web stats

ข่าว

 


Pieces Of You Vol.3- ตอนที่ 1 Habits

โพสต์โดย: anhann วันที่: 11 เมษายน 2018 เวลา 21:51:54 อ่าน: 142



ตอนที่ 1 Habits






เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังมากจนเธออยากปามันไปกระแทกผนังให้แหลกเละไปเลย  แต่ก็พอจำได้ว่าตัวเองไม่ได้โมโหร้ายขนาดนั้นจึงเอื้อมมือไปคว้ามันมาและกดรับมันเสีย

"อิซซี่  เธอสัญญาว่าจะไปซื้อของกับฉัน  ทำไมถึงยังไม่ตื่น"  เสียงในสายเอ่ยพูดโดยไม่เสียเวลาจะทักทายกันก่อน 

"กี่โมงแล้ว  เจอร์"  อิซซาเบลถามกลับ  งัวเงีย  พลางขยี้ตา  แล้วยิ้มเมื่อพบว่าใครบางคนนอนทับอกเธออยู่  ถึงจะหนักอยู่บ้างและชานิดหน่อย  เธอลูบศีรษะปกคลุมด้วยเส้นผมสีน้ำตาลและขยุ้มเล่นจนเจ้าของมันเริ่มขยับตัวและงึมงำพูดอะไรไม่รู้เรื่อง

"จะเก้าโมงแล้วนะ  มัวทำอะไรกันอยู่"

"หลับสิคะ  ถึงไม่ใช่เจ้าสาว  ฉันก็เหนื่อยเหมือนกันนะ"

"เหนื่อยอย่างอื่นน่ะสิ"  เจอร์ซี่ว่า  เสียงงอนนิดๆ  "แล้วจะมาไหม  ถ้าไม่มา  ฉันจะชวนเอฟไป"

"อย่าเพิ่งน้อยใจสิ  รอฉันยี่สิบนาที  ปลุกเยลก่อน  แล้วเดี๋ยวไปรับ"

"จะเอาเขาไปด้วยเหรอ"

"ทำไมล่ะ  นี่เด็กถือของของฉันนะ"  อิซซาเบลตอบ  มองตาปรือๆ ของเด็กถือของของเธอแล้วยิ้มขำ  จิ้มปลายจมูกโด่งๆ ด้วยปลายนิ้ว  เยลก็งับนิ้วเธออย่างมันเขี้ยวก่อนจะจูบเธอที่ปากเบาๆ แล้วลุกขึ้นไปนั่งสางผม

"แค่นี้ก่อนนะ  เจอร์  เดี๋ยวเจอกัน"  เธอบอกน้องและวางสายก่อนที่เจอร์ซี่จะทันได้บ่น  เธอบิดตัวให้หายเมื่อยขบแล้วเดินตามหลังเยลที่เดินเข้าห้องน้ำไปก่อน 

เยลส่งแปรงสีฟันที่ใส่ยาเรียบร้อยให้เธอขณะกำลังแปรงฟันตัวเองอยู่หน้าอ่างล้างหน้า  เธอเอ่ยขอบคุณเบาๆ  อมแปรงไว้ในปาก  พลางตบก้นแน่นๆ นั้นอย่างมันเขี้ยวก่อนจะเอายางรัดผมมารวบเส้นผมยาวถึงกลางหลัง  สุดแสนจะน่าเกะกะให้

"เจอร์จะไปไหน  เมซีส์เหรอ"  เยลถาม  บ้วนปากแล้วซับหน้าด้วยผ้าขนหนูที่เผื่อแผ่ไปเช็ดให้อิซซาเบลด้วยคน  แต่ไม่วายจะแกล้งเช็ดแรงๆ ให้โดนเข่ากระแทกก้น

"น่าจะไปแซกส์  ฟิฟท์  อเวนิว  ละมั้ง"  อิซซี่ตอบพร้อมกับยกนิ้วชี้ขึ้นหมุนสั่งให้เยลหันหลังไป  แถมขู่ในกระจกด้วยว่าห้ามมองเธอหย่อนก้นลงนั่งบนโถชักโครก  เยลหลับตาปากยังยิ้ม  รอจนเธอกดน้ำแล้วจึงค่อยมาสลับกันนั่งบ้าง  "เธอจะอาบน้ำหรือเปล่า  มีน้ำอุ่นนะ"

"หนาวอะ"  เยลตอบ  เข้ามากอดอิซซี่อย่างขี้เล่น  แล้วก็โดนเขกหัวไปเบาๆ  ก่อนที่คนอายุมากกว่าจะปลอบเธอด้วยจูบที่ริมฝีปากและลากเธอออกจากห้องน้ำไป  เปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเร่งด่วน  เพราะใกล้จะเกินเวลาที่ให้สัญญากับเจอร์ซี่ไว้แล้ว

"แล้วเอฟไปไหนล่ะ  ไม่ไปด้วยเหรอ" 

"เคลียร์งาน"

"เคลียร์งานหลังงานแต่งงานตัวเองเนี่ยนะ"

"ใช่  เตรียมไปฮันนีมูนไงล่ะ"  อิซซี่ตอบ  จับไหล่เยลให้หมุนมาหาและช่วยกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้  รู้สึกว่าเด็กสาวทำอะไรไม่ทันใจเธอ  "คงจะไปกรีซแหละ  เห็นยายเจอร์ว่างั้นนะ  ไปหลายวันอยู่"

"ว้าว  ไปแซนโตรินีหรือเปล่า"  เยลถามอย่างตื่นเต้น  เพราะเธอเองก็อยากจะไปสักครั้ง  เคยอ้อนพ่ออยู่หลายที  แต่พอมีทัวร์ไปลงที่นั่นเธอก็ไม่ว่างทุกที  ติดสอบบ้าง  ติดแม่ลากไปธุระด้วยบ้าง 

"อยากไปกับเขาด้วยล่ะสิ"  อิซซาเบลถามอย่างรู้ทัน  พลางเช็กหน้าตัวเองในกระจกเงา  ปาดลิปสติกที่เกินขอบปากออก  ก่อนจะคว้าแขนอีกคนมาและยื่นลิปกลอสให้เอาไปทาเอาเอง  เยลก็ทำตามด้วยมันเป็นเรื่องปกติของเรา  มีแฟนเป็นผู้หญิงเหมือนกันก็ดีแบบนี้  เราใช้ของด้วยกันได้

"รู้ทัน"  เยลว่า  คว้าเสื้อโค้ตของตัวเองและอิซซาเบลไปส่งให้เจ้าตัว  แล้วเดินสองมือซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อออกจากห้องไปด้วยกัน  "พวกแม่เธอล่ะ  เราไม่ต้องกินข้าวเช้ากับท่านหรือ"

"ป่านนี้กินกันแล้วแหละ  ไม่ต้องไปห่วงหรอก"  อิซซาเบลบอกขณะก้าวลงบันไดบ้านตัวเอง  เมื่อคืนจบจากงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของเจอร์ซี่กับเอเวอร์ลี่  เธอกับเยลก็ขอกลับบ้านมาพร้อมกับเจ้าสาวทั้งสองเลย  ปล่อยให้แขกคนอื่นๆ สนุกกันต่อ  แขกบางคนก็พักค้างที่โรงแรมของเธอซึ่งก็เป็นของเจอร์ซี่ด้วย  เพราะบ้านโรเจอร์กับกิลเบอร์กทำบริษัทร่วมกัน  และยังมีบ้านเคิร์ก (คารอน) กับพาเวลส์เป็นผู้ถือหุ้นด้วย

"หวัดดีค่ะ  หม่ามี๊"  เธอร้องทักคุณแม่ที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับเข้าไปกอดและหอมแก้ม  แอนนาเบลล์หอมเธอกลับมา  พลางส่งยิ้มทักทายเยลที่ยิ้มให้แม่เธออย่างสุภาพ  "มัมล่ะคะ  ไปทำงานแล้วเหรอ"

"แต่งตัวอยู่ข้างบนแน่ะ  วันนี้มีสอนพิเศษที่คอร์เนล  แล้วลูกจะไปไหนกันคะ"

"ยายเจอร์ชวนไปช็อปปิ้งด้วยค่ะ  ตายละ  หนูสายแล้วเนี่ย"

"อิซซี่  หนูจะกลับปารีสเมื่อไหร่นะ  แม่ลืมแล้ว  แล้วไม่รอบอกมัมก่อนเหรอคะ"  แอนนาเบลล์ร้องถามลูกสาวที่กำลังจะดึงเด็กสาวอีกคนให้ไปด้วยกัน 

"เดี๋ยวบ่ายๆ หนูกลับมา  ค่อยคุยกันนะคะ  ต้องรีบไปแล้ว  ไม่งั้นเจอร์ซี่จะฆ่าหนูแน่ๆ  ขนาดแต่งงานแล้วยังไม่เลิกจุ้นอีก"

"น้องรักหนูนะคะ  อิซซี่"  คุณแม่เตือน  อิซซี่ยิ้มแหย  พยักหน้าหงึก  "อ้อ  เยล  แม่ลืมบอก  รุจให้เราโทรไปหานะคะ  เราปิดโทรศัพท์หรือเปล่า"

"โอ้  จริงด้วยค่ะ  ขอบคุณนะคะ"  เยลอุทาน  ล้วงโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงและโทรออกในทันที  แต่ไม่ลืมส่งสายบอกอิซซี่ก่อนด้วย  อิซซาเบลจึงพยักหน้าก่อนหันมาคุยกับคุณแม่อีกสองสามคำ  แล้วจึงเดินไปบ้านเจอร์ซี่พร้อมกัน

"อ้าว  แล้วเธอไม่เอารถมาเหรอ"  เจอร์ซี่ท้วงเมื่อเห็นพี่สาวข้างบ้านเดินมุดรั้วเข้ามาตัวเปล่าพร้อมกับเด็กสาวที่ติดคุยโทรศัพท์อยู่

"เออจริง  ฉันลืมไปว่าต้องมาเป็นคนขับรถให้คุณหนู"  อิซซาเบลพูด  แตะไหล่เยลบอกทางสายตาว่าให้รออยู่ที่นี่ระหว่างที่เธอย้อนกลับไปเอารถ

"มื้อเที่ยงเหรอ  รุจ  ยังไม่แน่ใจว่าจะเสร็จเมื่อไหร่เลย" 

เจอร์ซี่มองหน้าแฟนพี่สาวที่เด็กกว่าเธอร่วมหกปี  เธอไม่ค่อยได้เจอเยลเท่าไหร่นัก  แต่ถ้าเจอก็เจอพร้อมกับอิซซี่ตลอดเพราะทั้งคู่มาจากปารีสด้วยกัน  จึงไม่ค่อยได้มองเต็มตาสักที  พอเห็นแบบนี้แล้วเธอก็เริ่มมีความคิดเดียวกับคนอื่นๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้  --  เยลเหมือนร่างโคลนของรุจิกานต์จริงๆ  สูงเพรียวเหมือนกัน  แค่ดวงตาที่ดูจะสีอ่อนกว่า  ดูเหมือนมันจะเป็นสีทองเวลาโดนแสงแดด  พวกลูกครึ่งมักจะเป็นแบบนี้

"เจอร์  ไปกินข้าวเที่ยงกับรุจไหม"  เยลถามเจอร์ซี่ที่ทำหน้างงๆ นิดหน่อย  เธอยิ้มอย่างขอโทษขอโพย  "รุจจะกลับแอลเอแล้วน่ะ  ไปหน่อยนะ"

"ติดอะไรนักหนา  ไม่เคยเจอกันเหรอ"  เจอร์ซี่ว่า  หากจำใจยอมให้คนอายุน้อยกว่า  เพราะเธอก็อยากเจออารุจเหมือนกัน  เมื่อวานในงานแต่งก็เจอแป๊บเดียว  แถมอายังช่วยเรื่องงานของเธอกับเอเวอร์ลี่ตั้งมากมาย 

"ฉันยังไม่ได้ขอบคุณรุจเลย  ไปเจอหน่อยก็ได้"

"เจอร์น่ารักที่สุด"  เยลชมอย่างเอาใจ  เจอร์ซี่เก๊กหน้าตึงทำเป็นไม่สนใจคำชมของเธอ  แต่จากท่าทีคงอยากเจอไบโอมัมของเธอไม่น้อย  "โอเค  งั้นรุจจองร้านไว้เลยนะ  พวกเราจะอยู่แถวๆ ฟิฟท์  อเวนิวแหละ  ใช่ไหม  เจอร์  อืม  นั่นแหละ  เจอร์ซี่บอกว่าแค่ที่นั่นก็พอแล้วละ  ไม่ได้ซื้ออะไรมาก  แล้วเจอกันนะ  รุจ"

"พูดกับแม่แบบนี้เหรอ"  เจอร์ซี่ถาม  สงสัย

"ก็รุจบอกว่า  ไม่ต้องเรียกแม่ก็ได้  กลัวซ้ำกับแม่อีกคนของฉันมั้ง"  เยลตอบ  หน้าเจื่อนหน่อยๆ

"โอ้ใช่  ฉันลืม  โทษที"

"ไม่เป็นไร  --  เอ้อ  นั่นอิซซี่มาแล้ว" 

เจอร์ซี่เดินนำหน้าเยลที่พยักพเยิดให้เธอเดินก่อน  และก้าวขึ้นรถทางประตูด้านหลังเมื่อเยลเปิดมันให้เธออย่างนอบน้อม  แล้วจึงขึ้นตามไปนั่งเบาะผู้โดยสารด้านหน้าข้างกับอิซซาเบล

"ตกลงไปเมซีส์หรือแซกส์"  อิซซี่ถามเมื่อบีเอ็มดับเบิลยู 420D แล่นฉิวไปตามถนนในหมู่บ้าน  เยลมองนู่นมองนี่นอกหน้าต่างอย่างสนใจทั้งที่มันไม่ได้มีอะไรต่างจากรอบที่แล้วที่เรามากันนักนอกจากไม่มีหิมะหนาเตอะ  และรถของเธอไม่ต้องพันโซ่ล้อ  แล้วก็ไม่เจอรถกวาดหิมะคันโต

"เอางี้ดีกว่า  เธอจะไปซื้ออะไร  เสื้อผ้า  น้ำหอม  หรือของแต่งบ้าน  ว่าแต่เธอจะไปอยู่ที่ไหน  เรือนหอเธออยู่ไหนนะ  ฉันลืมแล้ว" 

"อยู่ซานฟราน  เอฟซื้อบ้านไว้ที่นั่น  แต่ช่วงนี้คงไม่ได้ไปอยู่หรอก  เอฟติดงานที่นี่  ก็อยู่บ้านฉันนี่แหละ"  เจอร์ซี่บอก  น้ำเสียงตำหนินิดหน่อย  เพราะอิซซี่จำไม่ได้ว่าเธอเล่าเรื่องนี้ไปหมดแล้ว  แต่เธอพยายามเข้าใจ  อิซซี่มีอะไรให้ทำเยอะแยะ  ทั้งเรื่องงาน  เรื่องส่วนตัวและเรื่องแฟน  อย่างหลังนี่อาจจะมากสักหน่อย  อิซซี่เป็นพวกติดแฟนสุดๆ  อย่าให้พูดเลยเถอะ

"งั้นก็ไม่เกี่ยวกับของแต่งบ้าน"

"ไม่  แค่ชุดใหม่ของฉันน่ะ  เครื่องสำอางกับน้ำหอม  แล้วก็อะไรนิดๆ หน่อยๆ ของเอฟ"

อิซซาเบลพยักหน้า  เข้าใจอยู่บ้างว่าชีวิตคู่ต้องทำตัวยังไง  แต่เยลคงไม่ค่อยชินจึงมองเธอด้วยสายตาเขินหน่อยๆ  ถึงเราจะไปซื้อของด้วยกันบ่อยๆ  ใช้ของร่วมกันหลายอย่าง  เธอใช้ให้เยลไปซื้อผ้าอนามัยให้ได้  มันก็ยังไม่เป็นทางการแบบคนที่แต่งงานกันแล้ว  ใช้เงินกระเป๋าเดียวกันแล้วแบบที่เจอร์ซี่กับเอเวอร์ลี่เป็น

"งั้นไปแซกส์แล้วกัน  จะได้ไปที่เดียว  มีของเอฟด้วย"

"โอเค"  เจอร์ซี่ตอบ  ไว้ใจอิซซี่ได้เรื่องช้อปปิ้งแบบนี้  นี่แหละเธอถึงต้องเอาพี่สาวคนนี้มาด้วย  ลำพังเธอคงเลือกชุดให้เอเวอร์ลี่ให้ดูดีสมฐานะผู้จัดการโรงแรมดังไม่ได้  ถึงพี่เอฟจะบอกว่าไม่จำเป็นก็เถอะ

"แจ็กเกตกับผ้าพันคอให้เธอด้วยดีกว่า  เก่าหมดแล้วใช่ไหม  เยล"

"เอ่อ  มันก็ยังใช้ได้อยู่นะ"

"ฉันว่าเธออย่าขัดใจอิซซี่ดีกว่านะ  เยล"

เยลยิ้มแห้งๆ  รู้แก่ใจอยู่เหมือนกัน  แล้วจริงๆ เธอก็ไม่ชอบขัดใจใครเท่าไหร่หรอก  ถ้าไม่จำเป็น 

"นี่ฉันไม่ได้ร้ายขนาดนั้นนะ  ยายเจอร์  ฉันเป็นคนดีแล้ว"  อิซซี่แย้ง  ละมือจากพวงมาลัยรถมาลูบไหล่เยลราวกับจะปลอบขวัญ  เยลยิ้มเขินๆ

"แล้วอาซอนจะไม่บ่นเหรอ  ถ้าเธอไปอยู่ที่นู่นเลยน่ะ"  เธอถามน้องที่หันไปสนใจโทรศัพท์มือถืออย่างรู้กาลเทศะ

"ก็บ่น  แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ  เขาเป็นคนบอกให้ฉันแต่งงานเองนะ"

"ใช่เหรอ"

"ทำไมจะไม่ใช่  ก็เขาพูดว่าขี้เกียจเลี้ยงฉันแล้วนี่  ฉันก็ต้องหาคนเลี้ยงใหม่สิ"  เจอร์ซี่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ  เยลเหลือบมองอิซซาเบลที่ยิ้มพลางส่ายหน้าไปมา  ไม่ให้เด็กน้อยคิดอะไรเป็นจริงเป็นจังกับคำพูดของคุณหนูเจอร์ซี่ที่ทั้งชีวิตไม่เคยทำอะไรงานอะไรจริงจังเลย  นอกจากเรียนจริงๆ

เธอเคยคิดว่าชีวิตของเจอร์ซี่น่าเบื่อ  เพราะเอาแต่เรียน  ไม่ออกไปหาประสบการณ์ในโลกข้างนอกบ้าง  แต่ตอนนี้เธอเข้าใจว่ามันเป็นความสุขของแต่ละคน  และความต้องการของคนเราก็ไม่เหมือนกันด้วย

"พวกเธอลงตรงหน้าห้างนะ  ฉันจะไปหาที่จอดรถ"

"ทำไมไม่ไปด้วยกันล่ะ  แซกส์มีที่จอดรถนะ  อิซซี่"  เจอร์ซี่เตือน

"เออใช่  ฉันลืม  อยู่ที่นู่นฉันไม่ค่อยได้ใช้รถน่ะ"

"แล้วเธอใช้อะไร  ปั่นจักรยานเหรอ"

"บางครั้ง"  อิซซาเบลตอบ  เหลือบมองเจ้าของจักรยานที่ปั่นไปส่งเธอที่ร้านประจำ  และบางครั้งเธอก็เป็นคนปั่นให้เยลซ้อน  ถ้ายายตัวดีเกิดอยากจะอ้อนเธอขึ้นมาบ้าง

"ท่าทางเหมือนเธอจะชอบที่นั่นมากกว่าที่นี่นะ  อิซซี่"  เจอร์ซี่สังเกต  มองอิซซาเบลกับเยลที่สบตากันอยู่ด้านหน้า  "ช่วยบอกฉันที  ว่าพวกเธอจะไม่อยู่ที่นั่นถาวร  --  เยล  เธอห้ามชวนอิซซี่ของฉันให้อยู่ที่นั่นนะ  รู้ไหม"

"คิดมากน่า  เจอร์"  อิซซี่ว่า  หันไปหัวเราะกับเยลที่ยิ้มขบขัน  "ถึงจะชอบแค่ไหน  มันก็ไม่ใช่บ้านฉัน  แล้วเธอคิดเหรอว่าเยลจะอยู่ที่นั่นได้"

"โอ้ใช่สิ  ที่นั่นไม่มีรุจนี่นา"  เจอร์ซี่พูดอย่างนึกขึ้นได้  ยิ้มเยาะเยลอย่างอดไม่ได้เมื่อเด็กสาวกลอกตาให้พวกเธอ  "เออ  เยลบอกอิซซี่หรือยัง  ที่รุจนัดเรา"

"ใช่อิซซี่  รุจบอกให้คอนเฟิร์มด้วยนะ  ถ้าจะไป  ไม่งั้นเขาจะไปที่อื่น  ไม่ง้อเราสักนิดเลย"  เยลฟ้อง  อิซซาเบลอมยิ้ม

"ไว้ฉันคุยกับรุจเอง"

"สนิทกันจังนะ"  เจอร์ซี่เหน็บ 

"อย่าหาเรื่องฉันน่า  เจอร์"  อิซซาเบลปราม  ยื่นมือไปจิ้มแก้มเด็กข้างๆ ที่ดูเหมือนจะเหม่อใจลอยไปไหนไม่รู้  เยลหันมามองเธอพร้อมกับย่นจมูกให้นิดๆ ก่อนจะยิ้มและจับมือเธอมาวางบนพวงมาลัยรถเหมือนเดิม  แล้วเจ้าตัวก็หันไปมองนู่นนี่เหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็นไปตลอดทาง

"นั่งรอก่อนนะ  เยล  ไม่นานหรอก" 

เยลพยักหน้า  เธอมองอิซซี่กับเจอร์ซี่หายเข้าไปเลือกเสื้อผ้าด้วยกันในร้านหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้จักชื่อ  แต่เคยเห็นป้ายแบรนด์มันตามเสื้อผ้าที่แม่โซฟีซื้อมาใส่ตู้ให้เธอ  แล้วเธอก็มีหน้าที่ใส่มันเท่านั้น  หากกระนั้นเธอก็ชอบใส่เสื้อผ้าที่เธอเลือกซื้อมาเองมากกว่า  ชุดที่แม่ซื้อมันเป็นงานเป็นการมากไป  ใช้ในชีวิตประจำวันแล้วมันดูโอเวอร์ไปหน่อย 

เด็กสาวเดินเตร่ในร้านเสื้อผ้าอยู่สักพักแล้วจึงเปลี่ยนใจมานั่งรออย่างที่อิซซาเบลบอก  เพราะมันไม่ใช่แค่นาน  มันนานมาก  เธอเล่นเกมไปจนปวดตาแล้ว  สองคนนั้นก็ยังไม่ออกมาสักทีจนกระทั่งมีคนส่งข้อความมาหาเธอ  แต่ไม่ใช่แม่รุจที่ควรจะมาแจ้งเรื่องสถานที่นัดพบของเราได้แล้ว

แบลร์...เยลมองชื่อคนส่งข้อความอย่างแปลกใจ  หากก็ทักกลับไปแทบจะทันที  นึกเป็นห่วงเพื่อนอยู่เหมือนกัน  เมื่อคืนเธอก็ลืมถามแบลร์ว่าจะไปค้างที่ไหน  คิดไปว่าแคลร์คงจัดการให้แล้วเพราะเป็นคนชวนมาเอง

"เฮ้  เป็นไง  คุยกันแบบนี้ดีกว่า  ฉันขี้เกียจพิมพ์"  เธอพูดเมื่อแบลร์รับสายแค่เสียงสัญญาณดังครั้งเดียว  "เธออยู่ไหน  จะกลับปารีสเมื่อไหร่"

"โรงแรม  ค้างตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว  พวกเขามีอาหารเช้าให้ฟรี  แต่ตอนสายๆ คงต้องจ่ายเอง  ฉันคงออกไปกินใกล้ๆ แถวนี้แหละ"

"อ้าว  แล้วแคลร์ล่ะ  เขาทิ้งเธอไว้ที่โรงแรมคนเดียวเหรอ"

"ไม่รู้สิ  ฉันหนีกลับห้องมาก่อนเมื่อคืน  เช้านี้ตอนลงไปกินมื้อเช้าก็ไม่เจอเหมือนกัน  แต่ไม่เป็นไรหรอก  ตั๋วเครื่องบินของฉันเป็นแบบไปกลับ  ฉันมีเงินติดตัวอยู่  คงพอใช้ถึงวันกลับ  ก็ประหยัดๆ หน่อยน่ะ  ที่โทรหาเธอก็แค่อยากทักทายเฉยๆ"

"โอเค  ฉันก็นึกว่าเธอเมาแย่แล้วเมื่อคืน  ไม่เป็นไรก็ดีแล้วละ"

"ฉันเมาที่ไหนล่ะ  มันก็แค่แชมเปญ  อย่ามาดูถูกกัน"

"โอ้  ลืมไปว่าเธอคอแข็ง  คนฝรั่งเศสดื่มกันเก่งนะ"

"ใช่  เลยตายกันไวไงล่ะ"

เยลนิ่วหน้าเมื่อได้ยินแบบนี้  เธอรู้ว่าแบลร์แค่อยากจะทำให้เธอขำเฉยๆ  แต่เธอไม่เห็นด้วยเท่าไหร่  ถ้าจะเอาการตายของพ่อแม่มาพูดเล่นเป็นเรื่องตลกอย่างนี้  เธอไม่รู้สึกว่ามันขำตรงไหนเลย  เพราะเธอไม่มีทางทนการสูญเสียนั้นได้  เธอไม่เข้มแข็งขนาดนั้น  แค่เอลลี่บอกว่ารุจเป็นหวัดนิดเดียว  เธอยังอยากจะจับเครื่องบินจากปารีสมาหารุจที่ซานฟรานซิสโกเลยเดี๋ยวนั้น  หรือแม่โซฟีไอนิดหน่อย  เธอยังเครียดเลย  นับประสาอะไรกับเรื่องตาย

"โธ่  เงียบไปเลย  ฉันล้อเล่นน่า  จะไม่พูดอีกแล้ว"  แบลร์เอ่ยอย่างรู้ทัน  บางทีอาจจินตนาการหน้าตาของเธอตอนนี้ออกเลยก็ได้  "อย่าเครียดไปเลย  เยล  เรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ"

"ฉันรู้  แต่ฉันไม่พร้อม  ไม่มีวันพร้อม"  เยลพูด  เสียงเครียด 

"งั้นแค่นี้ก่อนดีกว่า  เยล  ฉันทำเธออารมณ์เสียแล้ว"

"เดี๋ยวสิ  มันก็ไม่ได้ --"

แบลร์ตัดสายไปก่อนที่เธอจะได้ทันแย้งหรืออธิบาย  แล้วอิซซาเบลกับเจอร์ซี่ก็กลับออกมาจากห้องลองพอดี  เธอจึงไม่ได้โทรย้อนกลับไป 

"เป็นอะไรหรือเปล่า  รอนานไปหรือ  โทษทีนะ  ของมันเยอะไป  เลยเลือกกันนานไปนิด"  อิซซี่ถามขณะเยลมาขอถุงของไปช่วยถือ  เยลส่ายหน้าบอกว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เธอห่วง 

"เรื่องงี่เง่าน่ะ  อย่าใส่ใจเลย"

"โอเค  แต่จำไว้นะ  ว่าเธอคุยกับฉันได้ทุกเรื่อง" 

เยลยิ้มรับ  และยิ้มกว้างขึ้นเมื่ออิซซี่วาดแขนมาโอบไหล่ดึงเธอเข้าไปหาให้ตัวเราแนบชิดกัน  แต่ถ้าเป็นที่บ้านหรือที่ส่วนตัวกว่านี้  อิซซี่คงจูบเธอที่แก้มหรือปากแทน

"ไปกันเถอะ  ฉันคุยกับรุจเรียบร้อยแล้ว"  อิซซาเบลบอก  พลางใช้อีกมือดึงเจอร์ซี่ให้มาเดินด้วยกัน 

เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อยระหว่างทางเดินกลับรถ  แวะเข้าอีกสองร้าน  ซื้อของเพิ่มให้เธอกับเยลด้วย  แถมยังไปนั่งดื่มกาแฟกับกินขนมอีกยี่สิบนาที  เพราะยังมีเวลาเหลืออยู่  ร้านที่รุจจองไว้กินข้าวเที่ยงด้วยกันก็อยู่ระแวกนี้

"เป็นห่วงก็โทรไปหา  นั่งหน้ามึนอยู่แบบนี้  คงรู้เรื่องหรอกนะ"

เยลเหลือบตาขึ้นจากแก้วมอคคาร้อน  มองหน้าอิซซาเบลตาปริบๆ

"ฉันอยู่กับเธอทุกวัน  เยล  ฉันดูเธอออก"  อิซซี่บอกง่ายดาย  "ไม่ว่าจะเป็นใคร  โทรไปซะ  คุยกันให้เรียบร้อย"

เยลยิ้ม  เธอชอบอิซซาเบลที่เป็นแบบนี้  มีเหตุผล  เข้าใจอะไรๆ ได้เร็วกว่าคนอื่น  และถึงจะมีบางครั้งที่งี่เง่าใส่กัน  เราก็คุยกันรู้เรื่องได้เร็ว  "งั้นเดี๋ยวมานะ  หรือจะให้ฉันคุยที่นี่"

"แล้วแต่เธอสะดวกสิ"  อิซซี่ตอบด้วยท่าทีไม่คิดมาก  เยลจึงขอตัวออกไปคุยนอกร้าน  ตรงหน้าร้านนี้แหละ

"ใจดีมาก"  เจอร์ซี่วิจารณ์  ตามองแผ่นหลังเยลที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่หลังกระจกร้านกาแฟ  แล้วจึงเหลือบชำเลืองมองอิซซาเบลซึ่งจิบลาเต้ด้วยท่าทางสบายๆ  "ไม่หวงเลยใช่ไหมน่ะ  ใจคอ  เธอก็รู้นี่ว่าเขาจะโทรหาใคร"

"หวง  แต่จะให้ทำยังไงล่ะ  ฉันไม่ใช่เด็กๆ นะ  จะให้ไปงี่เง่าใส่เขา  เขาก็ต้องมีเพื่อนบ้าง  แล้วฉันก็เชื่อใจเขา"

"โอเค  เชื่อใจ"

อิซซาเบลหรี่ตามองน้องสาวข้างบ้าน  เธอรู้ว่าเจอร์ซี่ขี้ระแวง  แต่ก็เพราะเป็นห่วงเธอ  ยิ่งเจ้าตัวเขาแต่งงานไปแล้วแบบนี้  ก็คงจะเป็นห่วงเธอมากขึ้นกว่าเดิม  จะว่าไปแล้ว  เธอสมควรจะแต่งก่อนด้วย  ถ้าเรือรักของเธอมันไม่ล่มไปเสียก่อน

"เอาเถอะ  เจอร์ซี่  ฉันไม่บวชชีหรอก  ต่อให้อกหักอีกครั้ง"

"ประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น  อิซซี่"

"แล้วมันอยู่ตรงไหน"

เจอร์ซี่ขมวดคิ้ว  ถอนหายใจเฮือกใหญ่  เลิกคนกาแฟเล่น  ยืดตัวขึ้นนั่งหลังตรงให้ดูจริงจังต่อหน้าคนที่เอาสองมือมาประสานไว้ใต้คางรอฟังเธออย่างใจจดใจจ่อแต่เหมือนแกล้งทำมากกว่า

"ฉันไม่อยากให้เธอเป็นโรคหัวใจสลาย (Broken Heart Syndrome - โรคเครียดจากความผิดหวังอย่างรุนแรง  บางรายอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้) อีกครั้ง  มันแย่นะ  อิซซี่  มันเลวร้ายมาก  ไม่ใช่แค่เธอ  แต่กับเราทุกคน"

อิซซาเบลส่ายหน้าแทบจะทันที  ละมือหนึ่งมาหยิบลาเต้ขึ้นจิบอึกน้อยๆ  ตามองแผ่นหลังเยลที่หันมาหาเธอในที่สุดพร้อมกับขยับปากบอกเธอว่ากำลังจะกลับเข้ามาแล้ว  "ไม่รู้นะ  เจอร์  แต่ฉันเชื่อใจเขา  ฉันเชื่อเยล"

"แบบที่เธอเคยเชื่อยายลิทซ์กับไอ้บ้าแคลร์น่ะเหรอ"

"เจอร์  มันไม่เหมือนกัน  เธอไม่เข้าใจ"  อิซซี่บอก  หนักใจกับท่าทีหัวรั้นของน้องสาว  "โอเค  งั้นเธอถามเยลเองเลยก็ได้  ว่าเขาเจ้าชู้ไหม"

"เขาหูตาแพรวพราวเหมือนรุจเปี๊ยบ  อิซซี่"  เจอร์ซี่กระซิบกระซาบ  พยายามทำเสียงเบาที่สุด  และรีบพูดต่อก่อนเยลจะผลักประตูร้านกลับเข้ามาด้านใน  "แถมยังอ่อนโยน  ขี้เกรงใจ  บางทีก็เหมือนซื่อบื้อหน่อยๆ ด้วย"

"โอย  ยายเจอร์"  อิซซาเบลครางอ่อนใจ  "เอางี้  มันอาจเร็วเกินไปที่ฉันจะพูดว่าฉันเชื่อใจเขาร้อยเปอร์เซ็นต์  เอาเป็นว่าเธอคอยดูต่อไป  เรามาดูกันต่อไป"

เจอร์ซี่อยากจะเถียง  แต่เยลกลับมาแล้ว  นั่งชิดกับอิซซาเบลจนแทบจะเกยตักกัน  ความคิดเรื่องนั้นของเธอเกือบจะจางหายไป  ถ้าเจ้าเด็กซื่อบื้อนี่ไม่ประกาศอะไรออกมาแบบนี้

"ฉันชวนแบลร์มากินข้าวกับเราด้วย  คงไม่เป็นไรนะ  สงสารเขาน่ะ  แคลร์ไม่รู้หายไปไหน  แล้วก็..."

อิซซาเบลชำเลืองมองเจอร์ซี่ขณะที่เยลยังพูดต่อไป  แต่เธอแทบจะไม่ได้ยินแล้ว  ถ้าจะบอกว่าเริ่มเขวไปกับคำพูดของน้องก็อาจเป็นไปได้  หากเจอร์ซี่กลับส่ายหน้าเหมือนจะช่วยหยุดความฟุ้งซ่านของเธอไว้  พอดีกับที่เยลเอาคางมาเกยไหล่เธอราวกับรู้ว่าเธอไม่สบายใจ

"อิซซี่  แบลร์ไม่มีใครที่นี่เลยนะ  ฉันก็แค่อยากจะ --"

"โอเค  ตกลง"  เธอตัดบทไม่ให้เยลพูดอะไรอีกพร้อมกับกดจมูกลงบนศีรษะสีน้ำตาล  ท่าทีเหมือนปลอบเด็กน้อยตัวเล็กๆ  ตรงหน้าเธอ  เจอร์ซี่กลอกตาเบื่อหน่ายกลับมาให้  แต่เธอยิ้มให้น้อง             



..................

เพราะเราก็คิดถึงน้องเยลกับอิซซี่  และ FC เรื่องนี้เหมือนกันค่ะ   :01: :02: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

12 เมษายน 2018 เวลา 10:08:26
ภาคนี้เยลจะโตเต็มวัยพอจะอยู่รักษาใจอิซซี่ไปตลอด รึว่าอิซซี่ต้องอกหักตลอดกาล 555
แสดงความคิดเห็น