web stats

ข่าว

 


Sparkle_s2 (แฟนฟิค) - ตอน 21 Monster Calls

โพสต์โดย: anhann วันที่: 22 ตุลาคม 2017 เวลา 22:35:58 อ่าน: 305



ตอน 21 Monster Calls






"นี่รู้ไหม  ต่อให้ไม่เฝ้า  ฉันก็ไม่ไปไหนหรอก"  สเตฟานี่เอ่ย  ขณะจิบชาอ่านหนังสืออยู่บนเตียงภายในห้องขัง  ยามร่างยักษ์สองคนตรงหน้าประตูห้องสองด้านชำเลืองตามองกัน  แล้วกลับไปนิ่งเฉย  คนพูดจึงกลอกตารำคาญใจอยู่คนเดียว  ก่อนวางหนังสือพรึ่บ  อ้าปากจะพูดอะไรอีกก็ชะงักกึกเมื่อได้กลิ่นคุ้นจมูกโชยมาปะทะ

"โอ้  เจ้าหญิง  ทรงงดงามเช่นเคยนะ  เพคะ"  เธอทักเสียงรื่นเริง  วางถ้วยชาลง  และลุกขึ้นถอนสายบัวด้วยท่าทางเสแสร้ง  ค่อนข้างผิดหวังที่มันทำอะไรผู้มาใหม่ไม่ได้  เจสสิก้ายังทอดมองเธอด้วยนัยน์ตาสีเทาว่างเปล่า

"ที่นี่ไม่เหมาะกับเจ้าหญิง --"

"เก็บแรงไว้พูดเรื่องที่เป็นประโยชน์จะดีกว่า"  เจสสิก้าตัดรำคาญ  สเตฟานี่ทำตาโตแกล้งตกใจ  และยิ้มออกมา

"ฉันรอคุณทุกวัน  แต่คุณไม่มาพบกันเลย"

"ตอนนี้ก็พบแล้วไง"

สเตฟานี่เลิกคิ้ว  คราวนี้แปลกใจจริงๆ  ไม่คิดว่าเจสสิก้าจะยอมเล่นด้วย  "นี่ใช่คุณตัวจริงหรือเปล่า"

"คุณรู้จักฉันตัวจริงด้วยหรือ"

"นั่นสินะ"  แฝดผู้พี่แลนดอนพึมพำ  หรี่ตามองเจ้าของสถานที่อย่างพิจารณา  "เราเจอกันบ่อยๆ ในความฝัน"

"และมันก็แค่ความฝัน"  เจสสิก้าตอบ  รีบพูดต่อก่อนอีกฝ่ายจะทันได้เอ่ยแย้ง  "ไม่มีทางเป็นจริงไปได้"

"คุณแน่ใจได้ยังไง"  สเตฟานี่ท้าทาย  มุมปากปรากฏเป็นรอยยิ้ม  แค่เพียงหัวคิ้วของจ่าฝูงสมิธกระตุกเพียงเล็กน้อย  "มันเป็นฝันที่เหมือนความจริงมากเลย  ใช่ไหม"

"ไม่ --"

"อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยน่า"

เจสสิก้าเลิกคิ้ว  แปลกใจ  ขณะที่อีกฝ่ายชักสีหน้าไม่พอใจ

"กลายเป็นคนชอบเสนอหน้าแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  ฟานี่"

"ตั้งแต่มีพี่สาวอย่างเธอ"  ทิฟฟานี่ตอบ  สบตาเจ้าบ้านที่พยักหน้าให้อย่างเข้าใจ  และเดินออกไป  ปล่อยเธอสองพี่น้องให้อยู่ด้วยกันตามลำพัง

"ทำไมถึงมีแต่คนชอบเธอ  ทั้งที่เธอมันห่วยแตก  ขี้ขลาด"

"เพราะฉันยังรู้จักรักและแคร์คนอื่น  แต่เธอไม่"

"นั่นเพราะไม่มีใครรักฉันไงล่ะ  ทุกคนรักแต่เธอ  เธอคนเดียว!"

"แล้วที่ฉันรักเธอล่ะ  ไม่มีความหมายเลยหรือไง"

สเตฟานี่นิ่งไปชั่วอึดใจ  ก่อนสั่นศีรษะ  "ออกไปซะ  ฟานี่  ก่อนที่ฉันจะทำอะไรที่ฉันไม่อยากทำ"

"ทำไม  เธอทำอะไรฉัน  ฆ่าฉันหรือไง  เอาเลยสิ  เอาเลย  มาเลย!"

"ออกไป!!!"

"สเตฟ!"

"คุณทิฟฟานี่คะ  เชิญค่ะ"  ยุนอาโผล่เข้ามาโดยไม่ต้องมีใครเรียก 

ทิฟฟานี่ไม่อยากจะทำตาม  หากเธอรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะดื้อดึง  เธอจ้องหน้าแฝดพี่อย่างเห็นใจ  และหันหลังให้ก่อนจะถูกเข้าใจผิด  แต่...

"อย่ากลับมาอีก"  สเตฟานี่พูดไล่หลัง  ผู้ฟังถอนหายใจและเดินต่อ

ทิฟฟานี่เจอแทยอนยืนอยู่บนปลายทางบันไดของห้องใต้ดินที่เธอเพิ่งจะก้าวขึ้นมา  คริสตัลและลูกสาวลูกชายฝาแฝดก็อยู่ด้วย  เจสสิก้าคุยกับซันนี่อยู่อีกด้านของทางเดิน

"คริส  พาเด็กๆ ไปเดินเล่นก่อนได้ไหม"  แทยอนพูดกับคริสตัล  และส่งแคลร์ให้  ปะป๊าอายุน้อยแต่ตัวโตก็อุ้มลูกด้วยแขนคนละข้างกับลูกอีกคน  เธอตบไหล่เขาเบาๆ 

"อย่านานนะคะ  คุณแท"  คริสตัลกำชับ  ทำเป็นเก๊กหน้าดุ  แทยอนจึงจับมือครูซมาต่อยแก้มคุณพ่อจอมจุ้นจ้านของเขา  คริสตัลก็แกล้งร้องโอย  เธอเกือบจะหลุดหัวเราะไปด้วย  หากไม่เกรงใจบรรยากาศตึงเครียดตรงนี้

"ไม่พาลูกซนนะ  คริส  ตกลงไหม"

"รับทราบค่า"

แทยอนพยายามทำปากตึง  ไม่ยิ้มให้กับท่าทางทะเล้นนั้น  เธอมองคริสตัลพาเด็กๆ จากไป  หางตาเห็นยุนอาอมยิ้มอยู่  พอเห็นเธอจ้อง  ยิ้มนั้นก็หายวับ  กลับมาเก๊กหน้าดุเหมือนเดิม 

นี่ก็ไม่ได้แสบน้อยกว่ากันเลยจริงๆ   เธอคิดแล้วทำเป็นไม่สนใจมัน  เลี่ยงไปพูดอีกเรื่อง  "คุณจะลงไปด้วยไหม  ยุนอา"

"ถ้าเธออยากให้ฉันไป"  ยุนอาตอบ  แทยอนจึงคว้ามือคนตัวสูงลากเดินไปด้วยกัน  แต่หันมาพยักหน้าให้ทิฟฟานี่ด้วยสายตารู้กัน  รายนั้นก็ผงกหัวให้กลับมา 

"เธอเลี้ยงเด็กเป็นแน่นะ  แทยอน  ต้องไปเข้าคอร์สเรียนใหม่ไหม"

"เก็บปากคุณไว้กินข้าวเหอะ  ยุนอา"  แทยอนสวนกลับ  แต่แทนที่จะไม่พอใจ  ยุนอาหัวเราะอารมณ์ดีเสียอย่างนั้น  "พวกสมิธนี่ตกลงเป็นเหมือนกันหมดเลยสินะ"

"อีกหน่อยเธอก็เป็นแบบเรา"  ยุนอาบอก  ยิ้มอ่อนโยนจนน่าสงสัย

............................

"ออกไปข้างนอกเถอะ  อยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์"  เจสสิก้าชวนหลังจากยุนอากับแทยอนเดินลงไปยังห้องใต้ดินที่เป็นที่คุมขังสเตฟานี่ชั่วคราว  เธอออกเดินนำก่อน  แต่ก็หยุดรอให้ทิฟฟานี่เดินตามมา  แม้อีกฝ่ายจะทำหน้าที่ไม่สู้ดี

"เธอคิดว่ามันจะได้ผลเหรอ  ถ้าแทยอน --"

"ไม่เป็นไร  ยุนอาอยู่ด้วย  ถ้าไม่ได้เรื่องก็แค่กลับออกมา"

"แล้วเธอจะทำยังไงกับเขาล่ะ  จะขังไว้แบบนี้น่ะเหรอ"

"ที่นี่ปลอดภัยที่สุดแล้ว"

ทิฟฟานี่พยักหน้า  จำใจเห็นด้วย  เธอเดินเหม่อๆ มองแต่เท้าตัวเองออกมาจนถึงนอกตัวบ้านสมิธโดยไม่รู้ตัว  จนกระทั่งรู้สึกถึงแสงแดดยามเช้ากับอากาศสดชื่นจากสวน  และได้ยินเสียงคริสตัลคุยกับเด็กๆ  มองเห็นเขาพาลูกๆ หัดเดินโดยมีพี่เลี้ยงอีกคนช่วยดูแฝดคนหนึ่งเอาไว้  แต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายเมื่อครูซหนีจากมือพี่เลี้ยง  คลานตามแคลร์ที่คริสตัลจับสองมือน้อยๆ พาเดินอยู่บนผืนหญ้า  ด้วยเหตุใดไม่ทราบ  เธอนึกถึงตัวเองกับสเตฟานี่ขึ้นมา

"ทำไมเขาถึงไม่รักฉัน"

เจสสิก้ากะพริบตา  หันมองเจ้าของเสียงซึมเศร้าข้างๆ  ทิฟฟานี่ไม่ได้มองเธอ  นัยน์ตาสีน้ำตาลแดงติดแน่นอยู่กับคริสตัลและลูกฝาแฝด  แต่แค่นี้เธอก็เข้าใจ  แม้ไม่ได้เข้าไปอ่านใจ

"ฉันถึงอิจฉาเวลาเห็นเธอกับคริสตัลรักกัน  คริสรักและเทิดทูนเธอ  เธอเองก็รักเขามาก  แต่ฉันกับสเตฟ  ทั้งที่เราเป็นแฝดกัน  แต่ --"

"แคลร์กับครูซก็ทะเลาะกันบ่อยๆ  เธอดูสิ  ครูซพยายามจะให้คริสตัลสนใจเขามากกว่าพี่สาว  เห็นไหม"  เจสสิก้าบอก  ชี้ให้อีกคนดูความแสบสันของหลานๆ ที่กำลังจะตีกันแย่งปะป๊า  "มันอยู่ที่คนเลี้ยงพวกเขา  คริสจะต้องพยายามทำตัวให้เป็นกลาง  ห้ามเข้าข้างใครมากกว่า  ไม่ให้อีกคนน้อยใจว่าพ่อไม่รักเขา  ต้องพยายามสนใจพวกเขาให้เท่าๆ กัน  พวกเขาจะไม่คิดมาก"

"แปลว่า  คริสตัลเลี้ยงเด็กเป็นสินะ"

"เขาเลียนแบบแทยอน"

ทิฟฟานี่ทำท่าจะหัวเราะ  แต่ก็แค่ส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เชื่อถือ

"มนุษย์หรือสัตว์ที่มีสมองและมีความคิด  เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง"  เจสสิก้าบอก  "แทยอนพยายามแก้ไขมัน  ถึงจะย้อนอดีตไม่ได้  แต่ก็ไม่ผิด  ถ้าจะทำปัจจุบันให้ดี"

"เธออายุยี่สิบสี่แน่นะ"  ทิฟฟานี่พูด  ยิ้มออกมาได้นิดหน่อย  เพราะยิ้มที่คนยิ้มยากส่งมาให้  "เธอน่ะ  มันบ้าชัดๆ  เวลาฉันคิดว่าเธอไม่แคร์  เธอก็มาทำแบบนี้  แต่พอฉันสนใจเธอมากๆ  เธอก็หนีฉันไป  ฉันเดาใจเธอไม่ถูกเลย"

"เธอก็ต้องพยายามมากกว่านี้ไงล่ะ"  เจสสิก้าตอบง่ายดาย  เดินผละออกไปหาน้องกับหลานๆ  แต่นึกอะไรขึ้นมาได้ก่อน  จึงย้อนกลับมาจับข้อมือทิฟฟานี่ให้เดินไปด้วยกัน  "มาช่วยคริสเลี้ยงเด็กๆ กันเถอะ  ก่อนที่พวกเขาจะไม่ได้หัดเดินด้วยสองขา  แต่เป็นสี่"

ทิฟฟานี่ชะงักไปนิดหนึ่ง  เพราะไม่เข้าใจ  แต่พอเห็นคริสตัลเริ่มย่อตัวลงไปคลานตามแคลร์กับครูซ  เธอก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

เจ้าหนูนี่มันหมาชัดๆ เลย!

....................................................

แทยอนเดินขึ้นมาจากชั้นใต้ดินเงียบๆ  เธอไม่มีอะไรจะพูด  เพราะพูดไปหมดแล้ว  ยุนอาซึ่งเดินอยู่ข้างกันคงเข้าใจ  ถึงได้ปล่อยให้ความเงียบอยู่กับเราสองคนไปก่อน  แม้มันจะไม่ได้ทำให้เราคิดอะไรออกสักเท่าไหร่  บางครั้งเราก็แค่ไม่อยากจะพูด  เหนื่อยเกินไปที่จะพูด

กลิ่นอับและกลิ่นสาปของพื้นที่ข้างล่างยังไม่น่าผิดหวังเท่ากับความเงียบงันที่เธอได้รับจากสเตฟานี่ซึ่งดูเหมือนจะไม่พยายามช่วยเหลือใครเลย  แม้แต่ตัวเอง  หรือเธอพูดอะไรผิดไป  ทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า

"คุณจะเอาไงกับเขา"  แทยอนเปิดปากเมื่อขึ้นมาเดินบนชั้นหนึ่งของบ้านสมิธ  คุณที่ปรึกษาเหลือบตามามองเธอด้วยสีหน้าอ่านยาก  "แบบนี้คุณก็กันเขาไว้เป็นพยานไม่ได้สิ"

"ฉันจะให้เวลาเธออีกสองวัน  หมั่นมาคุย  ใช้คำพูดอื่นที่ไม่ใช่การเสนอทางรอดให้"

"แล้วจะให้ฉันพูดแบบไหน  มันเรื่องจริง"

"เรื่องแบบนั้น  ฉันพูดเองก็ได้  ไม่ต้องใช้เธอ  แต่ที่ต้องเป็นเธอ  มันมีเหตุผลนะ  และเธอก็รู้ดีด้วย  แทยอน"  ยุนอาบอก  สั่นศีรษะเบาๆ ให้จิ้งจอกที่ทำเมินหน้าหนีไป  "โอเค  ถ้าใครที่ไม่ใช่คริสตัลกับฝาแฝดลูกเธอเนี่ย  จะพูดดีๆ ด้วยไม่ได้เลยสินะ"

"นี่อย่าจะมาว่าฉันแบบนี้นะ  ฉันพูดดีๆ กับคุณตลอด  มีแต่คุณแหละ  ที่พยายามกวนโมโหฉัน  ฉันเป็นห่วง  คุณก็บ่ายเบี่ยงทำเป็นไม่รู้เรื่อง  แล้วก็ไปฟ้องคริส  คุณนั่นแหละ  ที่อะไรๆ ก็คริสอยู่คนเดียว"

"ก็คริสเป็น --"

"แล้วไง  แล้วฉันเป็นคนอื่นของคุณหรือไง"  แทยอนแทรก  สะบัดแขนออกเมื่อยุนอาจะรั้งเธอไว้ไม่ให้เดินหนี  "คุณอยู่เลี้ยงลูกกับคริสไปละกัน  ฉันจะไปทำงาน  มีนมอยู่ในตู้เย็น  อุ่นให้ลูกกิน"

"นี่เธอ  ฉันไม่ว่างนะ  มีงานต้องทำ"

"ฉันก็มี  และถ้าฉันจำไม่ผิดนะ  คุณเป็นคนอยากมีลูก  งั้นก็เลี้ยงกันซะให้พอ  เลี้ยงดีๆ ด้วยละ"

ยุนอาอ้าปากจะแย้ง  แต่ศอกแหลมๆ จากคนร่างเล็กก็กระแทกเข้ามาที่ท้องเธอจนจุก  ลูกน้องที่อยู่แถวนั้นจะวิ่งตามไปจับตัวแทยอนให้  หากเธอสั่งห้ามไว้  ไม่อยากไปกวนใจกันตอนนี้  แทยอนมีเรื่องต้องคิด  หนักเสียด้วย

"แบบนี้สิ  ถึงจะอยู่ด้วยกันได้"  เธอพึมพำ  พลางดีดนิ้วเรียกลูกน้อง

"เฝ้าให้ดีนะ  ถ้ามีใครเข้าออกได้นอกจากฉัน  จ่าฝูง  นายน้อย  และมาดามคนเมื่อกี้  ลูกตาพวกนายไม่ได้อยู่ในเบ้าแน่"

องครักษ์อารักขาห้านายยกมือขึ้นตะเบ๊ะกันอย่างแข็งขัน  ยุนอามองพวกเขาตาวาววับ  ก่อนสะบัดตัวจากไป  ริมฝีปากมีรอยยิ้มบางๆ อย่างน่าฉงน

...................................................

"มนุษย์มักจะกล่าวหาสิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวว่า  ปีศาจ" 

คริสตัลชำเลืองนัยน์ตาสองสีมาหาคนขับเมื่อยุนอาเอ่ยพูด  "ฉันถูกเรียกแบบนั้นมาตลอด"  เขาบอก  ยักไหล่ให้กับสายตาที่เหลือบมองมา  "ไม่ใช่แค่มนุษย์  ทุกๆ คนเรียกฉันแบบนั้น"

"ร่างจำแลงของยมทูต  ที่ฉันได้ยินมา"  ยุนอาว่า  "แต่สาวๆ ต่างฝูง  พูดอีกอย่าง  พวกหล่อนเห็นเธอเป็นเทวทูตรูปงาม"

"ฉันดีใจได้ไหมล่ะ"  คริสตัลแกล้งถาม  ยิ้มขำให้กับดวงสีฟ้าวาวเรือง  และสีหน้าหาเรื่องที่ฉายชัดมาจากคนขับ  "คุณแทต้องโกรธแน่  ถ้ารู้ว่าเราทิ้งเด็กๆ ไว้กับซันนี่"

"หล่อนเป็นแม่  หล่อนควรดูแลลูก  พวกเราต้องทำงาน"

"โอเค" 

ยุนอาเลิกคิ้ว  สะกิดใจกับน้ำเสียงเบื่อหน่ายของอีกฝ่าย  "เธอกลัวจะถูกโกรธหรือ"

"เปล่า  แค่ขี้เกียจน่ะ  แล้วถ้ายุนไม่ลืม  คืนพรุ่งนี้เราต้องไปงานพร็อมกันนะ  มีชุดแล้วหรือยัง"

"เธอจะให้ฉันไปจริงๆ หรือ"

"อ้าว  ก็ --"

"เดี๋ยวก่อนนะ  ฉันจำอะไรได้แล้วละ"     

"อะไรเหรอ"  คริสตัลถาม  ตามไม่เคยทัน  แต่ตื่นเต้นไปด้วยแล้ว

"ฉันจำได้ว่า  ฉันได้กลิ่นมนุษย์  ตอนเราไปเจอสเตฟานี่ที่โมเต็ลนั่น  เธอไม่ได้กลิ่นเหรอ  คริส  ไม่น่าเป็นไปได้นะ"

"ที่นั่นมีมนุษย์เข้าออกตลอดเวลา  ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลย"

"แต่มนุษย์มีกลิ่นแตกต่างกันไปเมื่อพวกเขาเกี่ยวพันกับเรื่องลึกลับ"

"หมายความว่า?  ยุนจะไปตามหากลิ่นพวกนั้นจากงานพร็อมหรือไง"

"ใช่  ทำไมล่ะ  ไม่เห็นจะแปลก  ตอนนี้เราก็กำลังจะไปทำแบบนั้นอยู่"

"ไนต์คลับของเราน่ะนะ"

ยุนอาพยักหน้า  อมยิ้มประหลาด  "ฉันอนุญาตให้เธอเกเรได้หนึ่งวัน  แต่ต้องใส่ถุงยาง  โอเค๊?"

คริสตัลหน้าเหวอ  ไม่ค่อยมั่นใจในความใจดีแบบนี้ของคนที่ปกติขี้หึงเป็นบ้าเป็นบอ  และพร้อมจะประทุษร้ายเขาได้ตลอดเวลา  ถ้ามีคนอื่น

"ไม่เอาอะ  เดี๋ยวยุนก็หงุดหงิดอีก  แค่คุยเฉยๆ ดีกว่า"

"ก็ตามใจ  ก็แค่อยากให้ผ่อนคลายบ้าง  เห็นเบื่อๆ"

"ไปเที่ยวกันกับเด็กๆ กับคุณแทดีกว่า  อย่าทำแบบนี้เลย"

ยุนอาทำหน้าแปลกใจ  แต่ก็ชอบใจเกินกว่าจะเอ่ยแย้ง  จึงพยักหน้าหงึกหงัก  กึ่งๆ จะไม่เชื่อถือ  ให้คนอยากทำตัวดีทำหน้างอนๆ นิดหน่อย  ก่อนหลุดยิ้มเพราะเธอยื่นมือไปหยิกแก้มดึงจนยืด

..............................................................

แทยอนคิดไม่ผิดเลยว่ายุนอากับคริสตัลจะต้องไม่อยู่บ้าน  และปล่อยเด็กๆ ไว้กับซันนี่ซึ่งดูเหมือนจะกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็กไปแล้ว  แต่เธอจะยกประโยชน์ให้จำเลยไปก่อน  เพราะตอนนี้เธอมีเรื่องต้องคุยกับซันนี่ตามลำพังเหมือนกัน  หวังว่าจากัวร์สาวจะยอมพูดกับเธอนะ

"มันเป็นเรื่องวงในค่ะ  มาดาม  ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้พูด"

"แล้วฉันไม่ได้อยู่วงในหรือ  อ้อ  แล้วเลิกเรียกฉันว่ามาดามจะได้ไหม"

"ก็คุณเป็นภรรยานายน้อย"  ซันนี่ตอบหน้าซื่อ  แทยอนกลอกตา

"แล้วทำไมกับยุนอา  คุณไม่เรียกแบบนี้บ้าง"

"เพราะเราเป็นเพื่อนกันค่ะ  แล้วก็ --"

แทยอนโบกไม้โบกมือ  ไม่รับฟังเรื่องนี้แล้ว  "แล้วสรุปว่า  คุณจะไม่บอกอะไรฉันเลย  ใช่ไหมคะ"

"ฉันเสียใจด้วยจริงๆ ค่ะ  มาดาม"  ซันนี่ตอบ  และขอตัวจากไป

"แล้วฉันมีสิทธิ์ทำอะไรได้บ้างเนี่ย"  แทยอนพึมพำ  แล้วเสียงเดิมก็ดังขึ้นมาตอบให้

"คุณเยี่ยมสเตฟานี่ได้  แต่ฉันไม่แนะนำให้พาเด็กๆ ลงไปด้วย  เพราะข้างล่างอากาศไม่ดี  เด็กๆ จะไม่สบายได้ค่ะ  อ้อ  เอาขนมกับของกินลงไปให้ด้วยก็ได้  แต่ห้ามปลดล็อกกลอนประตู  ฉันกับองครักษ์จะรู้ทันที  โชคดีค่ะ"

ซันนี่ออกไปทันทีที่พูดจบ  แทยอนยืนกะพริบตาปริบๆ อยู่สามที  ก่อนครูซกับแคลร์จะตะปบแขนเธอคนละข้าง  และมองเธอด้วยแววตาออดอ้อนกับเขี้ยวแหลมๆ  แค่นี้เธอก็รู้ชะตากรรมของตัวเองแล้ว

"สักวันเหอะ  ฉันจะพาลูกหนี  ไปกับแม่กันนะเด็กๆ"  เธอพูด  ยิ้มขำเมื่อแคลร์กับครูซตาวาวอย่างตื่นเต้น  แต่สักพักก็หุบยิ้ม  เมื่อเห็นหน้าใครอีกสองคนผุดขึ้นมา 

"กินนมกันดีกว่า"  เธอบอก  ตอนนี้เด็กๆ จึงยิ้มกว้างกว่าเดิมเสียอีก

.............................................

ทิฟฟานี่ตัดสินใจไปผับที่อุดมไปด้วยกลิ่นกัญชา  และกลุ่มคนหน้าตาไม่น่าไว้ใจ  แน่นอน  เธอไม่ได้ไปคนเดียว  มีเจ้าหญิงกับองครักษ์ของพระองค์ไปด้วยแบบวันนั้นเป๊ะ  เธอไม่ได้อยากให้เจสสิก้าต้องมายุ่งกับเรื่องนี้  เพราะจะว่าไปแล้ว  มันก็เป็นเรื่องที่เธอควรจะจัดการด้วยตัวเอง  แต่ถ้าเจสสิก้าจะยอม  มันก็ดีหรอก  เธอคงไม่ต้องมานั่งลำบากใจแบบนี้ 

ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คนแบบเธอหรือเจสสิก้าควรมาเยือน  ถ้าไม่จำเป็นเธอก็ไม่คิดจะมาอยู่แล้ว  แถมคนที่นี่ก็ไม่ต้อนรับเธอด้วย  ทั้งเธอทั้งเจสสิก้านั่นละ

"เข้าไม่ได้"  ชายร่างยักษ์  ท่าทางเถื่อนคนเดิมยืนขวางทางพวกเธอ  เขาไม่มีทีท่าจะยอมถอยให้ง่ายๆ  จนเจสสิก้าเกือบจะเรียกองครักษ์ให้มาช่วยเปิดทางให้  หากเธอไม่ส่งสายตาปรามเสียก่อน

"เราไม่ได้มาหาเรื่อง  จำได้ไหม"  เธอกระซิบเบาๆ กับจ่าฝูงหน้าสวย  แต่นิสัยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่  เจสสิก้าทำตาแข็งใส่เธอ  คล้ายจะบอกว่าอยากจะทำอะไรก็ให้รีบๆ ทำ  เวลาไม่คอยใคร  --  ใจร้อนแบบนี้มาด้วยทำไมเล่า!

"อาแพทริกอยู่ไหม  เราต้องการพบเขา"

"ไม่อยู่"

"แต่ว่า --"

"เรียกเขาออกมา"  ทิฟฟานี่เกือบจะหันไปดุคนพูดแทรก  ถ้าไม่เห็นยักษ์ใหญ่ตรงหน้าเหงื่อแตกพลั่ก  ดวงตาลุกลน  และหางตาเธอเห็นปืนลูกโม่กระบอกยาวคล้ายกับพวกคาวบอยในหนังในมือขาวๆ ของคนข้างตัว

"เรียกเขาออกมา  หรือให้เราเข้าไป"  เจสสิก้าพูดเสียงเย็น  นิ้วพร้อมจะกดไกปืนทุกเมื่อ  ทิฟฟานี่มองคู่หมั้นอย่างเหลือเชื่อ  และได้แต่หวังว่าชายร่างยักษ์ผู้นี้จะทำตามคำสั่งเจ้าหญิง  ไม่ใช่ร้องเรียกพรรคพวกออกมารุมสะกำพวกเธอ  เพราะพวกเขาทั้งหมดนี่อาจไม่มีโอกาสได้เห็นตะวันขึ้นในวันพรุ่งนี้

"ทำตามเธอพูดเถอะค่ะ"  ทิฟฟานี่เกลี้ยกล่อม  มองคนข้างตัวกับคนตรงหน้าสลับกันไปมา  ไม่รู้ทำไม  เธอกลัวใจเจสสิก้ามากกว่าชายร่างใหญ่โตคนนี้เสียอีก  หรือเพราะท่าจับปืนที่คล้ายคลึงกับแทยอนแบบนี้

"ม...ไม่ --"

"ให้พวกเธอเข้ามา"  เสียงหนึ่งดังขึ้น  ชายร่างยักษ์จึงเปลี่ยนท่าทีทันที

"เชิญครับ  แต่ได้โปรดให้ผมเก็บปืนไว้จะได้ไหม  คุณหนู"

"ฉันไม่ใช่คุณหนู  และฉันไม่ให้ปืนของฉัน  ไป  ทิฟฟานี่"  เจสสิก้าพูด  คว้าแขนทิฟฟานี่เดินตามหลังแพทริกกับลูกน้องเข้าไป  เมินใบหน้าซีดขาวของชายร่างใหญ่ที่จำต้องเดินตามมาอย่างเลี่ยงไม่ได้

"เก็บปืนก่อนเถอะ  เดี๋ยวมันลั่น  ว่าแต่เธอเอามันมาจากไหน"

"บ้านฉัน  สมิธมีมันเป็นโกดัง  เธอไม่รู้เหรอ"

"จะไปรู้ได้ยังไงล่ะ"  ทิฟฟานี่ว่า "เก็บเหอะ  คนอื่นมองเรากันทั้งนั้น"

"ดูเหมือนฉันจะแคร์"

"แต่ฉันแคร์  เจสสิก้า" 

เจสสิก้าถลึงตาใส่คนเรียกชื่อเธอเสียงดังเกินเหตุเหมือนอยากจะบอกทุกคนในผับนี้ว่าเธอเป็นใคร  คราวนี้ทุกคนที่นี่จึงจ้องพวกเธอกันหนักกว่าเดิมเสียอีก  "สมแล้ว  ที่คริสมันว่า  อยู่กับเธอแล้วปวดหู"

"ว่าไงนะ"  ทิฟฟานี่ถาม  ใช่ว่าไม่ได้ยินแต่อยากฟังอีกครั้ง  "เจ้ายักษ์  น้องเธอว่าอะไรฉันนะ"

"ฉันกำลังปวดหูจริงๆ แล้วละฟานี่  ช่วยเงียบแล้วตามอาเธอไปเถอะ"

"เธอนี่มันจริงๆ เลย"

เจสสิก้ายักไหล่  ไม่ใส่ใจจะแก้ตัวใดๆ  ใช่ว่าเธอจำไม่ได้ว่าครั้งก่อนเธอทำตัวเรียบร้อย  และเคารพสถานที่ (ที่ไม่เห็นควรแก่การเคารพ) มากกว่านี้  แต่เพราะแพทริกเองก็ไม่ได้ทำท่าทางอย่างตอนนั้นด้วย  เขาเงียบขรึม  ดูคล้ายกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่สักอย่าง

พวกเธอถูกพาเข้ามาในส่วนของห้องวีไอพีที่หรูหราเกินหน้าเกินตาห้องโถงข้างนอกมาก  ทิฟฟานี่มองหน้าเธอด้วยอาการตกตะลึง  ประหลาดใจไม่ต่างกัน  แพทริกนำพวกเธอไปยังจุดที่ตั้งของโต๊ะพลู  และโต๊ะเกมฟุตบอล

"เล่นกันหน่อยไหม"  เขาหยุดเดิน  แล้วหันมาพูดกับพวกเธอ  ดวงตาสีเขียวจับจ้องไปที่เจสสิก้ามากกว่าหลานตัวเอง 

ทิฟฟานี่ไม่ชอบสายตาเขาเลย  แต่จำต้องทำใจเย็นไว้ก่อน

"อาคะ  เราไม่ได้มาเพื่อเล่นของแบบนี้  เรามาเรื่องสเตฟ"

"เล่นก่อน  แล้วค่อยพูด  ฟานี่"  แพทริกบอก  เขาแจกยิ้มอ่อนโยนมาให้ทิฟฟานี่ซึ่งไม่ค่อยไว้ใจมันนัก  เขาเป็นอาของเธอ  แต่เธอไม่ได้สนิทกับเขามากเท่าที่สเตฟานี่สนิท

"อารู้ว่า  สเตฟเป็นผู้หญิง"  เธอถาม  เขาไม่ตอบตรงๆ  แต่การเงียบก็เป็นคำตอบได้อย่างดี  เขาหันไปบอกให้ลูกน้องจัดโต๊ะพลู  รับไม้แทงมายื่นให้จนเธอชักสีหน้าขณะรับจำใจรับมันมา  "ฉันไม่เคยเล่น"

"ก็หัดสิ  ทำอะไรไม่เป็นก็หัด  จริงไหมครับ  เจ้าหญิง"

เจสสิก้าจ้องตาเขาแทนคำตอบ  พลางเก็บปืนใส่ในซองที่สะพายอยู่ด้านในเสื้อแจ็คเกตหนังสีดำ  และกอดอกยืนมองสถานการณ์  ทิฟฟานี่เหลือบมาสบตาเธอ  เธอจึงพยักหน้าให้นิดๆ ทำนองว่าช่วยเชียร์อยู่  จริงๆ ก็อยากแย่งไม้มาเล่นเสียเอง  แต่เธอไม่อยากเป็นแทยอนคนที่สอง  ทิฟฟานี่ควรเรียนรู้มันด้วยตัวเอง  จริงอย่างแพทริกว่า  --  สเตฟานี่คงถูกสอนมาแบบนี้แหละ

"หลุมละหนึ่งคำถาม  ไม่จำเป็นต้องยึดกติกา  แค่แทงให้ลง"  แพทริกชี้แจงด้วยรอยยิ้มสนุกสนานซึ่งเขาคงสนุกอยู่คนเดียว  "เริ่มก่อนเลย  ฟานี่"

ทิฟฟานี่ยิ้มแห้งๆ  ถือไม้อย่างเก้ๆ กังๆ  ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนก่อนดี 

"หรือจะเปลี่ยนตัวให้เจ้าหญิงมาเล่นแทน"

"ไม่ค่ะ  ฉันจะเล่น"  เธอพูด  แล้วโกรธตัวเองแทบจะทันที  เล่นไม่เป็นไม่พอ  จะต้องหน้าแตกต่อหน้าเจสสิก้าอีกหรือไง  เวรกรรมอะไรอย่างนี้!

"ฟานี่  อาไม่ได้มีเวลาทั้งวันนะ"  แพทริกเร่ง  สะกดขำเอาไว้เมื่อเห็นลูกพลูสีขาวเกือบกระดอนออกจากโต๊ะเพราะฝีมือหลานสาวของเขาเอง   



................................


 :61: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

24 ตุลาคม 2017 เวลา 21:49:44
เกิดมาแกทำไรเป็นบ้างเนี่ยฟานี่

23 ตุลาคม 2017 เวลา 13:38:48
 :27: :73: ได้อายสาวสวยกันบ้างอีกละทีนี้ คริสมันน่ารักขึ้นมากเลย แต่แม่แทยอนยังออกแนวโหดเหมือนเดิม  :57:
แสดงความคิดเห็น