ถ้าเธอจะร้ายฉันก็จะรัก yuri ตอนที่ 13
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 28 ธันวาคม 2018 เวลา 14:54:38
อ่าน: 72
|
ภาพเมื่อคืนยังตามติดให้โยษิตานึกหงุดหงิดมาจนถึงเช้าของวันใหม่และพาลไปถึงการทำงานที่ไม่ว่าจะเป็นใครหน้าไหนก็เข้าหน้าผู้บริหารสาวไม่ติดเลยสักราย ผู้หญิงคนนั้นสินะที่เป็นเหยื่อรายใหม่ของคนใจร้ายดูท่าจะหัวอ่อนยิ่งกว่าเธอเสียอีกสินะ คิดแล้วก็พานให้หงุดหงิดจนถึงขั้นกวาดเอกสารทุกอย่างที่อยู่บนโต๊ะลงพื้นให้คนที่โชคร้ายที่บังเอิญมีเรื่องด่วนได้เข้ามาเห็นคาตา "เอ่อ?" "มีอะไร" "เรื่องปัญหาที่สาขาของเรามีปัญหาน่ะค่ะดิฉันเห็นว่าเป็นเรื่องด่วนก็เลย?" "ก็เอามาสิ!" "ค่ะๆ มาแล้วค่ะ" เลขาผู้โชคร้ายรีบเดินไปเสนอแฟ้มงานทันทีหากแต่ความเร็วที่คิดว่ามากที่สุดในชีวิตก็ยังไม่เท่าใจที่ร้อนของคนรอ "ถ้าครั้งหน้าคุณยังช้าแบบนี้เตรียมหางานใหม่ได้เลยนะ" ........ "ออกไปได้แล้วเดี๋ยวฉันจะเรียกเอง" "แต่?" "เชิญ" ประโยคคำสั่งดังขึ้นให้คนถูกเชิญได้หน้าซีดจำต้องรีบทำตามให้เร็วที่สุดเห็นเขาว่าวันนี้มีร่างประทับของเจ้าแม่กาลีอยู่ใกล้ๆ แต่ใครจะไปคิดว่าจะใกล้กันขนาดนี้"
โยษิตาตรวจแฟ้มงานที่สาขามีปัญหาอย่างละเอียดก่อนจะพบว่าเป็นความผิดของห้างๆ หนึ่งที่ดูแล้วก็คุ้นชื่ออย่างน่าประหลาดและพอคิดไปคิดมาก็ให้นึกได้ว่ามันเป็นของคนที่เธอเกือบจะต้องแต่งงานด้วย ป่านี้อีตาพิศาลนั่นจะหยุดสาปแช่งเธอหรือยังนะที่ดันหายตัวไปในวนแต่งงานคิดเรื่องนี้มีไรก็พานให้นึกถึงใครอีกคนขึ้นมาแล้วก็ให้ต่อมโมโหทำงานขึ้นอีกครั้งแต่เพียงได้เห็นว่าใครโทรมาใบหน้าบึ้งตึงก็กลับปรากฎรอยยิ้มขึ้นทันที มันไม่ใช่รอยยิ้มอย่างคนมีความสุขหรอกนะแต่มันเอาออกมาใช้สำหรับคนที่ต้องการเอาคืนต่างหาก ที่จริงก็ว่าจะปล่อยผ่านไปแล้วนะแต่ใครอีกคนผิดเองที่โผล่มาให้เธอเห็นแล้วไหนจะรอยยิ้มและดวงตาคู่นั้นอีก เธอเกลียด เกลียดเจ้าของมันที่สุด!!!
เสียงเรียกเข้าและปลายสายที่เอ่ยถึงบางอย่างที่โยษิตาให้ไปสืบมันคืบหน้ามากและง่ายดายเสียจนให้นึกโทษความโง่ของตัวเอง ตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงวันนี้เธอก็ยังเป็นคนที่โง่ที่สุดในเรื่องนี้และอย่างที่เคยป่าวประกาศไว้ว่าหากโชคชะตานำพาให้กลับมาพบกันอีกครั้งเธอจะไม่มีวันให้ชีวิตของใครอีกคนเป็นสุขได้อีกเลยและแม้ตอนนี้เขาจะไม่ใช่โจรเรียกค่าไถ่อย่างที่เคยเข้าใจก็ตามทีเถอะ อย่างไรเสียการเอาคืนนี้ก็ต้องเกิดขึ้น คุณผิดเองนะที่โผล่มาให้ฉันเห็นเองคุณพีรยา พิทักษ์ไพรศาล ดวงตาคู่วาวโรจน์ฉายชัดถึงความเจ็บแค้นที่มีมากกว่าเดิมหลายเท่าเพราะเมื่อประติประต่อในเรื่องราวแล้วก็ยิ่งให้ได้รู้ว่าคนพวกนั้นอยู่ในกระบวนการเดียวกันแน่ๆ และต่อจากนี้ไปโยษิตาคนนี้จะไม่ใช่ฝ่ายถูกกระทำอีกแล้วอยากทำร้ายเธอดีนักใช่ไหม" ดี! เธอจะเอาคืนให้ถึงที่สุด!! คอยดู!!!
หลายวันมานี้พีรยาเข้ามาทำงานด้วยความหวาดระแวงที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และในที่สุดความรู้สึกนั้นก็หมดลงด้วยความสบายใจที่เข้ามาแทนที่ เสียงเคาะประตูดังขึ้นไม่กี่ครั้งก่อนที่ประตูจะเปิดออกโดยคนที่เข้าๆ ออกๆ ได้ตามใจชอบอย่างธิติมาให้พีรยาได้เปิดยิ้มรับเพียงแต่ว่าก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อได้เห็นท่าทางเงะงะของอีกฝ่ายแล้วไหนจะหน้าตาราวกับคนถ่ายไม่ออกนั่นอีก จะเข้ามาป่วนอะไรเธออีกกันนะ "เป็นอะไรคุณธิติมาทำหน้าแบบนี้ไปห้องน้ำก่อนมั้ย" ........... ไม่มีการตอบรับหากแต่เม็ดเหงื่อที่ผุดออกมาบนใบหน้านั้นก็ทำให้พีรยายิ่งหลุดหัวเราะก่อนจะเดินก้าวเท้าไปหาคนที่ไม่ยอมเดินเข้ามา อย่าบอกนะว่าปวดหนักจนเดินไปเองไม่ไหว "เป็นอะไรอิมอย่าบอกนะว่าจะให้พีอุ้มไปห้องน้ำ" คนถูกถามส่ายหน้าไปมาพร้อมกับดวงตาที่เหลือบแลไปด้านหลังมันดูประหลาดจนทำให้พีรยาต้องชะโงกมองตาม ธิติมาอยากจะให้เธอดูอะไรอย่างนั้นหรือ" และเพียงชะโงกหน้าไปมองตามที่ใครอีกคนบอกพีรยาก็แทบจะหยุดหายใจเมื่อพบว่าสาเหตุของอาการปวดหนักของธิติมาคืออะไร ไหนบอกเรื่องมันจบแล้วไงแต่ทำไม?"!"! "เจอกันจนได้นะคะ" น้ำเสียงเย็นๆ ของคนที่ยืนอยู่ด้านหลังธิติมาถูกเอ่ยออกมาให้พีรยาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ไม่น่าเป็นไปได้หรือเธอจะฝัน" "โอ๊ยยยยย ไม่ได้ฝันแน่ๆ ค่ะคุณพี" เสียงธิติมาดังขึ้นอย่างดังเมื่อคนที่คิดว่าฝันฟาดมือลงที่แก้มของเธอเพื่อพิสูจน์ในเรื่องราว "ตัวจริงเสียงจริงเลยแหละที่นี้ฉันเข้าไปได้หรือยัง" "เอ่อ"พีต้องไปประชุมคงไม่ว่างต้อนรับคุณ" พีรยาเอ่ยอ้างให้คนฟังได้เปิดยิ้มน่ากลัวและนั่นทำให้คนพูดอ้างต้องหันไปหาคนสนิทที่เปิดยิ้มแหยๆ ส่งมาให้กัน ตัวลีบขนาดนี้คงถูกเค้นความลับไปหมดแล้วสิท่า" "เชิญค่ะ" ไม่ใช่เจ้าของห้องที่เอ่ยคำนี้แต่เป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญต่างหากที่พูดมันออกมาด้วยความมั่นใจ "อ๋อ ฉันขอน้ำมะนาวเย็นๆ ด้วยล่ะชงให้อร่อยนะ" เป็นคำขอที่ทำเอาคนฟังถึงนึกอยากจะหดตัวให้เล็กเท่ามดเพื่อที่จะได้หลบสายตาคู่อำมหิตที่ใช้มองกัน "ระระรอสักครู่นะคะ" "รอได้สิ รอมาตั้งนานแล้ว รออีกหน่อยจะเป็นไรกัน" ธิติมาเผลอเงยหน้าไม่สบสายตาของคนพูดเข้าให้อย่างจัดทำเอาแข้งขาอ่อนจนแทบจะทรุดไปกองที่พื้น ขนาดเธอยังถูกข่มขู่ด้วยความน่ากลัวขนาดนี้แล้วกับอีกคนที่ก่อเรื่องเอาไว้เยอะกว่าเป็นสิบเท่าจะเป็นยังไง ในตอนนี้ต้องไปชงน้ำมะนาวก่อนหรือควรจะชงน้ำใบบัวบกแก้ช้ำในก่อนกันนะ สับสนไปหมดแล้ว!
พีรยาไม่นึกคุ้นกับดวงตาคู่ที่ใครอีกคนใช้มองกันเลยจริงๆ มันดูน่ากลัวจนทำให้เธอไม่อาจที่จะจ้องมองได้นาน "ที่ฉันมาก็เรื่องงานทั้งนั้น" "คะ?" "คุณคงจะพอรู้บ้างกับเรื่องที่ห้างของคุณไร้คุณภาพทำให้เครื่องเพชรในร้านของฉันเสียหาย" "ก็เอ่อก็ พอจะทราบบ้างค่ะ" พีรยาเอ่ยอย่างแบ่งรับแบ่งสู้เพราะในเรื่องนี้เธอเพียงรับข่าวสารมาเท่านั้นส่วนปัญหาและการจัดการเป็นหน้าที่ของพี่พิศาลที่ต้องเข้าไปดูแล "ทางคุณจะรับผิดชอบยังไงคะ" "คือเรื่องนี้มันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ และทางเราจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุดค่ะ" "ยังไง" "เอ่อ?" ....... "พอดีเรื่องนี้พีไม่ได้ดูแลน่ะค่ะหากคุณโยษิตาอยากรู้ความคืบหน้าคงต้องให้คนดูแลโดยตรงอย่างพี่พิศาลอธิบาย" โยษิตาทิ้งลมหายใจออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจให้คนพูดได้ใจเสียเพราะไม่เคยได้เห็นท่าทางเอาเรื่องแบบจริงๆ จังๆ นี้เลยสักครั้ง กับตอนที่จับตัวคนตรงหน้าไปก็ได้เห็นเพียงมุมของคุณหนูเอาแต่ใจแต่พอมาพบกันในฐานะผู้ดูแลกับลูกค้าก็ทำให้เธอเกร็งจนจะเป้นตะคริวไปทั้งตัวแล้ว "ต้องขอโทษด้วยนะคะเอาไว้ฉันจะบอกให้พี่พิศาลติดต่อคุณอีกที" "ไม่ต้องขอโทษถ้าคุณไม่ได้รู้สึกแบบนั้นจริงๆ" โยษิตาเอ่ยเสียงห้วนดวงตาคู่ไม่พอใจจ้องมองไปยังคู่สนทนาที่ดูภายนอกให้ความรู้สึกราวกับเด็กน้อยที่ไร้พิษสงหากแต่ความจริงแล้วเขาคือคนที่ลอบจัดและร้ายกาจที่สุดในโลกสำหรับเธอ "ฉันไม่คุยกับใครทั้งนั้นนอกจากคุณ" "แต่พี่?" "ฉันบอกเค้าแล้ว" ..... "เจอกันครั้งหน้าหวังว่าคุณจะมีทางออกดีๆ ให้ฉันนะ" ....... "ขอตัว" โยษิตาเอ่ยจบก็ลุกขึ้นเตรียมเดินออกจากห้องให้คนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาได้เกิดอาการหน้าซีดทันทีเมื่อมองหน้าเจ้าของเครื่องดื่มที่ตัวเองกำลังถืออยู่ คุยอะไรกันน่ะเสร็จเร็วชะมัดยังไม่ได้เสิร์ฟน้ำเลย!!! "ถ้าช้าแบบนี้ครั้งหน้าเอามาให้ฉํนทำเองก็ได้นะ" "จริงเหรอคะ" คำพูดที่ถูกเอ่ยออกมาให้เจ้าของประโยคได้ตาโตตกใจในสิ่งที่หลุดปากออกมา ธิติกาแกจะปากไวกับคนน่ากลัวแบบนี้ไม่ได้! "พวกคุณนี่สมแล้วนะที่คบกันได้" ........ ....... "ความจริงฉันว่าจะกลับเองแต่เปลี่ยนใจล่ะ" ... ... "รบกวนไปส่งที่บ้านด้วยนะคะ" "คะ!?" "ส่งหน้าบ้านไม่ใช่ปากซอยเข้าใจใช่มั้ยคะ" พีรยาและธิติมาหันมามองหน้ากันอย่างอึ้งๆ หากแต่มีหรือที่ใครจะกล้าพูดปฏิเสธคนที่ในเวลานี้เปลี่ยนจากสถานะเหยื่อมาเป็นคนลงมือบ้างแล้ว โยษิตาในตอนนี้มีข้อต่อรองมากกว่าพวกเธอหลายเท่าตัว ไหนจะเรื่องงานแล้วไหนจะคำขู่ที่ดังขึ้นมาอีกครั้งให้หายใจแทบไม่เป็นจังหวะงานนี้แม้แต่สิทธิ์ต่อรองเธอก็คงจะไม่มีทางได้รับแน่ๆ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|