โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 01 ตุลาคม 2017 เวลา 08:12:32
อ่าน: 459
|
กระเป๋าถูกวางลงที่โต๊ะนั่งประจำเมื่อการสอบวิชาสิ้นสุดลงพร้อมกับเสียงพูดคุยของคนในโต๊ะที่ต่างพากันเคร่งเครียดกับข้อสอบเทอมสุดท้ายที่จะเป็นตัวชี้วัดถึงอนาคตอันใกล้ที่กำลังจะมาถึง "ฉันรู้สึกสิ้นหวังยังไงบอกไม่ถูก" กาญจนาเอ่ยหน้าเศร้าก่อนจะหันหน้าไปทางเพื่อนสาวคนสนิทที่ดูจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อนกับการสอบในครั้งนี้สักเท่าไหร่ "เป็นแกนี่ก็ดีนะไม่ต้องอ่านก็ทำได้" "ฉันไม่ได้บอกว่าทำได้เสียหน่อย" "ถ้าอย่างแกทำไม่ได้พวกฉันก็ตกกันหมดแล้วล่ะ" สุดาพูดเสริมด้วยน้ำเสียงเซ็งๆ ก่อนจะพับเก็บหนังสือที่ถูกกางบนโต๊ะลงกระเป๋าจนหมด "พอได้แล้วเราควรที่จะหาทริปฉลองกันดีกว่ามานั่งเซ็งอยู่แบบนี้" "นี่แกหายเครียดง่ายจังนะ" "คิดมากไปก็ปวดหัวเปล่าๆ มาส่งท้ายการเรียนด้วยความสนุกสนานดีกว่า" "เอางั้นเหรอ" "เอาแบบนี้แหละว่าแต่เราจะไปไหนกันดีล่ะ" คนต้นคิดเอ่ยด้วยดวงตาทอประกายให้คนที่นั่งอยู่ด้วยอีกสองคนได้ใช้ความคิดตามก่อนจะเป็นกาญจนาที่เสนอบ้านพักของตัวเองที่หัวหินให้คนงบน้อยได้พากันพยักหน้ารับโดยไม่ต้องมีการพูดคุยปรึกษา "งั้นตกลงไปหัวหินกันนะ" "เยี่ยมเลย" "ฝันแกว่าไง" "ฉันยังไงก็ได้" เพียงฝันเอ่ยยิ้มๆ ก่อนที่สายตาจะเลื่อนไปจับจ้องยังใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที "สวัสดีค่ะพี่แพมคนสวย" สุดาเอ่ยเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่แทบจะฉีกถึงรูหูใครๆ ก็รู้ว่าเจ้าตัวปลื้มคนที่เพิ่งมาถึงมากแค่ไหนและมันก็ยิ่งเป็นโอกาสเหมาะเพราะคนๆ นี้คือพี่สาวแท้ๆ ของเพื่อนรักนั่นทำให้เธอได้รับความเอ็นดูมากกว่าใครคนอื่น "สวัสดีค่ะเด็กๆ ทำข้อสอบกันได้มั้ยคะ" มาติกาเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะหยุดมันลงไว้ที่คนสำคัญที่กำลังทำหน้าอ้อนมองมายังตัวเอง "ทำหน้าแบบนี้จะให้พี่ตีความหมายว่ายังไงได้ล่ะเนี่ย" พี่สาวคนสวยเอ่ยอย่างรู้ทันก่อนจะดึงตัวคนอ้อนเข้ามากอดให้คนในโต๊ะได้เกิดอาการอิจฉากันเป็นแถวและยังมีความอยากรู้อีกว่ากอดนี้จะอบอุ่นมากสักแค่ไหนกันนะ "แล้วอีกสองสาวล่ะคะทำได้หรือเปล่า" ความสนใจถูกเปลี่ยนไปยังอีกสองคนในโต๊ะให้สุดาได้นึกอยากอ้อนคนสวยบ้างหากแต่ใบหน้าก็ต้องเจื่อนลงเมื่อถูกสายตาข่มขู่จากคนขี้หวง ตั้งแต่ปีหนึ่งถึงปีสี่ที่รู้จักกันมากาญจนาไม่เคยลดความหวงพี่สาวในตัวลงเลยโดยเฉพาะกับเธอที่มักจะถูกจิกจนตัวพรุนเวลาที่เข้าใกล้พี่สาวสุดรักสุดหวงคนนี้แต่จะมีแค่เธอคนเดียวที่โดนหนักก็คงจะไม่แปลกเพราะเพียงฝันไม่ได้มีอาการอย่างเช่นเธอแม้แต่นิดเดียว เพื่อนคนนี้นิ่งมาก มากจนในบางครั้งก็แทบจะแยกไม่ออกว่าคนหรือก้อนหิน "อย่าไปถามพวกมันเลยค่ะหน้าแบบนี้ถ้าไม่ตกก็ผ่านแค่คะแนนสองคะแนนเท่านั้นแหละ" "ไอ้ฝันมันก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดนั้นหรอกนะ" "ฉันว่าให้แกต่างหาก" "นี่แก?" "เอาล่ะๆ อย่าเพิ่งเถียงกันเลยนะคะไม่ถามเสียหน่อยเหรอว่าพี่มาทำไม" มาติกาจัดการแยกคนสองคนออกจากกันก่อนจะชี้ชวนให้หันมาสงสัยในประเด็นที่ถูกต้อง "นั่นสิคะว่าแต่พี่แพมมาทำไมคะหรือว่ามาจีบใครแถวนี้" น้องสาวขี้หวงเอ่ยด้วยท่าทางระแวงให้คนถูกจับผิดได้หัวเราะออกมาอย่างนึกขำก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งใกล้ๆ กับใครอีกคนที่เธอยังไม่ได้ยินเสียงของเขาเลยตั้งแต่ย่างเท้าเข้ามา หากไม่รู้จักกันมาก่อนเธอคงคิดว่าคนๆ นี้ไม่หูหนวกก็คงจะเป็นใบ้แน่ๆ แถมเพียงแค่เธอหย่อนตัวไปนั่งใกล้ๆ ก็ถูกอีกฝ่ายมองด้วยสายตาตำหนิเสียแล้ว แต่มันก็เป็นเพียงแค่นั้นเพราะเพียงไม่กี่วินาทีความสนใจของมาติกาก็กลับไปยังน้องสาวที่ยังคงทำท่าขู่สุดาไม่เลิก "ตกลงจะฟังที่พี่พูดมั้ย" "ฟังคะฟัง?" คู่กัดหันมามองเจ้าของประโยคเชื้อเชิญตาแป๋วให้มาติกาได้เปิดยิ้มเอ็นดูก่อนจะส่งมันเลยไปยังคนข้างๆ ที่หันมาให้ความสนใจกับเธอเช่นกัน "วันนี้ว่างก็เลยจะมารับพวกเราไปฉลองกันไง" "ฉลองเหรอคะ" "ก็ใช่น่ะสิ สอบวันสุดท้ายแล้วไม่ใช่เหรอ" "ว๊าวววว ยอดไปเลยจะได้กินข้าวกับพี่แพมด้วย" สุดาเอ่ยด้วยท่าทางเป็นปลื้มหากแต่รอยยิ้มก็ลดลงเพราะดวงตาคู่พิฆาตที่ตวัดมองมาให้ได้ขนลุก "ไม่เอาน่ะพลอยอย่าขู่น้องดาแบบนั้นสิ" "ไม่ได้หรอกค่ะคนแบบนี้ต้องจัดการก่อนที่มันจะก่อเรื่อง" "ฉันนี่นะจะก่อเรื่อง" "ก็ใช่น่ะสิถ้าไม่ใช่แกแล้วจะเป็นใครไปได้" "จะมากไปแล้วนะฉันคนเดียวที่ไหนไอ้ฝันก็นั่งอยู่นั่นไปจิกมันบ้างสิ" "ฉันเกี่ยวอะไรด้วย" เพียงฝันเอ่ยเสียงหลงเมื่ออยู่ๆ ก็ถูกใครอีกคนโยนเรื่องมาให้หากแต่ดูเหมือนการโต้เถียงของพวกเธอจะทำให้คนเป็นประเด็นนึกชอบใจจนหลุดหัวเราะออกมาในหลายๆ ครั้งและก่อนที่เรื่องจะบานปลายมาติกาก็ต้องฉุดตัวน้องสาวขี้หวงให้มานั่งใกล้ๆ ตัวเอง "พอแล้วเราหยุดหาเรื่องเพื่อนได้แล้ว" "ก็มัน?" "ถ้าไม่หยุดพี่จะกลับแล้วนะ" ได้ผลเมื่อประโยคข่มขู่จบลงให้กาญจนาได้หยุดการหาเรื่องลงก่อนจะหันมาทำท่าอ้อนพี่สาวต่อ "ดีมากงั้นไปรถพี่เลยก็แล้วกันนะคะ" เจ้ามือเอ่ยเสนอพร้อมกับคำตอบที่ลุกขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันในทันทีหญิงสาวเปิดยิ้มขึ้นอีกครั้งก่อนจะเดินนำไปยังพาหนะที่จะพาไปฉลองความสำเร็จ ในที่สุดวันที่น่ายินดีนี้ก็มาถึงให้นึกดีใจและเป็นปลื้มไปด้วยและจากนี้ไปก็จะเป็นการเริ่มต้นใหม่ในอีกรูปแบบหนึ่งที่ใครหลายๆ คนเฝ้ารอมานานรวมทั้งเธอด้วย เธอก็เฝ้ารอความสำเร็จที่น่ายินดีของคนที่รักในวันนี้ด้วยเช่นกัน
มาติกาจ้องมองน้องสาวและเพื่อนรักทั้งสองด้วยความเอ็นดูในครั้งแรกที่ได้เจอกันเธอก็ยังคงสภาพเป็นรุ่นพี่ปีสี่คอยให้คำปรึกษาน้องสาวที่เริ่มเหยียบย่ำเข้าปีหนึ่งในรั่วมหาวิทยาลัยโดยมีพ่วงท้ายเป็นเพื่อนใหม่ที่ดูจะเข้ากันไวเหลือเกินและตั้งแต่วันนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนมีน้องสาวเพิ่ม คนหนึ่งร่าเริงส่วนอีกคนก็ดูนิ่งๆ หากแต่ก็ดูจริงใจไม่แพ้ใครคนอื่น "วันนี้เราจะเมากันให้สุดขั้วไปเลย" มาติกามองน้องสาวสุดแสบของตัวเองอย่างขำๆ พร้อมกับยกเครื่องดื่มที่วางอยู่เบื้องหน้าขึ้นมาจิบเพราะจากท่าทางของแต่ละคนที่เห็นเธอควรจะมีสติให้มากที่สุด การพูดคุยของคนเมาดูจะไม่มีสาระมากเท่าไหร่แต่แล้วประเด็นหลังก็มีเธอเข้าไปเกี่ยวข้องอีกจนได้เมื่อมันคือการไปเที่ยวพักสมองที่น่าสนใจและทำให้เธอนึกอยากที่จะไปด้วย "พี่แพมไปด้วยกันนะคะ" กาญจนาหันไปส่งสายตาอ้อนให้กับพี่สาวที่น่าจะเป็นสปอนเซอร์ให้กับเด็กจบใหม่อย่างเธอและเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี "อยากให้พี่ไปด้วยหรือหวังอย่างอื่นกันแน่" การถูกรู้ทันทำให้คนคิดแผนได้แต่เปิดยิ้มเจื่อนๆ ก่อนที่มันจะฉีกกว้างขึ้นหลังจากถ้อยคำถูกใจดังออกมา "ไปก็ได้อยากได้อะไรเพิ่มก็บอกมาแล้วกัน" สปอนเซอร์รายใหญ่เอ่ยเสียงดังให้คนทั้งโต๊ะได้เฮสมใจก่อนจะหันมาชนแก้วกันเพราะรู้สึกสบายกระเป๋าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เวลาผ่านไปล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืนให้สองคนที่ไม่ยอมแพ้ต้องยกดวนกันแก้วต่อแก้วโดยมีกรรมการอย่างเพียงฝันคอยนั่งเฝ้าจับแยกเวลาที่ทั้งสองแยกเขี้ยวใส่กัน เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เริ่มรู้จักกันจนมาวันนี้ทุกอย่างก็ยังไม่เปลี่ยนไป เป็นมิตรภาพที่ต้องลุ้นและจับตาอยู่ตลอดเวลาจริงๆ "พี่ขอนั่งด้วยคนสิ" มาติกาเอ่ยขึ้นหลังจากที่ถูกน้องสาวแท้ๆ ไล่ให้ย้ายมานั่งอีกฝั่งหนึ่งเพียงเพราะเธอถูกสุดาส่งยิ้มหวานมาให้ เพียงฝันเขยิบตัวเปิดพื้นที่ว่างให้คนขอได้นั่งก่อนจะหันไปมองคนสองคนที่จ้องจะกินหัวกันเพียงหากว่าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดกระพริบตา "ยัยพลอยนี่ขี้หวงจริงๆ" พี่สาวคนสวยเอ่ยบ่นน้องสาวตัวเองให้คนข้างๆ ได้นึกเห็นด้วยและคงลำบากใจไม่น้อยหากคนที่ถูกเขม่นเป็นตัวเองเพราะอย่างเธอคงจะสู้รบปรบมือกับคนขี้หวงไม่ไหวแน่ๆ "อย่าดื่มเยอะสิคะ" คราวนี้คนพูดเลือกใช้น้ำเสียงที่อ่อนลงพร้อมกับดวงตาคู่หวานที่เปลี่ยนเป้าหมายมายังบุคคลใหม่ที่ถึงกับชะงักไปเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้ดังขึ้นที่นี่ เพียงฝันหันไปมองเจ้าของเสียงนุ่มอย่างแปลกใจก่อนจะทำตามความต้องการของใครอีกคนอย่างว่าง่ายให้คนพูดได้เปิดยิ้มสวยขึ้นมาให้ได้เห็น "ว่าง่ายแบบนี้สิคะเด็กดีของพี่" มาติกาพูดขึ้นก่อนจะเอื้อมมือไปซ้อนทับมือของเด็กดีที่ทำให้ตัวเองพอใจเพียงฝันเป็นเด็กว่าง่ายเป็นมาแบบนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกันจนมาวันนี้เขาก็ยังเหมือนเดิมนั่นก็คือเป็นเด็กดีที่อยู่ในโอวาสของเธอ...
ในค่ำคืนนี้จบลงด้วยการแยกย้ายกลับโดยมีมาติกาแวะส่งเป็นคนๆ ไป ดวงตาคู่กลมโตปิดลงพร้อมกับรอยยิ้มเศร้าเมื่อภาพของใครคนหนึ่งลับตาไปทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์คือเรื่องเดิมๆ ที่ฉายซ้ำราวกับหนังเรื่องเก่าที่ถูกเปิดขึ้นทุกวันซึ่งสำหรับใครหลายๆ คนอาจจะนึกเบื่อที่จะดูแต่สำหรับเพียงฝันมันคือเรื่องดีๆ ที่เธออยากจะให้มันเกิดขึ้นในทุกครั้งที่ลืมตาและแม้กระทั่งหลับตาเธอก็หวังที่จะเปิดหนังเรื่องนี้ต่อไปเรื่อยๆ มันคือความสุขที่แม้จะมีไม่เท่าคนอื่นแต่สำหรับเธอมันมีค่ามากและอยากที่จะรักษามันไว้ให้นานที่สุด ซึ่งกฎในการรักษามีอยู่เพียงข้อเดียวนั่นก็คือจะต้องไม่มีใครรู้ในเรื่องนี้ มันคือความลับที่ห้ามแพร่งพรายอย่างเด็ดขาด!!!
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|