web stats

ข่าว

 


Angels & Devils_S3 - บทที่ 5 Angel Eyes

โพสต์โดย: anhann วันที่: 10 มิถุนายน 2017 เวลา 22:12:05 อ่าน: 346



บทที่ 5 Angel Eyes





เคซีย์ขยับปกคอเสื้อแจ็กเกตพร้อมกับถอนหายใจโล่ง  รู้สึกดีขึ้นเมื่อได้สลัดเดรสรุ่ยร่ายออกไปจากตัวเสียที  หากก็ต้องมาหงุดหงิดอีกครั้งเพราะบรรยากาศอึมครึมระหว่างสองคนที่ยืนจ้องหน้ากันอยู่

"เฮ้  เบย์ลีส์  เรามีเรื่องต้องคุยกัน"  คิวปิดเอ่ย  เดินผ่ากลางระหว่างลิลิธกับเบย์ลีส์มา  และโอบไหล่สาวร่างเล็กพาเดินนำมาก่อน  ไม่ใส่ใจสายตาหงุดหงิดที่ตามมาด้านหลัง  หรือลิลิธจะมาเดินหน้าง้ำอยู่ข้างๆ

"ผู้หญิงคนนั้นเป็นของฉัน"  เบย์ลีส์เอ่ย  มองหน้าเคซีย์  แต่หางตายังเห็นอีกคนขมวดคิ้วให้  "งานของฉัน"

"สรุป  นั่นคือภูตเงาจริงๆ  งั้นสิ"  เคซีย์ถาม  ผู้เก็บกวาดใช้สายตาในการตอบ  เธอทำหน้าตกใจนิดหน่อย  เหลือบมองคนข้างกาย  สีหน้าลิลิธดูดีใจกึ่งเสียดาย  "โอเค  แล้วไงต่อ  เธอมีหน้าที่มาลากหล่อนลงนรกหรือ"

"ก็ไม่เชิงค่ะ"

"ไม่เชิง  หมายความว่าไง --"

"เธอจะใช้หล่อนนำทางไปหามีอาตัวจริง"  ลิลิธโพล่งขึ้นมา  จ้องตาสีเขียวจัดของคนที่ตนพยายามยัดเยียดการเป็นภรรยา(จริงๆ)ให้แต่ไม่สำเร็จ

เบย์ลีส์ยังอาศัยอยู่ในคฤหาสน์มืดของเธอก็จริง  หากเธอกับหล่อนไม่ได้เกี่ยวข้องกันในเรื่องนี้อีกแล้ว  เธอจำต้องปล่อยให้เบย์ลีส์ย้อนกลับไปซบอกเฟท  เพื่อคืนความเป็นมนุษย์ให้กับผู้เก็บกวาดสาว  ไม่ใช่แค่เพราะพ่อสั่งมาผ่านเทวทูตส่งสารตนนั้น  แต่เพราะเธอก็ต้องการให้เบย์ลีส์ยังคงเป็นมนุษย์  ไม่อยากให้หล่อนต้องมาอยู่ในคำสาปแบบเธอชั่วนิรันดร์

"จริงรึ  เบย์ลีส์" 

เบย์ลีส์กะพริบตา  เลิกสนใจนัยน์ตาสีฟ้าที่เห็นครั้งใดก็รู้สึกกดดันแปลกๆ  ในเมื่อลิลิธเลือกแล้วที่จะปล่อยเธอไป  เธอก็ควรยอมรับอิสระนั้นมาด้วยรอยยิ้ม 

"ค่ะ"  เธอตอบ  "คำสั่งพิเศษจากองค์กร  ภายใต้สัญญาพันธมิตรระหว่างเรา" 

"ไม่ต้องรีบขยายความขนาดนั้นก็ได้  ฉันก็ไม่ได้คิดว่า  เธอจะช่วยอยู่แล้ว"  ลิลิธขัดคออย่างอดไม่ได้  มันหมั่นไส้แปลกๆ เวลาเบย์ลีส์เอางานมาบังหน้าแบบนี้

"จริงๆ แล้ว  ฉันช่วยเฟท"  ผู้เก็บกวาดสาวพูดหน้าตาย  และขอตัวเดินไปขึ้นรถตัวเองทันที  พอสตาร์ตเครื่องได้ก็ขับออกไปเลย

"อ้าว  นั่นรถเบย์ลีส์นี่"  ออเดรย์ทันเห็นแค่บั้นท้ายรถสีเหลืองเมื่อโผล่พรวดออกมาจากประตูแกลเลอรี  เอวาตามหลังมาก็มองหน้าเคซีย์ให้รู้ตัวว่าต้องการคำอธิบาย

"หล่อนมาตามล่าตัวประหลาด"  คิวปิดตอบด้วยน้ำเสียงขี้เล่น  แต่ไม่มีใครเล่นด้วย  เธอจึงต้องเฉลย  "ภูตเงาของมีอา"

"ภูตเงา?"  ออเดรย์ทวนคำอย่างงงๆ 

"แบบดอพเพลแกงเกอร์น่ะ"  เคซีย์ชี้แจง 

"ฝาแฝดปีศาจ"  สาวมนุษย์เอ่ยอย่างนึกขึ้นได้  เธอเคยอ่านเจอในหนังสือมาก่อน  "งั้นมันแปลว่าอะไรคะ"

"มันมีความเชื่ออยู่หลายอย่างสำหรับเจ้าพวกนี้"  เอวาว่า  หน้าตาราวกับจะอ่านหนังสือที่มีอยู่ในหัวให้ฟัง  "จะเอาแบบดีๆ หรือไม่ดีล่ะ"

"ไม่ดีละกันค่ะ"  ออเดรย์ตอบ  ถึงจะอยากฟังเรื่องดีๆ  แต่ในกรณีนี้คงไม่มีประโยชน์เท่าใดนัก

"มีอยู่ความเชื่อหนึ่งเชื่อว่า  มนุษย์ทุกคนในโลกใบนี้ล้วนมีฝาแฝดของตัวเองอยู่  หากบุคคลนั้นเป็นคนดี  ฝาแฝดก็จะชั่วร้าย  และหากบุคคลนั้นเป็นคนชั่วร้าย  ฝาแฝดก็จะเป็นไปในทางกลับกัน  ถ้าฝาแฝดมาพบกันก็หมายถึงจุดจบของชีวิต  บ้างก็เชื่อว่า  ฝาแฝดนี้บอกเหตุลางร้าย  หากตัวมันไม่ได้เป็นต้นเหตุของลางร้ายนั้นเสียเอง"

"ดูๆ ไปก็เหมือนจะไม่ดีทั้งนั้นเลยนะคะ"

"ใช่  แต่อันนี้น่าสนใจกว่า  มันมาแก้แค้นให้ตัวต้นฉบับ" 

น้ำเสียงของเอวาในครั้งนี้  เรียกความสนใจได้ทั้งจากผู้ที่แสดงความเบื่อหน่ายในสีหน้าออกมาอย่างโจ่งแจ้งอย่างลิลิธ  ด้วยราชินีปีศาจก็มีความรู้สึกเห็นพ้องกับมัน

"แก้แค้น?"

"ใช่"  ผู้เฝ้าดูตอบ  "สิ่งไหนที่ตัวต้นฉบับไม่กล้าทำ  มันก็จะทำให้"

"ด้วยแรงพยาบาท  อาฆาตแค้น"  เคซีย์เสริมให้  แม้ไม่ตั้งใจก็สะเทือนใจบางคนไปแล้ว  ลิลิธหน้าเจื่อนอยู่ตรงหางตาเธอ

"ฉันว่า  วันนี้พอแค่นี้ก่อนดีกว่า  แยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน" 

ออเดรย์เลิกคิ้วแปลกใจใส่หน้าคิวปิด  เทวทูตแห่งความรักก็ส่งซิกทางสายตามาแบบที่เธอรู้ความหมาย  "โอเค  งั้นฉันขอตัว  ลืมไปว่าน้องสาวอยู่คนเดียว"

"เฮ้  แล้วเฟทไปไหน"  เอวาท้วง 

"ชิคาโก"  เคซีย์ตอบ  แล้วยักไหล่ให้สายตาสงสัยของผู้เฝ้าดู  "เธอจะโทร.ไปเช็กดูหน่อยก็ดีนะ  เพราะเมเดอลินไปด้วย"

เอวากะพริบตางง  ไม่คิดว่าสองคนนั้นจะญาติดีกันได้  แต่ก็ไม่มีใครให้ถามแล้ว  เคซีย์กับออเดรย์ขึ้นอิมพาลาคันแดงแล่นออกไปต่อหน้าเธอ  เหลือแค่ลิลิธที่กำลังจะเดินจากไป

"เฮ้..."

"กลับไปรดน้ำต้นชาของเธอต่อเถอะ  เดอะ วอชเชอร์"

เดอะ วอชเชอร์ผงะไปนิดหนึ่ง  มองคาดิลแลก ซีทีเอส-วีสีดำแล่นจากไปอีกคัน  แล้วสั่นศีรษะไปมาก่อนเดินไปหามัสแตง  บอส 429  และให้มันพากลับบ้าน

............................................

เฟทยืนกอดอกพิงผนังข้างประตูห้องน้ำภายในสนามบินนานาชาติโอแฮร์  ใช่แล้ว  เธอมาถึงชิคาโกโดยใช้ปีกเครื่องบินแทนปีกตัวเอง  ไม่ใช่เพราะขี้เกียจบิน  แต่การบินโดยเอาปีศาจมาด้วย  ดูจะเป็นจุดสนใจมากเกินไปหน่อย  อีกอย่าง  เมเดอลินก็ต้องแวะกินอาหารก่อนไปถึงตัวเมืองด้วย

"เฮ้  เบบี๋  เราต้องไปกันแล้วนะคะ"  เฟทเอ่ย  เคาะประตูห้องน้ำข้างตัวด้วยข้อนิ้ว  เธอขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงครางกระเส่าและเสียงหอบหายใจแรงๆ เป็นการตอบรับกลับมา

"ว้าว, นี่ถ้าฉันเป็นพวกชอบกินหลานตัวเองแบบเอวาได้  คงสนุกดีพิลึกเชียว  น่าเสียดายจริงๆ"  เธอพึมพำด้วยรอยยิ้มกับจินตนาการล้ำลึกของตัวเอง  ตาคมสบตากับสาวสวยที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาใหม่  หล่อนส่งยิ้มเชื้อเชิญออกมาอย่างโจ่งแจ้ง  แถมทำท่าคล้ายอยากจะดึงผ้าพันคอลากเธอติดมือไปด้วยตอนเดินผ่านอีกต่างหาก

เฟทเกือบเดินตามหล่อนไปแล้ว  หากเสียงโทรศัพท์ไม่ดังขึ้นก่อน 

"เฮ้  ว่าไง"

"ทำไมเธอไม่บอกฉันว่าจะไปชิคาโก" 

โอ...เทวทูตส่งสารอุทานในใจ  เสียงเบย์ลีส์ให้ความรู้สึกคล้ายโดนแม่มาตามให้ไปโรงเรียน  หรือภรรยาโทร.ตามจิกสามีจากปาร์ตี้หนุ่มโสด(?) อย่างไรไม่รู้ 

"เฟท?"

"เฮ้  เบบี๋  เธอคิดถึงฉันแล้วเหรอ  เพิ่งผ่านไปไม่พ้นวันเลยนะคะ"

"ฉันไม่ได้โทร.มาจิกเธอ  เฟท  ฉันจะคุยเรื่องงาน"

เฟทอมยิ้ม  ไม่อยากเชื่อผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ  "โอเคค่ะ  งั้นว่ามา"

"ฉันเจอภูตเงาของมีอาตามที่เธอบอก  แล้วจะให้ทำยังไงต่อไป"

"อย่าเพิ่งทำอะไร  รอฉันกลับไปก่อน"

"แค่นั้น?"

"ไม่  เบย์  เธอจับตาดูหล่อนไว้  พาเพื่อนไปด้วย  อย่าไปคนเดียว"

"โอเค  แล้วพวกพี่ๆ เธอล่ะ"

"หมายถึงพี่คนไหน  ลิลิธ?"

"ไม่  เฟท  ฉันพูดถึงเคซีย์  กับเอวา"

เทวดาสาวเลิกคิ้ว  นึกภาพออกเลยว่า  คนอีกฟากกำลังทำหน้าตาอย่างไรอยู่  เบย์ลีส์คงจะกลอกตามองเพดานห้องหลายรอบแล้วแน่ๆ

"เดี๋ยวฉันจะคุยกับเคซีย์  แล้วเธอก็รอดูละกันว่าเขาจะว่ายังไง"

"เธอจะให้เขาแบ่งงานให้ฉันทำ  งั้นเหรอ"

"โธ่  ที่รัก  อย่าเพิ่งโกรธสิ" 

เสียงพ่นลมหายใจระบายความหงุดหงิดดังเข้าหูเธอทันที

"โอเค  แล้วแต่เธอละกัน  เฟท  แค่นี้นะ  ฉันมีสอน"

"เบย์  พรุ่งนี้ฉันจะกลับไป"

"จะให้ฉันบอกใครให้หรือเปล่า"

"ไม่ค่ะ  ฉันบอกเธอ"  เฟทตอบอย่างจริงจัง  "ฉันคิดถึงเธอ  เบย์ลีส์"

ปลายสายเงียบหายไปนานจนเธอต้องดึงโทรศัพท์มามองเช็กดูว่าสัญญาณตัดขาดไปหรือยัง  แต่เสียงจากลำโพงก็ดังขึ้นมาให้ใจชื้น

"ฉันก็คิดถึงเธอ  เฟท  เหมือนที่เคยเป็น"

เบย์ลีส์วางสายไปแล้ว  แต่รอยยิ้มบนใบหน้าเธอยังอยู่  อยู่นานจนได้ยินเสียงแซวปนบ่นดังเข้าหู

"ทำไมพวกคุณๆ ถึงชอบทำเรื่องแบบนี้ให้มันยุ่งยากด้วยคะ  รักก็บอกว่ารักสิ  มันยากตรงไหน  หรือมันเป็นข้อห้าม"

เฟทยิ้ม  แม้จะรู้สึกว่าอีกฝ่ายดูจะหงุดหงิดเล็กๆ  เพราะมันคงไม่ได้เกี่ยวกับเธอโดยตรง  คงเป็นคำถามที่ฝากไปถึงใครที่กำลังรดน้ำต้นชาอยู่

"ใช่ไหมคะ  มันยากตรงไหน  แค่ยอมรับความจริง"  เมเดอลินจี้ต่อ  ถึงเฟทจะทำไม่รู้ไม่ชี้  หันไปสนใจเหยื่อที่นั่งตาลอยอยู่บนชักโครกในห้องน้ำ  เข้าไปเช็กชีพจรหล่อนว่ายังอยู่ดีหรือไม่

"ไม่ถึงตายหรอกค่ะ"  ซัคคิวบัสพูด  มองแสงสีทองเรืองขึ้นบนมือของเทวทูตเบื้องหน้าอย่างทึ่งๆ  ขณะที่เฟทเอ่ยปากตอบคำถามให้

"เพราะมันไม่ใช่แค่เซ็กซ์ค่ะ  ที่รัก  มันเป็นความลึกซึ้งทางอารมณ์  ซึ่งพวกฉันไม่ควรมี"

"แล้วทำไมเคซีย์ถึงมีได้คะ"  เมเดอลินย้อน  สนใจทั้งเรื่องนี้และเรื่องที่เฟทกำลังช่วยคืนพลังงานให้กับสาวมนุษย์ที่ถูกเธอกลืนกินพลังชีวิตไปมากพอควร  แต่ไม่มากถึงชีวิต

"คราวหน้าต้องน้อยกว่านี้นะ  เมด"  เฟทเตือน  เริ่มเบื่อจะตามล้างตามเช็ดผลงานให้หลานเต็มทีแล้ว  เมเดอลินพยักหน้า  หากไม่ได้ดูรู้สึกผิดสักเท่าไหร่  ปีศาจสาวจ้ำตามหลังเทวทูตที่เดินเร็วคล้ายไม่อยากจะรอกัน  มันน่าหมั่นไส้ตรงที่เฟทยังอุตส่าห์โปรยยิ้มให้สาวๆ ที่เดินสวนกันได้อยู่นี่ละ

"เฟทคะ  ทำไม?"

"มันก็...อาจเป็นกลไกป้องกันตัวอย่างหนึ่งของเรามั้งคะ"  เฟทตอบ  พยายามตอบเพราะไม่อย่างนั้นเธอคงหูชาแน่ๆ  และก็ต้องพยายามให้เป็นกลางที่สุดด้วย  กระนั้นผู้ฟังก็ยังดูสงสัย  "โอเค  งั้นฉันจะพูดในกรณีของฉันให้เธอฟัง  ดีไหม"

เมเดอลินพยักหน้า  ทำท่าสนใจขึ้นมาแทบจะทันที

"ฉันอยากให้เบย์ลีส์มีความสุข  ไม่ว่าจะอยู่กับใคร"

"หมายความว่า  หล่อนไม่ต้องเลือกอยู่กับคุณก็ได้เหรอคะ"

"ใช่  ใครก็ได้ที่ทำให้เขามีความสุข  ไม่จำเป็นต้องเป็นฉัน"

"แล้วถ้าใครคนนั้นเป็นคุณล่ะ"  เมเดอลินถาม  เฟทตากระตุก  รู้สึกว่ายิ่งพูดก็ยิ่งจะเข้าตัวมากขึ้นทุกที  "ถ้ามีแค่คุณที่ทำให้หล่อนมีความสุข  คุณจะว่ายังไง"

เทวทูตส่ายหน้า  ไม่ยอมรับข้อนี้  พออีกฝ่ายทำท่าจะซักไซ้เพิ่ม  เธอก็รับกุญแจรถจากพนักงานร้านรถเช่ามาพอดี  แล้วพยักหน้าเรียกหลานให้เดินตามมาขึ้นเบนซ์เปิดประทุนสีขาวที่ทำให้ตะลึงจนลืมคำถามไปเลย

"คุณเอาเงินมาจากไหนมากขนาดนี้คะ  เฟท"  เมเดอลินถามขณะมองสำรวจภายในรถคันหรูที่อยู่มาจนป่านนี้ยังไม่เคยนั่งสักครั้ง  อันที่จริงรถของลิลิธก็มีอยู่หลายยี่ห้อ  หรูหราอยู่หลายคัน  แต่เธอแค่ขับไม่เป็น  และมันไม่มีเบนซ์แบบนี้อยู่ในโรงรถสักคัน

"แด๊ดดี้ฉันรวยค่ะ"  เฟทตอบ  เงยหน้าขึ้นมองฟ้าและขยิบตาหนึ่งทีก่อนหันมาพยักหน้าให้หลานสาว  "พร้อมจะไปกันหรือยังคะ  คนสวย"

"ถ้าเป็นรถคันนี้ก็พร้อมทันทีเลยค่ะ"  เมเดอลินตอบเสียงขี้เล่น  ยิ้มชอบใจเมื่อคนขับหันมายิ้มแบบเดียวกันให้เธอ 

บางทีการมาชิคาโกครั้งนี้อาจมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นบ้างก็ได้

.............................................

"เลือกดีๆ นะ  บางเล่มมันก็เป็นอาราบิค  บางเล่มก็เป็นกรีก"

เบย์ลีส์หยุดสายตาไว้บนตัวอักษรในหนังสือที่กำลังพยายามอ่านให้รู้เรื่องอยู่  แต่ที่สุดก็ต้องปิดพับมัน  เพราะนอกจากจะอ่านไม่เข้าใจแล้ว  คนตรงหน้ายังทำให้บรรยากาศในห้องหนังสือนี้ไม่น่าอยู่เสียอีก

"นี่  แค่คุยกันเฉยๆ ก็ไม่ได้หรือไง"

"ฉันจะย้ายกลับบ้าน"

ลิลิธทำหน้าไม่ถูกเลยเมื่อได้ยินแบบนี้  เธอเดินไปดักหน้าผู้หญิงร่างเล็กซึ่งก็เงยหน้ามองกันอย่างไม่กลัวเกรง

"ทำไม?  ไหนเธอบอกว่า  อยู่ที่นี่ก็ได้  แค่เราไม่ยุ่งกัน"

"ฉันต้องการพื้นที่ส่วนตัว"

"เธอมีห้องของเธอ  เบย์ลีส์  ที่นี่มีห้องเยอะแยะ  แต่ละห้องก็ใหญ่กว่าอพาร์ตเม้นต์โทรมๆ ของเธอตั้งมากมาย"

"ค่ะ ใช่  มันเป็นแบบนั้นแหละ  แต่มันก็เป็นที่ที่เป็นของฉัน  ไม่ว่าจะเก่า  จะเล็กจะโทรมขนาดไหน  มันก็เป็นของฉัน  มันให้ความรู้สึกดีกว่า"

"เฟทก็ทำให้เธอรู้สึกแบบนี้ใช่ไหม"  เธอถาม  แล้วก็ชะงักเสียเอง  มันเป็นประเด็นละเอียดอ่อนที่เราทั้งคู่เลี่ยงจะพูดกันมาตั้งนาน

แต่คราวนี้คงไม่เหมือนคราวก่อนๆ เพราะประกายสดใสในดวงตาสีเขียวจัดคู่นี้  คล้ายกลับจะยืนยันว่า  ชื่อของใครคนนั้นมีอิทธิพลต่อจิตใจมากเพียงใด

"เฟทเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน  ไม่ใช่เพราะเขาเป็นเทวดา  แต่เพราะเขาเข้าใจว่าฉันต้องการอะไร  และสนใจมัน"

"แล้วเธอว่า  ฉันไม่สนใจเหรอ"

"สนใจ  แต่ไม่ทำอะไร  ก็เท่ากับไม่สนใจ"  เบย์ลีส์ตอบ  ไม่ได้แยแสปฏิกิริยาอาการของผู้ฟังสักนิด  "ฉันจะไปพรุ่งนี้นะคะ  วันนี้ขอยืมห้องนี้อ่านหนังสือหน่อย  ศึกษาเคสของคุณมีอา"

ลิลิธพูดไม่ออกเมื่อได้ยินชื่อนี้  ทำได้เพียงขยับให้ทางอีกฝ่ายที่จะเดินไปหาหนังสือที่ต้องการ  กระนั้นก็ยังห้ามใจไม่ให้ยืนมองร่างเล็กบางอยู่ครู่ใหญ่จนเบย์ลีส์หันมามองหน้าด้วยสายตาตั้งคำถาม

"ไม่มีอะไร  ฉันแค่อยากมองเธอ"  เธอตอบ  แล้วเดินออกจากห้อง  ไม่ได้หยุดมองดูสีหน้าของคนที่ตนจากมา

...........................................

เมเดอลินมองเงาสะท้อนบิดๆ เบี้ยวๆ ของตัวเองในเจ้าถั่วแสตนเลส  หรือ The Bean  แลนมาร์คที่ยืนยันว่า  เธอได้มาถึงชิคาโกแล้วในที่สุด  แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้าใจเลยว่า  มาทำอะไรที่นี่  ในสวนสาธารณะมิลเลนเนียม  เฟทพาเธอมาเที่ยวหรือยังไงกัน

"พอจะจำได้ไหมว่า  เธอเจอตัวเองครั้งแรกตรงส่วนไหนของชิคาโก"

โอ  ดูเหมือนจะไม่ใช่แค่มาเที่ยวแล้วล่ะสิ  ถ้าเฟทจะถามมาแบบนี้

"เธอคงไม่ได้อยู่ดีๆ ก็โผล่ขึ้นมาจากท่อน้ำหรอกนะ"

เมเดอลินทำหน้าตกใจใส่เทวทูตหน้าตาดีที่เล่นยิงคำถามเสียจนเธอหน้าเจื่อน  "ฉันไม่ใช่หนูท่อนะคะ  เฟท"

เฟทยิ้ม  ใช้สายตาขี้เล่นเกลื่อนความผิดตัวเอง  หากหลานสาวก็ยังคงหน้างอ  "ไปขึ้นเรือกันหน่อยไหม  เผื่อจะนึกอะไรออกบ้าง"

"นี่เรามาเดตกันหรือไงคะ"

"มาทำงานก็ไม่เห็นจะต้องเครียดเลยนี่คะ  จริงไหม"

เมเดอลินเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น  มองอีกฝ่ายอย่างทึ่ง  ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟททำให้เธอประหลาดใจ  ตั้งแต่รับเธอมาจากบ้านก็ทำมาตลอด  ยิ่งตอนอนุญาตให้เธอแวะเติมพลังระหว่างทาง  แล้วจัดการเคลียร์กับเหยื่อให้ด้วยนั่นยิ่งน่าทึ่ง  ความจริงเขาจะเสนอตัวเองแทนมนุษย์พวกนั้นก็ยังได้  แต่เขาก็ไม่ทำ  แต่เขาอาจเห็นเธอเป็นหลานจริงๆ  หรือไม่ก็ไม่อยากจะมีสัมพันธ์กับปีศาจอย่างเธอ  ไม่อยากตกต่ำเพราะเธอหรือเปล่านะ

"คุณทำแบบนี้  เพื่อให้ฉันไว้ใจคุณหรือเปล่าคะ"

"แล้วมันสำเร็จหรือเปล่าล่ะคะ"  เฟทย้อน  หลานสาวย่นคิ้วนิดๆ แล้วยิ้มรับ  ยอมรับมือเธอที่ส่งไปให้  "ทำใจให้สบาย  เมด  ไม่ต้องรีบ  แค่พรุ่งนี้เราต้องกลับกันแล้ว  เท่านั้นค่ะ"

"แหม  ไม่ต้องรีบเลยนะคะ  นั่นน่ะ"  เมเดอลินย้อน  หากก็ปล่อยให้ตัวเองถูกพาเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดทักท้วง  ดวงตาสีฟ้ามองไปรอบกาย  ตามหาความหมายของเมืองแห่งสายลมนี้ที่มีต่อชีวิตของตน

"ถ้าจำอะไรได้  ก็บอกนะคะ"  เฟทกระซิบ  ยิ้มอบอุ่นเสียเหลือเกิน

"ฉันอิจฉาเบย์ลีส์ได้ไหมคะ"  ปีศาจสาวเอ่ยขึ้นขณะต่อแถวรอคิวซื้อตั๋วขึ้นเรือไปชมสองฝั่งแม่น้ำชิคาโก  เทวทูตที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังแค่ยิ้มโดยไม่พูดอะไรกลับมาตามเคย

"ฉันจะรีบคิดค่ะ  เฟท  คุณจะได้กลับไปหาเธอเร็วๆ"

"เธอเองก็ได้จะได้กลับบ้านเร็วๆ ด้วยใช่ไหม"

"ฉันไม่บอกหรอกค่ะ"  เมเดอลินว่า  ยิ้มเยาะเฟทเล็กน้อย  เพราะเขาหน้าเหวอนิดๆ  แต่หลังจากนั้นเมื่อเราไม่มีเรื่องจะพูดอะไรกันแล้ว  เธอก็ได้แต่ยืนพิงร่างสูงกว่าแก้เมื่อยเพราะต้องต่อคิวนานมากเหลือเกิน

สำหรับเธอ  เธอมีเจตนาแค่นั้น  แต่สำหรับเฟท  เขาใช้เธอกลบแสงเรืองรองของเทวทูตที่บางคนคอยจับสัญญาณอยู่แถวๆ นี้  และยังใช้ตัวเองเกลื่อนรังสีปีศาจให้เธออีกด้วย  ตอนนี้พวกเธอจึงกลืนไปในหมู่มนุษย์ได้อย่างแนบเนียน 

ยกเว้นกับใครบางคนที่รู้จักพวกเธออยู่แล้ว

"เมด  ท่าทางเราคงต้องเปลี่ยนโปรแกรมแล้วค่ะ"

เมเดอลินยังไม่ทันได้ถามความตามสงสัย  เฟทก็ฉุดเธอออกจากแถวรอซื้อตั๋ว  และพาเธอเดินไปอีกทาง  แต่เธอก็ทันได้เห็นว่าใครที่ทำให้เฟท ต้องรีบร้อนขนาดนี้

ลูซิเฟอร์...

"เขาตามเรามาทำไมคะ"

"ยังตอบไม่ได้ค่ะ  ต้องดูไปก่อน"  เฟทตอบ  ใจเย็นได้อย่างเหลือเชื่อ

เมเดอลินจ้องหน้าเจ้าของมือที่จับกันไว้มั่น  ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน  เธอเชื่อเฟทไปอีกแล้ว  เชื่อว่าพวกเธอจะรอด  ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

"ฉันใช้อำนาจวิเศษไม่ได้  ไม่งั้นเขาจะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน  เราต้องเดินสลับกับวิ่งนะ  เมด"

"มาถึงตอนนี้แล้ว  ให้ทำอะไรก็ต้องทำแล้วค่ะ"  ซัคคิวบัสเอ่ยอย่างปลงๆ  เพราะต้องหนีอีกแล้ว  ทั้งชีวิตยังหนีมาไม่พอหรือไง  เธอบ่นอุบอิบอยู่ข้างในใจ  แต่ไม่รู้ทำไม  เธอกลับรู้สึกสนุก  ไม่ได้แย่เหมือนเดิม

เพราะเฟทงั้นเหรอ?

โอ  เธอให้เครดิตเทวทูตองค์นี้มากเกินไปแล้วมั้ง

ไม่หรอก...ในเมื่อเขาคือ  กาเบรียล(Gabriel) พละกำลังของพระเจ้า  เทพแห่งความเมตตา  ไม่ใช่แค่  ผู้ส่งข่าวสารจากพระเจ้าอย่างเดียว

"กลัวหรือเปล่า  เมด"  เฟทถามขึ้นระหว่างยืนหลบลูซิเฟอร์กับลูกสมุนอยู่หลังเรือลำหนึ่งในท่าเรือ  เมเดอลินสั่นศีรษะ  สบตาเธอด้วยแววประหลาดในดวงตา

"อย่าบอกว่า  หิวอีกแล้วนะคะ"

"ถามเหมือนจะเสนอตัวให้กินได้เลยนะคะ"

"ไม่ได้ค่ะ  ต้องห้าม" 

ปีศาจสาวเกือบจะร้องท้วง  หากร่างเธอไม่ได้ถูกดึงเข้าไปในวงแขนคนตัวสูงเสียก่อน  เฟทกระซิบให้เธอเงียบเอาไว้  แล้วเธอก็เข้าใจเหตุผลนั้น  มันเพราะมีพวกผู้ชายตัวยักษ์ๆ กำลังเดินหาใครอยู่  ก็คงเป็นพวกเธอนี่ละ

"หลับตา  เมด  อย่าลืมขึ้นมาจนกว่าฉันจะบอก  นะคะ"

เมเดอลินทำตามอย่างไม่โต้แย้ง  เธอสะดุ้งอยู่ในวงแขนข้างเดียวของเฟทที่โอบเธอไว้  เพราะอีกข้างคงใช้ทำอย่างอื่น  ซึ่งเธอไม่อยากเห็นว่า  มันคืออะไร  แค่เสียงกรีดร้องโหยหวนของพวกเขา  เธอก็เดาออกแล้วว่ามันคงไม่ได้น่ามองนักหรอก

"เอาละ  ไปต่อกันเถอะ"  เฟทกระซิบเสียงนุ่ม  ไม่เหมือนคนที่เพิ่งคร่าชีวิตใครมาเลยสักนิด  แต่เมเดอลินก็ไม่เห็นใครเลยเมื่อเปิดตาขึ้นมา

"คุณทำอะไรพวกเขาคะ  เฟท"  เธอถาม  งงเป็นที่สุด

"อย่ารู้เลยดีกว่าค่ะ"  เทวทูตตอบง่ายๆ  ปีศาจสาวเลิกคิ้วแปลกใจ  แต่ก็ยินดีจะเงียบดีกว่าโต้เถียงกับผู้ที่เธอไม่มีวันจะชนะเขาได้

"สิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้  คือจำเรื่องนั้นให้ได้เร็วที่สุด  เราจะได้กลับบ้านกันนะ  เมด"  เฟทว่า  ซัคคิวบัสพยักหน้ารับ  เธอก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่แล้ว  มันไม่ใช่สวรรค์สำหรับเธอหรอก  มันคือนรกต่างหาก 

"ฉันจำได้แล้วค่ะ  เฟท"  เธอบอก  เฟทก็เลิกคิ้วข้างหนึ่ง  "ฉันตื่นขึ้นมาที่นี่ค่ะ"  เธอเล่า  ชี้มือไปยังเรือลำหนึ่งในท่าเรือ  เฟทมองตาม  และอ่านตัวอักษรสีทองสวยงามตรงข้างเรือนั้นในใจ

Lux...แสงสว่างในภาษาละติน  แต่ตัวเขานั้นช่างมืดมน...

"ถามฉันดีๆ ก็ได้นี่  น้องสาว  ทำไมต้องทำเรื่องให้ใหญ่โตด้วยล่ะ"

เฟทตวัดสายตาไปมองผู้ที่ชอบอ้างลำดับชั้นในครอบครัวกับเธอเหลือเกิน  ทั้งที่เขาและเธอต่างก็รู้ดีว่ามันไม่ได้มีความหมายอะไรนักหรอก

เขาเป็นเทวทูตตกสวรรค์

ส่วนเธอ...

"กาเบรียล  ฉันควรเรียกเธอแบบนี้มากกว่าใช่ไหม"

"ไม่จำเป็น"  เฟทตอบเย็นชา  "แค่เอาของคืนมาก็พอ"

"มันไม่ได้อยู่ที่ฉัน  ก็บอกแล้วไง"  เขาว่า  เลื่อนสายตาจากเฟทไปหาเมเดอลินที่ถูกดันไปอยู่ด้านหลังร่างสูงเพรียวของเทวทูต

"กลัวอาทำไม  เมด  อาไม่ทำอะไรหนูหรอก  อาดูแลหนูมานะ"

"ลูซิเฟอร์  อย่า..."

เจ้าชายแห่งนรกมองหน้าเจ้าหญิงแห่งสวรรค์แล้วกลอกตาหน่าย

"ก็ได้เฟท  ก็ได้  งั้นมาแข่งกันเลยละกัน  ว่าใครจะได้ของมาก่อน"

"ดีล"  เฟทตอบโดยไม่หยุดคิด  แม้เมเดอลินจะกระตุกแขนเสื้ออยู่ด้านหลัง  เธอรอจนลูซิเฟอร์จากไปแล้วจึงค่อยหันมาหาหลาน  เจอกับสีหน้าวิตกกังวลทันที 

"ไม่เป็นไรหรอก  เมด  เผื่อเธอจะได้เจอแม่เร็วๆ ขึ้นไง"

เมเดอลินมองหน้าคนตัวสูงกว่าอย่างลังเล  แต่สุดท้ายก็พยักหน้า

"กลับบ้านกันเลยไหม"

ปีศาจสาวไม่ได้ตอบ  หากการไม่ขัดขืนของเธอก็คือคำตอบแล้ว


............................................


พาไปเที่ยวชิคาโกมาแป๊บนึงค่ะ วันนี้  5555

อ้อ  ลืมบอกไป  กับภาคนี้  เราจะเจอ เฟทหรือคุณกาเบรียล  และเมเดอลิน  เยอะกว่าคนอื่นหน่อยนะคะ  อย่าเพิ่งเบื่อหน้าพวกเธอๆ เขาล่ะ  อิอิ  :61:

ขอบคุณค่ะ  :44:


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

10 มิถุนายน 2017 เวลา 23:14:42
 :40: ก็ยังงงๆ ว่าทำไมๆ อะไรๆ มันก็ดูงงๆ :05:
แสดงความคิดเห็น