web stats

ข่าว

 


Angels & Devils_S3 - บทที่ 9 จุดอ่อนของฉัน

โพสต์โดย: anhann วันที่: 18 มิถุนายน 2017 เวลา 21:23:46 อ่าน: 335



บทที่ 9 จุดอ่อนของฉัน





เมเดอลินสะดุ้งเฮือก  เปิดดวงตาขึ้นในความมืด  เป็นอีกคืนแล้วที่เธอฝันเหมือนเดิม  แม่มีอาร้องเรียกเธออยู่ที่ไหนสักที่  แต่สิ่งที่เธอมองเห็นมีเพียงความมืดรอบด้าน  มืดเหมือนห้องห้องนี้

ปีศาจสาวกลืนน้ำลาย  ลำคอเธอฝืดเหมือนกลืนทรายเข้าไปเป็นกำจนต้องคลำหาขวดน้ำบนโต๊ะข้างเตียงมาเปิดกระดกดื่มทั้งขวด  ลืมไปเถอะเรื่องจะรินใส่แก้ว  แค่นี้มือก็สั่นแทบถือขวดไม่ไหวแล้ว 

นัยน์ตาสีฟ้ายังสั่นระริกขณะมองไปรอบด้านอย่างหวาดระแวง  เธอแน่ใจว่าเข้านอนคนเดียว  เพราะส่วนใหญ่ก็นอนคนเดียวทุกคืนอยู่แล้ว  อย่าไปพูดถึงเอวา  เทวดาสังเกตการณ์นั่นไม่มีทางนอนค้างในคฤหาสน์มืด  มีแต่เธอต้องลากสังขารตัวเองไปหา  และค้างคืนในบ้านชายป่านั่นเท่านั้น  อีกอย่างเธอก็ไม่ให้อาหารนอนบนเตียงนี้ด้วยไปทั้งคืนหรอก  กินเสร็จก็ไล่กลับตลอด  หรือไม่ก็ให้ใครมาหิ้วเอาออกไปให้ 

เมเดอลินวางขวดน้ำลง  สลัดผ้าห่มออกจากตัวเมื่อรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ชุ่มโชกไปทั้งชุดนอนกระโปรงสายเดี่ยวผ้ามันลื่นของตน  อากาศไม่ได้ร้อน  มันเย็นสบายดีด้วยซ้ำ  สายลมยังปะทะใบหน้าเธอตอนลุกขึ้นมาเปิดม่านดูวิวด้านนอก  ท้องฟ้ายังมืดสนิท  ดวงจันทร์ครึ่งใบให้แสงสว่างไม่เพียงพอ

เธอควรกลับไปนอน  รอให้เช้าก่อนค่อยคิดอยากจะไปไหน  แต่ขืนฝืนลงไปนอนอีกก็มีแต่จะปวดหัว  คืนนี้อย่างไรก็คงไม่หลับแล้ว  หรือเธอกังวลเรื่องเงาของแม่มากไป  ครั้นจะเปิดประตูเข้าไปสอบถามมันก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่  อย่างน้อยเธอควรมีเพื่อนเข้าไปด้วย  เผื่อมันทำอะไรน่ากลัวขึ้นมา 

ภูตเงาทำอะไรได้บ้าง  เธอไม่มีความรู้เลย



เมเดอลินตัดสินใจเปลี่ยนชุด  แล้วเดินออกจากห้องนอน  ย่องไปตามทางเดินสลัวๆ ด้วยแสงโคมไฟทรงหยดน้ำดวงเล็กๆ บนผนังที่แต่ละดวงห่างกันประมาณ 5 เมตร  แถมบางดวงก็ไม่ติดด้วย  ไม่รู้เจ้าของตั้งใจให้เป็นแบบนี้หรือเปล่า  อยากให้บรรยากาศน่ากลัวหรืองกค่าไฟฟ้ากันแน่   

ปีศาจที่ยืนยามกันอยู่ระหว่างทางบางตัวก็สัปหงกจนเธออยากไล่ให้ไปนอนให้สิ้นเรื่องสิ้นราว  แต่ก็จำได้อยู่ว่ามันไม่ใช่เรื่องของเธอ  แค่เธอเดินผ่านออกมาได้โดยไม่โดนขัดขวางก็เพียงพอ

มาแซลลัสเหล่มองเธอตอนเดินผ่านเข้าที่หน้าประตูใหญ่  เขาไม่ได้ถามอะไร  เธอจึงเดินผ่านมาเฉยๆ  คาไลยป์ไปไหนไม่รู้  อาจยังไม่กลับมาจากไนต์คลับ  แต่ก็ดีแล้ว  เธอไม่อยากให้ใครมาเดินตามถึงจะตามแบบลับๆ ก็ไม่ต้องการ  ต่อให้ต้องเสี่ยงกับพวกตัวประหลาดที่ใช้ชีวิตกลางคืนก็ช่าง

เมเดอลินดึงผ้าพันคอมากระชับต้นคอกันสายลมเย็นๆ ที่พัดวูบมา  ในเมืองล็อกวูดไม่ได้คึกคักแบบชิคาโก  หรือลาสเวกัส  หากเมืองเล็กๆ เช่นนี้ก็ยังมีมนุษย์ราตรีอยู่มาก  ผับ  บาร์  คาเฟ่ที่เปิดจนดึกหรือยันเช้าก็มีอยู่  อย่าง The Mortal ของเคซีย์ก็อาจยังเปิดอยู่ 

หรือเธอควรไปที่นั่น  เผื่อได้เจอเอวา...ไม่ละ  ที่นั่นคนรู้จักเยอะไป  เธอน่าจะไปร้านที่เฟทพาไปเจอลูซิเฟอร์มากกว่า  ร้านใหม่น่าลอง

แต่ฉันจะไปยังไง...เมเดอลินซุกสองมือไว้ในกระเป๋ากางเกงยีน  นัยน์ตาสีฟ้ามองหารถแท็กซี่ที่มีน้อยกว่าปีศาจในเมืองแห่งนี้เสียอีก (ปีศาจบางตัวที่นิสัยดีๆ ก็หันมาขับแท็กซี่ให้พวกเดียวกันใช้บริการ  หาเงินมาซื้อของกินโดยไม่ต้องขโมย  เช่น  พวกชอบกินศพ  ก็ต้องจ่ายเงินให้กับสัปเหร่อเพื่อให้หาศพที่ไม่มีญาติมิตรมาให้  เป็นต้น  ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากนโยบายสันติระหว่างมนุษย์  ปีศาจ  และเทวดา)

ดอดจ์ ชาเลนเจอร์  เอสอาร์ที 2015 สีดำ  แล่นมาจอดเทียบฟุตปาธ  ตรงหน้าเธอพอดี  เมเดอลินยิ้มกับตัวเอง  และเผื่อแผ่ไปถึงคนที่ลดกระจกลงมายิ้มมุมปากให้เธอด้วย...ทำไมเวลานึกถึงเอวาแล้ว  ไม่มาเร็วแบบนี้บ้างนะ

"ไม่อยู่ดูแลภรรยาหรือคะ"  เธอทัก  เฟทเลิกคิ้ว  ทำเหมือนแปลกใจที่เธอรู้เรื่องนี้  "ข่าวดังจะตายค่ะ  เฟท  แถมคุณก็เป็นที่สนใจหมู่ปีศาจอยู่นะ  ถ้าคุณไม่รู้"

"อา...แล้วฉันจะจัดการยังไงกับความดังแบบนี้ได้บ้างล่ะ"  เฟทถาม  หน้าตาไม่ได้หนักใจอะไรนัก  แทบจะไม่มีความกังวลเลยด้วยซ้ำไป

"เธออยากหักคอฉันไหม  เมด"

"ต่อยกรามอีกข้างได้ไหมคะ"  เมเดอลินล้อ  แม้จะค่อนข้างมืด  เธอก็พอจะเห็นรอยคล้ำสีม่วงเข้มตรงกรามซ้ายของเทวทูตรูปงามได้อยู่  แถมรู้สึกเสียดายแทนด้วยว่ามันไม่น่าเกิดขึ้นเลย  เฟทควรจะหน้าตาหมดจดใสๆ แบบเด็กสาวไฮสกูลแบบเดิมมากกว่า (ถึงแววตาจะไม่ใสเลยก็ตาม)

"ขึ้นรถสิ  เผื่อฉันจะอนุญาต"  เฟทตอบ  ประตูรถฝั่งผู้โดยสารเปิดออกโดยที่เธอไม่จำเป็นต้องลงไปเปิดเอง  แต่เมเดอลินก็ชินแล้ว  และชอบ

"เราจะไปไหนกันคะ"  ซัคคิวบัสถาม  ความรื่นเริงผุดขึ้นมาแทนที่อารมณ์ซึมเศร้าวิตกกังวล  มันคงเกี่ยวกับเทวทูตองค์นี้อย่างไม่ต้องสงสัย

"เยี่ยมญาติกันไหมล่ะ"

เมเดอลินเลิกคิ้ว  อีกฝ่ายก็ยักคิ้วให้เธออย่างขี้เล่น  เธอหัวเราะแบบที่หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน  เฟทคงทำให้เธอสนุกขณะที่หลายๆ คนชอบหาเรื่องเครียดๆ มาให้  --  ไม่สิ  เธอเครียดเองนั่นแหละ  อย่าไปโทษคนอื่น

"ป่านนี้เขาควรจะได้รูปแม่เธอมาได้แล้วนะ"  เฟทพึมพำ  ตามองถนนมืดๆ ขณะที่เจ้าดอดจ์แล่นไปด้วยความเร็วปกติ 

เมเดอลินเหลือบมองคนขับ  ไม่รู้ว่าออกความเห็นหรืออยู่เฉยๆ ดี  แต่คนเริ่มเรื่องก็ตัดสินใจให้แทนด้วยการส่งถุงขนมกรุบกรอบที่ไม่รู้เอามาจากไหนให้เธอรับมาเปิดกิน

สรุปว่าพาเธอไปเที่ยวหรือไปทำงานกันแน่นะ



"เธอไม่โกรธฉันหรือ"

เสียงคำถามดึงสายตาเมเดอลินที่มองเหม่อไปเรื่อยเปื่อยให้กลับมาสนใจคนร่วมทาง  เมเดอลินสั่นศีรษะ  เข้าใจว่าอีกฝ่ายถามเรื่องอะไร

"มันไม่เกี่ยวกับฉันค่ะ  และจริงๆ ฉันก็สงสารเบย์ลีส์มาตั้งนานแล้ว"

เฟทเลิกคิ้ว  ต้องการคำขยายความ  เมเดอลินยักไหล่  หยิบมันฝรั่งทอดกรอบยื่นให้ตรงปากเทวทูต  เขายิ้มและยอมรับมันไปเคี้ยว  ใช้หลังมือขาวเช็ดผงเกลือที่เลอะแก้มออก

"ฉันรู้สึกว่า  มันไม่ยุติธรรมค่ะ  ฉันอยู่บ้านหลังนั้น  ฉันเห็นพฤติกรรมของเขามาตลอด  นอกจากอ้างว่า  มันเป็นธรรมชาติของเขาที่ต้องมั่วไปเรื่อยๆ  เขาก็ไม่เคยพยายามจะหยุดเลย  และเบย์ลีส์ก็อยู่คนเดียวประจำด้วย"

"เบย์ลีส์อาจจะอยากอยู่คนเดียวก็ได้นะ  ไม่คิดงั้นเหรอ"  เฟทลองเชิง  หากอีกฝ่ายก็ยังส่ายหน้า  ท่าทางเหมือนเคืองๆ ใครสักคน

"ที่บอก  อยากอยู่คนเดียวอาจจริงก็ได้ค่ะ  แต่ฉันอดคิดไม่ได้หรอกว่า  ความสุขบนสีหน้าของหล่อนน่ะมันจอมปลอม  คำพูดว่า  'ฉันโอเค  ฉันสบายดี'  ด้วยค่ะ"

"ทำไมล่ะ"

เมเดอลินยักไหล่  "ฉันแค่รู้สึกค่ะ  คงเป็นเซ้นส์ของผู้หญิงด้วยกันมั้ง"

"เฮ้  ฉันก็ผู้หญิงเหมือนกันนะ"  เฟทพูดแล้วยิ้มขำ  เพราะอีกฝ่ายทำหน้าตาคล้ายยอมรับไม่ได้  "ทำไมคะ  ฉันไม่เหมือนผู้หญิงหรือไง"

"หน้าตากับรูปร่างก็ได้อยู่ค่ะ  แต่นิสัยน่ะ..."  เมเดอลินตอบ  แล้วใช้สายตาแทนคำพูดที่เหลือ  คนถูกมองก็หัวเราะเบาๆ ในลำคอ



"แล้วคุณจะหยุดไหมคะ  เฟท"

คนถูกถามละสายตาจากถนนมาสบตากับคนถาม  ไม่จำเป็นต้องคิดให้นานนัก  เธอก็พยักหน้า  "ฉันรักเบย์ลีส์  รักมากกว่าที่ตัวฉันเองรู้..."

"รักจนสามารถทำอะไรบ้าๆ ได้อย่างไม่คิดหน้าคิดหลังเลยเหรอคะ"

เฟทยิ้ม  "คงเป็นแบบนั้นค่ะ"

เมเดอลินได้แต่มองอย่างทึ่งๆ  หยิบขนมเข้าปากต่อไป  ไม่มีคำพูดใดจะวิจารณ์ต่อ  แล้วเฟทก็คงไม่อยากพูดถึงมันเท่าไหร่  เขาเอาแต่มองถนนมืดๆ

ความเงียบเข้ามาเป็นเพื่อนร่วมทางของพวกเธอเมื่อต่างคนต่างไม่มีอะไรจะพูดจา  เราต่างมีเรื่องให้ต้องคิดและหาคำตอบ  แล้วความเงียบก็ไม่ใช่เพื่อนที่ไม่น่าคบไปเสียทุกครั้งหรอก



เฟทจอดรถบนถนนดินใกล้กับผับมืดๆ ซึ่งแทบจะไม่มีแสงไฟลอดออกมา  เมเดอลินเขม้นตามองบ้านไม้เก่าๆ เบื้องหน้า  ลักษณะของมันคล้ายโรงเตี๋ยมไว้สำหรับนักเดินทางมาแวะพัก  มันไม่ส่งสัญญาณบอกเลยด้วยซ้ำว่ามีใครอยู่ในนั้น  แต่มันมี  เธอเคยเห็นมาแล้ว  ปีศาจไม่ใช่น้อยอยู่ในนั้น  ปีศาจที่รู้จักด้วยว่าคนข้างเธอเป็นใคร  รู้จักแม้กระทั่งเธอ

เทวทูตเปิดประตูก้าวลงไปก่อน  เมเดอลินลงตามไป  ไม่อยากชักช้าให้เสียเวลาไปกว่านี้  แม้คืนนี้จะไม่มีอะไรในโปรแกรมของเธอแล้ว  แต่เผื่อเฟทจะมีเรื่องน่าสนุกมากกว่าพาเธอมาเยี่ยมญาติให้ทำ

บรรยากาศภายในผับยังคงไม่น่าคบเหมือนเดิม  ทุกสายตายังคงมองเธอกับเฟทอย่างหวาดระแวง  พวกเขาจ้องมาที่พวกเธอเป็นตาเดียวด้วยกิริยาแทบไม่ต่างกัน  และนิ่งค้างท่าเดิมอยู่แบบนั้นราวกับเวลาหยุดเดินไปชั่วคราว  แต่พวกที่เกะกะขวางทางอยู่ก็รีบแหวกทางให้พวกเธอเดินเข้าไปด้านใน 

และเจ้าชายแห่งนรกก็นั่งประจำอยู่ที่เดิม



"แหม  ใจร้อนจังเลยนะ  น้องสาว"  ลูซิเฟอร์เอ่ย  น้ำเสียงหยอกเย้า  เขารินเหล้าใส่แก้วเปล่าสองใบที่บาร์เทนเดอร์หยิบมาให้อย่างรู้งาน  ยื่นมันให้เฟทก่อน  พอเทวทูตยกมือบอกไม่รับ  เขาก็เบนไปหาเมเดอลิน  ซัคคิวบัสจะรับ  แต่พอเฟทตวัดสายตาคมปราบไปมอง  เธอก็ต้องยอมอดทนปฏิเสธไป

ผู้เป็นใหญ่ในนรกยักไหล่  ในเมื่อไม่มีใครดื่ม  เขาก็ดื่มเองจนหมดทุกแก้วที่รินลงไป  แต่เมเดอลินกลับรู้สึกว่าเขากำลังซื้อเวลาให้ตัวเองอยู่  เพราะไม่อยากให้เฟทเร่งเขา  หรือถามจี้เรื่องที่พนันกันไว้  ถึงอย่างนั้น...

"ฉันไม่ได้มีเวลามากนักนะ  ลูซ"  เฟทเอ่ย  ไม่ได้สนใจการถ่วงเวลาของพี่ชาย (ที่ตนไม่ได้นับถือ)  ไม่ได้แคร์รอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่เขาชอบใช้กับสาวๆ แล้วได้ผลเสมอด้วย  เพราะเธอเองก็มี

"เธออยากได้รูปไปทำไม"  ลูซิเฟอร์ถาม  ทำหน้าซื่อราวกับไม่รู้เรื่องอะไรเลยจริงๆ  เขาเลื่อนสายตาจากเฟทไปมองเมเดอลินแทน 

"เมด  เธอจะเอารูปไปทำไม  มองกระจกก็ได้นี่  หน้าเธอกับมีอาไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่หรอก"

"คือฉันจะ --"

"จะเอาไปทำอะไร  มันก็เรื่องของเมด  นายสัญญาว่าจะช่วยหามาให้  นายก็ควรทำสิ  จะผิดคำพูดกับหลานหรือ"  เฟทพูดแทรก  เล่นเอาลูซิเฟอร์ตวัดสายตาขุ่นเคืองกลับไปมอง  "ถ้ารู้ตัวว่าทำไม่ได้  ก็ไม่ควรพูดแต่แรกนะ"

"ถ้าเธอจะเล่าให้ฉันฟังบ้างว่า  อยากได้รูปไปทำไม  ฉันก็อาจจะช่วยก็ได้  ช่วยแบบเต็มใจกว่านี้น่ะ"  ลูซิเฟอร์ต่อรอง  แต่เฟทเมิน  คว้ามือเมเดอลินพาเดินออกมาทันที 

แล้วเขาก็ยืนรออยู่หน้าเจ้าดอดจ์

"รถสวยดี"  เขาว่า  เฟทยิ้มมุมปาก

"แลกกับเรือนาย  เอาไหมล่ะ"

ลูซิเฟอร์เลิกคิ้ว  เขายิ้มเหมือนเฟทเป็นบ้าไปแล้ว  จะเอารถคันแค่นี้ไปแลกกับเรือยอร์ชของเขา 

"ก็ได้นะ  ถ้าเธอจะมีอะไรบวกเพิ่มมาอีกสักอย่างสองอย่าง  อย่างเช่น  ผู้เก็บกวาด  กับเด็กในท้อง"

เมเดอลินเหลือบมองใบหน้าเฟททันที  นึกห่วงว่าเขาอาจทนการยั่วยุเช่นนี้ไม่ไหว  แต่เปล่าเลย  ไม่มีอะไรต้องห่วงในเมื่อเฟทยิ้มเย็นยะเยือกแบบนี้  เธอรู้สึกหนาวขึ้นมาจนอยากรีบเข้ารถไปเปิดฮีทเตอร์เลย

"แบบเธอไม่น่าสร้างจุดอ่อนใหญ่โตให้ตัวเองอย่างนี้เลยนะ  เฟท"

"คนที่สนใจแค่ตัวเองแบบนายไม่มีทางเข้าใจหรอก  ลูซิเฟอร์"  เฟทว่า  แล้วเดินต่ออย่างไม่กลัวจะชนใคร  กลายเป็นลูซิเฟอร์ต้องหลบให้เธออีกครั้ง  แม้เขาจะขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างไม่พอใจ 

เขาทำอะไรเธอไม่ได้  แตะต้องเธอยังไม่ได้เลย  เขารู้... เขาเห็นพลังแบบเดียวกันกับพระบิดาอยู่รอบล้อมตัวเฟท  และไม่ได้แปลกใจเลยว่าเหตุใด  พ่อถึงได้ให้อะไรกับเฟทมามากมายนัก  เคซีย์อีกคน...

เฟทกับเคซีย์ทำความดีความชอบด้วยการส่งมหาบาป  และวิญญาณบาปทั้งหลายที่หนีออกมากลับสู่นรก  แม้จะไม่หมดทุกดวง  เพราะเขายังอยู่ที่นี่  เบลเฟกอร์  เลเวียธานยังอยู่กับลิลิธ  แมมม่อนและเบลเซบับหายไป  แต่แค่ซาตานลงไป  พระบิดาก็พึงพอใจมากแล้ว

"อย่าร้ายกาจนัก  เฟท"

"นายเตือนตัวเองดีกว่า  ลูซ  นายกำลังเล่นอยู่กับอะไร"  เฟทแย้ง  มองอีกฝ่ายด้วยสายตารู้ทัน 

ลูซิเฟอร์สะอึก  เขาลืมไปสนิทว่า  มีอาคือใคร  และมีความหมายมากเพียงใดกับพี่สาวคนโตผู้เป็นพี่น้องเพียงคนเดียวที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเขา

"เอารูปมาคืน  ถ้านายไม่อยากให้เมดไปฟ้องใครบางคน"  เฟทย้ำ  ยิ้มมุมปากอย่างมาดร้าย  ส่งสายตาให้เมเดอลินขึ้นรถไปก่อน  ปีศาจสาวรีบทำตามด้วยรู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัย  อย่างไรเธอก็ต้องเอาตัวรอดไว้ก่อน

"ไม่นึกถึงที่ฉันเคยช่วยเธอบ้างหรือไง"

"ถ้านายไม่แกล้งเคซีย์  ฉันก็คงจะนึกถึง...มากกว่านี้" 

ลูซิเฟอร์อ้าปากค้างเพราะคำสุดท้ายที่อีกฝ่ายเน้นย้ำก่อนก้าวขึ้นรถ  เขามองตามหลังดอดจ์ ชาเลนเจอร์ไป  ใจนึกอยากทำอะไรให้มันคว่ำหงายท้องไปเสียเลย  แต่เขากลับเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าแทน  และส่งเสียงตัดพ้อ

"พระองค์เป็นพ่อที่ลำเอียงที่สุดในโลก"

เขากลอกตาเมื่อไม่มีอะไรตอบรับกลับมาตามเคย  หากขณะกำลังจะเดินกลับเข้าสู่ผับ  รถยนต์คันหนึ่งก็แล่นผ่านหน้าเขาไปอย่างรวดเร็ว  ถ้าเขาก้าวขาเร็วกว่านั้นอีกสองวินาที  มันอาจชนเขากระเด็น  หรือมีร่างของเขาเกาะไปบนกระโปรงหน้ารถ

ถ้าตอนนี้มันไม่ได้หายไปแล้วนะ

"Oh Shit!"  ลูซิเฟอร์สบถลั่น  เขาไม่รอให้ตัวเองหายตกใจ  ไม่รอให้เจ้ารถคันนั้นย้อนกลับมาด้วย  เขารีบเดินกลับเข้าผับแล้วหายเข้าไปในห้องลับ

..........................................

เคซีย์เช็ดแก้ว  แต่ตาก็มองผู้หญิงที่นั่งแลแก้วนมด้วยสีหน้าไม่ชอบใจไปด้วย  เห็นแล้วเธอก็อดขำไม่ได้  ปกติเบย์ลีส์สนใจแต่เบียร์กับเหล้าและผู้ชาย

บางทีคนท้องก็น่ารักดีเหมือนกันนะ

"ฉันอาจจะดื่มแทนให้นะ  ถ้ามันจะไปถึงฟินน์ได้น่ะ"  เธอว่า  ตาสีเขียวจัดก็เหลือบมามองเธออย่างหงุดหงิดหน่อย  เพราะรู้ว่าโดนแซว

"มันก็เหมือนดื่มเบียร์แหละ  ยากตรงไหนกัน  ตะกี้ออเดรย์ยังดื่มเลย"

"ฉันอยู่คาเฟ่นะคะ  แล้วดูบรรยากาศ"  เบย์ลีส์ตอบ  ใช้สายตามองไปรอบตัวให้เจ้าของคาเฟ่ช่วยดูมันซ้ำ  ถ้ายังไม่เข้าใจเธอ

เคซีย์กลั้นยิ้ม  ลืมไปเลยว่าตอนเฟทมาฝากแฟนเอาไว้  เธอคัดค้านหัวชนฝาขนาดไหน  น้องไม่อยากให้เบย์ลีส์นอนอยู่บนเตียงคนเดียว  เพราะดันไปสัญญาเอาไว้ซะดิบดีว่า  ถ้าจะไปไหนจะบอก  พอจะออกไปทำธุระ  สาวเจ้าก็เลยตามมาด้วย  แล้วก็มาจบอยู่ที่เธอต้องมานั่งเฝ้าให้แบบนี้แหละ  โชคดีนะที่เธอไปทำงานในตำแหน่งคิวปิดของตัวเองมาแล้ว  ไม่อย่างนั้นคงอาละวาดยกใหญ่จนเฟทต้องพกเบย์ลีส์ไปเสี่ยงด้วยแน่ๆ  และเธอก็จะต้องรู้สึกผิดทีหลังที่ปล่อยให้เขาทำแบบนั้น

เฮ้อ  เป็นพี่เขานี่มันดีตรงไหนกันหรือ?

"ทนเอาหน่อยเถอะ  แค่เก้าเดือนเอง"

"ตั้งเก้าเดือนสิคะ"  เบย์ลีส์ค้าน  หากก็ยอมคว้าแก้วนมมาดื่ม  ดื่มไปได้อึกเดียวก็ทำหน้ายี้จนเคซีย์ทำท่าเชียร์เหมือนลุ้นเด็กกินผัก  แล้วช่วงเวลาแห่งความทรมานก็ผ่านไปเมื่อเจ้าของเหลวสีขาวนั่นหมดแก้วเสียที 

ผู้เก็บกวาดสาวกระแทกแก้วกับเคาน์เตอร์เสียงดัง  ดวงตาตวัดค้อนคนที่หน้าตาคล้ายคลึงกับเจ้าคนที่ทำให้เธอต้องมานั่งดื่มนมในคาเฟ่แทนเบียร์ 

"คุณเคยเตือนหรือสอนน้องของคุณบ้างไหมคะ"

เคซีย์หน้าเหวอไปสองวินาที  เธอเกือบจะโกรธที่โดนตำหนิ  แต่จำได้ก่อนว่า  คนท้องก็อารมณ์แปรปรวนง่ายและรุนแรงแบบนี้แหละ  ถ้าเธอจะโกรธ  ก็คงต้องโกรธน้องตัวเองที่สร้างภาระใหญ่ขนาดนี้...จุดอ่อนใหญ่ของเขาด้วย

"ทำไมจะไม่เคย  แต่เธอก็ต้องเข้าใจด้วยว่า  เฟทน่ะโตเกินกว่าที่จะเชื่อฟังใครแล้วนะ  อีกอย่าง  เขาก็มีหน้าที่แค่รับฟังคำสั่งแด๊ดดี้ของฉันเท่านั้น"

"หมายความว่า  ฉันต้องทำเรื่องร้องเรียนกับพระเจ้าหรือไง"

"อาจเป็นแบบนั้น"

เบย์ลีส์สั่นศีรษะปลง  หมุนแก้วนมเปล่าเล่นก่อนช้อนตาขึ้นมองสองเทวทูตกระซิบกระซาบบางอย่างกัน  เอวาเพิ่งเดินเข้ามาในร้านเมื่อสองวินาทีที่แล้ว  และพยักหน้าเรียกเคซีย์ซึ่งเต็มใจมากที่จะชะโงกหน้าจากบาร์มาเอียงหูให้อีกฝ่ายกรอกเสียงลงไป

เอวาหันมาทักเธอด้วยรอยยิ้มบางเฉียบ  และจากไปทันทีหลังจากกระดกเบอร์เบิ้นไปหนึ่งแก้ว  มองหน้าเคซีย์  คิวปิดยังมีสีหน้าเป็นปกติ  แบบนี้คงไม่มีอะไรน่าห่วง  แต่เธอก็ห่วงอยู่ดี 

"เดี๋ยวก็กลับมาแล้วละ  ไม่ต้องห่วง"  เคซีย์เอ่ยอย่างเข้าใจ 

เบย์ลีส์ยิ้มขอบคุณ  ไม่เคยรู้มาก่อนว่า  เทวทูตองค์นี้จะอบอุ่นขนาดนี้  หรือเพราะเมื่อก่อนเธอไปยุ่งกับออเดรย์มากไปจึงโดนเขม่น  อาจเป็นไปได้...

"เขาบอกว่า  ถ้าเราอยู่กับใครมากๆ  เราอาจซึมซับพฤติกรรมของเขามาโดยไม่รู้ตัว  คุณว่าจริงไหมคะ"

เคซีย์ชำเลืองมองคนพูดขณะที่มือเธอเขย่าเชคเกอร์ผสมค็อกเทลให้แขกไปด้วย  "เธอหมายถึงตัวเอง  หรือฉัน?"

"คุณ"  เบย์ลีส์ตอบ  "เพราะถ้าเป็นฉัน  เราก็รู้ๆ กันอยู่แล้วนี่คะ"

คิวปิดกลอกตาเมื่อนึกถึงเรื่องนี้  เธอรินเครื่องดื่มใส่แก้วทรงสูง  และประดับประดามันตามแบบที่ควร  จากนั้นก็เลื่อนไปให้แขกที่คล้ายจะรู้ตัวว่าตรงนี้มีไว้เฉพาะคนใกล้ชิดนั่งจึงหยิบแก้วไปหาที่โต๊ะว่างนั่งดื่ม

"เฟทยังเคืองฉันอยู่ที่ไม่ช่วยเธอ" เคซีย์เล่า  แปลกใจเล็กน้อยที่อีกฝ่ายก็ดูจะประหลาดใจอยู่  "เราสนิทกัน  ฉันกับเฟท  และฉันเห็นเธอแทบทุกวัน"

"เขาไม่ควรโกรธคุณค่ะ  มันไม่ถูกต้อง"  เบย์ลีส์ว่า  ขอน้ำเปล่ามาล้างคราบนมที่ทำให้ปากและหลอดอาหารรู้สึกฝืดเคือง  ส่วนเคซีย์ก็รอฟังอยู่

"แต่จริงๆ เขาก็เคยถามฉันครั้งหนึ่ง  แล้วตอนนั้นฉันก็บอกว่า  ฉันยังโอเค"  เธอกล่าวต่อ  ปลายนิ้วลูบไปบนปากแก้วน้ำจนเกิดเสียงที่ทำให้หลายสายตาหันมาสนใจ  แต่เธอก็หยุดเสียก่อนที่พวกเขาจะบ่นรำคาญ

"และจริงๆ  มันก็โอเคนะ  ถ้าฉันไม่ดันรู้สึกได้ก่อนว่า  นางไม่ได้รักฉัน"

เคซีย์ไม่ต้องถามเลยว่านั่นหมายถึงใคร  แม้เธอจะไม่เคยวุ่นวายกับความรักของคนใกล้ชิดเลยสักคน  เธอมีกฎของตัวเองที่ต้องเคร่งครัดว่าจะไม่จับคู่ให้กับใครที่เธอรู้จัก  โดยเฉพาะคนที่เธอสนิทสนม  ตอนเบย์ลีส์อยู่กับลิลิธ  เธอก็ไม่ได้ยุ่ง  ตอนเฟทคบกับเบลค  เธอก็ไม่ได้ทำอะไร  เอวากับเมเดอลินก็เหมือนกัน  ตัวเธอกับออเดรย์ก็ไม่  เธอแน่ใจว่าไม่ได้เผลอปักศรเข้าอกตัวเองหรือออเดรย์  ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกิดขึ้นเอง  เช่นกับที่มันจบลงเอง

"ฉันคงดูเหมือนผู้หญิงแพศยามากเลยใช่ไหมคะ"

เทวทูตสั่นศีรษะ  ยิ้มอ่อนโยนให้มนุษย์ผู้สับสน  เอื้อมมือยื่นออกไปแตะหลังมือเบย์ลีส์แผ่วเบา  แต่เพียงเท่านั้น  คนถูกสัมผัสก็มองหน้าเธออย่างตะลึงงันแล้ว  ผู้เก็บกวาดสามารถรับรู้ได้ถึงพลังงานของเทวทูต  เร็วและรุนแรงกว่ามนุษย์คนอื่น  แบบเดียวกับเวลารู้สึกได้ถึงพลังปีศาจที่พวกเขาต้องล่า

"ฉันอวยพรให้เธอกับลูก  เบย์ลีส์"  เคซีย์บอก  พลางค่อยๆ ถอนมือออกมา  แต่สาวมนุษย์ก็น้ำตาซึมจนต้องขอกล่องทิชชู่ไปใช้แล้ว

คนท้องอ่อนไหวง่ายดายจริงๆ เลยเชียว

"นี่ถ้าเธอไม่หยุดร้องไห้  เฟทมันกลับมาก็โกรธฉันอีกหรอก"

เบย์ลีส์หัวเราะทั้งน้ำตา  "ฉันไม่เคยรู้เลยว่า  คุณใจดีขนาดนี้"

"โอ้  ฉันต้องดีอยู่แล้วสิ  ฉันไม่ได้เป็นตัวร้ายในเรื่องนะ"  เคซีย์ตอบ  หากรอยยิ้มขี้เล่นก็หายไปอย่างรวดเร็ว  เธอสบตาเบย์ลีส์อย่างรู้กัน

"เธอนั่งเฉยๆ  ฉันจัดการเอง"  เทวทูตออกคำสั่งพร้อมกับเดินออกมาจากด้านหลังเคาน์เตอร์  เผชิญหน้ากับคาไลยป์และลูกสมุนปีศาจ

"เราไม่ได้มาร้าย"  องครักษ์ราชินีแดนมืดออกตัว  ชำเลืองมองเบย์ลีส์ด้วยทีท่าคล้ายไม่คาดว่าจะได้เจอผู้เก็บกวาดสาวที่นี่  แล้วหวนกลับมาสนใจเจ้าของสถานที่ที่ส่งเสียงกระแอมดังๆ ออกมา 

"เจ้านายไม่อยู่ที่คฤหาสน์"

เคซีย์เลิกคิ้ว  ไม่แน่ใจว่าฟังถูกหรือผิด  แต่ปีศาจสาวตรงหน้าก็ดูจะจริงจังเกินกว่าจะพูดเล่น  ถึงอย่างนั้น...

"เจ้านายเธอจะน่าห่วงอะไรกัน  ถ้าจะห่วง  ห่วงคนอื่นดีกว่ามั้ง"

"เราก็อยากจะคิดแบบนั้น  ถ้าไม่มีใครหายไปด้วยอีกคน"

เคซีย์ชำเลืองมองเบย์ลีส์ทันที  ผู้เก็บกวาดสาวขมวดคิ้ว  ผงกศีรษะให้รอฟังอย่างใจเย็นก่อน 

"แล้วสรุปคือ..."

"ภูตเงาหายไปด้วยค่ะ"  คาไลยป์ตอบ  สีหน้าเป็นกังวลชัดเจน  ทว่า  เคซีย์ก็จะไม่มองมันเป็นเรื่องใหญ่อยู่ดี

"ก็คงไปตามหามีอาด้วยกันมั้ง"

"ท่านคิดอย่างนั้นหรือคะ"

เคซีย์พยักหน้ารับ  คาไลยป์จึงขอตัวกลับไปพร้อมกับสมุน 

"คุณคิดว่า  มันแค่นั้นจริงๆ เหรอคะ"  เบย์ลีส์เอ่ย  สงสัยในท่าทีของอีกฝ่ายที่แลดูใจเย็นเหลือเกิน  เพราะขนาดเธอยังอดกังวลไม่ได้เลย

"ลิลิธอยู่มาสามพันกว่าปีแล้ว  คนที่ควรห่วงตอนนี้คือ  เธอกับฟินน์"  เคซีย์ตอบ  ยิ้มให้น้องสะใภ้สบายใจ  เพราะหน้าที่วิตกกังวลเรื่องแบบนี้  มันเป็นเรื่องของเธอกับเอวาต่างหาก


...........................................


ภาคนี้คือภาคของเฟทกับเมเดอลินค่ะ  อากับหลานน่ะ   :21:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

19 มิถุนายน 2017 เวลา 19:27:39
ทำไมคุณอาหน้าเด็ก ต้องมาเจอหลานสาวคนสวยบ่อยๆจังพักนี้ :36:
แสดงความคิดเห็น