ตอนที่ 13 ในที่สุดวันนี้อวิกาก็สามารถพาตัวพี่หมีของเธอมาเลือกแหวนได้ซักทีหลังจากเทียวไล้เทียวขื่ออยู่นานไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนเห็นใจหรือว่ารำคาญกันแน่แต่ก็ถือว่าเธอทำได้สำเร็จตามที่บิดาสั่งมาถึงจะใช้เวลานานไปหน่อยก็เถอะ
“ทางนี้ค่ะพี่ผึ้ง”
อวิกาหันไปกวักมือเรียกคนที่จู่ๆก็เดินแยกไปอีกทางแต่คนเดินไปหาได้สนใจเมื่อตอนนี้มาธวีกำลังให้ความสนใจกับร้านขายเสื้อผ้ามากกว่าร้านที่อีกคนจะพามา
“อะไรของเค้าอีกนะ”
คนพามาทำได้แค่บ่นพึมพำเท่านั้นเพราะตอนนี้เท้าทั้งสองข้างของเธอได้เปลี่ยนทิศทางตามอีกคนไปเป็นที่เรียบร้อย
ภายในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังที่มีป้ายเซลล์อยู่หน้าร้านทำให้มาธวีเหมือนถูกแรงดึดดูดให้เข้าไปและไม่ต้องรีรออะไรเมื่อตอนนี้หญิงสาวกำลังเลือกเสื้อผ้าอย่างมีความสุข
“หมดนี่เลยเหรอคะ”
อวิกาจ้องเสื้อผ้ากองโตที่อยู่หน้าเคาร์เตอร์อยู่นานจากนั้นก็หันไปหาคนที่ยังคงหมั่นเอามาวางเพิ่มอยู่เรื่อยๆ
“เก็บไว้ให้คนอื่นบ้างก็ได้มั้งคะ”
มาธวีหันไปส่งค้อนให้คนพูดทันทีจากนั้นจึงเดินเลี่ยงไปอีกทางเพื่อเลือกเสื้อผ้าต่อ
“พี่ผึ้งคะเราไปทำธุระสำคัญกันก่อนมั้ย”
อวิกาเดินเข้าไปใกล้คนที่เอาแต่ช้อปเพลินก่อนจะเอ่ยเรียกสติให้อีกคนได้รู้ตัวว่ามาสถานที่แห่งนี้เพื่ออะไร
“เดี๋ยวค่อยมาซื้อนะคะร้านเค้าเซลล์ทั้งวันยังไงก็ทันอยู่แล้ว”
“แล้วแหวนของน้ำเพชรเปิดแค่ครึ่งเช้าเหรอถึงต้องรีบไป”
คนพูดเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์เสียก่อนจะวางเสื้อผ้าลงแล้วหันมาจ้องหน้าคนช่างตื้ออย่างเอาเรื่อง
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ เพชรแค่อยากให้เสร็จเป็นเรื่องๆไป”
มาธวีกัดปากตัวเองเบาๆทันทีเมื่อได้ยินประโยคที่คนตรงหน้าเอ่ยออกมา ดูเหมือนว่าเธอกำลังสร้างภาระเพิ่มให้กับอวิกาอยู่สินะถึงได้ทำหน้าเหมือนกับรำคาญเธอเสียเต็มประดาแบบนี้
“ก็ได้!”
เป็นคำตอบที่หากใครได้ยินก็ต้องรู้ว่าคนพูดกำลังรู้สึกอย่างไรแต่ไม่ต้องเดาจากคำพูดเพราะดูจากท่าทางที่เจ้าตัวสะบัดหน้าเดินออกไปจากร้านโดยไม่มีแม้แต่คำร่ำลาทำให้อวิกาต้องมองตามตาแทบไม่กระพริบเพราะดูเหมือนงานจะเข้าเธออีกแล้ว…
ภายในร้านที่เป็นจุดหมายของคนทั้งคู่ อวิกามองคนข้างๆที่เอาแต่เล่นมือถือจนไม่แม้แต่จะชายตามองสิ่งของภายในตู้เลยสักนิด หญิงสาวหันไปพูดคุยกับเจ้าของร้านครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองคนข้างๆอีกครั้ง
“พี่ผึ้งชอบวงไหนคะ”
“อะไรก็ได้”
มาธวีเอ่ยตอบแบบขอไปทีก่อนที่จะหันมาให้ความสนใจกับการแชทในมือถือต่อ
“มาแล้วค่ะ”
เสียงเจ้าของร้านที่หายเข้าไปด้านหลังร้านพักใหญ่ดังขึ้นพร้อมกับสายตาของลูกค้าทั้งสองที่หันไปมองโดยไม่ได้นัดหมาย
“ขอบคุณค่ะ”
อวิกาเอ่ยออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปรับของที่เจ้าของร้านส่งมาให้ด้วยรอยยิ้ม
“อะไรคะ”
เป็นประโยคคำถามที่คนพูดหลุดออกมาแบบไม่ได้ตั้งใจแต่ความอยากรู้ของมาธวีก็มีมากพอที่จะทำให้เธอจ้องของที่อยู่ในมือคนข้างๆแบบไม่วางตา
“นึกว่าจะไม่สนใจซะอีก”
คนพูดยิ้มออกมาน้อยๆก่อนจะค่อยๆเปิดของที่อยู่ในกล่องให้อีกคนดูแบบเอาใจ
“ชอบมั้ยคะ”
มาธวีมองไปยังบางสิ่งที่ถูกเผยออกมาก่อนจะจ้องคนที่ทำหน้ากวนๆใส่เธอสลับกับแหวนไปมา
“ไม่ชอบ”
คนพูดดันมือของคนตรงหน้าออกจากนั้นก็ลุกขึ้นเตรียมหันหลังจะเดินออกจากร้าน
“พี่ผึ้งจะไปไหนค่ะ”
“ไปซื้อเสื้อผ้าต่อ”
“แต่เรายังสรุปเรื่องแหวนกันไม่ได้เลยนะคะ”
“พี่ยังต้องออกความคิดเห็นอะไรอีกในเมื่อน้ำเพชรเลือกไว้หมดแล้ว”
มาธวีพูดจบก็เดินออกจากร้านไปทันทีทิ้งให้คนที่ถือแหวนต้องเดินคอตกกลับเข้าไปในร้านเพียงลำพัง
“ตกลงเอาสองวงนี้แหละค่ะ”
คนพูดเอ่ยออกมาแบบเศร้าๆพร้อมกับจ้องมองไปยังแหวนที่เธอตั้งใจออกแบบเองแต่กลับไม่ถูกใจคนใส่อีกคน…น่าเศร้าใจจริงๆ
ส่วนทางด้านคนที่รีบเดินออกจากร้านก็เกือบจะหลุดยิ้มออกมาตั้งแต่เห็นแหวนในมือของอวิกาแต่ทำไงได้เมื่อตอนนี้เธอกำลังตั้งใจแกล้งอีกคนอยู่โทษฐานที่ชอบทำให้เธอวุ่นวาย(ใจ)ทุกครั้งที่อยู่ใกล้
วันนี้บ้านเอกอมรกุลคึกคักเป็นพิเศษเมื่อว่าที่สะใภ้คนเล็กของบ้านกำลังจะมาเยือนและดูคนที่ตื่นเต้นที่สุดเห็นจะเป็นเจ้าบ้านอย่างกำธรที่กำลังเร่งฝีเท้าไปที่รถอย่างรวดเร็วแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเดินไปถึงรถแล้วพบว่าตัวเองดันรีบจนลืมกุญแจรถ
“ให้มันได้อย่างนี้สิ”
“หาไอ้นี่อยู่เหรอครับ”
อาศิราเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับแกว่งบางสิ่งไปมา
“ขโมยของคนอื่นนิสัยไม่มีเลยนะเอามา”
คนพูดเดินเข้าไปคว้ากุญแจในมือบุตรชายทันทีก่อนจะทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เดินไปยังรถ
“จะไม่อยู่รอเจอสะใภ้คนเล็กเหรอครับ”
“พ่อมีธุระ”
“ตะกี้ยังเห็นใส่ชุดธรรมดาอยู่เลยพอรู้ใครจะมาไหงวิ่งไปเปลี่ยนเร็วจัง”
“พูดมากไปแล้วเดี๋ยวไม่ทัน”
พูดจบกำธรก็รีบขึ้นรถแล้วขับออกไปทันทีใช่ว่าเขาอยากหนีหน้าแต่จากสถานการณ์ที่บุตรสาวเล่าให้ฟังทำให้รู้ว่าทุกอย่างไม่ปกติดังนั้นให้เด็กๆคุยกันเองน่าจะสบายใจเอ้ย..ถูกส่วนผู้ใหญ่อย่างเขาควรมองดูอยู่ด้านหลังเพราะฉะนั้นเปิดก่อนดีที่สุด
“พ่อนะพ่อทิ้งกันได้”
อาศิราเอ่ยตามหลังรถที่แล่นออกไปจากนั้นสายตาของเขาก็หันไปเจอเข้ากับแพรวรุ่งที่กำลังตั้งท่าจะเดินเข้าบ้านเมื่อมองมาเห็นเขา
“วันนี้จะมีแขกมา”
ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ทำเหมือนจะเดินหนีเขาก่อนจะรีบเดินขนาบข้าง
“ค่ะ”
แพรวรุ่งตอบรับเพียงสั้นๆก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งที่เก้าอี้หน้าบ้านเพราะเธอมั่นใจว่าแม้จะเดินหนีไปทางไหนอีกคนก็คงจะตามไปเป็นแน่
"น้องผึ้งไง เธอจำได้มั้ย”
คนฟังทำหน้าคิดตามก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปสบตากับคนพูดแว๊บหนึ่งจากนั้นแพรวรุ่งก็เมินหน้าไปทางอื่น
อาศิรายิ้มแห้งๆออกมาเมื่อเห็นท่าทางของอีกคนที่ไม่อยากคุยด้วย
“วันนี้เธอเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ดีค่ะ”
“อีกสองวันฉันจะพาเธอไปหาอาหมอนะเตรียมตัวไว้ด้วยล่ะ”
“ที่จริงฉันไปเองได้”
แพรวรุ่งเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งๆจนคนฟังถึงกับจุกเป็นระยะๆเขารู้ว่าทำไม่ดีไว้เยอะแต่พอมาเจอการกระทำที่ไร้ความรู้สึกแบบนี้ก็อดที่จะเจ็บจิ๊ดที่หัวใจไม่ได้
“ฉันจะดูแลเธอเอง”
คนพูดเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าๆก่อนจะค่อยๆเอื้อมมือไปแตะที่หลังมือของแพรวรุ่ง
“ฉันอาจไม่ใช่คนที่เธออยากให้มาดูแลแต่ฉันจะทำและจะทำให้ดีที่สุด”
แพรวรุ่งนั่งนิ่งกับประโยคที่ได้ยินจากนั้นไม่นานหญิงสาวก็ค่อยๆดึงมือออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับคนพูด
“ขอแค่คุณทำดีกับลูก ฉันก็พอใจแล้ว”
พูดจบหญิงสาวก็ลุกเดินเข้าไปในบ้านทิ้งให้คนสำนึกผิดต้องน้ำตาตกในกับสิ่งที่ได้ยินแต่ละคำช่างบ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนที่เพิ่งจากไปคงไม่มีวันอภัยให้เขาอย่างแน่นอน
บนโต๊ะอาหารที่ตอนนี้มีคนร่วมวงถึงสี่คนและแขกคนพิเศษก็ยิ้มหน้าบานที่ได้เข้ามาในบ้านหลังนี้เป็นครั้งแรก
“น่าเสียดายนะคะที่คุณลุงไม่อยู่”
มาธวีเอ่ยขึ้นเมื่อมาแล้วไม่ได้กราบประมุกของบ้านเอกอมรกุล
“นั่นน่ะสิคะตะกี้เพชรคุยกับคุณพ่อท่านยังอยู่บ้านอยู่เลย”
อวิกาพูดตามที่ตัวเองรู้สึกก่อนจะหันไปมองหน้าพี่ชายด้วยแววตาสงสัย
“หรือว่า…”
“อะไรเพชรพูดมากตักกับข้าวให้น้องผึ้งสิ”
“คุณพ่อแอบซุกกิ๊กหรือเปล่าคะ”
อาศิราถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินประโยคเดาซุ่มของน้องสาว
“จะบ้าหรือไง”
“ก็คุณพ่อทำตัวแปลกๆ”
อวิกาพูดพร้อมกับทำแก้มป่องชวนให้คนที่นั่งข้างๆต้องหันมามองแล้วจัดการเอามือจิ้มแก้มเพื่อช่วยระบายลม
“ทำอะไรคะพี่ผึ้ง”
“พี่ช่วยระบายลมให้ไงคะ กลัวมันจะแตก”
มาธวีเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเอื้อมมือไปบีบที่สองแก้มเนียนของคนข้างๆ
“คุณลุงจะมีกิ๊กหรือว่าซุกกิ๊กก็ปล่อยท่านไปเถอะค่ะแต่น้ำเพชรห้ามทำเด็ดขาด! เข้าใจมั้ย”
คนพูดออกแรงดึงแก้มของอวิกาจนเจ้าตัวถึงกับต้องรีบจับมือของอีกคนออกก่อนจะค่อยๆจัดการนวดที่แก้มของตัวเองเบาๆ
“เจ็บนะคะ”
“นี่แค่ตัวอย่างนะคะ ถ้าน้ำเพชรทำอะไรขัดใจพี่ล่ะก็…บอกได้คำเดียวว่าจัดหนัก! ”
คนพูดหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นๆก่อนจะหันไปจ้องหน้าคนข้างๆด้วยแววตาที่อวิกาบอกได้คำเดียวว่ายิ่งกว่าหมีตกมันส่วนอาศิราก็ได้แต่อ้าปากค้างเมื่อตอนนี้ได้เห็นท่าแท้ของว่าที่น้องสะใภ้…ดูจะเป็นจริงอย่างที่น้องสาวของเขาบอกไว้ว่าหมีตัวนี้ของแรงถึงแรงมากจริงๆ
“คุณรุ้งก็อย่ายอมนะคะถ้าพี่ศิราซุกกิ๊กจับตัดให้เป็ดไปเลยค่ะแต่ถ้าทำคนเดียวไม่ได้บอกผึ้งนะคะไม่ต้องเกรงใจ”
นั่น! สองพี่น้องแทบจะอุทานออกมาพร้อมกันเมื่อตอนนี้สะใภ้ของบ้านกำลังรวมหัวกันทำอะไรบางอย่าง อวิกาถึงกับเอามือกุมขมับนี่ขนาดเข้ามาเหยียบบ้านวันแรกพี่หมียังออกตัวได้แรงเวอร์ขนาดนี้แล้วอีกไม่นานที่จะย้ายเข้ามามันจะเป็นอย่างไรนะ…คงไม่ใช่ยุคมืดของบ้านเอกอมรกุลใช่มั้ย
ส่วนทางด้านของคนที่กำลังจะถูกจับแยกชิ้นส่วนไปเป็นอาหารเป็ดก็ได้แต่กระพริบตาถี่ๆไม่เคยคิดมาก่อนว่าบ้านของตัวเองจะถูกหมียึดครองแล้วไหนจะสายตาที่แพรวรุ่งมองมายังเขานั่นอีกแม้เพียงแว๊บเดียวแต่เขาก็เห็นอะไรบางอย่างที่มันซ่อนอยู่ในนั้น…นั่นทำให้เขาถึงกับขนลุกไปทั้งตัว “แพรวรุ่งคงจะไม่ทำอย่างที่หมียุจริงๆใช่มั้ย ”