web stats

ข่าว

 


DREAM WORLD : Another Dream...PartI (ตอนที่ 13)

โพสต์โดย: PaTTsU วันที่: 12 เมษายน 2019 เวลา 15:45:09 อ่าน: 35


Chepter 13
Another Dream


      3 เดือน กับ 21 วัน
     โรงพยาบาลทาร์มเมอร์แลนด์เมมโมเรียล




          ตึด ตึด ตึด/ เสียงจากเครื่องจับสัญญาณชีพจรดังท่ามกลางความเงียบสงัดของห้อง

             "แมรี่?"

              "??"   เธอยังคงจ้องที่เตียงที่อยู่ตรงหน้าเธอ

          เอ็ดเวิร์ดเอามือแตะที่ไหล่ก่อนที่จะเรียกเธออีกครั้งอย่างแผ่วเบา  "แมรี่..."

          แมรี่ค่อยๆหันมาดวงตาของเธอยังคงแดงกล่ำและแก้มที่เปื้อนคราบน้ำตา  และเธอก็ต้องประหลาดใจทันทีที่เห็นสีหน้าของสามีตัวเอง "มีอะไรหรือเปล่าเอ็ด?"

          "บาทหลวงไมเคิลกับเจสนะ...พวกเขาบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติ "



       ดรีมเวิล์ด


       "ทางนั้น แพทริเซีย!"

      "นายตามไป เดี๋ยวฉันแยกไปดักข้างใน"

       พรึบ.. พรึบ พรึบ / เสียงฝีเท้าของทั้งคู่ดังไปทั่วบริเวณ ขณะที่กำลังวิ่งตามริชาร์ดที่แอบหนีออกมาก่อนที่จะโดนพวกเรากลุ่มต่อต้านและกำลังคนชาวเมืองที่พากันลุกขึ้นสู้ บุกเข้าตีขนาบกองทัพของเขา ทั้งทางด้านหน้าและหลัง  รวมทั้งกลุ่มโดรนบางส่วนที่พอจะซ่อมแซมเอาขึ้นได้บ้างในตอนหลัง

       ทำให้กองทัพของเขาอ่อนกำลังลงและพากันวิ่งหนีแตกกระจาย เมื่อพวกเราสามารถทำลายพวกป้อมปืนกลและป้อมระเบิดของเขาได้จนหมด ต่อมาเราก็สังเกตว่าเขาหายตัวไปก่อนหน้านั้นแล้ว พวกเราต้องพากันตามรอยทั้งใช้ดาวเทียมและไล่ถามพวกทาร์มคีปเปอร์ของเขา ซึ่งส่วนใหญ่ต้องให้แซมกับเดวิดต้องใช้กำลัง เพราะกว่าจะยอมเปิดปากกันออกมาได้แต่ละคำไม่ใช่เรื่องง่าย นั้นทำให้พวกเราตกใจเหมือนกันว่าทำไมพวกนี้ถึงจงรักภักดีกับริชาร์ดนักหนา

        "เฮือกก?ฟู่" แพทริเซียพยายามควบคุมลมหายใจ หลังจากที่เธอรีบเร่งฝีเท้าวิ่งเข้ามาดักรอริชาร์ด บริเวณด้านในป่าอันเดอร์วู้ด 'กึก.กึก'  เธอพยายามเคาะเครื่องส่งสัญญาณที่ข้อมือกับวิทยุสื่อสารที่ติดอยู่ที่หู เพื่อบอกไทเลอร์ว่าเธออยู่ตรงไหน "ไทเลอร์ ไทเลอร์ นายได้ยินไหม?....ให้ตายสิ " ดูเหมือนสัญญาณจะขาดหายไปเธอไม่สามารถติดต่อไทเลอร์หรือใครได้
แพทริเซียยืนมองซ้ายขวา เธอรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจกับตำแหน่งของตัวเองเพราะเธอเองก็ไม่เคยเข้ามาในบริเวณป่าอันเดอร์วู้ดนี้มาก่อน บรรยากาศดูวังเวงไม่มีแม้แต่เสียงนก หรือลมพัดก็แทบจะไม่มีใบไม้กระดิกเลยแม้แต่ใบเดียว

          'ครืน..ฟิ้ว ว' แต่เธอก็ต้องประหลาดใจ เมื่อจู่ๆลมอยู่ดีๆก็พัดปะทะเข้ากับร่างกายของเธอ จนเธอต้องรีบยกเอามือป้องตาของตัวเองเพราะความแรงของลมที่พัดมานั้นพัดเอาฝุ่นและเศษใบ้ไม้มากับมันด้วย

           ("แพทริเซีย..")

           "ไทเลอร์?"

         แพทริเซียตะโกนกลับเมื่อได้ยินคนเรียกชื่อเธอดังมาจากแถวๆนี้ เสียงนั้นฟังดูดุดันอยู่ผ่านในน้ำเสียงที่เรียบเฉย เธอไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงของใคร แต่ในวินาทีนี้ก็น่าจะเป็นสียงของไทเลอร์เพียงคนเดียว เธอคิด
 
        ("แพทริเซีย?")

         "นั้นนายหรือเปล่า?..ไทเลอร์!!" เสียงของใบไม้ที่โดนลมพัดดัง 'แกรก แกรก' ไปมา ทำให้เธอต้องตะโกนดังขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีเสียงของไทเลอร์ตอบกลับมา  นอกจาก?

         ("แพทริเซีย?ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน!")


        ' ครืน?นนน '
 
        'พรึบ พรึบ?' / "กา..กา"

          "กา..ก้า"


       "??" แพทริเซียยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อเธอรับรู้ได้ว่าเสียงที่เรียกเธอนั้นดังก้องอยู่ในหัวของเธอ และที่แน่ๆไม่ใช่เสียงของไทเลอร์

      'พรึบ พรึบ'/ " กา?ก้า"
   
       'ครืน นน ?เปียะ เปียะ'


       เธอยืนอยู่ท่ามกลางฝูงกาที่จู่ๆบินมาจากที่ไหนก็ไม่รู้เป็นกลุ่มใหญ่ บินวนอยู่ด้านบนตรงที่เธอยืนอยู่ และท้องฟ้าที่จู่ๆก็มีเสียงฟ้าร้องและแลบขึ้นมาเป็นพักๆ ทั้งๆที่ท้องฟ้ายังคงสว่างอยู่

       " ไป!  " แพทริเซียหาและหยิบกิ่งไม้แถวๆนั้นขึ้นมาปัดไล่ฝูงพวกอีกาที่เริ่มจะบินต่ำลงเรื่อยๆจนเกือบจะชนเข้ากับหัวของเธอ

       ("แพทริเซีย?")

       ("ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน?")

       'กา?ก้า'

       "ออกไป?โอ้ย!"

      ฝูงอีกาเริ่มจู่โจมแพทริเซียมาขึ้นพวกมันเริ่มบินเฉี่ยวเข้าที่ใบหน้าและตามตัวของเธอ จนเธอทรุดคุกเข่าลงกับพื้น

      ("ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน?")

      "อ๊าก?.นี่แกเป็นใคร!" เธอร้องอย่างเจ็บปวดเมื่อครั้งนี้สียงเรียกนั้นดังก้องสนั่นอยู่ในหูของเธอ

       ("แพทริเซียยยย!!")

       "โอ้ย ..ให้ตายสิ ไทเลอร์นายได้ยินฉันไหม?!!!"

        เธอพยายามเขย่า เคาะและแทบจะทุบท่ามันจะทำให้เครื่องส่งสัญญาณวิทยุนั้นกลับมาใช้การได้

        ("ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน.นนน")

       "หยุดสักที!!" เสียงนั้นยังคงดังขึ้น

       ("แพทริเซีย?")

           ดังขึ้น

      ("ฉันรู้ว่าเธอได้ยิน")

         และดังขึ้น

      "ฉันบอกก ให้..หยุดดดดดด  อ๊า..!!!" เธอกรี๊ดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดเสียง

       "แพท?"

      " แพทริเซีย!!"

       เสียงของคาลอสกับไทเลอร์ตะโกนเรียกเธอใกล้เข้ามา

      "นั้น เธออยู่นั้น!" คาลอสตะโกนและชี้ไปทางฝูงอีกาที่กำลังบินวนอยู่รอบตัวแพทริเซีย "เอาไฟมา" เขารีบสั่งทาร์มคีปเปอร์ที่ติดตามมากับพวกเขา พวกทาร์มคีปเปอร์รีบวิ่งเอาคบเพลิงไฟมาให้คาลอส ก่อนที่เขาจะเดินตรงเข้าไปที่ฝูงอีกาและแกว่งมันไปมาจนฝูงอีกาตกใจกลัวและรีบบินไปจนหมด


       "แพทริเซีย!" ไทเลอร์รีบวิ่งเข้าไปประคองเธอ

       "เฮ้ออ..ฮืดด ฮืดด" แพทริเซียหายใจอย่างเหนื่อยหอบ เธอค่อยๆตั้งสติและเริ่มบังคับลมหายใจได้ ทำให้เธอก็รู้ว่า เสียงนั้นได้หายไปแล้ว

       "เธอโอเคไหม?"ไทเลอร์ถามเธออีกครั้ง

       "ฟู่?อืม ดีขึ้น" แพทริเซียตอบเขา พลางก็หันซ้ายหันขวาไปมา

       "เราจับหมอนั้นได้เรียบร้อยแล้วละ" คาลอสเดินเข้ามาบอกเมื่อเห็นท่าทีของเธอ

       "ที่ไหน?"

      "ฉันไล่ทันตอนถึงหน้าทางเข้าป่านะ" ไทเลอร์อธิบาย "วิทยุเธอเถอะ เป็นอะไร ? ฉันพยายามติดต่อแต่ไม่มีเสียงตอบกลับหรือเสียงอะไรเลย"

     "ไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็พยายามที่จะติดต่อกลับไปแต่?.  แล้วเธอก็หยุดพูดไป เพราะเธอยังคงไม่แน่ใจว่าเสียงที่เธอได้ยินมันคืออะไรหรือเธอแค่หลอนไปเอง"

     "เราได้ตัวเธอแล้ว รีบไปกันดีกว่า" คาลอสลุกขึ้นและบอกกับทั้งสองคน "ยิ่งมืดที่นี่ ยิ่งอันตราย " และเขาก็หันไปสั่งการกับพวกทาร์มคีปเปอร์ให้เตรียมตัวออกจากที่นี่




       ฐานลับใต้ดินกลุ่มต่อต้าน

      ริชาร์ดถูกขังอยู่ภายในห้องนิรภัยที่เป็นกระจกทั้งหมด อยู่ใจกลางห้องโถงขนาดใหญ่ภายในฐาน โดยมีทาร์มคีปเปอร์ฝั่งเรายืนเฝ้าระวังอยู่ทั้งด้านในและด้านนอก

       ฉันเดินเข้ามาภายในห้องโถงหลังจากที่ทำแผลที่เกิดจากการโดนฝูงอีกาพวกนั้นจิกไปทั่วทั้งแขนและที่หน้าผากจนเป็นแผลใหญ่ ซึ่งพอเข้ามาก็เห็นพ่อ กับแม่และอเล็กซ์กำลังวุ่นวายอยู่กับการติดตั้งเครื่องฉีดเซรุ่มและยังมีอีกหลายๆเครื่องที่วางอยู่ตามจุดต่างๆเต็มห้องไปหมดจนทำให้ห้องดูเล็กลงไปอย่างถนัดตา

        "ทางนี้เรียบร้อยไหมครับ?" คาลอสที่จู่ๆก็เปิดประตูพลวดเขามา ถามขึ้น

         แม่เดินเข้าไปหาหมอนั้น  พร้อมกับชูหลอดเซรุ่มในมือให้เขาดู"อืม เหลือแค่จิ้มไอ้นี่เข้าไปอย่างเดียว " แม่ยิ้มให้เขาก่อนจะวางหลอดเซรุ่มลงบนถาดวางอุปกรณ์ที่เตรียมเอาไว้

         ในหัวฉันยังคงเต็มไปด้วย ความสับสนและหลายๆอารมณ์ปะปนรวมกันทั้งสงสัย โมโห หงุดหงิด โกรธ บางครั้งก็เศร้าจนจู่ๆน้ำตาก็เอ่อแทบจะไหลออกมา บางครั้งฉันไม่รู้ว่ามันเป็นความรู้สึกของอะไร เรื่องอะไรหรือแม้แต่จะรู้สึกยังไงกับมันดี ซึ่งฉันคิดเอาเองว่านั้นอาจจะเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นยังคงค้างคาและยังไม่ได้คำตอบและล่าสุดท่าทีของไทเลอร์กับแคทธารีนที่ยืนคุยกันด้วยท่าทางแปลกๆอยู่ตรงทางเดินที่ฉันผ่านมาเมื่อกี้ยังกวนใจฉันจนถึงตอนนี้

         ฉันหยิบขวดน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆที่ฉันยืนอยู่และรีบเอายาแก้ปวดที่กำอยู่ในมือเข้าปากและกระดกน้ำตามเข้าไปจนหมดขวด 'คร่อก แคกๆ' ฉันสำลักน้ำทันทีที่หันไปเห็นริชาร์ดที่จ้องมองมาจากข้างในห้องกระจกนั้น

          "ลูกโอเคหรือเปล่า?"

           "คะ ค่ะ 'แคกๆ' "

          แม่เดินกลับไปทำงานต่อเมื่อเห็นสีหน้าฉันดูโอเคขึ้น ฉันหันกลับไปมองริชาร์ดที่ก็ยังคงจ้องกลับมาที่ฉัน ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆกระจกและสิ่งที่ฉันเห็นได้ชัดเจนคือรอยยิ้มที่มุมปากของเขา "แปลก.."

           "แต่ฉันว่าไม่.." คาลอสเดินมาเข้าข้างๆฉัน เขาหันมามองและพยายามจะพูดต่อ

           "ทำไม?"

           "ฉันรู้จักไอ้ชั่วนี่มาทั้งชีวิต ท่าทีของมันตอนนี้ก็แค่พยายามกวนประสาทเรา"

          "ไม่?ไม่ใช่" คาลอสหันมามองฉันด้วยสีหน้ามึนงง "ฉันหมายถึงทำไมฉันรู้สึกว่าหมอนี่ ดูจะเป็นคนเดียวที่อยากจะอยู่ในนี้"


          'ครืกกกก'

       จู่ๆริชาร์ดก็ลุกพรวดจากเก้าอี้ขึ้นมา

       'พึบ พึบ พึบ' ทาร์มคีปเปอร์ที่คุมอยู่รอบนอกห้องกระจกต่างหันปืนจ่อไปที่ริชาร์ดอย่างรวดเร็ว

       "แกมันช่างสังเกตคาลอสเรื่องนี้ฉันยอมรับ" ริชาร์ดเดินมาหยุดตรงหน้าฉัน "แต่ฉันว่าตอนนี้คนที่น่ากังวลมันไม่ใช่ฉันหลอก.." เขาพูดกับฉันก่อนที่จะหันพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปากแบบเดียวกับเมื่อกี้ไปที่คาลอส

        ริชาร์ดตั้งใจกำลังจะบอกหรือสื่ออะไรสักอย่างแต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ดูจากสีหน้าที่ซีดเผือกของคาลอสในตอนนี้ และพยายามหลบตาฉัน "พูดออกมา!"


Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น