web stats

ข่าว

 


Sparkle_s2 (แฟนฟิค) - ตอน 1 Bad Blood

โพสต์โดย: anhann วันที่: 21 มิถุนายน 2017 เวลา 20:00:39 อ่าน: 458




ตอน 1 Bad Blood





"ครูซ  ไม่!"  แทยอนดุลูกชายเสียงเฉียบ  ครูซจึงหยุดชะงักขณะกำลังแทะขาเก้าอี้ลูกค้าซึ่งนั่งยิ้มแหยๆ เหงื่อไหลจากโคนผมเกือบเข้าตา  เขามองเด็กทารกใกล้ตัวอย่างหวาดระแวง  เพราะนั่งอยู่ใกล้เขาจึงเห็นว่าเด็กน้อยมีฟันขึ้นแล้ว  และมันดูคมมากด้วย

ว่าแต่...เด็กหกเดือนมีฟันแล้วหรือ?

"ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ  คือวันนี้ปะป๊าเขาติดธุระ"  มิสไวด์ที่บัดนี้เป็นมิสซิสสมิธอย่างเป็นทางการจากการแต่งงาน  เอ่ยขอโทษขอโพย  พลางตบตักเรียกลูกชายฝาแฝดให้คลานมาหาตนเอง 

แทยอนรู้สึกโชคดีนิดหน่อยที่ตอนนี้แคลร์  แฝดคนพี่หลับอยู่ในเปล  เพราะเธออาจต้องเล่นกายกรรมให้แขกดู  ถ้าหนูน้อยทั้งสองตื่นพร้อมกัน  การวิ่งไล่จับลูกอาจเป็นเรื่องสนุก  ถ้าไม่มีคนนอกที่เป็นลูกค้าและเป็นมนุษย์อยู่ตรงนี้  เนื่องจากบางทีเธออาจทำอะไรรุนแรงแบบที่มนุษย์เขาไม่ทำกัน

"เอ่อ  ไม่เป็นไรครับ"  รอเบิร์ตตอบ  เขาพยายามยิ้มให้ทารกซึ่งตอนนี้เกาะติดหนึบอยู่กับอกมารดาราวกับมือมีกาวเหนียวๆ ทาไว้  เห็นแล้วก็น่ารักดี  แต่ก็ไม่วายนึกเสียดาย  เขามาช้าเกินไปตั้ง 10 เดือน  ไม่อย่างนั้นเจ้าหนูคนนี้อาจเป็นลูกเขา  ถ้าเขาใจกล้าพอขอแทยอนเดตตอนมาติดต่องานครั้งนั้น  เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอมีแฟน  โผล่มาอีกที  เธอก็มีลูกแล้วตั้งสองคน

"เลี้ยงทั้งสองคนก็เหนื่อยแย่สิครับ  ไม่คิดถึงเรื่องจ้างพี่เลี้ยงหรือครับ"

"ไม่เป็นไรค่ะ  ปกติพวกเขาก็เรียบร้อยดีนะคะ"  แทยอนตอบ  ลูบศีรษะลูกชายตัวดีให้สงบลง  เพราะครูซเริ่มจิกหน้าอกเธออีกแล้ว  เขาคงหิว  อยากดื่มนม  คงเป็นเรื่องปกติของลูกสุนัขป่า  นี่ก็อีกเรื่องที่ทำให้เธอจ้างพี่เลี้ยงไม่ได้  พี่เลี้ยงมนุษย์เพศหญิงคงตกใจตายถ้าเจอลูกฝาแฝดของเธอขยำหน้าอก  ร้องหานมเกือบทุกครึ่งชั่วโมง  หรืออาจต้องให้ยุนอาช่วยหาหมาป่าสาวๆ ที่มีใบรับรองเรื่องการดูแลเด็กแบบนี้มาให้สักคน

"อ้อ  เหรอครับ"  รอเบิร์ตขานรับอย่างกระอักกระอ่วน  เขาแน่ใจอย่างยิ่งว่า  เจ้าตัวเล็กที่แทยอนอุ้มอยู่กำลังจ้องเขาคล้ายอยากจะกัดคอ  แถมเขายังเห็นแวบๆ ด้วยว่า  ตาสีฟ้าของครูซเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองได้  แต่มันก็คล้ายกับเขาตาฝาด  เพราะมันพริบตาเดียวเท่านั้น

"ค่ะ"  คุณแม่ยังสาวตอบ  ตบก้นอวบๆ ของลูกชายไปพลาง  "ถ้ายังไง  วันนี้คงต้องขอตัวคุณรอเบิร์ตด้วย  ฉันจะให้มิสซอจัดการต่อให้นะคะ"

"ครับๆ"  รอเบิร์ตตอบ  รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันทีคล้ายรอเวลานี้อยู่นาน  "ไม่ต้องส่งครับ  มิส"

แทยอนพยักหน้า  หากยังลุกขึ้นค้อมศีรษะให้ลูกค้ารายใหญ่  และยิ้มให้ซอฮยอนที่เปิดประตูมารอรับเขาไปอย่างรู้งาน 

"ครูซ  แล้วเจอกันนะจ๊ะ"  ซอฮยอนโบกมือให้หลานชายที่ทำท่าจะร้องตามเธอไปอีกคนจนคุณแม่ร่างเล็กต้องทำตาขู่จึงจะหยุดได้

"ครูซ  ถ้าไม่หยุดดื้อ  วันนี้แม่จะไม่ให้ป๊าพาไปเล่นด้วยนะ"  แทยอนเอ่ยเสียงขรึม  ลูกชายทำปากเบะตั้งท่าจะร้องไห้ตามประสาเอาแต่ใจ  แต่เขาก็แค่ร้องอ้อนจะกินนมเธอเท่านั้น  ฟังไปแล้วเหมือนเสียงลูกหมาจริงๆ

จริงๆ ก็ใช่แหละ  พวกเขาเป็นลูกหมา...หมาป่าซะด้วย 

ฝาแฝดไม่กลายพันธุ์มาเป็นจิ้งจอกแบบเธอจริงๆ  พวกเขายังรักษาความเป็นสมิธเอาไว้อย่างเคร่งครัด  ยกเว้นพวกเขาไม่ได้ตาสองสีแบบคริสตัล

แคลร์  ลูกแฝดคนโตตาสีอำพัน  มีสีเทาเป็นวงแหวนล้อมรอบคล้ายของเจสสิก้าเวลาตาเปลี่ยนสี  ส่วนครูซตาสีฟ้าแบบเดียวกับยุนอา  แต่เปลี่ยนสีได้เช่นกัน  เวลาเขาโกรธหรือตื่นเต้น  ตาของเขาจะเป็นสีทองคล้ายของพี่สาว  พวกเขาสามารถกลายร่างเป็นลูกหมาป่าได้โดยไม่ต้องอาศัยพระจันทร์เต็มดวงแบบเดียวกับคริสตัล  และผมสีดำสนิทกันทั้งคู่

อย่างกับแค่อาศัยท้องเธอมาเกิดแน่ะ!

"นมๆ"  ครูซย้ำแล้วย้ำอีก  ตาสีฟ้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีทองแล้ว  มันมองจ้องไปตรงหน้าอกแทยอนอย่างมาดร้าย  และแน่นอนว่า  คุณแม่ต้องตามใจเขา  เพราะเขายังเป็นแค่ทารก  อายุแค่ 6 เดือนแต่เหมือน 8 เดือนแล้ว

"โอเคๆ  แต่ห้ามกัดนะคะ  ลูก"  แทยอนต่อรอง  ลูกชายรีบพยักหน้ารับหนักแน่น  เห็นแล้วนึกถึงคริสตัลขึ้นมาเลยเชียว  แค่เห็นหน้าไม่ต้องสาธยายให้ยืดยาวก็รู้ว่าลูกใคร  ถ้าจะถอดแบบกันมาขนาดนี้นะ

"โอเค  เราไปนั่งใกล้ๆ แคลร์กันดีกว่า"  เธอบอก  แล้วอุ้มครูซที่กำลังดูดนมจากเต้าอย่างสบายใจมานั่งบนเก้าอี้นวมข้างแฝดคนพี่  เขากินเก่งมาก  อาจมากกว่าแคลร์ถึงสองเท่า  หรือเพราะแคลร์ใช้เวลาหมดไปกับการนอนมากกว่ากิน 

แคลร์ชอบนอนกลางวัน  มากกว่ากลางคืน  ส่วนครูซชอบนอนกลางคืนมากกว่ากลางวัน  การนอนคนละเวลาของฝาแฝดมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  เพราะเธอต้องตื่นตลอดเวลาเพื่อดูแลพวกเขา  แถมยังต้องมาทำงานที่บริษัทของแลนดอนด้วย  ถึงจะแค่มานั่งเฉยๆ ประดับห้องทำงานกับเลี้ยงลูก  แล้วให้ซอฮยอนทำงานแทน  คริสตัลกับยุนอาอยากให้เธอกับเด็กๆ อยู่บ้าน  แต่เธออยากมาทำงานโดยเฉพาะเวลาที่มีสเตฟานี่ป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ นี้

ทิฟฟานี่เข้าออฟฟิศบ่อยขึ้นแทบจะมาทุกวันนับตั้งแต่สเตฟานี่โผล่มาขอตำแหน่งรองประธานบริษัทคืนไป  ทั้งยังกลับมาอยู่คฤหาสน์แลนดอนด้วย

"ป๊ายังไม่เลิกเรียนเลยลูก"  แทยอนบอกลูกชายเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นสบตาเธอขณะสูบหน้าอกเธออย่างเอาเป็นเอาตาย  ถึงเขาจะพูดได้แต่นมๆ กับแม่  ป๊า  และแด๊ดดี้  เธอก็เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร  คล้ายเขาสื่อสารกับเธอได้ทางกระแสจิต  แล้วเขาก็ติดคริสตัลมาก  จริงๆ แล้วก็ติดปะป๊าคริสกันทั้งแคลร์ทั้งครูซ  แต่แคลร์อาจชอบอยู่กับแด๊ดดี้ยุนมากกว่านิดหน่อย

พวกเขาเห็นเธอเป็นแค่โรงงานผลิตนมกระมัง

"ครูซ  ง่วงก็นอนค่ะ  เดี๋ยวตื่นมาจะได้เจอป๊าเลยไง"  เธอประเหลาะลูกชายเมื่อเห็นเขาตาปรือเต็มทีแล้ว  แต่ดูยังฝืนอยู่  คงอยากเล่นอะไรต่ออีก  เรื่องซนนี่ต้องยกให้เลย 

เธอเคยคิดอยากให้คริสตัลเอาลูกไปโรงเรียนด้วย  แต่กลัวเขาจะโดนเพื่อนๆ ล้อ  แค่ตอนแต่งงานกัน  เขาก็โดนเพื่อนที่โรงเรียนมองด้วยสายตาแปลกๆ แล้ว  บางทีคริสตัลอาจโดนมองแบบนั้นมาตั้งแต่ตอนแจกการ์ดชวนเพื่อนมาแล้วก็ได้  แต่เขาไม่แคร์  เพราะถ้าแคร์คงไม่เชิญแต่แรก  ทว่ามันก็คงไม่แปลกที่ใครจะมองงานแต่งงานของพวกเธอเป็นเรื่องประหลาด  เล่นแต่งพร้อมกันสามคนเลยแบบนั้น  แถมคริสตัลก็ยังอายุแค่ 18 เท่านั้น  ยังเรียนไม่จบไฮสกูลเลยด้วย  เด็กอายุ 18  มาแต่งงานกับผู้ใหญ่สองคน  ถึงเธอกับยุนอาจะยังหน้าตาแค่เฉียดๆ 25-26 (แต่ความจริงมากกว่านั้นเป็นร้อยๆ) ก็ตาม

พวกมนุษย์ชอบทำเหมือนรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ทั้งที่บางครั้งพวกเขาทำเรื่องเลวร้ายมากกว่านี้ซะอีก  อย่างเช่น  รุกรานพวกเธอจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน

"มาๆ  งั้นเรามาสัญญากันก็ได้"  แทยอนยื่นนิ้วก้อยให้ลูกชายก่อน  ครูซยิ้มเห็นฟันเขี้ยวทั้งที่ปากยังติดกับอกเธออยู่  เขายื่นนิ้วก้อยน้อยๆ มาให้เธอเกี่ยวกัน  เธอเขย่ามันเบาๆ  และก้มลงหอมศีรษะเขาไปอย่างรักใคร่ 

บทจะว่าง่าย  พวกเขาก็น่ารักกันแบบนี้  แคลร์ก็เป็นเหมือนกันกับน้องแฝดเปี้ยบ  และมันก็ทำให้เธอนึกถึงฝาแฝดอีกคู่ที่เธอเคยดูแลมา

ฉันพลาดอะไรตรงไหนนะ  ทำไมฉันถึงไม่สังเกต...

เสียงประตูห้องถูกเคาะตอนเธอกำลังเซ็นเอกสาร  แทยอนเหลือบมองลูกสาวลูกชายที่หลับอยู่ในเปลเดียวกัน  เป็นไปได้ว่าตอนนี้เลขาหน้าห้องเธอไม่อยู่  คนที่มาหาจึงต้องเคาะเรียกเอง  ไม่มีใครส่งเสียงผ่านอินเตอร์คอมมาบอกล่วงหน้า

"เชิญค่ะ"  แทยอนเอ่ย  เธอเงยหน้าขึ้นและจ้องหน้าคนที่เพิ่งก้าวเข้ามาในห้องนานกว่าเดิมเล็กน้อย  เพราะสิ่งเดียวที่แยกฝาแฝดแลนดอนออกจากกันได้ตอนนี้  มีแค่สีตาเท่านั้น

สีแดง...

"ฟานี่  เธอไม่เคยเคาะประตู" 

ทิฟฟานี่ยิ้มพลางจุปาก  พเยิดหน้าไปทางเปลหลานๆ  หากคุณแม่ของพวกเขากลับส่ายหน้าให้เธอคล้ายไม่ห่วงว่าลูกๆ จะตื่นมากวนใจอีก

"มาทำไม"

"นี่ทักทายเจ้าของบริษัทแบบนี้เหรอ" 

"จะให้ฉันลาออกไหมล่ะ"  แทยอนแกล้งพูด  แต่ก็ถูกค้อนขวับไปแล้ว

"แหม  ใช่ซี  บริษัทสามีเธอใหญ่โตขนาดนั้นนี่นา..."

"เงียบเลย  มีเรื่องอะไร" 

ทิฟฟานี่ยิ้มแหยให้คนรู้ทันเธอไปเสียทุกอย่าง  ตาสีแดงทำเป็นเฉไฉมองอีกฝ่ายควงปากกาเล่นจนแทยอนหงุดหงิดใช้มันมาตีหัวเธอแทน

"เฮ้  นี่ฉันไม่ใช่คริสตัลหรือยุนอานะ"

"แล้วจะทำไม  เจสสิก้าตีเธอได้คนเดียวรึ"  แทยอนว่าหน้าตาย  ยิ้มขำขันเมื่ออีกฝ่ายลูบศีรษะไปทำปากขมุบขมิบบ่นเธอแบบไม่มีเสียง

"เอ้า  ว่ามา  สรุปมีอะไร  เดี๋ยวหลานเธอตื่นก็เป็นเรื่องหรอก"

"คริสยังไม่เลิกเรียนอีกเหรอ" ทิฟฟานี่ชวนคุยเรื่องอื่น  หวังซื้อเวลาต่อ  แต่น่าเศร้าที่แทยอนไม่เอาด้วย  จ้องเธอตาคมกริบอยู่แบบนี้

"โอเค  ก็เรื่องเดิมนั่นแหละ"

แทยอนเลิกคิ้ว  พยายามคิดว่าเพื่อนพูดเรื่องอะไร  แล้วก็ร้องอ๋อยาวๆ  จนทิฟฟานี่ต้องเอื้อมมือมาปิดปาก  เพราะเห็นเจ้าตัวเล็กทั้งสองที่หูไวตามประสาลูกหมาป่ากำลังดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในเปล

"นี่  ฉันยังไม่อยากเล่นไล่จับลูกหมานะ"

"ยังไม่ตื่นหรอกน่า  พวกเขาก็แค่นอนดิ้นเฉยๆ"

"เหรอ  แล้วเปลนั่นแข็งแรงพอไหม  มันจะพังหรือเปล่า"

"มันทำจากเหล็กหนามาก  ฟานี่" 

ทิฟฟานี่ตะลึง  ถึงจะคาดไว้แล้วล่วงหน้า  "ตอนโดโด้ไม่เห็นต้องทำขนาดนี้เลยนะ"

"โดโด้เรียบร้อยไง  อาจจะเหมือนแครีนก็ได้"

"แล้วฉันไม่เรียบร้อยเหรอ  ฉันเป็นเด็กดีนะ"

"ไม่อะ  พี่เธอเรียบร้อยกว่า"  แทยอนพูดแล้วก็ชะงักเอง  เธอสั่นศีรษะ  ยกมือขึ้นถูขมับด้วยนิ้วชี้และกลาง  ขณะที่ทิฟฟานี่เริ่มนั่งเหม่อลอย

"แล้วตอนนี้หล่อนอยู่ไหน" 

นัยน์ตาสีแดงของคนเหม่อเบนกลับมา  สีหน้าทิฟฟานี่ตอนนี้ดูแย่กว่าตอนรู้ว่าต้องรับภาระของตระกูลตามลำพังเสียอีก  แต่แทยอนก็เข้าใจ

"แต่อย่างน้อย  เรื่องแก้แค้นบ้าๆ นั่นก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ"

"แค่ดูเหมือนน่ะ"  ทิฟฟานี่ตอบ  กลอกตาไปมา  "เรายังไม่รู้เลยนะแท  ว่าใครที่ลอบยิงดงวุค  กับเธอตอนนั้นที่คริสตัลมารับแทน  เขาไม่รับสารภาพ"

แทยอนฮัมรับ  เพิ่งนึกเรื่องนี้ขึ้นได้  ก่อนหน้านี้เธอก็มัวแต่ยุ่งเรื่องครอบครัว  ตั้งครรภ์  คลอดลูก  แต่งงาน  เลี้ยงลูก  ดูแลสามีสองคน  งานตัวเอง  งานบ้านสามี  อย่าว่าแต่จะคิดเรื่องอื่น  แค่นี้เธอแทบไม่มีเวลาหายใจ  เวลาส่วนตัวก็แทบจะไม่มี  ยกเว้นเวลายุนอากับคริสตัลว่าง  และช่วยเลี้ยงเด็กๆ ให้  แต่พวกเขาก็ใช่จะว่างบ่อยๆ  อาทิตย์หนึ่งว่างจริงๆ แค่สองวัน  เสาร์กับอาทิตย์    วันอื่นๆ พวกเขาต้องไปโรงเรียน  ไปทำงานกัน  จันทร์ถึงศุกร์ช่วงคริสตัลกลับจากโรงเรียน (ซึ่งก็เย็นมากแล้ว  เพราะเธอเองนั่นแหละที่ไม่ให้เขาออกจากชมรมบาสเกตบอล  กลัวเขาไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกัน) จึงจะมาช่วยดูลูกได้  ยุนอาก็ยิ่งงานเยอะ  ยิ่งกลับดึกไปใหญ่  ไม่ผิดจากที่เธอคิดไว้เลย  แล้วถึงพวกเขาจะช่วยเลี้ยงลูกๆ ให้  เธอก็ต้องอยู่ด้วย  ฝาแฝดยังต้องดื่มนมแม่  บ่อยมากด้วย

"แต่จริงๆ  ฉันไม่ควรมากวนเธอ  แค่เจ้าแฝดก็..."

"ไม่เป็นไร  แฝดไม่ดื้อหรอก  แค่ซนนิดหน่อย"

"จริงอะ  แต่ฉันได้ข่าวว่า  ครูซแทะเก้าอี้สำนักงานพังไปสองตัว  โซฟาตัวนึง  แล้วแคลร์ก็กัดเลขาเธอด้วย  ใช่หรือเปล่า  แทยอน"

แทยอนยักไหล่  ทำเหมือนนั่นไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรเลย 

"พวกเขาเป็นลูกหมาป่า  มันก็ธรรมดามั้ง  ฟานี่"

"เหรอ  แล้วทำไมโดโด้ไม่เห็นเป็นงี้  ฉันกับสเตฟ..."  ทิฟฟานี่หลุดปาก  แล้วสั่นศีรษะให้ตัวเอง  "โอเค  เพราะพวกเขาอยากให้เธอเลี้ยงลูกแบบหมาป่าจริงๆ  ใช่ไหม"

"ใช่  แต่ก็แค่ช่วงนี้นะ  ประมาณสักขวบนึงก็ค่อยให้พวกเขาปรับตัว  แบบให้เข้าสังคมกับมนุษย์ได้น่ะ"

"อย่าบอกนะว่า  เจสสิก้ากับคริสตัลก็ถูกเลี้ยงมาแบบนี้เหมือนกัน"

"ใช่  แม่พวกเขาบอกฉันเอง  ฉันไม่ได้คิดเองเลยนะ  เรื่องนี้"  แทยอนตอบปลงๆ  "แต่จริงๆ  มันก็ควรเป็นแบบนี้แหละ  ไม่งั้นพวกเขาจะอ่อนแอไป  อ้อ  แล้วฉันก็ให้คริสจ่ายค่าเฟอร์นิเจอร์พวกนั้นแล้วนะ"

"แหงล่ะ  ก็ลูกเขานี่"  ทิฟฟานี่ว่า  นึกขำพ่อลูกอ่อนคนนั้นขึ้นมา

"เรื่องนั้นช่างมันเถอะ  กลับมาว่าเรื่องเธอดีกว่า  เป็นยังไงบ้าง"

"เธอพูดถึงเรื่องอะไรล่ะ  เรื่องพี่สาวฉัน  หรือว่า..."

"เรื่องเจสสิก้าดีกว่า  เรื่องนั้นขอฉันคิดก่อน"  แทยอนตอบ  เธอเชื่อว่า  ทิฟฟานี่ต้องเข้าใจว่าเธอต้องใช้เวลาสืบข้อมูลให้แน่ชัด  อย่างน้อยก็หาตัวมือซุ่มยิงคนนั้นให้ได้เสียก่อน  ถ้าเขาหรือหล่อนยังไม่ตาย  เธอคงได้เจอเร็วๆ นี้

"เจสสิก้าน่ะเหรอ  จะมีอะไร  ก็นั่งหน้าตายอยู่ในห้องท่านรองไงล่ะ"

"ทำเป็นพูดดีไปเถอะ  อย่าให้ฉันเห็นเธอเดินตามก้นหล่อนละกัน"

"อา... ก็หล่อนเดินเร็วอะ"  ทิฟฟานี่อ้าง  ยิ้มเขินเมื่อนึกถึงเจ้าของชื่อนั้นขึ้นมา  แต่พอเห็นคนอีกฝั่งทำหน้าตาล้อเลียน  เธอก็เปลี่ยนเรื่องอีก  "จริงๆ ฉันจะมาคุยเรื่องแครีนต่างหากล่ะ"

"แครีน?  ทำไม... ยายพี่สาวจอมลวงโลกของเธอไม่ได้เอาไปทำงานด้วยหรือไง"  แทยอนถาม  หมดความเกรงใจในตัวแฝดพี่คนนั้นไปแล้ว  แต่ยังแอบขอโทษขอโพยมิสเตอร์กับมิสซิสแลนดอนในใจอยู่บ้าง  ถึงเธอจะไม่มีวันคืนคำที่พูดออกไปพวกนี้แน่ๆ

"เอา  แต่โดโด้ไม่ยอม  จะให้แม่อยู่นี่"  ทิฟฟานี่เอ่ยอย่างเหนื่อยใจ  "ฉันเข้าใจนะว่า  ลูกก็อยากอยู่ใกล้แม่เขา  แต่โดโด้จะแปดขวบแล้วนะ  ไม่ต้องติดกันขนาดนี้ก็ได้มั้ง"

"แน่ใจเหรอ  ที่พูดน่ะ"  แทยอนย้อน  ยิ้มล้อเลียนคนที่เมื่อก่อนขี้แยยิ่งกว่าลูกสาวตัวเองเสียอีก  ทิฟฟานี่ก็ค้อนเธออย่างรู้ทันกัน 

"แล้วยังไง  ยายแฝดพี่นั่นจะให้เมียเก่าเธอไปไหน  โดโรธีถึงได้ค้านซะขนาดนั้น  ปกติก็พูดกันรู้เรื่องนี่นา"

"ตูนีเซีย"

"ว่าไงนะ  จะให้ไปเป็นเมียโจรทะเลทรายหรือไง"

"เธอก็พูดเกินไปน่า แท"  ทิฟฟานี่สั่นศีรษะ  เธอเองก็ใช่ว่าจะไม่เครียด

แทยอนกลอกตา  เธอไม่ชอบทะเลทราย  เรียกว่าเกลียดเลยก็ว่าได้  เพราะอะไรล่ะ  เพราะเธอเป็นจิ้งจอกเมืองหนาวไง  ทิฟฟานี่กับพวกแลนดอนคนอื่นๆ ด้วย  และแน่นอน  มันต้องรวมถึงสเตฟาน  หรือยายสเตฟานี่นั่นด้วย

"เรามีอะไรจะขายกับพวกนั้นหรือ  ฉันแน่ใจนะว่า  เราไม่เคยติดต่อกับพวกชีคอะไรแบบนั้นเลย  ฉันพูดอาหรับไม่ได้ด้วย"

"แต่แครีนพูดได้ไง"  ทิฟฟานี่พูดแล้วก็กุมขมับตัวเอง  "แถมสเตฟยังบอกด้วยว่า  พวกนี้รวยมาก  มีเพชรพลอยเพียบไปหมด"

"ของปล้นเขามาทั้งนั้นหรือเปล่า  หรือไม่ก็จากส่วยที่ได้จากเรือพ่อค้าหน้าโง่ที่หวังไปขุดทองกับแผ่นดินนั้น"

"เธอรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไง  แทยอน" 

"บ้านพ่อแม่สามีฉันอยู่แอฟริกาใต้ไง"

"หูย  พูดได้เต็มปากมากอะ"  ทิฟฟานี่แซว  แต่ยิ่งหมั่นไส้เมื่ออีกฝ่ายดูภาคภูมิใจเหลือเกิน  เธอกลอกตา  โบกไม้โบกมือ  "พูดเรื่องฉันก่อน"

"ก็ว่ามาสิ"

"ตูนีเซียอยู่แอฟริกาเหนือ"

"ใช่  แต่ฉันก็รู้ว่า  มันมีประวัติยังไงมั้ง  ฉันเกิดก่อนเธอตั้งนาน  ฟานี่"

"อย่าข่มกันเรื่องนี้สิ" 

แทยอนยิ้มอย่างไม่แคร์  ก้มหน้าทำงานต่อ  พลางฟังอีกฝ่ายเล่าเรื่องกลุ้มอกกลุ้มใจของตัวเองต่อไป  และให้คำปรึกษาไปบางเรื่องที่พอให้ได้  จนถึงเวลาเด็กๆ ตื่น  คราวนี้ตื่นพร้อมกันเลย  ทิฟฟานี่จึงได้ช่วยเธอจับลูกหมาซนๆ สองตัว  ถึงตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในร่างเด็กทารกที่ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมสำเร็จรูป  กินนมแม่  แล้วก็ต้องพาไปเดินเล่นด้วย 

"แท  เหนื่อยไหม"  ทิฟฟานี่ถามขึ้นระหว่างพากันเดินออกมาจากห้องผู้จัดการที่แทยอนครองตำแหน่งอยู่  เธอช่วยอุ้มครูซขณะที่แม่เขาอุ้มแคลร์

"เหนื่อย  มากๆ ด้วย  แต่สนุกดี"  แทยอนตอบ  จับมือเล็กๆ ของแคลร์มาจูบดังจุ๊บ  เด็กน้อยก็หัวเราะชอบใจจะให้ทำอีก  เธอก็ยอมทำตอบแทนที่เขาดื้อน้อยกว่าครูซที่เริ่มจะงับบ่าทิฟฟานี่เพราะคันเขี้ยวแล้ว

"แท  ลูกเธอกัดฉัน!"  ทิฟฟานี่โวยวายแต่ไม่ดังนัก  ยังเกรงใจพนักงานคนอื่นๆ ที่ทำงานกันอยู่ตรงสองข้างทางที่ต้องเดินผ่าน  เธออุ้มครูซขึ้นให้ห่างจากบ่าตัวเอง  แต่นั่นก็ยิ่งทำให้เด็กน้อยหัวเราะชอบใจเพราะคิดว่าเธอเล่นด้วย

"ไม่เจ็บหรอกน่า  เขี้ยวเล็กนิดเดียวเอง"

"ไม่เจ็บอะไร  มาลองให้กัดบ้าง  เอาไหม"

แทยอนหัวเราะขำ  พลางส่ายหน้าไปมา  แคลร์ก็หัวเราะด้วยคล้ายอุปทานหมู่  ไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับแม่และน้าเลยสักอย่าง

"เปลี่ยนคนกัน  เปลี่ยนกันเลย"

"เธอแน่ใจนะ"

ทิฟฟานี่ชะงัก  สบตาสีอำพันของหลานแฝดคนโตแล้วต้องหยุดคิด 

"ดูๆ ไปก็คล้ายเจสสิก้านะเนี่ย"

"ก็สายเลือดเดียวกันป่ะ"  แทยอนย้อน  หอมแก้มแคลร์ไปฟอดใหญ่  ลูกสาวหัวเราะกิ๊กชอบใจ  คราวนี้เจ้าครูซน้อยก็อยากจะเอาบ้าง  แต่เขาเล่นไปหอมแก้มน้าฟานี่จนน้ำลายเลอะแก้มไปหมด

"แท!  ดูลูกเธอทำฉัน!"  ทิฟฟานี่โวยวาย  เสียงดังขึ้นมาแล้ว  ครูซยิ้มร่าเริง  ขณะที่แทยอนส่งกระดาษทิชชู่ที่พกติดตัวตลอดให้เพื่อนและเจ้านาย

"ตอนเธอเด็กๆ ก็แบบนี้แหละ  ฟานี่"

"นั่นสิ  ทำลืมไปได้ยังไงนะ" 

เสียงบุคคลที่สามซึ่งดังขึ้นมาแทรก  เรียกให้ทั้งทิฟฟานี่และแทยอนหันไปมองพร้อมกัน  แล้วดวงตาสีเขียวมรกตก็มองกลับมาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

"ฉันไม่ได้เป็นผีมั้งคะ"  สเตฟานี่บอก  "ขออุ้มได้ไหมคะ  แทยอน"

แทยอนลังเลใจครู่ใหญ่ก่อนยกลูกสาวที่อุ้มอยู่ให้ผู้มาใหม่  ทว่าร่างของแคลร์กลับลอยขึ้นสูงกว่าระดับที่แขนของเธอจะทำได้  เพราะคนตัวสูงมาโฉบเอาตัวลูกไปก่อน  แล้วก็ดูเหมือนลูกจะชอบคนมาใหม่ล่าสุดนี่มากกว่าด้วย  โดยเฉพาะครูซที่รีบกวักมือเรียก  ส่งเสียงอ้อแอ้ดังลั่น  ดิ้นจนทิฟฟานี่เกือบจะจับไว้ไม่อยู่เลยเชียว

"มาเลย  เจ้าตัวยุ่ง  เกาะหลังนี่มา"

"คริส  ไม่เอา  อุ้มลูกดีๆ"  จิ้งจอกสาวรีบดุเจ้าหมาป่าตัวโต  พร้อมกับเข้าไปช่วยจับครูซให้มาอยู่ในอ้อมแขนอีกข้างของคริสตัลแบบแคลร์  ถึงจะรู้ว่าลูกมือเหนียวอย่างกับทากาวมา  แต่เธอไม่ชอบให้พวกเขาเล่นหวาดเสียวกัน  อย่างน้อยก็ต่อหน้าเธอละ

"แม่เรานี่ดุจริงๆ เลยเนอะ"

"คริส  เดี๋ยวโดน"  แทยอนขู่  คริสตัลอมยิ้ม  หอมแก้มลูกฝาแฝดไปคนละที  ขณะที่แฝดอีกสองคนยืนกอดอกในท่าเดียวกันแบบไม่ตั้งใจ  แล้วก็เป็นทิฟฟานี่ที่รู้ตัวก่อน  จึงปล่อยแขนทิ้งลงข้างตัวข้างหนึ่ง  มืออีกข้างก็เล่นกับเด็กทารกทั้งสองแม้พวกเขาจะสนใจเธอน้อยกว่าพ่อคริสสุดที่รัก  เธอก็แค่ไม่อยากมองแฝดอีกคนของตัวเองสักเท่าไหร่

"แหม  คริสตัลคะ  ฉันไม่ทำอะไรหลานของฉันหรอกนะ"  สเตฟานี่เอ่ย  น้ำเสียงขี้เล่น  แต่แววตาก็ยังดูไม่น่าไว้ใจในสายตาคนมองอยู่ดี 

คริสตัลยิ้มมุมปาก  ยังไม่ยอมให้อีกฝ่ายอุ้มลูก  แม้เด็กๆ จะน้ำหนักไม่ใช่น้อยเลย  โดยเฉพาะลูกชายที่เริ่มจะดึงผมยาวๆ ของเธอเล่นอีกแล้ว

"ครูซ  เดี๋ยวป๊าก็ตัดผมซะหรอก..."

"อย่านะ!"  แทยอนหลุดปากออกไปแล้วก็หน้าแดงเอง  รีบดันหลังคริสตัลให้พาเด็กๆ ไปเดินเล่นแทนเธอ  แต่กว่าจะไปกันได้  เธอก็ต้องเสียแก้มไปสองข้างให้ฝาแฝดหอม  และเสียปากให้ปะป๊าของพวกเขาจูบ

"ครอบครัวสุขสันต์จริงๆ"  สเตฟานี่ว่า  แล้วทำหน้าตาไม่รู้เรื่องเมื่ออีกสองคนจ้องเธอพร้อมกัน  "ทำไมล่ะ  ฉันแค่ชม..."

"ฉันอยากเชื่อจัง"  แทยอนเอ่ย  มองแฝดแลนดอนตาสีเขียวด้วยท่าทีต่างจากแฝดตาสีแดงอย่างชัดเจน  ซึ่งเธอก็รู้ตัวดี

"ฉันเจอยุนอา  เมื่อตอนพักกลางวัน  ฉันบอกไปหรือยังนะ"  แฝดพี่พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  แฝดน้องกดหัวคิ้วลง  เหลือบมองอดีตพี่เลี้ยงอย่างห่วงใย  ทิฟฟานี่กลัวใจแทยอนมาก  เพราะรู้ดีว่า  ถ้าลองจิ้งจอกสาวเกลียดใครเข้าแล้ว  มันยากเหลือเกินที่จะกลับมาชื่นชอบ  แค่ให้เฉยๆ ด้วยก็ยังยากเลย

แต่มันก็สมควรไม่ใช่หรือกับสิ่งที่พี่ของเธอทำลงไป

"เขาบอกฉันแล้ว"  แทยอนตอบอย่างไม่ใส่ใจ  โชคดีเหลือเกินที่ยุนอาโผล่มาพร้อมกับเจสสิก้าพอดี  คุณที่ปรึกษาสบตาเธอมาจากด้านหลังของเจ้านายผู้บอบบางของเขาซึ่งเดินตามก้นกันต้อยๆ  สไตล์เดิมตลอด  จริงๆ แล้วเขาคอยระวังหลังให้เจสสิก้าจึงต้องเดินแบบนั้น  คริสตัลบอกเธอเองแหละ

"ดูเหมือนพระเจ้าจะเข้าข้างคุณตลอดเลยนะคะ  แทยอน"  สเตฟานี่พูดด้วยรอยยิ้มประหลาด  "ไม่สิ  ตอนนั้นซาตานก็ยังยืนข้างเดียวกับคุณ  กระสุนยังไม่กล้าเฉี่ยวเลยนี่"

"สเตฟ!"  ทิฟฟานี่แทรกพร้อมกับมายืนกั้นตรงกลางระหว่างทั้งสอง  แทยอนกระซิบอยู่ด้านหลังให้เธอถอยไป  แต่เธอสั่นศีรษะปฏิเสธ  รอจนยุนอาเดินมาถึง  จึงพยักหน้าเรียกให้เขามาเอาตัวจิ้งจอกสาวไป

"คุยอะไรกันอยู่หรือ  ดูท่าทางน่าสนุก"  เจสสิก้าถาม  ทำเป็นไม่รู้เรื่อง  แต่สบตากับทิฟฟานี่  คุยกันทางกระแสจิตแล้วเรียบร้อย  หลังจากพิธีหมั้น  พวกเธอก็สื่อสารกันได้ดีขึ้นคล้ายกับวิทยุที่จูนช่องมาจนเป็นคลื่นเดียวกัน

"แค่เรื่องในครอบครัวค่ะ  เรื่องทั่วๆ ไปของแลนดอน"  สเตฟานี่ตอบ  ใช้คำบ่งบอกเลยว่าไม่ต้องการให้เจสสิก้าถามต่อ  และไม่ยอมรับเข้าพวก

"ไว้เจอกันนะ  ฟานี่"  แฝดพี่หันไปหาแฝดน้อง  "แล้วอย่าลืมละ  เรื่องแครีน  คุยกับลูกเธอด้วยว่า  โตแล้วอย่างี่เง่านัก  เดี๋ยวเขาจะเป็นแบบเธอ"

ทิฟฟานี่ทำหน้าหงิกเป็นการตอบโต้  เธอมองพี่แฝดบอกลาเจสสิก้า  และเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

"เธอดูไม่ดีใจเลยนะ  ครอบครัวกลับมาพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้วนี่"

"อย่าทำมึนน่า  เจสซี่" 

เจสสิก้าเลิกคิ้ว  อมยิ้มขำ  พลางส่งช็อกโกแลตให้อีกฝ่ายที่หรี่ตามองเธอกลับมาอย่างไม่เข้าใจ  "ดาร์กช็อกโกแลตไง  แก้เครียด  หรือกินไม่ได้  แพ้เหมือนพวกหมาบ้านเหรอ"

"เอามาๆ"  ทิฟฟานี่ฉกแท่งช็อกโกแลตจากมือคนสวยหน้ามึนมาแกะใส่ปาก  แต่ไม่ลืมส่งมันให้เจ้าของด้วย  แม้เจสสิก้าจะส่ายหน้าไม่รับมัน

"ไดเอตหรือไง  ไม่ต้องแล้ว  ผอมจะตายอยู่ละ"

"เธอจะมารู้ได้ยังไง  ฉันอาจจะซ่อนรูปก็ได้นะ"

"จริงอะ"  เธอถาม  เจสสิก้าก็ยักคิ้วให้  "งั้นขอดูหน่อยสิ  ซ่อนรูปไว้ตรงไหนเหรอ  มามะมา  ขอดูหน่อย"

"อยากโดนตบเหรอ  ทิฟฟานี่"

ทิฟฟานี่ยกสองมือระดับไหล่ยอมแพ้  แต่ต่อมาก็อมยิ้มเมื่ออีกคนจับมือข้างหนึ่งของเธอไป  แล้วพาเดิน  ถึงจะไม่รู้ว่าจะถูกพาไปไหน

"นี่จะพาฉันไปเดตเหรอ  เจสซี่"

"ไร้สาระ  ยังไม่หมดเวลางาน"

"เออ  แล้วเธอมาทำไมไม่ทราบยะ  แม่คนบ้างาน"

"มาทำงานไง"  เจสสิก้าตอบง่ายๆ  เดินตรงไปทางฝ่ายไอทีของบริษัทที่ตนไม่ได้เป็นเจ้าของแต่รู้จักแทบจะทุกซอกทุกมุมอยู่แล้ว  มาถึงก็ปล่อยมือเจ้าของบริษัทออก  ขอคุยกับผู้จัดการแผนกตัดหน้าทิฟฟานี่อีกด้วย 

เจ้าของบริษัทยืนงง  แทบยกมือขึ้นเกาหัวตัวเอง  แต่ก็ทำเพียงปล่อยให้ท่านรองของบริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่สอบถามเรื่องโปรแกรมที่บริษัทตนซื้อมาใช้  เช็กการทำงานว่ายังทำได้ดีอยู่หรือไม่  มองๆ ไปก็เพลินไปอีกแบบ

จริงๆ แล้วเธอก็ชอบมองเจสสิก้าทำงานมาตลอด  มันเซ็กซี่แบบที่บรรยายไม่ถูก  ผู้หญิงหลายคนอาจดูดีขึ้นเวลาทำงาน  แต่กับเจสสิก้ามันติดตาเธอติดใจเธอมากกว่า  เธอคงชอบหล่อนจริงๆ แล้วกระมัง

ชอบผู้หญิงแบบนี้น่ะเหรอ  เย็นชา  ใจร้าย  ดุโหดแบบนี้น่ะหรือ...

ได้ข่าวว่า  นี่คู่หมั้นเธอนะ  ทิฟฟานี่  แลนดอน

"เสร็จละ"  เจสสิก้าเดินย้อนกลับมาบอก  เจ้าของบริษัทกะพริบตาหนึ่งที  แล้วทำท่ารอฟัง  "จริงๆ ฉันให้คริสมาดูแหละ  แต่ก็อย่างที่เห็น  มันไปเล่นกับลูกๆ แล้ว"

ทิฟฟานี่ยิ้มขำขณะที่อีกฝ่ายกลอกตา  เพราะรู้ว่าเจสสิก้าไม่ได้จริงจังอะไรหรอก  บ่อยครั้งที่เธอเห็นจ่าฝูงสมิธเล่นกับหลานๆ  แล้วแคลร์กับครูซก็ดูจะชอบเล่นกับป้าเจมากๆ ด้วย  พอกับเวลาเล่นกับพ่อเขานั่นแหละ

"แล้วคราวนี้ทำอะไรต่อ  อย่าบอกนะว่า  มาที่นี่เพื่อทำงานอย่างเดียว  ถ้าแบบนั้น  ฉันจะได้กลับเข้าห้อง  หรือไปหาลูกสาวฉันบ้าง"

"เออ  ฉันไม่ได้เจอโดโรธีนานแล้วด้วยสิ"  เจสสิก้าเอ่ยขึ้นหน้าตาเฉย  ทิฟฟานี่ก็เหล่ตามองคนหน้ามึน  แล้วอมยิ้มขำ  คว้ามือเล็กกว่ามาเสียเลย

"เฮ้  แล้วเรื่องแครีน..."

"ขอเถอะ  เจ  อย่าเพิ่งพูด  ฉันปวดหัว"  ทิฟฟานี่ขัด  สั่นศีรษะไปมา  "กับโดโด้ก็ห้ามพูดด้วยนะ  ไว้ฉันพูดกับลูกเอง"

"โอเค"  เจสสิก้าตอบ  ปล่อยให้อีกฝ่ายจับมือพาเดิน  แต่ถึงอย่างนั้น  นัยน์ตาสีเทามีวงแหวนสีเหลืองทองของเธอก็ไม่พลาดเห็นบางคนที่ซุ่มมองอยู่       

.........................................................

มาต่อให้แล้วค่ะ ตอนแรกเลย ^^

ส่วนเรื่องที่งงๆ กันอยู่ ถ้าอ่านหนังสือจนจบก็จะทราบนะคะ หรือจะรอดูจากภาคสองนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ค่ะ

*หนังสือตอนนี้เหลือสองเล่ม ถ้าหมดแล้ว ก็ต้องรอรีปริ๊นท์ค่ะ (รอประมาณ 2 สัปดาห์) แต่สองเล่มนี้ก็ติดจองอยู่ ถ้าคนจองไม่รีบมาเอา ก็จะให้คนที่มาก่อนนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่ให้การต้อนรับ หมาป่าของเราค่ะ

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

21 มิถุนายน 2017 เวลา 21:24:16
 :42: มีลูกหมามาป่วนอีกสองตัว แค่พ่อมันก็วุ่นกันแย่ละ แด๊ดดี้มาเลี้ยงลูกเถอะ ปล่อยเจสซี่ให้ผลิตเองบ้าง ดูฟานี่จะมีเรื่องเครียดทุกภาคเลยนะเธอ  :50:
แสดงความคิดเห็น