เพราะรัก i got you-4.เพลงรัก
โพสต์โดย:
Pearfa
วันที่: 11 มิถุนายน 2017 เวลา 10:18:32
อ่าน: 247
|
"แพรวเราถามหน่อยดิ เรื่องพี่วิว" ทันทีที่รถเคลื่อนตัว วราค์ก็รีบหันมาถามคนขที่ขับรถในเรื่องที่คาใจในทันที เธอไม่เคยเห็นเพื่อนสาวอย่างอลิตาเป็นแบบนี้มาก่อน เธอจึงไม่แน่ใจว่ามันคือความจริงใจหรือแค่รักสนุกเพียงเท่านั่น "แพรวจริงจังนะวา สบายใจได้" อลิตาตอบในทันทีโดยไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก ความรู้สึกมันบอกว่าใช่ ดังนั่นเธอจะเดินหน้าต่อโดยไม่มีข้อแม้ "โอเค วาจะรอดูว่าแพรวจะทำมันได้แค่ไหนกัน" "วาเตรียมเรียกแพรวว่าพี่สะใภ้ได้เลย ฮะ ฮะ" หญิงสาวอมยิ้มเล็กๆให้กับคำพูดของตัวเอง เมื่อหันไปมองหน้าคนข้างๆที่ทำหน้าบี้เบ้ปากจ้องกันอยู่ก็ต้องหลุดขำออกมาในทันที "มั่นหน้ามากนะค่ะคุณอลิตา" "แน่นอนค่ะ" อลิตายักคิ้วใส่คนข้างๆ เธอมั่นใจว่าเธอจะเอาชนะใจของพี่วิวได้แน่ เธอจะทำมันและจะทำให้ได้ด้วย ทันทีที่รถเข้าจอดพื้นที่วีไอพีผู้รักษาความปลอดของพื้นที่ก็วิ่งเข้ามาทำท่าตะเบงข้างๆรถของอลิตาในทันที "สวัสดีครับคุณแพรว" "สวัสดีค่ะแพรวฝากรถด้วยนะค่ะ" หญิงสาวยิ้มร่าให้คนที่ตั้งใจปฏิบัติตามหน้าที่ของตน ก่อนจะเดินเข้าทางด้านหลังร้านพร้อมกลับวราค์ที่สะพายกีต้าอยู่บนหลัง ภายในร้านต่างมีพนักงานที่วิ่งวุ่นกับการจัดเตรียมของก่อนจะเปิดร้านในอีกไม่กี่นาที ทุกคนดูวุ่นวายจนไม่ได้สนใจการมาใหม่ของบุคคลทั้งสองคน วราค์มองหญิงสาวตัวเล็กในชุดเด็กเสริฟที่กำลังก้มหน้าเช็ดโต๊ะด้วยใบหน้าเคร่งขรึม นั่นทำให้หญิงสาวที่ได้แต่ยืนมองพลางอมยิ้มอย่างมีความสุข อลิตามองหน้าเพื่อนสาวข้างๆที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ เธอมองตามสายตาของเพื่อนสาว ซึ่งไปหยุดอยู่ที่พริมลเด็กเสริฟประจำร้านของพี่ชายเธอ กี่ครั้งต่อกี่ครั้งวราค์ก็เอาแต่มองอีกคนอยู่แบบนี้ เธอเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเพราะถ้าเป็นปกติวราค์ก็คงไม่ต่างจากเธอมากเท่าไร หากถูกใจใครสักคนคงพุ่งแล้วชนอย่างเดียว "วา เราขึ้นไปข้างบนกันเถอะ" ฉันสะกิดเพื่อนสาวที่ยังจ้องเด็กเสริฟไม่เลิก เธอหันมาพยักหน้าให้ฉันและหันกลับไปยืนยิ้มมองหญิงสาวเช่นเดิม ตกลงว่าหล่อนจะไปด้วยกันไหมเนี้ย "วา เอาเก้าอี้เลยไหมคะถ้าจะจ้องไม่ขยับแบบนี้" ฉันพูดเบาๆพอให้ได้ยินแค่สองคน วราค์หันมาตีลงที่ไหล่บางของฉัน นี่เธอกำลังเขินใช่ไหมวราค์ "แกพูดอะไรของแกเนี้ย ถ้าพลอยได้ยินคงไม่กล้าคุยกับฉันหนักกว่าเดิมอีก" "แล้วทำไมพลอยจะไม่คุยกับแกอะ กล้าๆหน่อยดิ" กลัวเขาได้ยิน แต่ไม่กลัวเขาเห็นยัยเพื่อนบ้า อลิตาแอบประทวงความคิดของเพื่อนสาวในใจ "ไม่หรอกแพรว วาเคยพูดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่มันทำให้พลอยเลิกยุ่งกับวาไปเลยอะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเราคงไม่ได้คุยกัน" วราค์ทำหน้าสลดลงเล็กน้อย สายตายังคงจ้องมองหญิงสาวที่ทำให้เธอยืนคิ้วตกอยู่ตรงนี่ เธอไม่เคยโดนใครปฏิเสธแบบนี้สักครั้ง และไม่เคยรู้สึกอยากจะรักใครได้มากขนาดนี้ด้วย "ใจเย็นๆนะวา ถ้ารักจริงก็สู้ๆนะค่า อย่าซึมดิ เดียวลูกค้าพี่ฉันก็หายหมดหรอก" ลูกค้าที่มาที่นี่ต่างก็มาเพราะเธอทั้งสองคนซะส่วนใหญ่ ยิ่งเป็นเพื่อนสาวอย่างวราค์ที่ชอบทำตัวเป็นสาวโสดใจพระบริจาคกอดแถมหอมให้สาวๆอยู่บ่อยครั้ง คงไม่แปลกที่จะมีผู้คนหลงใหลในตัวของเพื่อนเธอเป็นจำนวนมาก "รู้แล้วค่ะ ขึ้นข้างบนกันเถอะพี่พูรอนานแหละ" วราค์เอ่ยถึงพี่ชายเพียงคนเดียวของเพื่อนรักที่กำลังนั้งเครียดอยู่กับกองเอกสาร ทั้งที่คนเป็นพี่เครียดแทบบ้าตึคนเป็นน้องอย่างอลิตายังคงยิ้มร่าหน้าบานได้ทุกวัน จนเธอเองก็ยังต้องส่ายหน้าให้กับความติสของหล่อน "อืมไปสิ" สองหญิงสาวเดินขึ้นบันไดไปโดยมีมือของวราค์ทีจับไหล่บางของอีกคนไม่ปล่อย เธอสองคนไม่เคยรับรู้เลยว่าการกระทำของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของเด็กสาวอย่างพริมลอยู่ตลอดเวลา หญิงสาวคนนี้กลับคิดว่าเพื่อนสาวสองคนที่หางตาเธอพึ่งได้เห็นเขาหยอกล้อกันนั่นชั่งดูน่ารักจนน่าอิจฉา บางครั้งเธอเองก็แอบเคืองให้วราค์เหมือนกัน เพราะคุณวราค์ชอบทำตัวทะเล้นใส่คนนั่นคนนี้โดยไม่สนใจความรู้สึกของเจ้านายสาวของเธอเลย คุณแพรวเธอไม่รู้บางเลยรึไงกัน ว่าคนรักของเธอชอบไปบอกรักบอกชอบคนอื่นไปทั่ว "พี่พู คิดถึงที่สุดดดด" อลิตาวิ่งโผเข้ากอดพี่ชายของตนในทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามา จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นชายหนุ่มอีกคนที่นั้งอมยิ้มอยู่ตรงโซฟา "โอ้ยยย แพรวเล่นเป็นเด็กไปได้ ถ้าสาวๆมาเห็นสภาพนี้คงพากันหนีหมดแน่" พูวดลพูดหยอกน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา เมื่อหญิงสาวเล่นวิ่งมากอดกันจนเขาตั้งตัวเสียไม่ทัน อลิตาชอบทำตัวเป็นเด็กสาวทุกครั้งที่อยู่กับเขานิสัยเด็กๆไม่เคยเปลี่ยนจริงๆเลยสินะ "แพรวไม่สนสาวพวกนั่นแล้วคะ เชิญพวกเธอหนีกันไปให้หมดเลย" อลิตาเดินมานั้งลงที่โซฟาตัวใหญ่ตรงกลางระหว่างพี่ธันวากับวราค์เพื่อนสาวของเธอ มือเรียวยกกระเป๋าขึ้นมาวางที่ตักก่อนจะรื้อหาอะไรสักอย่าง "ฮึม พูดแบบนี้ไม่เสียดายรึไงกัน" "ไม่เลยสักนิดคะ เพราะแพรวมีคนที่แพรวอยากแคร์แล้ว" หญิงสาวยกไม้กลองทั้งสองที่พึ่งรื้อได้จากกระเป๋าเป้ของตัวเองขึ้นมานาบข้างแก้มของตัวเองด้วยความเขินอาย ดวงตากลมโตฉายแววประกายแห่งความสุขใจออกมา จนคนฟังอย่างพูวดลต้องยกยิ้มตามน้องสาว "โอ้ยยแพรว ถามพี่เรารึยังว่าอยากให้แพรวแคร์ปล่าว" วราค์นั้งมองไม้กลองในมือของเพื่อนสาวที่ถูกนำมาถูๆอยู่ข้างแก้มของหล่อน เธอนั้งฟังเพื่อนตัวเองพูดไปยิ้มไปมานานแหละ เห็นแหละอดที่จะหมั่นใส้หล่อนไม่ได้เลยจริงๆๆ จะเขินอะไรเบอร์นั่นคุณเพื่อน "นั่นสิแพรว ถามเขาหรือยัง" พูวดลเห็นด้วยกับที่วราค์พูด เมื่อมองเห็นความจริงจังของน้องสาวผ่านรอยยิ้มหวานๆ เขาอดที่จะห่วงไม่ได้หากว่าคนที่อลิตาชอบไม่ได้ชอบอลิตาละ น้องเขาคงเสียใจเอามากๆ "แพรว ?"." เธอถามแล้ว บอกแล้ว แต่คำตอบมันก็ไม่ค่อยจะสวยงามสักเท่าไรเลย หากแต่ว่ามันดูจะดีกว่าที่วราค์เป็นอยู่แล้วกันละ เธอได้บอกได้พูดให้อีกคนได้รู้ ถึงมันจะดูไม่จริงใจสักเท่าไรก็เถอะ "นั่นไง เผื่อใจบ้างก็ดีนะน้องสาว" "ค่ะ แพรวเข้าใจแล้วค่ะ" "วาแค่พูดเล่นนะค่ะ ที่จริงพี่วิวอาจจะชอบแพรวก็ได้ มันอาจไม่ใช่วันนี้ แต่อาจเป็นพรุ่งนี้ หรือเมื่อรืน ไม่ก็"." วราค์มองหน้าเพื่อนสาวที่สลดลงก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที จึงรีบพูดแก้ต่างให้พี่สาวตัวเองในทันที "พอแล้ววา ขอบคุณนะ" อลิตาฉีกยิ้มเข้าใจในความหวังดีของเพื่อนสาว และมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาได้จริงๆ ต้องมีสักวันที่พี่วิวจะหันมาสนใจเธอบ้างแหละ เสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นภายในผับขนาดกลางของชายหนุ่มผู้มีน้องสาวสุดสวยที่กำลังเดินขึ้นเวทีพร้อมกับเพื่อนสาวคนสนิทและเพื่อนในกลุ่มดนตรี หญิงสาวร่างสูงที่เดินควงไม้กลองพลางมองด้านล่างของเวทีที่มีสายตาหวานๆจากหญิงสาวส่งมาให้ อลิตายกยิ้มที่มุมปากก่อนจะนั้งลงที่ด้านหลังสุดติดกับพื้นหลังสีดำของเวที ด้านหน้าของเธอคือกลองชุดเจ้าประจำที่เธอเล่นมันมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย หญิงสาวผู้ชื่นชอบเสียงดนตรียิ่งเวลาได้ยินจังหวะของเสียงกลองที่ดังตุ้มๆอยู่ในอกมันยิ่งทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขและสามารถยิ้มได้ในทุกสถานการณ์ "บอยวันนี้เล่นเพลงอะไรหรอ" วราค์หันมาถามชายหนุ่มนักร้องนำที่ชื่อบอยหลังจากที่เธอปรับคีย์เสียงเครื่องดนตรีของตัวเองเสร็จ "อะ นี่" ชายหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามของวราค์ หากส่งโน้ตเพลงของวันนี้มาให้หญิงสาว และเพื่อนๆในวงแทน "เพลงแรกร้องเปิดพอสนุกๆ แล้วก็เพลงสุดท้ายแพรวขอให้แกอะวา " วราค์หันมองเจ้าของชื่อที่นั้งลองเสียงกลองอยู่แตกๆ โดยไม่ได้หันมาสนใจสิ่งที่พวกเธอคุยกันเลยสักนิด "แพรว แพรว " "ว ว่าไรนะ" อลิตาเงยหน้ามามองเพื่อนสาวที่เรียกชื่อเธอ ก่อนจะลุกมายืนกลางวงการสนทนาของบอยและวา "แพรวขอเพลงให้เราหรอ" วราค์มองชื่อเพลงที่เขียนว่า "ดีใจ (I"am glad)".พลอยชมพู" แล้วหันมองหน้าเพื่อนสาว นี่เพื่อนเธอมาอารมณ์ไหนกันเนี้ย "ปล่าว แพรวไม่ได้ขอให้วา แต่ขอแทนวากับน้องคนโน่นนนนนนน" คำว่าโน่นของอลิตาทำให้เพื่อนทั้งสองคนชะเง้อคอมองตามและใบหน้าของวราค์ก็ร้อนผ่าวขึ้นมาในทันทีเมื่อคนคนนั่นคือ พริมล "บอยเริ่มเลยแพรวพร้อมแล้ว" ทุกคนพร้อมแต่เหมือนว่าวราค์จะยังไม่พร้อม ดวงหน้าคมเข้มที่ยังไม่หยุดมองหญิงสาวตัวเล็กที่เดินไปมาอยู่ด้านล่าง จนเพื่อนชายข้างๆกันอย่างดิฟต้องสะกิดแขนเสื้อเตือนหล่อนเมื่อนักร้องนำเริ่มพูดเปิดแล้ว ใบหน้าหวานขยับหัวตามจังหวะเพลง มือเรียวเคาะลงที่กลองที่ให้เสียงแตกต่างกันไปเรื่อยๆ อลิตามองสีหน้าของเพื่อนถึงกับต้องอมยิ้มมีความสุข เพื่อนเธอเขินจนยิ้มไม่หุบ เสียงนุ่มทุ่มที่ดังคลอตามเสียงดนตรีของนักร้องนำชาย ในยามที่เพลงดังไปเรื่อยๆ ในหัวใจของคนที่ได้ยินต่างก็รู้สึกดีเพราะความหมายดีๆของเพลง ลูกค้าจำนวนมากที่ทยอยเข้ามาภายในร้านต่างหยุดการสนทนาหรือเสียงหยอกล้อและหันมาให้ความสนใจกับการแสดงบนเวทีในทันที บทเพลงที่บรรเลงออกมาไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกของคนที่แสดงทุกๆคนข้างบนเวที แต่ละเรื่องราวที่เราได้เจอะได้เจอ แต่ละความฝันที่เคยแบ่งปันกันมา แต่ละฤดูที่มันได้ผ่านและพ้นไป ได้พิสูจน์ใจ ที่มันได้ผ่านและพ้นไป ได้พิสูจน์ อลิตานั้งอมยิ้มยามนึกถึงใบหน้าของพี่สาวคนสวย เธออยากให้พี่วิวมานั้งอยู่ตรงนี้จัง ใบหน้าหวานๆของหญิงสาวขยับตามจังเพลงหวานไปมา ยิ่งนึกถึงวีรินทร์รอยยิ้มกว้างก็หุบไม่ได้เลย อลิตานึกขำให้กับความฟุ้งซ่านของตัวเองพลางส่ายตาไปมา จากที่คุ้นเคยเพียงการเดินอยู่ลำพัง จากที่เคยฝันคนเดียวอยู่ไปวันๆ จากที่ไม่เคยมีใครมาอยู่ในหัวใจ ก็มีเธอนั้น เสียงกีต้าร์ที่ดังออกมาตามตัวโน๊ตที่กำหนดคีย์ในกระดาษตรงหน้าของหญิงสาว ใบหน้าคมจ้องมองคนตัวเล็กที่หันมามองกันในบางครั้งแค่นั่นรอยยิ้มหวานก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้าของวราค์ในทันที เพียงแค่เสียงวินาทีที่อีกคนเลือกที่จะหันมาสบตากันแค่นั่นมันก็มีความสุขมากๆแล้ว มือเรียวที่ทำหน้าที่ดีดกีต้าร์จนเกิดเสียงตามความรู้สึกของหญิงสาว เธออยากส่งความรู้สึกทั้งหมดให้พริมลจัง อยากบอกว่ามีหนึ่งคนตรงนี้มันรักเธอเข้าซะแล้ว เพราะได้เจอกับเธอ ทุกวันมีความหมาย ย้ำในหัวใจเรื่อยมา ดีใจที่มีวันนี้ ดีใจที่ได้พบเธอ ดีใจที่ชีวิตฉันมีเธอได้เรียนรู้ และใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ดีใจที่เป็นคนนี้ เป็นเธอคนที่แสนดี ในใจได้แต่เพียงหวังให้เป็นอยู่อย่างนี้ และขอมีกันตลอดไป ฉันขอเธอได้หรือเปล่า "เย้ๆๆๆๆ ขอบคุณสำหรับเสียงปรบมือและกำลังใจดีจากทุกๆคนนะครับ วันนี้ทุกคนร้องเพราะมากๆเลยยย" เสียงของชายหนุ่มผู้ถือไมค์อยู่ในมือดังขึ้นหลังเสียงเพลงจบลง เสียงปรบมือบวกกับเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นจนทำให้รู้สึกใจชื่นขึ้นมา "ดีใจที่ทุกคนชอบบทเพลงที่พวกเราได้สื่อความรู้สึกออกไปนะครับ ที่จริง?".." บอยหันมามองหน้าหญิงสาวที่ยืนสะพายกีต้าร์อยู่ข้างๆ ชายหนุ่มอมยิ้มก่อนจะหันกลับมามองท่านผู้ชมที่รอคำพูดของเขาต่อ "ที่จริงเพลงนี่วราค์ของผมเธอขอมา เธออยากจะส่งความรู้สึกดีๆไปให้ผู้หญิงคนหนึ่ง" เสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นมากกว่าเดิม ชายหนุ่มถึงกับต้องชะงักเพราะเสียงเขาไม่คงดังไม่เท่าเสียงกรี๊ดในตอนนี่แน่ อลิตาอมยิ้มมองเพื่อนสาวที่ยืนเขินอยู่ด้านหน้า พลางมองผู้หญิงด้านหน้าเวทีที่ทำหน้าดี้ด้าสะกิดเพื่อนที กระโดดโลดเต้นที คงคิดว่าตัวเองเป็นหญิงสาวผู้โชคดีคนนั่นสินะ "ลองเดาเอาแล้วกันนะครับว่าหญิงสาวผู้โชคดีคือใคร วาบอกผมแค่ว่าให้คนโน่นนนนนนน" เพื่อนในกลุ่มพากันหัวเรากลั่วออกมาทันที คนโน่นนนนนนนนของบอยทำให้สาวๆด้านล่างต่างพากันมองหน้าคนข้างๆอย่างเลิกลั่ก จะใครซะอีกละก็คนที่ยืนหน้านิ่งถือถาดขนาบข้างกายอยู่นั่นไง "ฮะโหลพี่เว พี่บี วากลับมาแล้วววว " ทันทีที่ประตูร้านถูกเปิดออกเสียงใสๆของวราค์ก็นำหน้ามาก่อนตัว เวหาฉีกยิ้มส่ายหน้าไปมา พลางมองน้องสาวของตนที่เดินมากับเพื่อนสาวอย่างอลิตา ตอนวราค์ไม่อยู่ร้านก็รู้สึกสงบดีอยู่หรอกนะพอหล่อนมาเท่านั่นแหละกลายเป็นตลาดเสมอเลย "พี่เว พีบีสวัสดีค่ะ" อลิตายกมือไหว้ผู้เป็นพี่ทั้งสองคน วันนี้ภายในร้านมีลูกค้าเยอะจัง ดวงตากลมโตมองไปทั่วร้านที่มีลูกค้านั้งกันเต็มทุกโต๊ะ อาจเพราะว่าวันนี้เป็นวันอาทิตย์ละมั้ง "นึกว่าวาจะไม่กลับบ้านซะแล้ว หายไปเป็นวันๆเลยนะ" เวหาพูดเหย้าน้องสาวที่ยืนกุมกระเป๋าสะพาดของตัวเอง ก็อีกคนเล่นหายไปเป็นวันๆ หายออกไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วพึ่งกลับมาเอาตอนสีฟ้ามืดครึ่มนี่นะ "วาไปรายงานนะพี่เว ไม่เชื่อถามแพรวได้เลย" วราค์ชี้นิ้วไปหาเพื่อนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆกัน เธอไม่ได้โกหกอยู่แล้วยิ่งใกล้จบปีสามงานนิกองท่วมหัวมากทำยังไงก็ไม่หมดสักที "เอ่อ จริงคะ" อลิตารีบหันไปตอบเวหาในทันที ถึงจะยังมึนๆอยู่บ้าง อยู่ดีๆเพื่อนสาวก็โยนมาให้เธอซะงั้นเกือบตั้งตัวไม่ทันซะแล้ว "อืม แล้วจะไปไหนกันอีกปล่าว พี่อยากให้วาช่วยงานที่ร้านก่อนได้ไหมอะ วันนี้ลูกค้าเยอะมากเลย" เวหาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดเกรงใจนิดๆ เขาเองก็รู้ว่าน้องสาวเขาไม่ได้โกหกหรอก เค้าเองก็เคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาเหมือนกันทำไมจะไม่รู้ว่าแต่ละช่วงปีของการเรียนมันเป็นยังไงบ้าง แต่วันนี้เขารับมือกลับลูกค้าไม่ทันจริงๆ เจอบางลูกค้าบางคนที่ไม่เข้าใจก็ชักสีหน้าใส่เพราะมองว่าเราไม่ตั้งใจบริการ เฮ้ออ จะเอาอะไรมากกับพนักงานแค่สี่คน เขา แฟนสาว น้องสาวและพาทไทม์อีกหนึ่ง "ไม่ได้ไปแล้วคะพี่เว" เป็นอลิตาที่ตอบออกมาด้วยรอยยิ้มหวาน เธอมองสีหน้าชายหนุ่มด้วยความเห็นใจ "งั้นดีเลยพี่ฝากด้วยนะน้องสาวทั้งสอง" "โอเคค่ะ/ได้เลยค่ะ" สองสาวเพื่อนซี้ขานรับพี่ชายอย่างขันแข็ง ก่อนจะเดินแยกไปทำหน้าที่ของตัวเองในทันที "อ้าวพี่วิว เหนื่อยไหมคะ" อลิตาวางถาดแก้วข้างๆซิงค์ร่างแก้วซึ่งมีพี่สาวอย่างวีรินทร์ยืนล้างแก้วอย่างขะมักเขม้น ใบหน้าสวยคมของพี่วิวถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์โทนสีอ่อนๆ มองดูคล้ายหญิงสาวผู้มีสุขภาพดี เม็ดเหื่อที่เกาะอยู่ข้างแก้มของพี่สาวแสดงให้เห็นถึงการทำงานที่ไม่ได้พักเลยสักนิด เธออยากจะยื่นมือเข้าไปซับเม็ดเหงื่อข้างแก้มนั่นให้จัง "เหนื่อยค่ะ วันนี้ลูกค้าเยอะมากเลย" วีรินทร์หันมาตอบหญิงสาวที่ยืนหันหน้ามองเธอด้วยรอยยิ้ม ก่อนหันกลับไปล้างแก้วในมือต่อวันนี้เธอช่วยงานพี่ชายยังไมได้พักเลย จะบอกว่าข้าวยังไม่ได้กินก็ถูก "งั้นพี่วิวไปนั้งพักก่อนเถอะค่ะ เดียวตรงนี้แพรวทำต่อให้" หญิงสาวมองแก้วในซิงค์ล้างจานที่วางเรียงกันเป็นสิบ บวกกับในถาดที่ตนพึ่งถือมาเมื่อครู่ "ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไหวแค่นี้เอง ช่วยๆกันจะได้เสร็จแล้ว" "งั้นแพรวช่วยล้างนะคะ" อลิตาขยับตัวมายืนประชิดตัวพี่สาวให้มากขึ้น ถึงจะไม่ได้ยืนหันหน้ามองกันแต่ใจเธอก็เต้นดังพอให้คนข้างๆจะได้ยินมัน คนอายุน้อยกว่าเหลือบมองเม็ดเหงื่อบนใบหน้าของพี่สาวที่ไหลอาบลงมามากกว่าเดิม มือเรียวข้างกายอดไม่ไหวอีกแล้วจึงยกขึ้นมาหวังจะซับมันออกจากใบหน้าสวยในทันที มือเรียวของอลิตาค้างกลางอากาศใกล้ๆกับใบหน้าของคนอายุมากกว่าเล็กน้อย ดวงตากลมมองตาพี่สาวที่หันมาสบมองกันในตอนที่เธอยกมือเรียวนั่นขึ้นมา เธอจ้องพี่สาวเหมือนเป็นการขออนุญาตอีกคนทางสายตา เมื่ออีกคนไม่ได้มีท่าทีปฏิเสธอะไรอลิตาจึงลงมือจัดการกับเม็ดเหงื่อข้างแก้มของพี่วิวในทัน กล้ามากที่มาเกาะกุมใบหน้าสวยๆของพี่วิว อลิตาเอ็ดเม็ดเหงื่อที่ไร้ความรู้สึกอยู่ภายในใจ มือเรี่ยวค่อยๆเกลี่ยข้างแก้มของคนตรงหน้าอย่างทะนุถนอม พลันสายตาของคนที่เธอกำลังเช็ดหน้าให้ก็เงยขึ้นมามองจ้องกันให้ใจเธอเต้นรัวอีกครา อยากจะลงไปดิ้นๆๆๆตรงพื้นในตอนนี่เลยให้ได้ เพียงแค่สาวตาคมสวยของพี่สาวที่ส่งมาแค่นั่นก็ทำให้เธอแขนขาแทบหมดแรงในทันที "พอแล้วมั้งคะ เดียวงานไม่เสร็จเอา" วีรินทร์พูดขัดความคิดของคนตรงหน้า คนเป็นน้องที่เอาแต่ยิ้มกริ่มจนเธอเองก็รู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาบนหน้า ให้ตายเถอะเด็กนิอ่อนเธอเก่งชะมัด "ค ค่ะ เสร็จพอดีเลยค่ะ" หน้าพี่วิวนู๊มนุ่ม นุ่มจนลืมไปเลยว่าตอนนี่เรากำลังอยู่ในเวลาเร่งรีบ อยากหยุดเวลา ปาล์มมี่ช่วยแพรวที!!!! คนตัวสูงร้องประทวนในใจเมื่องานตรงหน้าทำให้เธอจำต้องรีบผละมือออกจากใบหน้าเนียนของพี่สาว กว่างานตรงหน้าจะเสร็จสิ้นไปได้ด้วยดีก็ปาเข้าไปจนท้องฟ้ามืดดำสนิท นาฬิกาเรือนเล็กรูปบ้านที่แขวนไว้ด้านหลังเคาเตอร์ที่ขึ้นตัวเลขดิจิติลสีแดงบอกเวลาไว้เด่นหลา "แพรวกลับก่อนก็ได้นะนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย" วราค์นั้งลงบนโซฟาข้างๆเพื่อนสาวที่พึ่งจะนั้งไปก่อนแป๊บเดียว ท้องฟ้าที่เปลี่ยนสีและผู้คนบนท้องถนนที่ลดจำนวนลดทำให้เธอเกิดเป็นห่วงเพื่อนสาวขึ้นมา อลิตาเองก็ไม่ไดกลับบ้านใหญ่มาหลายวันแล้ว หล่อนบอกจะกลับวันนี้แต่ก็ยังต้องอยู่ช่วยงานพวกเธอจนมืดค่ำอีก "ไม่เป็นไรหรอก แพรวอยู่ต่อได้อีกนิด" ใบหน้ายิ้มแย้มของอลิตาไม่ได้ทำให้เพื่อนสาวอย่างวราค์หายห่วงเลย เธอกลัวว่าเพื่อนสาวเธอจะมีปัญหากับครอบครัวอีก หากยังอยู่ติดกับเธอแบบนี้ วีรินทร์เลือกที่จะนั้งลงบนโซฟาตรงข้ามน้องสาวทั้งสองคน นั่นทำให้อลิตาหันมามองการมาของพี่สาวในทันที "พี่วิว เหนื่อยไหมคะ" วราค์หันมองเพื่อนสาวของตัวเองที่ส่งสายตาหวานเยิ้มไปให้พี่สาวของเธอ ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นก้างขวางทางใครอยู่เลย คิดได้ดังนั่นหญิงสาวก็ลุกขึ้นเดินไปหาพี่ชายกับพี่สะใภ้ที่นั้งทำบัญชีกันอยู่อีกโต๊ะหนึ่ง "เหนื่อยคะ แต่หายแล้ว" หญิงสาวมองใบหน้าหวานที่ดวงตาจะปิดอยู่ลอมล่อ แต่ดันมาถามเธอว่าเหนื่อยไหม "แพรวไม่กลับง่ายหรอ นี่ก็ดึกมากแล้วนะ" เธอถามอีกคนด้วยความเป็นห่วง นาฬิกาที่ขึ้นเลข 21.13 บ่งบอกว่ามันดึกเกินกว่าที่ผู้หญิงสาวๆอย่างอลิตาจะต้องเดินทางกลับบ้านไกลๆเพียงคนเดียว เธอเป็นห่วงน้อง "พี่วิวอยากให้แพรวกลับแล้วหรอคะ" ใบหน้าสลดที่แสดงออกมา ทำให้วีรินทร์ยกยิ้มที่มุมปาก รู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้เสียจริงๆ ดูทำหน้าเข้า เขาห่วงก็ยังไม่รู้ตัวอีกเนาะ "ไม่ใช่แบบนั่นคะ มันมืดแล้วพี่ไม่อยากให้แพรวกลับมืดๆค่ำๆ มันอันตราย" "แต่แพรวก็ขับรถเวลาแบบนี้ออกจะบ่อยนะคะ" อลิตาเถียงต่อ "ก็ใช้คะ แต่ถ้าไม่ทำแบบนั่นบ่อยๆมันก็จะดีกว่าไหมคะ" "พี่วิวห่วงแพรวหรอคะ" ใบหน้าวงรีของพี่สาวที่ขึ้นสีชมพูอ่อนๆ ริมฝีปากบางที่เม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรง ในยามที่อลิตาขยับตัวมานั้งใกล้ๆพี่สาวให้มากกว่าเดิมเล็กน้อย "พ พี่ก็ห่วงทุกคนแหละคะ แพรวก็น้องพี่คนหนึ่งเหมือนกัน" วีรินทร์เลี่ยงตอบในสิ่งที่เป็นกลางมากที่สุด ทั้งที่ในใจกำลังไหวตามดวงตากลมโตของคนตรงหน้า ไม่มีใครอยากเม้นให้ไรท์บางเลยหยอออ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|