ชุลมุนลุ้นรักยัยตัวป่วน yuri ตอนที่ 1
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 03 เมษายน 2018 เวลา 11:12:35
อ่าน: 113
|
"นั่นไง นั้นไง!" เสียงคนข้างๆ ดังขึ้นพร้อมกับการกระทุ้งสีข้างให้คนที่กำลังจดจ่อกับมือถือต้องเงยหน้าขึ้นมามองเป้าหมายที่ทำให้ต้องมายืนดักรอบริเวณลาดจอดรถของตึกบริหารอยู่เกือบชั่วโมง รุ่นพี่สองคนเดินคุยกันมาด้วยท่าทางสนิทสนมหากไม่รู้ข้อมูลของคนทั้งคู่เธอคงคิดว่าสองคนนี้ต้องเป็นแฟนกันอย่างแน่นอนแต่เพราะคนที่ยืนข้างๆ เธอนี่แหละที่ไปสืบเสาะหาข้อมูลจนพบว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นดั่งที่เห็น "สวัสดีค่ะพี่แป้ง" ก่อนที่รุ่นพี่ทั้งสองจะเดินผ่านกันไปราวกับเธอทั้งคู่เป็นเพียงสภาพอากาศที่มองไม่เห็นเปรมสุดาก็รีบเอ่ยการทักทายเสียงดังราวกับการตะโกน และมันคงน่าแปลกเกินไปหากคนที่เดินผ่านจะเดินไปเสียเฉยๆ ทั้งๆ ที่คนทั่วทั้งบริเวณหันมามองยังเจ้าของเสียงเป็นตาเดียวกัน รุ่นพี่ทั้งสองคนทำหน้าแปลกใจไม่น้อยเมื่อการทักทายเกิดโดยเจ้าของใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย รุ่นพี่ที่เปรมสุดาปลื้มยกนิ้วชี้หน้าตัวเองก่อนจะเกิดอาการคิ้วกระตุกเมื่อใบหน้าของรุ่นน้องคนนี้เริ่มฉายชัดในความทรงจำให้ต้องหวาดหวั่นกับเรื่องที่กำลังจะเกิดต่อจากนี้ "พี่นั่นแหละค่ะ" เปรมสุดาเอ่ยเสียงหวานก่อนจะก้าวเดินตรงไปยังรุ่นพี่ที่แอบชอบด้วยความมั่นใจเกินร้อย "ฉันชอบพี่เรามาเป็นแฟนกันนะคะ" นี่หรือคือประโยคแรกของคนแปลกหน้าแล้วไหนจะยังดวงตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจของเจ้าหล่อนนั่นอีกที่ทำให้คนถูกขอเป็นแฟนรีบตีหน้ามึนก่อนจะลากคนข้างๆ มาเป็นเกราะกำบัง "ช่วยหน่อยสิ" ประภาพรเอ่ยกระซิบให้คนที่เอาแต่เงียบได้กลั้นหัวเราะก่อนจะตีหน้าดุเพื่อส่งมอบไปยังรุ่นน้องที่ช่างมีความกล้าบ้าบิ่นจนเธอยังแอบนับถือ "เสียใจด้วยนะคะน้องคนนี้ของพี่ค่ะ" ปัณฑิตาเอ่ยเสียงเรียบใบหน้านิ่งดูน่ากลัวเพราะแสดงออกมาชัดเจนถึงความรู้สึกหวงคนข้างๆ แต่มีหรือที่คนข้อมูลแน่นจะหวั่นเกรง หากรู้ไม่ลึกขนาดนี้เธอก็คงไม่จ้าหน้าด้านโผล่มาแบบนี้หรอก "รุ่นพี่หลอกฉันไม่ได้หรอกค่ะความสัมพันธ์ของพวกพี่เป็นยังไงฉันสืบมาหมดแล้ว" น้ำเสียงหนักแน่นทำให้คนคิดหลอกเกิดอาการหวั่นใจไม่น้อยเพราะนี่คือครั้งแรกที่ยกเหตุผลนี้มาใช้แล้วถูกโต้กลับ ยัยเด็กนี่ร้ายกาจใช่เล่น! "เชื่อไม่เชื่อก็ตามใจ" "ทำไมต้องหวงก้างด้วยคะพี่น่าจะปล่อยพี่แป้งให้เป็นอิสระได้แล้วนะมัดกันไว้แบบนี้เมื่อไหร่จะได้เจอของใหม่" "นี่เธอกล้าว่าฉันกั๊กงั้นเหรอ" "หรือไม่จริงล่ะคะ" น้ำเสียงและใบหน้ากวนประสาททำเอาคนอายุมากกว่าถึงกับกัดฟันกรอดๆ ถึงอายุจะมากกว่าแต่ก็ใช่ว่าจะมีความอดทนมากตาม พูดไม่รู้เรื่องแบบนี้เห็นทีต้องจัดการกำราบให้รู้ฤทธิ์เสียบ้างแล้ว "จะเอายังไง" "ไม่เอายังไงค่ะจะเอาแต่พี่แป้ง" เจ้าของประโยคเอ่ยหน้าระรื่นก่อนจะก้าวเดินเข้าไปใกล้คนกลางเพื่อหวังจะได้คำตอบแต่การกระทำนี้กลับเหมือนเป็นการยั่วยุคนที่กำลังโต้ฝีปากกับตัวเองให้เกิดน้ำโหมากขึ้น "อย่ายุ่งกับแฟนฉัน!" ทันทีที่พูดจบปัณฑิตาก็ง้างมือเตรียมฟาดคนหน้าด้านอย่างเต็มกำลังแต่ใครกันจะคาดคิดว่ามือที่ฟาดมาสุดแรงเกิดจะปะทะเข้ากับคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แต่ดันซวยเพราะถูกเพื่อนตัวดีกระชากเข้ามาบังจนมิด เพี๊ยะ!!! เสียงและการสั่นไหวเป็นไปในทิศทางเดียวกันและที่ทำให้รู้ถึงความรุนแรงก็คงจะเป็นมุมปากที่มีน้ำสีแดงๆ ซึมออกมา เจ้าของใบห้าสั่นเกิดอาการมึนเบลอไปทั้งสมองความตกใจเกิดขึ้นกับบุคคลทั้งสามอย่างเห็นได้ชัดยิ่งคนลงมือด้วยแล้วแทบอยากจะมุดหน้าหนีเพราะฝ่ามือที่กระแทกไปโดนผิดคน "นี่พี่ตบเพื่อนฉันทำไมเนี่ย" เปรมสุดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจก่อนจะเขย่าตัวเพื่อนรักเพื่อนหวังให้ฟื้นคืนสติ "ไหวมั้ยเนี่ยแกไปห้องพยาบาลมั้ย" ตะวันฉายสะบัดหัวไปมาก่อนจะส่งสายตาอาฆาตไปยังคนก่อเรื่องที่ทำท่าราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับตัวเอง ความจริงเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอเลยสักนิดแต่ทำไมกลับเป็นเธอที่โดนเล่นงานเข้าจังๆ กันล่ะ ทำไม ทำไมโลกนี้ถึงได้โหดร้ายขนาดนี้ "คือพี่ไม่ได้ตั้งใจ" ปัณฑิตาเอ่ยอย่างรู้สึกผิดก่อนจะหันไปยังคนกลางที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทุกอย่าง "เพราะเธอนั่นแหละหลบทำไมไม่ทราบ" "ไม่หลบก็โง่น่ะสิ" "นี่เธอ!" ท่าทางแลบลิ้นปลิ้นตาของคนไม่สำนึกทำเอาปัณฑิตาถึงกับเกิดอาการปรื๊ดแตกหากแต่เพียงเหลือบไปเห็นรอยฝ่ามือของตัวเองที่ประทับอยู่บนใบหน้าของใครอีกคนอารมณ์ขุ่นมัวก็กลับจางลงอย่างน่าประหลาด เธอกำลังรู้สึกผิดที่ทำร้ายคนไม่เกี่ยวข้องด้วยพลังชีวิตที่งัดออกมาทั้งหมดรอยฝ่ามือนั้นถึงได้เด่ดชัดขนาดนี้ มือน้อยๆ เอื้อมไปดึงแขนเจ้าของใบหน้าที่ตัวเองฝากรอยเอาไว้กึ่งลากึ่งจูงให้เดินตามมาทำเอาอีกสองคนที่เหลือต้องมองตามอย่างสงสัยแต่มีหรือที่เปรมสุดาจะปล่อยโอกาสดีๆ ให้หลุดมือเพราะก่อนที่เท้าของรุ่นพี่ที่ตัวเองปลื้มจะก้าวเดินตามเพื่อนสนิทของเขาไปก็ถูกมือของคนก่อเรื่องคว้าจับเอาไว้เสียก่อน "จะไปไหนคะ" "ก็ ก็จะตามแฟนพี่ไปไง" น้ำเสียงตะกุกตะกักและท่าทีร้อนรนทำให้คนรู้ทันต้องเปิดยิ้มก่อนจะจับแขนของคนคิดหนีให้แน่นขึ้น "พูดผิดพูดใหม่ได้นะคะ" "นี่เธอไม่ห่วงเพื่อนบ้างหรือไงกันนะ" "ห่วงค่ะแต่คิดว่าเพื่อนพี่น่าจะดูแลได้" ดวงตาคู่หวานฉ่ำที่มองมาทำให้ประภาพรเกิดอาการขนลุกชูชันไปหมดยิ่งคิดถึงภาพเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ทำให้รู้จักกันก็ยิ่งทำให้นึกกลัวรุ่นน้องคนนี้ขึ้นมา
ในคืนของการพาน้องรหัสไปเลี้ยงเธอได้พบกับรุ่นน้องคนนี้และเพราะความซวยอะไรมิทราบได้ถึงทำให้เพียงการสละเสื้อไปคลุมตัวที่เปียกของอีกฝ่ายและเพียงการกระทำที่ไม่คิดอะไรนี้กลับทำให้อีกฝ่ายประกาศกร้าวว่าจะจีบตัวเองเป็นเรื่องน่าตลกที่คิดว่าคนเมาไม่น่าจะจำได้แต่ในวันนี้คือบทพิสูจน์ว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ทำให้รู้สึกปวดหัวไปหมด หากย้อนเวลาไปในวันนั้นได้ประภาพรสาบานได้เลยว่าจะไม่เฉียดใกล้ยัยนี่เป็นอันขาดและหากรู้มาก่อนเธอจะไม่มีวันไปในงานวันนั้นแน่ๆ
ตะวันฉายมองคนที่ทายาให้กับตัวเองอยางเก้ๆ กังๆ นึกไม่ถึงเลยจริงๆ กับการที่คนทำผิดจะรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองแบบนี้ ความจริงผู้หญิงคนนี้ไม่ผิดเลยสักนิดเพราะความผิดทั้งหมดเธอโยนมันให้กับเพื่อนตัวแสบของตัวเองทั้งหมด หากเปรมสุดาไม่อาจหาญไปจีบรุ่นพี่ก่อนเรื่องเจ็บตัวนี้คงไม่เกิด "คือเดี๋ยวตะวันไปทาเองก็ได้ค่ะพี่จะได้ไม่เสียเวลา" ตะวันฉายเอ่ยด้วยความเกรงใจเพราะนี่ก็ล่วงเลยเวลาเลิกเรียนมานานแล้วใครอีกคนควรจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนไม่ใช่มาเสียเวลากับคนแปลกหน้าอย่างเธอ "ปัณฑิตา..." "คะ?" การที่ใครอีกคนอยู่ๆ ก็พูดบางอย่างที่คล้ายกับชื่อขึ้นมาทำให้คนขี้เกรงใจต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย "พี่ชื่อปัณฑิตาเรียกว่าพี่ทรายก็ได้" เป็นการแนะนำตัวที่ไม่ได้ทำให้คนฟังลดความสงสัยลงเลยสักนิดจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเธอคิดว่ามันไม่น่าจะเหมาะเท่าไหร่กับการทำความรู้จักกัน "เอ่อ..." "กลับบ้านไปอย่าลืมทานยาด้วยนะคะตะวัน" น้ำเสียงอ่อนโยนที่ลงท้ายด้วยชื่อของตัวเองยิ่งทำให้ตะวันฉายมีท่าทีเลิ่กลั่กไปไม่ถูก "พี่รู้จักชื่อตะวันด้วยเหรอคะ" ประโยคคำถามดังขึ้นให้คนตั้งใจติดแผลเล็กๆ ที่ปากของคนพูดต้องหยุดการกระทำลงก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นไปจ้องรุ่นน้องขี้สงสัย "ก็เมิ่อกี้ใครแทนตัวเองว่าตะวันล่ะคะ" น้ำเสียงแข็งๆ ดังขึ้นให้คนหลุดชื่อตัวเองได้เปิดยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะรีบหุบมันลงเมื่อถูกสายตาคู่ดุเล่นงานอย่างจัง "ถ้าเข้าใจแล้วก็ช่วยเงียบๆ ด้วยนะคะพี่จะได้ติดแผลแล้วเราจะได้แยกย้ายกลับบ้านเสียที" น้ำเสียงฉุนจัดดังขึ้นให้คนพูดมากต้องเงียบเสียงลงก่อนจะแอบชำเลืองมองคนทำแผลให้อย่างอดไม่ได้ รุ่นพี่คนนี้จัดได้ว่าเป็นคนสวยไม่ใช่สวยธรรมดาแต่เป็นสวยจัดมากกกกกกกกกกกกและหอมมากกกกกกกกกอีกเช่นกันเพราะขนาดอยู่ห่างขนาดนี้เธอยังได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ทำเอาแทบเคลิ้มหากแต่ถ้าแสดงท่าทางเช่นนั้นออกมาคาดว่าแก้มอีกข้างคงได้รับสัญลักษณ์ในรูปแบบเดียวกันกับเมื่อสักครู่เป็นแน่ สวยมาก! หอมมาก! แถมดุมาก!!! อีกต่างหาก "เสร็จล่ะ" ปัณฑิตาเอ่ยขึ้นพร้อมกับถอยห่างออกมาจากตัวคนเจ็บเกิดมายังไม่เคยทำแผลให้ใครมันจึงดูเก้ๆ กังๆ ไปบ้างแต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี "ที่เหลือก็กลับไปใส่เองแล้วกันนะ" คนพูดเอ่ยพร้อมกับยื่นถุงยาไปให้เจ้าของแก้มที่มีรอยฝ่ามือตัวเองความจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมารับผิดชอบอะไรแบบนี้แต่เพราะใบหน้าซีดจัดของรุ่นน้องคนนี้นี่แหละที่ทำให้เธอนึกกลัวว่าจะทำให้เขาช็อคตายไปเพราะแรงตบที่เธอฟาดเข้าใส่เต็มแรง "หายกันแล้วนะ" "คะ?" "ก็พี่ใส่ยาให้แล้วไงเราสองคนก็ถือว่าไม่ติดค้างกันอีก" "................" "แล้วก็ฝากบอกยัยตัวแสบเพื่อนเราด้วยว่าอย่ามายุ่งกับแฟนพี่ไม่งั้นได้เจอดีแบบวันนี้แน่" สิ้นเสียงตะวันฉายก็ยกมือโอบสองแก้มของตัวเองด้วยท่าทางหวาดๆ ให้คนพูดขู่ได้กลั้นหัวเราะแทบไม่ทัน สองคนนี้คงจะขาดๆ เกินๆสินะถึงได้คบกันได้ ไม่มีบทสนทนาต่อมีเพียงการแยกย้ายไปคนละทิศละทางตะวันฉายยกมือขึ้นแตะที่แก้มข้างที่ช้ำพร้อมกับความรู้สึกหวั่นใจเพราะการจากลานี้มั้นไม่ใช่การสิ้นสุดแต่มันคือการเริ่มต้นต่างหาก มือถือเครื่องจิ๋วถูกกดหาคนที่ก่อเรื่องให้นึกโมโหและจากบทสนทนาที่เกิดขึ้นก็ทำให้รู้ว่าตัวเองควรหาหมวดกันน็อคมาใส่เพราะจากวันนี้ไปยัยรุ่นพี่พลังช้างคงจะต้องออกแรงเกือบทุกวันเป็นแน่เมื่อเพื่อนของเธอยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่าจะเดินหน้าอย่างเต็มกำลัง ให้มันได้แบบนี้สิหวังว่าหวยคงไม่มาลงที่เธอเป็นรอบที่สองหรอกนะ...
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|