web stats

ข่าว

 


Sparkle_s2 (แฟนฟิค) - ตอน 17 Snowflake

โพสต์โดย: anhann วันที่: 05 ตุลาคม 2017 เวลา 20:36:09 อ่าน: 371



ตอน 17 Snowflake





ยุนอาเลิกคิ้วแปลกใจเมื่อเห็นเจสสิก้ากึ่งเดินกึ่งวิ่งมาเกาะแขนคริสตัลที่ยืนอยู่ข้างตน  จ่าฝูงสมิธลากแขนน้องตัวสูงไปคุยกันสองคน  ท่าทางเหมือนฟ้องอะไรคริสตัลมากกว่าจะแค่คุย  มุมปากของแบล็ควูล์ฟกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มขำ  และหมัดเล็กๆ ของพี่สาวก็ชกเข้าตรงอกเขา  ก่อนเด็กชายตัวโตจะดึงคุณพี่ตัวเล็กเข้ามากอดปลอบ  เจสสิก้าสูงเลยไหล่คริสตัลมานิดเดียวจึงซบบ่าน้องสบายยามกอดตอบ  เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายผู้เป็นทั้งพี่สามีของเธอตามศักดิ์  แต่เธอชอบมองภาพนี้  ต่างจากคนที่มายืนกอดอกมองเหตุการณ์อยู่ข้างๆ

"ฉันจะไม่ถามนะ  ว่าคุณทำอะไรเจ้านายฉัน"  เธอพูด  เสียงราบเรียบ  หากดวงตาปรากฏแววตักเตือนอยู่ในที  ทิฟฟานี่ขมวดคิ้ว  ท่าทีไม่ยอมรับคำกล่าวหา  "ฉันขอเตือนอะไรไว้อย่างนะคะ  เจ้านายของฉันไม่เหมือนคนอื่นที่คุณรู้จัก  จะทำอะไรก็ระวังด้วย"

"ฉันเป็นคู่หมั้นของเธอ"

ยุนอาพยักหน้า  แต่สีหน้าไม่เห็นว่านั่นมันสำคัญตรงไหน  "ต่อให้แต่งงานกันแล้วก็เถอะค่ะ  คุณไม่มีสิทธิ์บังคับให้เธอทำอะไรที่เธอไม่ยินยอม"

"ฉันไม่ได้ขืนใจ --"

"ไม่จำเป็นต้องบอกฉันค่ะ  เรื่องนั้น"  คุณที่ปรึกษาบอก  "เจสสิก้าเป็นอัลฟา  เช่นเดียวกับคุณ  แปลว่าอะไรนั้น  คุณรู้ดี  ถ้าคุณสนใจพอ"

ทิฟฟานี่ขมวดคิ้ว  ยุนอาไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด  ไม่ว่าจะก่อนหรือหลังตื่นขึ้นมาจากสภาพเจ้าหญิงนิทรา  ปากร้ายยังไงก็ยังเหมือนเดิม  น่ากลัวอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น

"ฉันว่า  เราไปทางนี้กันดีกว่าค่ะ  ฉันมีเรื่องอื่นต้องทำอีกเยอะ"

"ทำไมถึงต้องเก็บสเปิร์มของ...เอ่อ  เจ้านายคุณไว้ด้วย"  เธอถาม  เลี่ยงไม่เอ่ยชื่อนั้น  รู้สึกกระดากปากแปลกๆ  แม้จะเพิ่งเห็นมันมาด้วยสองตาเมื่อราวครึ่งชั่วโมงที่แล้ว  ยุนอายังไม่ตอบ  และก้าวขายาวมากอย่างไม่แคร์ว่าใครจะตามทันหรือไม่

"คุณ --"

"มันเป็นเรื่องภายในของเรา  ซึ่งคุณจะมีสิทธิ์สอบถามได้ต่อเมื่อแต่งงานกับเธอ"  ยุนอาตอบเสียงเย็น  นัยน์ตาสีฟ้าน้ำแข็งตวัดมองคนถาม  บอกเป็นนัยว่าไม่ยินดีพูดเรื่องนี้อีก 

ทิฟฟานี่ไม่ชอบใจเลย  แต่รู้ดีว่าไม่มีประโยชน์จะหัวเสียตอนนี้  "คุณจะให้ฉันมาดูอะไร  แล้วทำไมสมิธถึงมาเตร็ดเตร่แถวโกดังฉันได้"

"แทยอนขอร้องให้ฉันทำ"

"แทยอน?"

"หมายถึง  เราติดกล้องเอาไว้และเฝ้าดู  เมื่อพบสิ่งผิดปกติเราจะมา  ไม่ได้แทรกแซงคนของคุณ"  ยุนอาชี้แจง  แต่ไม่ได้ทำให้ทิฟฟานี่รู้สึกดีขึ้นเลย 

"คุณมีหน้าที่ทำอะไรกันแน่  ยุนอา  สอดส่องฝูงอื่นไปทั่วหรือ"

"มันเป็นงานของสมิธ  เราเป็นผู้พิทักษ์"

นั่นสินะ  ทิฟฟานี่อุทานในใจ  ลืมเรื่องนี้ไปสนิท  ในโลกของชิฟเตอร์  สมิธเป็นเสมือนทหาร  ตำรวจ  หรือผู้พิทักษ์ตามที่ยุนอากล่าวอ้างจริง  แต่ก็อีกนั่นแหละ  ไม่มีใครชอบตำรวจหรือทหารหรอก  หากไม่ต้องการความช่วยเหลือ

"หากคุณเกลียดเรา  มันเป็นสิทธิ์ของคุณค่ะ"  ยุนอาพูดอย่างรู้ทัน

ทิฟฟานี่กลอกตา  ผลักความรู้สึกไม่พอใจออกไปขณะเดินเคียงกับผู้ที่เดินเข้ามาภายในโกดังของเธอด้วยท่าทางราวกับเป็นเจ้าของมันเสียเอง  แต่คงไม่ต่างอะไร  หากแทยอนให้สิทธิ์เขาถือกุญแจเข้ามา  การแต่งงานทำให้ยุนอาหรือคริสตัลเดินเข้าออกแลนดอนได้โดยไม่จำเป็นต้องติดบัตรผู้มาเยือนเหมือนคนอื่นๆ  ยกเว้นเธอจะปลดแทยอนออกจากการเป็นรองหัวหน้าฝูงหรือผู้จัดการบริษัทซึ่งมันแทบเป็นไปไม่ได้เลย  เธอต้องการแทยอน  แลนดอนต้องการ   และยุนอารู้ดี  เช่นเดียวกับเจสสิก้า  หรือกระทั่งคริสตัลที่เหมือนจะไม่สนใจอะไร  นอกจากคอยโอ๋พี่สาว  เอาใจภรรยา  เลี้ยงลูกฝาแฝด  --  เป็นเด็กอายุ 18 มันดีขนาดนี้เลยหรือไง

"หวังว่าคุณคงจำได้บ้าง" 

เสียงยุนอาลากความสนใจของทิฟฟานี่คืนกลับมาสู่ห้วงเวลาปัจจุบัน  เธอพยายามทำเป็นไม่เห็นร่างสูง 6 ฟุตที่มายืนอยู่อีกด้าน  บดบังไม่ให้เธอเห็นอีกคนที่ขับรถ  BMW i8 มาด้วยกัน  เธอไม่เคยรู้สึกว่าคริสตัลตัวใหญ่เกะกะมากเท่านี้มาก่อนเลย

ประตูตู้คอนเทนเนอร์สีแดงซีดถูกเปิดออกตามคำสั่งของยุนอาซึ่งมีอำนาจไม่ต่างจากผู้บัญชาการทหารชั้นสูงสุดของสภาสูง  แม้ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นจริงจะเป็นเมสัน  จอง  สมิธ  เพราะตัวเขาอยู่แอฟริกาจึงให้อำนาจทั้งหมดที่จำเป็นต้องใช้กับยุนอาที่เป็นทั้งลูกสะใภ้และหัวหน้ารักษาความปลอดภัยทางทหารในโลกของชิฟเตอร์  หวังว่าแทยอนคงไม่ได้ลืมเรื่องหรอกนะ

แสงสลัวภายในตู้ขนาดเท่ากระบะท้ายของรถบรรทุกสิบล้อ  แสดงให้ ทิฟฟานี่เห็นร่างของผู้ที่ถูกขังอยู่ในกรงประหนึ่งสัตว์ป่าดุร้าย  เขาเป็นชายหนุ่ม  สูงพอกันกับคริสตัล  แต่บึกบึนกว่านิดหน่อย  คงเพราะคุณชายสมิธยังเป็นเด็กชายวัยสิบแปดปีที่หนวดเพิ่งขึ้น  --  เด็กตัวควายมากเลยทีเดียว

"จำเขาได้ไหม"  ยุนอาถาม  ไม่เชิงเร่งเร้าแต่ตักเตือนคนเผลอเหม่อ

ทิฟฟานี่ขมวดคิ้ว  หรี่ตาลงพยายามปรับโฟกัสให้กับดวงตาหมาป่าในแสงสว่างอันจำกัด  ภาวนาอย่างลับๆ ในใจว่าอย่าให้เป็นใครในครอบครัวหรือญาติของเธอเลย  ให้เหตุผลที่ยุนอาเรียกเธอมา  เพราะที่นี่เป็นที่ของเธอเท่านั้น

"ใช่คนของคุณไหม"

ทิฟฟานี่สั่นศีรษะ  "คุณให้แทยอนดูเขาหรือยัง  บางทีฉันอาจจะจำได้ไม่หมด"

ยุนอาพยักหน้า  "แทยอนเช็กกับระบบทะเบียนของฝูงคุณแล้ว  ไม่มีเขาอยู่ในนั้น  ฉันกำลังให้คนของฉันเช็กด้วยว่า  เขาอยู่ในฐานข้อมูลอาชญากรในโลกของเราหรือไม่  บางทีอาจต้องเช็กกับของพวกมนุษย์ด้วย"

ผู้ฟังฮัมรับรู้  แม้จะไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัว  เธอก็ต้องยอมรับว่ายุนอาทำงานในหน้าที่ของเขาได้ดีมาก  แทยอนด้วย  ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงเป็นการโง่เง่ามาก  หากจะปลดแทยอนออกจากตำแหน่ง  ไม่ว่าจะด้วยความเป็นห่วงว่าคุณแม่ที่มีลูกซึ่งยังไม่หย่านมถึงสองคนให้เลี้ยงดูจะเหน็ดเหนื่อยเกินไปที่ต้องทำงานถึงสองแห่ง  หรือเธอไม่อยากให้ใครเอาความสัมพันธ์พิเศษมาแทรกแซงฝูงของเธอทางแทยอนก็ตาม  การมีสมิธเป็นแบ็กให้  จริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้แย่อะไรนักหรอก  พวกเขาแอบช่วยพี่สาวฝาแฝดของเธอบ่อยมาก  ไม่อย่างนั้น  สเตฟานี่จะยังหายตัวเหมือนพวกล่องหนแบบนี้ได้ยังไง  เธอไม่เชื่อเลยว่ายุนอาหรือคริสตัลไม่เคยเจอพี่ของเธอ  บางทีการออกตามหาสเตฟานี่ของเจสสิก้า  ก็อาจเป็นแค่การแสดงเท่านั้น

"เขาอาจเป็นคนของฝูงอื่น"  ยุนอาพูด 

"หรืออาจเป็นพวกไม่มีสังกัด"  ทิฟฟานี่เสริม  พลางเหลือบมองผู้ต้องสงสัยในกรง  "คุณสอบสวนเขาหรือยัง  แล้วคุณจะเอาเขาไปไหน"

"สถานีในสภาสูง  แต่หลังจากที่คุณสอบสวนเขาแล้ว  ถ้าคุณสนใจ"

"บางทีเขาอาจแค่เป็นหัวขโมย  ฉันขอถามคนของฉันก่อนละกัน"

"เชิญค่ะ"  ยุนอาบอก  เดินห่างไปรวมตัวกับคริสตัลและเจสสิก้าที่อยู่อีกด้านของห้อง  ทิฟฟานี่เดินไปอีกทาง  เธอเหลือบมองไปทางนั้น  แม้เจสสิก้าจะไม่หันมาทางเธอเลยสักนิด  เธอเห็นแค่ศีรษะด้านหลังของจ่าฝูงสมิธที่ยืนพิงไหล่น้อง (ชาย)  แขนยาวของคริสตัลโอบเอวพี่สาวอย่างปกป้อง  หรืออีกนัยคือ  แสดงความเป็นเจ้าของ  ถ้าไม่ใช่พี่น้องกัน  เธอคงคิดไปแล้วว่า  สองคนนี้เป็นแฟนกัน  หรือสามีภรรยา

"เฮ้  ฟานี่"

ทิฟฟานี่ละสายตาจากกลุ่มของสมิธไปหาเจ้าของเสียงที่เรียกขาน  เธอพบยูริที่โผล่มาจากด้านหลังของโกดัง

"ฉันอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว  ถ้าเธอจะถาม"  ยูริบอก  มองผ่านหัวหน้าของตนไปยังกลุ่มคนนอกที่เข้าออกได้ราวกับคนใน  "ใหญ่โตชะมัด  และไม่ใช่แค่ขนาดตัวหรอกนะ"

ทิฟฟานี่สั่นศีรษะ  ไม่อยากเอ่ยถึงเรื่องนี้ให้หงุดหงิดใจตัวเอง  "สรุปมันเป็นยังไง  เขาเป็นใคร  แค่โจรเฉยๆ  หรือมีอย่างอื่นด้วย"

ยูริยังไม่ตอบในทันที  ดึงทิฟฟานี่ไปให้ห่างจากคนอื่นๆ  ไม่เว้นแม้แต่คนของตัวเอง  "โกดังนี้เราไม่ได้ใช้มานานแล้ว  ฉันแทบจะจำมันไม่ได้ด้วยซ้ำ  ถ้าไม่มีสัญลักษณ์ของบริษัทเราติดอยู่  และแทยอนยืนยันว่ามันเป็นของเรา"

"ถ้างั้นเขาเข้ามาทำไม"  ทิฟฟานี่ถาม  แปลกใจกับอาการระมัดระวังเกินปกติของที่ปรึกษาของตัวเอง

"คนของเราเจอยาเสพติด  โชคดีที่เราเจอก่อนสมิธจะโผล่มา"

"ไม่ใช่กัญชานะ  เราส่งออกมันอยู่แล้ว"

"ไม่ใช่  ฉันคิดว่ามันเป็นโคเคน"

"โคเคน?"

ยูริพยักหน้าจริงจัง  "นายนั่นอาจเห็นว่าที่นี่ว่างอยู่  เลยมาขอใช้"

"หรือใส่ร้ายเรา"  ทิฟฟานี่ว่า  สบตากับอีกฝ่ายที่บอกว่าคิดไม่ต่างกัน  "ถ้างั้นเราควรบอกพวกเขา"

"ไว้ใจ?"

หัวหน้าฝูงพยักหน้า  "มากกว่าเจ้าคนที่อยู่ในกรงนั่นแล้วกัน"

ยูริยักไหล่  "นึกว่าหลงผัวเหมือนยายแท"

ทิฟฟานี่ยิ้ม  ส่ายหน้าไปมา  "ฉันไม่แก้ตัวให้แทหรอกนะ  แต่ผัวที่ว่านั่นน่ะ  ก็ทำให้เราสะดวกดีไม่ใช่หรือไง"

"โอ  เธอหลอกใช้พวกเขา"

"อย่าเสียงดังไปสิ"

ยูริยกมือปิดปากที่ยิ้มเจ้าเล่ห์พอกับประกายในดวงตา

"ไม่ได้หลอกใช้  แค่ใช้งานตามสิทธิ์"

"โอ  ใช่สิ  ตามกฎหมายแล้ว  ยายแทใช้ผัวได้เต็มที่เลยนี่นา  มีลูกด้วย  เงินก็ได้  อะไรก็ได้  แหม  ฉลาดจริงๆ  เพื่อนฉัน"

"ฉันจะฟ้องแทนะ  เธอแอบนินทาเขา"

"อย่ามา  เธอก็ชอบ"

ทิฟฟานี่สั่นศีรษะ  รอยยิ้มยังติดอยู่  "ฉันกลัวแทบตาย  กลัวสเตฟเป็นคนทำ  คงไม่เกี่ยวกับเขานะ"

"ไม่รู้สิ  เธอให้พวกนั้นจัดการละกัน  ถ้าเป็นไปได้ก็เอานายนั่นไปที่อื่น  ไปสอบสวนกันที่อื่น  ฉันจะเคลียร์ที่นี่  ยกเว้นว่าพวกเขาจะขอค้น"

"เรายังมีสิทธิ์จะไม่ให้ค้นได้อยู่นี่  ใช่ไหม"

"ตราบใดที่พวกเขาไม่ได้ถือหมายค้นของตำรวจซีแอตเทิลมา  หรือใช้อำนาจพิเศษของผู้พิทักษ์จากสภาสูง"  ยูริตอบเป็นการเป็นงาน  ทิฟฟานี่ฮัมรับ  จะเดินกลับไปคุยกับยุนอา  แต่เสียงคำถามด้านหลังก็รั้งเธอไว้

"ฉันเห็นเธอมากับเจสสิก้า  แต่หล่อนวิ่งจู๊ดเลย  มีอะไรกันเหรอ"

"ไม่มี"  ทิฟฟานี่โกหก  ขืนเธอเปิดปากบอกใคร  มีหวังได้ถูกตัดลิ้นแน่  และเธอยังไม่อยากตายก่อนลูกสาวจะโตด้วย  โดโรธีจะอยู่ยังไง  ถ้าเธอไม่อยู่  เธอไม่มีวันปล่อยให้ลูกสาวอยู่กับแครีนหรือสเตฟานี่ (ที่มีสิทธิ์ดูแลหลานตามกฎหมายไปจนกว่าจะครบ 18 ปี) ตามลำพังแน่นอน

"มีแต่พูดไม่ได้มากกว่า"  ยูริพูด  มีแววล้อเลียนในน้ำเสียง  "ช่างเถอะ  ขอแค่เธอไม่หลงหล่อนเหมือนยายแทหลงผัวเด็กก็พอ"

"ฉันจะฟ้องแทยอนแน่  ยูล"  เธอว่า  ยูริลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ  เดินย้อนกลับไปทางด้านหลังโกดังกับคนของพวกเธอบางส่วน 

ทิฟฟานี่ถอนหายใจเมื่อระลึกได้ว่าจะต้องทำอะไรต่อ  แต่เธอเหนื่อย  และอยากกลับบ้านไปเจอลูกสาวเต็มทีแล้ว  จึงจำใจต้องไปเผชิญหน้ากับสมิธอีกครั้ง  ความคิดที่จะสบตาเจสสิก้าอย่างเต็มตาแทบไม่มีอยู่ในหัวเลย 

เธอไม่เข้าใจเจสสิก้า  และอาจไม่มีวันเข้าใจเลยก็ได้  จ่าฝูงสมิธคล้ายจะปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ทุกรูปแบบ  แม้ร่างกายจะแข็งแรงดีทุกอย่าง  ปกติเสียยิ่งกว่าปกติ  ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ต้องใช้ทิชชู่ทั้งกล่อง  และอาจจะต้องเสียค่าล้างรถให้ด้วย  ดีแค่ไหนแล้วที่รถไม่คว่ำ  หากเธอไม่ระลึกได้ก่อนว่ามีคนรออยู่ที่บ้าน  ก็อาจทำอะไรเพี้ยนๆ ไปมากกว่านั้นแล้วก็ได้ 

ถึงอย่างนั้น  การเป็นหมันหรือไม่เป็น  ไม่ได้อยู่ที่การตอบสนอง  หรือแน่นิ่งไม่กระดุกกระดิก  มันเป็นเรื่องที่หมอเท่านั้นจะบอกได้  ซึ่งในที่นี้ยุนอาคงจะรู้ดีที่สุด  และไม่มีทางจะปริปากบอกเธอเป็นอันขาด  --  เจ้าเสือบ้า!

"คุณเอาเขาไปได้เลย  หวังว่าคุณคงไม่ต้องตรวจที่นี่ด้วย"  ทิฟฟานี่บอกกับยุนอา  พยายามไม่มองสองพี่น้องที่ตัวติดกันอย่างไม่เกรงใจใครทั้งสิ้น  แต่เธอรู้ว่าเจสสิก้าใช้ความเป็นเด็กหนุ่มตัวโตของคริสตัลเป็นโล่ให้ตัวเองอยู่  ไม่ต่างจากครั้งนั้นที่ถีบเธอตกเตียงและวิ่งแจ้นไปนอนกับน้อง  หากไม่เกรงใจ  เธอคงแนะนำให้เจสสิก้าไปปรึกษาจิตแพทย์แล้วละ

"โอเคค่ะ"  ยุนอาขานรับ  ดีดนิ้วสั่งให้คนของสมิธจัดการตามแบบที่ได้รับการฝึกฝนมา  ไม่นานผู้ต้องสงสัยก็ถูกเคลื่อนย้ายไปยังรถของนักรบสมิธที่จอดรถอยู่ด้านนอกโกดัง  และนำต่อไปยังสถานที่ที่คล้ายสถานีตำรวจของเหล่าชิฟเตอร์ซึ่งมีสภาสูงเป็นผู้ดูแลหลัก  มีเจ้าหน้าที่จากหลายฝูงมาทำงาน  แต่ระดับหัวหน้าหรือพวกผู้ปฏิบัติการพิเศษจะเป็นคนจากสมิธเสียส่วนใหญ่  เพราะสมิธเป็นนักรบโดยสายเลือด

"อ้อ  เดี๋ยวฉันไปส่งคุณนะ  ไม่ได้เอารถมาใช่ไหม"

ทิฟฟานี่เลิกคิ้ว  มองหน้าคุณที่ปรึกษาสมิธอย่างแปลกใจ  แต่ไม่นานก็เข้าใจได้  เมื่อคริสตัลถูกพี่สาวจูงมือเดินนำไปแล้ว  คริสตัลโยนกุญแจรถให้ยุนอาซึ่งรับมันไว้ได้อย่างง่ายดาย

"มาค่ะ  เดี๋ยวโดโรธีจะรอนาน"

"จริงๆ ฉันรอให้ยูริเลิกงานแล้วกลับกับเขาก็ได้นะ"

"ไม่ได้ค่ะ  เจ้านายฉันสั่ง" ยุนอาตอบ  ผายมือเชิญอีกฝ่ายอย่างสุภาพ  ทิฟฟานี่กลอกตา  นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธอไม่เข้าใจ  เจสสิก้าคล้ายจะไม่สนใจเธอ  แต่ก็ไม่ใช่  หรือมันเป็นแค่หน้าที่  เพื่อไม่ให้มีใครว่าได้ว่าเป็นคู่หมั้นประสาอะไร

"เจ้านายของฉันชอบคุณนะ"

ทิฟฟานี่เลิกคิ้ว  ละสายตาจากวิวข้างทางมามองคนขับที่ทำลายความเงียบลงด้วยคำพูดแปลกๆ 

"เธอไม่เคยมีแฟน  ไม่เคยชอบใคร  ชีวิตของเธอมีแต่เรียน  ทำงานให้ฝูงและครอบครัว  ดังนั้นคุณควรให้เวลาเธอหน่อย"

"ผิดแล้ว  เจสสิก้าใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อรักคุณต่างหาก"

ยุนอาสั่นศีรษะอย่างไม่ยอมรับ  ซึ่งทิฟฟานี่ก็ส่งเสียงในลำคอกลับไป

"พวกคุณได้ทุกอย่างไปหมดแบบที่สเตฟพูดจริงๆ"

"เพราะแบบนั้นพวกคุณถึงอยากให้เรารู้จักความสูญเสียบ้างสินะคะ"

"คุณพูดอะไร --"

"ไม่มีอะไรหรอกค่ะ  ฉันแค่นอนไม่พอ  ลูกสาวกวนทุกคืน  ฉันมีเวรเลี้ยงเขา  --  โอ้  เรารีบกลับกันดีกว่าค่ะ  ป่านนี้เขาคงตื่นแล้ว"

ทิฟฟานี่รู้สึกถึงการปฏิเสธหรือหลบเลี่ยงไม่ตอบคำถามเธอในน้ำเสียงของยุนอา  และรู้ว่าต่อให้ง้างปาก  คุณที่ปรึกษาสมิธก็ไม่บอกอะไรเธอ

"ฉันไม่เข้าใจความสัมพันธ์ของพวกคุณสามคน"

"เราเป็นครอบครัวที่มีความสุขค่ะ"  ยุนอาตอบ  "เรารักกัน  ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น  ความรักมีพลังมากกว่าที่คุณคิดนะคะ  และถ้าคุณสังเกต  คริสตัลเปลี่ยนไปมาก  ไม่ใช่แค่รูปลักษณ์  นิสัยเขาดีขึ้น  รับผิดชอบมากขึ้น  ซึ่งต้องขอบคุณแทยอนของคุณที่พาฝาแฝดมาให้เรา"

"แต่ทฤษฎีนี้คงใช้ไม่ได้กับเจ้านายของคุณสินะ"

"บางทีเจสซี่อาจจะเป็นพวก A sexual  ก็ได้นะคะ"

"ไม่ได้สูญเสียสมรรถภาพทางเพศ  แต่ไม่ได้โหยหามันน่ะเหรอ  อยากแค่จับมือแฟนแล้วหลับไปด้วยกันหรือไง"

"ค่ะ  ถ้าเป็นแบบนั้น  คุณจะรับได้ไหมล่ะ"

ทิฟฟานี่ตอบไม่ได้ในทันที  เธอก็ไม่ใช่พวกที่โหยหาอะไรแบบนั้นจนขาดไม่ได้  แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ต้องการมันเลย  หากจะว่าไปเธอก็ไม่ได้มีใครอีก  นับตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นกับแครีนจนมีโดโรธี  เธอก็ไม่รู้สึกว่ามันจะต้องมีเหมือนกัน  แทบลืมไปแล้วด้วยว่า  ความรู้สึกอยากแตะต้องคนที่รักเป็นยังไง  ถ้าไม่มียายผู้หญิงที่มีแนวโน้มว่าจะเป็น  A sexual  เข้ามาในชีวิต

"แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ  พวกคุณยังมีลูกกันได้  ถึงจะไม่มีเพศสัมพันธ์กัน  หลังแต่งงาน  ถ้าสิ่งที่ฉันทำอยู่สำเร็จ"

"คุณทำอะไร"  ทิฟฟานี่ถาม  และตอบมันด้วยตัวเอง  "คุณคงไม่บอกฉันสินะ  อะไรๆ ของพวกคุณก็ดูเป็นความลับไปหมดเลยนะ  สมิธ"

"คุณเข้าใจถูกแล้วค่ะ"  ยุนอาตอบ  นัยน์ตาสีฟ้าสนใจถนนเบื้องหน้ามากกว่าคู่สนทนา  ทิฟฟานี่สั่นศีรษะ  เหนื่อยสมองจะหาคำพูดมาโต้ตอบกับคนฉลาดพูด  ฉลาดหลบเลี่ยงแบบนี้

"แต่ฉันเอาใจช่วยคุณนะ  ทิฟฟานี่"

ทิฟฟานี่ไม่อยากยิ้มเลย  แต่เธออาจจะหลงกลความกวนประสาทของยุนอา  ฟอร์ด (สมิธ) ไปแบบที่แทยอนชอบเอามาบ่นให้ฟังก็ได้

"ขับรถไปเถอะค่ะ"  เธอพูด  แสดงความเอือมระอาออกไปแต่ไม่รู้จะสำเร็จแค่ไหน  ถึงอย่างนั้น  เธอก็แน่ใจว่าเจ้าเสือกวนประสาทมันยิ้มอยู่นะ

...............................................

เจสสิก้านั่งพิงหมอนใบโตกับหัวเตียงอ่านหนังสือนิยายสืบสวนสอบสวนของนักเขียนคนเดียวกับที่เขียนแฮร์รี่  พอตเตอร์ขณะที่คริสตัลเดินเข้ามาพร้อมกับหลานชายซึ่งพยายามต่อรองให้กินนมจากขวดอยู่

"แทยอนรบกับแคลร์อยู่  รอยุนกลับมา  ฉันเลยต้องพาครูซหลบภัยมานี่ก่อน"  คริสตัลชี้แจง  ขมวดคิ้วใส่ลูกชายที่ผลักขวดนมออกจากปากแทบร่วงลงพื้น  "ครูซ  อย่าดื้อสิลูก  คุณแม่ไม่ว่างไงครับ  อยู่กับป๊าก่อนไม่ได้เหรอ"

"เอาเขามานี่  คริส"  สมิธผู้พี่เอ่ย  ทนดูหลานโกรธจนหน้าดำหน้าแดงไม่ได้  ครูซกับคริสตัลชอบทะเลาะกัน  อาจเพราะพวกเขาเหมือนกันเกินไป

"เธอชอบดุเขา  เขาไม่ชอบกินนมขวด  เธอก็รู้"

"เจเนี่ยเลย  ตัวตามใจเขา"  คริสตัลว่า  แทบจะโยนลูกชายให้พี่สาวไปเลย  ถ้าเจสสิก้าไม่ตวัดสายตามาขู่เสียก่อน  พอครูซกับขวดนมพ้นจากตัวแล้ว  ก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงกว้างขวางนุ่มสบายของพี่สาว  เตรียมตัวจะหลับเพราะฤทธิ์ยาที่กินไป  ถ้ามือเล็กๆ ของลูกชายไม่ตีหน้าเธอเสียก่อน

"ครูซ!"

"คริส  อย่านะ"  เจสสิก้าร้องห้าม  "ครูซก็อย่าไปทำป๊าสิลูก  โธ่เอ๊ย"

"เจเอาไปเลยก็ได้นะ  ยกให้  ไม่เอาละ  ไม่เลี้ยง"

"คริส  ห้ามพูดแบบนี้เด็ดขาดนะ  ลูกเธอจะเสียใจ"

"เขาไม่สนใจหรอก  หน้าฉันจะแหกทุกวัน  เพราะเขาเนี่ยแหละ"

"แล้วมันแหกไหมล่ะ  เธอไม่เป็นอะไรอยู่แล้วถึกจะตายไป  ทนหน่อย"

"ไม่เอาละ  อย่ามายุ่งกับป๊านะ  ครูซ  อยู่กับป้าเจไปเลย"  คริสตัลว่า  นอนหันหลังให้ลูกชาย  พลางเอาหมอนมาปิดศีรษะ  อาการปวดกระดูกทำให้เธอหงุดหงิดกว่าปกติ  เป็นเหตุหนึ่งที่ยุนอาต้องเป็นเวรช่วยแทยอนดูแคลร์ตอนกลางคืนแทนเธอ 

เจสสิก้าสั่นศีรษะ  มองพ่อกับลูกสลับกันไปมา  ครูซมองเธอคล้ายอยากจะฟ้องอะไรสักอย่าง  เขาชี้นิ้วไปทางคริสตัล  ใบหน้ากลมๆ ของเขาก็ไม่แดงแบบตอนเข้ามาครั้งแรกแล้ว  นัยน์ตาสีฟ้าของเขาใสแจ๋ว  ดูซื่อบริสุทธิ์มาก  ถ้าไม่เห็นกับตาว่าเขาเพิ่งจะตีหน้าน้องของเธอไปดังเพียะ  ก็คงไม่เชื่อเลยว่าเขาจะทำแบบนั้นได้

"ไงล่ะ  ป๊าไม่คุยด้วยแล้ว  เหงาเลยใช่ไหม"  เธอถาม  ครูซทำหน้างงๆ อยู่ครู่หนึ่งก็เริ่มจะเบะปาก  น้ำตาคลอเบ้า  "ไปกอดสิ  ป๊าก็อยู่ตรงนั้นไง  ไม่ได้ทิ้งหนูหรอก  ไปสิ"

ครูซมองเธออย่างลังเล  ไม่ถึงนาทีเขาก็คลานไปหาคริสตัล  ทิ้งทั้งตัวลงไปบนแผ่นหลังของคุณพ่อ  แขนน้อยๆ สองข้างพยายามจะกอดปะป๊าอย่างที่เธอบอกให้ทำ  ทั้งน่ารักและน่าสงสาร  หากเธอนั่งมองโดยไม่พูดอะไร  รอดูว่าคริสตัลหรือครูซจะทำยังไงต่อไป  สักพักก็ได้ยินเสียงครูซเรียกพ่อของเขา  เสียงเล็กๆ แหลมๆ  ออดอ้อนแบบที่เธอเคยได้ยินบ่อยๆ   คริสตัลยังนอนนิ่งอยู่  เธอก็อยากจะรู้ว่าเขาจะทนทำใจร้ายกับลูกชายได้สักแค่ไหน  และพอครูซร้องแงทีเดียวเท่านั้น  คริสตัลก็พลิกตัวมาจับลูกไปกอด  ขอขวดนมจากเธอไปใส่ปากให้ครูซที่เงียบแทบจะทันที  คริสตัลจูบศีรษะเล็กๆ ของเขา  ครูซหลับตาสงบ  ดูเหมือนจะหลับคาขวดนมไปแล้วด้วย  บทจะเลี้ยงง่ายก็ง่ายขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อเลย  แบบนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่าเด็ก

"ลูกๆ ของฉันทำให้พี่เข็ดขยาดจนไม่อยากมีเองเหรอ"  คริสตัลถาม  นอนคว่ำตาปรือจะหลับแหล่มิหลับแหล่อยู่ข้างลูกชาย  มือหนึ่งช่วยครูซจับขวดนมเอาไว้  จริงๆ แล้วข้างในขวดนมก็เป็นนมแม่ที่แทยอนปั้มเอาไว้ให้ลูกๆ  เผื่อเวลาฉุกเฉินแบบนี้  แต่ครูซแค่โกรธที่แคลร์งอแงร้องไห้หายุนอาจนเขาไม่ได้อยู่กับแม่  แล้วเขาก็ไม่ชอบกินนมจากขวดด้วย  ถ้าเลือกได้

"ฉันมีไม่ได้  คริส"  เจสสิก้าพูด  เสียงไม่ดีจนคริสตัลต้องถ่างตาขึ้นมามองหน้าพี่สาวอย่างเป็นห่วง 

"ทำไมเจพูดงั้นล่ะ  เจเป็นหมันเหรอ  ยุนว่าไงบ้าง"

"ก็ไม่เชิง  ฉันแค่ท้องเองไม่ได้  เธอน่าจะเข้าใจ"

คริสตัลอ้าปากค้างไปหนึ่งนาทีก่อนครางอืม  พยักหน้าหงึกหงัก  ขยับมางับพุงลูกชายเบาๆ อย่างมันเขี้ยว  ครูซตีศีรษะเธออัตโนมัติทั้งที่เหมือนจะหลับไปแล้วแท้ๆ 

"เธอเองก็ชอบไปแกล้งเขา"

"ก็เขาน่ารัก  ดูพุงเขาสิ  เจ้าอ้วนเอ๊ย"

"เธอก็หุ่นแบบนี้แหละ  ตอนอายุเท่าเขา"

"อา  งั้นเขาก็จะโตขึ้นเป็นบิ๊กแมนสินะ  แต่ตอนนี้เป็นเจ้าอ้วนไปก่อน  แม่แทชอบ  ป๊าก็ชอบเหมือนกัน"

เจสสิก้าสั่นศีรษะยิ้ม  มองคริสตัลเอาหน้าแนบพุงกลมๆ ครูซ  ใช้เขาแทนหมอน  "หัวเธอโตกว่าตัวเขาอีก  คริส  เดี๋ยวเขาก็อึดอัด  อ้วกนมใส่หัวเธอเหมือนวันนั้นหรอก"

คริสตัลทำปากบึนอย่างนึกขึ้นได้  ขยับมานอนหนุนหมอนแทน  พลางยกขวดนมออกจากปากครูซที่ปล่อยมันทิ้งเพราะหลับไปแล้ว  เช็ดปากให้เขา

"แทยอนให้ของขวัญวันเกิดชิ้นใหญ่กับฉัน  สองชิ้น  อยู่ตรงนี้ชิ้นหนึ่ง"

"นึกไม่ถึงเลยนะ  ว่าเธอจะพูดแบบนี้"

"ฉันก็นึกไม่ถึง  เจ" 

สองพี่น้องมองหน้ากัน  เจสสิก้ายิ้มอย่างเข้าใจว่าคริสตัลอยากจะพูดอะไรกับเธอ  "ฉันจะมีพวกเขา  คริส  รอให้ฉันหาแม่ให้พวกเขาได้ก่อนนะ"

"แล้วพี่ฟานี่ล่ะ  เจ  ฉันชอบเขานะ"

"ฉันจะแต่งงานกับฟานี่  แต่จะไม่ให้เขาท้องให้หรอก"

"อ้าวทำไมล่ะ"

"เพราะมันตลกน่ะสิ"  เจสสิก้าตอบ  หน้าตาจริงจัง  เอาหมอนตีหน้าคริสตัลที่ยิ้มล้อเลียนเธอ  "เดี๋ยวฉันปลุกครูซมาแกล้งเธออีกนะ"

"ไม่เอา  เจ  ปล่อยเขานอนไปแหละดีแล้ว  ฉันจะได้อ้อนเจบ้าง"

"ไปอ้อนแทยอนกับยุนอาของเธอโน่น  อย่ามายุ่งกับฉัน"

"งั้นต่อไปฉันไม่ช่วยเจแล้วนะ  ถ้าพี่ฟานี่ --"  คริสตัลเงียบทันทีที่พี่สาวทำหน้าตางอนๆ ใส่  เธอชะโงกหน้าไปหอมแก้มเจสสิก้าฟอดใหญ่ๆ  พี่สาวที่ชอบทำตัวเหมือนเด็กเวลาพวกเธออยู่ด้วยกันสองคนก็คว้าหนังสือเล่มเดิมมาอ่านต่อ  และตัวเธอพิงแทนหมอนเสียเลย

"ถ้าเจหัดอ้อนพี่ฟานี่แบบนี้บ้างก็ดีนะ  พี่เขาจะได้ดีใจ"

"เงียบ  ไม่งั้นฉันปลุกครูซนะ"  เจสสิก้าขู่  ย่นจมูกนิดๆ  แอบยิ้มพอใจเมื่อคริสตัลจูบแก้มเธอ  และปล่อยให้เธอนั่งพิงอกอ่านหนังสือนิยายสบายใจโดยที่ตัวเขาหลับแข่งกับครูซที่คงไม่มีพิษมีภัยไปพักใหญ่ๆ   


.................................................


 :61: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

09 ตุลาคม 2017 เวลา 10:46:29
 :21:  :20: เจ โดนรีดน้ำ ต้องฟ้องน้องเลยเหรอ ฟานี่พักนี้พี่แกแปลกๆนะ  :43: :68: ออกจะหวงๆหื่นๆพิกล  :68: :57:

06 ตุลาคม 2017 เวลา 00:51:30
เจเป็นอะไรถึงท้องเองไม่ได้ เจท้อง ฟานี่เอาใจคงน่ารักมากก อยากอ่านทุกวันเลยย

05 ตุลาคม 2017 เวลา 21:14:47
 :58: พวกสมิธนี่ หามีปกติกันไม่ได้เลย เจท้องไม่ได้เมียเก่าฟานี่ก็มีให้ท้องแทนไปดิถ้านางยอม  :21: ตอนนี้มาเร็วกว่าที่คิดนะเนี่ย ขอบคุณที่มาลงนิยายนะคะ :22:
แสดงความคิดเห็น