Love เหมือนจะใช่ความรัก : ตอนที่ ๑๗ ซ่อนไว้
โพสต์โดย:
ลำเนา
วันที่: 20 กรกฎาคม 2017 เวลา 14:26:43
อ่าน: 402
|
ริศากลับถึงบ้านยังไม่ค่ำนัก จึงจัดการทำความสะอาดบ้านรดน้ำต้นไม้เพราะกลับมาบ้านบ้างไม่ได้กลับบ้าง แหงนมองดูต้นชมพู่มะเหมี่ยวทำให้มีรอยยิ้มกว้างมากขึ้นหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเพื่อส่งให้อาภา
"คงกำลังดีเมื่อถึงวันหยุด" ริศารำพึงออกมาเบาๆ หลังจากส่งรูปให้ กับอาภาแล้ว
การทำงานบ้านถ้าไม่ขี้เกียจมากนักสามารถสร้างความเพลิดเพลินให้มากอยู่เหมือนกัน เมื่อมีเสียงเพลงคลออยู่ระหว่างทำงาน ริศาเต้นบ้างในขณะเพลงนั้นมีจังหวะเร็วขึ้นยิ้มๆ กับความบ้าบอของตัวเองที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้อาภาเสมอยามมาที่บ้านในวันหยุด เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ริศาชะเง้อมองพอเห็นว่าเป็นใครความร่าเริงเมื่อสักครู่หายไปทันที
"สวัสดีตอนค่ำค่ะ" พะแพงทักทายขึ้นก่อน
"สวัสดีค่ะ"
"เข้าไปได้ไหมมีอาหารทะเลมาฝาก" พะแพงยกถุงที่ถืออยู่
"ริซ่าไม่อยากทานนี่" ริศาบ่ายเบี่ยงที่จะให้พะแพงเข้าบ้าน
"ไม่อยากทานหรือกลัวใจอ่อน" พะแพงอมยิ้ม
"ใจอ่อนเรื่องอะไรคะ" ริศาถามเสียงเข้ม
"หอมแก้มพี่ไปเมื่อตอนบ่าย มาขอหอมคืน" พะแพงอมยิ้ม
"ไม่ได้หอมสักหน่อย พี่แพงนั่นแหละมาเบียดเอง"
"เจ้าของบ้านเดี๋ยวนี้ใจร้ายเนอะ ให้แขกยืนนอกบ้านจริงๆ หรือ"
"มาทำอะไรแถวนี้คะ" ริศาถาม เมื่อยอมใจอ่อนให้พะแพงเข้ามาในบ้าน คนที่คุ้นเคยกับบ้านนี้ดีเดินเข้าไปจัดเตรียมยกถ้วยชามออกมาและจัดอาหารตั้งโต๊ะ ริศาห้ามแต่พะแพงทำเป็นไม่ได้ยินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เตรียมโน่นนี้จนเรียบร้อยและกำลังดึงตัวเจ้าของบ้านมานั่งร่วมโต๊ะ
"พี่กลับมาอยู่บ้านแล้วค่ะ คอนโดปล่อยเช่าไป" พะแพงเพิ่งตอบคำถามซึ่งริศาถามไปตั้งแต่เข้ามา
"ทำไมล่ะคะ" ริศาถาม
"กลับมาอยู่เป็นเพื่อนแม่ พ่อพี่เสียไปแล้ว" พะแพงพูดเสียงอ่อยๆ
"เสียใจด้วยนะคะ"
"ทานเถอะ แต่ไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่าไหม มอมแมมเชียว"
"งานบ้านยังไม่เสร็จเลย" ริศาบอกแล้วถอนใจ
"ทานก่อนเดี๋ยวช่วยทำ" พะแพงยิ้มให้ริศาที่ไม่รู้จะทำอย่างไร
"อยู่ๆ จะกลับมาแบบนี้ ไม่ได้นะคะ พี่แพง" ริศาถอนใจ
"พี่อยากขอโทษ จริงๆ นะ" พะแพงลุกมายืนอยู่ใกล้ๆ ริศา
"ขอโทษแล้ว ริซ่ารับรู้แล้ว อย่าทำเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นไม่ได้นะคะ" ริศาพูดดุคนที่ยิ้มน้อยๆ และเข้าสวมกอดริศาเอาไว้แน่น
"ไม่ต้องกอดตอบตอนนี้ก็ได้ แค่ยอมให้พี่กอดก็พอแล้วล่ะ"
"ปล่อยนะ พี่แพง" ริศาพูดเสียงเข้มกว่าเดิม
"ไม่ปล่อยจะกอดอยู่แบบนี้แหละ" พะแพงกอดกระชับให้แน่นขึ้น
"ริซ่ามีคนอื่นอยู่แล้ว พี่แพงจะมากอดได้ยังไง" ริศาไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องบอกออกไปอย่างนั้น
"มีแฟนแล้ว แต่เท่าที่รู้ยังนี่นา" พะแพงคลายอ้อมกอดออก
"คุยกันอยู่ค่ะ" ริศาบอก
"เข้าใจแล้ว" พะแพงพุดเสียงอ่อยๆ แต่อยากรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของริศาว่ามีใครอยู่จริงหรือไม่จึงดึงริศาเข้ามาจูบเจ้าตัวนิ่งงันไปชั่วครู่
"พี่แพงกลับไปก่อนนะ ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับริซ่า นึกอยากจะมาก็มานึกอยากจะหายไปก็หายเหมือนไม่ให้เกียรติ์กันเลยนะคะ เวลาที่ผ่านมา ริซ่ารู้สึกแย่อยู่พักใหญ่คิดว่าตัวเองไร้ค่า พอได้มาทำงานที่รัก ได้รู้สึกดีกับตัวเอง พี่แพงกำลังจะกลับมาทำให้ริซ่ารู้สึกไร้ค่าอีกครั้ง" ริศาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังมากจนพะแพงตกใจ
"เพราะรู้ว่ามีค่าไง มานี่มา" พะแพงดึงตัวริศาที่ขืนตัวเล็กน้อย
"กลับไปก่อนนะ ขอร้อง" ริศาบอก
"กอดพี่แน่นก่อนถึงจะยอมกลับ" พะแพงถอนใจและจูบเบาๆ ไปที่ไหล่ของริศา ซึ่งกระชับอ้อมกอดเอาไว้แนบแน่น
"กลับได้แล้วนะ ขอล่ะ" ริศาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลังจากคลายอ้อมกอดและพูดขอร้องพะแพงอีกครั้ง
"ได้ค่ะ" พะแพงจูบปลอบโยนริศาที่หน้าผากก่อนที่จะกลับไป น้ำตาที่กลั้นเอาไว้เริ่มไหลรินออกมาเมื่อพะแพงเดินออกไปจากบ้าน คล้ายกับครั้งหนึ่งที่เดินกลับออกไปอย่างนี้และหายไป แต่อ้อมกอดนั้นเคยปลอบโยนให้ริศาผ่านความเศร้าโศกเสียใจมาหลายครั้งหลายครา โดยเฉพาะที่ต้องสูญ เสียบิดาและมารดาไปกับอุบัติเหตุ
"ถึงบ้านหรือยังคะ" ริศากดรับสายจากอาภา
"สักพักแล้วค่ะ คุณกลับมานอนที่บ้านไหม หนูอยากให้คุณอยู่ด้วย"
"เป็นอะไร ใครทำอะไรเสียงเหมือนร้องไห้เลย" อาภารีบถามทันที
"ค่อยเล่าให้ฟัง มานอนที่บ้านนะ" ริศาพูดอ้อนวอนทำเอาอาภารู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยเห็นอาการอย่างนี้มาก่อน
"รอหน่อยนะคะ อีกครึ่งชั่วโมงคงถึงนะ" อาภาพูดปลอบคนที่เริ่มร้องไห้ดังขึ้นกว่าเดิม
"ค่ะ"
"ฟังคุณนะ ไปล้างหน้าล้างตา อาบน้ำให้สดชื่นคุณจะออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ เชื่อคุณนะ" อาภาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนแยกกันริศายังคงสดใสร่าเริงและขอกลับไปนอนที่บ้านเอง
"หนูจะรอนะ"
"คุณเป็นห่วงหนูนะ" อาภาไม่ได้บอกลาใครกลับไปในทันที แต่ส่งข้อความบอกกับเพื่อนคนหนึ่งจะได้ไม่ต้องเป็นห่วงมากนัก ไม่นานนักขณะที่ขับรถมีสายเข้ามาจากน้ำตาลซึ่งคงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่ๆ อาภาก็ออก มาจากการพบปะเพื่อนโดยไม่ร่ำลาใคร แต่เรื่องของริศานั้นสำคัญกว่าใครอาภาจึงแค่มองดูโทรศัพท์และตั้งใจขับรถตรงไปที่บ้านของริศา
อาภายิ้มให้กับคนที่ออกมาเปิดประตูให้ และเข้าสวมกอดเอาไว้ใน ทันที แววตาที่เคยสดใสนั้นดูแปลกไป ริศาไม่ได้พูดอะไรพาอาภาเข้ามาในบ้าน คนที่เพิ่งมาถึงมองดูอาหารที่ยังตั้งอยู่เต็มโต๊ะท่าทางเจ้าของบ้านน่าจะยังไม่ได้ทานอะไรเลย แต่ทำไมอาหารถึงได้มากมายขนาดนี้
"มากอดไว้ก่อน" อาภาดึงตัวริศาที่ออกไปยืนเสียห่าง หลังจากพาเข้ามาในบ้านและเห็นอาภามองดูโต๊ะอาหารอย่างแปลกใจ
"เป็นอะไรน๊า คนเก่งของคุณ" อาภาไม่กล้าถามอะไรมากมายนักแต่ท่าทางของริศายังคงเศร้าอยู่อย่างเห็นได้ชัด อาการที่กอดกระชับเอาไว้แนบแน่นนั้นอีก
"อย่าไปไหนนะ" ริศารำพึงออกมาเบาๆ
"อยู่นี่แล้วค่ะ ขึ้นไปข้างบนกันให้คุณนอนกอดไว้จนหลับก่อนไหมสบายใจแล้วค่อยคุยกัน" อาภามองสบตากับริศาที่เดินตามอาภา ซึ่งจับมือเอาไว้เดินตามไปอย่างว่าง่าย
ริศาถอนใจอยู่หลายครั้งนอนหลับตาพริ้ม แต่ไม่ยอมพูดอะไรและยังคงมีน้ำตาไหลรินอยู่บ้าง อาภาหวังว่าอ้อมกอดนั้นจะช่วยปลอบโยนและทำให้ริศาสบายใจขึ้นบ้างจนหลับไป จูบแผ่วเบาที่หน้าผากจากอาภาทำให้ริศาเริ่มร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
"บอกคุณดีกว่าไหม เผื่อจะสบายใจขึ้น" อาภาถาม หลังจากกอดริศาไว้เกือบสองชั่วโมงโดยเจ้าตัวไม่พูดอะไรเลยสักคำ แค่กอดเอาไว้แน่นๆ เหมือนกลัวว่าตัวอาภาจะหายไป ริศาถอนใจมองสบตากับอาภาที่ช่วยเช็ดน้ำตาให้
"จะไม่ไปไหนจริงๆ นะคะ" ริศานึกภาพของพะแพงที่เดินจากไปทำให้พูดย้ำกับอาภาบ่อยๆ
"เด็กน้อยไม่สบายใจขนาดนี้ คุณจะไปไหนได้ล่ะคะ" อาภาจูบเล็กๆ ไปที่ริมฝีปากเรียวบางและซีดเซียว
"พี่แพงมา" ริศาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และพยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลรินออกมามากนัก จ้องมองแววตาเรียบนิ่งของอาภา
"ค่ะ" อาภาจูบปลอบโยนอีกครั้ง
"มาขอคืนดี แต่หนูบอกไปว่าหนูมีคนอื่นอยู่แล้ว พี่แพงเลยดึงเข้าไปกอดแล้วจูบ หนูยืนนิ่งๆ ให้พี่แพงจูบ" ริศากอดกระชับอาภาให้แน่นขึ้น
"เล่าได้นะ คุณฟังได้ทุกเรื่อง" อาภาจูบเบาๆ ไปที่ศีรษะของริศา
"อ้อมกอดของพี่แพงทำให้หนูรู้สึกดี" ริศาบอกตามตรง
"แล้วทำไมหนูถึงเป็นแบบนี้" อาภาถาม เพราะถ้าหากรู้สึกดีอย่างที่บอกมาทำไมริศาถึงได้ร้องไห้ฟูมฟายมากมายนัก
"พี่แพงเคยกอดแบบนั้น ตอนพ่อกับแม่เสีย พ่อกับแม่หนูเกิดอุบัติ เหตุทางรถยนต์เสียชีวิตพร้อมกัน พี่แพงอยู่ด้วยตลอด กอดวันนั้นเหมือนกอดในวันนี้ หนูเป็นอะไรไม่รู้อยู่ๆ ก็ร้องไห้ออกมาทั้งๆ ที่เป็นคนไล่พี่แพงกลับและอยากให้คุณอยู่ด้วย อยากให้อยู่ด้วยแบบนี้กอดอยู่แบบนี้" ริศาร้องไห้สะอึกสะอื้น
"เพราะแพงอยู่ในใจหนูตลอดมา" อาภาพูดขึ้น
"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ แต่เหมือนภาพเก่าๆ ในวันที่พ่อกับแม่เสียย้อน กลับมา หนูพยายามจะเข้มแข็ง แต่พอบางอย่างหวนกลับมาเลยทำให้สิ่งที่เก็บซ่อนไว้เผยตัวออกมา หนูรู้สึกไม่มีใครเลยตั้งแต่พ่อกับแม่เสียและยิ่งรู้สึกแย่มากขึ้น คือ ตอนที่พี่แพงเดินออกไปจากชีวิตและเงียบหายไปอีกคน อยู่ๆ พี่แพงก็โผล่มา แล้วทุกอย่างคล้ายจะกลับมาเหมือนเดิมมันแย่มากในความรู้ สึกของหนู" ริศาพูดออกมาทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของบิดาและมารดาซึ่งเป็นเรื่องเศร้าที่สุดในชีวิตและไม่ค่อยจะได้บอกเล่าอะไรให้ใครฟังนัก แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างแก้วใส
"พรุ่งนี้เช้าใส่บาตรให้พ่อกับแม่หนูกัน ท่านคงมีความสุขอยู่ที่ไหนสักแห่งและคงมีความสุขมาก ถ้ารู้ว่าหนูมีความสุข แต่ความสูญเสียที่เราไม่สามารถนำกลับมาได้ หนูยังสามารถทำให้พ่อกับแม่มีความสุขได้ด้วยการมีความสุขกับชีวิตของตัวเอง ส่วนเรื่องแพงหัวใจรู้สึกอย่างไร ก็ทำตามหัวใจได้เลยค่ะ ไม่ต้องกังวล" อาภากอดกระชับริศาเอาไว้แน่น
"เหมือนโดนย้อนเวลา" ริศาบอก
"กอดๆ เผื่อจะหายเศร้า ไม่เห็นรู้เลยว่ามีเรื่องหนักหนาในครอบครัวขนาดนี้" อาภาจูบเบาๆ ไปที่ศีรษะของริศา
"ว่าจะเล่า แต่พอดีเป็นแบบนี้ก่อน เบื่อไหมคะงอแงแบบนี้"
"ดีใจออกที่บอกให้รีบกลับมาน่ะ ถ้ารู้ว่าหนูร้องไห้คนเดียว คุณคงรู้สึกแย่กว่านี้แน่"
"ไม่อยากให้ไม่สบายใจไปด้วย" ริศาพูดงึมงำ
"เด็กน้อยเอ๊ย น่าตีนักนะ เราน่ะ" อาภายิ้มและจูบริศา
"หมดเลยทีเดียว อุตส่าห์สร้างภาพว่าแข็งแกร่ง" ริศายังคงสะอื้น
"หนูน่ะ แข็งแกร่งนะ เป็นเด็กน่ารักมาจนถึงทุกวันนี้ได้น่ะ"
"ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย"
"เกี่ยวสิ กำลังลองนึกถึงตัวเองอยู่ว่า ถ้าเป็นแบบหนูไม่รู้เหมือนกันว่าคุณจะเป็นอย่างไรบ้าง" อาภาถอนใจ
"ทิ้งเพื่อนมาไม่เป็นไรหรือคะ ไปแค่แป๊บเดียวเอง พอโทรฯ มาเท่า นั้นล่ะร้องไห้เลย" ริศาพูดเสียงอ่อยๆ
"เพื่อนเดี๋ยวก็นัดเจอกันอีก ดีขึ้นหรือยังทำมาห่วงคุณน่ะ" อาภายิ้มจูบเบาๆ ไปที่หน้าผากของริศาที่เริ่มมีรอยยิ้มให้เห็นบ้าง
"หายแล้ว" ริศาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จ้องมองคนที่นอนยิ้มอยู่
"จ้องแบบนี้ คิดมิดีมิร้ายอยู่หรือเปล่า" อาภาหัวเราะ
"อยากคิด แต่วันนี้เหนื่อยแล้ว"
"คุณไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวมาให้กอดใหม่นะ" อาภายิ้ม
"เสื้อเปียกน้ำตาหมดเลย" ริศาพูดเสียงอ่อยๆ
"ฝากซักด้วยล่ะ" อาภาหัวเราะและรีบลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อจะได้มากอดริศาให้หลับสบาย ริศามองตาม ความอบอุ่นที่ได้รับนั้นค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าอาภารู้สึกเหมือนกันหรือไม่ การรีบกลับมาถือเป็นความห่วงใยที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน รวมถึงการปลอบโยนและอ้อมกอดที่แสนจะอบอุ่นทำให้ความทุกข์นั้นหายไปในเวลาไม่นานนัก
ริศาตื่นมาไม่พบอาภาแล้ว ฟ้ายังคงมืดอยู่ด้านนอกมองดูรอบๆ และบริเวณห้องน้ำซึ่งไฟปิดสนิท จนแอบคิดไปว่า เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนนั้นฝันไปหรือเป็นเรื่องจริง แต่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงเมื่อได้ยินเสียงรถยนต์ที่แล่นเข้ามาจอดในบ้าน ริศายิ้มๆ มองดูจากหน้าต่างชั้นบนเลยรีบลงไปทันที
"ไปไหนมาแต่เช้าเลยคะ" ริศาถามอาภาซึ่งกำลังหอบหิ้วของเข้ามาในบ้าน อาภายิ้มและชูถุงข้าวของที่ซื้อมา
"ของใส่บาตรให้พ่อกับแม่ไงคะ คุณซื้อเป็นของแห้งนะ หนูจะได้ไม่ต้องตื่นมาเตรียมตอนเช้า ไปอาบน้ำได้แล้วเด็กขี้เซา" อาภายิ้มให้คนที่ท่า ทางยังงัวเงียอยู่ เพราะตลอดคืนที่ผ่านมานั้น ริศานอนพลิกตัวไปมาจน อาภาต้องคอยกระชับอ้อมกอดเอาไว้ด้วยความห่วงใย
"ออกไปตอนไหนทำไมไม่เรียกล่ะคะ" ริศาพูดอ้อนและเข้าสวมกอดด้วยความขอบคุณที่เอาใจใส่ดูแล
"แค่หน้าหมู่บ้านเองค่ะ เห็นหลับสบายอยู่ ไปอาบน้ำจะได้มารอใส่บาตรด้วยกัน ไม่ดื้อเนอะ เด็กดีของคุณ" อาภาจูบเบาๆ ไปที่หน้าผากของริศาที่จู่ๆ น้ำตาก็ไหลรินออกมาทั้งๆ ที่เป็นคนร้องไห้ค่อนข้างยาก แต่กับอาภานั้นทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาและยังเช้านี้อีก หากว่าน้ำตาที่ไหลรินออกมานั้นเป็นน้ำตาที่มาจากความปลื้มปิติมากกว่า
"เจ้าน้ำตา วันดีเขาไม่ร้องไห้กันหรอกนะคะ"
"ไม่ร้องแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ" ริศายิ้มให้อาภาและกอดกระชับเอาไว้แน่น
"เอ๊ะอ้อนแบบนี้ จะให้ไปอาบน้ำให้หรือเปล่าน๊ะ" อาภาพูดแหย่
"ไว้ตอนเย็นสิได้อาบนานๆ เดี๋ยวมานะ แต่คุณจะไปทำงานสายสิ"
"แจ้งรันไปแล้วค่ะ ว่าจะเข้าสายหน่อย ไปเร็วไปอาบน้ำ" ริศาจ้องมองอาภานึกถึงเรื่องที่คนอื่นพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือแม้แต่ปสุตาเองก็ตามที่แสดงความเป็นห่วงเรื่องของริศากับอาภา แต่สิ่งที่อาภากำลังปฏิบัติให้เห็นนั้นบอกได้เลยว่า คนที่ยืนยิ้มจ้องมองอยู่นั้นไม่ได้เป็นอย่างที่ใครๆ พูด ความห่วงใย ความเอาใจใส่มีให้อย่างเห็นได้ชัดเจน
หลังจากใส่บาตรแล้ว อาภาอาสานำน้ำที่กรวดน้ำด้วยกันเรียบร้อยแล้วมาเทบริเวณใต้ต้นไม้และเหมือนกำลังพูดบางสิ่งบางอย่าง ริศายืนยิ้มมองดูอยู่ไม่ได้ยินว่า อาภาท่องบทสวดอะไรหรือไม่
"ท่องอะไรอยู่ค่ะ" ริศาถามยิ้มๆ
"บอกพ่อกับแม่หนูและจ้าวที่จ้าวทางบ้านค่ะ มานอนบ่อยมากยังไม่ได้บอกเป็นกิจลักษณะ บอกเฉพาะตอนก่อนนอนเท่านั้นเอง" อาภายิ้มให้ริศาที่พยักหน้าและยิ้มกว้างมากขึ้น ไม่คิดว่าอาภาจะมีความเชื่อในเรื่องเหล่านี้ด้วยหรืออาจจะเป็นเพราะไม่เคยได้พูดคุยกันเลย
"ไปลามาไหว้ เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ พ่อกับแม่หนูถึงจะไม่อยู่แล้วแต่คุณเคารพท่านได้ด้วยการอุทิศส่วนกุศลได้นะคะ" อาภาบอกและยิ้มให้ริศา
"พ่อกับแม่อยู่คงรักคุณเหมือน" ริศายิ้มอายๆ
"เหมือนใครน้อ" อาภาอมยิ้มโอบไหล่ริศา เพื่อพากันเข้าบ้าน
ริศาลงมาซื้อกาแฟให้อาภา ซึ่งเข้ามาทำงานช้ากว่าปกติทำให้อาจ จะวุ่นวายสักหน่อย ริศาเลยอาสาที่จะเป็นเด็กส่งกาแฟให้เช้านี้ เพื่ออาภาจะได้ไปเตรียมตัวเพื่อทำงานของตัวเอง
"อาหารอร่อยไหมคะ" พะแพงเข้ามายืนข้างๆ ระหว่างที่ริศากำลังเลือกขนมไปฝากอาภา
"ยังไม่ได้ทานเลยค่ะ" ริศาบอก
"พี่คงไปทำให้ไม่สบายใจล่ะสิ แต่เช้านี้ดูสดใสขึ้นนะคะ"
"เมื่อวานคือวันที่ผ่านไปแล้วค่ะ คงต้องอยู่กับวันนี้น่าจะดีกว่า" ริศาพูดอ้อมๆ แต่คิดว่าคนฉลาดอย่างพะแพงน่าจะเข้าใจความหมายว่า พะแพงคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว
"หวังว่า จะใจอ่อนในวันข้างหน้า" พะแพงพูดขึ้นและทำท่าจะจ่ายค่ากาแฟกับขนมให้ริศาที่ทำหน้านิ่งๆ ในทันที
"อย่านะคะ พี่แพง" ริศาพูดดุและรีบยื่นธนบัตรให้พนักงานทันที
"เอาเป็นว่า ถ้าจะไปหาจะขออนุญาตก่อน พี่คิดเอาเองอยู่คนเดียวว่าไปมาหาสู่กับริซ่าได้ แต่ดูเหมือนว่าจะคิดไปเอง ขอตัวก่อนนะคะ" พะแพงถอนใจรับกาแฟและรีบไปหาที่นั่งปล่อยให้ริศาจัดการกับตัวเอง
"มีขนมด้วย" อาภายิ้มให้กับคนที่นำกาแฟมาให้
"พิเศษ คุณของหนูน่ารักมากๆ" ริศาอมยิ้ม
"นั่งก่อนสิ" อาภาบอกและหยิบเอกสารยื่นให้ริศา
"อะไรคะ" ริศาถาม
"แบบบ้านลองเลือกดูชอบแบบไหน คุณจะซื้อบ้านใกล้ๆ บ้านหนู" อาภาอมยิ้มมองสบตากับคนที่ทำคิ้วขมวดเมื่อได้ยิน
"ซื้อบ้าน ขับรถไกลไปไหมคะ" ริศาท้วงติง
"แหมยี่สิบนาทีเองค่ะ ช่วยดูให้หน่อยนะคะ น๊า นะ" อาภาพูดอ้อน
"เอ๊าบ้านของคุณ ไม่เลือกเองล่ะคะ" ริศาถามแต่แอบยิ้มอยู่ในใจ
"อันนี้คือที่เลือกมาแล้วค่ะ อยากให้หนูช่วยดูอีกที"
"แปลกๆ นะ อยู่ๆ จะซื้อบ้าน" ริศาแสร้งถาม
"ไม่เห็นแปลก รู้แล้วว่าจะให้ใครไปอยู่ด้วย ควรซื้อได้แล้วล่ะ"
"ใครน้อ" ริศาหัวเราะและทำยิ้มทะเล้นให้อาภา
"ไม่รู้จะยอมไปอยู่ด้วยหรือเปล่าน้อ"
"โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ หนูไปเตรียมตัวก่อนนะคะ ส่วนอันนี้จะดูให้รีบไหมคะ" ริศาถาม
"รีบอยากมีคนอยู่ด้วยแบบจริงจังแล้วล่ะ" อาภาอมยิ้ม
"ถ้าอย่างนั้นจะรีบดูให้ ขอบคุณนะคะ" ริศาอยากเดินเข้าไปจูบแต่ทำเพียงแค่ยิ้มๆ จ้องมอง เอาไว้ตอนเย็นน่าจะดีกว่า ใครๆ จะได้ไม่พูดถึงอาภาในทางที่ไม่ดีอีก
"ขอบคุณสำหรับขนมด้วยนะคะ สนุกกับการทำงานอย่าคิดมากนะ" อาภายังคงเป็นห่วงเรื่องเมื่อคืนระหว่างอาภากับพะแพง
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|