็อดกลัวไม่ได้  วิคโตเรียเหมือนจะไม่รู้สึกว่าตัวเองผิดปกติ  และไม่คิดจะแก้ไขมัน

"แดน  ทำไมคุณชอบขัดใจฉันนะ  เพราะแบบนี้แหละ  ฉันถึง --"

"ก็ได้  แต่ไม่ใช่อนาสตาเซีย"

วิคโตเรียชะงัก  จ้องตาจอร์แดนที่ขึงขังเป็นจริงเป็นจังมาก 

"คุณผูกพันกับเธอเกินไป  ฉันไม่ชอบ  เลิกกับเธอซะวิค  แล้วถ้าคุณอยากได้ผู้หญิงมานอนด้วย  ก็เอาคนอื่น  ไม่งั้นฉันไม่ตกลง"

"แต่แดน --"

"อนาสตาเซียมีชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆ  คุณก็รู้  คุณปิดเรื่องนี้ไม่ได้นานนักหรอก  วิค  ผู้คนจะจับตาดูว่าเธอมีใคร  อยากรู้ชีวิตส่วนตัวของเธอ  แล้วมันก็จะลามมาถึงคุณจนได้"  จอร์แดนพูดอย่างมีเหตุผล  "คุณไม่อยากให้ใครรู้ไม่ใช่เหรอ  ว่าคุณวิปริต  แถมตอนนี้ยังพ่วงโรคประสาทไปด้วย"

"จะมากไปแล้วนะ  จอร์แดน!"  วิคโตเรียตวาด  เงื้อมือจะตบหน้าจอร์แดน  แต่อีกฝ่ายจับแขนเธอไว้และจูบเธอ  รั้งเอวเธอเข้าหาตัว  เอาใจจนเธอเคลิบเคลิ้ม  หญิงสาวดำดิ่งสู่ห้วงตัณหาราคะอีกครั้ง  ยอมให้มันครอบงำ  เธออ่อนแอเกินไปที่จะทัดทาน  มันไม่ดี  กระนั้นเธอก็ไม่ต้องการจะหาย

"คุณจะมีผู้หญิงกี่คนก็ได้แต่ห้ามรักเธอ  เก็บหัวใจคุณเอาไว้ให้ฉัน"

"ฉันไม่ให้ใครทั้งนั้นแหละ"  วิคโตเรียตอบ  พลิกตัวขึ้นบน  คร่อมร่างอีกฝ่าย  ค่อยๆ หย่อนกายลงหากัน 

จอร์แดนครางหวิวเมื่อถูกกลืนกินจนหมด  หญิงสาวตระกูลสูงส่งโยกกายช้าๆ อย่างเป็นงาน  ดวงหน้างามเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ใคร่  วิคโตเรียเปลี่ยนเป็นจ๊อกกี้ควบขี่ม้าดุให้พุ่งทะยานไปหาเส้นชัย  เจ้าหล่อนนวดคลึงเต้านมตัวเอง  เปล่งเสียงร้องสะท้าน  ท่วงท่าน่าหลงใหลสะเทือนหัวใจคนมอง  จอร์แดนไม่เคยหลงรักผู้หญิงคนไหนมาก่อน  วิคโตเรียเป็นคนแรก

แต่ว่า...

เมื่อเจ้าหล่อนโน้มตัวลงมาเธอคราวนี้  มีบางอย่างเย็นเฉียบมาจ่อตรงคอหอยเธออย่างน่ากลัว  ดวงตาวิคโตเรียเหมือนแม่มดไม่มีผิด

"วิค --"

"ถอนคนของคุณออกมา  อย่ายุ่งกับแอนน์ของฉัน"  วิคโตเรียสั่ง  กดมีดลงบนเนื้อลำคอคนด้านล่างที่มองมันเหงื่อแตก  "แดน  อย่าดื้อสิ  หรือคุณอยากตาย  แต่ตายแบบนี้ก็มีความสุขดีนะ  ตายคาอกเมียรักไงล่ะ"

"คุณมันบ้าจริงๆ วิค  อา --"  จอร์แดนพูดแล้วชะงักเมื่อความแสบแล่นไปทุกรูขุมขน  วิคโตเรียจะเชือดคอเธอจริงๆ แล้วหรือ  มิน่าถึงมีคนบอกเสมอว่าอย่าเชื่อใจผู้หญิงสวยๆ  กุหลาบงามมีหนามแหลมทั้งนั้น

"ฉันบอกแล้วนะว่าอย่ายุ่งกับแอนน์  แอนน์เป็นของฉันคนเดียว"

"โอเคๆ  วิค  ฉันขอโทษ  ฉันจะทำตามคุณบอก  ปล่อยมีดให้ฉัน"

"แล้วถ้าคุณไม่ทำล่ะ  ฉันจะเชื่อได้ยังไง  ฉันจะเชื่อได้ไหมว่าคุณจะไม่ส่งคนไปข่มขืนเธอ"

"โธ่คุณ  ฉันไม่ทำร้ายผู้หญิงแบบนั้นหรอก  ถึงฉันจะไม่ชอบเธอ"

วิคโตเรียหรี่ตา  มองสามีอย่างไม่ไว้ใจ  ขนาดโดนมีดจ่อคออยู่แท้ๆ  เจ้านั่นก็ยังไม่ยอมหด  มันดุนดันเธอจนเสียสมาธิ

"ฉันขอโทษ  ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว  สัญญา" จอร์แดนปะเหลาะภรรยา  ค่อยๆ จับมือวิคโตเรียที่กุมมีดสปาต้าอยู่  พออีกฝ่ายเผลอ  เธอก็ดึงมันออกและปาทิ้งไป  พลิกตัวขึ้นบน  จ้องใบหน้าตกใจของวิคโตเรียด้วยรอยยิ้ม

"ไอ้บ้าแดน..."

"ไม่ต้องกลัวค่ะ  ฉันเป็นคนรักษาสัญญา  คุณจะได้ที่คุณขอ  แค่เลิกกับอนาสตาเซียเท่านั้น  นะคะ  ที่รัก"

นิ่งไปชั่วอึดใจก่อนที่วิคโตเรียจะพยักหน้าตกลง  เธอจิกแผ่นหลังจอร์แดนขณะอีกฝ่ายเคลื่อนตัวเข้าหา  อะดีนาลีนท่วมท้นจากความตื่นเต้นเมื่อกี้  จริงอย่างจอร์แดนว่า  เธอต้องการเรื่องแบบนี้สูงเกินปกติ

แต่เธอไม่ได้เป็นโรคจิตสักหน่อย...

หญิงสาวโต้เถียงตัวเองในใจ  หลับตาลงนึกถึงคนที่ควรจะอยู่ตรงนี้  กอดเธอ  ร่วมรักกับเธอ  พาเธอไปสู่สวรรค์ด้วยกัน

...............................................

เราอยู่บนถนนฟรีมอนต์กันจนค่ำ  กินอาหารข้างทางที่พอจะกินได้ไม่ท้องเสีย  เพื่อจะเก็บบรรยากาศถนนเส้นนี้ยามที่มีแสงไฟสาดส่อง  เคลลี่รู้สึกเหมือนตนเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟเมื่อเห็นแสงไฟที่ส่องสว่างยิ่งกว่าเวลากลางวันจากร้านรวงบนถนนแถบนี้

บางทีเธออาจจะเป็นแมงเม่าจริงๆ ก็ได้  รู้ว่าไฟร้อนก็ยังอยากจะเล่นกับมัน  เธอจะต้องถูกมันเผาตายเข้าสักวัน

"รักเขา  ทำไมไม่บอกเขาล่ะ"

เคลลี่ขมวดคิ้ว  เหล่ตามองผู้หญิงที่มายืนข้างๆ ทั้งที่บอกว่าเกลียดบุหรี่นักหนา  เธออุตส่าห์หนีมาสูบบุหรี่ตรงนี้ระหว่างที่แอนน์ไลฟ์สดคุยกับแฟนๆ ในเพจ  ยืนมองพี่สาวคนสวยอยู่ไกลๆ  ยายผู้หญิงตัวป่วนก็ยังจะมาโผล่เป็นผีหลอกหลอนอยู่ใกล้ๆ อีก

"ไม่ต้องทำไก๋หรอกน่า  ฉันไม่ใช่พวกไม่รู้อะไรเลยนะ  สายตาแบบนั้นไม่มีใครใช้มองคนที่ไม่คิดอะไรด้วยหรอก"  นารูมิจี้ใจดำเคลลี่อย่างนึกสนุก  ในเมื่อไม่มีอะไรทำ  ได้แกล้งคนแก้เซ็งก็ยังดี 

แต่เธอก็ต้องเสี่ยงโดนควันบุหรี่พ่นใส่หน้าอย่างนี้แหละ

"เลิกสูบได้ไหมเนี่ย  อยากหน้าแก่นักหรือไง"

"หน้าฉัน  ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ  ไปไกลๆ รำคาญ"  เคลลี่ว่า  ดูดบุหรี่เข้าปอดยาวๆ  เห็นนารูมิหันหน้าไปทางอื่นก็สั่นหัวแล้วเบนหน้าไปอีกทางพ่นควันไปทางนั้นแทน  แล้วดับมันกับทรายบนหัวถังขยะ

เธอกำลังจะเดินกลับไปหาแอนน์  แต่เห็นชายท่าทางแปลกๆ แอบมองแอนน์อยู่  เธอจะเดินไปหาเขา  หากนารูมิแทรกตัวเดินนำไปหน้าตาเฉย  เคลลี่ส่ายหน้าให้ความใจร้อนของหญิงสาว  พลางล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรออกหาใครบางคน

"พี่  คนนี้ฉันขอ"  เธอกรอกเสียงลงไป  ปลายสายหัวเราะร่วน  กวนประสาทเธอได้น่าเตะที่สุด  "เฮ้  เห็นแก่พ่อแม่ที่ตายไปแล้วของฉันบ้าง"

"อยากได้ก็เอาไป  เอาทำเมียซะเลยสิ  จะปล่อยไว้ทำไม"

"ไม่เอา  ฉันอยากให้เขารักฉัน  ฉันจะไม่บังคับใครเรื่องนี้  ไม่เหมือนพี่หรอก  ฉันเป็นคนดี"

"ฉันจะรอดูน้ำหน้าคนดีอกหัก"

"ไอ้พี่ชั่ว"

"อ้าว  ก็จริงนี่"  คนอีกฟากพูดกลั้วหัวเราะ  "ถามจริง  ช่วยตัวเองมันไหม  ทำไมไม่หาเอาแถวๆ นั้นสักคนล่ะ  แก้ขัดไปก่อน  จะทนไปทำไม"

"ไม่  ฉันไม่อยากได้คนอื่น  ฉันอยากได้เธอคนเดียว"

"ฉันจะส่งเทปนี้ไปให้อนาสตาเซียคนสวยฟัง  เผื่อเธอจะเห็นใจเจ้ามดแดงแฝงพวงมะม่วงอย่างเธอบ้าง  เจ้าเค"

"ไม่ต้องยุ่งเรื่องฉัน  จัดการเรื่องตัวเองเหอะ  เอาเจ้าพวกนี้ออกไปด้วย  เดี๋ยวเขากลัว"

"ฉันอยากรู้จริงๆ  อนาสตาเซียมีดีอะไร"

"ถามเมียพี่ดู"  เคลลี่ตอบ  กดตัดสายทิ้ง  เก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า  แล้วเดินไปดึงแขนนารูมิออกจากทางที่จะไปหาชายแปลกๆ คนนั้น  นารูมิมองหน้าเธอแปลกใจ 

"ฉันจัดการเอง  ไม่ใช่เรื่องของเธอ"

"ไม่ใช่ได้ไง  ก็ฉัน --"  นารูมิชะงักเมื่อนิ้วชี้ของเคลลี่แตะปากเธอ  ความรู้สึกประหลาดก่อตัวขึ้นมากับสัมผัสนั้น  หัวใจกระตุกกับท่าขยิบตาก่อนจะเดินจากไปของช่างภาพจอมกวน

หญิงสาวสั่นหัวให้ตัวเอง  เธอจะต้องบ้าแน่  ถ้าเห็นเคลลี่เท่บาดใจ  เธอไม่เคยชอบผู้หญิงสักหน่อย  ยิ่งผู้หญิงขวางโลกแบบนี้ด้วย

"โทรไปหาคุณวิคขอเปลี่ยนงานได้ไหมวะ"  นารูมิบ่น  ล้วงกระเป๋าจับโทรศัพท์มือถือพลิกไปมาอยู่ในนั้นอย่างตัดสินใจไม่ได้  และเธอก็กดโทรออกเมื่อเคลลี่เข้าไปยืนข้างอนาสตาเซีย  โอบไหล่สาวตัวเล็ก  พาหลบจากฝูงผู้คนที่กำลังกรูเข้ามาดูโชว์แสงไฟหลากสีอันน่าทึ่งบนถนนสายโลกีย์เส้นนี้

เธอไม่ชอบเป็นคนที่สามเลยจริงๆ  ถ้าเลือกได้...

...............................................

กว่าจะได้อยู่กันตามลำพังก็ค่ำมืดแล้ว  ตอนนารูมิกลับห้องไปแล้ว  แอนน์อาบน้ำชำระคราบเหงื่อไคลไล่กลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไป  ดีใจที่วันนี้ไม่ปวดท้องเมนส์  ไม่อย่างนั้นคงทำงานลำบาก  เธอเปลี่ยนผ้าอนามัยไปสองครั้ง  ครั้นจะใส่ถ้วยรองประจำเดือนก็ไม่ชอบให้อะไรมาค้างอยู่ในตัว  เหมือนที่ไม่ชอบใส่ผ้าอนามัยแบบสอดนั่นแหละ

ออกมาจากห้องน้ำก็เห็นเคลลี่หลับสบายอยู่บนเตียง

แอนน์เดินต่อไปนั่งทาครีมที่โต๊ะเครื่องแป้ง  ตอนนี้ไม่ต้องถ่ายคลิป  เธอจึงไม่ต้องสวมเสื้อคลุมให้ดูน่ากังขาว่ามีอะไรอยู่ข้างในหรือไม่  ทั้งที่จริงๆ สวมเสื้อกล้ามกับกางเกงขาสั้นแล้วทุกครั้งแบบนี้แหละ

เธอเหลือบมองเคลลี่ที่ยังหลับไม่รู้เรื่อง  ดูเหมือนเจ้าตัวโตจะเพลียแดดอันร้อนแรงของลาสเวกัส  ปกติอยู่แต่ที่หนาวเย็นก็แบบนี้  เธอเองก็ยังรู้สึกเหมือนจะไม่สบายเลย  ยิ่งเป็นประจำเดือนก็ยิ่งอ่อนแอ  วันนี้เธอร้อนจนเกือบจะเป็นลมหลายครั้ง  ถ้าไม่ได้พัดลมมือถือกับพิมเสนที่เคลลี่คอยส่งให้

แอนน์กัดปากยิ้มเมื่อนึกถึงสายตาเคลลี่เวลาเช็ดเหงื่อให้ระหว่างถ่ายคลิปที่ถนนฟรีมอนต์ตอนสาย  เธอรู้สึกว่าเคลลี่ทำท่าคล้ายกับอยากจะจูบเธออยู่หลายครั้ง  แต่ไม่ได้ทำ  เธอเองก็อยากจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนให้รู้ว่าเธอไม่ได้รังเกียจกันเลย  หากตอนนี้ยังทำไม่ได้  เธอยังไม่โสด 

ถึงจะเป็นแค่กิ๊กของผู้หญิงที่มีคู่หมั้นแล้ว  เธอก็ควรต้องหมดพันธะเสียก่อน  แต่เมื่อไหร่กันล่ะ  วิคโตเรียถึงจะปล่อยเธอ  กว่าจะถึงวันนั้นเคลลี่จะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่นก่อนไหมนะ

"แอนน์"

เจ้าของชื่อกะพริบตา  หันมองคนที่ปรือตาล้าๆ มามองเธอ  แอนน์ทาครีมบนตัวจนเสร็จ  แล้วลุกขึ้นมาดูเคลลี่  รู้สึกว่าอีกฝ่ายหน้าแดงผิดปกติ  เธอวางหลังมือลงบนแก้มคนน้อง

"ตัวรุมๆ แฮะ  ไม่สบายหรือเปล่า"

"ไม่รู้ดิ"  เคลลี่พูดแล้วปิดปากไอ  สงสัยวันนี้สูบบุหรี่มากไป  เสียงก็หายด้วยแฮะ 

แอนน์เดินไปหยิบขวดน้ำในตู้เย็น  เลือกขวดที่ไม่ค่อยเย็นออกมา  ถือมันมาส่งให้เคลลี่ที่ลุกขึ้นนั่งรับมันไปเปิดดื่มเอง  เคลลี่ขยับตัวหนีเมื่อเธอโน้มตัวไปใกล้เพื่อจะดมพิสูจน์กลิ่น  ทำท่าเหมือนเธอน่ากลัวมาก

"อะไร  จะไปไหน"  วล็อกเกอร์สาวดึงคอเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายไว้ไม่ให้เคลลี่หนีเธอได้อีก  น้องมันทำหน้าเลิกลั่กหวาดระแวง  น่าขำชะมัด

"แล้วพี่จะทำอะไรฉันล่ะ  อย่านะ"

"นี่อย่ามาทำสะดิ้งได้ไหม"

เคลลี่หัวเราะพรืด  แล้วไอจนตัวโยนหน้าแดงก่ำ  แอนน์ยื่นมือมาลูบหลังให้  เธอยิ้มแหยๆ  ผงกหัวและพยายามดื่มน้ำให้หายคอแห้ง

"เลิกสูบบุหรี่สักทีเถอะ  วันนี้สูบไปกี่มวน"  แอนน์ถาม  เพราะเคลลี่ขอไปสูบบุหรี่แทบทั้งวัน  เธออยากจะห้ามแต่ก็ไม่รู้จะทำในฐานะไหน  บางทีมันก็พูดยาก  ในเมื่อเธอคิดไม่ซื่อกับเขา

"ถามว่ากี่มวน"

"เอ่อ  ก็...ครึ่งซองมั้ง"  เคลลี่ตอบ  แล้วหดตัวหนีเพราะแอนน์เข้ามาล้วงๆ ค้นๆ หาซองบุหรี่ในตัวเธอ  เกือบจับโดนอะไรๆ ของเธอเลย

"แอนน์!"

"โกหก  เกือบหมดซองแน่ะ!"  แอนน์โวยวาย  ยื่นซองบุหรี่ให้เคลลี่ดู  ลืมดูไปเลยว่าตัวเองนั่งคร่อมบนตักน้องมันอยู่  เพิ่งมารู้สึกก็ตอนเห็นเคลลี่หน้าแดง  และไม่ได้ไอออกมา  จะถัดตัวลงก็ไม่อยากไป 

"ปกติไม่ได้สูบเยอะแบบนี้นี่"

"อาห์  ก็มัน..."  เคลลี่เกาหัวตัวเอง  พลางแบมือขอซองบุหรี่คืน  แต่แอนน์โยนมันไปใส่ถังขยะที่มุมห้อง  แม่นอย่างกับจับวาง

"เฮ้ย  มันแพงน่ะนั่น"

"แพงก็ดี  จะได้ไม่ต้องซื้อ  พอแล้ว  ไม่ต้องสูบแล้ว  เดี๋ยวตาย"

"ไม่ตายหรอก  ฉันแข็งแรง"

แอนน์จะดุ  แต่เคลลี่ก็ไอหนักจนเธอต้องลูบหลังให้อีก  หยิบขวดน้ำมาเปิดให้ดื่ม  "เอายาอมไหม  ฉันมีฟิชเชอร์แมนส์ฯ  ซิตรัส"

เคลลี่พยักหน้าหงึกๆ  หน้าแดงจัด  ยังไออยู่  แอนน์จึงจะลุกไปหยิบยาอมมาให้  หากอีกฝ่ายกลับรั้งเธอไว้  กอดเธอแน่นจนอึดอัด  หน้าอกเราเบียดกันจนรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจ  เคลลี่ใจเต้นแรงแต่อาจจะเพราะไอแรงๆ  หลายที  แต่ที่เธอใจเต้นแบบนี้มันเพราะอะไรกันล่ะ

"เค  ปล่อย  พี่จะไปเอายาให้"

"ขอแป๊บนึง"

แอนน์พยักหน้าเบาๆ อยู่บนบ่ากว้าง  รู้สึกถึงปลายนิ้วที่กดแผ่นหลังเธอไว้  เคลลี่เหมือนอยากจะทำอย่างอื่น  หากระวังตัวและอดกลั้น  เธอชอบแบบนี้จริงๆ  เธอรู้สึกว่าตัวเองมีค่าพอให้เขาทะนุถนอม  ให้เกียรติกัน

"เลิกบุหรี่ได้ไหม  เค  พี่ขอ"  เธอพูด  ฉวยโอกาสตอนที่ยังมีโอกาส  ก่อนที่เคลลี่จะได้สติ  และตั้งคำถามที่เธออาจยังตอบไม่ได้ 

"พี่ห่วงเธอนะ  ไม่ได้อยากจะบังคับ  พี่อยากจะอยู่กับเธอไปนานๆ  จะให้ขอร้องก็ได้  เอ้า"

เคลลี่ดันตัวออกห่าง  แอนน์กลัวว่าน้องจะหนี  แล้วเธอจะไม่มีเหตุไปรั้งเขาไว้  แต่ปรากฏว่าเคลลี่แค่ออกไปมองหน้าเธอด้วยสายตากับรอยยิ้มที่เหมือนดีใจมาก  แบบนี้น่าจะเดาคำตอบได้แล้วใช่ไหม

"มองแบบนี้ทำไมเล่า"  แอนน์แกล้งโวย  หยิกสองแก้มเคลลี่  ดึงมันจนยืด  น้องมันหัวเราะแล้วขยับเข้ามา  แอนน์หลับตาปี๋  หัวใจเต้นตึกตัก  ทั้งกลัวทั้งอยาก  เผลอเงยหน้าขึ้นหา  แต่สัมผัสอุ่นกลับจรดลงบนหน้าผากเธอ

น่าแปลก  เธอรู้สึกอุ่นที่หัวใจมากกว่าถูกจูบปากเสียอีก

แบบนี้เรียกว่า  "ความรัก"  หรือเปล่านะ

"ถ้าเลิกได้แล้วจะมาขอ...ตรงนี้"

แอนน์ลืมตามองตาคนที่ทาบนิ้วลงบนริมฝีปากเธอ  สายตาเคลลี่ทำให้เธอเผลอจูบปลายนิ้วนั้น  เจ้าของมันหน้าแดง  และทำเป็นกระแอม

"ยังอยากได้ยาอมอยู่ไหม"  เธอถาม  จับมือที่ใหญ่กว่าเอาไว้  เคลลี่พยักหน้า  คราวนี้ยอมปล่อยให้เธอลุกขึ้นจากตักแต่โดยดี  แต่ยังแอบมองก้นเธอตอนเธอหันหลังหยิบของในกระเป๋าให้

"ฉันเก็บค่าดูแพงนะ  มีเงินหรือเปล่า"  แอนน์แกล้งพูด  เหลียวแต่หน้าไปมองเคลลี่ที่กว่าจะยอมเลื่อนสายตาขึ้นจากก้นเธอได้ก็พักใหญ่

เธอก็ชอบถูกมองแบบนี้เหมือนกันนะ

"เลิกบุหรี่ก็มีเงิน"  เคลลี่ตอบด้วยรอยยิ้มกวนๆ  ชวนให้มันเขี้ยวจนแอนน์ต้องเอาซองฟิชเชอร์แมนส์ เฟรนด์  กลิ่นซิตรัสปาใส่หน้าและวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป  เอามือยัดปากกรี๊ดไม่ให้มีเสียงคนเดียว



..................................


คราวหน้าจะเรทให้น้อยลง   :01: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

10 กันยายน 2019 เวลา 12:48:41
อ้าว นารูมิ นางจะเป็นก้างคู่ไหนกันหว่า
แสดงความคิดเห็น