web stats

ข่าว

 


Gemini_SNSD Fan-Fiction - ตอนที่ 17 ความสัมพันธ์เชิงซ้อน

โพสต์โดย: anhann วันที่: 22 มิถุนายน 2017 เวลา 21:43:38 อ่าน: 293



ตอนที่ 17 ความสัมพันธ์เชิงซ้อน





ยุนอาสะดุ้งเฮือกเมื่อเดินออกจากลิฟต์แล้วเห็นคนยืนรออยู่  แต่ต่อมาเธอก็พบว่า  พวกเขาก็แค่คนทั่วๆ ไปที่ต้องการขึ้นไปบนอพาร์ตเมนต์ที่เธอเพิ่งลงมาเท่านั้น 

ดาราสาวสั่นศีรษะให้ตัวเอง  พลางกดหมวกแก๊ปบนศีรษะให้แน่นขึ้น  ดันแว่นดำเข้ากับสันดั้งจมูก  พยายามก้มศีรษะให้ต่ำลง  แต่ก็ยังไม่พ้นสายตาสงสัยของใครๆ อยู่ดี  บางทีการพรางตัวแบบนี้อาจยิ่งทำให้เป็นพิรุธมากกว่าเธอเดินปกติเสียอีก  แล้วจะให้ทำยังไงได้ล่ะ

ยุนอาก้าวขาช้าลงเมื่อมองเห็นขาใครบางคนคุ้นตาอยู่เบื้องหน้า  เธอค่อยๆ ช้อนสายตาสูงขึ้น  แล้วเลิกคิ้วประหลาดใจเพราะจำได้ทันทีว่าเป็นใคร  แม้อีกฝ่ายจะยืนหันหลังอยู่

ใครจะจำแฝดตัวเองไม่ได้บ้างล่ะ

"เจให้มาทวงรถคืน"

เสียงใครคนนั้นเอ่ยขึ้นทันทีที่เธอมาหยุดยืนอยู่ข้างๆ  ยุนอาชำเลืองมองใบหน้าเรียบนิ่งที่สวมเพียงแว่นดำอย่างเดียว  ไม่มีหมวกมาบดบังเส้นผมสีดำเงายาวสลวยถึงกลางหลัง  เธอเพิ่งรู้สึกว่าคริสตัลคล้ายดารามากกว่านักสืบอย่างที่ใครๆ บอกจริงๆ  มิน่าล่ะ  เจ้านายเธอจึงอยากจะได้ตัวน้องแฝดของเธอไปร่วมงานด้วยนัก  คงมีสาวๆ หนุ่มๆ กรี๊ดกร๊าดกันน่าดูเชียว  จะว่าไปน้องเธอก็เพิ่งได้รับโหวตเป็นนักสืบสาวที่มีคนอยากได้เป็นแฟนที่สุดของปีนี้ไปนะ

พวกเขาจะร้องไห้กันไหมนะ  ถ้ารู้ว่าน้องเธอมีเมียแล้ว...ตลกจัง


"ใส่แว่นดำกับหมวกแบบนี้นะ  ยิ่งเป็นจุดสนใจ"  คริสตัลเอ่ยต่อ  แล้วออกเดินโดยไม่ชวน  เพราะรู้ว่าแฝดของตนจะต้องตามมาอยู่แล้ว  และยุนอาก็เดินตามมาติดๆ ราวกับกลัวใครจะมาจับตัวไปถ้าเดินคนเดียว

"เอากุญแจรถมา"

"แล้วรถเธอล่ะ"  ยุนอาสงสัย  แต่พอละสายตาจากมือน้องที่แบมาขอกุญแจรถมินิคูเปอร์ของพี่สาว  ก็เห็นรถอีกคันตรงหางตาพอดี

"ว้าว  ซอฮยอน"  เธอล้อเลียนด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ  แต่คริสตัลกลับไม่สนใจ  กระดิกนิ้วเรียกหากุญแจรถต่อ  แล้วบีเอ็มสีดำของหัวหน้านักสืบก็ขับออกไปโดยไม่ได้ลดกระจกลงมาทักทายกัน

"เย็นชาพอกันแบบนี้  บ้านไม่ยิ่งหนาวเหรอเนี่ย"

"ถามเจสิ"  คริสตัลตอบ  ฉกกุญแจรถไปจากมือพี่แฝดที่ถือมันเล่นราวกับจะถ่วงเวลากัน  "มาเร็วๆ ยุน  ช่วงนี้ไม่ค่อยเป็นข่าวหรือไง"

"อย่าประชดกันนักเลยน่า  ซูจอง"  ยุนอาบ่น  แม้จะรู้แก่ใจว่าคริสตัลตามมาเพราะเป็นห่วง  และจริงๆ ตอนนี้เขาควรอยู่กับแทยอน  ไม่ใช่เธอ

"แล้วแทยอนอยู่กับใคร"  เธอถาม  ขณะที่น้องสาวสตาร์ตรถ  คริสตัลดึงแว่นดำออกมาเสียบกับคอเสื้อยืดคอกลมสีดำด้านในแจ็กเกตหนังสีกาแฟ  หมุนพวงมาลัยพารถออกจากลานจอดรถภายในอาคารอพาร์ตเมนต์ซึ่งค่าเช่าแพงหูดับ  เหมือนมีไว้สำหรับคนมีเงินกับพวกเซเลบริตีเท่านั้น

"เจกับยูล"  คริสตัลตอบ  ยุนอาถอดแว่นดำกับหมวกออก  สยายผมไปพลางกะพริบตามองน้อง  แปลกใจกับชื่อที่ไม่ได้ยินมานานแล้ว

"ยูล?  ยูริน่ะเหรอ"

แฝดน้องพยักหน้า  "มาทำงานแทนฉัน  น่าเซ็งใช่ไหมล่ะ"

ยุนอาสั่นศีรษะไปมา  ยิ้มอย่างเข้าใจน้องแฝด  เธอเอื้อมมือมาตบบ่าคริสตัลอย่างให้กำลังใจ  "เอาน่า  ได้อยู่กับเมียตลอดเวลา  ดีจะตายไป  ไม่เห็นต้องไปอยากทำงานอย่างอื่นเลยนี่  นี่ได้ทั้งงานได้ทั้ง..."

"แทยอนไม่ใช่เมียฉัน"  คริสตัลแย้งเสียงขุ่น  แต่ใบหูนี่แดงไปหมดแล้ว

"ไม่ใช่เมีย  แล้วที่ฉันเห็นเธอร้องห่มร้องไห้แทบตายตอนหล่อนจะไปน่ะ  มันเพราะอะไร  ขนาดซอฮยอนไม่รับรัก  เธอยังไม่เป็นแบบนั้นเลย"

"นั่นมันเพราะว่า..."  คริสตัลเอ่ยแล้วหยุด  เปลี่ยนมาเสยผมแทน  คิดไม่ออกว่าจะแก้ตัวกับพี่สาวยังไง  แล้วยุนอาก็กดศีรษะเธอจนคอเกือบย่น  แต่เธอกลับรู้สึกอบอุ่นเวลาพี่ทำแบบนี้  เพราะพี่เข้าใจเธอโดยไม่ต้องพูดอะไร

"แล้วพี่ล่ะ  มาแย่งงานฉันแบบนี้ได้ไง"

ยุนอาเลิกคิ้ว  แล้วยักไหล่อย่างไม่แคร์  "เธอควรขอบคุณฉันต่างหาก  ฉันทำให้เรื่องง่ายขึ้นนะ ซูจอง"

จอง ซูจองส่ายหัวไปมาอย่างไม่เห็นด้วย  "ง่ายเหรอ  ฉันว่าพี่จะทำให้ไก่ตื่นมากกว่ามั้ง  มิสฮวังไม่ใช่ธรรมดาแน่นอน  ฉันหมายถึง  หล่อนจะต้องมีแบ็กดีมากๆ  และไอดอลที่ไหนจะเป็นแบบนี้บ้างล่ะ  นอกจากจอง ยุนอา"

"นั่นอาจหมายความว่า  ฉันกับเขาเป็นคู่ที่เหมาะสมกันก็ได้นะ"

"นี่ยังไม่เลิกเพ้อถึงหล่อนอีกเหรอ  ทั้งที่หล่อนเป็นแบบนี้เนี่ยนะ"

"ไม่รู้สิ  ฉันว่าหล่อนเซ็กซี่ดี  ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น"  ยุนอาตอบ  ยิ้มให้น้องแม้เขาจะทำหน้ายี้กลับมาให้  "ทำไม  ทีเธอล่ะ  นั่นลูกสาวมาเฟียนะ  จำไม่ได้หรือไง  ว่าเคยเกลียดตระกูลนั้นเข้าไส้ขนาดไหน  พ่อโรมิโอ"

"อย่างน้อย  ก็ไม่ใช่แก๊งเดียวกับที่ฆ่าพ่อเราละ"

ฝาแฝดสบตากันนิ่งก่อนคริสตัลจะกระตุกยิ้มมุมปากแล้วหันไปสนใจถนนเบื้องหน้าต่อ  และต่อให้ไม่มอง  เธอก็รู้ว่ายุนอากระอักกระอ่วนใจน่าดูกับเรื่องที่เธอพูดออกไป  เพราะพี่รู้ว่าเธอตามสืบเรื่องนี้มาตลอด

"ไม่ต้องห่วงหรอก  ฉันไม่โง่เอาตัวเองไปเสี่ยงกับเรื่องในอดีตแบบนั้น  มันผ่านไปแล้ว  ยุน  ต่อให้ฉันรู้ว่าใครที่อยู่เบื้องหลังการตายของพ่อเรา  แล้วที่จับได้น่ะเป็นแค่แพะ  ฉันก็ไม่รื้อคดีขึ้นมาใหม่หรอก  เพราะพ่อคงไม่ชอบ"

"ฉันหวังว่า  เธอจะพูดจริงนะ  ซูจอง"  ยุนอาพูด  ปรามน้องไปในตัว  พร้อมกับภาวนาในใจให้เขาเชื่อเธอบ้าง  หรือเชื่อเจสสิก้าก็ยังดี 

คริสตัลใจกล้าเกินไป  บ้าระห่ำจนทำให้เธอกับพี่สาวกังวลอยู่เสมอ  ขนาดเจสสิก้าหลุดจากวงจรพวกนี้ไปเป็นหมอเต็มตัวแล้วก็ยังต้องหวนกลับมา  เพราะไม่อยากให้น้องต้องอยู่ในที่แบบนี้คนเดียวโดยไม่รู้อะไรเลย  เธอก็ด้วย  เป็นแค่นางเอกละครเฉยๆ  เธอก็สบายดีอยู่แล้ว  ไม่จำเป็นต้องมาปวดหัวเพิ่ม  หรืออาจจะพ่วงความช้ำใจไปด้วยอีกต่างหาก 

"อย่างน้อยก็จำเอาไว้ว่า  เธอไม่ได้ตัวคนเดียว  จอง ซูจอง"

"มันอยู่ในสมองกับตรงนี้อยู่แล้วแหละ  ยุน" 

ยุนอามองแฝดน้องเอานิ้วจิ้มตรงอกซ้ายของตัวเองแล้วยิ้มกว้าง 

"จูบทีได้ไหม  คริส"

คริสตัลทำหน้าสยอง  สั่นศีรษะให้กับคำขอของแฝดพี่  แต่พอจอดรถหน้าบ้านตัวเองแล้ว  เธอกลับดึงแขนยุนอาที่กำลังจะลงจากรถมาหา  แล้วเป็นฝ่ายจูบพี่สาวเอง  จูบนานจนยุนอาเคลิ้มลูบแก้มเธอไปมาแถมครางอืมเบาๆ จะไม่ยอมปล่อยอีกต่างหาก

"พอแล้ว!"  แฝดน้องเบี่ยงหน้าหนีก่อน  เพราะยิ่งนานเธอก็รู้สึกว่าจะโดนพี่สาวลวนลามมากขึ้น  ถึงคราวนี้เธอจะฝ่ายเริ่มก็ตาม

"เลิกเป็นพี่น้องกันแป๊บนึงได้ไหม  คริส"

"ไม่  อย่ามาหื่นไม่เลือกได้ป่ะ" 

"แต่เธอเริ่มก่อนนะ"

"ฉันแค่อยากบอกรักยุนเฉยๆ"  คริสตัลตอบ  ยุนอาชะงักทันที

แฝดพี่ถอนหายใจเบาๆ พลางเสยผมตัวเอง  ยังไม่อยากเข้าบ้านตอนที่ยังรู้สึกไม่พร้อม  แน่นอนว่า  น้องแฝดของเธอรู้  ถึงได้ยอมทำเรื่องที่ไม่ชอบ  คริสตัลมักจะจูบเธอเวลารู้สึกว่าเธอไม่ค่อยสบายใจ  เธอไม่รู้ว่าน้องทำไมถึงรู้  แต่คงเหมือนที่เธอก็รู้เสมอเวลาที่เขาเป็นทุกข์



ความเงียบปกคลุมบรรยากาศในรถที่ยังติดเครื่องอยู่  ฝาแฝดไม่ได้พูดจาอะไรกัน  แค่สบตากันเป็นบางครั้งบางคราว  ที่สุดยุนอาก็ดึงคริสตัลเข้ามากอด  แล้วปล่อยให้น้องลูบศีรษะกับแผ่นหลัง

"จริงๆ แล้ว  เรามีกันแค่สองคนก็ได้  ไม่เห็นต้องมีใครเลย"

"ไม่จริงหรอก  พี่ยังต้องการคนอื่นอยู่  ยุนอา  เพราะโลกนี้มันกว้างเกินไปสำหรับเราสองคน  และอีกอย่าง  เราจะลืมเจไปได้ยังไงล่ะ"

"อืมม์..."  ยุนอาฮัมรับ  หลับตาอยู่กับบ่าน้องสาว  "ฉันอยากหลับ  แบบว่า...พอตื่นขึ้นมาแล้ว  เรื่องยุ่งๆ ก็หมดไปเลย"

"แบบนั้น  ยุนก็จะเบื่ออีกน่ะสิ  เพราะมันง่ายเกินไป"  คริสตัลกระซิบ  รู้สึกได้ว่าพี่แฝดยิ้มอยู่ตรงบ่า  "ยุนรู้ป่ะ  ถ้ามีใครเก็บรูปเราสองคนตอนนี้ไปได้  ฉันอาจต้องไปนั่งโต๊ะแถลงข่าวกับพี่อีกรอบ"

"ก็สนุกดีไม่ใช่เหรอ  น่าตลกจะตาย  เป็นข่าวกับฝาแฝดตัวเอง" 

"ตลกตายล่ะ  แสงแฟลชทำร้ายสายตาฉันมาก  แถมฉันยังต้องมานั่งรับจดหมายจากแฟนคลับอีก  ฉันไม่ใช่ดารานะ  พี่สาว  อีกอย่างฉันก็ทำงานโคตรลำบากเลย  โจรเห็นหน้าฉันหมดแล้ว"

ยุนอายิ้ม  เล่นเส้นผมนุ่มๆ ของคริสตัลไปพลาง  "คิดถึงเธอจัง"

คริสตัลเลิกคิ้ว  เหลือบมองพี่สาวตรงบ่า  "ยุน  คุณฮวังไม่ใช่คนร้ายหรอกน่า  อย่าเพิ่งคิดมาก  มันยังไม่มีอะไร"

"แต่หล่อนหลอกฉัน  และฉันน่าจะรู้  ทำไมฉันถึงโง่ล่ะ  ซูจอง"

"เวลารักใครสักคน  เราก็คงโง่มั้ง  แต่ไม่หรอก  บางทีเราก็แค่พยายามมองข้ามสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่ดีไป  มันจะเรียกว่าอะไรนะ  อ้อ  แกล้งโง่มั้งนะ"

"เธอกำลังใช้จิตวิทยาของตำรวจกับฉันอยู่หรือเปล่า  คริสตัล"

"ถ้าเป็นแบบนั้น  ฉันคงไม่ยอมถูกกอดอยู่แบบนี้หรอก  มันอัดอึดนะ  รู้บ้างไหม  แถมกระดูกยุนยังทิ่มฉันด้วย"

"บ่นจริง  ฉันไม่ได้ตัวนุ่มนิ่มแบบแทยอนสินะ"

"รู้ตัวก็ดีแล้ว"  คริสตัลตอบเสียงขำ  ตบหลังยุนอาแปะๆ อีกสองทีแล้วดันตัวเองออกมา  "เข้าบ้านกันเถอะ  เจเป็นห่วง  และยุนก็ควรรู้นะว่า  เวลาเจเป็นห่วงน่ะ  บ้านเราจะหนาวขึ้นมามากแค่ไหน"

"อา... ฉันนึกถึงราชินีเอลซ่าแห่งเอเรนเดลล์ขึ้นมาเลย"

"ฉันก็คิด"  แฝดน้องเห็นดีเห็นงามกับพี่สาว  ยิ้มให้กันแล้วผลักประตูลงรถไปก่อน  จากนั้นก็เดินอ้อมมาเปิดประตูรถอีกฝั่งให้ยุนอาที่ยิ้มชอบใจมาก

"ก็เธอเป็นแบบนี้  จะไม่ให้ฉันติดนิสัยได้ยังไงล่ะ  ซูจอง"

จอง ซูจองทำหน้าเหลอหลา  ทำเป็นไม่รู้เรื่องที่พี่บ่น  แต่ก็ส่งมือให้จับ  ฉุดให้ลุกขึ้นมา  และปิดประตูให้  พอจะปล่อยมือ  ยุนอาก็ไม่ยอมอีกแล้ว

"แค่วันนี้  คริส  แล้วพรุ่งนี้  ฉันจะเป็นคนเดิม"

คริสตัลพยักหน้ารับ  กระชับมือแฝดพี่ให้แน่นขึ้น  แววตาของยุนอาจึงสดใสขึ้นมาอีกเล็กน้อย  ดูดีกว่าตอนเธอเจอใต้อพาร์ตเมนต์ของทิฟฟานี่

"ฉันอยู่กับยุนเสมอนะ"

ยุนอาชำเลืองมองน้องขณะเดินเข้าบ้านด้วยกัน  เธอพยักหน้า  ยิ้มรับสายตาห่วงใยนั้นที่เธอเห็นมันมาตั้งแต่เกิด  และอุ่นใจเพราะมันเสมอ

........................................

ทิฟฟานี่นั่งเหม่ออยู่บนโซฟาภายในห้องนั่งเล่น  นานแค่ไหนเธอก็จำเวลาไม่ได้  คงตั้งแต่ยุนอากลับออกไป  ไฟโคมเพียงดวงเดียวทำให้ห้องมืดน่าดู  แต่เธอกลับชอบมัน  เพราะมันให้ความสงบกับเธอได้  ทว่าวันนี้มันต่างออกไป  จิตใจเธอไม่สงบเลยสักนิดเดียว 

เธอไม่เคยคิดว่าตัวเองทำผิด  แต่ทำไมวันนี้จึงรู้สึกผิด...

เพราะสายตาผิดหวังของจอง ยุนอา  อย่างนั้นหรือ?



เสียงเคาะประตูห้องดึงสายตาเธอให้เหลียวไปมอง  เพราะมันเป็นการเคาะในลักษณะของสัญญาณที่ทำให้เธอรู้ว่าใครมา

ประตูถูกเปิดออกด้วยมือเธอเอง  ไม่จำเป็นต้องมองตาแมวดูก่อน  แต่ผู้มาใหม่ก็เหนี่ยวคิ้วไม่ค่อยชอบใจนัก

"ไม่คิดจะเช็กดูก่อนหรือไง  มันอาจไม่ใช่ฉันก็ได้นะคะ  ออนนี"  ไอรีนบ่นอุบ  แต่ก็ยอมดึงมือออกจากกระเป๋าเสื้อแจ็กเกตเบสบอลมารับขวดเบียร์เย็นๆ จากเจ้าของห้องไปถือไว้

"เรียกฉันมาทำไมคะ"  ผู้มาเยือนถาม  หลังกระดกแอลกอฮอลล์ลงลำคอแห้งผากของตัวเองไป

"เราถูกจับได้แล้ว"  ทิฟฟานี่ตอบ  แต่สีหน้าเฉยเมยจนคนฟังเลิกคิ้ว

"แล้วยังไงคะ  ตำรวจจะเรียกเราไปสอบสวนหรือ  ไม่สิ  ฉันไม่เกี่ยว"

"ทำไมจะไม่เกี่ยว  ไอรีน  เธอน่ะถูกตำรวจล้วงกระเป๋าด้วยซ้ำ" 

ไอรีนกลอกตามองเพดาน  นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็เจ็บใจทุกครั้ง

"เพิ่งรู้ว่า  เดี๋ยวนี้เขาเอานักล้วงมาเป็นตำรวจแล้ว"

ทิฟฟานี่สั่นศีรษะ  โบกมือไปมา  "พอเถอะ  พูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น  ยังไงมันก็จบไปแล้ว"

"ก็จริงค่ะ"  ไอรีนเห็นด้วย  จิบเบียร์ไปอีกอึก  เหลือบมองเจ้าของห้องที่ไปนั่งก้มหน้ากุมศีรษะตัวเองอยู่บนโซฟา  มองไปมองมาก็นึกอะไรขึ้นมาได้

"พี่คะ  ฉันว่า  มันยังไม่จบนะ"

"อะไรอีก  ไอรีน  เราไม่มีอะไรเหลือแล้ว  มันโดนลบไปหมดแล้ว"

"เราก็หาใหม่สิคะ"

ทิฟฟานี่มองหน้าเพื่อนร่วมทีมรุ่นน้องด้วยสายตาราวกับเห็นไอรีนบ้าไปแล้ว  แต่คุณน้องหน้าขาว  เค้าหน้าจิ้มลิ้มไปหมดนั่นก็เอ่ยขึ้นมาอีก

"ถ้าเป้าหมายที่แท้จริงของพี่คือช่วยคุณคิม  เราก็ยังมีอะไรให้ทำอีกนะคะ  ยกเว้นว่า  จริงๆ แล้วพี่อยากจะทำลายเธอมากกว่า"

"ฉันเนี่ยนะ จะทำลายแทยอน  เธอบ้าไปแล้ว  ไอรีน"

"ก็นั่นน่ะสิ"  ไอรีนตอบ  อมยิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่อีกฝ่ายหรี่ตามอง

"คิดแผนเอาไว้หรือยัง"  ทิฟฟานี่ถาม  ประกายประหลาดปรากฏขึ้นในดวงตา  และมันก็สว่างไสวขึ้นเมื่อไอรีนพยักหน้ารับ

"มันต้องแบบนี้สิ  หุ้นส่วน"  เธอเอ่ย  คนอายุน้อยกว่ายิ้มชอบใจ

 

ไอรีนเป็นพวกบ้ายอ  และจะทำงานได้ดีเสมอเวลาถูกชม

................................................

แทยอนยืนกอดอกเหมือนคนขี้หนาว  แต่ไม่  เธอแค่รู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาแปลกๆ  แม้ตรงนี้จะมีตำรวจนอกเครื่องแบบที่เป็นทีมงานของซอฮยอนเดินไปเดินมาปะปนกับประชาชนทั่วไปอยู่

หรือเพราะคริสตัลยังไม่มา...

ทั้งที่บอกว่าจะมาเป็นเพื่อนเธอมาเจอพ่อด้วยกัน  แต่คริสตัลกลับพูดอีกอย่างตอนปลุกเธอให้ตื่นด้วยจูบ  ปลุกแบบที่ทำให้ส่วนอื่นของเธอตื่นตัวไปด้วยเลย  เกือบไปแล้วเชียว...

ที่ว่าให้งดสัปดาห์หนึ่งน่ะ  ไม่รู้ทรมานใครกันแน่  กลายเป็นเธอหงุดหงิดที่คริสตัลยอมเชื่อฟังเคร่งครัดแบบนี้  ทำไมทีอย่างนี้ไม่แหกกฎนะ

"พร้อมแล้วค่ะ  แทยอน"  ซอฮยอนเดินมากระซิบข้างกายนักร้องสาว

แทยอนพยักหน้ารับ  ตายังไม่วายมองหาคนที่หายไป  หากยังยอมเดินคู่ไปกับคุณหัวหน้านักสืบซึ่งจะเป็นคนพาเธอไปเจอพ่อในวันนี้

"อึดอัดหน่อยนะคะ"  ซอฮยอนบอก  และแทยอนเดาว่า  คงหมายถึงเสื้อกันกระสุนที่ให้เธอใส่ไว้ในเสื้อโค้ตอีกที

"ถ้าพวกเขายิงหัวฉัน  ฉันก็ตายอยู่ดีแหละค่ะ  จริงไหม"

"จริงค่ะ  แต่โอกาสนั้นมันเป็นไปได้น้อยนะคะ  อย่างน้อยคุณก็ควรจะไว้ใจฉันสักนิด  ถึงฉันจะไม่ใช่คริสตัล"

แทยอนกลอกตา  รู้สึกไม่อยากฟังชื่อคนคนนั้นขึ้นมาอย่างไรไม่ทราบ  อาจเพราะคริสตัลโกหกเธอ  มาหลอกให้เธอมีความหวัง  แล้วก็พังมันง่ายดาย  แต่เธอก็คงผิดเอง  ใครมันจะมาจริงจังอะไรกับคนที่เป็นแค่คู่ขากัน  ไม่แน่หรอก  ป่านนี้คริสตัลอาจตาสว่างแล้วก็ได้ว่าไม่ควรจะมาคิดอะไรกับลูกสาวมาเฟียแบบเธอ  เรามันอยู่คนละโลกกัน

แต่ทำไมเธอถึงเศร้าแบบนี้...



"คุณไม่แปลกใจสักนิดเลยหรือคะว่า  ทำไมคุณพ่อคุณถึงขอความช่วยเหลือจากตำรวจแทนที่จะปกป้องคุณเอง"

"เขาอาจขี้เกียจก็ได้"  แทยอนตอบอย่างไม่ใส่ใจ  หางตาเห็นซอฮยอนส่ายหน้าไปมาเอือมๆ  เธอก็ยักไหล่  "คุณไม่ควรถามฉันนี่คะ  ตั้งแต่ฉันมา  ฉันยังไม่เจอหน้าเขาเลย  คุณกับหัวหน้าของคุณต่างหากที่ควรบอกฉันว่า  ทำไม?  ทำไมฉันจะต้องมาอยู่แบบนี้  และทำไมฉันกลับบ้านฉันที่เกาหลีไม่ได้  ฉันน่ะ  ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่หรอกนะคะ  มันไม่ใช่ที่ของฉัน  หรือของแม่ฉัน"

"ฉันขอโทษค่ะ"  ซอฮยอนตอบ  แทยอนหันขวับไปมองตาขุ่น  ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด  เธอเกลียดท่าทางสุภาพ  มาดผู้ดีของหัวหน้านักสืบคนนี้ที่สุดในโลก  เพราะอะไร?  เพราะมันทำให้เธอเหมือนเป็นอีบ้าอยู่คนเดียวไง!

"นี่คุณ --"

"หยุดก่อนค่ะ  แทยอน"

นักร้องสาวหยุดตามคำขอหรือคำสั่งของอีกคนทันที  แต่เพราะเธอก็เห็นว่ามีกลุ่มคนท่าทางแปลกๆ เดินฝ่าฝูงชนที่มาจับจ่ายกันในย่านนี้  พวกเขาดูไม่เหมือนนักท่องเที่ยวเลย  ดูไม่ใช่คนดีซะด้วย

"อย่าถามฉันนะ  ฉันไม่รู้เรื่องกิจการอะไรของเขาสักอย่าง"  แทยอนออกตัว  ซอฮยอนพยักหน้าเคร่งขรึม  ดูเหมือนจะเชื่อเธอ  หรือรู้ข้อมูลดีอยู่แล้ว

"เราจะเดินต่อไหมคะ" 

หัวหน้านักสืบพยักหน้า  แตะศอกด้านหลังของคนในความคุ้มครองเบาๆ  เป็นสัญญาณให้แทยอนออกเดินต่อ  และขณะที่กำลังจะเดินสวนกันกับชายคนหนึ่งที่ดูแต่งตัวดีสุดในกลุ่ม  เขาก็กระซิบขึ้นมาด้วยเสียงอันเบา  แต่เธอกับซอฮยอนก็ยังได้ยิน...มันไม่ใช่ภาษาอังกฤษ

จากนั้นพวกเขาก็ผ่านพวกเธอไปโดยไม่ได้เหลียวหลัง

"เขาพูดว่า  ภัตตาคารจีน?"  ซอฮยอนถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ  ภาษาจีนของเธอไม่ได้แข็งแรงนัก  แต่แทยอนพยักหน้า  ภาษาจีนที่แม่บังคับให้เรียนมา  ไม่ได้เสียเปล่าก็คราวนี้แหละ

"เขาบอกว่า  พ่อฉันรออยู่ที่ภัตตาคารเสียนจี่เตียง  อะไรประมาณนี้แหละค่ะ  คุณรู้จักไหมคะ"

"ก็รู้จักนะคะ  แต่ว่า..."  หัวหน้านักสืบตอบ  กดหัวคิ้วลงอย่างครุ่นคิด  ขณะที่อีกฝ่ายรอฟังอย่างจดจ่อ  "แต่ฉันจำได้ว่า  มันปิดไปแล้วนะคะ"

"อะไรนะคะ"  แทยอนกะพริบตางง

"คือว่า  มันเป็นร้านที่ฉันกับคริสตัลเคยไปทำคดีน่ะค่ะ  เจ้าของถูกฆ่าตายยกครัว  แต่ฉันก็ไม่ได้ติดตามต่อนะคะว่า  มีใครทำยังไงกับมันอีก  พอคดีจบแล้ว  เราก็ไม่ได้ไปยุ่งแล้วค่ะ"  ซอฮยอนอธิบาย  แทยอนทำหน้าเข้าใจ

"แล้วเราจะไปกันไหมคะ"

ซอฮยอนพยักหน้ารับ  หันทิศเดินไปยังภัตตาคารที่ว่านั้น  พลางส่งสัญญาณให้ลูกน้องคนอื่นๆ ได้รับรู้ด้วย  ด้วยไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีก  เธอได้รับข้อมูลในเรื่องของแทยอนมาจากหัวหน้าของเธอน้อยมาก  มันดูจะเป็นความลับไปหมดจนเธออดสงสัยไม่ได้  ไม่ใช่คริสตัลคนเดียวหรอกที่ไม่ชอบใจเรื่องนี้  เธอก็รู้สึกมันมาก่อนเสียอีก  เพราะเธอรู้มาก่อน


หัวหน้านักสืบเหนี่ยวคิ้วอย่างไม่เข้าใจเมื่อมาถึงสถานที่ที่คนจากแก๊ง (ที่คาดว่าจะเป็นพวกฉาง) บอกแล้วมาเจอกับซากเละเทะของภัตตาคารซึ่งคล้ายจะไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยจากที่เธอเห็นมันครั้งล่าสุด

"ฉันว่า  เราถูกหลอกแล้วละค่ะ"  แทยอนเอ่ยขึ้นหลังจากยืนเงียบมาได้ครู่ใหญ่จนอดทนไม่ไหวแล้ว  และซอฮยอนก็หันขวับมาจ้องหน้าเธอราวกับเธอเป็นคนบอกให้มา  ทั้งที่เธอแค่เดินตามคุณนักสืบหน้าดุคนนี้มาเท่านั้นเอง

"เอ่อ  แต่บางทีก็อาจจะไม่..."  นักร้องสาวชะงักเมื่อมีบางคนถลามาตรงหน้าเธอ  เขาล้มหน้าทิ่มคล้ายกับโดนถีบมามากกว่าจะวิ่งมาเอง  พอเธอหันไปมองยังทิศทางที่เขาพุ่งมาก็พบกับคนที่เธอหมายมั่นตั้งใจว่าจะโกรธไปสัก 10 วัน  ไม่พูดด้วยเลย

"คริส...  เอ่อ  คริสตัล?"

เจ้าของชื่อยิ้มกว้างอย่างขี้เล่นให้แทยอนก่อนหันไปทำหน้าเข้มกับหัวหน้าของตน  และเอ่ยรายงานด้วยน้ำเสียงที่นักร้องสาวแน่ใจว่าไม่เคยได้ยิน

"เจ้าพวกนี้เป็นคนของฉางค่ะ  แต่ไม่ใช่จากมิสเตอร์ฉาง" 

ซอฮยอนเลิกคิ้วเล็กน้อย  มองชายหนุ่มที่ร้องโอดโอยตัวงอกุมท้องอยู่บนพื้นใกล้กับซากเฟอร์นิเจอร์ของภัตตาคารพังๆ  แล้วเหลือบตาไปด้านนอกตามสายตาลูกน้องคนโปรดไป  จึงได้เจอกับลูกน้องคนอื่นๆ ที่กำลังควบคุมคนที่ใส่ชุดแบบเดียวกันกับชายที่โดนคริสตัลยันหรือผลักมา  แปลว่าคนพวกนี้เป็นพวกเดียวกันหมดอย่างไม่ต้องสงสัย  เธอพยักหน้าให้คริสตัลพูดต่อ  แต่ลูกน้องคนดีของเธอกลับเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อชายหนุ่มที่ตัวใหญ่กว่าอย่างชัดเจนให้ลุกขึ้นยืน  พอเขาเงยหน้าขึ้นจึงได้เห็นว่าเขาสะบักสะบอมมาแค่ไหน  และเลือดตรงข้อนิ้วคริสตัลคงเป็นคำอธิบาย



"บอกมา  ไม่อย่างนั้นฉันจะส่งแกไปให้นายใหญ่  เดี๋ยวนี้"  คริสตัลขู่  ดูเหมือนจะได้ผล  เพราะชายหนุ่มหน้าตายับเยินมีท่าทางลนลานแสดงความกลัวออกมาอย่างจริงจัง  เขาอาจจะกลัวตาย  หรือโดนตัดอวัยวะ  ถ้ากลับไปที่ตั้งของแก๊งพร้อมกับคดีคนทรยศ

"หรือจะไปพูดที่สถานี..."

"ซ้อ!  ซ้อใหญ่ครับ"  เขารีบตอบ  แต่คริสตัลยังกำคอเสื้อเขาไว้อย่างไม่ไว้ใจ  ดวงตาคมเฉียบของเธอดุดันพอกับพวกเจ้านายของเขาเลยทีเดียว

"ผ... ผมพูดเรื่องจริงนะ  และจริงๆ แล้ว  ผมก็มีหน้าที่มารับคุณหนูไปเท่านั้นเอง  ไม่ได้จะทำอะไรเลยจริงๆ"

"รับไปไหน"  คริสตัลซัก  เหลือบมองแทยอนนิดหนึ่ง  และยิ้มมุมปากให้เป็นการส่งสัญญาณ  นักร้องสาวจึงพยักหน้าด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น  จากนั้นเธอก็กลับมาทำหน้าตึงใส่เด็กแก๊งต่อ

"ตกลงว่า  จะรับไปไหน"

"บ... บ้านครับ  บ้านใหญ่"  เขาตอบ  เกือบจะโล่งอกที่แรงมือของนักสืบสาวคลายออกจากคอเสื้อเขา  แต่ก็สะดุ้งอีกครั้งเมื่อคริสตัลกำมันใหม่  และกระชากอย่างแรง

"ทำไมต้องทำอย่างนั้น  ในเมื่อเจ้านายแกเป็นคนนัดให้เจอที่นี่"

"ผ...ผมไม่รู้ครับ  ไม่รู้จริงๆ"

"ฉันไม่เชื่อ!"

"จองคะ  พอก่อนค่ะ"  ซอฮยอนเข้ามาห้ามทันเวลาก่อนที่คริสตัลจะกระแทกดั้งอีกฝ่ายด้วยหมัดที่แม้จะไม่ใหญ่เท่าหมัดผู้ชายแต่ก็เจ็บใช่เล่น

"ถ้างั้น..."  คริสตัลคลายมือออกจากคอเสื้อเด็กแก๊งคู่อริ  เขาทรุดลงกับพื้น  ขณะที่เธอยืดตัวและตบมือเรียกความสนใจจากลูกน้องซึ่งซอฮยอนให้อำนาจเธอใช้งานพวกเขาได้

"หนุ่มๆ  พาพวกเขาไปสถานีค่ะ  เราจะไปสนุกกันที่นั่นต่อ"  เธอบอกด้วยรอยยิ้ม  บรรดาตำรวจนอกเครื่องแบบพวกนั้นจึงแทบจะรีบทำตามคำสั่งของเธอดุจข้าทาสบริวาร  และนั่นก็ทำให้คนที่ยืนมองอยู่นานแบบแทยอนนึกหมั่นไส้ขึ้นมา

ที่แท้ก็ไปมากับพวกผู้ชายพวกนี้เองเหรอ  หึ!



"หัวหน้าคะ  งั้นเรา --"

"จอง  คุณเลือดออก"  ซอฮยอนเอ่ยแทรก  พร้อมกับจับมือคริสตัลขึ้นมาตรวจดู  แล้วล้วงหาผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าด้านในเสื้อนอกออกมาเช็ดเลือดที่ตอนแรกนึกว่าเป็นเลือดของเด็กแก๊ง  แต่เพราะมันหยดลงพื้น  เธอจึงแน่ใจว่ามันไม่ใช่แล้วละ

"เอ่อ  มันแค่ถากๆ น่ะค่ะ  เขามีมีด"  คริสตัลชี้แจง  หน้าแดงไม่รู้ตัว  เพราะไม่บ่อยที่ใครจะใส่ใจเธอนอกจากครอบครัว  พวกผู้ชายที่ร่วมงานกันก็ไม่กล้ามายุ่งกับเธอนัก  ยกเว้นเดวิดซึ่งตอนนี้ถูกเธอขอให้ไปเฝ้าบ้านตระกูลฉางกับทีมของเขาอยู่

"คุณควรระวังหน่อยนะคะ  ยังไงก็เป็นผู้หญิง  แรงเราสู้พวกผู้ชายไม่ได้หรอกค่ะ  ถึงคุณจะมีวิชาแต่มันก็พลาดได้นะ"  ซอฮยอนบอกอย่างใจเย็น  พลางมัดผ้าเช็ดหน้ากับมือคริสตัลให้แน่น  ห้ามเลือดไว้ก่อนทำแผลจริง

"เอ่อ  ก็มัน..."  คริสตัลพูดไม่ออก  เอาแต่เกาแก้มด้วยมือข้างที่ไม่เจ็บ  ยังไงเธอก็ยังรู้สึกพิเศษกับซอฮยอนอยู่ดี  ทำยังไงได้ล่ะ  หลงรักมาตั้งสองปีแล้ว  ต่อให้อกหักไปแล้วอย่างชัดแจ้ง  ความรู้สึกมันก็ยังหลงเหลือ



"นี่  ฉันก็ไม่ได้อยากจะขัดเวลาสวีตของพวกคุณหรอกนะคะ  ฉันแค่อยากรู้ว่า  ฉันควรยืนอยู่ตรงนี้ต่อไป  หรือยังไงดี  --  อ้อ  แล้วฉันเอาเสื้อนี่ออกได้หรือยังคะ  ซอฮยอน  ฉันรำคาญมันมากๆ เลยแหละ"  แทยอนเอ่ย  น้ำเสียงฟังเหมือนปกติ  แต่แววตาที่ใช้มองคริสตัลก็ทำให้คนถูกมองยิ้มแหยๆ  ค่อยๆ ชักมือที่กำลังถูกทำแผลกลับมาจากคนที่ตนเคยสารภาพรักไปไม่นานมานี้เลยทีเดียว  จะบอกว่าเธอรู้สึกเสียวคอแปลกๆ ก็คงได้

แถมตอนนี้แม่นักร้องร่างเล็กที่แสบใช่หยอกก็กำลังถอดเสื้อออกจนแทบจะเห็นอะไรๆ ไปหมดแล้ว

"แทแท  ไปคุยกันที่รถเถอะ"  คริสตัลรีบพูด  รีบเดินไปดึงเสื้อกลับมาคลุมตัวคนตัวเล็กใหม่อีกครั้ง  มองตากันอย่างขอร้อง  แม้ปากจะเอ่ยกับอีกคนไปด้วย  "หัวหน้าคะ  ฉันจะตามไปที่สถานีนะคะ  ฉันขอไปทำแผลก่อน"

"ได้เลยค่ะ  ไม่ต้องรีบนะ  คริสตัล"  ซอฮยอนตอบ  อมยิ้มน้อยๆ อย่างรู้สถานการณ์  ซึ่งคริสตัลเองก็รู้ว่ากำลังโดนแซว  เพราะอีกฝ่ายไม่ค่อยเรียกเธอด้วยชื่อต้น  นอกจากกำลังจริงจังมากหรือเวลาแบบนี้

"แทยอนคะ  ฝากลูกน้องฉันด้วยนะคะ" 

แทยอนย่นคิ้วใส่หัวหน้านักสืบที่ส่งยิ้มเหมือนล้อเลียนมาให้  เธอลืมเรื่องน่าระทึกตรงนี้ไปหมดแล้วทั้งที่เมื่อกี้ตกใจแทบตาย

"โอ๊ย  เจ็บแผลจัง  เมื่อกี้ยังไม่เจ็บขนาดนี้เลย  มีดนั่นเคลือบยาพิษหรือเปล่าก็ไม่รู้"  คริสตัลพูด  พลางมองปฏิกิริยาของอีกฝ่ายไปด้วย  แทยอนหันมามองหน้า  แล้วก็ฟาดไหล่เธอด้วยมือเล็กๆ  จากนั้นก็เดินหนีไปเฉย

"อ้าว  ทำไมทิ้งกันแบบนี้ล่ะ  ฉันเสี่ยงเพื่อเธอนะ  แทยอน  ถ้าฉันตายไปแล้ว  อย่ามาร้องไห้ก็แล้วกัน  แล้วเธอจะคิดถึงฉัน --"

"หุบปากเดี๋ยวนี้  ไอ้คนนิสัยไม่ดี!"  แทยอนเหลียวกลับมาตวาด  หากคนที่ถูกพูดเสียงดังใส่กลับรีบเดินมาดึงเธอไปกอด  และไม่บ่นสักคำแม้จะโดนเธอทุบไหล่ปั้กๆ

"ฉันเกลียดนักสืบ  ฉันเกลียดตำรวจ  เพราะแบบนี้แหละ"  นักร้องสาวต่อว่าเสียงสั่น  พยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้  แต่พออีกฝ่ายลูบศีรษะเธอ  มันก็หยดลงมาอย่างไม่เชื่อฟังกันเลย

"พวกเธอไม่เคยเห็นใจคนที่รออยู่  ไม่คิดถึงคนข้างหลัง  พวกเขาจะอยู่ยังไง  ถ้าพวกเธอเป็นอะไรไป  บอกฉันได้ไหม  คริสตัล"

"ฉันขอโทษ  แทยอน  ต่อไปฉันจะระวังตัว  โอเคไหม"

แทยอนกลอกตาทั้งน้ำตาคลอ  คริสตัลทำให้เธอนึกถึงใครบางคนขึ้นมาทั้งที่คิดว่าลืมไปแล้ว...แฟนคนแรก  คนที่เธอแน่ใจว่ารัก  แต่เขาก็ทำตามคำขอของเธอไม่ได้  เพราะเขารักงานตำรวจของเขามากกว่าเธอ  แล้วเธอก็เดินจากเขามาอย่างไม่ไยดี  เพราะคิดว่าเขาไม่ได้เลือกเธอแต่เลือกงาน

ท่าทางว่า  ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยอีกแล้ว...

"ฉันไม่ได้ร้องไห้เพราะเธอหรอกนะ  อย่าเข้าใจผิด  ฉันแค่นึกถึง..."

"แฟนเก่า"  คริสตัลตอบให้ด้วยรอยยิ้มเข้าใจ  และพยักหน้าชวนคนที่ยังยืนตะลึง  "ไปเถอะ  ก่อนที่ซ้อใหญ่ของเธอจะสั่งให้คนมารับอีก"

แทยอนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง  หรือตบปากตัวเองก็ได้  รู้สึกผิดขึ้นมาอย่างน่าประหลาด  อาจเพราะสีหน้าของคริสตัลตอนนี้

"ฉันจะหาทางให้เธอเจอพ่อจริงๆ ให้ได้  ไม่ต้องห่วงนะ  วันนี้คือ..."

"หยุดเถอะ  คริส  หยุดก่อน"  เธอขอ  ยกมือปิดปากอีกคนไว้  คริสตัลทำหน้าไม่เข้าใจ  "ไปคลินิก  ไปทำแผล  อย่าเพิ่งคิดอะไร  ได้ไหม"

คริสตัลพยักหน้ารับ  แววตาดูเหมือนจะเข้าใจคำขอของแทยอนที่พาจูงมือเดินไปตามหาคลินิกใกล้ๆ ทั้งที่ไม่ได้รู้ทาง  ต้องถามคนที่เดินผ่านไปมาเอาจนกระทั่งนักสืบสาวต้องตัดสินใจพาเดินไปเอง  เพราะที่นี่มันถิ่นเธอ



"ฉีดยากันบาดทะยักด้วยนะคะ  หมอ  ยาสลบเลยก็ได้"  แทยอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจังขณะมองคุณหมอทำแผลให้คนเจ็บ  เธอยืนยันจะเข้ามาด้วย  และไม่มีใครห้ามเธอได้  โชคดีที่พยาบาลเป็นแฟนคลับเธอ  และคุณหมอก็ชอบฟังเพลงเธอ  แต่ดูจะเป็นโชคร้ายของคริสตัลที่รู้สึกเหมือนกำลังถูกรุม

บางทีแทยอนก็น่ากลัวกว่าพวกเด็กแก็งนั่นอีกนะ

"ตกลงตามนี้นะคะ  คุณหมอ"  นักร้องสาวย้ำ  ขณะที่คุณนักสืบนั่งหน้าซีด  ส่ายหน้าเร็วๆ  และคุณหมอคนสวยอมยิ้มคล้ายเอ็นดูพวกเธอ

และน่าดีใจจริงๆ ที่คุณหมอไม่ได้บ้าจี้ตามแทยอนไปด้วย  คริสตัลยังได้ออกมาจากคลีนิกพร้อมผ้าพันแผล  รอยเย็บ 5 เข็มที่แผลตรงฝ่ามือ  และถูกฉีดยากันบาดทะยัก

"ขอบใจนะ  ที่เป็นห่วง"  แทยอนเอ่ยขึ้นระหว่างมองอีกฝ่ายเข้ามานั่งประจำตำแหน่งคนขับ  และเตรียมเอารถออก  เธอมองผ้าพันแผลตรงมือของคริสตัลแล้วก็ยังไม่วายใจหาย  ซึ่งอีกฝ่ายก็ส่ายหน้าราวกับรู้ทันความคิดกัน  แถมยังเอามือข้างที่ไม่เจ็บมาวางบนศีรษะเธอและโยกมันเบาๆ   ไม่มีความเคารพกันเอาเสียเลย  ทั้งที่เธออายุมากกว่าแท้ๆ  แต่เธอกลับชอบมันนะ

"แต่ดูแลตัวเองด้วย"

"ค่ะ"  คริสตัลขานรับอย่างว่าง่าย  เหยียบคันเร่งพารถคันเก่งออกสู่ถนนอีกครั้ง  และพยายามส่งยิ้มให้คนข้างๆ เป็นระยะ  แม้จะโดนมองอย่างเคืองๆ อยู่นิดหน่อยก็ตาม


...................................................

งงไหม  ไม่งงหรอกเนอะ  อิอิ  :61:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

22 มิถุนายน 2017 เวลา 22:31:42
 :31: ไม่งง แต่ก็ไม่เข้าใจ :11:  เอาเป็นว่าจะอ่านต่อในตอนต่อไปละกัน :65:
แสดงความคิดเห็น