web stats

ข่าว

 


อีกครึ่งของหัวใจ : ตอนที่ยี่สิบสาม

โพสต์โดย: ลำเนา วันที่: 21 มิถุนายน 2017 เวลา 14:20:07 อ่าน: 366

   เสียงปิดประตูห้องทำเอานับเงินตกใจหันมามองคนที่เดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน หลังจากโดนณฤดีเรียกไปพูดคุยด้วย นับเงินถอนใจนั่งเงียบๆ มิราถอนใจเอามือเคาะที่โต๊ะเหมือนกำลังใจความคิด

   "โตไม่รู้จักโต" มิรารำพึงออกมา นับเงินได้ยินชัดเจนเพราะโต๊ะทำ งานอยู่ห่างกันไม่มากนัก

   "ค่ะ ขอบคุณค่ะ" นับเงินวางสายจากการพูดคุยเรื่องงาน

   "ขอเวลาหน่อยคุยกันหน่อย ถ้าคิดว่าโตแล้วก็ลุกมา" มิราพูดด้วยน้ำเสียงดุๆ นับเงินมองสบตานิดหนึ่ง แต่ยังคงนั่งอยู่

   "เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไหม เมื่อคืน" นับเงินบอก

   "แต่วันนี้ไม่รู้เรื่อง ทำไมไม่แยกเรื่องงานกันเรื่องส่วนตัว ไม่อยากดูแลก็ทิ้งกันแบบนี้เลยให้มิรารับผิดชอบคนเดียว ทำได้ไงว๊ะ อย่างน้อยก็เพื่อนกันหรือเปล่า" มิราพูดเสียงเข้ม

   "ใจเย็นๆ ผลงานที่เห็นน่ะ ไม่เห็นต้องมีใครมาดูแลเลย"

   "จะลุกมาคุยดีๆ หรือจะให้ฉุดให้ลากไป" มิราจ้องเขม็งแล้วจับข้อมือของนับเงินที่ตัวเล็กกว่า ซึ่งอย่างไรคงทานแรงของมิราไม่ไหว

   "มีอะไรก็ว่ามา" นับเงินถามหลังจากเดินมาถึงทางออกบันไดหนีไฟ

   "สตางค์นั่นแหละ มีอะไร"

   "เรื่องไหน"

   "เรื่องงาน โตแล้วหรือเปล่า แยกแยะหน่อยไหม" มิราพูดเสียงเข้ม

   "แยกแยะ ยังไงล่ะ" นับเงินถาม

   "บ้าเอ๊ย" มิราดึงนับเงินเข้ามาแล้วจูบอย่างหนักหน่วง ไม่รู้ด้วยความโมโห ความห่วงใย หรือความรู้สึกดีๆ ที่อยากบอกอีกฝ่ายที่ค่อยๆ เบียดตัวเข้าแนบชิดให้มากขึ้น และจูบตอบอย่างอบอุ่นเหมือนอยากดับความโกรธที่มิรา กำลังรู้สึกอยู่

   "หายบ้าหรือยัง" นับเงินบอกกับคนที่หน้าผากและปลายจมูกยังแนบชิดกับเธออยู่

   "ยัง เหตุผลคืออะไร ทำไมต้องทิ้งมิราทำงานคนเดียว" มิราจ้องเขม็ง

   "อยากได้แบบมีเหตุผล หรือแบบคนไม่ยอมโตล่ะ" นับเงินมองดูแววตาของคนที่ยังคงมีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด

   "ใช่เวลามายอกย้อนไหม เอาที่รู้สึก ทำไมเราถึงทำงานด้วยกันไม่ได้" มิรายืนท้าวสะเอวถอยหลังออกเล็กน้อย

   "อยู่ใกล้มากไม่ได้ เรากลัว กลัวต้องเจ็บซ้ำเจ็บซาก" นับเงินยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อมองแววตาที่เปลี่ยนจากกังวลใจมาอ่อนโยน นับเงินเคยแอบคิดหรืออาจจะไม่ใช่ความรู้สึกดีๆ บางทีอาจจะเป็นความสงสารของมิราก็ได้ทำให้เกิดเรื่องมาจนถึงตอนนี้

   "ซ้ำซาก เพราะสตางค์เองหรือเปล่า"

   "เดี๋ยว เราไม่ได้หมายถึง พีช นะ" นับเงินปรับน้ำเสียงให้มั่นคงขึ้น

   "มิรารู้สึกดี แต่ไม่รู้ว่า จะไปไกลได้แค่ไหน" มิราบอกแล้วหันรีหันขวางทำอะไรไม่ค่อยถูกนัก

   "เราก็ไม่รู้ว่าจะลืมได้สนิทใจเมื่อไหร่ และไม่รู้เหมือนที่ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้ายังทำงานด้วยกัน มันก็ไม่น่าจะโอเค เพราะเราสองคนเลือกที่หยุดความ รู้สึกที่เกิดขึ้น เรายังไม่แข็งแรงพอที่จะหยุดทั้งๆ มีมิราเดินไปเดินมา ยังพูดยังคุยอยู่ใกล้ๆ เราไม่เก่งขนาดนั้นนะ" นับเงินบอกแล้วยืนก้มหน้าไม่ได้มองดูคนที่เดินไปเดินมาเหมือนคิดอะไรไม่ออกเช่นกัน

   "งั้นจะทำอย่างไร ถ้าหากสตางค์ลืมพีชไม่ได้ บอกมิราหน่อย"    

   "เราไม่รู้หรอก มันเป็นเรื่องของวันข้างหน้า ถ้าเราบอกว่า เราทำได้มันก็เหมือนโกหก แต่ที่จูบเมื่อกี้ก็ไม่ใช่เพราะพีช เพราะตัวมิรา เราอยากให้รู้ว่า เรารู้สึกอะไร ถ้าจะหยุดก็หยุดเลย ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม" มิราขยับหานับเงินและค่อยพรมจูบไปที่ริมฝีปากของคนที่ยิ้มน้อยๆ และตอบรับความรู้สึกที่มิราเหมือนเห็นการทดสอบความรู้สึกของตัวเองและนับเงินอีกครั้ง

   "สตางค์ทำให้รู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้า" มิราบอกและถอนใจ

   "บอกเราหน่อย อยู่ห่างๆ กันดี หรือควรปล่อยให้วิถีชีวิตของเราสองคนดำเนินไปตามปกติ เกิดอะไรก็ปล่อยให้เกิด" นับเงินจ้องมองดวงตาคู่สวยของมิราที่ดูนิ่งๆ

   "ลืมมันเถอะ" มิราบอก จ้องมองคนที่แววตาเศร้าลงในทันที นับเงินก้มหน้าลงเล็กน้อย

   "ไม่ล่ะ เราจะเก็บผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาจนทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนได้ใน ช่วงสั้นๆ ได้อย่างไรล่ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะ เรื่องมันก็จะจบลงตรงนี้ เราจะไม่เข้าใกล้มิราอีก แค่เพื่อนร่วมงาน" นับเงินเงยหน้ามามองคนที่เริ่มมีน้ำตาคลอตัวเองก็รู้ดีว่า มีน้ำตาคลออยู่เช่นกัน

   "ลืมที่ผ่านมา แล้วเริ่มใหม่ หัวใจรู้สึกอย่างไร ก็ทำอย่างนั้น อย่าหาเหตุหาข้ออ้างอะไรมาตอบปัญหาแทนความรู้สึกข้างใน โอเคหรือเปล่าถ้าเป็นแบบนี้" มิราเช็ดน้ำตาให้คนที่เริ่มมีน้ำตาไหลรินออกมา

   "บ้าเอ๊ย" นับเงินโผเข้ากอดมิราเอาไว้แนบแน่น

   "กลับไปบอกพี่หนูเล็กด้วย ว่าไม่ย้าย" มิรากระซิบบอก

   "จ๊ะ ยายฝรั่ง" นับเงินยิ้ม เมื่อเห็นรอยยิ้มของมิราซึ่งยังคงมีน้ำตาไหลรินอยู่ นับเงินจึงช่วยเช็ดน้ำตาให้ก่อนที่จะกลับเข้าไปทำงาน

   มารดาของพิชชาให้การต้อนรับญารินเป็นอย่างดี ผิดกันกับที่เคยพานับเงินมาพบ ญารินมีความเป็นผู้ใหญ่ค่อนข้างมากการพูดคุยกันมารดาของเธอนั้นเลยดูเป็นการเป็นงาน ส่วนนับเงินซึ่งอายุน้อยกว่า แต่เรื่องการงานก็มีความรับผิดชอบค่อนข้างมากกับงานที่ทำอยู่ เพราะณฤดีเจ้าของห้องเสื้อให้ความไว้เนื้อเชื่อใจค่อนข้างมาก

   "ดื้อกับพี่เขาหรือเปล่าเรา" มารดาของพิชชาถามลูกสาว

   "ก็มีบ้างค่ะ" พิชชาบอกหันไปมองญารินซึ่งยิ้มๆ กับสิ่งที่ได้ยิน

   "ดื้อมากไหม ลูกญา" พิชชาคิ้วขมวด เมื่อมารดาพูดเหมือนสนิทสนมกับญารินถึงกับเรียก ลูกญา

   "ขี้งอนนิดหน่อยค่ะ" ญารินยิ้มๆ ให้ทั้งมารดาและลูกสาว

   "พี่ญา กำลังจะเบื่อหนูแล้วล่ะคะ" พิชชาบอกกับมารดาที่มองด้วยสายตาดุๆ ญารินอมยิ้ม เพราะรู้ดีว่า ลูกสาวกำลังพูดยั่วมารดา ก็น่าแปลกตั้งแง่กับตอนที่พานับเงินมาแนะนำให้รู้จักในฐานะคนรักที่คบหากัน มารดาก็จะพูดเรื่องที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน แต่เวลานี้กับญารินกลับเห็นดีเห็นงามท่าทางจะเอ็นดูเสียมากกว่าลูกสาวตัวเองเสียอีก เห็นแล้วก็อดที่จะนึกถึงผู้หญิงที่ทำหน้าเจื่อนๆ ครั้งที่พามาพบมารดา พิชชายิ้มจางๆ มองสบตากับญาริน

   "ไว้แม่จะเชิญครอบครัว ลูกญา มาทานอาหารด้วยกันนะคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ช่วยเหลือจัดการให้ด้วยจ๊ะ" มารดามองดูซองเอกสารที่ได้รับไป

   "ยินดีค่ะ จริงๆ คุณน้าไปหาคุณพ่อของญาเองก็ได้ ญาก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้มากนัก" ญารินบอก เพราะบิดาอ่านเอกสารเพียงครู่เดียวก็จัดการเซ็นให้แทบจะไม่ได้พูดหรืออธิบายอะไรเลย

   "อย่างน้อยก็ช่วยดูแล แม่ลูกสาวแสนดื้อให้"

   "พีชดูแลญาเสียมากกว่าค่ะ" พิชชายิ้มๆ เมื่อได้ยินเหมือนเป็นคำชม

   "ฝากน้องด้วยนะ ลูกญา แม่ขอตัวก่อน พีชดูแลพี่เขาดีๆ ด้วยนะ"

   "เจ้าค่ะ" พิชชาถอนใจเฮือกใหญ่หลังจากมารดาลุกออกไปแล้ว

   "ร้ายนักนะคะ เคยบอกเมื่อไหร่ว่า เบื่อ" ญารินถามพิชชาที่ยิ้มๆ อยู่

   "พูดเผื่อไว้ก่อนค่ะ ทำไมถึงต้องใจดีขนาดนี้ด้วย รู้ก็รู้ว่าแม่คิดอะไรหวังอะไร" พิชชาพูดเพราะรู้สึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น

   "พีชล่ะ หวังอะไร" ญารินถาม

   "อยากได้คำตอบจริงๆ เลยหรือเปล่าล่ะคะ" พิชชายิ้มจางๆ ให้ญาริน

   "พี่โตแล้ว รับฟังได้"

   "ตอนแรกๆ ก็ตามแม่สั่ง" พิชชาก้มหน้าน้อยๆ รู้สึกไม่อยากให้คนที่ดีต่อเธอนั้นไม่สบายใจ

   "แล้วตอนนี้ล่ะ" ญารินยิ้มๆ ให้พิชชาที่มีรอยยิ้มให้เห็นเล็กน้อย

   "กลัวทำให้พี่ญาไม่มีความสุข กลัวพี่เสียใจที่อยู่กับหนู"

   "ร้อนแรงซะขนาดนี้ พี่มีความสุขนะที่ได้ใช้เวลาอยู่กับหนูน่ะ"

   "อันนี้ของจริง ไม่ได้พูดเพื่อความสบายใจใช่ไหมคะ" พิชชาถาม

   "ตั้งแต่รู้จักกัน พี่เคยพูดไม่จริงไม่ล่ะ"

   "ทานข้าวแล้วขึ้นไปพักข้างบนไหม มีห้องพักของครอบครัว วิวสวยค่ะ เผื่อพี่ญาจะชอบ มาค้างคืนกันก็ได้นะ ไว้รีสอร์ทใหม่เสร็จค่อยไปเที่ยวกัน" พิชชายิ้มๆ โผเข้ากอดญารินเอาไว้

   "มื้อเที่ยง ทานข้าวแล้วชวนขึ้นห้อง ยังไงกันคะ คุณพิชชา" ญารินยิ้มและหัวเราะออกมาเมื่อเห็นพิชชาทำหน้าตาแปลกๆ

   "ทำมาพูด รู้น่ะว่าคิดไปถึงไหนแล้วน่ะ" พิชชาอมยิ้ม

   "ถ้าเราสั่งอาหารไปทานข้างบนล่ะ" ญารินยิ้มทะเล้นให้พิชชา

   "โคตรหื่นเลย พี่ญา" พิชชาเดินไปแจ้งเจ้าหน้าเรื่องห้องพักส่วนตัวของครอบครัวรวมถึงอาหารกลางวัน

   "คนไม่หื่น รีบไปสั่งการณ์เชียวนะคะ" ญารินยิ้มๆ กับคนที่กลับมาจับมือให้ลุกขึ้นเดินตามไปชั้นสูงสุดของโรงแรม

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น