ส่องหัวใจเธอให้เจอรัก yuri ตอนที่ 13
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 22 ธันวาคม 2018 เวลา 13:00:19
อ่าน: 19
|
หลังจากกลับมาจากทริปทะเลก็มีเรื่องชวนให้คิดตะวันปวดหัวมากขึ้นเมื่อมีใครบางคนเกิดหลงเสน่ห์คุณหมอสายน้ำเข้าให้จนถึงขนาดตามมาเอาคำตอบที่เคยร้องขอกับเธอที่นี่ "หมวดชิตตะวันผมขอคุยด้วยหน่อยสิ" "ได้ค่ะสารวัตร" "งั้นเชิญทางนี้" "ค่ะ" ชิดตะวันรับคำก็เดินตามคนที่มีตำแหน่งสูงกว่าไปติดๆ เธอควรจะหลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้ไปให้ห่างแต่ทำไมกันนะยิ่งพยายามหลบหนีกลับยิ่งพบเจอ เธอควรที่จะอธิบายอย่างไรดีว่าอย่างเธอไม่มีสิทธิ์เป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับหมอสายน้ำหรอกเพราะแค่หน้าเธอเจ้าหล่อนยังไม่อยากจะมอง หากใครคิดที่จะเข้าทางเธอขอบอกไว้เลยว่าไม่มีทางสมหวังเป็นอันขาด "คุณรู้ใช่มั้ยว่าผมจะพูดเรื่องอะไร" "ก็พอรู้บ้างค่ะ" "แล้วคุณจะให้คำตอบว่าอย่างไร" "คือ..." "ผมไม่ได้มีอะไรเสียหายคุณรู้ใช่มั้ย" "....................." "ฐานะทางบ้าน ครอบครัว ชื่อเสียงของผมก็ไม่ด้อยกว่าหมอน้ำเลยสักนิด" "สารวัตรคะ" "ทำไมล่ะ ผมยังมีอะไรที่ขาดตกบกพร่องอยู่งั้นเหรอผู้หมวดถึงได้ไม่คิดอยากที่จะช่วย" "มันไม่ใช่แบบนั้นนะคะคือฉันกับหมอสายน้ำไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นช่วยไปสารวัตรก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรหรอกค่ะ" "แต่คุณก็ไปไหนมาไหนกับเธอได้" "หรือว่า..." "ถ้าคุณบอกผมอยู่ที่ไหนทำอะไรแค่นั้นก็ถือว่าช่วยได้มากแล้ว" น้ำเสียงจริงจังถูกเอ่ยขึ้นมาให้ชิดตะวันได้เกิดความหนักใจมากขึ้นเธอรู้ว่าสารวัตรกศินเป็นคนดี ครอบครัวก็มีหน้ามีตาในสังคมจัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง เขาดูเหมาะกับหมอสายน้ำมากจริงๆ แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันคนไม่เหมาะอาจจะใช้ให้คนที่ถูกเกลียดมาเป็นแม่สื่อแม่ชัก "แค่คุณรายงานผมแค่นั้นก็พอไม่ต้องทำอะไรมากหลังจากนั้นผมจะจัดการเอง" "....................." "หมวดช่วยหน่อยนะคุณไม่อยากให้หมอสายน้ำเจอคนดีๆ เหรอ" "อยากสิคะ" "ก็ผมไงอย่างผมยังดีไม่พออีกเหรอ" ชิดตะวันมีท่าทีลังเลเล็กน้อยเพราะความจริงที่รู้อยู่แก่ใจแต่พอมาคิดๆ ดูหากหมอสายน้ำมีคนดูแลที่ดีหน้าที่ในการดูแลของเธอก็จะจบลง คุณหมอคนสวยก็จะไม่ต้องตื่นสายอีกต่อไปเรื่องดีๆ อาจเกิดขึ้นต่อจากนั้นนั่นก็คือ...ความทุกข์ใจที่อาจจะสูญสลายไปด้วยความรักครั้งใหม่ "ว่าไงหมวดผมรอคำตอบอยู่นะ" "......................" "......................" "ก็ได้ค่ะแต่ฉันไม่รับปากนะว่าจะช่วยสารวัตรให้สมหวังได้" "ไม่เป็นไรผมขอแค่ข่าวจากคุณจากนั้นผมจะทำในวิธีของผมเอง" "ก็ได้ค่ะ" "มันต้องแบบนี้สิขอบใจนะ" พูดจบสารวัตรหนุ่มก็เดินออกไปอย่างอารมณ์ดีทิ้งให้คนได้รับหน้าที่ใหม่มีสีหน้ากังวลและหนักใจเพราะความรู้สึกสับสนที่อยู่ๆ ก็ผุดขึ้นมาในใจ หวังว่าการตัดสินใจในครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง หวังว่าใครอีกคนจะหลุดพ้นจากความเศร้าในใจเสียที หวังว่าความรักครั้งใหม่จะเกิดขึ้นได้ในอีกเร็ววัน
วันนี้เป็นวันที่ชิดตะวันต้องมารับตัวคนร้ายที่หายจากอาการบาดเจ็บกลับไปกักขังในเรือนจำดังเดิมหญิงสาวเปิดยิ้มเมื่อมองเห็นใครบางคนที่ดูท่าจะยุ่งอยู่ไม่น้อยถึงจะมีสี่หน้าบูดบึ้งอยู่แบบนั้น เรื่องบ้างานไม่ใช่นี่แค่เธอคนเดียวสินะ "อรุณสวัสดิ์ค่ะผู้กองวันนี้คนไข้เยอะหรือไงคะถึงได้หน้ามุ่ยขนาดนี้" "คนไข้ไม่เยอะหรอกค่ะแต่ตำรวจที่ผ่านมานี่แหละที่เยอะ" "กองไว้ได้หมายถึงฉันใช่มั้ยคะ" "แล้วคุณคิดว่าใช่หรือเปล่าล่ะ" ศจีเอ่ยถามแทนที่จะเป็นตอบหากแต่ดวงตาที่มองจ้องมาก็ทำให้คนถูกถามรู้ถึงคำตอบในทันที "ไปดื่มกาแฟกันไหมคะฉันมีร้านอร่อยๆ แนะนำหลายร้านเลยนะ" คุณชวนเปิดยิ้มหากแต่พอนึกขึ้นได้ถึงงานเอกสารที่กองรวมอยู่บนโต๊ะก็ทำให้ต้องส่ายหน้าไปมาอย่างนึกเสียดาย "อยากไปค่ะแต่คงไปไม่ได้" "มีอะไรให้ช่วยมั้ยคะ" คนถูกถามทำท่าคิดหนักก่อนจะเปิดยิ้มกว้างที่ทำให้คนมองต้องยิ้มตามเรากลับเป็นกลไกอัตโนมัติของร่างกายที่บันทึกไว้ว่าต้องหยักริมฝีปากขึ้นเมื่อได้เห็นรอยยิ้มนี้ "แค่นี้แหละค่ะ" "คะ?" ชิดตะวันอุทานขึ้นมาอย่างสงสัยกลับคำตอบที่คิดว่าคนตรงหน้าได้รับแล้วแต่คนที่ควรทําอย่างเธอกลับยังไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยสักนิด "ฉันยังไม่ได้ช่วยอะไรเลยนะคะ" "ใครบอกคุณทำแล้วต่างหาก" "ทำอะไรคะ" ศจีชี้ไปยังริมฝีปากของตัวเองที่ยังคงยิ้มอยู่จากนั้นก็เลื่อนมือไปยังริมฝีปากของอีกคนที่กำลังยิ้มตามนิ้วมือชี้สลับสับเปลี่ยนไปมาเพื่อให้คนสงสัยได้เข้าใจเอง "แค่ฉันยิ้มเนี่ยนะคะ" "ใช่แค่คุณยิ้มก็ทำให้เรื่องหนักใจของฉันเบาลงได้แล้วขอบคุณนะคะ" "แค่นั้น" คนถูกถามพยักหน้าก่อนจะก้มมองนาฬิกาแล้วทำสีหน้าตกใจ "ฉันต้องไปก่อนนะคะมีประชุม" "ไว้คราวหน้าฉันจะซื้อกาแฟร้านอร่อยๆ มาให้นะคะ" "พูดแล้วนะ" "สัญญา" "จะรอนะคะไปก่อนนะเข้าสายเดี่ยวผู้ใหญ่ดุ" คนพูดวิ่งไปแล้วให้คิดตะวันได้เปิดอย่างนึกขำในท่าทางโก๊ะๆ ของคนที่วิ่งห่างออกไปหากมีใครได้เห็นคุณหมอผู้กองคนเก่งที่สุดแสนจะเนี้ยบในท่าทางแบบนี้ล่ะก็คงได้พากันไม่เชื่อแน่ๆ ดวงตาคู่คมดึงกลับมาอย่างทางเดินที่เป็นเป้าหมายหลักแต่ยังไม่ทันได้เดินไปต่อก็มีอันต้องเปลี่ยนเส้นทางเดินอีกครั้งเมื่อมองเห็นว่าใครบางคนกำลังมองมาและกำลังจะหนีไปในอีกไม่ช้า "สวัสดีค่ะหมอสายน้ำ" ไม่มีเสียงตอบรับหรือแม้แต่หันกลับมามองแต่ชิดตะวันมั่นใจว่าใครอีกคนรู้ว่าเป็นเธอแน่ๆ เมื่อสักครู่ยังเห็นมองกันอยู่เลยแต่พอถูกจับได้กลับทำเมินใส่เสียได้ "วันนี้อากาศดีนะคะ" "..............." "คุณกินอะไรหรือยังออกไปหาอะไรกินกันมั้ยคะ" ".............." "วันนี้ตอนเย็นคุณไม่เข้าเวรให้ฉันมารับมั้ยคะ" ".............." "ถ้าคุณเบื่อร้านอาหารเราซื้ออะไรไปทำกินกันเองดีมั้ยคะ" ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับหรือปฏิกิริยารับรู้ว่ามีการพูดคุยกันเกิดขึ้นให้ชิดตะวันได้รู้สึกว่าเป็นการสื่อสารทางเดียวที่คงไม่มีวันได้รับคำตอบเป็นแน่แต่แล้วการที่คนข้างๆ หยุดเดินแล้วหันมามองหน้ากันก็ทำให้เธอเกิดความหวังขึ้นในใจ หมอสายน้ำอาจจะอยากกินฝีมือของเธออีกเพราะเท่าที่ทำข้าวต้มในวันนั้นที่อีกฝ่ายป่วยเธอก็รสชาติไม่เลวเท่าไหร่ ใครอีกคนจะติดใจก็ไม่น่าจะแปลกอะไร "ว่าไงคะคุณหมออยากกินอะไร" "ฉันว่าฉันกับคุณรู้เรื่องแล้วนะ" "คะ?" "คุณอยากทำอะไรก็ทำไปแต่อย่ามายุ่งกับฉันแค่นั้นเองทำให้ไม่ได้เหรอ" "................." "ฉันไม่ชอบคุณ เกลียดคุณ ไม่อยากที่จะเห็นหน้า ไม่อยากพูดด้วยทุกอย่างคือเรื่องจริงที่ฉันว่าฉันก็แสดงออกชัดเจนแล้วนะแล้วทำไมคุณถึงทำเป็นไม่รู้อีก" "................." "เพื่อนของฉันหรือคุณพ่อคุณแม่ของอธิปอาจจะยกโทษไม่โกรธคุณแต่ไม่ใช่ฉัน" "คุณหมอ..." "อย่าทำให้ฉันรู้สึกไม่ดีกับคุณมากไปกว่านี้เลยนะคะ พอเถอะ" ชิดตะวันนิ่งฟังคนเบื้องหน้าระบายความรู้สึกออกมาด้วยอาการตัวชาไปทั้งตัวเธอรู้ดีถึงความรู้สึกนี้แต่มันก็ยังเจ็บปวดเมื่อได้ยินทุกอย่างออกมาเป็นคำพูด แต่! เธอจะทำอย่างที่ใครอีกคนต้องการได้อย่างไร "ตั้งแต่เจอกันฉันแทบนับไม่ได้พวกพูดคำว่าขอโทษไปแล้วกี่คำและวันนี้ฉันก็คงต้องพูดคำนั้นอีก" สายน้ำมองจ้องคนที่พูดไม่รู้เรื่องด้วยความรู้สึกหงุดหงิดในตอนนี้เธอไม่รู้แล้วจริงๆ ว่าควรจะพูดกับเขาว่าอย่างไร ควรต้องใช้ถ้อยคำแบบไหน เรียบเรียงยังไงถึงจะทำให้เขาคนนี้ถอยห่างออกไปจากเธอเสียที "คุณยังต้องการอะไรจากฉันอีก" "ฉันขอโทษค่ะแต่ฉันตั้งใจเวลาว่าจะดูแลคุณจนกว่าจะมีคนที่เหมาะสม คนที่น่าวางใจจากนั้นฉันจะไปเองค่ะ" "แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณและที่สำคัญฉันไม่ต้องการให้คุณดูแล" "ขอโทษค่ะ" "เลิกพูดคำนี้ได้แล้ว" "ฉันขอโทษจริงๆ ที่ทำตามความต้องการของคุณไม่ได้" "ฉันบอกให้เลิกพูดไง" "หมอสายน้ำคะ..." "อย่ามายุ่งกับฉันแล้วก็เลิกพูดคำน่ารำคาญคำนั้นเสียที" พูดจบสายน้ำก็ผลักคนที่ยืนขวางให้ออกไปนอกเส้นทางก่อนจะเดินหนีไปโดยไม่ฟังอะไรอีกเธอสุดจะทนแล้วกับคนพูดจาไม่รู้เรื่อง หากเขาคิดว่าการทำแบบนั้นจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นแล้วล่ะก็?. สายน้ำขอบอกไว้เลยว่ามันเป็นความคิดที่ผิด เธอเกลียดเขาและมั่นใจว่ามันจะไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้แน่ๆ มื้อเย็นที่ดูเรียบง่ายกลายเป็นน่าเบื่อไปทันทีเมื่อสายน้ำมองเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามาแต่เธอก็ชักสีหน้าได้เพียงผู้เดียวเท่านั้นเมื่อมองเห็นว่ามีใครอีกคนเดินตามชิดตะวันมาด้วย "สวัสดีครับเจอกันอีกแล้วนะ" ชายหนุ่มที่เดินตามหลังชิดตะวันเอ่ยทักทายคนที่นั่งอยู่ก่อนจากนั้นก็หยุดสายตาไว้ที่คนที่ตัวเองอยากจะพบหน้าที่สุด "เจอกันอีกแล้วนะครับหมอสายน้ำ" "ค่ะ" "หมวดมาทำอะไรที่นี่คะ" อริสาเป็นคนเปิดประเด็นที่สงสัยขึ้นมาให้ชิดตะวันได้เปิดยิ้มน้อยๆ ส่งไปให้ยังคนถาม "มาเรื่องงานกับสารวัตรน่ะค่ะเสร็จแล้วก็เลยมาหาอะไรกินกัน" "ร้านนี้ท่าทางอาหารอร่อยนะคะดูสิคนแน่นเชียว" "เอ่อ จะเป็นอะไรมั้ยคะถ้า..." "ไม่..." สายน้ำพูดออกมาได้เพียงคำเดียวก็ถูกคนข้างๆ เอื้อมมือไปปิดปากให้เจ้าตัวได้รู้สึกหงุดหงิดเพราะบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้น "นั่งด้วยกันก็ได้ค่ะ" "จะดีเหรอครับ" "หรือว่า..." "นั่งครับนั่งผมหิวไส้จะขาดอยู่แล้ว" เล่นตัวต่อไปก็ไม่ได้ประโยชน์สารวัตรหนุ่มจึงถึงมาดน้ำตกปากรับคำในทันทีก่อนจะหันมาขยิบตาให้กับคนที่พามาเพื่อให้นั่งลงตาม ชิดตะวันนั่งลงด้วยท่าทางเกร็งๆ จะมีใครถูกสายตาคู่ไม่พอใจเล่นงานแบบจังๆ เช่นเธออีกไหมนะ ดูสารวัตรกศินจะอารมณ์ดีมากเสียจนไม่สังเกตว่าบรรยากาศในโต๊ะได้เปลี่ยนไปแล้ว หม่นหมอง มืดมน จนน่าอึดอัดขนาดนี้ยังจะมายิ้มได้อีกต้องยกนิ้วให้จริงๆ สายน้ำกินอาหารโดยไม่พูดอะไรแต่ที่เธอสังเกตได้ก็คือการที่ชิดตะวันพยายามชวนเพื่อนทั้งสองของเธอคุยเรากลับไม่ได้เจอกันมาเป็นแรมปีมันทำให้เธอรู้สึกแปลกใจไม่ยิ่งชายหนุ่มเพียงคนเดียวในโต๊ะพยายามเอาใจ ชวนพูดคุย ตักโน่น ตักนี่ ตักนั่นให้ มันก็ยิ่งส่อถึงเจตนาอะไรบางอย่างซึ่งเธอก็ไม่ได้ใสซื่อจนจะดูไม่ออก สายน้ำรวบช้อนในจานเข้าด้วยกันก่อนจะแปลสายตาไปยังใครอีกคนที่ดูวันนี้จะพูดมากเป็นพิเศษ "ผู้หมวดชิดตะวันคะ "คะ!?" คนถูกเรียกมีอาการตกใจไม่น้อยเพราะไม่คิดว่าจะถูกชวนคุยด้วยคนที่ไม่ชอบกันหากแต่สายตาคู่ดุที่คุณหมอสายน้ำใช้มองกันก็ทำให้รู้สึกใจฝ่ออย่างไรพิกล "ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยเชิญทางนี้หน่อยค่ะ" ".................." "มาสิคะ" พูดจบสายน้ำก็ลุกเดินไปให้คนถูกเรียกต้องรีบเดินตามดูเหมือนว่าเรื่องบางเรื่องจะถูกคนบางคนรู้ทันเขาเสียแล้วเพราะฟังจากน้ำเสียงและดูจากแววตาก็รู้ได้ทันทีว่าเจ้าของมันกำลังโมโหและหงุดหงิดอยู่ในเวลานี้
เมื่อเดินมาถึงยังจุดปลอดคนคนเดินนำก็เปิดประเด็นทันทีให้ชิดตะวันได้มีสีหน้าเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัด "คุณเป็นคนทำให้อธิปจากฉันไปยังทำร้ายเค้าไม่พออีกเหรอถึงจะหาคนมาแทนที่เค้าแบบนี้" "ฉันแค่อยากให้คุณมีคนดีๆ คอยดูแล" "ฉันขอหรอ" น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นอีกครั้งให้คนทำผิดได้ล่วงรู้ถึงผลตอบรับที่ดูแล้วคงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ "ฉันขอโทษค่ะ" "คุณพูดคำนี้มากี่ครั้งแล้วถามจริงเถอะว่าทุกครั้งที่พูดมันออกมาคุณรู้สึกถึงคำๆ นี้จริงๆ หรือเปล่า" "ทุกอย่างที่ฉันทำออกมาจากใจจริงนะคะ" "แต่ฉันไม่ต้องการ" "หมอสายน้ำคะคือ..." "อย่าทำแบบนี้อีกถ้าไม่รู้สึกผิดกับตัวเองก็รู้สึกผิดกับพี่ชายของคุณบ้าง" คนพูดเดินจากไปแล้วให้ชิดตะวันได้รู้สึกผิดต่อใครอีกคนขึ้นมาจริงๆ มาคิดดูกับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้เธอก็มีความผิดจริงๆ เธอไม่ควรจับคู่ให้กับหมอสายน้ำเพราะมันคือการก้าวก่ายที่มากเกินไปแค่เพียงเฉียดเข้าไปใกล้มันก็มากเกินกว่าที่ใครอีกคนจะทนรับได้แล้ว กับแค่เรื่องง่ายๆ แบบนี้ทำไมถึงเพิ่งคิดได้กันนะ...
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|