web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 371
Most Online Ever: 440
(28 เมษายน 2024 เวลา 03:05:22 )
Users Online
Members: 0
Guests: 129
Total: 129

ผู้เขียน หัวข้อ: จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 13  (อ่าน 1212 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ ลำเนา

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 68
จะร้ายหรือจะรัก ตอนที่ 13
« เมื่อ: 30 ธันวาคม 2013 เวลา 10:45:22 »
ตอนที่ 13

นิมาขยับตัวเล็กน้อย หลังจากสองชั่วโมงผ่านไปที่ต้องนั่งนิ่งๆ ใช้หน้าตักแทนหมอนสำหรับคนที่นอนหลับอยู่ เริ่มรู้สึกปวดขาขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าขยับมากนักเกรงว่าคนที่หลับอยู่จะตื่นขึ้น ใบหน้าที่ปนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มเล็กๆ ที่เพิ่งปรากฏทำให้นิมายิ้มด้วยเช่นกัน

“เมื่อยหรือคะ” ทองทิพย์พูดขึ้น พร้อมกับลืมตาขึ้นมาจ้องมองดวงตาคู่สวยของนิมาที่กำลังจ้องมองเธอยู่เช่นกัน

“นิดหน่อยค่ะ ขอโทษที่ทำให้ตื่น” นิมายิ้มแหยๆ เพราะเธอไม่ได้บอกไปตามตรงว่าที่จริงนั้นเธอรู้สึกเมื่อยอยู่มากพอสมควร ทองทิพย์ลุกขึ้นและยกขาทั้งสองข้างของนิมามาพาดไว้กับหน้าตักของเธอ

“เดี๋ยวนวดให้ค่ะ ทิพย์ออกกำลังกายค่อนข้างเยอะ เลยรู้วิธีนวดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดจากอาการเมื่อยล้าได้บ้าง” ทองทิพย์เริ่มทำอย่างที่บอก

นิมานั่งยิ้มเมื่อเห็นคนที่เพิ่งตื่นนอนกุลีกุจอช่วยนวดขาให้เธอและกำลังเลยไปจนถึงปลายเท้า

“ที่เท้าไม่ต้องก็ได้ค่ะ” นิมารีบพูดทันที

“นั่งอยู่เฉยๆ ค่ะ รับรองได้ว่าหายเมื่อยแน่ๆ” ทองทิพย์แกล้งพูดดุนิมา

“พอแล้วค่ะ ดีขึ้นแล้ว เก่งเหมือนกันนะคะ” นิมาบอกขอบคุณพร้อมคำชม

“น่าจะให้รางวัลสักหน่อยนะคะ” ทองทิพย์อมยิ้ม

“เดี๋ยวพาไปทานอาหารอร่อยๆ ให้เป็นรางวัลค่ะ” นิมาบอก

“ไม่อยากทานค่ะ”

“งอแง” นิมานึกขำที่พูดดุทองทิพย์เหมือนดุเด็กตัวเล็กๆ คนที่ทำหน้าจ๋อยมองเธออยู่ดูแปลกๆ ไป ทองทิพย์เข้าสวมกอดนิมาจนกระทั่งต้องล้มตัวลงนอนไปบนเก้าอี้รับแขกตัวยาว โดยมีร่างกายของทองทิพย์ทาบทับอยู่บนเรือนร่างของนิมา

“เวลาอยู่ใกล้นิ่มแล้วทิพย์รู้สึกดี” ทองทิพย์พูดและเบียดตัวให้แนบชิดกับตัวของนิมาที่กำลังค่อยๆ สวมกอดเอาไว้ด้วยอยากปลอบ
โยน เพราะเธอรู้สึกว่าทองทิพย์กำลังอ่อนแอกับบางเรื่องซึ่งเธอไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอะไร หากแต่ว่าตัวเธอเองก็รู้สึกดีดีไปไม่น้อยกว่าทองทิพย์ที่
ได้ทำหน้าทีปลอบประโลมด้วยอ้อมกอดหลวมๆ ทองทิพย์ยังคงขยับและเบียดตัวเข้าหาตัวของนิมาอีกเล็กน้อย

“นิ่มไม่รู้ว่าที่ทิพย์หายไป ทิพย์ไปเจออะไรมา เข้มแข็งไว้นะคะ นิ่มเชื่อว่าทิพย์จะผ่านมันไปได้” นิมาปลอบโยนทองทิพย์พร้อมกับจูบเบาๆ ไปที่ศีรษะที่มีผมสีน้ำตาลเข้มของทองทิพย์

“ทิพย์บอกตามตรง ทิพย์ไม่แน่ใจว่าจะผ่านมันไปได้ค่ะ”

“ก็แค่อกหัก” นิมาพูดขึ้นมาลอยๆ เป็นการเรียบๆ เคียงๆ เผื่อว่าทองทิพย์จะยอมพูดอะไรออกมาบ้าง

“รู้ได้อย่างไรคะ ว่าอกหัก” ทองทิพย์ถามและพยายามเบียดตัวเองเข้าหาอ้อมกอดของนิมาให้มากขึ้นอีก

“ล้อเล่นค่ะ อย่าบอกนะว่าเป็นเรื่องจริง” นิมากอดกระชับทองทิพย์ไว้

“นิ่มเคยรักใครมากๆ ไหม แต่พอมาวันหนึ่งเขาก็หมดรักเรา แล้วก็ขอแยกทาง มันทรมานมากเลยนะคะ แล้วก็คิดว่าตัวเองจะลืมได้ แข็งแกร่งพอที่จะไปพบเขาอีกครั้ง แต่พอได้พบมันกลับรู้สึกแย่กว่าตอนที่เขาจากเรามาเสียอีก” ทองทิพย์กำลังเริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งนิมายังไม่ค่อยเข้าใจนัก

“เคยสิคะ ตอนเรียนมหาวิทยาลัย ก็อาการคล้ายๆ ที่ทิพย์เป็นอยู่ แต่โดนเพื่อนรุมด่าจนต้องพาตัวเองกลับมาตั้งใจเรียน เพื่อนนิ่มคนหนึ่งบอกว่า ทำไมต้องเอาความสุขกับอนาคตมาทิ้งอยู่กับคนๆ เดียวด้วย โอกาสยังมีสำหรับคนเราเสมอ ปล่อยเรื่องที่ผ่านไปให้มันเป็นอดีต ตอนนั้นก็ไม่ค่อยคล้อยตามเท่าไหร่ คิดแค่เพียงว่าใครไม่เจอกับตัวก็คงไม่รู้สึกเหมือนอย่างที่นิ่มรู้สึก แต่พอเวลาผ่านไปได้สักพักก็มา
นึกขอบคุณเพื่อนที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้” นิมายิ้มเมื่อนึกถึงเรื่องราวในช่วง เวลาหนึ่งของชีวิตเธอ

“ทิพย์ไม่มีใครที่จะพาทิพย์ผ่านมันไปได้ นอกจากตัวทิพย์เอง”

“ทิพย์จะผ่านมันไปได้ เริ่มต้นด้วยการหันกลับมาดูแลตัวเอง นิ่มอยากเห็นรอยยิ้ม อยากเห็นสาวสวยขับเจ้ามดดำคันยักษ์ไปไหนมาไหน อยากเห็นทองทิพย์เวลากวนๆ ถึงแม้จะร้ายไปบ้างก็ยังดีกว่าที่เป็นอยู่ในตอนนี้ อีกสองวันพี่ของเราสองคนก็จะแต่งงานกันแล้ว ทิพย์ก็ต้องเป็นน้องสาวที่สวยที่สุดของเจ้าบ่าวในวันงาน ถ้าเลือกได้นิ่มคงเลือกที่จะทำให้คนในครอบครัวมีความสุขนะคะ” นิมายิ้มมองสบตากับคนที่เงยหน้าขึ้นมามองสบตากับเธอ

“นิ่มกับคุณนาเป็นพี่น้องกันจริงๆ หรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ถามขึ้นก่อนที่จะแนบแก้มทาบทับไปบนหน้าอกของนิมาอีกครั้ง เสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะอย่างสม่ำ เสมอของนิมาทำให้เกิดความรู้สึกดีดีขึ้นในหัวใจของทองทิพย์

“คลานตามกันมาเลยค่ะ” นิมาอมยิ้มเมื่อได้พูดถึงพี่สาวของเธอ

“แล้วทำไมคนละนามสกุล” ทองทิพย์ถาม

“ตอนเด็กๆ นิ่มป่วยบ่อย จนพ่อกับแม่กลัวว่าลูกสาวจะเป็นอะไรไปค่ะ จึงหาแก้เคล็ดเหมือนคนโบราณเขาคิดกัน ด้วยการยกนิ่มให้เป็นลูกของลุงกับป้าซึ่งก็เลยใช้นามสกุลของลุงกับป้ามาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ถามแบบนี้มีอะไรหรือเปล่าคะ” นิมารู้สึกสงสัย

“ก็ถามดูค่ะ นิ่มกับคุณนานิสัยใจคอเหมือนกันหรือเปล่าคะ”

“ไม่แน่ใจค่ะ อาจจะเหมือน หรือไม่เหมือนนิ่มก็ไม่แน่ใจนัก แต่คนเราก็คงต้องเป็นตัวเองจะเหมือนคนอื่นคงเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะมีอะไรคล้ายๆ กันในบางเรื่อง คนที่เป็นฝาแฝดก็ยังนิสัยไม่เหมือนกันเลยใช่หรือเปล่าคะ ว่าแต่ว่ามาซักประวัติแบบนี้คิดอะไรอยู่” นิมาพูดน้ำเสียงเรียบๆ

“ก็อยากรู้จักให้มากขึ้น อยากรู้ว่าทำไมพี่ทัดถึงได้รักคุณนามากมายขนาดนั้น ก็เท่านั้นเองค่ะ” ทองทิพย์พูดน้ำเสียงเรียบๆ เช่นกัน

“ท่าทางทิพย์ไม่ค่อยชอบพี่นานะคะ” นิมาถามเพราะเธอเริ่มรู้สึกอย่างนั้น

“เคยบอกตอนไหนกันคะ ว่าไม่ชอบคุณนา”

“ดีเลย เริ่มตอบกวนๆ ท่าทางจะเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้วนะคะ ไปทานข้าวกันดีกว่า จะพาไปทานอาหารไทยอร่อยๆ รับรองได้ว่าเจริญอาหารแน่ๆ” นิมาอมยิ้มเมื่อได้ยินประโยคกวนๆ เล็กๆ ที่ทองทิพย์พูดขึ้นก่อนหน้านี้

“ตกลงชอบคนกวนๆ หรือคะ” ทองทิพย์ยิ้มอยู่ในอ้อมกอดของนิมา

“อย่ามากนักก็แล้วกัน นิ่มก็โมโหเป็นเหมือนกันนะคะ” นิมาหัวเราะเล็กๆ ที่ได้พูดขู่คนที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ

“ทิพย์เป็นคนชอบกวนใจเสียด้วยสิคะ แต่จะไม่พยายามไปกวนโมโห เดี๋ยวนิ่มไม่รักขึ้นมาอีกคน ทิพย์คงตายแน่ๆ” ทองทิพย์พูดจบก็รีบลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมกับส่งรอยยิ้มกวนๆ ให้นิมา

“เดี๋ยวก่อนเคยบอกตอนไหนว่า รักคะ” นิมายิ้มอายๆ กับคำถามของตัวเอง

“แอบได้ยินหัวใจข้างในบอก แนบหูฟังอยู่ตั้งนาน ค่อนข้างชัดว่ากำลังตกหลุมรักอยู่” ทองทิพย์หัวเราะกับหน้างอๆ ของนิมา ซึ่งแกล้งทำหน้างอไปอย่างนั้นเอง เสียงหัวเราะกับรอยยิ้มที่สดใสของทองทิพย์ต่างหากที่ทำให้เธอรู้สึกดี

“แหมนอนหลับเต็มอิ่ม ยังเริ่มกวนได้ขนาดนี้ เดี๋ยวได้ทานอาหารอร่อยๆ คงกวนจนนิ่มโมโหแน่ๆ ไม่พาไปทานดีกว่านะคะ แบบนี้” นิมาแกล้งพูดขู่

“นิ่มน่ารัก คงจะไม่ใจร้ายกับคนที่ผอมซูบซีดแบบนี้แน่ๆ ใช่หรือเปล่าคะ” ทองทิพย์ขยับเข้าใกล้และจ้องใบหน้าอันสวยงามได้รูปของนิมาจนทำเอาหัวใจเริ่มจะเต้นไม่เป็นจังหวะ

“ไม่ต้องยื่นหน้ามาใกล้ขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ไปอาบน้ำก่อนนะคะ จะได้สดชื่นขึ้น ยิ้มออกแล้วนี่ น่าจะเริ่มอยากทานอาหารขึ้นมาบ้างแล้วแน่” นิมาผลักทองทิพย์เบาๆ ให้ขยับออกจากตัวเธอ

“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่เป็นห่วง” ทองทิพย์จูบเบาๆ ไปที่แก้มซึ่งไม่ห่างจากริมฝีปากเรียวบางสวยของนิมามากนัก

“บอกเฉยๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้อง”

“บอกเฉยๆ นิ่มก็ไม่รู้สิ ว่าทิพย์อยากขอบคุณมากขนาดไหน” ทองทิพย์ยิ้มกวนๆ ให้นิมา

“ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ นิ่มชักหิวแล้ว”

“ขี้เกียจอาบ ไปอาบให้หน่อยได้ไหมคะ” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้น

“ดื้ออีกแล้วนะคะ ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” นิมาทำเสียงดุดุ ทองทิพย์อมยิ้มและกำลังจะไปอาบน้ำตามที่นิมาคะยั้นคะยอ

“ขอกอดก่อน ทิพย์ชอบนิ่มนะ ชอบมาก” ทองทิพย์กระซิบบอกกับนิมาก่อน ที่จะไปอาบน้ำ สิ่งที่ทองทิพย์กระซิบบอกทำให้นิมานิ่งไปชั่วขณะมองตามคนที่เดินเข้าไปในห้องนอน นิมาไม่คิดว่าทองทิพย์จะบอกเช่นนี้กับเธอ หัวใจไม่รู้ว่ามันรู้สึกอย่างไร แต่รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นในหัวใจของเธอโดยไม่รู้ตัว นิมายังคงนั่งยิ้มกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินทองทิพย์บอกกับเธอไปเมื่อสักครู่

“นิ่มก็ชอบทิพย์” นิมารำพึงกับตัวเอง

สองสาวเดินทางมาถึงร้านอาหารซึ่งนิมาบอกกับทองทิพย์ไว้ว่าเป็นร้าน อาหารไทยที่ทองทิพย์จะต้องชอบ ทองทิพย์เห็นชื่อร้านก็ยิ้มออก เพราะชื่อของร้านก็ทำให้รู้สึกได้ถึงความเป็นไทย ร้านถูกตกแต่งให้คงความเป็นไทยไว้ค่อนข้างมากโดย เฉพาะรูปภาพจำนวนมากมายที่ตกแต่งอยู่ในบริเวณร้าน

“พุทธรักษา ชื่อร้านเพราะดีนะคะ” ทองทิพย์หันมาบอกนิมาพร้อมด้วยรอย ยิ้มสวยๆ เมื่อได้นั่งลงที่โต๊ะที่พนักงานพาเธอทั้งสองเข้ามานั่ง

“สองที่หรือคะ คุณนิ่ม” พนักงานของร้านถามนิมาซึ่งยิ้มให้พร้อมกับพยักหน้าแทนคำตอบ

“ขอบคุณนะคะ” นิมาบอกขอบคุณพนักงานของร้านหลังจากได้สั่งอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทองทิพย์ทำหน้าตาสงสัยเพราะท่าทางนิมาจะคุ้นเคยกับร้านนี้ดี ถึงขนาดที่ว่าพนักงานของร้านรู้จักเลยทีเดียว

“นิ่มคงมาทานบ่อยมากนะคะ พนักงานถึงได้รู้จักและคุ้นเคยมากขนาดนี้” ทองทิพย์ถามขึ้น

“ก็ร้านนี้แหละค่ะ ที่จะเป็นสถานที่ฉลองงานแต่งงานของพี่ทัดกับพี่นาซึ่งสองคนนั้นชอบร้านนี้มากค่ะ และร้านนี้ก็เป็นของเพื่อนนิ่มเอง ได้มาทานบ่อยๆ ค่ะ ยิ่งเวลาพบปะสังสรรค์เพื่อนสมัยเรียนที่นี่ก็จะเป็นสถานที่ที่รวมพลเพื่อนๆ บางทีก็จะมาเจอกันโดยมิได้นัดหมายค่ะ” นิมาอมยิ้มเมื่อได้บอกเล่าเรื่องราวของตัวเองและกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอ ทองทิพย์ก็ยิ้มไปกับการบอกเล่านั้น เพราะดวงตาที่ส่องประกายของ นิมาแสดงออกว่ารู้สึกมีความสุขที่ได้พูดถึงกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอ อาหารถูกยกออกมาวางที่โต๊ะ กลิ่นหอมๆ ของอาหารที่ถูกนำออกมาทำให้ทองทิพย์รู้สึกหิวขึ้นมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้สึกอยากทานอาหารมากนัก

“ทิพย์นี่แย่นะคะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย รู้แต่ว่าชักหิว อาหารหน้าตาน่าทานและหอมมากเลยค่ะ” ทองทิพย์นึกขอบคุณคนที่พาเธอมาที่ร้านนี้อยู่ในใจ

“เชิญเลยค่ะ ถ้าไม่ชอบละก็ เดี๋ยวจะพาคนทำอาหารมาให้ทิพย์ต่อว่าได้เลย แต่ถ้าชอบละก็ชมเสียหน่อยนะคะ” นิมาหัวเราะเล็กๆ เมื่อนึกถึงรักษาซึ่งเป็นทั้งคนทำอาหารและเจ้าของร้าน

“คงต้องชมมากกว่านะคะ เพราะถ้านิ่มพามาทาน แถมพี่ทัดยังเลือกเป็นสถานที่ฉลองงานแต่งงาน แทนที่จะเป็นโรงแรมหรูๆ ร้านนี้ก็คง
จะไม่ธรรมดาแน่ๆ อีกอย่างร้านก็ตกแต่งได้สวยมากค่ะ” ทองทิพย์แสดงความชื่นชมด้วยความจริงใจ

“สวัสดีค่ะ” เสียงทักทายที่ดังขึ้นนั้น ทำให้ทั้งนิมาและทองทิพย์ต้องหยุดการสนทนาในทันที นิมายิ้มและลุกขึ้นยืน ทองทิพย์ก็เช่นกัน

“สวัสดีค่ะ คุณรัก วันนี้เจ้าของไม่มา นิ่มแอบขอกอดคุณรักได้สินะ” นิมาเข้าสวมกอดรักษาที่ก็สวมกอดนิมาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

“มาค่ะ แต่ยังมาไม่ถึง ว่าแต่ว่าไม่ได้นัดกันใช่ไหมคะ” รักษาถามขึ้นและหันไปยิ้มให้ทองทิพย์

“ค่ะ แต่ขอแนะนำก่อนดีกว่า ทิพย์คะ นี่คุณรักษาเจ้าของร้านค่ะ แล้วก็เป็นคนทำอาหารอร่อยๆ ให้เราทาน ชอบไม่ชอบล่ะก็ต่อว่าได้เลยค่ะ คุณรักคะ ทองทิพย์ค่ะ น้องสาวพี่ทัดเจ้าบ่าวของพี่นาค่ะ” ทองทิพย์ยิ้มและทักทายรักษา

“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ”

“ยินดีเช่นกันค่ะ ถ้าไม่ชอบก็บอกได้นะคะ จะได้นำไปปรับปรุงรสชาติอาหารให้ดีขึ้นค่ะ” รักษาพูดออกตัว เพราะสิ่งที่ลูกค้าบอกกับเธอจะเป็นประโยชน์มากในการปรับปรุงให้รสชาติอาหารดีขึ้นตามความต้องการ

“มีคนการันตีเยอะขนาดนี้ ทั้งนิ่ม ทั้งพี่ทัด คงต้องอร่อยมากแน่ๆ ค่ะ ทิพย์คงได้มาอุดหนุนคุณรักษาบ่อยๆ แน่ค่ะ” ทองทิพย์ยิ้มให้รักษา

“ขอบคุณนะคะ อ้อคุณนิ่ม รักมีเรื่องให้คุณนิ่มช่วย เรื่องอาหารในวันงานแต่งงานพี่นาค่ะ ขอยืมตัวคุณนิ่มสักครู่นะคะ คุณทิพย์” รักษาบอกกับทองทิพย์ ซึ่งนิมาทำท่างงๆ แต่ก็ตามรักษาเข้าไปด้านในของตัวร้านโดยไม่ได้ถามอะไร

หลังจากเดินเข้ามาทางด้านในของตัวร้าน นิมาก็ทำคิ้วขมวดมองหน้ารักษา ซึ่งยืนอมยิ้มแปลกๆ มองสบตากับเธออยู่ในขณะนี้

“เรื่องอาหารที่จะปรึกษา เป็นแค่ข้ออ้างใช่หรือเปล่าคะ” นิมารู้สึกว่ารักษาน่าจะมีอย่างอื่นที่อยากคุยกับเธอ เพราะถ้าเป็นเรื่องอาหารงานแต่งงานน่าจะโทรไปปรึกษากับพี่สาวของเธอน่าจะได้เรื่องกว่า

“ยังไงกันคะ ถึงพามาทานข้าวได้วันนี้” รักษาเริ่มถามคำถาม

“เรื่องยาวค่ะ” นิมายิ้มอายๆ กับรักษาที่ยิ้มๆ กับสิ่งที่ได้ยิน

“ระวังไว้หน่อยนะคะ เพราะเดี๋ยวไม่ใช่แค่คุณพุดคนเดียว แป้งร่ำก็มาด้วย ตอนแรกเด็กเข้าไปบอกยังคิดว่า คุณนิ่มนัดกับคุณแป้งและคุณพุดเสียอีกค่ะ” รักษาอมยิ้มเมื่อพูดถึงแป้งร่ำซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของพุทธชาดที่ชอบเหลือเกินกับเรื่องความรักของเพื่อน หากแต่ก็มีความน่ารักเพราะมีความรักและความห่วงใยด้วยความจริงใจ

“งานเข้าล่ะทีนี้” นิมารำพึงเบาๆ

“เอาไว้ค่อยคุยกัน แต่คุณทิพย์ของคุณนิ่มน่ารักนะ ไม่เห็นร้ายเหมือนที่เล่าให้ฟังเลยค่ะ สวย เซ็กซี่ ถ้าจะร้ายสักนิดสักหน่อยก็น่ารักพอได้อยู่นะคะ” รักษายิ้มที่ได้แหย่นิมา ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของเธอคนหนึ่งเช่นกัน

“เจอแค่ครู่เดียว ดูเหมือนจะออกแรงเชียร์นะคะ” นิมาพูดยิ้มๆ

“จะเชียร์ให้มากกว่านี้ ถ้าคุณนิ่มชัดเจน ว่าเธอใช่สำหรับคุณนิ่ม รักขอตัวก่อนนะคะ อยากทานอะไรเพิ่มบอกพนักงานได้เลยนะคะ อ้อแล้วเตรียมรับมือสองสาวเพื่อนรักด้วยก็แล้วกัน มีหวังคุณนิ่มต้องโดนแซวยับแน่ๆ ถ้าจะขอยืมคุณพุดไปเป็นแฟนปลอมก็ยินดีนะคะ แต่อย่าจูบบ่อยนักล่ะ บ่อยๆ รักก็ห่วงเหมือนกันนะคะ” รักษาหัวเราะเล็กๆ และขอตัวเข้าไปทำงานของเธอต่อ นิมาเดินอมยิ้มกลับมานั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับทองทิพย์ที่ยิ้มๆ อยู่เช่นกันหลังจากที่เห็นนิมาเดินอมยิ้มออกมาจนกระทั่งนั่งลงตรงหน้าเธอ

“รู้ตัวไหมว่ารอยยิ้มนิ่ม น่ารักมาก” ทองทิพย์ยิ้มเล็กๆ มองสบตากับนิมา

“ทิพย์ก็ยิ้มให้นิ่มบ่อยๆ สิ นิ่มจะได้ยิ้มให้ทิพย์บ่อยๆ” นิมามายักคิ้วแกล้งล้อทองทิพย์ที่กำลังอมยิ้มกับความน่ารักของนิมา

“ฉลาดนะคะ แต่เอไปคุยอะไรกับคุณรักมา ถึงได้ยิ้มกว้างขนาดนี้”

“ไม่บอกค่ะ เป็นความลับ” นิมายิ้มกว้างมาก และเริ่มรับประทานอาหารเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะของทั้งสองสาว ยังอยู่ในสายตาของรักษาซึ่งยิ้มไปกับนิมาด้วยในตอนนี้

“ไม่เห็นจะร้ายตรงไหน น่ารักจะตายไปค่ะ คุณนิ่ม” รักษาพูดในขณะที่กำลังมองไปที่โต๊ะของสองสาวซึ่งเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะยังคงดังอยู่เป็นระยะ




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.