web stats

ข่าว

 


Love เหมือนจะใช่ความรัก : ตอนที่ ๑๔ ร้ายกาจ

โพสต์โดย: ลำเนา วันที่: 11 มิถุนายน 2017 เวลา 21:54:36 อ่าน: 420

   ดอกไม้ช่อใหญ่วางอยู่ที่โต๊ะทำงานของอาภา ซึ่งเจ้าตัวถอนใจใน ทันทีที่ได้เห็นเพราะรู้ดีว่า ดอกไม้ช่อนี้ใครเป็นผู้จัดส่งมา แต่เมื่อเหลือบไปเห็นการ์ดที่เสียบอยู่จึงหยิบมาดูเพราะคุ้นเคยกับลายมือของน้ำตาล ซึ่งอาภาคิดว่าเป็นเจ้าของช่อดอกไม้ที่ว่า

   "ได้ค่าถ่ายแบบมา อยากเห็นคุณยิ้ม หนูเอง" อาภาหัวเราะหยิบช่อดอกไม้มาสูดกลิ่นหอม ซึ่งทำให้รอยยิ้มสดชื่นขึ้นมาทันที

   "ไอ้เด็กบ้าเอ๊ย จะน่ารักไปถึงไหน" อาภาอมยิ้ม วรันธรยืนยิ้มอยู่ที่หน้าห้องทำท่าทางขอเข้าไปข้างในอาภาจึงพยักหนา

   "ใครกันนะ ทำให้เจ้านายยิ้มกว้างแต่เช้าเลย" วรันธรแสร้งถาม

   "ว่ามาค่ะ เรื่องงานนะ" อาภายิ้มเก็บการด์เสียบใส่กระเป๋าถือ

   "งานไม่เยอะมากค่ะ พนักงานไม่เกงานด้วย ไม่มีใครลา"

   "มีเรื่องส่วนตัวด้วยหรือเปล่าคะ รัน" อาภาถามเพราะไม่รู้เหมือน กันว่าที่เห็นยิ้มๆ นั้น วรันธรมีอะไรในใจด้วยหรือเปล่ากับเรื่องที่อาภาแสดง ออกกับริศาออกไปอย่างนั้น

   "มีพนักงานนินทานายกัน" วรันธรกระซิบกระซาบบอก

   "ทำไงได้ล่ะ เรื่องจริงนี่นา" อาภาพูดเสียงอ่อยๆ

   "เรื่องอะไรจริงคะ" วรันธรหัวเราะ

   "เรื่องริซ่า"

   "ถามจริง รักหรือ" วรันธรแปลกใจ คิดว่าแค่ตีลูกกันจากตัวเธอเองกับปสุตาที่แสดงออกให้เห็นว่าพึงใจในตัวริศาเช่นกัน

   "ไม่รู้เหมือนกัน แต่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ" อาภาบอก

   "อ้าวเวลาอยู่กับรันไม่สบายใจหรือคะ" วรันธรถามเสียงอ่อยๆ

   "ร้อน" อาภาหัวเราะ

   "เสียใจ"

   "อิ้งค์ทำให้เสียใจจริงๆ ใช่ไหม" อาภารู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักเพราะนอกจากที่เคยคบหากัน ทำงานด้วยกัน วรันธรถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งและความสัมพันธ์ทางกายนั้นมาหยุดลง เมื่อริศาเข้ามาในชีวิต

   "รันไม่ได้ดีอะไรนักหนา อิ้งค์ก็รู้ว่า รันไปกับคนโน้นคนนี้"

   "เจอความรักบ้างไหม" อาภาถามและตั้งใจรอฟังคำตอบ

   "เคยคิดว่าจะเจอ แต่ตอนนี้ไม่คิดแล้ว" วรันธรยิ้มจางๆ ให้อาภาที่คงพอจะเดาออกว่าหมายถึงตัวเอง

   "อิ้งค์ก็เคยคิดนะ"

   "เอาเข้าจริง รันว่าไม่มีใครรู้จักหรอกความรักน่ะ แค่คิดเอาเองว่าน่าจะเป็นแบบโน้นแบบนี้ สร้างนิยามให้ตัวเอง แต่ถ้าอยู้ด้วยกันแล้วสบายใจสุขใจ รันว่าก็โอเคนะคะ ยายริซ่าน่ะ น่ารักที่สุดในโลก" วรันธรพูดชมอยากแกล้งอาภา แต่กลายเป็นว่า เจ้านายยิ้มเสียกว้างเลยทีเดียวดูท่าแล้วอาจจะใช่ความรัก วรันธรคิด

   "กลัวจะไปทำเขาเสียใจเหมือนกัน เออว่าแต่ลูกน้องนินทาๆ ว่าไง"

   "ต่อไปนี้เจ้านายคงอารมณ์ดี เพราะมีคนข้างกาย" วรันธรหัวเราะ

   "ปกติอารมณ์ไม่ดีหรือ"

   "นิ่งๆ นะคะ แต่ทำงานก็คงเหมือนเดิมเนอะ ว่าแต่ว่าไอ้ช่อดอกไม้นี้ของใครหนอ ถึงได้นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่" วรันธรอมยิ้ม

   "ไปเตรียมงานตัวเองได้แล้วค่ะ เดี๋ยวหักเงินเดือนนะ ถามเยอะ"

   "โห สาวก็คว้าไป ยังจะมาหักเงินอีก ใจร้าย" วรันธรพูดอ้อน

   "ทำมาพูด ระวังด้วยนะ เด็กๆ ทั้งหลายน่ะ"

   "อยากมีใครสักคนจริงๆ บ้างเหมือนกันค่ะ"

   "อิ้งค์เอาใจช่วยนะ รัน อยากให้รันมีความสุข ขอโทษด้วยที่อิ้งค์ทำให้รันไม่ได้" อาภายิ้มจางๆ มองสบตากับวรันธร

   "ไม่ต้องมาปลอบรันเลย เด็กน่ะร้ายกาจนะจะบอกให้ โดยเฉพาะเด็กอย่างริซ่า รันว่ายิ่งกว่ายายปาอีกนะ" วรันธรหัวเราะ

   "แสบเอาเรื่อง ไปทำงานได้แล้วค่ะ"

   "รับทราบค่ะ อ้อลูกค้าตกลงเซ็นสัญญาเรื่องโฆษณาแล้วนะคะช่วงของริซ่า แต่เห็นว่าถ้ายอดดีจะเพิ่มยิงยาวให้ทั้งวันเลย" วรันธรรายงาน


    "ถือเป็นข่าวดีสินะ" อาภาบอก

    "นอกจากนำพาสิ่งดีๆ ด้านการงานมาให้แล้ว อาจจะนำพาความรักมาให้เจ้านายรู้จักด้วยนะคะ ไปล่ะคะ" วรันธรหัวเราะ อาภามองดูช่อดอกไม้ของริศาทำให้มีรอยยิ้มขึ้นอีกครั้ง

   ริศานั่งหลบมุมอยู่ในร้านกาแฟ อ่านหนังสือบ้าง ฟังเพลงบ้างเพื่อรอเวลาทำงานซึ่งคงอีกสักพักใหญ่ เสียงพูดคุยที่ได้ยินแว่วๆ นั้นทำให้ริศาถอดหูฟังเพราะได้ยินมีคนพูดถึงอาภา

   "เปิดตัวขนาดนั้น คงจริงจังแล้วล่ะ" เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น


   "ทำงานมากี่ปีแล้ว เคยเห็นจริงจังหรือเปล่า"

   "สงสารน้องเหมือนกันเนอะ ก่อนหน้าไม่รู้ว่าเลิกหมดหรือยังอย่างน้อยก็พี่รันคนหนึ่งแหละ"

   "อย่างคุณอิ้งค์น่ะ ชอบใครไม่เห็นมีใครจะปฏิเสธเลย"

   "ฉันชอบผู้ชาย แต่ถ้าเป็นคุณอิ้งค์ฉันยอมเปลี่ยนนะ" ริศาได้ยินเข้าถึงกับถอนใจ ไม่ว่าเรื่องราวความจริงจะเป็นอย่างไร คนเราก็เอามาพูดกันจนได้ เสียงกระแอมของริศาทำให้สองสาวที่พูดถึงอาภาอยู่นั้นเงียบไป

   ริศาถอนใจรู้สึกกังวลแทนอาภา สุดท้ายก็ไม่พ้นที่จะโดนพูดถึงซึ่งฟังดูไม่ค่อยจะดีเท่าไรนักและกำลังคิดว่า ควรจะบอกเรื่องราวที่ได้ยินมาให้ อาภาได้รับรู้หรือไม่

   "บอกไปเกิดไปตามหาต้นตอจะแย่สิ ไม่รุ่มร่ามน่าจะดีกว่า จะได้ ไม่มีใครว่าคุณได้" ริศาบอกกับตัวเอง

   หลังจัดรายการเสร็จมีประชุมต่อ ริศายังไม่ทราบแน่ชัดว่าเรื่องอะไรแต่คงใช้เวลาไม่นานนัก เพราะความชัดเจนและตรงประเด็นของอาภานั้นทำให้การประชุมนั้นผ่านไปได้อย่างรวดเร็วเสมอ

   "เราจะมีดีเจเพิ่มใหม่เข้ามา จะจัดช่วงต่อกับริซ่าและอยากให้มีช่วงที่จัดร่วมกัน ซึ่งริซ่าคงต้องให้เวลาเพิ่มในการทำงานมากขึ้นอีกหนึ่งชั่วโมงมีปัญหาอะไรไหมคะ" อาภาถามริศา

   "ไม่มีค่ะ" ริศาบอก

   "ดีค่ะ อีกสองสามวันจะพามาเข้าที่ประชุมแนะนำตัวกันอีกครั้ง"

   "ใหม่ของเรา แต่มีชื่อเสียงมาจากที่อื่นนะคะ" วรันธรขยายความ

   "แต่ยังไม่บอกว่าเป็นใคร ค่อยพามาเปิดตัวตอนประชุมครั้งหน้า"

   "โอ้โห คนจัดรายการด้วยลำบากแย่" พนักงานซึ่งอยู่ในที่ประชุมหันมามองริศา

   "คุณอิ้งค์กับพี่รันคัดสรรมาแล้ว ไม่น่ามีปัญหานะคะ"

   "ริซ่าคล่องแล้ว ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ" วรันธรบอก

   "ขอบคุณค่ะ พี่รัน" ริศาบอกวรันธรแต่สบตากับอาภาที่ยิ้มน้อยๆ ให้

   "วันนี้แค่นี้ แต่ครั้งหน้าอาจจะยาวหน่อยนะ โดยเฉพาะริซ่า"

   "รับทราบค่ะ" ริศาตอบรับอาภา

   อาภาลุกเดินไปหาริศาเพื่อพูดคุยเรื่องงาน แต่ริศายังคงกังวลกับสิ่งที่ได้ยินมาก่อนหน้าทำให้มีท่าทางระวังเนื้อระวังตัวอย่างเห็นได้ชัด

   "เป็นอะไรไปคะ" อาภาถามหลังจากคนอื่นๆ ออกไปจากห้องแล้ว

   "เปล่าค่ะ แค่ไม่อยากให้คนอื่นคิดว่าหนูมีเส้นสาย" ริศาหาทางพูดเลี่ยงไปไม่อยากให้อาภาไม่สบายใจ

   "คุณไม่ได้ให้เส้นสายอะไรเลยนะ แล้วเรื่องทั้งหมดน่ะ รันเป็นคนเสนอมาไม่ใช่ความคิดคุณ" อาภาบอก

   "แต่คนอื่นไม่รู้นี่คะ สิ่งที่รู้คือคุณน่ะให้ความพิเศษกับหนู"

   "เรื่องงานไม่ใช่นะ ถ้าหนูไม่เก่งคุณก็ทำอะไรไม่ได้"

   "ลำพังหนูไม่เท่าไรค่ะ แต่คุณนั่นแหละ" ริศาพูดด้วยความเป็นห่วง

   "ไปได้ยินอะไรมา" อาภาพอจะคาดเดาได้

   "นิดหน่อยค่ะ เอาเป็นว่า เวลาทำงานก็ห่างๆ หน่อยเนอะ"

   "ห่วงคุณ ว่างั้น" อาภายิ้มๆ เพราะปกติคนอื่นๆ นั้นอยากให้ใครๆ รู้ว่า คบหากับตัวเธอแต่กับริศากลับกลัวว่าใครจะมองไม่ดี

   "แน่สิ เป็นเด็กทำให้ผู้ใหญ่เสียชื่อ ดีที่ไหนล่ะคะ"

   "คิดมาก ไม่ต้องกังวลว่าใครจะมานินทาอะไรคุณนะ ทำงานให้ดีไม่มีใครมาว่าอะไรเราได้หรอก แต่ตกลงตามที่หนูว่าก็ได้ค่ะ เป็นคุณอิ้งค์กับดีเจริซ่าสาวซ่าแซ่บก็แล้วกันเนอะ"

   "สร้อยตามมายาวเกินไปนะคะ หนูกลับก่อนนะ คุณจะกลับดึกหรือเปล่าคะ" ริศาถาม

   "ไม่ล่ะ เลิกงานก็กลับเลย รอที่คอนโดนะ"

   "อยากกลับบ้านบ้างค่ะ" ริศาพูดเสียงอ่อยๆ

   "เบื่อแล้วเหรอ" อาภาแกล้งพูดแหย่

   "อยู่ด้วยบ่อยๆ เดี๋ยวโดนเบื่อ ต้องเล่นตัวบ้างอะไรบ้างค่ะ" ริศายิ้ม

   "คิดถึงแย่ อยากมีเวลาส่วนตัวคุณรู้ ถึงบ้านโทรหาด้วยนะ คุณกลับถึงคอนโดจะโทรบอกหนูด้วย" อาภาเอามือทาบทับไปที่ศีรษะของริศา

   "ครับผม" ริศายิ้มมองดูอาภาที่เดินออกไปก่อน

   ริศาลงมาที่ลานจอดรถพอประตูลิฟต์เปิดเท่านั้น มองเห็นน้ำตาลกับวรันธรกำลังพูดคุยกันอยู่ รั้งรออยู่ครู่หนึ่งทำทีเป็นไม่ได้สนใจ ซึ่งทั้งสองคนที่ยืนพูดคุยกับอยู่นั้นท่าทางไม่ได้สนใจในตัวริศาเช่นกัน จนเข้าไปนั่งอยู่ในรถแล้วถึงได้รู้สึกโล่งใจ

   "ลานจอดรถที่นี่ ไม่ค่อยจะปลอดภัยเลยนะ ต้องคอยระวังตลอด" ริศารำพึงแล้วยิ้มๆ ยังคงมองไปทางที่ทั้งสองสาวยืนอยู่แอบสงสัยอยู่เหมือน กันหรือมีเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับอาภา

   "ดีเจคนสวย กินข้าวกัน อยู่ร้านฝั่งตรงข้ามตึกนี่เอง" ริศายิ้มเมื่อเห็นข้อความของปสุตา

   "จ้ะ คุณนางแบบคนสวย" ริศาจอดรถไว้ที่เดิมแต่รอจนกระทั่งสองสาวที่ยืนพูดคุยกันอยู่นั้นกลับขึ้นไปข้างบน แอบถอนใจเพราะรู้ดีว่าคนที่ขึ้นตึกไปพร้อมวรันธรนั้นไปพบใคร

   "ขยันมาจริงวุ๊ย" ริศาบ่นพึมพำ แต่อดที่จะขำตัวเองไม่ได้

   ริศากับปสุตาพูดคุยกับอย่างสนุกสนานตามประสาของคนที่ช่างพูดช่างคุยด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งเรื่องที่พูดคุยนั้นเป็นเรื่องราวทั่วๆ ไป ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับใครโดยตรงทำให้ริศาสบายใจกับการได้พูดคุยกับปสุตา ซึ่งคงจะเป็นเพื่อนกันได้ไม่ยากนัก เพราะนางแบบสาวไม่ได้ถือเนื้อถือตัวตามข่าวที่ชอบเขียนถึงว่า ปสุตานั้นท่าทางออกจากหยิ่งๆ

   "พี่อิ้งค์ไม่ว่าหรอกหรือ มากินข้าวกับปาน่ะ" ปสุตาวกเข้าเรื่องอาภาทำให้ริศายิ้มเจื่อนๆ

   "หมดเวลางานแล้วนะคะ"

   "เวลางานหมด เวลาของหัวใจไม่ได้หมดนี่" ปสุตาหัวเราะ

   "น้ำเน่ามาก"

   "จริงจังกับพี่อิ้งค์หรือเปล่า" อยู่ๆ ปสุตาก็ถามขึ้น

   "ถามแปลกๆ นะ หวงหรือ" ริศาแสร้งถาม

   "ยังอยากได้อยู่" ปสุตาหัวเราะ

   "ปาอ๊ะ พูดเล่นอยู่ได้"

   "จริงนะ แต่พี่อิ้งค์กับพี่รันน่ะ พอกันเลยคบแล้วเหนื่อย" ปสุตาพูดโดยไม่ได้เจาะจงอะไรมากนัก แต่คนฟังนั้นกำลังคิดตาม

   "ไซโค ริซ่าอยู่หรือเปล่าเนี่ย" ริศาพูดเสียงเข้มคล้ายดุคนที่ยิ้มอยู่

   "อย่ารีบ อย่าถล้ำลึกนัก จะได้ถอยทัน" ปสุตาใช้น้ำเสียงเรียบนิ่งไม่ใช่การพูดเล่นเหมือนก่อนหน้า

   "จริงจังใช่ไหมที่พูดออกมาน่ะ" ริศาถาม

   "ปาไม่รู้ว่า ริซ่าเข้มแข็งขนาดไหน เผื่อไม่ได้เป็นอย่างที่คิด"

   "ปาพูดเหมือนเคยเสียใจมาก่อนเลย" ริศาถาม

   "กับพี่อิ้งค์น่ะ หลงรักหนักมาก"

   "ยังรักอยู่" ริศาถามตามตรงเพราะเชื่อว่า ปสุตาคงตอบตามตรง

   "ไม่ล่ะ รักไปก็เท่านั้น คนเราต้องเดินหน้า แต่ก็ดีใจนะที่ได้อยู่ใกล้ๆ มาพักใหญ่ เชื่อไหมเท่าที่คบๆ มาในชีวิต พี่อิ้งค์เกือบทำให้ปาหยุดอยู่ที่เขาเลยนะ แม้กระทั่งตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่า ตกลงปาหรือพี่อิ้งค์ที่ไม่โอเค"

   "ดี แต่ไม่โอเค คือ อะไร"

   "ก็ยังคงมีคนโน้น คนนี้ พี่อิ้งค์ก็มี ปาก็มีเลยต้องแยกย้าย"

   "ไม่เห็นเข้าใจเลย" ริศาพูดคล้ายดุ แต่ปสุตายังคงยิ้มอยู่

   "ดี บางทีก็ไม่ใช่ เข้าใจปะ" ปสุตาบอก

   "ไม่เข้าใจ ปาพูดกำกวม"

   "ต้องลองด้วยตัวเอง พี่อิ้งค์ดีนะ แต่ไม่เหมาะกับปา"

   "ไปกันใหญ่ งงหนักกว่าเดิม" ริศายิ้มให้ปสุตา

   "แต่กับริซ่า เปิดตัวขนาดนั้นอาจจะจริงจังก็ได้นะ"

   "ปาพูดเหมือนคุณอิ้งค์ไม่เคยจริงจังกับใครอย่างนั้น"

   "เหมือนมีเงาคนอื่นอยู่ด้วยตลอดเวลา เวลาอยู่ใกล้ๆ กัน รู้สึกเหมือน   พี่อิ้งค์คิดว่าปาเป็นคนอื่น" ปสุตาบอกสิ่งที่ตัวเองคิด ริศาจึงคิดตาม

   "เวลาแบบนั้น สังเกตได้ขนาดนั้นเลยหรือ" ริศาถาม

   "นั่นแน่" ปสุตาหัวเราะ

   "อะไร"

   "แสดงว่าไม่ได้สังเกต" ปสุตายิ้ม

   "บ้าหรือไง"

   "ไม่เห็นต้องอายเลย เพื่อนกัน แฟนคนเดียวกันอีกต่างหาก"

   "เปลี่ยนเรื่องไหม" ริศาบอก

   "เป็นห่วงนะ ถ้าใช่จะดีมาก ปาอยากให้พี่อิ้งค์มีคนดีๆ ดูแล"

   "ขอบคุณนะ ปา"

   "เอางี้ ถ้าพี่อิ้งค์ไม่โอเค มาบอกปานะ ปาชอบริซ่า จะได้จีบต่อ"

   "ไม่ขำนะ ปา" ริศาหัวเราะ

   "เฮ๊ยจริงจัง ตอนแรกว่าจะจีบ พี่อิ้งค์เล่นตีลูกกันซะ"

   "ชอบมาล้อเรื่อยเลย" ริศาพูดดุ

   "ไม่ได้ล้อ พูดจริง จะรอนะ ชอบเค้าบ้างไหมล่ะ" ปสุตาพูดอ้อนและเอนศีรษะซบไปที่ไหล่ของริศา

   "ชอบก็ได้"

   "เฮ๊ยเอาจริงนะ ปารอได้" ปสุตาหัวเราะ

   "มันดูวุ่นวายเนอะ คนเยอะแยะไปหมด หรือควรจะชอบคนรุ่นราวคราวเดียวกัน" ริศาบ่นพึมพำ

   "ถูกต้องแล้ว รุ่นใกล้เคียงนี่แหละไม่ยุ่งมาก แต่ว่าปาก็ยุ่งนะ" ปสุตาอมยิ้ม เพราะมีความแสบไม่เบาอยู่เหมือนกัน หลังจากแยกจากทั้งอาภาและวรันธร

   "แน่สิ ทั้งพี่รันทั้งคุณอิ้งค์"


   "ตอนนั้นงงอยู่ เด็กมากเด็กมาย น่ารักทั้งสองคนเลยด้วย"

   "คบทั้งสองคนเลยหรือ" ริศาถามเสียงหลง

   "ยาวไว้เล่าให้ฟัง แต่บ้าใครจะไปคบทีเดียวสองคน" ปสุตายิ้ม

   "พี่รันก่อนแน่เลย" ริศาพูดขึ้น

   "เก่งมากค่ะ คุณดีเจ"

   "ถามหน่อยสิ เจ็บมากไหมตอนคุณอิ้งค์น่ะ"

   "จริงๆ คบต่อน่าจะได้นะ แต่ปารู้สึกเองว่า ไม่น่าจะไปถึงไหนได้คงเหมือนเรื่องพี่รันกับพี่อิ้งค์ แค่สัมพันธ์ทางกาย ใจพี่อิ้งค์อยู่ไหนไม่รู้" ปสุตาบอกความรู้สึกของตัวเอง

   "อยู่กับแฟนเก่า"

   "ได้ยินมาเหมือนกัน รายนั้นก็ออกตัวแรงนะ ได้ยินพนักงานเม้าท์"

   "ข้ามไป ริซ่าไม่เม้าท์นะ"

   "สู้ๆ นะ วันหนึ่งริซ่าคงได้คำตอบด้วยตัวเอง พี่อิ้งค์ไม่ได้ผิดอะไรรักกันก็อยู่ด้วยกัน ไม่รักก็แยกย้ายกันไป เสมอภาคเน๊าะ" ปสุตาพูดสรุปและแอบสังเกตท่าทางของริศาที่ไม่ได้แสดงอาการกังวลอะไรมากนัก

   "คงต้องเป็นอย่างนั้นแหละ จริงๆ ริซ่าเองก็ไม่ได้ดีอะไรมากมาย"

   "เราเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดานะ สมัยนี้แล้ว รักแล้วรักเลยไม่มีหรอกจะเจอหรือเปล่ายังไม่รู้เลยชีวิตนี้ว่าไหม"

   "แต่เจอก็ดีนะ เบื่อเริ่มใหม่บ่อยๆ" ริศาบอก

   "ชีวิตมีสีสันดีออก เลือดสูบฉีด เอ๊ะเหมือนมีความหลังนะ เรา"

   "อย่ามาหลอกถาม กลับได้แล้วมืดค่ำแล้วเนี่ย" ริศามองดูนาฬิกาข้อมือ มัวแต่คุยกันจนลืมเวลา ป่านนี้คนที่รอโทรฯ ไปรายงานตัวบ่นตายแน่

   "ไว้มาแถวนี้ หนีพี่อิ้งค์มากินข้าวกับกิ๊กหน่อยนะ"

   "ปาก็นะ เออแต่ริซ่าทำงานเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมงนะ บอกเผื่อไว้ก่อน"

   "รับทราบจ๊ะ ขอกอดทีดิ" ปสุตาอมยิ้ม

   "มาม๊ะ" ริศาสวมกอดปสุตาเอาไว้

   "น่ารักดีแท้ อย่าลืมนะ เขาจองบัตรคิวต่อจากพี่อิ้งค์ เดี๋ยวเจอตัวคราวหน้าจะบอกไว้เลย จะได้ยึดริซ่าเอาไว้อย่างเหนี่ยวแน่น เพราะรู้ถึงความแสบของปา" ปสุตายิ้มให้ริศาขณะเดินมาส่งที่รถ เมื่อเห็นปสุตาขับออกไปจึงรีบโทรศัพท์หาอาภาทันที

   "หายไปไหนมาคะ คุณกำลังจะกลับแล้วนะ"

   "ยังไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ อยู่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามตึกนี่เอง ปาชวนทานข้าวเพิ่งแยกกัน รอไหมคะ หนูสั่งอาหารไปให้ทาน" ริศาบอก

   "งั้นนอนคอนโดดีกว่าไหม ป่านนี้แล้วน่ะ" อาภาบอก

   "ได้ค่ะ รอแป๊บนะคะ เดี๋ยวสั่งอะไรที่ทานได้ง่ายๆ จะได้ทานระหว่างขับรถไม่ต้องหิวมาก" ริศายืนยิ้มมองไปทางตึกฝั่งตรงข้าม ซึ่งเห็นชั้นที่เป็นห้องทำงานของอาภายังคงเปิดไฟอยู่

   "จอดรถไว้ที่นี่ กลับคันเดียวกัน ป้อนคุณด้วยนะ หิวแย่แล้ว"

   "ทำไมไม่สั่งอะไรทานก่อน"

   "ลืม มัวแต่ทำงานนะสิ หนูก็ดูแลสิคะ เนอะ เตือนให้ทานข้าวอะไรแบบนี้น่ะ" อาภาอมยิ้ม เมื่อได้พูดอ้อนริศา

   "ดุได้ด้วยไหมคะ ถ้าป่านนี้ยังไม่ได้ทานน่ะ"

   "อนุญาต แต่รีบข้ามกลับมาหน่อยนะ หิวแล้ว" อาภาพูดเสียงอ่อยๆ

   "ได้ค่ะ เจอกันที่รถคุณนะ"

   "ค่ะ เดี๋ยวลงไปรอที่รถเลย คิดถึงนะ" อาภายิ้ม

   "เชื่อได้ไหมล่ะนั่น"

   "เชื่อเหอะน๊า คุณกำลังลงไปแล้วค่ะ ข้ามถนนดีๆ นะ"

   "ค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ" ริศายิ้มและเดินกลับเข้าไปในร้านอาหารอีกครั้ง

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น