web stats

ข่าว

 


หัวใจว้าวุ่น! It's complicated! - ตอนที่ ๔

โพสต์โดย: นิ้วนาง วันที่: 21 กรกฎาคม 2017 เวลา 17:08:54 อ่าน: 220



ช่วงสายยุพาขับรถโตโยต้าของตัวเอง นำรมยากรและตะวันนาไปพบกับบารมี ผู้ว่าจ้างเพื่อคุยถึงกรอบความคิดก่อนจะถ่ายแบบในวันพรุ่งนี้ ซึ่งบริษัทแห่งนี้วิจัย ผลิต และจำหน่ายยาให้แก่โรงพยาบาลหลายแห่งในราคาถูกกว่ายายี่ห้ออื่น ทำให้กิจการของครอบครัวที่เกือบจะล่มสลายกลับมาอยู่รอด แล้วเติบโตได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียงไม่กี่ปี

ทันทีที่สามคนปรากฏตัวที่ออฟฟิศของบริษัท ซึ่งเป็นอาคารสูงสิบชั้น ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าทำเลทองของกรุงเทพฯ พนักงานสาวที่รออยู่ก็ออกมาต้อนรับทันที

"เชิญค่ะ คุณบารมีรอพบพวกคุณอยู่แล้วค่ะ"
 
'อะไรจะขนาดนั้น?'

ตะวันนาเลิกคิ้วเรียวขึ้นอย่างสงสัย แต่ก็ไม่แสดงอะไรที่เป็นพิรุธออกมา ไม่เคยรู้มาก่อนว่า นางแบบจะได้รับการต้อนรับอย่างพิเศษมากขนาดนี้ ประหนึ่งไฮโซไซตี้ก็ไม่ปาน   
 
"ขอบคุณค่ะ" รมยากรกล่าวกับพนักงานต้อนรับอย่างสุภาพ

"เชิญทางนี้ค่ะ" เธอคนนั้นผายมือเชื้อเชิญด้วยท่าทีเป็นมิตร ก่อนนำแขกทั้งสามไปยังลิฟต์ เพื่อพบกับเจ้านายใหญ่ที่ชั้นบนสุดของตึก โดยส่งไม้ต่อให้เลขาฯ หน้าห้องพาแขกไปพบท่าน

บารมีลุกขึ้นต้อนรับแขกพิเศษทันทีที่เห็น เขาเป็นชายวัยสามสิบกลางๆ ผมเรียบกริบ ดูหนุ่มแน่นกระฉับกระเฉง และหล่อเหลากระชากใจสาวไม่น้อย 

"สวัสดีค่ะคุณบารมี" / "สวัสดีค่ะ" รมยากรกับยุพาทักทายเขาขึ้นพร้อมๆ กัน

"สวัสดีครับคุณรม คุณยุพา" เจ้าของบริษัทยาทักทายด้วยรอยยิ้ม ก่อนมองอย่างสงสัยไปยังสาวแปลกหน้าสวมชุดเท่ที่ยืนอยู่ด้านหลังสองสาว

"อ๋อ คุณตะวันนาเป็นบอดี้การ์ดของรมค่ะ" นางแบบสาวแนะนำตามความจริง

บารมีทำหน้าแปลกใจเล็กน้อย แล้วยิ้มกว้างออกมา

"ถ้าถึงขั้นต้องมีบอดี้การ์ดเดินตาม แสดงว่าคุณรมดังมากเลยนะครับ" เขาพูดทีเล่นทีจริง

หล่อนหัวเราะเบาๆ ในลำคอกับคำชื่นชมกึ่งป้อยอของเขา

"ยังไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ คุณบารมีให้เกียรติรมมากเกินไปแล้ว"
 
"ผมพูดจริงนะครับ" เจ้าของบริษัทส่งยิ้มที่คิดว่าหล่อที่สุดให้คนตรงหน้า ก่อนนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไป "แย่จัง! ผมเสียมารยาทมาก เชิญนั่งก่อนครับ"
 
หลังทั้งหมดนั่งที่โซฟารับแขกสีดำชุดใหญ่ โดยตะวันนายืนเยื้องอยู่ด้านหลังของรมยากรที่นั่งคู่กับยุพาตรงข้ามกับเขา บอดี้การ์สาวเลือกที่จะสอดส่ายสายตาดูของประดับรอบห้องทำงานของบารมีมากกว่า

'ได้รางวัลเยอะเหมือนกันนะเนี่ย'

เธอเห็นถ้วยรางวัลหลายใบวางเรียงในตู้โชว์ข้างหลังเขา เดาว่าบารมีมีความสามารถเรื่องปืนและกอล์ฟไม่น้อย   

"รออีกนิดนะครับ แมนกำลังเดินทางมา" เขาบอก

'แมน' ที่พูดถึงคือ ตากล้องชื่อดังของนิตยสารฉบับหนึ่งที่บารมีว่าจ้าง เพื่อรับผิดชอบงานถ่ายแบบชิ้นสำคัญนี้...เพื่อโปรโมทบริษัทยาของเขา 

"ค่ะ บังเอิญพวกเรามาก่อนเวลานัดไปหน่อย" หล่อนแก้ตัวแทนตากล้องคนนั้นด้วยเคยทำงานร่วมกันหลายหน 

"คุณรมใจดีจังเลยนะครับ" บารมีเอ่ยชมนางแบบสาว ด้วยเข้าใจเจตนาที่อีกคนพูดออกมา

"อย่าชมรมนักเลยค่ะ" หญิงสาวรู้สึกเคอะเขินที่เขาชื่นชมตนมากเกินไป...อย่างออกนอกหน้า ซึ่งแน่นอนว่ารู้เท่าทันความคิดของเขา แต่ก็ไม่กระโตกกระตากออกไป     

'สงสัยคงลืมไปจริงๆ ว่าฉันนั่งอยู่ตรงนี้อีกคน'
 
ยุพาได้แต่นั่งยิ้มตามมารยาท ปล่อยให้สองคนรับส่งขนมจีบไปตามอัธยาศัย ด้วยรู้จักจิตวิทยามากพอที่จะไม่ขัดใจลูกค้า ตราบเท่าที่อีกฝ่ายยังไม่ล้ำเส้นกับนางแบบของเธอ 

'มดขึ้นปากหรือเปล่าเนี่ย!'

ตะวันนาอดที่จะหมั่นไส้เขาไม่ได้ ที่เอ่ยปากชมรมยากรเหลือเกิน แม้ใบหน้าหล่อเหลาจะดูเป็นมิตรมีรอยยิ้มเปื้อนหน้า ทว่าเธอไม่ชอบแววตาที่เป็นประกายแวววาวของบามี ซึ่งดูคลับคลายสัตว์กินเนื้อที่ปรารถนาจะขย้ำเหยื่อจนน้ำลายหก

ในฐานะอดีตตำรวจ เธอถูกฝึกให้เชื่อในสัญชาตญาณของตัวเองที่แม่นยำมากกว่าประสาทสัมผัสทั้งห้า

'ตาพราวเหลือเกิน...สงสัยหมอนี่จะเสือผู้หญิง'

ไม่กี่นาทีต่อมา แมนก้าวเข้ามาในห้องนั้น พร้อมขอโทษทุกคนที่มาถึงช้ากว่าเวลานัด อันเนื่องมาจากการจราจรในเมืองหลวง แม้จะเผื่อเวลาไว้เป็นชั่วโมงก็น้อยเกินไปเสียแล้ว

"ไม่เป็นไรหรอก เรามาคุยเรื่องงานกันดีกว่า" บารมีชวนเข้าเรื่อง ไม่อยากให้เสียเวลามากเกินไป เกรงจะทำให้นางแบบสาวไม่พอใจ

"ครับ" ตากล้องหนุ่มทรุดตัวนั่งเก้าอี้เดี่ยว แล้วตั้งใจฟังความคิดของผู้ว่าจ้าง

เมื่อทุกคนนั่งประจำที่แล้ว บารมีกวาดตามองทั้งสามคน โดยไม่สนใจบอดี้การ์ดสาวที่เขามองว่าเป็นแค่คนนอก

"งั้นผมขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลา คือผมอยากให้คุณรมสื่อสารถึงความสุขภาพที่ดีคนไทยครับ คือช่วงนี้บริษัทจัดโปรโมทยาตัวใหม่อยู่ อยากให้กลุ่มคนไข้หรือผู้สนใจหันมาเข้าใจยาตัวนี้เยอะๆ เพราะเป็นยาที่ดีราคาไม่แพง ถ้าเทียบกับยาของบริษัทต่างชาติ"
 
"โดยใช้ชายทะเลเป็นแบคกราวน์เหรอครับ?" แมนถามบ้าง ขณะจดรายละเอียดของงานเอาไว้กันพลาด

"ครับ สุขภาพดีถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง มีเงินมากก็ใช่ว่าจะซื้อสุขภาพได้"
 
"จริงค่ะ" หล่อนพยักหน้าเห็นด้วยกันกับเขา

'คนจำนวนไม่น้อยทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อหาเงินเป็นค่ายารักษาตัวเอง เสวยสุขยามแก่เฒ่าบนเตียงคนป่วย?'...เป็นประโยคที่โดนใจแบบแสบๆ คันๆ ไม่รู้ว่าโง่หรือฉลาด   
   
"แล้วจะให้รมใส่ชุดแบบไหนคะ?" ยุพาอดที่จะถามขึ้นไม่ได้ ด้วยปกติการถ่ายชายทะเลมักเน้นชุดว่ายน้ำโชว์เนื้อหนังมังสาเป็นพิเศษ จึงจำเป็นต้องคุยกับผู้ว่าจ้างให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยให้หล่อนตัดสินใจว่าจะรับงานหรือไม่?
 
ทุกคนในห้องกวาดตามองไปที่ผู้ว่าจ้างอย่างพร้อมเพรียง   

"ถ้าเป็นชุดไหว้น้ำจะได้ไหมครับ?" บารมีเปรยขึ้นลอยๆ เหมือนถาม ก่อนพูดต่ออย่างเร็วเกรงอีกฝ่ายจะเข้าใจผิด "คือผมไม่ต้องการเน้นเซ็กซี่นะครับ หรือจะเลือกชุดเดินชายหาดแบบที่คุณรมเห็นสมควร ผมโอเคหมด"
         
"ถ้าให้รมเลือก งั้นก็ได้ค่ะ" รมยากรไม่ปฏิเสธข้อเสนอนี้ นึกโล่งใจที่ไม่ต้องถ่ายแบบโป๊เปลือยเปลืองตัว ไม่อยากให้บิดากับพี่ชายชื่นชมจนหูอื้อหูชา ประกอบกับมีความเชื่อว่า การจะเป็นนางแบบดังควรรักษาภาพลักษณ์ของตนเองไม่ให้ด่างพร้อย

...แม้ห้ามปากคนนินทาไม่ได้ แต่เรารู้อยู่แก่ใจว่าทำอะไร   

"ขอบคุณครับ" เจ้าของบริษัทยายิ้มกว้างทั้งปากทั้งตา ดูชื่นชมหลงใหลหล่อนแบบไม่ปิดบัง ก่อนหุบยิ้มทำหน้าเศร้า กล่าวเสียงอ่อยๆ  "เสียดายอย่างเดียวแค่นั้น เฮ้อ!"
 
"อะไรคะ?" คนฟังอดที่จะถามไม่ได้

"ก็ผมไม่ได้ไปดูคุณรมถ่ายรูปพรุ่งนี้น่ะสิ เสียดายสุดๆ" เขาตอบ พลางทำหน้าหงอยลงไปกว่าเดิม 

"โธ่เอ๊ย! นึกว่าเรื่องอะไร" ร่างระหงหัวเราะคิกคักในลำคอ ส่ายศีรษะ แล้วยิ้มชวนละลายออกมา คุ้นเคยกับการเกี้ยวพาราสีทำนองนี้จนเป็นเรื่องปกติ อดคิดไม่ได้ว่า ชายคนนี้ก็ไม่ต่างจากผู้ชายหลายคน ที่เห็นคนสวยไม่ได้ จะออกลวดลายทันที 

'น่าเบื่อชะมัด!'
 
หล่อนแอบบ่นอุบอิบในใจ

ขณะที่ยุพาแค่ยิ้มน้อยๆ เคยชินกับสถานการณ์ชวนอึดอัดแบบนี้ จนเป็นเรื่องปกติ   

'ตกลงหมอนี่ขายยา หรือขายขนมจีบฟ่ะ?'

ตะวันนาคิดอย่างรำคาญที่ได้ฟังคำหวานพร่ำเพรื่อของบารมี ที่หยอดนางแบบสาวเกือบตลอดเวลา ชนิดไม่เคอะเขินสักนิด ทั้งที่มีคนอื่นนั่งเป็นหัวหลักหัวตอในห้องตั้งหลายคน

หากเธอต้องอดทนฟังแบบหล่อน...แค่ไม่กี่นาทีคงฟิวส์ขาด ตั๊นหน้าคนพูดแหกไปแล้ว   

"แล้วคุณบารมีอยากให้โทนภาพช่วงเวลาไหนครับ ช่วงเช้า เย็น หรือทไวไลท์?" ตากล้องหนุ่มถามแทรกขึ้น ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หลังเห็นผู้ว่าจ้างพยายามจีบนางแบบสาวอยู่ตำตา

ชายหนุ่มรู้เบื้องหลังของบารมี ที่มีข่าวคั่วนางแบบสาวและดาราสวยมากหน้าหลายตา แม้ไม่ชอบนักกับอุปนิสัยของอีกฝ่าย แต่ไม่คิดจะทุบหม้อข้าวตัวเองกับค่าจ้างก้อนโต เขาอยากได้รายละเอียดของงานให้ครบ เพื่อจะได้ออกไปจากที่นั่นโดยเร็ว ไม่อยากเสียเวลาอันมีค่าไปกับเรื่องไร้สาระ 

...แมนมีความเป็นมืออาชีพพอ ที่จะไม่เอาความชอบส่วนตัวมาตัดสินใคร   

"แบบไหนดีนะ?" บารมีพึมพำกับตัวเอง ก่อนตัดสินใจแบบง่ายๆ แต่โยนภาระหนักให้คนทำงานไม่น้อย "เลือกแบบที่คุณคิดว่า สวยที่สุดแล้วกัน"
 
'ผมจะรู้ไหมว่า สวยของคุณเป็นยังไง...ให้ตายสิ!'

แมนสบถในใจ กลุ้มใจกับคำตอบของลูกค้าเหลือเกิน ยกมือเกาศีรษะอย่างลืมตัว   

'พูดง่าย แต่ทำยากมากนะเนี่ย'

รมยากรนึกแบบนั้น   
 
สองสาวที่นั่งฟังอยู่ก็อดที่จะหนักใจแทนตากล้องไม่ได้ ด้วยทางหล่อนไม่อยากต้องมาถ่ายรูปแก้ไขภายหลัง เพราะหมายถึงต้องเสียเวลาอีกหนึ่งวันหรือมากกว่านั้น ได้แต่นิ่งฟังว่า แมนจะรับมือกับลูกค้ารายนี้อย่างไร   

"ระบุให้แคบกว่านี้อีกหน่อยได้ไหมครับ?" ตากล้องหนุ่มอยากได้ความชัดเจน ด้วยไม่อาจอ่านความคิดของใครได้

เจ้าของบริษัทยากลอกตาไปมา

"อืม เอาภาพช่วงเช้าหรือกลางวันก็ได้ ให้ลูกค้าเห็นภาพนี้แล้วอยากมีสุขภาพแข็งแรงสดใสเหมือนคุณรม"
 
"โอเคครับ" เขาขยับมือจดข้อมูล และพยายามจินตนาการภาพตามที่ผู้ว่าจ้างอยากได้ ก่อนเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ "ผมขอตัวอย่างกล่องสินค้าที่อยากให้โปรโมทด้วยนะครับ"
 
"ได้สิ ผมบอกเลขาฯ ให้เตรียมไว้ให้แล้ว"
   
"เยี่ยมครับ" แมนชมขึ้น

"แล้วมีอะไรสงสัยอีกไหม?" บารมีถามขึ้น กวาดสายตามองหนึ่งชายสามหญิงภายในห้อง โดยแทบไม่ใส่ใจกับตะวันนาที่ยืนมองเขาเลยสักนิด 

"น่าจะไม่มีนะครับ" ตากล้องปฏิเสธ ก่อนเสนอแผนใหม่ที่เพิ่งผุดขึ้นจากสมอง "หลังผมถ่ายช่วงแรกเสร็จ จะส่งภาพถ่ายเข้ามือถือให้ชมก่อน ถ้าคุณบารมีไม่ชอบตรงไหน ช่วงบ่ายผมจะถ่ายซ่อมอีกรอบ ดีไหมครับ?"
 
"ก็ดีนะ วันเดียวจะได้เสร็จ" ผู้ว่าจ้างถูกใจข้อเสนอนี้ เขาชอบงานที่รวดเร็วทันใจ

"งั้นก็ตกลงตามนั้นนะครับ?" แมนถามย้ำเพื่อความมั่นใจ 
 
"อืม...ตามนั้น" บารมีขานรับเบาๆ ในลำคอ

'ตกลงได้ซะที...เฮ้อ!'
 
สามคนที่นั่งฟังคิดคล้ายๆ กัน โล่งใจมากมายที่บรรลุข้อตกลง มีเพียงตะวันนาที่ยืนฟังนิ่งๆ ไม่มีท่าทีผิดปกติอะไร 

"ถ้างั้นพวกเราขอตัวก่อนนะคะ" รมยากรเอ่ยขึ้นเป็นคนแรก หลังเห็นยุพาส่งสัญญาณมาให้ลากลับ หลังปิดการขายเสร็จสมบูรณ์   

"ขอบคุณที่มานะครับ" บารมีเอ่ยอย่างสุภาพกับหล่อน ยกยิ้มมุมปากเหมือนโปรยเสน่ห์กลายๆ 

"รมรู้สึกเป็นเกียรติมาก ที่ได้ทำงานนี้ค่ะ" นางแบบสาวพูดอย่างถ่อมตัว แต่ไม่ได้สะดุ้งสะเทือนกับเสน่ห์ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย หล่อนมีภูมิต้านทานกับเพศตรงข้ามเป็นอย่างดี 

'เชื่อเถอะค่ะ เสน่ห์ของคุณใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอก อย่าพยายามเลย...เหนื่อยเปล่าๆ'
 
"ผมต่างหากที่รู้สึกเป็นเกียรติ" เจ้าของบริษัทหัวเราะเขินๆ ก่อนหันไปมองตากล้องอีกครั้ง "ผมตั้งตารอดูงานชิ้นนี้นะ"
 
"ครับ" แมนรับคำ "ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ ผมจะส่งไฟล์ภาพทั้งหมดมาให้นะครับ"
 
"ดีมาก" บารมียิ้มอย่างพอใจ "ผมจะได้สั่งให้ลูกน้องเตรียมบอร์ดขนาดยักษ์ข้างตึกไว้ติดโปสเตอร์ของคุณรมโดยเฉพาะ"
 
"เอาแบบนั้นเลยเหรอคะ?" ยุพาอดที่จะตื่นตกใจไม่ได้ ไม่คิดว่าเขาจะทุ่มเทกับค่าโฆษณาขนาดนี้ คิดคร่าวๆ คงใช้งบประมาณไม่น้อยกว่าล้านบาท 

'อะไรจะขนาดนั้น...แม่เจ้า!'
 
"ใช่ครับ ผมจะได้เห็นคุณรมทุกวันเลย" เขายิ้มร่าอย่างมีความสุข

'ท่าทางจะหลงคุณนางแบบขนาดหนัก หุหุ'

ตะวันนานึกเดาใจเจ้าของบริษัทยา ที่ดูจะหน้าใหญ่ใจป้ำเจ้าบุญทุ่มเพื่อเจ้าหล่อนเหลือเกิน 

'เอ่อ...มากไปนะ'
   
รมยากรฝืนยิ้มกับความโอเว่อร์ของอีกฝ่าย ที่แสดงออกชัดจนทำให้อึดอัดใจ 

"ขอบคุณนะคะ"
 
"ยินดีครับ" บารมียิ้มกว้างเต็มหน้า นัยน์ตาเป็นประกายแวววับจับจ้องหล่อนอย่างมีความนัย 

"ไม่มีอะไรแล้ว ก็กลับกันเถอะ" ยุพารีบชวน

"หวังว่ารมจะมีโอกาสได้ถ่ายรูปโฆษณา ให้คุณบารมีอีกนะคะ" นางแบบสาวหยอดทิ้งท้ายเสียงอ่อนหวาน

"แน่นอนครับ" อีกฝ่ายรีบตอบอย่างหนักแน่นมั่นใจ   
 
หลังล่ำลาผู้ว่าจ้าง ทั้งสี่คนยกขบวนออกจากห้องนั้นอย่างพร้อมเพรียง

ตะวันนาปรายตามองบารมีแวบหนึ่งผ่านหางตา ก่อนออกไปเป็นคนสุดท้าย ทันเห็นแววตาแพรวพราวเป็นประกายที่จับจ้องแต่รมยากร จนสัมผัสได้ถึงบางอย่างมากมายในก้นบึ้งของหัวใจของเขา ซึ่งไม่ใช่แค่ความหลงใหลธรรมดา

...หากแต่เป็นความลุ่มหลงที่ดำมืดจนน่ากลัว   

'หมอนี่ไว้ใจไม่ได้'

บารมีมองประตูบานใหญ่ที่ปิดสนิทลง แล้วอดที่จะครางชื่อของผู้หญิงสวยที่เพิ่งลับสายตาไปออกมาไม่ได้     

"คุณรม...คุณรมคนสวยของผม"

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ

หนังสือจะเปิดจองปลายเดือนนี้นะคะ เฉพาะ 20 ท่านแรกจะได้รับสมุดทำมือฝีมือไรท์เป็นที่ระลึกค่ะ
สนใจตามข่าวได้ที่ เพจ นิ้วนาง นะคะ  :02:

นาง

OoXoO 


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น