web stats

ข่าว

 


Sparkle_s2 (แฟนฟิค) - ตอน 20 หมาป่าในกำมือ

โพสต์โดย: anhann วันที่: 19 ตุลาคม 2017 เวลา 23:35:52 อ่าน: 364



ตอน 20 หมาป่าในกำมือ







เจสสิก้ารู้สึกสยดสยองจนไม่อาจทนมองเหตุการณ์ตรงหน้าได้  ให้ตายเธอก็ไม่ชินกับเรื่องนี้หรอก  คงชินแค่เขี้ยวตัวเองนี่แหละ  อย่างว่าละ  เขี้ยวเสือมันน่ากลัวจะตายไป  แต่ถ้าจะถามว่าคริสตัลเจ็บไหม  เขาก็อาจจะบอกว่า  แค่มดกัด  เพราะกัดกันอยู่ประจำ  --  ผลัดกันกินเลือด

เธอกับคริสตัลกลับมาจากบ้านแลนดอนได้พักใหญ่แล้ว  แทยอนเอาฝาแฝดเข้านอนอยู่  ยุนอาจึงชวนพวกเธอมาคุยกันในห้องประชุมเล็กของบ้าน  โดยที่ระหว่างนั้นคุณที่ปรึกษาขอกินอาหารเสริมไปด้วย  และเลือดของคริสตัลก็คืออาหารเสริมที่ว่านั่น

คริสตัลนั่งเช็กงานในส่วนที่เขารับผิดชอบในแท็บเล็ตซึ่งลงโปรแกรมพิเศษเอาไว้  แขนข้างหนึ่งยกให้ยุนอาทำอะไรก็ได้ตามใจ  เจสสิก้าจึงได้เห็นน้องตัวเองถูกขบข้อมือด้วยเขี้ยวโค้งขนาดใหญ่ตรงเส้นเลือดใหญ่  เธอรู้สึกกลัวอย่างบอกไม่ถูก  พานคิดไปอย่างขำๆ ว่าถ้าเธอยังคบกับยุนอาอยู่จนวันนี้  เธอก็คงจะโดนแทะจนพรุนหรือเปล่า

ยุนอาไม่ค่อยปกติ...เธอรู้สึกได้มาตั้งแต่แรกที่เห็นหน้าคุณปรึกษาตอนฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหลยาวนานสองสัปดาห์  แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธทุกครั้งเวลาเธอถามไถ่  แถมยังชอบกวนประสาทเธอจนไม่อยากจะพูดด้วยแล้ว  เธอจึงบอกให้คริสตัลคอยดูแลคนรักของเขาเอาเอง  เท่าที่เห็นอยู่ก็ดูเหมือนว่าน้องจะทำหน้าที่ของเขาต่อครอบครัวได้ดีทั้งที่เขามีครอบครัวเร็วเกินไปหน่อย

เธอเข้าใจถึงความจำเป็นของฝูง  แม้ว่าสมิธจะไม่ได้มีขนาดเล็กลงกว่าเดิม  แต่จำนวนคนของสมิธก็ยังน้อยกว่าฝูงอื่นๆ  เพราะนอกจากเธอกับคริสตัลแล้ว  ไม่มีใครเป็นอมตะ  แล้วในเมื่อพวกเขาเป็นนักรบ  เป็นผู้พิทักษ์ของเหล่าหมาป่าทุกฝูง  พวกเขาจึงมีการล้มเจ็บ  และเสียชีวิตกันอยู่เนืองๆ  การเกิดของหมาป่าในฝูงของเธอน้อยกว่าการตาย  ทำให้เกิดการขาดสมดุล  เรามีหมาป่าเกิดใหม่น้อยมาก  จึงต้องมีการกระตุ้นให้คู่รักมีบุตรกัน  รวมถึงมีการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายให้กับพวกเขา  ยุนอาได้รับมอบหมายให้ทำโครงการเด็กพิเศษขึ้นมาป้องกันการสูญพันธุ์ของพวกเรา  นอกจากนั้น  เพื่อไม่ให้ชนชั้นปกครองต้องล่มสลายลง  เราจึงต้องมีผู้สืบเชื้อสายของเธอหรือคริสตัลด้วย

"ฉันกับคริสจะจัดการเรื่องสเตฟานี่เองค่ะ"  ยุนอาพูดขึ้น  หลังจากซับคราบเลือดออกจากปากของตนด้วยผ้าเช็ดหน้า  หากเจสสิก้าก็ยังเห็นสีแดงจัดประดับอยู่บนริมฝีปากนั้น  ไม่จำเป็นต้องทาลิปสติกเลยใช่ไหมนั่น

"ยังไงก็อย่าทำรุนแรงล่ะ"  จ่าฝูงบอก  จำเป็นต้องมอบหมายงานนี้ให้กับสองคนตรงหน้าไป  เพราะคงไม่มีคนอื่นที่ทำมันได้  สเตฟานี่ไม่ใช่หมาป่าธรรมดา  ซ้ำยังมากเล่ห์เสียด้วย

"ถ้าหล่อนไม่เล่นแง่มากนัก  ใครจะไปทำอะไรล่ะ  เจ"  คริสตัลว่า  ดึงแขนเสื้อข้างที่ยุนอาเพิ่งจะกัดมันไปลง  แน่นอนว่ามันไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรเลยสักอย่าง  ผิวของเธอยังเนียนไร้ตำหนิเหมือนเดิม  มันก็แค่เจ็บ

"นั่นแหละ  จับเป็น  ห้ามทำร้าย  ถ้าไม่จำเป็น"  เจสสิก้าสั่ง  คริสตัลหันไปยักคิ้วอย่างรู้กันให้ยุนอา  พี่สาวจึงคว้าของใกล้มือปาใส่  แต่เจ้าตัวว่องไวก็ยกมือขึ้นรับมันได้อย่างสบายๆ  เอาไปโยนเล่นอีกต่างหาก

"ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ  ฉันจะไม่ให้เธอไปทำงานนี้เลยนะ" 

"เอาน่า  เจ  ฉันไม่ทำอะไรฝาแฝดของคู่หมั้นเจหรอก  รับรองจะไม่ให้มีรอยขีดข่วนสักนิด"  คริสตัลบอก  ยิ้มกวนใจให้พี่สาวที่พยายามไม่สนใจเธอ

"งั้นก็แค่นี้แหละ"  เจสสิก้าสรุป  สององครักษ์พิเศษของเธอจึงลุกขึ้น  เตรียมตัวจะจากไปทำงาน  "อ้อ  คริส  ฉันจะบอกแทยอนเองนะ  ไม่ต้องห่วง"

"ไม่ต้องก็ได้  คุณแทไม่ห่วงฉันอยู่แล้ว  เธอบอกว่าจะนอนกับเด็กๆ  แต่ถ้าเจจะบอกเรื่องสเตฟานี่ก็บอกนะ  แล้วแต่เจ"  คริสตัลพูดด้วยรอยยิ้มไม่คิดมาก  และออกจากห้องไปพร้อมยุนอาที่หน้าตาสดใสขึ้นเมื่อได้เติมเลือด

เจสสิก้าเดินตามหลังสองคนตัวสูงหลังจากพวกเขาออกไปได้ห้านาที  เธอได้ยินเสียงรถเมอร์เซเดสของคริสตัลแล่นออกไป  พวกเขาคงจะเริ่มงานกันคืนนี้เลย  เพราะเรามีเวลากันไม่มากแล้ว  สภาสูงต้องการให้คดีนี้จบ  ถึงขนาดส่งคนมาหาเธอถึงที่บริษัท  สร้างความหวาดหวั่นให้กับเลขาชาวมนุษย์ของเธอ  จากคำยืนยันยูริที่อยู่ในเหตุการณ์พอดี  ทนายยูลยังคบกันอย่างไม่มีพันธะกับคลอเดียอยู่  ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของทั้งคู่  เธอไม่มีเหตุผลอะไรต้องไปห้าม  และมันก็โชคดีทีเดียว  เมื่อเกิดปัญหาอะไรที่หน้าห้องทำงานเธอในขณะที่เธอกับยุนอาไม่อยู่  ยูริก็จะเป็นคนแรกที่รู้เห็นมันรองมาจากคลอเดีย  คุณเลขาต้องหาตัวช่วยซึ่งไว้ใจได้ที่สุด  และก็ไม่พ้นคุณทนาย  แม้ว่านั่นจะทำให้แลนดอนได้รับข่าวสารไปพร้อมกันกับสมิธด้วยก็ตาม  ทิฟฟานี่ตั้งใจส่งยูริมาเพื่อการนี้อยู่แล้ว  แต่คนที่อยู่ลึกกว่านั้น  แทรกซึมอยู่ในฝูงของเธอประหนึ่งพวกเดียวกัน  ก็คือแม่ของหลานๆ เธอต่างหาก  ยอมรับว่าเธอไม่ไว้ใจแทยอน  และยังคงเป็นแบบนั้นอยู่จนทุกวันนี้  ถึงอย่างนั้น  เธอก็ได้แต่หวังว่า  แทยอนจะเห็นแก่ลูกๆ และคริสตัลด้วย  ยามใดที่มีปัญหาระหว่างฝูงเกิดขึ้น  ซึ่งเธอหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มี  เรื่องสเตฟานี่จึงเป็นอะไรที่เธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ  อย่างไรซะ  สเตฟานี่ก็ยังถือเป็นคนของแลนดอน  และเป็นลูกของผู้มีพระคุณของแทยอน

มันเป็นประเด็นอ่อนไหว...

"คุณไม่จำเป็นต้องเฝ้าฉันหรอกค่ะ  ฉันไม่ทำแบบนั้นแน่"  แทยอนเอ่ยอย่างล่วงรู้ขณะมองออกไปนอกหน้าต่างห้องนอน  มองเมอร์เซเดสแล่นจากไป

"ฉันจำเป็นต้องระมัดระวัง  เพราะฉันเดาใจคุณไม่ได้"  เจสสิก้าบอกด้วยความสัตย์  นางจิ้งจอกตัวบางจึงหันกลับมาเผชิญหน้ากัน  นัยน์ตาแทยอนยังเป็นสีเดิม  ไม่ได้เปลี่ยนไป  เธอจึงโล่งใจได้เล็กน้อย

"ฉันอยากให้พวกคุณจับเขามาตั้งนานแล้วนะ  ฉันไม่เข้าใจว่า  คุณรออะไรอยู่จนป่านนี้คะ  จ่าฝูง"  แทยอนถาม  พยายามอ่านความคิดของคู่สนทนา  แต่มันยากนัก  ในเมื่อเจสสิก้าถนัดปกปิดมันไว้ด้วยแววตาและสีหน้าว่างเปล่า

"ถ้าจะบอกว่า  คุณเกรงใจทิฟฟานี่หรือฉัน  ฉันไม่เชื่อหรอกนะคะ"

"ทำไมคุณมองฉันในแง่ร้ายจังล่ะคะ  แทยอน"

"เพราะคุณเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์"

"ไม่เท่าจิ้งจอกหรอกค่ะ"  เจสสิก้าย้อน  เดินเข้ามามองหลานฝาแฝดที่นอนหลับสบายอยู่บนเตียงของพวกเขา  "ปกติแคลร์ไม่หลับตอนกลางคืน  ฉันเข้าใจถูกไหมคะ"

แทยอนยิ้มมุมปาก  ไม่อาจบอกได้ว่าพอใจกับการถูกจับผิด  "คุณคิดว่า  ฉันจะมอมยาลูกสาวตัวเองให้หลับ  แล้วออกไปช่วยผู้ต้องสงสัยหรือคะ"

"คุณบอกฉันสิ"

"ฉันไม่ใจดำขนาดนั้นหรอกค่ะ  จ่าฝูง" 

เจสสิก้าเลิกคิ้วให้น้ำเสียงตัดพ้อของน้องสะใภ้  พลางมองแทยอนลูบศีรษะแคลร์อย่างถนอม  หลานสาวของเธอขมวดคิ้วนิดหน่อย  คล้ายหงุดหงิดที่ถูกรบกวน  แต่ก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมางอแง  กลับขยับหนีมือคุณแม่ไปหาน้องชาย  ไปนอนเบียดกันแบบลูกสุนัขตัวน้อยขาดความอบอุ่น  แทยอนจึงตามเอาผ้าห่มไปคลุมตัวให้

"คุณอาจไม่รู้ว่า  สำหรับจิ้งจอกแล้ว  ลูกสำคัญที่สุด  และฉันเคยแท้งมาก่อน  ฉันไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะมีพวกเขาได้อีก  แล้วคุณคิดว่าฉันจะกล้าทำร้ายลูกตัวเองเพื่อคนอื่นหรือคะ  ตอนนี้คนที่ควรกลัวคือทิฟฟานี่  ไม่ใช่คุณ"

"ขอโทษ  และขอบคุณค่ะ"

"ไม่จำเป็นค่ะ  ฉันเข้าใจ  ยุนอาก็ไม่ได้ไว้ใจฉันเหมือนกัน"

"เราแค่ต้องรอบคอบค่ะ  เราถูกสอนมาให้เป็นแบบนี้"  เจสสิก้าชี้แจง  "แต่คืนนี้ฉันขออยู่ที่นี่นะคะ  ถ้าคุณไม่อึดอัด"

"ฉันไม่กล้าไล่เจ้าของบ้านหรอกค่ะ"  แทยอนเหน็บ  และเจสสิก้าก็ชอบมันมากกว่าจะถือโกรธ  รอยยิ้มบนเรียวปากบางทำให้เธอฉงนใจ  "คุณกับน้องคุณนี่ใครเพี้ยนกว่ากันคะ"

เจสสิก้ายิ้มกว้างกว่าเดิม  "ฉันยกให้คริสแล้วกันค่ะ"

แทยอนไม่แน่ใจว่าควรจะยิ้มดีไหม  แต่ใบหน้าของเจ้าเด็กบ้านั่นที่สะท้อนออกมาจากดวงหน้าเล็กๆ ของลูกสาวลูกชายของเธอก็ดึงมันออกมา  และสะดุดตาคนที่มานั่งบนเตียงกับแคลร์และครูซด้วย

"คริสมีอะไรดีเหรอคะ  ทำไมคุณถึงรักเขา"  เจสสิก้าถาม  สงสัยมานานแล้ว  เพราะคนอย่างแทยอนไม่น่าจะชอบเจ้าตัวร้ายแบบน้องเธอได้  หรือนางจิ้งจอกตัวนี้จะชอบเลี้ยงสัตว์ร้าย  ชอบควบคุมมัน

"ตัวฉันเองก็ใช่จะดีอะไรนี่คะ"  แทยอนพูด  เลี่ยงจะตอบตรงๆ ว่าไม่มีเหตุผลอะไรเลยกับเรื่องนั้น  เธอก็แค่รัก  จะต้องมีอะไรมารองรับมันอีกล่ะ

"อันนี้ฉันไม่ขอออกความเห็น" 

"แล้วคุณล่ะ  ทำไมถึงสนใจฟานี่  หรือคุณแค่ต้องมีใครสักคน"

"ใช่ค่ะ  คุณพูดถูกแล้วละ  ฉันต้องมี"  เจสสิก้าตอบ  รู้สึกได้ทันทีถึงรังสีความไม่พอใจของคู่สนทนา  "คุณถามฉัน  ฉันก็บอกคุณตรงๆ แล้วนี่คะ"

"คุณแย่กว่าคริสตัลเยอะเลย"

"ฉันก็ไม่เคยบอกว่าฉันดีกว่า"

แทยอนนึกอยากไล่เจ้าของบ้านขึ้นมาแล้วตอนนี้

"เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน  คุณรู้ดีนะคะ  แทยอน"  เจสสิก้าเตือน

"แต่เหมือนว่า  ฟานี่จะไม่ได้คิดแค่นั้นนี่คะ  แล้วคุณก็ชอบทำเหมือนให้ความหวังเขาด้วย"

"อย่างนั้นหรือคะ  เขาบอกคุณหรือ"

"เจสซี่"  แทยอนปราม  เลียนแบบยุนอาโดยไม่รู้ตัว  เจสสิก้าอมยิ้ม  แปลได้ว่ามันได้ผล  "คุณเลิกแกล้งกวนฉันสักนาทีจะได้ไหมคะ  อย่าทำตัวเหมือนน้องคุณเลย  ขอร้องละ"

"พูดเพราะๆ แบบนี้ค่อยน่ารักหน่อยนะคะ"  เจสสิก้าว่า  อีกฝ่ายหรี่ตามองเธออย่างไม่แน่ใจ  "ฉันมีลูกไม่ได้ค่ะ  นั่นแหละที่ฉันจะพูด"

"หมายความว่า?"

"คุณจะมีอีกสักคนได้ไหมคะ"

แทยอนเบิ่งตากว้างขึ้นอย่างอัตโนมัติ  คิดว่าตนหูฝาด  หากสีหน้าจริงจังของเจสสิก้าก็ทำให้เธอสั่นศีรษะ  "ยังไม่ใช่ตอนนี้ค่ะ  และถ้าจะมีจริงๆ  ฉันต้องปรึกษาคริสก่อน  เดี๋ยวขึ้นมหาลัย  เขาจะมีเวลาน้อยลง  ยุนอาก็คงไม่ว่างด้วย  ฉันเองก็ต้องทำงานนะคะ  ไม่ใช่ฟาร์มผลิตเด็กอย่างเดียว"

"ฉันล้อเล่นค่ะ  ใครจะไปบังคับคุณกัน"

"ก็คุณพูด..."

"ฉันแค่ลองใจคุณเฉยๆ"  เจสสิก้าสารภาพ  "จริงๆ แล้ว  ยุนอาหาคนที่จะมาอุ้มท้องให้กับลูกของฉันได้แล้วค่ะ  แต่ติดอยู่ที่ว่า  ฉันไม่รู้จะบอกฟานี่ยังไงดี  ฉันไม่ต้องการให้เขาต้องมาทำเรื่องแบบนี้ให้"

"ทำไมล่ะคะ  ในเมื่อพวกคุณก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว"

"ฉันมีเหตุผลของฉันค่ะ"

"เหตุผลของคุณ  แต่คุณก็ต้องบอกคู่หมั้นของคุณด้วยนะ  นอกจากว่าคุณจะไม่แคร์เขาเลย"  แทยอนพูด  เธอรู้สึกว่าเจสสิก้าไม่ได้ฟังเธอเท่าไหร่  ยิ่งพอแคลร์ลืมตามาและกางมือกางไม้ให้คุณป้าอุ้มแบบนี้ด้วย

"เจสซี่  ถ้าคุณไม่แคร์ฟานี่  ไม่คิดอะไรด้วย  คุณควรปล่อยเขาไปนะ"

"แล้วถ้าฉันไม่ทำล่ะคะ"  เจสสิก้าท้าทาย  แทยอนกัดริมฝีปากตาวาว  หากมันกลับทำให้เธอยิ่งชอบใจ  โดยเฉพาะเมื่อแคลร์ยินดีจะอยู่กับเธอแทนที่จะร้องหาคุณแม่  หรืออ้อนขอกินนม

"คุณลองใจฉันหรือ"  แทยอนถามตรงๆ  เบื่อการเล่นเกมตามแบบของจ่าฝูงสมิธเต็มที  "ความภักดีของฉันมีเหตุผลนะคะ"

"แต่คุณเคยลำเอียงมาก่อนค่ะ  แทยอน"  เจสสิก้าติง  "ไม่อย่างนั้น  สเตฟานี่จะเป็นแบบนี้หรือคะ"

"คุณต้องการให้ฉันทำอะไร  บอกมาตรงๆ ดีกว่าค่ะ  เจสสิก้า" 

"เกลี้ยกล่อมให้สเตฟานี่รับสารภาพ  ไม่ยากใช่ไหมคะ"

แทยอนขมวดคิ้ว  ครุ่นคิด  "คุณจะไม่เอาผิดเขาได้ไหม  ถ้าเขายอม"

"ถ้าเขาไม่ได้ผิดค่ะ"  เจสสิก้าพูด  ใบหน้าไม่มีความขี้เล่นหลงเหลือ  เธอส่งแคลร์คืนให้แทยอนซึ่งรับลูกสาวไปแทบจะทันที  "หวังว่าคุณคงไม่ได้เลี้ยงหลานฉันแบบเดียวกับที่เลี้ยงฝาแฝดบ้านนั้นนะคะ"

"ฉันเรียนรู้จากความผิดพลาดค่ะ  จ่าฝูง"

"ฉันรู้อยู่แล้ว  คุณเจ๋ง  คริสมันเลือกแฟนเก่งจะตายไป"

แทยอนยิ้มไม่ออก  เพราะไม่เชื่อว่านั่นเป็นคำชื่นชมในตัวเธอ  แม้ว่าคนพูดจะยิ้มกว้างขวางสดใสขนาดนี้

.....................................................

สเตฟานี่กำลังเข้าตาจน  เธอหมดทางหนีแล้ว  ตอนนี้เธอจะต้องเลือกระหว่างการมอบตัวกับสมิธหรือถูกคนในความมืดตามล่าตลอดไป  เธอไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร  แต่เมื่อวานนี้หลังจากเธอกลับมาจากไปสำรวจทางหนีทีไล่  ห้องพักในโมเต็ลที่เธออาศัยอยู่มาหลายสัปดาห์  ถูกรื้อค้นจนยับเยิน  เธอถูกเจ้าของโมเต็ลขอร้องให้เช็กเอาต์ออกไป  ด้วยเขาเกรงกลัวคนพวกนั้นที่เธอไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นพวกไหน  จากคำบอกของผู้จัดการโมเต็ล  เธอแน่ใจยิ่งกว่าแน่ว่า  พวกมันไม่ใช่มนุษย์  และไม่ใช่ผู้พิทักษ์จากสมิธด้วย  นั่นจึงแปลว่าเธอไม่ได้ถูกคนกลุ่มเดียวกันตามล่าอยู่  จริงอย่างที่อาแพทริกส่งข่าวมาเตือน  เธอมีค่าหัวอยู่ในกลุ่มคนเถื่อน  และดูเหมือนว่าจะถูกใครบางคนพยายามใส่ความว่าเธอค้ายาเสพติดด้วย...โคเคน  เจ้าพวกนั้นมันยัดข้อหาให้เธอกับแลนดอน

อาจจะเป็นพวกเดียวกับกลุ่มที่ฆ่าพ่อแม่เธอ...สเตฟานี่คิด  รีบเก็บของใช้จำเป็นลงกระเป๋าอย่างไม่สนใจระเบียบ  ใจเธออยากให้ยุนอากับคริสตัลโผล่มาเสียเดี๋ยวนี้  แต่ทำใจไม่ได้ที่จะโทรไปขอให้พวกเขามารับ  เธอมีศักดิ์ศรี  ถึงมันจะเป็นศักดิ์ศรีโง่ๆ

สายลมประหลาดพัดมาปะทะหน้าต่างที่เธอแน่ใจว่าไม่ได้เปิดเอาไว้จนมันสะบัดไปมาอย่างแรง  สเตฟานี่ไม่ใช่พวกขี้กลัว  หากตอนนี้เธอกลัวมาก  กลัวจนภาวนาในใจให้ผีห่าซาตานตัวนี้เป็นแบล็กวูล์ฟแทนที่จะเป็นตัวอื่น  แต่ในใจเธอก็รู้ดีว่าคริสตัลคงยังมาไม่ถึง  ไม่ว่าเขาจะกำลังมาหรือไม่  นี่มันไม่ใช่กลิ่นของเขา  เธอจำกลิ่นเขาได้  ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยังมีเรือนร่างเป็นเด็กสาว  หรือเด็กชายอย่างปัจจุบัน

"คริสตัล  ถ้าเธอมา  ฉันสัญญาว่าจะเลิกด่าเธอ"  สเตฟานี่พึมพำ  หยิบปืนคู่ใจขึ้นมาจากกองสัมภาระ  ผ้าม่านตรงหน้าต่างพลิ้วสะบัดรุนแรงราวกับถูกผีสิง  เหงื่อของเธอซึมออกมาจนปืนในมือลื่น  แน่ใจขึ้นทุกทีแล้วว่ามันจะต้องเป็นพวกเดียวกับที่สั่งให้เคนขับรถบรรทุกไปชนรถยุนอาจนทิฟฟานี่โดนหางเลขไปด้วย 

"คริสตัล  ไอ้เด็กเวร --"  เสียงของเธอขาดหายไปทันทีประตูห้องที่ทำจากไม้หนาถูกอะไรสักอย่างกระแทกจนแตกหักพังเละเทะ  และเธอก็เกือบจะถูกเศษซากของมันแทงเข้าให้  หากไม่หลบลงใต้เตียงเสียก่อน  เธอรอฟังความเคลื่อนไหว  ขณะที่หัวใจเต้นระทึก  แน่ใจอีกครั้งว่าต้องไม่ใช่คริสตัลที่ทำแบบนี้  เพราะต่อให้ป่าเถื่อนแค่ไหน  เจ้าเด็กบ้านั่นก็ทำอะไรเงียบเชียบเสมอ  เผลอไปนิดเดียว  เธอก็อาจจะคอขาดไปแล้ว  แต่ที่เธอยังหายใจอยู่ได้ทุกวันนี้ก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใด  เจสสิก้าสั่ง  หรือเกรงใจแทยอน...

โอ  เธอยังจะหวังอะไรกับนางจิ้งจอกตัวนั้นอีกนะ  แทยอนไม่เคยรัก  หรือแคร์อะไรเธอ  เธอเป็นแค่ส่วนเกินของแลนดอน  ต่อให้ทำอะไรสักเท่าไหร่  ก็ไม่เคยจะเป็นที่หนึ่งของใคร  ไม่มีความหมาย

เสียงสิ่งของแตกกระจายกับแรงปะทะยังดังอย่างต่อเนื่องจนเธออดคิดไม่ได้ว่าคนที่นี่หายไปไหนกันหมด  หรือคนพวกนั้นตายกันหมดแล้ว  รวมทั้งตาแก่ปากมากที่ขอให้เธอเลิกเช่าที่นี่ด้วย

ทำไมชีวิตเธอมันถึงเฮงซวยบัดซบอย่างนี้นะ!

"ร้องไห้ทำไมน่ะ  กลัวขนาดนี้เลย  ฉี่ราดหรือเปล่า"

"ไอ้บ้าคริส!"  สเตฟานี่โวยวาย  เหวี่ยงมือจะใช้สันปืนตบศีรษะเจ้าหมาป่าตัวโต  แต่คริสตัลไวกว่า  เขาไปยืนตัวสูงอยู่กับยุนอากลางห้อง  ขณะที่คุณที่ปรึกษาสมิธยืนสำรวจความเสียหายของห้อง

"มาช้าไปนิดเดียวเองนะเนี่ย"  คริสตัลบ่น  ทำหน้าตาเสียดายคล้ายอดเล่นสนุก  "ลุกขึ้นสิ  ต้องอุ้มไหม  ไหนว่าเก่ง"

"ไอ้ --"

"คริส  ไม่เล่นสิ"  ยุนอาปราม  เดินมาส่งมือให้สเตฟานี่ที่นั่งท่ามกลางฝุ่นและกองซากไม้  แฝดแลนดอนคนพี่ไม่ไยดีจะรับมัน  แถมยังปัดทิ้ง  และลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองแทน  แม้เธอจะเห็นร่องรอยความหวาดกลัวชัดแจ้งถึงเพียงนี้ 

"เห็นพวกมันไหม"

สเตฟานี่สั่นศีรษะให้กับคำถามของยุนอา  ปรายตามองเด็กชายตัวสูงผู้ที่ทำให้หงุดหงิดและอุ่นใจไปพร้อมกัน  คริสตัลเหลือบตามามองเธอ  และยิ้มกวนๆ พลางผงกหัวให้  คล้ายกับเขารู้ว่าเธออยากจะพูดอะไร 

คำขอบคุณ  บางครั้งก็หลุดออกมาจากปากยากเหลือเกิน

"ไม่เห็น"  เธอตอบห้วนๆ  เมินนัยน์ตาสองสีแวววาวกลับไปหาคนถาม  ยุนอาดูไม่ได้ผิดหวังกับคำตอบของเธอนัก  คงจะรู้อยู่แล้วกระมัง

"คุณรู้ไหมล่ะ  ผู้พิทักษ์"

"ไปกันเถอะ"  ยุนอาตัดบทเสียเฉยๆ  เดินนำหน้าออกไปอย่างไม่ใส่ใจว่าจะมีคนเดินตามหรือไม่  มีแต่คริสตัลที่ยังหันมาพยักหน้าเรียกสเตฟานี่ให้ออกไปด้วยกัน  เขายืนรอคล้ายไม่ได้สนใจอะไรอย่างอื่น  หากสเตฟานี่รู้ดีว่า  แบล็กวูล์ฟระวังทุกฝีก้าวอยู่แล้ว  แถมเขายังไวมากด้วย  ถึงจะไม่ใช่เสือชีต้าร์

"จะพาฉันไปไหน"  สเตฟานี่ถาม  ขณะที่คริสตัลเปิดประตูรถด้านหลังให้และยืนรอเธอก้าวขึ้นไป  แต่เธอจะไม่ขึ้นจนกว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่งจะพูด

"กุญแจ  คริส"  ยุนอายังไม่ตอบ  แบมือขอกุญแจรถจากคริสตัลที่โยนมันไปตรงพอดีมือคุณที่ปรึกษา  มันหย่อนตัวลงอย่างสวยงามบนฝ่ามือผอมๆ ของยุนอา  นัยน์ตาสีฟ้าปรายมองสเตฟานี่นิดหนึ่งก่อนพูด 

"สมิธ"

สเตฟานี่โล่งใจ  ก้าวขึ้นนั่งบนเบาะหลัง  ส่งปืนให้คริสตัลที่แบมือรออย่างจำยอม  เขาเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อสูทด้านในหลังจากถอดกระสุนออกแล้วเรียบร้อย  รอบคอบเกินกว่าจะเรียกได้ว่าเจ้าเด็กเมื่อวานซืน  เครื่องยนต์เมอร์เซเดสดังกระหึ่มขึ้นมาท่ามกลางความเงียบของโมเต็ลซึ่งร้างผู้คนได้อย่างน่ากังขา  แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาไปเดินสำรวจแล้ว  ใครจะเป็นอะไรก็ช่างหัวพวกเขาไปก่อนเถอะ  เธอรอดแล้วก็พอ

คริสตัลยัดร่างใหญ่โตเข้าไปในเบาะหน้าข้างคนขับ  บดบังวิวไปจนหมดสิ้น  แต่สเตฟานี่ไม่บ่นเลยสักคำ  แน่นอน  เพราะเธอย่อมปลอดภัยกว่า  หากอยู่ภายในอาณาเขตสมิธ  ไม่มีใครเข้าไปที่นั่นได้โดยที่เจ้าของบ้านไม่ล่วงรู้  ถึงมันจะเป็นคุก  ก็คงเป็นคุกที่วิเศษที่สุดแล้ว

"แทยอนรอเธออยู่"  ยุนอาพูดขึ้นเบาๆ  ราวกับจะไม่ตั้งใจให้ใครได้ยิน  แต่สเตฟานี่ก็สบตาสีฟ้าตรงกระจกมองหลัง  และพยักหน้ารับรู้  ก่อนเมินไปมองวิวข้างทางแทน

"ฉันจะเรียกทิฟฟานี่มา  ถ้าเธอต้องการ"

"ไม่จำเป็น"  สเตฟานี่ตอบ  ยุนอาเหลือบมองคริสตัล  สั่นศีรษะเบาๆ ขณะที่เจ้าหมาป่ายักไหล่  และล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเกมแก้เบื่อ


...............


มันก็จะเครียดๆ หน่อยๆ นะ  อิอิ   :21: :61: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

20 ตุลาคม 2017 เวลา 19:34:15
 :72: อย่างนี้เค้าเรียกไปจับรึไปช่วยสเตฟกันแน่เนี่ย :51:
แสดงความคิดเห็น