web stats

ข่าว

 


เพียงได้พบเธอ ตอนที่ 9 yuri

โพสต์โดย: meAyou วันที่: 20 กันยายน 2017 เวลา 10:30:52 อ่าน: 597

   แม้ข่าวหน้าหนึ่งจะดูไม่สมควรเท่าไหร่เพราะเป็นภาพของผู้หญิงสองคนจูบกันแต่ทุกคนก็ลงความเห็นตรงกันว่าดีกว่าเป็นรูปของเขมิกากับคนอื่นและที่ควรนึกถึงก่อนอะไรทั้งหมดก็คือดวงตาสองข้างที่เป็นรอยคล้ายกับดวงตาหมีแพนต้าของตัวเอง
   กวินภัคเพิ่งรู้ว่านอกจากหมัดตรงแล้วเธอยังต้องเจอหมัดคู่แบบนี้ด้วยและมันรุนแรงเป็นสองเท่าจนทำให้เธอไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้าออกจากบ้าน
   "พี่ไปก่อนนะ"
   "ค่ะ"
   "พ่อไปก่อนนะ"
   "ค่ะ"
   "ฉันเข้าบริษัทก่อนนะ"
   "อืม"
   ภาพของคนทยอยออกไปทำงานช่างสะท้อนให้กวินภัคนึกสงสารตัวเองเสียจริงๆ ตั้งแต่รู้จักเขมิกาชีวิตของเธอก็ไม่เคยสงบสุขอีกเลย
   จะว่าไปไม่ใช่แค่การใช้ชีวิตนะแต่รวมถึงสุขภาพร่างกายด้วยที่ดูเหมือนจะถดถอยลงจนน่าสงสารหากแต่ก็ยังถือว่าคุ้มค่าเพราะจากการอ่านข้อความใต้รูปจูบนั้นเธอพบว่ามันคือการอวยในความสัมพันธ์ราวกับคู่รักที่คืนดีกันหรืออย่างน้อยๆ ก็ดูเป็นคู่รักที่น่าเชื่อถือมากขึ้น
   แต่แล้วหัวใจกลับเริ่มทำงานหนักอีกครั้งเมื่อเสียงการก้าวเท้าดังขึ้นให้เริ่มนึกขึ้นได้ว่าภายใต้ความเงียบสงบแห่งนี้ปีศาจเพียงตัวเดียวในบ้านยังไม่ออกไปไหนและนั่นหมายถึงในเวลานี้ สถานที่แห่งนี้มีเธอและสิ่งน่ากลัวนี้เท่านั้นที่อาศัยอยู่
   ไม่จริงชะชะใช่ไหม?
   
   เจ้าของดวงตาคู่ดุที่เคลื่อนเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กวินภัคหายใจแทบไม่ทั่วท้องก่อนจะทำทีเป็นไม่เห็นแล้วลุกเลี่ยงไปทางอื่นซึ่งใครอีกคนก็รู้ทันและนั่นทำให้การเผชิญหน้าเกิดขึ้น
   เธอกำลังจะถูกหาเรื่องแต่ก็หวังว่าเขมิกาจะยังปราณีไม่ออกอาวุธใหม่ใส่เธออีกหรอกนะไม่อย่างนั้นได้หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มีเป็นแน่
   "อะอรุณสวัสดิ์ค่ะ"
   ไม่มีเสียงตอบมีเพียงดวงตาถมึงทึงที่จ้องมาเท่านั้นให้นึกหวั่นใจวันนี้เธออาจจะสลบแล้วไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลยก็เป็นได้

   แม้จะถูกลากตัวมาโดยไม่เต็มใจแต่ก็ไม่อาจที่จะปัดความรับผิดชอบได้ในเมื่อเรื่องบางเรื่องถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือของตัวเองถึงจะไม่มีเจตนาร้ายแต่ผลของมันก็กระทบคนสองคนแม้ไม่มากแต่ก็คงไม่น้อยจนสามารถปล่อยเฉยไว้ได้
   "พัดขอโทษนะคะไม่คิดจะทำเรื่องแบบนั้นเลยแต่มันจำเป็นจริงๆ"
   คำแก้ตัวดูจะไม่ส่งผลกระทบต่อหัวใจของคนข้างๆ เลยสักนิดเพราะเขมิกายังคงจ้องไปยังถนนเบื้องหน้าไม่แม้แต่จะขยับตัวรับรู้ในสิ่งที่เธอพูดเลยสักนิดแต่กวินภัคก็เข้าใจเพราะการจูบคนอื่นต่อหน้าแฟนของตัวเองมันไม่ใช่เรื่องดีเลยสักนิดแม้การจูบนั้นจะเป็นความไม่ตั้งใจก็ตามที
   "ถ้าไปถึงพัดจะอธิบายให้แฟนพี่มิกาฟังให้ละเอียดถึงความจำเป็นในการจูบนั้นเลยนะคะ"
   กวินภัคพูดด้วยท่าทางจริงใจแต่ก็ยังได้รับความเฉยชากลับมาเช่นเดิมให้นึกท้อใจหากเขมิกาหยุดอคติแล้วคิดสักนิดก็คงจะรู้ว่าตัวเองก็มีส่วนผิดอยู่ไม่น้อยเพราะเธอก็ย้ำนักย้ำหนาแล้วว่ามันไม่ผิดที่จะมีแฟนแต่อย่างแสดงความสัมพันธ์ให้ประเจิดประเจ้อแค่นั้นเป็นพอแต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามสิ่งที่ร้องขอเธอก็จำเป็นที่จะแก้ปัญหาในแบบของตัวเอง
   "พัดก็ไม่ได้อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้นะคะ"
   เมื่อบางอย่างผุดเข้ามาในความคิดกวินภัคก็ตัดสินใจพูดมันออกมาไหนๆ ก็มีโอกาสอยู่เพียงลำพังแล้วก็น่าจะเปิดใจให้หมด
   "ถ้าพี่มิกาไม่อยากให้เรื่องมันบานปลายไปกว่านี้พี่ก็น่าจะให้ความร่วมมือบ้าง"
   การกล่าวโทษทำให้คนที่พยายามกดอารมณ์นึกโมโหเธออุตส่าห์จะไม่ทำอะไรแล้วนะแต่สุดท้ายกวินภัคก็หาเรื่องให้ความเดือดดาลระเบิดออกมาอีกจนได้   "นี่คิดจะโทษความผิดทั้งหมดมาให้ฉันอย่างนั้นเหรอ"
   น้ำเสียงไม่พอใจดังขึ้นให้ได้รู้ถึงอารมณ์ติดลบของคนพูดหากแต่เมื่อจั่วหัวเรื่องไปแล้วจะไม่พูดต่อก็คงจะเสียดาย
   "พัดไม่ได้หมายถึงแบบนั้นนะคะแค่อยากให้พี่มิกาเข้าใจว่าเราควรจะร่วมมือกันมากกว่าเป็นศัตรู"
   "ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยแค่ยอมแต่งกับเธอมันก็มากเกินรับได้แล้วทำไมฉันยังจะต้องทนฝืนใจทำเรื่องอื่นอีกล่ะ"
   "มันก็ฝืนใจกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละค่ะ"
   กวินภัคหลุดออกมาเมื่อเหลืออดกับคำว่าฝืนใจเขมิกาคิดว่าเป็นคนเดียวหรือไงที่เกิดความรู้สึกเช่นนั้นเธอเองก็มีไม่น้อยเพียงแต่ก็เลือกที่จะเก็บเอาไว้ต่างหาก   "พัดเข้าใจค่ะว่าคนที่พี่อยากแต่งงานด้วยก็คือแฟนพี่และมันก็แย่มากที่ต้องมาแต่งกับคนอื่นแถมเป็นผู้หญิงด้วยกันอีกมันก็ยิ่งทำให้พี่เสียหายมากขึ้นแต่ช่วยอดทนหน่อยได้มั้ยคะมันอาจจะต้องใช้เวลาบ้างแต่รับรองได้ว่าเราสองคนไม่มีวันผูกชีวิตไว้ด้วยกันแบบนี้ไปจนตายหรอกค่ะ"
   สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เขมิกาก็รู้ดีแต่เธอก็ทำใจรับกับสภาพการถูกบังคับไม่ได้อยู่ดีรู้สึกราวกับว่าถูกขังไว้ในห้องที่คุ้นเคยแม้จะไม่มีอันตรายแต่มันก็ทำให้เธอต้องการที่จะออกไปข้างนอกห้องอยู่ดี
   "เรื่องนั้นฉันรู้อยู่แล้วล่ะน่ะไม่ต้องมาสอนอีกอย่างที่ฉันเลือกเธอก็เพราะว่าเป็นผู้หญิงด้วยกันนี่แหละจะได้ไม่เสียหาย"
   รู้อยู่แล้วอย่างนั้นหรือกวินภัคนึกอยากจะสวนกลับไปในประโยคที่ว่านี้จริงๆ หากรู้แล้วแต่ทำไมยังกลับสร้างเรื่องให้บานปลายอีกล่ะ
   เดี๋ยวก่อนนะ?
   บางคำพูดชวนให้สะดุดขึ้นมาเมื่อทวนซ้ำเขมิกาบอกว่าการถูกจับคู่ไม่เสียหายเพราะเป็นผู้หญิงด้วยกันแต่คำที่แตะใจกลับเป็นอีกคำที่เจ้าหล่อนหลุดออกมาว่า "เลือก"
   "ที่บอกว่าเลือกอย่าบอกนะคะว่าวันนั้นมันเป็นแผนของพี่"
   กวินภัคพูดตามสิ่งที่เริ่มเข้าใจก่อนจะนึกทบทวนเรื่องราวในวันเกิดเหตุนั้นด้วยหัวใจเต้นแรงเมื่อคิดว่าจังหวะที่ตัวเองจะเข้าห้องน้ำประตูทุกห้องต่างพากันล็อคไปหมดเหลือเพียงห้องเดียวให้ไม่มีทางเลือกในนาทีนั้น
   "นี่พี่วางแผนมาตั้งแต่แรกเลยอย่างนั้นสินะคะ"
   "ใช่แล้วจะทำไม"
   น้ำเสียงไร้อารมณ์เอ่ยตอบออกมาตามตรงให้คนถูกหลอกนึกเจ็บใจทั้งๆ ที่เรื่องราวมันเดาง่ายขนาดนี้แต่ทำไมเธอถึงคิดไม่ออกกันนะ
   "พัดจะไปบอกคุณป้าประภา"
   "ตามใจเพราะฉันก็ยอมทำตามที่คุณแม่ครั้งหนึ่งแล้วมันจะไม่มีครั้งที่สองเป็นแน่"
   "ทำไมพี่ถึงหัวแข็งแล้วก็ดื้อแบบนี้กันนะ"
   กวินภัคเอ่ยออกมาอย่างเหลืออดอีกครั้งและคำต่อว่านี้ดูเหมือนจะสะกิดใจเขมิกาไม่น้อยเจ้าตัวถึงได้หันมาง้าวมือเตรียมฟาดคนว่าให้
   "นี่พี่จะทำอะไรขับรถอยู่นะคะ"
   "ฉันไม่สนยังไงตอนนี้ฉันก็จะจัดการเธอให้ได้"
   พูดจบเขมิกาก็จัดการฟาดมือใส่คนพูดว่าให้ไม่ยั้งแต่แล้วสิ่งที่กลัวก็เกิดขึ้นจนได้เมื่อทางข้างหน้ามีหลุมขนาดใหญ่ให้คนที่กำลังออกแรงได้ตกใจจนต้องหักหลบลงข้างทางเพราะมือเพียงข้างเดียวไม่สามารถบังคับพวงมาลัยได้อย่างสมบูรณ์
   เกือบไปแล้ว! กวินภัคถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหันไปมองแรงใส่คนก่อเรื่องที่ประมาณไม่เข้าท่าจนเกือบทำให้เกิดเรื่องใหญ่ยังดีไม่มีใครเป็นอะไรไม่อย่างนั้นคงจะได้กลายไปเป็นข่าวดังอีกเป็นแน่
   "เห็นมั้ยล่ะเกิด?"
   กวินภัคชะงักคำไปเมื่อได้มองเห็นใบหน้าตื่นตกใจของคนก่อเรื่องชัดๆ และสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใจอ่อนก็คือแผลที่หน้าผากของเขมิกา
   ผ้าเช็ดหน้าผืนน้อยถูกนำมาเช็ดคราบสีแดงที่ไหลออกมาตามแผล
   นี่ยังโชคดีที่เป็นไม่มากไม่อย่างนั้นเธอคงไม่รู้จะไปบอกคุณป้าประภาว่าอย่างไรที่ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวเจ็บตัวเข้าให้แบบนี้
   "ฉะฉัน?"
   "ไม่เป็นไรแล้วนะคะแผลใหญ่ไม่มากเดี๋ยวกลับบ้านไปพัดจะหายามาใส่ให้นะคะ"
   "แต่ว่า?"
   "เรื่องอธิบายให้คุณชาตรีฟังเดี๋ยวพัดจะรีบเคลียร์ให้เลยแต่ตอนนี้ต้องกลับบ้านกันก่อนนะคะ"
   ใช่ว่าจะนึกเห็นด้วยแต่ในนาทีระทึกขวัญเมื่อสักครู่ก็ยังติดตาให้ได้นึกกลัวขึ้นมาจนแทบไม่มีแรงและนั่นทำให้เขมิกายอมทำตามคำบอกกล่าวของใครอีกคนเป็นครั้งแรก
   "เดี๋ยวพัดขับแทนดีกว่านะคะ"
   กวินภัคเอ่ยอาสาก่อนจะเดินลงรถไปเปิดประตูพยุงคนขับให้มาสับเปลี่ยนที่นั่งกับตัวเองเห็นท่าทางหงอๆ แบบนี้ก็พานให้นึกสงสารขึ้นมาแต่มันก็ทำให้เธอรู้ว่าคนที่ถูกเรียกว่าปีศาจก็มีมุมน่าสงสารไม่ต่างจากคนอื่นหากเป็นแบบนี้ไปตลอดก็คงจะดีจะได้ตกลงกันด้วยการพูดจาไม่ใช่กำลังอย่างเช่นทุกครั้งที่เธอมักจะเป็นฝ่ายแพ้เสียทุกครั้งไป
   ทันทีที่ถึงบ้านกล่องประถมพยาบาลก็ถูกยกมาพร้อมกับการลงมือทำแผลของคุณหมอจำเป็นที่ดูจะเกร็งไม่น้อยยิ่งเวลาเจ้าของแผลแสดงสีหน้าเจ็บปวดออกมากวินภัคก็รู้สึกตกใจเสียทุกที
   "พัดทำให้เจ็บเหรอคะ"
   "ไม่นิ"
   ปากบอกปฏิเสธแต่สีหน้ากลับตรงกันข้ามให้คนดูออกได้นึกสงสารทำไมต้องทำเป็นเก่ง ทนเจ็บ ทนร้อนมากถึงขนาดนี้กันนะทั้งๆ ที่ตัวเองก็เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่ง
   เห็นแบบนี้แล้วก็ทำให้นึกอยากรู้ขึ้นมาจริงๆ ว่าหากคนที่ทำแผลให้เขมิกาอยู่นี้คือชายคนรักของเจ้าหล่อนความแข็งกระด้างนี้จะเปลี่ยนเป็นความอ่อนหวานบ้างหรือเปล่านะ
   "เสร็จแล้วค่ะกินยาแก้ปวดหน่อยนะคะจะได้ไม่เจ็บมากตอนมันระบม"
   เขมิการับยาเม็ดที่ว่านี้มากินอย่างว่าง่ายก่อนจะคืนแก้วเปล่าให้คนดูแลที่พอทำทุกอย่างครบหมดแล้วก็เดินเอาของต่างๆ ไปเก็บเข้าที่ทันที
   "ขอบใจนะ"
   ประโยคหนึ่งดังขึ้นให้กวินภัคได้หันกลับมายังคนพูดที่ทันทีที่พูดจบก็เดินผละออกไปทันทีและแม้จะไม่อยากเชื่อหูแต่เพราะความเงียบของบ้านจึงทำให้ทุกคำชัดเจน   ไม่อยากจะเชื่อว่าคนอย่างเขมิกาจะมาพูดคำนี้กับเธอเพราะหากเป็นคนอื่นคงจะไม่ประหลายใจได้เท่านี้

   มือถือถูกกดออกไปหาใครบางคนเพื่ออธิบายเรื่องทุกอย่างรวมไปถึงร้องขอความช่วยเหลือเมื่อเขมิกายังคงดื้อดึงไม่เลิกเธอก้ควรจะเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ใครอีกคนที่น่าจะพูดง่ายกว่า
   กวินภัคไม่ได้ขอให้คู่รักทั้งสองต้องเลิกหรือห่างกันเพียงแต่ขอให้ระมัดระวังตัวมากขึ้นและที่สำคัญในที่รโหฐานที่ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่านก็ไม่สมควรที่จะอยู่ใกล้กันมากจนเกินงามหากแต่ดูเหมือนว่าปลายสายที่ดูท่าจะพูดง่ายยังไม่ทันได้รับปากก็ถูกคนที่บังเอิญผ่านมาได้ยินแย่งมือถือไปกดตัดสายเสียก่อน
   "คิดจะทำอะไร"
   น้ำเสียงเอาเรื่องทำให้กวินภัคถึงกับหน้าเสียเพราะดูเหมือนว่าเขมิกาจะเข้ามาได้ยินในเรื่องที่ไม่สมควรเข้าให้เสียแล้ว
   "คือพัด?"
   "ไหนบอกจะอธิบายให้ชาตรีฟังไง"
   "อธิบายไปแล้วค่ะ"
   "แต่ฉันได้ยินเป็นเรื่องอื่น"
   "พัดพูดไปแล้วจริงๆ นะคะ"
   "ฉันไม่ได้ยิน"
   "พูดจริงๆ นะคะคงก่อนหน้าที่พี่มิกาจะเข้ามา"
   "แน่ใจเหรอว่าไม่ได้พูดเรื่องอื่น"
   "พัดพูดไปแล้วจริงๆ นะคะส่วนอีกเรื่องก็แค่เป็นการขอร้อง"
   ประโยคหลังแผ่วลงเพราะรู้ว่าถึงจะพูดและอธิบายยังไงก็คงไม่ทำให้เกิดความเข้าใจอยู่ดีและสิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือ
   ถอยห่างและหนีให้เร็วที่สุด!!!
   แต่เพียงหันหลังก้าวไปเพียงสองก้าวก็ถูกคว้าหมัดเข้าที่แขนให้ได้ใจหายอะไรกัน! เมื่อสักครู้เธอเพิ่งได้รับคำพูดดีๆ จากเจ้าหล่อนอยู่เลยนะแต่ยังไม่ถึงห้านาทีกลับจะต้องลงเอยแบบเดิมอีกอย่างนั้นหรือ
   ไม่!!!!!!!!!
   กวินภัคหลับตาปี้เพราะคิดว่ายังไงก็คงหนีไม่พ้นหมัดตรงปีศาจนี้แน่ๆ
   ห้า สี่ สาม สอง หนึ่ง เจ้าของเสียงนับในใจเปิดดวงตาขึ้นช้าๆ เมื่อพบว่าสติที่น่าจะดับลงของตัวเองยังคงทำงานเป็นปกติพร้อมๆ กับความแปลกใจใหม่ที่กำลังถูกใครอีกคนลากตัวมานั่งที่โซฟาแทนที่จะเป็นปล่อยหมัดใส่ที่หน้า
   "มะมะมีอะไรหรือเปล่าคะ"
   ไม่มีเสียงตอบหากแต่เพียงคนพามาเดินหายไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาพร้อมกล่องยาที่ทำให้กวินภัคนึกสงสัยขึ้นมา
   หรือแผ่นผ้าที่ปิดที่แผลของเขมิกาจะหลุดกันน่ะเจ้าหล่อนถึงลากเธอมานั่งนี่เพื่อจะให้ทำให้ใหม่
   "เอ่อ?"
   "อยู่เฉยๆ เถอะน่ะถ้าไม่อยากเจ็บตัว"
   ประโยคข่มขู่ดังขึ้นให้ต้องรีบรูดซิปปากหากแต่ความสงสัยก็ยังคงทำงานให้ต้องมองตามใครอีกคนอยู่ตลอดก่อนจะมารู้ตัวถึงคำตอบนี้ได้ก็เพราะความเจ็บที่อยู่ๆ ก็เกิดขึ้น
   "โอ๊ย?"
   กวินภัคยกมือขึ้นแตะส่วนที่เจ็บก่อนจะพบว่ามีของเหลวสีแดงติดมือมาด้วยให้ต้องนึกย้อนไปในช่วงเวลาอุบัติเหตุที่เกิดจากแรงเหวี่ยงทำให้หัวของเธอกระแทกกับกระจกแต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะทำให้เกิดแผลได้เพราะไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด
   "คือพัด?"
   "ครั้งนี้ฉันจะไม่เอาเรื่องแต่ถ้ายังจะวุ่นวายกับคนของฉันอีกล่ะก็เรื่องจะไม่จบง่ายแบบนี้แน่ๆ"
   "เอ่อ?"
   "หุบปากได้แล้ว"
   เขมิกาพูดเอ็ดก่อนจะลงมือทำแผลต่อคงเป็นเพราะผ่านมานานแล้วจึงทำให้เลือดแข็งตัวไปเกือบหมดหากแต่พอได้เห็นแผลและคราบเลือกที่เปรอะติดหลังเสื้อก็ทำให้คิดว่าแผลที่หน้าผากของตัวเองเล็กน้อยไปเลยแล้วทำไมถึงไม่บอกกันนะว่าตัวเองก็เจ็บเอาแต่มายุ่งกับแผลของคนอื่นอยู่ได้
   ทำตัวได้น่ารำคาญเสียงจริงๆ   
                        
เปิดจอง "เพียงเธอคนเดียวที่คิดจะรัก , เพียงได้พบเธอ" วันนี้ - 20 ก.ย 60
 
1. สำหรับคนที่สั่งจอง       1 เรื่อง
   ราคาเล่มละ              350 บาท
   ค่าส่งลงทะเบียน         30 บาท (EMS 50)
   รวมที่ต้องโอน           380 บาท

2. สำหรับคนที่สั่งจอง          2 เรื่อง
   ราคา                         700 บาท
   ค่าส่งลงทะเบียน            50 บาท (EMS 70)
   รวมที่ต้องโอน              750 บาท

   สำหรับการสั่งซื้อแบบ pdf ราคาเรื่องละ 250 บาท
 
   โอนเงินมาได้ที่
   ธนาคารกสิกรไทย
   สาขาเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่
   457-211-232-8
   ชื่อบัญชี สมทรัพย์
 
   โอนเสร็จแจ้งวันเวลาการโอนมาได้ที่
   Mail mydestiny_k@hotmail.com
   Tel 087-0591110
   Line samakae
   facebook https://www.facebook.com/mea.you.927
   ถ้าสั่งแบบpdf ให้แจ้งเมล์ที่จะให้จัดส่งไฟล์ด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามและสนับสนุนกันมาตลอดนะคะ

   หมายเหตุ**
   เรื่องนี้จัดทำเป็น pdf และ e-book แล้วนะคะ ส่วนหนังสือต้องรอสรุปยอดจองถึงจะพิมพ์ได้ อาจจะช้าหน่อยแต่ถ้าได้ยอดที่แน่ชัดจะส่งพิมพ์ทันทีไม่ต้องห่วงน๊า :)

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น