web stats

ข่าว

 


Workaholics (แฟนฟิคชั่น) - บทที่ 14 So Far Away

โพสต์โดย: anhann วันที่: 01 เมษายน 2019 เวลา 23:42:40 อ่าน: 131



บทที่ 14 So Far Away







คริสตัลจอดรถในลานจอดรถของบริษัท  ดับเครื่องยนต์  หยิบแก้วเก็บความเย็นใส่กาแฟเย็นจากร้านที่แวะซื้อมาระหว่างทางขึ้นมาดูดดื่มอึกยาวๆ ก่อนจะรวบข้าวของออกมาจากรถ  รวมถึงแซนด์วิชไก่งวงที่ซื้อมาจากร้านนั้นด้วย  วันนี้เธอไม่ได้กินมื้อเช้ามาจากบ้าน  เลยอาศัยซื้อของจากร้านข้างนอกมากินที่ทำงาน

เธอไม่อยากเจอหน้าพี่สาวเลยออกจากบ้านมาก่อนเจสสิก้าจะตื่น  รู้อยู่นะว่ามันไม่ดี  แต่พี่ทำไม่ดีก่อนนี่นา  มันไม่ใช่เรื่องของเธอหรอก  แต่เธอไม่อยากให้พี่ทำแบบนี้กับใครอีกแล้ว  ทำไมต้องทำร้ายคนอื่นด้วย

พี่คงคิดว่าเธอไม่ทันคน  อาจจะโดนใครหลอกเอาได้ง่ายๆ  พี่คิดผิดแล้วละ  เธออ่านออกว่าใครคิดยังไง  แค่ไม่พูดเฉยๆ 

ไม่พูด  ใช่ว่าไม่รู้นะ

"ว้าว  วันนี้เจอคุณนอกลิฟต์"

คริสตัลยิ้มให้แทยอนที่ทำท่าเลี่ยงๆ ไม่อยากขึ้นลิฟต์ตัวที่เราเคยติดอยู่ด้วยกัน  "มาเช้านะคะ"

"ขนาดเช้าแล้ว  ยังไม่ทันคุณเลย" แทยอนแซว  แล้วหุบยิ้มเมื่อหันไปมองลิฟต์  คริสตัลจึงพูดขึ้น

"ฉันกำลังคิดว่าจะลองขึ้นบันไดดู"

"แต่มันสูงนะคะ" แทยอนลังเล  "แต่วันนี้ฉันใส่ผ้าใบ  คงไม่เป็นไร"

"ของคุณชั้นสิบเลยนะคะ"

"คริสตัล"

เจ้าของชื่อหัวเราะคิก  ยิ้มให้หน้างอนๆ ของหญิงสาว 

"ขึ้นลิฟต์ไปแหละค่ะ  เราคงไม่เจอแจ็กพ็อตทุกวันหรอก" คริสตัลคว้าแขนแทยอนพาไปหาลิฟต์และกดปุ่มชั้นที่ทำงานตัวเองกับแทยอนที่อยู่สูงกว่าหนึ่งชั้น  เพราะยังเช้าอยู่จึงไม่มีคนแย่งเราใช้ลิฟต์

เหมือนวันนั้นเป๊ะเลย

แทยอนสังเกตเห็นแก้วทรัมเบลอร์ในมือคริสตัลและถุงผ้าสะพายพาดบนบ่าคนตัวสูงคู่กับสายกระเป๋าแล็ปท็อป  เธอรู้ทันทีว่าคริสตัลยังไม่ได้กินมื้อเช้ามา 

รีบมาทำงานหรือทะเลาะพี่สาวนะ  --  ไม่ใช่เรื่องของเธอ  แทยอน

"ขึ้นไปบนดาดฟ้ากันไหมคะ  ยังไม่ถึงเวลางาน" แทยอนลองชวน  คริสตัลเลิกคิ้ว  ดูแปลกใจ  ต่อมากลับเป็นคนกดลิฟต์ให้ขึ้นไปชั้นนั้นเสียเอง  แทยอนลอบยิ้ม  เธอรู้อยู่แล้วว่าคริสตัลต้องไป  ไม่ใช่เพราะเธอชวน  หากเพราะคริสตัลเป็นคนชอบอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว  เธอพอจะมองออก

"ฉันชอบขึ้นมานั่งรับลมบนนี้  ดูนู่นดูนี่แล้วสมองปลอดโปร่ง" เธอเล่า  ใช้คางชี้ไปทางม้านั่งไม้ที่ตั้งอยู่เกือบจะตรงกลางของดาดฟ้า  มันแทบจะไม่มีฝุ่นเลย  คริสตัลจึงเชื่อว่าแทยอนขึ้นมาใช้งานที่นี่บ่อยจริงๆ

บรรยากาศดีมาก  เธอสัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ ปะทะใบหน้า  อากาศบนนี้บริสุทธิ์กว่าข้างล่างแน่นอน  เธอมองเห็นป้ายฮอลลีวูดไกลๆ ได้ด้วย

"กินมื้อเช้ากันค่ะ"

คริสตัลกะพริบตา  ผละจากวิวมาสนใจคนบ้าง  เธอยิ้มกับแทยอนซึ่งกวักมือหยอยๆ มาจากม้านั่ง  เธอนั่งลงตามคนตัวเล็กที่หยิบของกินออกมาจากกระเป๋าผ้าโป่งพองไม่แพ้กับของตน  แล้วเริ่มล้วงเอาแซนด์วิชที่โดนแล็ปท็อปในกระเป๋าอีกใบเบียดระหว่างการเดินทางในลิฟต์จนบี้แบนไปนิดหน่อย  เธอทำเป็นไม่กลัวลิฟต์ทั้งที่กอดกระเป๋าสองใบแน่น

"ฉันกินมื้อเช้าบนนี้บ่อยๆ  จริงๆ คาเฟ่ใกล้ๆ ตึกเราก็วิวดี  แต่ตรงนี้ดีกว่า  บางทีคุณอาจจะได้เห็นคนในอพาร์ตเมนต์โชว์หวิวให้ดูก็ได้

คริสตัลหันไปทางขวา  ยังอพาร์ตเมนต์ที่แทยอนพูดถึง  ตึกบริษัทมีสามสิบสามชั้น  อพาร์ตเมนต์ที่ว่ามีสิบห้าชั้น  จากความสูงตรงนี้ไม่น่าจะมองอะไรเห็นอย่างที่แทยอนว่าได้

"ล้อเล่นค่ะ  ไม่ต้องทำหน้าจริงจังขนาดนั้นหรอก" แทยอนพูดกึ่งขำ  คริสตัลอายหน้าแดง  เธอจึงเอาไหล่ไปชนหยอกให้ยิ้มออกมา

"ต้องโทษตัวเองนะ  คุณอยากน่าแกล้งทำไม"

"โอเคค่ะ  ฉันผิด" คริสตัลพูด  รอยยิ้มน่ารักที่แทยอนอยากเห็น  เผยออกมา  สว่างวาบกระทบจอตาเธอ  เธอรู้ว่ายุนอาต้องอิจฉาแน่  เธอจะเอาเรื่องนี้ไปอวดดีไหมนะ  นั่นคงทำให้เธอโดนเชือดคอแน่นอนเหมือนกัน

คนอายุน้อยเป็นพลังงานของความสดใส  เธอก็เคยมีมาก่อน  แต่เธอใช้มันไปเกือบจะหมดแล้ว  การต่อสู้กับชีวิตหลังเรียนจบมาลดทอนพลังงานของเธอไปทีละน้อย  ไม่มีอีกแล้วสาวน้อยวัยใสที่เชื่อมั่นว่าจะทำให้โลกนี้สวยงามขึ้นมาได้ด้วยปากกาของเธอ

ไม่หรอก  มันต้องสักคนสิ  ที่รับสารจากเธอได้และเข้าใจมัน

"ฉันมีกาแฟเย็นด้วย  ถ้าคุณไม่รังเกียจ --" คริสตัลหยุดและยิ้มเมื่อเห็นแก้วกาแฟร้อนนางเงือกตัวเขียวในมือแทยอนกับถุงเบเกิล 

เราเริ่มต้นกินมื้อเช้าด้วยกันเงียบๆ  แทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย  หากกลับไม่รู้สึกอึดอัดหรือฝืนใจ  คริสตัลสบายใจเหมือนทุกครั้งที่อยู่กับแทยอน  หญิงสาวเป็นคนน่ารัก  คุยง่าย  แม้หน้าตาจะไม่ได้สะดุดตามากนัก

คริสตัลกำลังดูดกาแฟเย็นขณะแทยอนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู  หญิงสาวทำหน้าเซ็งนิดหน่อยเหมือนจะบอกว่าเวลาแห่งความสุขสิ้นสุดแล้ว

ความสุขเหรอ  ใช่เลย  เธอมีความสุข  แม้จะไม่มากเท่ากับ...

ช่างมันเถอะ

"แล้วเจอกันค่ะ  คริส" แทยอนพูดเมื่อลิฟต์พามาจนถึงชั้นของเธอ  หญิงสาวก้าวจะออกจากลิฟต์  แต่อะไรบางอย่างที่ค้างในใจฉุดเธอกลับมา  คริสตัลมองหน้าเธองงๆ  คงสงสัยว่าเธอลืมอะไร

ก็ลืมอย่างหนึ่งละนะ

คริสตัลเบิกตาค้างขณะแทยอนจูบแก้มเธอ  มันน่าอายที่โตขนาดนี้แล้วยังจะมีคนมาจูบแก้มเป็นเด็กๆ อีก  แต่ส่วนหนึ่งเธอเข้าใจว่ามันไม่ใช่การจูบแบบนั้น  ไม่ใช่เพราะเอ็นดูเด็กหรอก

"ไปจริงๆ แล้วค่ะ" แทยอนโบกมือ  มือเล็กๆ น่ารักชวนให้คริสตัลยกมือขึ้นโบกตามเหมือนโดนสะกดจิต  คงตั้งแต่โดนจูบแก้ม

ไม่ใช่ปากสักหน่อยน่า

คริสตัลเดินเข้าแผนก  ตอนนี้มีคนมาทำงานแล้ว  และหนึ่งคนก็ทักเธอเบาๆ ตรงข้างหู  ไม่ใช่ใครที่ไหน  ยูริผู้ซอกแซกนั่นเอง

"เธอทาลิปสติกเกินไปที่แก้ม  แต่มันไม่ใช่รอยทาแน่ๆ  ฉันมั่นใจ  เธอไม่ใช้ลิปสติกสีนี้  และฉันรู้ว่าใครใช้"

เธอส่ายหน้าให้ยูริที่รู้ดีจนน่าโมโห  แต่เมื่อทางนั้นส่งทิชชูมาให้  เธอก็เอ่ยขอบคุณและใช้มันเช็ดแก้มตัวเองมั่วๆ จนยูริต้องหยิบกระจกเล็กๆ มาส่งให้เธออีกอัน 

"พี่ดูแลฉันดีเหมือนพี่สาว"

"ไม่ต้องห่วง  ฉันหวังค่าตอบแทน"

"เงินเดือนยังไม่ออกค่ะ  แต่ฉันซื้อน้ำหอมมาฝากพี่แล้วนะ"

"ไม่ใช่เรื่องนั้น  เด็กโง่" ยูริบ่น  ดันหลังคริสตัลไปหาโต๊ะตัวเองและกระซิบเบาๆ  "แม่เธอมา  ทำตัวน่ารักๆ เข้าไว้"

คริสตัลเกือบจะไม่เข้าใจว่ายูริพูดถึงใคร  แม่เธออยู่ซานฟรานซิสโกและถ้าแม่จะมาก็ต้องบอกเธอก่อน  หรือแม่จะมาเซอร์ไพรส์  ไม่ใช่แล้วละ

ยุนอาเดินผ่านผนังกระจกแผนกของเธอไป  นัยน์ตาสีนิลเหลือบมองเธอวูบสั้นๆ  คริสตัลรู้สึกสะท้านวาบไปทั่วตัว  รังสีความไม่พอใจทะลุกระจกหนาๆ นี้มาจนถึงตัวเธอเลยทีเดียว

นี่ใช่ไหม...  แม่

แม่คนใหม่ของฉันหรือไง  คริสตัลคิด  แล้วหัวเราะกับตัวเอง

"เธอเพี้ยนขึ้นทุกวัน  สนใจจะให้ฉันนัดหมอให้ไหม" ยูริพูดขึ้นเมื่อแน่ใจว่ายุนอาจะไม่โผล่เข้ามาในห้องแล้ว  เจ้านายสาวเดินหน้าตามึนตึงไปยังห้องตัวเองแล้วเรียบร้อย

คริสตัลส่ายหน้าให้ยูริ  แล้วเริ่มต้นทำงาน  พยายามทำสมองให้โล่งเหมือนตอนอยู่บนดาดฟ้ากับแทยอน  เธอจะคิดอะไรออกได้ยังไง  ถ้าหัวรกไปด้วยขยะของความฟุ้งซ่านเต็มไปหมด

................................................

วันนี้เจสสิก้าโมโหทุกๆ คน  คนส่งหนังสือพิมพ์ไปยันรปภ.ที่มาเปิดประตูตึกบริษัทให้  เธอไม่เจอน้องเมื่อเช้า  ไม่มีโน้ตบอกกล่าวอะไรแปะไว้บนตู้เย็น  ไม่มีแซนด์วิชในตู้เย็น  แต่แก้วทรัมเบลอร์ที่เธอซื้อให้น้องหายไป

คริสตัลโกรธเธอแค่เพราะผู้หญิงคนนั้นคนเดียว

เป็นไปได้ยังไง  กับใครไม่รู้เพียงคนเดียว  รู้จักกันได้ไม่ถึงสองเดือนสามารถทำให้น้องเธอเป็นไปได้ขนาดนี้เลยหรือ 

ไอรีนมีเวทมนตร์หรือไง  หล่อนแอบใส่ยาเสน่ห์ในอาหารหรือเปล่า  ไม่มีหรอก  เธอรู้ดี  รู้ยิ่งกว่ารู้ซะอีก  ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคริสตัล

ยายนั่นจะต้องชดใช้!

"คุณเจคะ  มีแขกในห้องคุณ" ลิซซี่ร้องบอก  เกือบไม่ทันเจสสิก้าจะหายเข้าไปในห้อง  เจ้านายสาวชะงัก  เหลียวกลับมาหาเธอ  ท่าทางจะจำไม่ได้ว่ามีนัดกับใครไว้  แต่อารมณ์แบบนี้  น่าจะไล่แขกกลับไปมากกว่า

"ฉันไปบอกให้เธอกลับไปก่อนก็ได้ค่ะ 

"ไม่เป็นไร  ลิซซี่" เจสสิก้าพูด  ยังไงงานก็ต้องมาก่อน  เธอจะไปฆ่าผู้หญิงคนนั้นเมื่อไหร่ก็ได้  แต่ตอนนี้เธอจะต้องหาเงินไว้ประกันตัวเองก่อน

"ว่าแต่ฉันนัดกับใคร" เธอถาม  รับแฟ้มที่จะต้องเซ็นจากมือลิซซี่มาอ่านเร็วๆ และเซ็นให้  มันเป็นแค่ใบเบิกเสื้อผ้า  ไม่ใช่เรื่องเงิน  ไม่จำเป็นต้องตรวจดูมากนัก                   

"คุณคิมจากนิตยสาร  ฟายดิ้ง  อลิซค่ะ  เกี่ยวกับแฟชั่นงานศพ"

เจสสิก้าขมวดคิ้วพยายามนึกว่า "คิม"ไหน  เพราะเธอรู้จักคิมเยอะไปหมด  แต่คิมจาก  "ฟายดิ้ง  อลิซ" คงมีแค่คนเดียว

"คุณจะให้เธอพบไหมคะ  เธอบอกว่าขอเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง"

"เคลียร์นัดจากตอนนี้ไปถึงเที่ยงให้ฉันที  ไม่มีอะไรสำคัญใช่ไหม"

"ไม่มีค่ะ" ลิซซี่ตอบ  งงกับอารมณ์เจ้านายสาว

"งั้นก็ตามนั้นแหละ"

"เอ่อ  กาแฟไหมคะ  คุณเจ"

"ชาเขียวดีกว่า  ร้อนนะ" เจสสิก้าตอบและเปิดประตูห้องทำงานตัวเองเข้าไป  เห็นผู้หญิงร่างเล็กนั่งหันข้างให้อยู่บนโซฟารับรองปลายห้อง

ชั่วระยะเวลาหนึ่งรูปร่างกับความขาวของผิวพรรณก็ทำให้เกิดภาพทับซ้อนของใครคนหนึ่งขึ้นมา  แล้วหัวใจเธอก็เหมือนถูกมือมารบีบอย่างแรง  แต่ก่อนที่เธอจะแผดเสียงร้องอย่างเจ็บปวด  แทยอนก็หันมา

ภาพนั้นก็สลายหายวับไป

"คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ"

เจสสิก้ากะพริบตา  ดีใจแปลกๆ ที่เสียงทั้งสองต่างกัน 

"เริ่มงานกันดีกว่าค่ะ  ว่าแต่คุณมาเรื่องอะไรนะ"

"แฟชั่นงานศพค่ะ  ฉันนัดคุณล่วงหน้าแล้วนะ  กับเลขาคุณ"

"ฉันก็อยู่ตรงนี้แล้วไง"

แทยอนย่นคิ้ว  รู้สึกแปลกๆ อย่างไรไม่ทราบว่าควรจะกลับออกไป  แต่เธอยังนั่งอยู่  หยิบดินสอกับสมุดขึ้นมาจากกระเป๋า  ตั้งเครื่องบันทึกเสียง  ดูสคริปต์และถามเจสสิก้าที่ดื่มชาเขียวร้อนอย่างใจเย็น...แบบไม่ปกตินัก

...................................................

ไอรีนปฏิเสธการนัดดื่มกับเพื่อนๆ หลังเลิกงานและตรงกลับบ้านที่ไม่มีใครรอเธออยู่  มันไม่ใช่เรื่องใหม่  เธอเป็นโสดมาตลอดกาลอยู่แล้ว  และเป็นโดยที่ไม่มีใครเชื่อด้วย 

ช่างหัวคนพวกนั้นปะไรล่ะ

ในที่สุดเธอก็ถึงบ้าน  หญิงสาวลงจากรถไปเปิดรั้วและพารถสีแดงของตัวเองเข้าไปในโรงจอดที่จอดรถได้สองคัน  หากส่วนที่ควรจะมีรถอีกคันจอดอยู่กลับเต็มไปด้วยลังเสื้อผ้าและรองเท้าที่เธอโละมาจากในบ้านเพราะตกยุคไปแล้ว  เธอตั้งใจจะขนมันไปบริจาค  แต่ยังหาเวลาไม่ได้สักที

วันหยุดนี้ฉันจะทำ  ฉันไม่ได้ไปไหนแล้ว  เธอคิด  ยิงรีโมทล็อกรถแล้วหันหน้าเดินเข้าบ้าน  ตอนนั้นเองที่ได้ยินเสียงคุ้นหูขานชื่อ  เธอดีใจและพบว่าตัวเองยิ้ม

"หาคนกินข้าวเย็นด้วยเหรอคะ" ไอรีนแซว  คนในรถยิ้มและยื่นถุงกระดาษห่อใหญ่มาให้  เธอเปิดมันดูแล้วยิ้มกว้าง  "เป็นเด็กส่งอาหารด้วย"

คริสตัลพยักหน้าหงึกๆ  เตรียมจะบอกลาแต่ไอรีนชี้ๆ ที่ประตูอีกฝั่งแล้วเดินอ้อมมา  เธอจำใจต้องเปิดประตูให้ด้วยไม่อยากจะขัดใจ

"จะไปไหนคะ"

ไอรีนทำหน้านึกหลังกัดโดนัทของฝากไปหนึ่งคำ  แก้มป่องๆ ขณะเคี้ยวของหญิงสาวทำให้คนส่งขนมลอบยิ้ม  คริสตัลคิดว่าตนคงโรคจิตนิดๆ  เธอชอบมองผู้หญิงเวลากิน  ไม่ว่าจะเป็นแทยอน  ยุนอาหรือไอรีนคนนี้

เวลากินของถูกใจ  ใครๆ ก็มีความสุขทั้งนั้น  แต่ผู้หญิงน่ามองกว่า  เธอรักแววตาเป็นประกายเหมือนเด็กของสาวๆ พวกนี้เหลือเกิน

ฉันเจ้าชู้เหมือนเจหรือเปล่านะ  ไม่หรอก  ฉันแค่ชอบมองเฉยๆ

"ไปนั่งเล่นที่ยูซีแอลเอกันไหม" ไอรีนชวน  "แต่คุณบอกว่าแค่แวะมาส่งของ"

"ขับรถเล่นไปเรื่อยๆ ก็ได้ค่ะ" คริสตัลบอก  รอจนไอรีนพยักหน้าแล้วจึงออกรถ  ไอรีนขอให้เธอปิดแอร์และเปิดกระจกแทน  เธอมองเส้นผมสีราตรีพลิ้วไหวไปกับสายลม  สะบัดใส่ใบหน้าขาวผ่องของอีกฝ่ายราวกับเห็นภาพมหัศจรรย์  มันอาจเป็นความรู้สึกของเธอคนเดียว  เธอไม่เคยมีสาวสวยนั่งบนรถด้วยแบบนี้  ขอเปิดประจกล้อเล่นกับสายลมแบบนี้

เจสสิก้าต้องตาถั่วแน่  ทำไมมองไม่เห็นว่าไอรีนสวยงามขนาดไหน  แต่พี่เคยเห็นใครสวยกว่าตัวเองด้วยเหรอ  เจสสิก้าคนมั่นหน้า  แต่เธอก็ชอบที่พี่เป็นแบบนั้น  พี่สาวเป็นแรงบันดาลใจของเธอ  เป็นตัวอย่างให้เธอตั้งใจทำงาน  ต่อสู้กับความเกียจคร้านของตัวเองในแต่ละวัน  เธอรักพี่  แค่ไม่ชอบอะไรบางอย่างที่พี่ทำเท่านั้น  พี่ก็คงจะไม่ชอบเรื่องที่เธอทำเหมือนกัน

เราเหมือนปาอาวุธใส่กันและกันอยู่เลยแฮะ

"จอดรถแล้วลงไปนั่งเล่นกันตรงนั้นไหม"

คริสตัลมองไอรีนและหยิบขวดน้ำที่ยังไม่ได้แกะส่งให้อีกฝ่ายอย่างนึกขึ้นได้ว่าไอรีนกินโดนัทแต่ยังไม่ได้ดื่มน้ำเลย  แล้วเธอก็หาที่จอดรถเทียบฟุตพาท  ล็อกรถด้วยรีโมท  เดินตามไอรีนที่ยังไม่มีทีท่าจะนั่งไป

"ฉันไม่มีเวลามาเดินเล่นชิลๆ แบบนี้นานแล้วค่ะ" ไอรีนบอก  "ไม่มีใครมาเป็นเพื่อนน่ะ  มาคนเดียวก็เหงาๆ นี่เนอะ"

"อยู่แอลเอมานานแล้วเหรอคะ" คริสตัลถาม  ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี

"อืม  ก็น่าจะสามปีแล้วค่ะ  ตั้งแต่เริ่มทำงานเลยแหละ  แต่บ้านเพิ่งจะซื้อเมื่อปีที่แล้ว  เพราะอาจจะต้องอยู่นาน  เผื่อพบรักกับคนอเมริกันสักคนและเลื่อนขั้นมาเป็นพลเมืองของที่นี่" ไอรีนพูดติดตลก  แต่คริสตัลกลับอึ้งจนเธอต้องดึงแขนให้เดินต่อไปด้วยกัน

"ถ้าเมื่อยก็บอกนะคะ  แต่ถ้าไม่  ก็เดินเป็นเพื่อนฉันหน่อย"

คริสตัลไม่ต้องตอบ  แค่ยิ้มโง่ๆ และเดินต่อไปเท่านั้นพอ

.............................................................

ยุนอาขับรถกลับจากยูซีแอลเอ  เธอมีสอนในฐานะอาจารย์พิเศษทุกวันพุธจึงออกมาจากออฟฟิศตั้งแต่บ่ายสาม  เธอขับรถเรื่อยๆ  ไม่ได้รีบกลับบ้าน  และคิดว่าอาจจะแวะร้านอาหารในเวสต์วูดนี่สักหน่อย  ที่นี่มีร้านเข้าท่าอยู่หลายร้าน  แต่บางทีเธอน่าจะกลับไปหาของกินแถวบ้านตัวเอง

คริสตัลนั่งอยู่กับใครตรงม้านั่งตัวนั้น  เธอมองไม่ถนัดเพราะรถผ่านไปเร็วมากทั้งที่เธอมั่นใจว่าขับช้าแล้ว  เธอควรจะหยุดรถแล้วเดินกลับไปหาเด็กทึ่ม (?) นั่นหรือเปล่า  หรือขับต่อไปจนถึงบ้านแล้วรอให้ซอฮยอนทำอะไรให้กินเหมือนทุกวัน

แล้วเธอก็ขับต่อไปเรื่อยๆ  เหมือนคนใจลอย 

วันก่อนที่ไทยทาวน์  คริสตัลปฏิบัติกับเธอดีเหมือนเดิมทุกอย่าง  แต่เธอรู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่ามันเป็นเพียงสิ่งที่คนอัธยาศัยดีและมีน้ำใจทำให้กับคนที่เขาเห็นว่าสำคัญ  ส่วนจะสำคัญมากแค่ไหน  เธอก็สุดจะรู้ได้  คริสตัลอาจจะดีกับใครๆ ไปทั่วโดยไม่ได้รู้สึกพิเศษเลยสักนิดก็ได้  และอาจไม่ได้ตั้งใจจะปั่นหัวใครอย่างที่แทยอนกล่าวหา  --  มันแค่เรื่องปกติของเขา

ครึ่งชั่วโมงต่อมา  ขณะที่เธอนั่งกินข้าวกับซอฮยอนที่ทำอาหารไว้ให้อย่างเช่นทุกวัน  โทรศัพท์มือถือที่วางคว่ำหน้าไว้บนโต๊ะอาหารก็สว่างวาบและสั่นสะเทือนบ่งบอกว่ามีข้อความเข้า  แต่เธอมองมันเฉยๆ  บางทีอาจถึงขั้นส่งสายตารังเกียจไปหามันจนซอฮยอนเอ่ยทัก

"ไม่ดูสักหน่อยหรือคะ"

"ไว้ก่อนก็ได้  ไม่มีอะไรสำคัญหรอก  ถ้ามีเขาคงโทรมา" เธอตอบ  กินข้าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ  แม้ความสงสัยจะคับแน่นอยู่ในอก

ข้อความนั่นส่งมาจากเจสสิก้า  ยุนอาเปิดมันดูหลังจากช่วยน้องทำความสะอาดครัว  ล้างจานและแยกย้ายกันเข้าห้องตัวเอง  เจสสิก้าถามว่า  คริสตัลอยู่กับเธอหรือเปล่า

จะอยู่ได้ยังไงล่ะ  น้องหายแต่มาตามหากับคนอื่นเนี่ยนะ  เธอคิดแต่ไม่ได้พิมพ์ไปทั้งหมด  แค่บอกว่าไม่ได้อยู่  เจสสิก้าก็ตอบกลับมาเร็วมาก  ข้อความบอกว่า  ขอบคุณและแจ้งว่าคริสตัลกลับบ้านแล้ว  ไม่ต้องเป็นห่วง

ใครเป็นห่วงกันยะ  ยุนอากลอกตา  พลางเหลือบมองนาฬิกาที่ผนัง  สามทุ่มกว่าแล้ว  ถ้ายังไม่กลับก็คงจะไปต่อกับสาวคนนั้นแหละ  จะมีอะไร

ไอโฟนราคาแพงหูฉี่ถูกโยนอย่างไม่ไยดีลงใส่ที่นอน  เธอไม่ได้ตอบอะไรเจสสิก้าไปอีก  เธอเปลื้องผ้าและเข้าไปอาบน้ำ  หวังให้มันช่วยให้หายหงุดหงิดเป็นผู้หญิงวัยทอง 

ถึงอย่างนั้น  เธอก็หวังนิดๆ ว่า  คริสตัลจะส่งข้อความมาหาเธอเองระหว่างที่เธออาบน้ำอยู่  วันนี้ไม่มีเวลาคุยกันเลยนะ

แล้วเมื่อเธอออกมาและหยิบไอโฟนน่าสงสารขึ้นมาดู

เจ้าเด็กทึ่มก็ส่งข้อความมาจริงๆ  แต่เธอจะไม่บอกใครหรอกว่ามันอ่านว่าอะไร         

 



......................................................


ขอบคุณที่แวะมาอ่านกันค่ะ  :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

02 เมษายน 2019 เวลา 07:01:48
อ้าว เลยไม่รู้กันกระทั่งคนอ่าน
แสดงความคิดเห็น