web stats

ข่าว

 


Angels & Devils_S4 - บทที่ 11 Beautiful Trauma

โพสต์โดย: anhann วันที่: 08 เมษายน 2018 เวลา 16:19:55 อ่าน: 155





บทที่ 11 Beautiful Trauma





เบลคเหลือบตาขึ้นจากหนังสือเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าเบาๆ ของบางคนเดินลงบันไดมา  มือเธอค้างอยู่ระหว่างยกถ้วยชาขึ้นมาจะจิบพอดี  บางทีการอยู่บ้านหลังนี้ก็ไม่ดีต่อหัวใจจริงๆ นั่นแหละ

เฟทใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน  พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก  กางเกงหนังสีดำ  เดินเท้าเปล่าลงมา  ดวงตาเฉยเมยมองเธอเสี้ยวนาทีก่อนเดินหายเข้าครัวไป  ไม่ถึงห้านาทีก็เดินออกมาพร้อมกับถ้วยกาแฟซึ่งคงเทมาจากโถที่เธอชงตั้งไว้ในเครื่องที่อุ่นร้อนอยู่ตลอดเวลา

"เธอจะไปไหนไหม  ฉันจะออกไปข้างนอกสักหน่อย"

"ไม่ค่ะ  ไม่มีเรียน"  เบลคตอบ  จิบชาและหลุบตาลงอ่านหนังสือต่อ  "คุณจะให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเบย์ลีส์เหรอ"

"เปล่า  ฉันจะให้เธอไปกับฉัน"

"ไปไหนคะ"  เธอแปลกใจ  แต่แน่นอนว่าดีใจด้วยที่เฟทชวนเธอ

"หาอะไรทำแก้เบื่อ"  เฟทตอบง่ายดาย  ดื่มกาแฟดำขมๆ พลางกดเช็กโทรศัพท์มือถือ  ท่าทีแทบไม่ต่างจากมนุษย์  ทำให้เบลคหลงลืมบ่อยๆ  และคิดว่าเราอยู่ในฐานะเดียวกัน  แต่เพราะเฟทไม่ค่อยถือสาอะไรเธอด้วย

"แล้วเบย์ลีส์..."

"เบย์บอกให้ฉันชวนเธอไป"  เฟทตอบ  ตายังมองแต่จอโทรศัพท์

"เธอเบื่อหน้าคุณเหรอ"  เบลคแกล้งถาม  นึกอยากยั่วโมโหเฟทขึ้นมาเสียอย่างนั้น  หากเทวทูตส่งสาส์นกลับเหลือบตาขึ้นจากโทรศัพท์มือถือและยิ้มให้เธอในแบบที่เธอต้องหลบตาเสียเอง

"ฉันไม่อยากให้เบย์ออกจากบ้าน  ผู้หญิงท้องอ่อนแอ  พวกปีศาจจ้องจะเล่นงานเขา  แต่กว่าเขาจะยอมเชื่อ  ฉันก็ต้องกล่อมตั้งนาน"  เฟทเล่า  ยกมือขึ้นเสยผม  เบลคเผลอมองความดูดีนั้น  พอนึกขึ้นได้เธอก็สั่นศีรษะ  ก้มอ่านหนังสือต่อก่อนจะได้ยินเสียงเฟทถาม  "เธอไม่กินข้าวเช้าหรือ"

"ตอนแรกก็ว่าจะกิน  แต่คุณชวนไปข้างนอก  ก็ไว้กินข้างนอกก็ได้"

เฟทยิ้ม  ใบหน้าเฉยเมยปรากฏแววบางอย่างที่เบลคไม่อยากเข้าข้างตัวเองนักว่า  มันเป็นความยินดี  และสบายใจ

"งั้นฉันไปบอกเบย์ลีส์ก่อน"

"คุณอุ่นแซนด์วิชกับซุปที่ฉันทำไว้ในตู้เย็นไปให้เธอด้วยสิ"  เบลคเอ่ยบอกไล่หลัง  เฟทเหลียวมาพยักหน้าให้ด้วยรอยยิ้มขอบคุณ  เธอรู้สึกราวกับหัวใจมันอุ่นขึ้นมาอย่างน่าขัน  ความรักมันห้ามกันไม่ได้จริงๆ  ต่อให้รู้ว่าเขาร้ายขนาดไหน  หรือเขาหลอกใช้ความรู้สึกของเธอ 

"เบลคคงมองคนอื่นไม่ได้แล้วมั้ง"  เสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ๆ  เบลคหันไปมองก็เห็นเด็กหญิงผมทองนั่งเท้าคางมองเธออยู่บนที่เท้าแขนของโซฟาตัวที่เธอนั่ง  เธอคงเชื่อว่าฟินน์เป็นแค่เด็ก  ถ้าไม่ได้ยินคำพูดแบบนี้

"รักเขามากเหรอ  ทำไม"

เบลคนิ่งไปเล็กน้อย  แล้วส่ายหน้าไปมา  "ไม่รู้สิ  ฉันตอบไม่ได้จริงๆ  ฟินน์  ถ้าฉันรู้สาเหตุ  คงไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้หรอก"

"งั้นก็ช่าง  เดี๋ยวเขาก็ไปแล้ว  แล้วเบลคก็จะเป็นของฉันคนเดียว"

"ใครบอกเธอกัน  ฉันเนี่ยนะ  จะเป็นของเธอ  เธอเกิดหรือยัง"

ฟินน์หน้าบูดเมื่อถูกย้อน  หากท่าทางมุ่งมั่นยังไม่เปลี่ยนไป  "คอยดูก็แล้วกัน  ถ้าไม่ใช่ฉัน  ใครก็ทำให้เบลคมองไม่ได้หรอก  เบลคจะต้องติดแหง็กกับแด๊ดดี้ของฉันอยู่แบบนี้แหละ"

"นี่เธอสาปฉันเหรอ  ฟินน์"

"ฉันไม่มีอำนาจขนาดนั้นหรอกน่า  แต่แค่ตอนนี้นะ"

เบลคหรี่ตามองเด็กน้อยอย่างกังขา  "เธอเป็นพวกชอบกลั่นแกล้งมนุษย์งั้นเหรอ  ใช้อำนาจแบบผิดๆ หรือไง"

"เปล่านะ"

"ฟินน์  ไปอยู่กับคุณแม่หน่อยได้ไหมคะ  ลูก"

ฟินน์ชักสีหน้า  ไม่พอใจที่ถูกขัดจังหวะ  ไม่ได้คุยกับพี่สาวคนสวยต่อแล้ว  แต่เบลคก็ยิ้มเอาใจเธอจนอารมณ์ดีขึ้นมาได้

"อย่าให้ใครเข้าบ้านได้นอกจากเคซีย์  และต้องเป็นเคซีย์ตัวจริงด้วยนะ  เข้าใจไหมคะ"  เฟทกำชับลูกสาว  ย่อตัวลงคุยกันใกล้ๆ  ฟินน์ยังทำหน้าตาไม่ดีอยู่  หากพอเธอหอมแก้ม  ท่าทางปั้นปึ่งก็ดูจะอ่อนลง  "แล้วแด๊ดจะรีบกลับ  โอเคไหม"

"แล้วจะซื้อขนมมาฝาก"  เบลคร้องบอกตรงหน้าประตูบ้านขณะยืนอยู่ข้างเฟทที่กำลังสวมแจ็กเกตหนังสีดำ  ฟินน์พยักหน้ารับอย่างไม่เต็มใจ  และยิ่งหงุดหงิดเมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากกับประกายประหลาดในดวงตาของผู้ให้ชีวิตตัวเอง

"แด๊ด  อย่านะ"  เธอร้องบอกตามหลังเมื่อทั้งสองก้าวห่างจากบ้าน  และมันคงดีมาก  ถ้าเพียงเบลคจะได้ยินหรือสนใจฟังเธอบ้างนะ

"ก็แล้วแต่  อยากรักเขานักก็เชิญรักไปให้พอใจเถอะ"  ฟินน์สะบัดเสียง  หงุดหงิด  แล้วหายวับไป

....................

เบลคไม่แน่ใจว่าเคยเห็นร้านแบบนี้ในล็อกวูดด้วย  แต่อาจเพราะเธอไม่ได้เดินจนทั่วเมือง  และอยู่ติดบ้านมากเกินไป  จึงไม่รู้ว่านอกจากร้านแกรนนี่  คาเฟของเคซีย์และร้านชาของเอวา  ยังมีร้านแปลกๆ อีกมาก

"ดูหลอนๆ ยังไงไม่รู้"  เธอพูด  เดินชิดเฟทอย่างไม่ตั้งใจ  มืออุ่นจึงยื่นมาคว้ามือเธอไปจับ  ความกลัวก็หายเป็นปลิดทิ้ง  "เรามาทำอะไรกันที่นี่  คงไม่ได้มากินมื้อเช้าหรอกนะ  เพราะฉันคงกินไม่ลง"

หัวกะโหลกที่ถูกใช้เป็นเชิงเทียนกับกลิ่นกำยานฉุนกึกยิ่งส่งเสริมให้เธอกลัวจินตนาการของตัวเอง  จนลืมไปเลยว่าเจ้าของมือที่จับมือเธออยู่นี้เป็นใครจนกระทั่งปลายนิ้วของเฟทคลึงหลังมือเธอเหมือนจะปลอบ

"อยู่กับฉัน  เธอยังจะกลัวอีกหรือ"

"ก็คุณชอบทำตัวไม่น่าเชื่อถือ"  เบลคตอบ  กลัวเหมือนกันว่าจะถูกโกรธ  แต่เฟทก็แค่ยิ้มเฉยๆ  ใจดีกว่าตอนเป็นแฟนกันเสียอีก  ทำไมถึงไม่เป็นแบบนี้ตั้งนานแล้วนะ 

เพราะเขาไม่ได้รักเธอแบบนั้นไงล่ะ  ยายซื่อบื้อ!

"ไม่เห็นมีคนสักคนเลย"  เธอบ่น  ดวงตากวาดมองไปทั่วร้านที่ให้ความรู้สึกคล้ายเข้ามาในซุ้มหมอดูยิปซีตามสวนสนุกเร่ร่อน  แต่น่ากลัวกว่า

"อย่าเพิ่งคิดมากไป  มันก็แค่ร้านขายของแอนทีคน่ะ  ไม่ได้อ่านชื่อร้านหรอกหรือ"

เบลครู้สึกหน้าแตก  ลืมสนใจเรื่องนั้นไปเลย  เธอคงมัวแต่ดีใจว่าจะได้มากินมื้อเช้ากับเฟทสองคนนอกบ้าน  น่าอับอายเสียจริงๆ

"งั้นปล่อยมือฉันก็ได้"

"โอเค"  เฟทตอบ  แต่ไม่ได้ทำตามนั้นเพราะมีใครบางคนโผล่มาจากหลังเคาน์เตอร์พอดี  แล้วเบลคก็สะดุ้งเฮือก  ตกใจ

"เดกเกอร์  อย่าพรวดพราดออกมาอย่างนี้สิ"  เทวทูตตำหนิชายชราที่ดูเหมือนจะไม่สนใจคำของเธอนัก 

"ท่านมีธุระอันใดหรือ  กาเบรียล"  เขาถาม  ไม่อ้อมค้อม  ตาสีฟ้าซีดจางมองเบลคอย่างวิเคราะห์  ซึ่งแน่นอนว่าเขาทำให้เธอกลัว

"อยากได้อาวุธสักหน่อยน่ะ"  เฟทบอก  มองไปทางเบลค  ปล่อยมือเด็กสาว  และดันแผ่นหลังเบาๆ ให้เดินมาข้างหน้า  ชิดกับเคาน์เตอร์ที่ชายชราชื่อเดกเกอร์ยืนอยู่ 

"ให้สาวน้อยคนนี้หรือ"

"ใช่  --  เธอชอบอะไรล่ะ  เบลค" 

เบลคมองหน้าคนถาม  พยายามจับสติกลับมา  แต่ชายชราก็หยิบกล่องอะไรบางอย่างขึ้นมาจากตู้ด้านหลัง  และเปิดให้เธอดูแล้ว

"ที่จริงมันก็ไม่ได้จำเป็นนะ  อาวุธของเบย์ลีส์มีเยอะแยะไป"

"ก็จริง  แต่เบย์ลีส์มีอาวุธประจำตัวอยู่อย่างหนึ่ง  เธอรู้ไหมว่าอะไร"

"มีดสั้นเหรอคะ  มีดขว้าง"

เฟทพยักหน้า  "แต่เขาก็ถนัดใช้ทุกอย่างนะ"

"พกทั่วตัวเลย  ฉันเคยเห็น  ไม่รู้ซ่อนไว้ได้ยังไง"

"เรื่องปกติของมือปราบน่ะหนู"  เดกเกอร์พูด  ขณะหันหลังไปหยิบของในตู้ออกมาเพิ่ม

"คุณรู้จักเบย์ลีส์ด้วยหรือคะ"  เบลคถาม  แปลกใจ

"แน่นอน  เพราะมือปราบหลายๆ คนก็มาเลือกอาวุธประจำตัวที่นี่กันทั้งนั้น  มันเป็นอาวุธพิเศษ  ไม่ใช่จะหาได้ทั่วไป"

"ทำอย่างกับเลือกไม้กายสิทธิ์ของพ่อมดแม่มดในแฮร์รี่ พอตเตอร์"

"อาวุธที่เหมาะมือสำคัญกับมือสังหารนะหนู"

"ฉันไม่ใช่มือสังหาร"  เบลคแย้งทันทีด้วยความปากไว  กว่าจะนึกขึ้นได้ว่าก็ตอนที่ชายชราอุทานและมองหน้าเธอด้วยสายตาลังเลราวกับจะยกเลิกการหาของมาให้เธอ  แต่เฟทก็พูดขึ้นก่อน

"จัดมาเถอะ  เดกเกอร์  เอาดาบนั่นก็ได้" 

"ดูท่าทางไม่น่าจะฟันอะไรเข้า" 

"อย่าดูถูกสินค้าของฉันสิ  แม่หนู"  ชายชราพูด  หยิบดาบโปร่งใสที่ดูเหมือนจะทำจากแก้วหรือผลึกคริสตัลขึ้นมาจากกล่องหนังหน้าตาโบราณ  ในสายตาเบลค  มันดูเป็นของประดับบ้านมากกว่าจะเอามาไว้ฟาดฟันใคร

สวยเกินไป...

"ขอมือเธอหน่อยสิ"

"เดกเกอร์"  เฟทปราม  หากชายชรากลับยืนยันคำเดิมจนเทวทูตกลอกตา  หันมาพยักหน้าให้เบลคยื่นมือไปให้เขา  เด็กสาวยอมส่งมันไปทั้งกลัวๆ แบบนั้น  ด้วยไม่อยากให้ใครหาว่าเธอปอดแหก  แต่แล้วเธอก็คิดได้ว่า  ไม่น่าจะอวดเก่งในเวลาแบบนี้และสถานที่น่ากลัวอย่างนี้เลย 

ตาเฒ่าเดกเกอร์เอาดาบสวยๆ เล่มนั้นฟันฝ่ามือเธอจนเลือดไหล  แล้วเขาก็เอาจอกอะไรสักอย่างที่มีลวดลายสีทองมารองเลือดของเธอไว้  แต่ก่อนที่เธอจะได้โวยวายหรือรู้สึกเจ็บ  เฟทก็มาดึงมือเธอไปกุมไว้  แสงสีทองเรืองออกมาจากมือของเฟท  รอยแผลนั้นก็จางหายราวกับมันไม่เคยเกิดขึ้น

"คุณจะฆ่าฉันหรือไง!"  เบลคโวย  หากตาเฒ่านั่นไม่ใส่ใจเธอเลยสักนิด  กลับส่งสายตาเรียกให้เฟทเข้าไปดูหยดเลือดของเธอในจอกนั้น

"นั่นคงไม่ใช่จอกศักดิ์สิทธิ์หรอกนะ"  เธอพูดทีเล่นทีจริง  สองคนที่กำลังเพ่งมองมันอยู่ก็ตวัดสายตามาหาเธอจนสะดุ้ง  โดยเฉพาะดวงตาที่ทอประกายสีเงินของเฟท  "นี่พวกคุณ  อย่าทำให้ฉันกลัวกันสิ"

"จอกศักดิ์สิทธิ์จะมาอยู่ในร้านขายของเก่าแบบนี้ได้ยังไงล่ะหนู  เธอต้องถามท่านผู้นี้ดูสิ  ว่ามันอยู่ที่ไหน"  เดกเกอร์โบ้ยให้เฟทที่กลอกตาเซ็ง  ก่อนจะดีดนิ้วหนึ่งครั้ง  เผาเลือดของเบลคที่ติดก้นจอกนั้นทิ้งเสียเหมือนกลัวใครจะเอาไปใช้ทำอะไรไม่ดี

"เจ้าทำเกินกว่าเหตุแล้วนะ  เดกเกอร์"  เฟทว่า  เหลือบมองดูให้แน่ใจว่าในจอกนั้นไม่หลงเหลือเลือดของเบลคแล้วจริงๆ

"แต่มันก็ทำให้พระองค์รู้ว่า  แท้จริงแล้ว  เธอผู้นั้นเป็นใคร"  ตาเฒ่าพูดด้วยท่าทีมีลับลมคมใน  ไม่น่าไว้ใจเลยแม้แต่น้อย  หากเบลคกลับรู้สึกเคืองเฟทมากกว่า  เหมือนเธอโดนหลอกอีกแล้ว

"แล้วฉันเป็นใคร"  เบลคถาม  แต่เหมือนไม่มีใครได้ยิน  เฟทหันไปสั่งให้เฒ่าเดกเกอร์ห่อดาบแก้วนั่นอย่างดี  แล้วมาส่งให้เธอ

"ขอมีดขว้างกับดาวกระจายสี่แฉกให้ด้วยละกัน"

"จะไปรบกับใครหรือ  พระองค์"

"ไม่เกี่ยวกับเจ้า  จัดมา"  เฟทพูดเย็นชา  ตาเฒ่าเดกเกอร์ยักไหล่  เดินงุ่มง่ามเข้าไปหลังร้านโดยไม่ต่อปากต่อคำอีก  "หายเจ็บหรือยัง"

เบลคกะพริบตาเมื่อได้ยินคำถาม  เธอไม่ได้ส่งมือให้เฟทดู  แต่ขยับมันไปมา  ลองกำๆ แบๆ ดูเอง  "ยังไม่พิการ"

เฟททำหน้าเจื่อนเมื่อเด็กสาวตอบกลับมาแบบนั้น  "โทษที  ไม่คิดว่าเจ้านั่นจะทำโดยพลการ"

"ช่างมันเถอะ"  เบลคพูดปลงๆ  "คุณบอกเรื่องนั้นมาดีกว่า"

"เรื่องอะไรหรือ"  เฟทถาม  ทำหน้าตาแสนซื่อแต่เบลคไม่หลงกล  หากก่อนจะทันได้เอ่ยอะไร  เด็กสาวก็เห็นเงาดำๆ เคลื่อนไหวอยู่ตรงมุมสุดห้องโถงของร้าน  เฟทหันขวับตามสายตานั้นไป

"เจ้ากล้าเข้ามาในขณะที่ข้ายังอยู่ที่นี่เชียวหรือ  รีปเปอร์"

รีปเปอร์...เบลคอุทานคำนี้ในใจ  เธอเคยเจอเขาหรือน่าจะเรียกว่า  "เจ้าตัวนี้"  ครั้งหนึ่งที่ไอร์แลนด์

"ขออภัย  ข้าไม่รู้ว่าท่านอยู่ที่นี่  ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"

"เจ้ามารับวิญญาณใคร"  เฟทถาม  เสียงแสดงอำนาจใหญ่โต  แต่เบลคกลับรู้สึกว่าสมควรแล้ว  เธอไม่ได้อยากเห็นยมทูตบ่อยๆ หรอกนะ  คนส่วนใหญ่ที่เห็นก็ต้องใกล้ตายกันแล้วทั้งนั้น  เธอยังไม่อยากตาย

"ตาเฒ่าเดกเกอร์หรือ"

"ไม่ใช่ขอรับ"  เขาตอบเสียงแหบ  ท่าทางเกร็งๆ  "ข้าแค่มารับเคียวที่ซ่อมไว้กับตาเฒ่า"

"อ้อ  ถ้างั้นเจ้ารอก่อน  ไปรอที่อื่น  จนกว่าพวกข้าจะออกไป"

กริม รีปเปอร์จากไปทันทีโดยไม่กล่าวลา  หากขนอ่อนบนแขนของเบลคก็ยังลุกซู่ด้วยบรรยากาศน่าหวั่นใจที่เขาทิ้งเอาไว้

"ที่นี่ไม่ใช่ร้านขายของเก่าธรรมดาใช่ไหม"  เบลคถาม  เธอเอะใจอยู่แล้ว  ตั้งแต่ก้าวผ่านประตูกระจกสีชาเข้ามาในร้านนี้  ไม่ต้องเห็นการตกแต่งที่ชวนให้นึกถึงห้องทำพิธีไสยศาสตร์ในสมัยโบราณตามหนังสือที่ออเดรย์ชอบเอามาอ่าน  และปรุงแต่งมันให้เป็นฉากหนึ่งในนิยายแปลกๆ ของพี่

"ก็อย่างที่เห็น  เขาขายของเก่าบังหน้า  แต่มีเครื่องมือเครื่องใช้ไว้ขายให้พวกเรา  อ้อ  รับซ่อมด้วย"

"เขาเป็นใคร  พ่อมดหรือ"

"ใกล้เคียง"  เฟทตอบ  เบลคจะซักเพิ่ม  หากตาเฒ่าเดกเกอร์ก็กลับออกมาจากหลังร้านพร้อมของหอบใหญ่เสียก่อน  เฟทล้วงอะไรบางอย่างในเสื้อแจ็กเกตหนังออกมาส่งให้เขาแลกเปลี่ยนกับของ  มันไม่ใช่เงินแน่นอน

"คุณให้อะไรเขาคะ"  เบลคถามขณะมองเฟทจัดการย่อของต่างๆ ให้เหลือเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่กระเป๋าเสื้อไปได้  แล้วพาเธอเดินออกไปจากร้านโดยมีเสียงขอบคุณของพ่อเฒ่าเดกเกอร์ดังตามหลังมา

"ช่างซักจริงๆ เลยนะ  เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้"  เฟทพูด  แต่ไม่ได้ฟังดูเหมือนตำหนิ  แถมปากสวยๆ นั่นก็ยังยิ้มด้วย

"เมื่อก่อนเราก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันแบบนี้เหมือนกัน"  เบลคพูด  เฟทหันมามองหน้าเธอ  เธอยิ้มเจื่อนๆ สั่นศีรษะให้  "เราเป็นแฟนกัน  แต่คุณไม่เคยพาฉันมาเดินแบบนี้  ไม่เคยกินข้าวด้วยกัน  คุณมาหาฉันแค่ตอนกลางคืน  หลายๆ ครั้งฉันตื่นมาก็ไม่เจอคุณแล้ว  เราไม่เหมือนแฟนกันหรอกนะ  รู้ไหม  ฉันเหมือนเป็นแค่...เซ็กซ์บัดดี้ของคุณเท่านั้น"

"เบลค"  เฟทอุทาน  ไม่อยากเชื่อว่าอีกฝ่ายจะคิดแบบนี้  "นั่นมันไม่ใช่ --"

"ไม่เป็นไรค่ะ  เรื่องมันผ่านไปแล้วละ  ฉันไม่ได้โกรธคุณแล้ว  ฉันก็แค่อยากจะพูดบ้างก็เท่านั้น  เพราะคุณชอบอ้างฉันคนเก่าอยู่เรื่อยทั้งที่ตัวคุณเองก็ไม่เหมือนเดิมเหมือนกัน"

"ฉันขอโทษ  จะไม่พูดมันอีกแล้ว"

เบลคถอนหายใจ  เบนสายตาไปทางอื่น  ไม่อยากให้เฟทเห็นน้ำในดวงตาของเธอ  เธอเคยคิดว่าตัวเองไม่ได้เสียใจเท่าไหร่ที่ต้องเลิกกับเขา  แต่ท้ายที่สุดแล้ว  เธอก็โกหกตัวเอง  "เราแยกกันตรงนี้ได้ไหม"

"ทำไมล่ะ  ยังไม่ได้กินอะไรเลย  ฉันบอกว่าจะพาเธอไป --"

"ฉันจะไปหาออเดรย์ค่ะ  คุณต้องรีบกลับไม่ใช่เหรอ"

เฟทจำใจพยักหน้า  ส่งกล่องดาบใบจิ๋วให้เบลคพร้อมกับสอนวิธีทำให้มันกลับมาเป็นขนาดเดิมเพื่อให้ใช้งานได้  แล้วร่างสูงเพรียวก็จากไป

เบลคถอนหายใจยาวกว่าครั้งก่อนเมื่อไม่เห็นร่างเทวทูตผู้นั้นแล้ว  เธอก้มมองของในฝ่ามือตัวเอง  แล้วเก็บมันใส่ในกระเป๋าเสื้อแจ็กเกต  ดึงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายถึงพี่สาว  ลืมไปเสียสนิทเลยว่าเธอยังไม่ได้คำตอบจากเฟท  กับคำถามว่าที่ว่า...เธอเป็นตัวอะไรกันแน่

..............................................

เบย์ลีส์ใช้เวลาส่วนใหญ่หลังอาหารเช้าไปกับการอ่านหนังสือและหลับอยู่บนเตียง  ตอนที่เฟทกลับมา  เธอกำลังสะลึมสะลือจะหลับอีกรอบ  ยิ่งใกล้คลอด  เธอก็ยิ่งรู้สึกอ่อนแอขึ้นทุกที  เหนื่อยง่าย  ฉี่บ่อย  และเท้าบวม  ซึ่งเป็นอาการปกติตามที่หมอบอกให้เธอทำใจนานแล้ว  นั่นจึงทำให้เธอต้องลางานยาวทั้งที่ไม่อยากเอาเปรียบลูกน้อง  แต่ออกไปในสภาพนี้ก็คงจะเป็นตัวถ่วงให้พวกเขาเสียมากกว่า

"เลือดของเบลคเป็นแบบเดียวกับของเธอ"  เฟทพูดขณะส่งแก้วนมให้ภรรยาและช่วยประคองขึ้นมานั่งพิงหลังกับหัวเตียง  แล้วขึ้นไปนั่งข้างๆ ให้เบย์ลีส์พิงตัวกับไหล่ของตน

"หมายความว่า..."

"ก็หมายความว่า  เธอ  ออเดรย์และเบลคเป็นพวกเดียวกัน"

"พวกครึ่งผีครึ่งคนน่ะเหรอ"  เบย์ลีส์พูดทีเล่นทีจริง  และยิ้มขำเมื่อเฟทย่นคิ้ว  "อย่าซีเรียสสิ  เฟท  ถ้าโดนโกรธก็ไปง้อสิ  เดี๋ยวก็หาย"

"ถ้ามันง่ายแบบนั้นก็ดีสิคะ"  เฟทบอก  ยกแขนขึ้นให้เบย์ลีส์เอนตัวมาพิงอกตนเองแทนหัวเตียง  พลางลูบไหล่บางอย่างเห็นใจ  เธอรู้ว่าเบย์ลีส์เหนื่อยมากขึ้นทุกวัน  และหากเบย์ลีส์เห็นด้วย  เธอก็อยากจะให้ฟินน์คลอดออกมาเดี๋ยวนี้เลย  ไม่ต้องรอธรรมชาติอีกแล้ว

"แล้วจะทำยังไงต่อ  สืบประวัติบรรพบุรุษงั้นหรือ"

"ไม่จำเป็นหรอกมั้ง"

เบย์ลีส์เลิกคิ้วสูง  มองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ 

"แค่รู้ความสามารถของเขาก็พอแล้วละ"  เฟทตอบความสงสัยให้ภรรยา  "เราเจอกริม  รีปเปอร์ที่ร้านตาเฒ่าเดกเกอร์ด้วย  เขาว่าเอาเคียวมาซ่อมไว้  เธอคิดว่าไง"

"เคียวเกี่ยววิญญาณชำรุดหรือ  เป็นไปได้ยังไง  เขาเอาไปทำอะไรมาล่ะ  ถ้าเป็นวิญญาณปกติก็ไม่น่าจะทำให้เสียหายได้นะ"

"เขาอาจจะใช้ผิดวิธี"

เบย์ลีส์ทำหน้าตาไม่เห็นด้วย

"โอเค  ฉันจะให้คนอื่นๆ จับตาดูเขาไว้ก็ได้"  เฟทบอกในที่สุด  "แต่ตอนนี้เธอนอนดีกว่า  ฉันจะนอนเป็นเพื่อน"

"ไม่ไปดูเบลคหน่อยเหรอ  ถ้าเขาไม่กลับมาที่นี่ล่ะ"

"เขาจะต้องกลับมา"

"อย่าบอกว่า  เพราะฉัน"  เบย์ลีส์พูด  ตาปรือจะหลับรอมร่อ  "ถ้าจะไปไหน  เขียนโน้ตบอกฉันด้วยนะ  เฟท  อย่าลืม"

เฟทรับปาก  ช่วยประคองภรรยาสาวให้นอนลงหนุนหมอนดีๆ  จัดอีกใบสำหรับขาให้ด้วย  แล้วจึงพาตัวเองมานอนข้างๆ  เบย์ลีส์พลิกตัวมากอดเธอ  ซบหน้าลงกับอก  เธอกดจมูกลงบนกลุ่มผมสีแดง  กลิ่นของเบย์ลีส์ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลาย  และเธอรู้ดีว่าเพราะอะไร  จึงหลับตาลงตาม

.................................................

เบลคพลิกดาบในมือเล่นไปมาขณะนั่งเล่นอยู่บนโซฟาภายในบ้านของพี่สาว  ออเดรย์อยู่ในครัวกำลังทำมื้อเช้า  เคซีย์นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ในโซฟาอีกตัว  เหมือนไม่ค่อยสนใจเธอเท่าไหร่  แต่ก็มองเป็นระยะ 

"คุณรู้ไหม  มันคมมากเลย"  เธอเอ่ย  ชวนเคซีย์คุย  ตาสีนิลเหลือบขึ้นมองเธอ  ว่างเปล่าและเฉยเมย  นี่น่ะเหรอ  เทวดาแห่งความรัก

"ถ้าไม่เคยโดนมันบาด  ฉันคงไม่เชื่อแน่นอน  คุณจะลองดูไหมคะ"

เคซีย์เอาแต่มองดาบนั้น  ไม่ยอมรับมันไปแม้เบลคจะยื่นให้อย่างเต็มอกเต็มใจ  "เธอเก็บไว้เถอะ  รักษาให้ดี"

"ทำไมฉันต้องมีมันด้วย  ออเดรย์ยังไม่มีสักอัน  คุณไม่เคยพาพี่ฉันไปร้านนั้นใช่ไหมคะ"  เบลคถาม  เคซีย์ส่ายหน้า  "ทำไมล่ะคะ  คิดว่าออด์ทำอะไรใครไม่ได้หรือไง"

"เพราะออเดรย์ไม่จำเป็นต้องใช้มัน"  เคซีย์ตอบง่ายดาย  สีหน้าของเทวทูตแห่งความรักบอกชัดว่าไม่ต้องการถูกซักไซ้อีก  เบลคจึงเงียบปาก  เธอไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเคซีย์มากเท่าที่ทำกับเฟท  จะว่าไปแล้ว  เคซีย์ดูไม่ใช่มนุษย์มากกว่าเฟทเสียอีก

ดูเข้าถึงยาก  เหมือนมีแค่ออเดรย์คนเดียวที่ทำมันได้

"ตาเฒ่าเจ้าของร้าน  เอาดาบนี่ฟันมือฉันแล้วเอาถ้วยอะไรสักอย่างมารอง  แล้วพวกเขา...ฉันหมายถึงตาเฒ่านั่นกับเฟทก็มามุงดูเลือดฉันกัน  จากนั้นเฟทก็เผาเลือดฉันทิ้ง"  เบลคเล่า  อยากระบายให้ใครสักคนฟัง  และควรจะเป็นคนที่สามารถแปลความหมายให้เธอฟังได้  แม้จะไม่พูดออกมาตรงๆ  หรืออย่างน้อย  เคซีย์จะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ

"พวกเขาซุบซิบกัน  ไม่ยอมให้ฉันได้ยิน  ตาเฒ่านั่นพูดทำนองว่า  เขาทำแบบนี้  เพราะอยากให้เฟทรู้ว่าฉันเป็นใคร  หรือตัวอะไร"

"แล้วตัวอะไรล่ะ"  ออเดรย์ถามขณะเดินยกจานออมเล็ตกับซุปเห็ดมาให้น้องสาว  เบลคส่ายหน้า  ไม่รู้คำตอบเช่นกัน  เธอวางดาบลงกล่องและรีบตักอาหารกินอย่างหิวโหย  เพิ่งรู้ว่าตัวเองหิวมากๆ ก็ตอนนี้เอง 

ขณะที่เบลคกำลังกิน  ออเดรย์ก็หยิบกล่องดาบของน้องมาดู  เธอเปิดมัน  แต่ไม่ได้หยิบดาบ  รู้สึกว่าเคซีย์คงไม่ชอบมันแน่  และสายตาของเทวทูตแห่งความรักก็บอกเธอแบบนั้นด้วย  อีกอย่าง  เธอก็รู้สึกด้วยว่ามันไม่ปกติ  ของชิ้นนี้มีพลังงานบางอย่างที่เธอไม่ควรสัมผัส

แล้วทำไมต้องเป็นเบลคด้วยล่ะ

"เฟทคงไม่ทำอะไรประหลาดๆ หรอกใช่ไหม"  ออเดรย์พูดขึ้นเมื่อเดินตามเคซีย์เข้ามาในครัว  เธอคอยชะโงกมองว่าเบลคสนใจจะฟังพวกเธอหรือเปล่า  แต่เบลคก็เหมือนจะจมกับความคิดของตัวเองอยู่  และสนใจแค่อาหารเท่านั้น

เคซีย์ยืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์  ตาเหลือบมองเด็กสาวในห้องนั่งเล่น  แล้วส่ายหน้า  "ไม่หรอก  ฉันไม่คิดงั้นนะ  เขาก็แค่ให้ของน้องเธอไว้ป้องกันตัวเอง  มันแปลว่าเป็นห่วงไม่ใช่หรือ"

"ไม่รู้สิ  ฉันไม่เข้าใจเขาหรอก  เฟทซับซ้อนจะตายไป  ฉันไม่รู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่  เขากับเดสทินีน่ากลัวพอกัน"

"เฟทอ่อนโยนกว่าเดสทินี" 

ออเดรย์ฮัมรับอย่างเห็นด้วย  "บางครั้งก็อ่อนโยนเกินไปจนทำให้คนอื่นเข้าใจผิด"

"ถ้าฉันรู้วิธีถอนความรักออกจากตัวคน  ฉันก็จะทำ  แต่นี่..."  เคซีย์ยักไหล่  มองน้องสาวคนรักอย่างเห็นใจ  "โทษทีนะ  ที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย"

"ไม่เป็นไรหรอก  เธอไม่ต้องช่วยมนุษย์ทุกอย่างขนาดนั้นหรอกน่า  เธอมีหน้าที่ทำให้พวกเขารักกันเฉยๆ  ไม่ใช่หรือ  การเอามันไปจากพวกเขา  มันโหดร้ายเกินไปนะ"

"แต่ความรักที่เกิดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว  ไม่ถือว่าฉันทำงานสำเร็จนะ"

"ก็คงใช่  แต่บางทีฉันก็ไม่คิดแบบนั้นเท่าไหร่หรอก"  ออเดรย์พูดอย่างแฝงความนัย  ยิ้มให้เคซีย์ที่มองเธออย่างฉงน  "เพราะอย่างน้อย  เขาก็ยังสนใจช่วยดูแลน้องสาวของฉัน"

"พร้อมกับทำร้ายหัวใจด้วยน่ะเหรอ  มันดีตรงไหนกัน  ออเดรย์"

"ฉันก็ไม่รู้  แต่เบลคคงรู้แหละ"

เคซีย์เบนสายตาจากออเดรย์ไปมองเบลคแทน  เด็กสาวกินอาหารเสร็จแล้ว  และกำลังนั่งเหม่ออยู่  ลูบคลำจี้ห้อยคอสีอำพันเปล่งแสงเจิดจ้าด้วยปลายนิ้วอย่างทะนุถนอม         


.......................


หมดพลัง   :03:  :15:  :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

08 เมษายน 2018 เวลา 21:40:39
แล้วสองพี่น้องนี่เค้าเป็นตัวอะไรกันล่ะ กว่าจะมาแต่ละตอนเอาซะลืมตอนเก่าแล้ว
แสดงความคิดเห็น