web stats

ข่าว

 


Me Too รักฉันเหมือนกับเธอ-5

โพสต์โดย: Pearfa วันที่: 12 กันยายน 2017 เวลา 21:40:01 อ่าน: 214

สวัสดีค่าาาา   มาแล้วๆๆๆ  คิดถึงเค้าไหมหายไปตั้งวันหนึ่งแนะ 555555  อ่านมาตั้ง 4ตอนแหละพอเดากันได้รึยังว่าพี่อรินหรือตัวพระในลักษณะไหนกัน   งิ  ถ้ายังเดาไม่ออกก็อ่านต่อไป ต่อไปเรื่อยๆ รอรู้พร้อมกับต้นข้าวทีเดียวเลยก็ได้55555 

***ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นตและกำลังใจจากนักอ่านทุกๆคนนะค้าาาาา   ผิดพลาดตรงได้ก็แนะนำ ติชมกันได้  ไรท์พึ่งลองเขียนแนวๆนี้   รู้สึกยังออกแนวสดใสเหมือนเดิม55555

ฝากเพจๆๆ

 https://www.facebook.com/myfictionP/







กลิ่นอ่อนๆของดอกไม้ป่าลอยโชยมาจนเปลือกตาสวยต้องเปิดรับกับสัมผัสนั่นทันที   ดวงตาสีเทาประกายน้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามชั่วขณะก่อนจะกลับเป็นดังเดิม  เอรีน่าหันมองแผ่นหลังไวๆที่เธอจดจำได้ดี  ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากอย่างนึกสนุก

"อรินขอเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมคะ"ดาราสาวหันบอกเจ้าของร้านที่กำลังเลือกดอกไม้ดอกสวยสำหรับจัดช่อให้เธอ

"งั้นเดียวแนนพาไปนะคะ" นันติยายิ้มรับก่อนจะวางดอกไม้ในมือลง

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยากทำธุระส่วนตัวสักหน่อยนะค่ะ" ใบหน้าสวยจ้องมองเจ้าของร้านด้วยสายตาเรียบนิ่งเพื่อสื่อจุดประสงค์ของตัวเอง

"อ่อ ค่ะ งั้นคุณอรินเดินตรงไปด้านนั่นนะคะ ห้องน้ำจะอยู่ขวามือของทางเดินเลยค่ะ"

"ขอบคุณค่ะ" เอรีน่าหันมองผู้จัดการสาวที่ยืนมองอยู่ใกล้กัน ก่อนจะละสายตาเดินไปตามทางที่หญิงสาวบอก



ตึงๆๆๆๆ
เสียงดันประตูจากแรงของร่างบางด้านนอกประตู
"ออกสิๆๆๆๆ ได้โปรดล่ะ งื้อออ" ต้นข้าวดึงบานประตูไม้ที่เธอคิดว่ามันถูกล็อกจากด้านในชัวร์ๆ  เธอเพียงหวังว่าจะมีเพื่อนร่วมงานหรือใครสักคนเดินผ่านมาได้ยินแล้วเปิดมันออกให้เธอก่อนจะถึงเวลาเข้างาน

"อีก 15 นาที ตายแล้วต้นข้าววว " หญิงสาวมองนาฬิกาเรือนสีขาวบนข้อมือของตัวเองอีกครั้ง สองขาย่ำไปมาอยู่กับพื้นปูนสีขาวๆด้วยความร้อนใจ

หลายต่อหลายครั้งที่เธอมักจะโดนผู้จัดการร้านอย่างคุณป้าวินิตต่อว่าเธอเรื่องมาสาย  แต่นั่นเพราะเธอรู้จักกับเจ้าของร้านไงถึงยังมีหน้าทำงานต่อได้ในทุกวันนี้   เพียงแต่ต้องทนกับคำนินทาที่ชอบมองว่าเธอเป็นเด็กเส้นบ้าง   เด็กฝากบ้าง   หรือไม่ก็คิดว่าเธออ่อยเจ้าของร้านอย่างรุ่นพี่สาว   มันแน่ล่ะ !!! มีที่ไหนกันรับพนักงานที่ทำงานเพียงสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 4 ชม. คงมีแต่ที่นี่และก็แค่เธอเท่านั่นแหละ

 แกร็ก!!!

"อ่าาา" พิมพ์ศิริยิ้มร่าเมื่อบานประตูถูกปลดล็อกออก   ใบหน้าสวยค่อยๆชะเง้อคอมองรอดบานประตูเข้าไปทีละนิดอย่างระมัดระวัง

"ไม่มีคนแฮะ " ร่างบางรีบปิดประตูไว้อย่างเดิมพลางมองไปรอบตัวที่ไร้ผู้คน  อุสาห์ตั้งใจว่าจะขอบคุณผู้มีน้ำใจเสียหน่อย  คงต้องเปลี่ยนไปขอบคุณเจ้าที่เจ้าทางแทนเสียแล้วมั้ง


ประตูห้องน้ำถูกเปิดและปิดด้วยมือน้อยๆของหญิงสาวร่างบางอย่างรวดเร็ว   ต้นข้าวยืนมองตัวเองผ่านบานกระจกใสก่อนจะถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ให้กับความวุ่นวายของชีวิตเธอ 

"มันผ่านมาแล้วๆ อย่าเก็บมาคิดสิต้นข้าว  เธอต้องยิ้มๆ" รอยยิ้มหวานเผยบนบานกระจกใสทันทีเมื่อการเติมกำลังใจให้ตัวเองเป็นอันสำเร็จ

หลายครั้งที่เธอเหนื่อย  แต่เพราะนั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอต้องหยุด  สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้ก็คือคนที่กำลังรอคอยการกลับไปของเธอ  คนในบ้าน "แห่งรัก"

มือบางเลื่อนมาหยุดตรงเม็ดกระดุมเหล็กที่ประทับตราของสถาบันการศึกษา   ก่อนจะค่อยๆแกะมันออกจากรังดุมทีละเม็ดทีละเม็ด   ใบหน้าสวยหวานยังคงใจลอยยืนมองตัวเองผ่านบานกระจกใสด้วยสายตาระห้อย   ขอแค่เวลาตรงนี้ที่เธอจะสามารถทำอะไรเฉื่อยช้าแบบนี้ได้  ขอเพียงแค่นี้ต้นข้าวนึกพลางถอนหายใจทิ้งไปอย่างไม่สนใจ

"อะแฮ่ม"  พิมพ์ศิริหยุดการเคลื่อนไหวในทันที   ก่อนจะตั้งใจฟังเสียงแปลกปลอมที่ดังขึ้นเมื่อครู่จนไม่กล้าขยับตัว

"ขอโทษ"

"ขอโทษ"  คำว่าขอโทษที่ดังขึ้นนั่นทำให้ต้นข้าวต้องหันกลับไปมองตามเสียงนั่นในทันที   ใบหน้าคมสวยที่พูดคำว่าขอโทษกำลังส่งสายตาและรอยยิ้มที่แสดงออกมาตรงกันข้ามกับคำพูดเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง

"เฮ้ย ย ค คุณ เข้ามาได้ยังไง"  ต้นข้าวเอ่ยอย่างติดขัดก่อนจะใช้มือยกขึ้นมาปกปิดหน้าอกนูนของตัวเองอย่างรวดเร็ว

"อ่า เจอกันอีกแล้วสินะ "
"ฉ ฉันถามว่าคุณเข้ามาได้ยังไง"
ร่างบางขยับกายหนี คนตัวสูงที่เดินหน้ามาทางเธอด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จนติดพื้นกำแพงสีขาวๆ  มือบางพยายามติดกระดุมเสื้อที่พึ่งลงมือแกะมันออกเมื่อกี้ให้กลับมาดังเดิม  แต่มันก็ทำได้ยากเสียจริงเมื่อมือของเธอเอาแต่สั่นระริกอย่างคนหมดเรี่ยวแรง

"ฉันเข้ามาก่อนเธอนะ  อย่ามั่วสิ"   ใบหน้าคมที่ฝั่งลงตรงซอกคอขาวพูดแผ่วเสียงกระซิบใส่อีกคนที่กำลังหายใจฟึดฟัด

ต้นข้าวขนลุกซู่เมื่ออยู่ๆดาราสาวสวยก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าของเธออย่างรวดเร็ว   มันเร็วจนเธอเองก็ไม่แน่ใจว่าเธอเบลอหรือว่าอะไรกันแน่    เสียงแผ่วเบาที่ดังกระเซ่าอยู่ใกล้ๆและกลิ่นหอมๆที่เธอจำมันได้ดี

"คุณอริน  คุณอรินอยู่ข้างในหรือปล่าวคะ"

เสียงเคาะประตูที่มาพร้อมกับเสียงหวานของเจ้าของร้านดอกไม้ดังขึ้นขัดอารมณ์หวานของเอรีน่าทันที    ใบหน้าขาวซีดกลับสภาพคืนมาเป็นดังเดิมพลางสายตาจ้องมองบานประตูด้วยความรู้สึกนึกเคือง   ดวงตาสีทองอร่ามที่กำลังจ้องมองซอกคอขาวอย่างนึกเสียดาย   เอรีน่าปิดเขี้ยวแหลมลงในทันทีเมื่อดวงตากลับกลายมาเป็นสีน้ำทะเลครามแกรมสีเทาอ่อนๆ   ก่อนจะจำใจละมือออกจากใบหน้าเนียนสวยของหญิงสาวตรงหน้า

"แล้วเจอกันใหม่น่ะ......"
ใบหน้าสวยถูคลอข้างแก้มของเด็กสาวก่อนจะหายตัวออกไปในทันที   ปล่อยให้อีกคนยืนมึนอย่างคนไร้สติ

ก๊อก ก๊อก ก๊อก
"มีคนอยู่ในห้องน้ำหรือปล่าวคะ"
เสียงเจ้านายสาวยังคงดังอย่างต่อเนื่อง  ต้นข้าวสะบัดหน้าไปมาพลางกระพริบตาถี่อีกครั้งเมื่อภาพตรงหน้าเมื่อครู่นั่นเปลี่ยนไป

"อ อ เอ่อ ข ข้าวเองค่ะ  ข้าวอยู่ในห้องน้ำค่ะพี่แนน "
"อ้าวข้าวหรอ  พี่ขอโทษทีจ้า  งั้นพี่ไปน่ะ"
"ค่ะพี่แนน"
พิมพ์ศิริตะโกนตอบรุ่นพี่สาวก่อนจะหันมามองใบหน้าแดงอ่อนของตัวเองพลางกระจกใสตรงหน้า   ใบหน้าสวยหันมองไปรอบตัวอย่างระแวงเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่   เธอฝันหรอ  ไม่จริงหรอก ทั้งสัมผัสเย็นๆ น้ำเสียงที่แสนจะคุ้นเคย  รวมทั้งกลิ่นหอมจากตัวของอีกคนที่เธอจดจำมันจากอ้อมกอดในวันนั่นได้ดี    หรือเพราะเธอทำงานมากเกินไปจนร่างกายปรับสภาพไม่ทันหรือร่างกายของเธอกำลังจะมีปัญหาไปแล้ว 

"เฮ้อออ"   สงสัยฉันจะป่วยหนักเข้าแล้วจริงๆ

ต้นข้าวนึกในใจก่อนจะรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าต่อในทันที   ทั้งที่ในใจก็อดที่จะคิดว่านั่นคือความจริงไม่ได้



"อ้าว คุณอรินมาอยู่ตรงนี่ตั้งแต่เมื่อไรคะ"
นันติยายิ้มหน้าบานพลางมองลูกค้าสาวสวยที่กำลังเดินเลือกดอกไม้อยู่   ใบหน้าเรียบนิ่งที่หันเอียงมามองกันเพียงเล็กน้อยก่อนที่จะหันกลับไปสนใจดอกไม้ดั่งเดิมนั่นทำให้คนถามรู้สึกปวดหนึบอยู่กลางอก

"มานานแล้วค่ะ"

"หรอคะ  แนนก็นึกว่าคุณอรินยังไม่ออกมาจากห้องน้ำซะอีก  เป็นห่วงแทบแย่"

"ค่ะ"   เอรีน่าตอบหญิงสาวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนคนฟังถึงกลับใบหน้าเจือนไปในทันที   นันติยาเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุยพลางหันมองผู้จัดการสาวที่นั้งอมยิ้มอยู่บนโซฟาโดยไม่ได้หันมองเธอ   ลูกโซ่กำลังหัวเราะเยาะเธอที่โดนนางเอกสาวพูดจาเย็นชาใส่กัน 

"อ เอ่อ แล้วคุณอรินได้ดอกไม้ที่ถูกใจรึยังคะ"
"ได้แล้วค่ะ  แต่มันหายไปแล้ว"
"คะ " หายไป หายไปได้ยังไงคะ"   เจ้าของร้านถามอีกคนด้วยความสงสัย

"ชังมันเถอะคะ  เอาตามที่คุณจัดมาก็แล้วกันค่ะ"

"ได้ค่ะ  งั้นเดียวแนนไปจัดการให้นะคะ"
"ค่ะ"

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น