web stats

ข่าว

 


ด้วยแรงแห่งรัก ตอนที่ 11 เป็นของพี่

โพสต์โดย: ยามเย็น วันที่: 16 กรกฎาคม 2017 เวลา 14:41:04 อ่าน: 355

 หลังจากที่ขิมไม่ได้กินแม่ดวงเดือนในภาคแรก รอบนี้เดือนเลยชดเชยให้โดยการเดินมาให้กิน....เตรียมเลือดรึยัง หุหุ เพราะตอนนี้เค้าจะได้กันแล้วนะเออ
...



เดือนกระวนกระวายไม่สบายใจหลังจากที่แม่และพ่อเรียกไปคุยแล้วตกลงจะเลื่อนวันหมั้นให้เข้ามาใกล้กว่าเดิม เดือนคิดว่ามันต้องมีอะไรแน่ที่ทำให้วินมาพูดเลื่อนวันหมั้น หรือว่าวันนั้นที่ไปทานข้าวกันวินจะได้ยินเธอพูดกับขิมนะ แต่ห้องน้ำมันแยกโซนกันนี่นา แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เพราะหลังจากวันนั้นเดือนก็ไปหาขิมทุกวัน เหมือนๆ กับที่วินคอยมาหาแม่เธอตลอด วินต้องรู้เรื่องเธอกับขิมแน่ๆ

"พี่ได้ข่าวว่างานหมั้นเลื่อนเข้ามาใกล้แล้วนี่น้องเดือน" ปีเตอร์พูดขึ้น เมื่อเดือน หญิงและวิทย์มาหาที่ทำงานเพื่อให้ช่วยดูงานที่ทำให้ก่อนเอาไปส่งเพื่อความชัวร์

"ค่ะ เดือนไม่อยากจะพูดถึงเลยพี่ อย่าถาม" เดือนว่าอย่างไม่สบอารมณ์แล้วหันหน้าหนี วิทย์และหญิงยิ้มให้ปีเตอร์

"ทำใจพี่ นี่เป็นแบบนี้มา 2-3 วันแล้วล่ะ ปวดหัวกันไปเป็นแถบๆ" หญิงพูดกับปีเตอร์ "จริงๆ ไม่อยากหมั้นก็น่าจะพูดกับแม่นี่นา เพราะมันเป็นชีวิตทั้งชีวิตเลยนะ"

"ถ้ามันง่ายก็ดีสิ" วิทย์พูด เดือนพ่นลมหายใจอย่างเบื่อหน่ายและเครียดกับชีวิต

"พี่แปลกใจนะ ปกติน้องเดือนไม่พอใจอะไรก็พูดแท้ๆ แต่ทำไมไม่พูดกับแม่ล่ะคะ" ปีเตอร์ถามเดือน เดือนหันมามองหน้าปีเตอร์

"พูดแล้วค่ะ แต่มันเป็นเพราะเรื่องธุรกิจ เรื่องเงิน เรื่องความเป็นอยู่ของบริษัทน่ะค่ะ คุณพ่อคุณแม่ให้หนูแต่งงานเพื่อช่วยครอบครัว พูดทุกวันแต่เหมือนยิ่งพูดพ่อกับแม่ก็ยิ่งจริงจัง พูดมากไปก็หาว่าต่อต้าน รังแต่จะมาเข้มงวดกับหนูเปล่าๆ" เดือนพูดแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะ

"พี่คะ ขอไปซื้อน้ำนะคะ" หญิงบอกปีเตอร์ ปีเตอร์พยักหน้า "เดือนเอาอะไร ช็อกโกแลตปั่นใส่เกล็ดช็อกฯ เหมือนเดิมไหม"

"อืม เอาวิทย์ไปด้วยสิ วิทย์รู้ดี" เดือนบอกเพื่อน หญิงเดินออกไปทันทีโดยมีวิทย์ลุกขึ้นตามไปอย่างร่าเริง

ปีเตอร์ยิ้มอ่อนเมื่ออยู่กับเดือนแค่สองคน

"ตอนนี้คบหาอยู่กับขิมรึเปล่า" ปีเตอร์ถาม และคำถามของเขาเหมือนจะทำให้เดือนตื่นตัว เดือนรีบนั่งตัวตรงแล้วมองปีเตอร์ด้วยสายตาที่กำลังประเมินราวกับไม่แน่ใจว่าปีเตอร์เป็นศัตรูหรือมิตร นั่นทำให้ปีเตอร์ยิ้ม

"ไม่ต้องห่วง พี่ไม่ปากหมาหรอกน่า อีกอย่างพี่รักขิมมากและไม่กล้าที่จะทำให้ขิมเดือดร้อนไม่ว่าทางไหน โดยเฉพาะเรื่องของน้องเองนั่นแหละ พี่รู้ว่าขิมรักเธอ เอาจริงๆ นอกจากครอบครัวและคนใกล้ตัว ก็มีเธอนี่แหละที่ขิมรัก"

"พี่รู้จักพี่ขิมนานแค่ไหนคะ" เดือนถามอย่างอยากจะรู้เรื่องของขิมทั้งหมด ปีเตอร์ทำท่าคิดแล้วเคาะปากกากับมือตัวเองอย่างใช้ความคิด

"เอิ่ม... ตั้งแต่อายุ 15 ล่ะมั้ง หรือไม่ก็เด็กกว่านั้น พี่จำไม่ได้หรอก" ปีเตอร์ตอบ "ขิมกับพี่สาวของขิมที่ชื่อพี่พิณรู้จักกับพี่ด้วยความบังเอิญน่ะ แล้วขิมก็เป็นคนขอให้ดอกเตอร์มอร์แกนส่งเสียพี่เรียน พี่กล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าที่พี่มีทุกวันนี้ได้เพราะพวกเขา"

"แล้วพี่ขิมเป็นไงคะตอนนั้น"

"ก็ดุอย่างกับหมา หน้าตาสวยแต่ดุไม่เอาใคร ขิมหวงพี่สาวมากแล้วก็นิสัยแข็งกระด้าง แต่จะน่ารักกับคนที่รักนะ บางทีก็ขี้อ้อนด้วยเวลาอยู่กับครอบครัว ใครๆ ต่างก็ไม่ค่อยชอบมันหรอก เพราะมันไม่แคร์ใคร แต่คนที่ชอบก็มีเยอะเพราะขิมจริงใจและซื่อตรงน่ะ"

เดือนยิ้มเมื่อได้ฟัง พอคิดดูแล้วก็เห็นว่าจริงตามที่ปีเตอร์บอกเพราะขิมชัดเจนมากในเรื่องนิสัยและทุกๆ เรื่อง ขนาดว่าครั้งแรกที่เจอกันขิมยังพูดเอาซะปุ้ยเสียหน้าเลยทั้งๆ ที่ปกติคนเจอกันครั้งแรกจะรักษามารยาทแท้ๆ

"พี่เขาตรงจนน่ากลัวจริงด้วยค่ะ แต่ก็น่ารักดีนะคะ"

"อืม น่ารักสิ แต่หากว่าเห็นขิมน่ารักเจอพี่สาวขิมแล้วจะอึ้ง พี่พิณน่ะทั้งนิสัยหน้าตาและก็ทุกๆ อย่างดีกว่าขิมหมด"

"พอเสียครอบครัวไป พี่ขิมอยู่คนเดียวคงเหงานะคะ" เดือนพูดแล้วคิดถึงความรู้สึกของคนที่ตัวเองรัก เมื่อปีก่อนโน้นที่มีข่าวใหญ่ว่าเกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินโดยมีครอบครัวของดอกเตอร์มอร์แกนเสียชีวิต 3 คน ปกติเดือนไม่ค่อยสนใจเรื่องของข่าวการเป็นการตายของใครหรอก ข่าวทีวีหนังสือพิมพ์เธอยิ่งไม่รับรู้ รู้แค่ผ่านจากสื่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น เพียงแต่เธอชื่นชมดอกเตอร์มอร์แกนมากเท่านั้น

"แทบไม่เป็นผู้เป็นคนเลยล่ะ จากที่ชอบเที่ยวชอบชมดูธรรมชาติก็กลายเป็นหมกตัวอยู่แต่ที่คอนโด ไม่ออกมาสังเคราะห์แสง ไม่ยอมกระดิกไปไหน แต่ว่าขิมเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อ 3 เดือนก่อนโน้นนะ ไม่สิ 4 เดือนก่อนต่างหาก เพราะตอนพี่เลื่อนนัดกับมันที่พวกเราจะไปดูงานน่ะ มันก็ไม่ค่อยอยู่เลย คิดว่าเวลาคงช่วยเยียวยารวมถึงรสพระธรรมด้วยน่ะนะ"

"...." เดือนเงียบเพราะจู่ๆ ความรู้สึกเดิมก็แวบเข้ามาในหัว ความรู้สึกกลัวในตอนที่ตัวเองป่วยนั่น มันหดหู่ วังเวงในใจชอบกล

"ถ้าไม่อยากหมั้นก็บอกขิมสิ" ปีเตอร์บอก เดือนมองหน้าปีเตอร์อย่างสงสัย

"คือ เดือนยอมรับกับพี่นะคะว่าเดือนรักพี่เขา แต่คงไม่ดึงพี่เขามายุ่งปัญหาครอบครัวหรอก"

"พี่ว่าถ้าเธอไม่บอกคนที่เธอรักต่างหากล่ะมันแปลก อีกอย่างนะน้องเดือน... ขิมจะทำทุกอย่างเพื่อคนที่ตัวเองรัก แค่เธอเอ่ยปากบอกหรือขอร้องให้ช่วยแค่นั้น ดีกว่าหมั้นไปแล้วเราจะมีเจ้าของจริงๆ และจะทำใจลำบาก จะเครียดกว่านี้อีกนะคะเพราะข้อผูกมัดมันแน่นหนาขึ้น พี่ไม่ได้ชวนไปทางเรื่องทะลึ่งนะ แต่หากคุณวินเขาคิดว่าหมั้นแล้วก็เหมือนเป็นเจ้าของเขาอาจจะอยากเกินเลยกับเธอก็ได้นะ แบบว่าสมัยนี้คนเราไวไฟมากขึ้น ชอบรวบหัวรวบหางเพราะคิดว่ายังไงก็หนีกันไม่รอด แถมคุณวินนั่นดูจะจริงจังกับเธอมากเลยนะ" ปีเตอร์พูด

เดือนหน้าซีด... ใจเธอหวั่นที่สุด กลัวว่าตัวเองต้องตกเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ขิม... ไม่รู้ทำไมถึงคิดถึงแต่ขิมกับเรื่องความสัมพันธ์แบบนั้น เธอหมกหมุ่นถึงขนาดที่ว่าเคยเปิดดูคลิปเลสเบี้ยนเลยด้วยซ้ำ นึกกลัวอยู่ว่าตัวเองจะกลายเป็นพวกโรคจิต แต่เธอคิดเรื่องแบบนี้แค่กับขิมเท่านั้น ร่างกายนึกรังเกียจที่จะเป็นของคนอื่น

เดือนยกมือกอดไหล่ตัวเองกลัวว่าร่างกายนี้จะเป็นของคนอื่นไป... ร่างกายนี้ไม่ใช่ของใคร เป็นแค่ของขิมเท่านั้น คนที่เธอรักจนสุดหัวใจตั้งแต่แรกพบ เดือนรู้สึกแบบนั้น รู้สึกว่าเธอต้องเป็นแค่ของขิมคนเดียว

"คิดเอานะคะ พี่แค่ชี้ทางให้... แบบว่าชี้ทางให้เธอตกหลุมเพื่อนพี่น่ะ" ปีเตอร์ว่า นั่นทำให้เดือนยิ้มขำเล็กน้อยแต่ภายในใจยังเครียดเหมือนเดิม



เดือนนั่งร้องไห้ในห้องนอนอย่างเศร้าใจที่พยายามไปคุยกับพ่อแม่อีกครั้งแต่โดนว่ามาว่าไม่มีน้ำใจและความรับผิดชอบที่จะช่วยครอบครัว เธอเพิ่งได้รู้ว่าพ่อมีหนี้สินมากมายกับธนาคารและการแต่งงานเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยไม่ให้ตำแหน่งประธานที่สั่นคลอนของพ่อถูกแย่งไปเพราะด้านการเงินมีปัญหา หากดองกันกับวินที่ครอบครัวถือหุ้นรองก็จะช่วยค้ำยันเก้าอี้ประธานให้เพื่อให้พ่อแก้ปัญหาเรื่องเงินต่อไป พวกเขาหวังแม้กระทั่งเงินสินสอดที่คาดว่าน่าจะได้เยอะเอามาแบ่งเบาภาระหนี้สิน... เดือนจึงต้องมานั่งกลุ้ม ตอนแรกที่เธอไม่กระเสือกกระสนจะแก้ปัญหาเพราะคิดว่ากว่าจะเรียนจบอีกตั้งปีกว่าถึงจะหมั้น แต่นี่งานหมั้นหมายเลื่อนมาเป็นเดือนหน้าแล้ว เดือนไม่มีทางเลือก เธอคิดถึงเพียงแต่ขิมเท่านั้น



ขิมเปิดประตูพร้อมกับยิ้มให้คนสวยของตัวเองที่เดินเข้ามาหาในคอนโด แต่ขิมก็ยิ้มได้ไม่นานนักเพราะเดือนน้ำตาไหลพร้อมกับโผเข้ามากอดเธอ

"เป็นอะไรคะ" ขิมถามแล้วลูบหลังบางของแม่ตัวเล็กเบาๆ อย่างปลอบโยน แต่เดือนไม่บอก เธอร้องอยู่อย่างนั้น ขิมจึงพาไปนั่งที่โซฟา พอจะลุกไปเอาน้ำให้ดื่มเพราะตอนนี้ขิมให้แม่บ้านของอเดลกลับไปหมดแล้ว แต่เดือนก็ไม่ยอมให้เธอลุกไปไหน เอาแต่กอดเธออยู่อย่างนั้น

"เอาล่ะ จะพูดได้หรือยังเดือน พี่อยากรู้ว่าเราเป็นอะไร" ขิมถามหลังจากที่อีกคนเริ่มนิ่ง แต่เดือนก็ไม่ยอมห่างจากเธอเลย ขิมจูบหน้าผากสวยของอีกคนเบาๆ แล้วก้มมองหน้าสวยของเดือนพร้อมกับมือที่เชยคางหล่อนขึ้นเล็กน้อย

"จูบเดือนสิ" เดือนพูดราวกับสั่งขิมพร้อมกับมือของคนตัวเล็กที่ประคองหน้าขิมแล้วดึงให้ลงไปจูบตัวเอง ซึ่งขิมก็จูบตามที่เดือนต้องการ

ขิมโอบกระชับกอดร่างบางของเดือนให้แนบชิดกับตัวเองเมื่ออารมณ์เริ่มพลุ่งพล่านเพราะรสจูบที่ดูดดื่ม ขิมรู้สึกว่าคนสวยในอ้อมแขนของเธอดูจะต้องการจูบมากเหลือเกิน เดือนในตอนนี้เหมือนคนมีความต้องการสูงมากยังไงไม่รู้และมันทำให้ขิมรู้สึกปั่นป่วน แค่จูบมันไม่พอ ขิมคิดแบบนั้น เธอต้องการอีก ต้องการจะสัมผัสและจูบเดือนให้ทั่วทั้งเรือนร่างแต่ขิมไม่กล้า... เธอเคยลองจะสัมผัสดวงเดือนคนที่ข้ามภพข้ามชาติมาแต่เรื่องมันจบไม่ค่อยดีและมันทำให้เธอเฟล อีกอย่าง... ขิมแค่เพียงอยากสัมผัสตามสัญชาตญาณ แต่จริงๆ แล้วขิมทำไม่เป็นหรอก

"พี่คะ ทำให้เดือนเป็นของพี่สิ" เดือนบอกขิมเมื่อผละออกไปจากรสจูบ และนั่นทำให้ขิมตะลึงบวกกับตกใจเล็กน้อยที่อีกคนพูดอะไรแบบนี้ออกมาตรงๆ

"เอ่อ พี่ไม่คิดว่าพี่ทำเป็นหรอกนะ" ขิมบอกเดือนเบาๆ อย่างเขินอาย แต่คนสวยของเธอก็ทำให้เธอระทึกมากกว่าเดิม ขิมมองเดือนที่ถอดเสื้อโชว์หุ่นสวยและผิวเนียนพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นนั่งคร่อมขาของขิมโดยหันหน้าเข้าหา มือก็ดันไหล่ขิมพิงโซฟาแล้วหล่อนก็จู่โจมจูบขิมอีกครั้งพร้อมกับจับมือของขิมให้วางลงบนเนินอกของตัวเอง ขิมรู้สึกว่ามือตัวเองมันสั่นเทาเพราะตื่นเต้น และตอนนี้เหมือนตัวเองกำลังเป็นผู้ตามโดยมีคนสวยเป็นคนคุมเกมสวาทฝึกหัดในครั้งนี้

แต่ขิมไม่มีนิสัยเป็นผู้ตามโดยสัญชาตญาณ ดังนั้นคำว่าเรียนรู้และตอบสนองความต้องการของตัวเองมันจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ขิมบีบจับหน้าอกขนาดพอดีมือของอีกคนตามความต้องการ ปากก็ผละจากรสจูบแล้วซุกไซ้หอมคอขาวของเดือนอย่างกระหาย โดยเดือนเงยหน้าขึ้นให้เธอได้จูบหอมคอนั้นอย่างถนัด มืออีกข้างของขิมที่โอบหลังของเดือนอยู่ปลดตะขอบราของเดือนแล้วถอดออก ก่อนจะผละออกไปเพื่อจ้องมองเรือนร่างท่อนบนที่ไร้สิ่งปกปิดใดๆ มันสวยงามมากสำหรับขิม ร่างบางเอวคอด หุ่นเว้าโค้งได้รูปบวกกับหน้าอกขนาดพอดีที่มียอดอกสีสวยชูช่อสู้สายตาราวกับจะท้าทายให้ขิมได้ลิ้มลอง... ไม่ใช่แค่สวยแต่น่ากินด้วยสิผู้หญิงคนนี้ ขิมคิดแล้วมองหน้าสวยของเดือน ขิมยิ้มเอ็นดูอีกคนเพราะดูก็รู้ว่าเดือนอายมากแค่ไหน แต่หล่อนกำลังทำใจสู้อยู่...

"ที่ทำขนาดนี้เพราะอะไรคะ" ขิมถามแล้วโอบร่างกายของเดือนให้เข้ามาใกล้จนหน้าชิดกัน

"เพราะต้องการเป็นของพี่... เดือนกำลังจะหมั้นเดือนหน้าแล้วและต้องการให้พี่ช่วยเดือนทุกอย่างเพราะเดือนรักพี่ เดือนต้องการแค่พี่และจะเป็นแค่ของพี่เท่านั้นพี่ขิม... ดังนั้นทำให้เดือนเป็นของพี่ทั้งตัวและหัวใจในตอนนี้แล้วต่อจากนี้ก็รักษาเดือนไว้" เดือนบอก ขิมยิ้มรับอย่างเต็มใจ เพราะเธอพร้อมเสมอที่จะรับมือกับปัญหาที่บ้านของเดือน

"พี่จะบอกก่อน... พี่ขี้หวงนะเดือน อะไรที่เป็นของพี่ พี่จะรักและหวงแหนมาก เตรียมใจรับมือกับนิสัยของพี่รึยัง"

"ทางนี้ก็เหมือนกันค่ะ" เดือนบอกแล้วก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของขิม "ทำให้เดือนเป็นของพี่ตอนนี้ กินเดือนเลยสิ" เพียงแค่คำพูดนั้นของเดือน ขิมก็ดันร่างบางออกเล็กน้อยแล้วอ้าปากครอบครองยอดอกสีสวยทันทีโดยที่มืออีกข้างคอยบีบเคล้นหน้าอกที่ว่างจากปากของตัวเอง

ร่างบางของคนถูกกระทำสั่นสะท้าน หลังแอ่นให้หน้าอกสู้ปาก มือและแขนของเดือนโอบคอและจิกผมของขิมไว้ เสียงครางที่ร้องออกมาของเดือนมันช่างหวานหูเหลือเกินสำหรับขิม และถึงแม้ว่าจะหวานหูแต่มันเรียกเลือดลมในร่างกายของขิมให้ร้อนเร้าได้อย่างดี

"อ่ะ พี่คะ... อ๊า" เดือนครางพร้อมกับก้มจูบศีรษะของขิมที่กำลังง่วนกับการครอบครองหน้าอกของตัวเองอยู่ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเดือนที่เคยทำอะไรแบบนี้ อาการเสียวสะท้านแต่มีความสุขแบบนี้จึงเพิ่งเคยเกิดขึ้น เธอเคยมีความต้องการแบบนี้มาแล้ว... แต่ว่ามันไม่รุนแรงมากเท่านี้มาก่อน มันคือตอนที่เธอดูคลิปเลสเบี้ยน คลิปทอมดี้แล้วเธอจินตนาการว่าเธอกับขิมกำลังทำแบบนั้นกัน... เดือนต้องการอีก ต้องการมากกว่านี้... นี่มันรู้สึกค้างคายังไงก็ไม่รู้ เดือนไม่ชอบใจ เธอรู้แต่ว่าหากได้ทำมากกว่านี้ก็คงจะปลดปล่อยความรู้สึกค้างคาแบบนี้สักที ตอนนี้เธอเสียวมากจนมีอารมณ์ที่รุนแรง ช่องรักของจุดอ่อนไหวมันบีบตัวจนรู้สึกเจ็บขัด

"พี่รักเธอ" ขิมกระซิบบอกในระหว่างที่ปากอ้างับยอดอกอีกข้างที่ยังไม่ได้ครอบครอง

"รักพี่เหมือนกันค่ะ ที่รัก" เดือนบอกแล้วจับมือขิมที่บีบจับหน้าอกตัวเองอยู่ให้ลงไปสัมผัสด้านล่าง "ทำมัน... เดือนต้องการจนจะไม่ไหวแล้ว"

ขิมไม่รู้ว่าตัวเองควรจะรู้สึกยังไงกับเดือนในตอนนี้ หล่อนแรงและเถรตรงขิมรู้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะใจกล้าในเรื่องอะไรแบบนี้ ขิมระทึกใจ ตื่นเต้นจนแทบจะคุมสติไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ความกระหายต้องการสัมผัสอีกคนก็มีมากเช่นกัน ขิมลูบของรักของอีกคนผ่านแพนตี้ชิ้นจิ๋วใต้กระโปรงเบาๆ อย่างอยากจะทะนุถนอมแล้วขิมก็เพิ่มแรงกดสัมผัสมากขึ้นเพราะปฏิกิริยาตอบโต้ที่เดือนมี หล่อนครางแล้วถลากอดขิมอย่างหาที่ยึดจับ

"อ๊า อ๊า พี่คะ..." เดือนครางแล้วซุกหอมแก้มและคอของขิม

ขิมล้วงมือเข้าไปในแพนตี้ก่อนที่จะสอดแทรกนิ้วเรียวเข้าไปในช่องรักของเดือนแล้วขยับเบาๆ ถึงแม้ว่ามันจะลำบากเล็กน้อยจากการที่โดนช่องรักบีบรัดนิ้วแน่นจนดูเหมือนว่าคนเก่งของขิมจะเริ่มทนไม่ไหวกับการเสพสมกันในครั้งนี้

"อื๊อ... เจ็บ" เดือนส่ายหน้าแล้วจับข้อมือของขิมเพราะทนไม่ไหวกับความเจ็บขัด

ขิมโอบเอวบางคนสวยไว้แล้วยิ้มอ่อนโยนเอ็นดูอีกคน ก็ตอนแรกหล่อนทำเป็นเก่งเสียเหลือเกิน แต่ตอนนี้กลับทนไม่ไหวเสียเอง

"ไม่ไหวแล้วค่ะ เดือนเจ็บ... ไม่เอาแล้ว" เดือนร้องบอกเสียงเบาแล้วส่ายหน้าที่เคล้าน้ำตาไปมาราวกับขอร้องขิมให้หยุด ขิมยิ้มอ่อนแล้วจูบหน้าผากของเดือนที่มีเหงื่อผุดพราว

"โถ... ทูนหัวของพี่" ขิมเรียกอีกคนด้วยคำพูดที่เคยเป็นของเดือนเอง แต่เป็นของเดือนในชาติภพก่อนที่เคยพูดกับเธอ ขิมพูดด้วยความเอ็นดูและปลอบโยนอีกคนพร้อมกับจูบจมูกรั้นเบาๆ แต่เหมือนคำพูดนี้จะมีผลกับเดือนมาก

คนสวยตาสั่นระริกราวกับตกใจอะไรสักอย่าง แต่ที่แน่ๆ ดูเหมือนคำพูดที่พูดไปเพราะความเอ็นดูคนอายุน้อยกว่าจะทำให้หล่อนถาโถมร่างกายเข้าหาขิมอย่างลืมความเจ็บ

เดือนขยับใบหน้าเข้าหาขิมแล้วจูบขิมทันทีโดยที่หล่อนขยับเอวเล็กน้อยเพื่อสู้นิ้วของขิมที่กำลังจะถอนออกมา นั่นทำให้ขิมสอดใส่แล้วขยับนิ้วเรียวอีกครั้ง

"เดือน เธอสวยมากเลยนะรู้ตัวไหม" ขิมชมเดือนอย่างหลงใหลในระหว่างที่จูบเม้มเนินอกของเดือนอยู่ แล้วขิมก็หมุนตัวของเดือนให้นอนลงกับโซฟาก่อนจะพรมจูบเรือนร่างของเดือนอย่างที่อยากจะทำมาตลอด

เดือนเม้มปากข่มเสียงคราง นิ้วเรียวก็สอดแทรกจิกผมของขิมไว้ ร่างกายของเธอสั่นสะท้าน รู้สึกหวิวในท้องเมื่อริมฝีปากของขิมจูบผ่านทุกส่วนใต้ร่มผ้า ยิ่งมือนุ่มที่บีบคลึงหน้าอกที่หวงแหนของตัวเอง เดือนก็ยิ่งเสียวมากกว่าเดิม แล้วตัวเองก็แทบหยุดหายใจเมื่อลมหายใจร้อนของขิมพ่นใส่ของรัก เธอจะหุบขาแต่ไม่ทัน... ริมฝีปากชมพูนุ่มของขิมกดจูบลงไปเสียก่อนนั่นทำให้เดือนตื่นตกใจกับการกระทำนั้น ร่างกายท่อนล่างกระถดถอยหนีแต่อีกคนก็จับเอวบางคอดของเธอไว้แล้วลากเข้าหาตัวพร้อมกับระดมจูบของรัก

"อ๊าย... อ๊า พี่...อ่ะ ไม่ ตรงนั้น อย่า... อ๊า" เดือนครางเสียงหลงเมื่อขิมใช้ลิ้นสัมผัสส่วนอ่อนไหวของตัวเอง ร่างกายท่อนล่างที่ถดหนีแอ่นยกสู้อย่างห้ามไม่ได้... แทบไม่มีสติแล้ว เดือนรู้สึกร่างกายนี้มันลอยละล่อง หวิวเบา ควบคุมไม่ได้ เหมือนเธอไม่ใช่เจ้าของร่างกายนี้ เธอเป็นแค่เจ้าของประสาทสัมผัสและความรู้สึกเท่านั้น เพราะร่างกายตอบสนองต่อการกระทำของขิมทุกอย่าง แต่สมองกลับไม่ทำงาน มันเบลอตื้อไปหมด

"ไม่ไหวแล้วค่ะ เดือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แล้ว... อ๊า... พี่คะได้โปรดหยุด เดือนไม่ไหวแล้ว" เดือนร้องบอกเมื่อร่างกายรู้สึกว่าได้รับการปลดปล่อยและไม่สามารถให้อีกคนทำแบบนั้นได้เพราะเธอเสียวจนแทบจะคงสติไม่ไหว ร่างกายเธอเอาแต่สั่นกระตุกเล็กๆ อย่างควบคุมไม่ได้

ขิมผละใบหน้าออกจากของรักที่เธอได้ลิ้มลอง แล้วเธอก็รีบมองหน้าคนสวยที่เหงื่อแตกพลั่กอย่างรู้สึกผิด

"เดือน... เธอเลือดออกนะ เจ็บมากไหม" ขิมถามอย่างเป็นห่วงและร้อนรนเมื่อได้เห็นว่ามีเลือดปนออกมากับน้ำรักที่ไหลเยิ้มของเดือน "พี่บอกแล้วไงพี่ทำไม่เป็นหรอก เราไม่น่าทำกันเลย... พี่ขอโทษนะ เราไปหาหมอกันเถอะ รีบไปให้หมอตรวจก่อนที่..."

"พี่คะ" เดือนเรียกคนที่พร่ำพูดเพราะห่วงเธออยู่ มือก็โอบกอดอีกคนให้โน้มลงมาหาตัวเอง "ไม่เป็นไร คือที่เลือดออกอาจจะเพราะมันเป็นครั้งแรกน่ะเลือดมันเลยออกเป็นปกติ มันไม่ได้เยอะใช่ไหมคะ"

"ก็ไม่เยอะ..." ขิมตอบเสียงแผ่วเพราะคิดโทษตัวเองที่ทำให้คนที่น่าทะนุถนอมขนาดนี้มีเลือด "ตะ แต่ว่าแน่ใจนะว่าเป็นเพราะว่าครั้งแรก มันไม่ได้เป็นเพราะพี่ทำอะไรไม่สมควรหรือผิดพลาด" ขิมถามย้ำคนสวยที่หน้าแดงเป็นลูกตำลึง

"จริงสิ เดือนเคยได้ยินมา... พี่อย่าถามมากให้เดือนตอบสิ แบบนี้มันเหมือนเดือนเป็นพวกช่ำชองเลยนะ" เดือนว่าด้วยใบหน้าเขินอายเต็มกำลัง

"ก็พี่ไม่รู้นี่ พี่ก็กลัวว่าเธอจะเป็นอะไร ค่อยโล่งใจหน่อย" ขิมพูดแล้วยิ้มให้คนสวย "แม่สาวนักยั่ว"

"เอ๊ะ ..." เดือนร้องแล้วจะว่าแต่คำพูดก็หายไปเมื่อคนตัวสูงจู่โจมจูบเธออีกครั้ง เดือนโอบกอดขิมให้ร่างกายทาบทับแนบชิดกับตัวเองมากขึ้นอย่างที่อยากจะให้อีกคนได้แนบชิดกับตัวเอง ไม่รู้ทำไมเดือนถึงต้องการขิมมากขนาดนี้ รักสุดหัวใจราวกับว่าตัวเองไม่ได้เพิ่งเริ่มรักคนคนนี้ แต่รักมานานมากแล้ว... ความรู้สึกรักที่ท่วมท้นมันฝังในจิตวิญญาณของเธอ


ขิมห่มผ้าให้เดือนที่นอนหลับอยู่ข้างตัว เธอเท้าแขนหนุนศีรษะกับมือพลางสำรวจดวงหน้าของคนที่หลับใหลอย่างชื่นชมกับความสวยของหล่อน ขิมขยับตัวเข้าหาเดือนแล้วจูบหอมดวงหน้านั้นอย่างนึกรัก

"เดือน... รู้ไหมว่าการที่ได้มีเธอในอ้อมแขนของฉันมันมีความสุขแค่ไหน" ขิมพูดเบาๆ พร้อมกับน้ำตาที่เอ่อคลอจะรินไหล แขนสอดเข้าหาร่างบางของเดือนแล้วกระชับกอดร่างของคนที่หลับใหลให้เข้าหาตัวเอง



อเดลอมยิ้มเมื่อเห็นข้อความจากเบอร์แปลกส่งเข้ามา แต่พออ่านก็รู้ว่าเป็นวาริน... ถึงขนาดที่ว่าแอบเอาเบอร์เธอไปได้นี่แปลว่าชอบเธอจริงๆ เหรอเนี่ยยัยริน อเดลเมมเบอร์ไว้แล้วจะส่งข้อความกลับไปหา แต่เธอไม่รู้ว่าจะส่งไปว่าอะไรดี พิมพ์ๆ ลบๆ แบบนั้นสักพัก แล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจลบที่พิมพ์ไว้ทิ้งแล้วไม่ได้ตอบกลับไป

"ไม่คิดเลยนะว่าจะมีความรู้สึกตื่นเต้นแบบนี้เพราะยัยหน้าต้มจืดอ้วกนั่น" อเดลบ่นแล้วอมยิ้ม ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วอมยิ้มอย่างไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังมีความสุขเพราะศัตรูที่ไม่ชอบกันมาตั้งนาน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องของอเดลดัง ทำให้คนที่กำลังมีความสุขนิ่งแล้วเสียงเคาะประตูก็ดังอีกครั้งหนึ่งพร้อมกับเสียงของเด็กเล็กที่ร้องเรียกเธอด้านนอก

"น้าขา เปิดโหน่ย ก๊อกๆ"

"ค่ะ ข้าวฟ่าง รอก่อน" อเดลตอบรับแล้วรีบลุกไปเปิดประตูให้หลานสาวที่เป็นลูกของลูกพี่ลูกน้องเธอ พอเปิดประตูอเดลก็โดนเด็กอายุ 3 ขวบกว่าๆ จู่โจมอ้าแขนกอดขาทันทีโดยมีแม่ของเธอยืนยิ้มใจดีอยู่ด้วย

"มาได้ไงคะคนเก่งของน้า" อเดลถามหลานสาวแล้วก้มลงอุ้มหลานขึ้นมาหอมแก้ม "แม่ไปรับมาเหรอคะ"

"ป่าว แม่ให้ลุงเอามาส่งก่อนบินไปออสเตรเลียน่ะ แบบว่าลุงยุ่งเลยไม่ค่อยมีเวลาให้ยัยหนูเลย แม่ก็เลยบอกว่าให้เอามาที่นี่ก็ได้ อย่างน้อยแม่ก็อยู่บ้าน หลานเล่นก็ยังอยู่ในสายตาแม่ดีกว่าทิ้งไว้ให้พี่เลี้ยงกับหลานอยู่ด้วยกันเอง"

"ดีแล้วค่ะ" อเดลพูด

"แต่ หลานน่ะถามถึงแต่..."

"ปายหาน้าพิณกาบน้าขิม ไปเล่นกานน้า" ข้าวฟ่างพูดแทรกอย่างร่าเริง อเดลและแม่มองหน้ากันทันที เหมือนหลานจะไม่รู้ว่าพิณเสียไปแล้ว หากไปถามหาพิณตอนพาไปหาขิมคงได้โดนขิมค้อนใส่แน่ๆ แต่ไม่รู้ทำไมหลานสาวของเธอถึงได้ชอบเข้าหาขิมทั้งๆ ที่ขิมทำท่ารำคาญหลานขนาดนั้น มาหาเธอทีไรก็ถามหาจะให้พาไปหาตลอดเลย

"ไว้ก่อนนะจ๊ะหลาน คุณขิมเขางานยุ่ง"

"น้าขิมม่ายทามงานสักโหน่ย น้าพิณด้วย พาไปโหน่ย ฟ่างคิดถึงมาก"

"ติดน้าขิมจริงๆ เลยนะเราน่ะ ทำไมถึงชอบเข้าไปวุ่นวายกับน้าขิมจัง น้าขิมเขาทำท่าทางรำคาญเราออก"

"ป่าวน้า น้าขิมต้องร้ากฟ่าง... สักวานแหละ" ข้าวฟ่างพูดและพึมพำในประโยคหลัง

"คงเห็นคุณขิมนิสัยคล้ายแม่ล่ะมั้งเลยติดแจ" แม่ของอเดลพูดพลางลูบหัวหลานสาวอย่างเอ็นดูและสงสาร เพราะแม่ของข้าวฟ่างหนีตามผู้ชายไปส่วนพ่อของข้าวฟ่างเองก็ไม่รู้เป็นใคร พอคลอดเสร็จก็เอาลูกมาทิ้งไว้ให้พ่อ จะมาหาบ้างแค่ครั้งคราว โชคดีที่ความน่ารักของหลานมีเยอะ หน้าตาน่ารักเหมือนนิสัย แค่แอบเอาแต่ใจ แต่ข้าวฟ่างก็ว่านอนสอนง่าย ชอบอ้อนเอาใจทุกคน

"คุณแม่ก็ อย่าไปพูดแบบนี้ให้ขิมฟัง เดลเคยพูดครั้งหนึ่งขิมโวยวายใหญ่เลยบอกว่าผัวยังไม่มี"

"ว้าย ตายแล้วลูกอย่าพูดแบบนั้นต่อหน้าหลาน ผัวเผออะไรกัน"

"คุณแม่ก็อุตส่าห์ย้ำอีกนะคะ" อเดลว่า แล้วขำ

"น้าขา... ป่ะ หาน้าขิม" ข้างฟ่างชวนแล้วพยักหน้าเร่งเร้า

"ดึกขนาดนี้ถ้าไปเราก็โดนตะเพิดกลับทั้งคู่แน่เลย เอาไว้วันหลังนะฟ่าง"

"อือ ม่ายอาว จาปายอ่ะ คุณยายปายหาน้าขิม"

"ไม่ดื้อนะลูก" แม่ของอเดลผู้เป็นน้องสาวของตาข้าวฟ่างบอกหลานแล้วอุ้มหลานมา "ไปนอนก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาอ้อนขอน้าใหม่นะคะ"

"อือ ยอมก็ได้ แต่ว่ายายต้องนอนกอดหนูน้า" ข้าวฟ่างร้องขอแล้วกอดคออ้อนคนเป็นยาย


"หืม อ้อนกันใหญ่เชียวนะ หมั่นไส้ ไปเลยไปอ้อนกันไกลๆ" อเดลว่าแล้วดันแม่ที่อุ้มหลานไป

"อยากให้แม่เอาใจก็มีหลานให้แม่สิ ไปดูตัวแล้วแต่งสักที ถ้าหาเองไปได้แม่ช่วย"

"โห ดูถูกมากเลยนะเนี่ย หนูไม่อับโชคขนาดนั้นหรอกค่ะเรื่องคนที่เข้ามาเป็นคู่แต่งงาน แต่หนูเลือกคู่ที่ดีต่างหาก เรื่องคนรักอะไรพวกนี้ หนูขอเถอะค่ะ อะไรๆ ก็ยอม ทำงานใช้ไปไหนก็ยอมแล้วแท้ๆ"

"แม่แค่พูดเล่นว่าแม่ใหญ่เลย ฮือๆ" คุณหญิงทำหน้าเบะแล้วจะร้อง อเดลกอดอกมองแม่ที่แกล้งร้อง "เพลงค่าน้ำนมไม่มีค่าแล้วสินะ... แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง..."

"เล่นใหญ่มาก" อเดลว่า ข้าวฟ่างตวัดตาใส่อเดลเล็กน้อย

"ม่ายเปนรายนะยายขา ป่ะ ไปกินนมนอนกันน้า" ข้าวฟ่างปลอบแม่ของอเดลและนั่นทำให้คนเป็นยายแกล้งร้องไห้ใหญ่ พลางเดินไปโดยมีหลานคอยเอาใจลูบหลังปลอบอย่างนั้น

อเดลส่ายหน้าแล้วปิดประตูห้องก่อนจะเข้าไปนอน แต่พอจะล้มตัวนอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น อเดลเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วยิ้มออกมาเมื่อมันเป็นเบอร์ของวาริน อเดลมองหน้าจออยู่แบบนั้น อยากรับนะ อยากจะคุยแต่ก็ไม่รู้ว่าจะคุยอะไรดี ใจนึกสนุกอยากจะลองแกล้งอีกคนอย่างที่เคยทำมาตลอด... อเดลปิดเสียงแล้วล้มตัวนอนทันที ลองคาดเดาเอาว่าพรุ่งนี้วารินจะทำอะไรให้เธอประหลาดใจอีกไหมกับการที่เธอไม่ตอบรับอะไรแบบนี้... น่าสนุกจัง ตื่นเต้น


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น