web stats

ข่าว

 


Immortals 3 (Sparkle 6) - บทที่ 19 Someone You Loved

โพสต์โดย: anhann วันที่: 11 มีนาคม 2019 เวลา 22:19:46 อ่าน: 121





บทที่ 19 Someone You Loved






ไอรีนลงจากรถพ่อ  เจอแคลร์ยืนรออยู่พอดี  เธอมองพ่อเข้าไปดึงแคลร์มากอดเหมือนคิดถึงมากมาย  รู้อยู่แล้วว่าพ่อจะต้องเป็นแบบนี้  พ่อรักแคลร์จะตาย  แคลร์เหมือนจุดศูนย์กลางของทุกอย่างเลย  ใครๆ ก็รักพี่เธอ  ส่วนเธอก็ทั้งรักและอิจฉาพี่                   

แคลร์เรียนเก่งมาก  ไอคิวสูงถึงขนาดแด๊ดยุนต้องสั่งห้ามไม่ให้ใครพูดถึงมัน  เพราะกลัวจะไปกระเทือนใจครูซที่เป็นแฝดกัน  แต่พวกเรารู้กันได้อยู่ดีเวลามีผลสอบของแคลร์ออกมาและครูซก็ดันสะเหล่อไปแย่งแคลร์มาดูทั้งที่แคลร์ไม่ให้  แถมบางครั้งแม่ก็เผลอพูดเปรียบเทียบออกมาเวลาเธอทำการบ้านไม่ถูก  ถึงแม่จะขอโทษแล้วว่าแม่ไม่ได้ตั้งใจ  หากเธอกับครูซก็รู้อยู่แล้วว่าแม่น่ะชอบแค่ไหนที่แคลร์เรียนโคตรเก่ง  ได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งวิชาการกับโรงเรียนอื่นประจำ  และก็มักจะชนะตลอดจนพวกเขาแทบจะไม่อยากแข่งกับโรงเรียนเราแล้วถ้าเห็นชื่อแคลร์ลงแข่งด้วย

แคลร์น่ะเหมือนลูกชายคนโตผู้เพียบพร้อมของบ้านเราเลยละ  แล้วมันจะแปลกอะไรล่ะ  ถ้าใครๆ ก็รักแคลร์  แม้แต่ผู้หญิงที่หน้าตาประกาศอยู่โต้งๆ ว่าไม่ง้อใครในโลกอย่างพีบี  เทย์เลอร์ก็ยังอยากได้แคลร์เป็นสามี

เวลาคนเรารักกันเขามองกันตรงไหนนะ  เธอไม่เข้าใจเลย  เพราะแคลร์หน้าตาดี  เรียนเก่ง  บ้านรวย  ทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น  หรือตรงเป้ากางเกง

พวกเพื่อนเธอน่ะชอบแคลร์เพราะแบบนั้น  โดยเฉพาะเป้าเขาเนี่ย  ชอบมาก  บอกว่ามันใหญ่น่าลอง  เธอฟังแล้วขยะแขยงทุกที  พวกหล่อนบอกว่าเป็นเรื่องปกติของเบต้าที่จะชอบจ้องตรงนั้นของอัลฟาอยู่แล้วแบบเดียวกับพวกสาวๆ มนุษย์นั่นแหละ  แปลว่าเธอคงจะไม่ปกติจริงๆ

แต่พีบีบอกไม่ชอบผู้ชาย  อัลฟาก็เหมือนผู้ชายคนหนึ่ง  แล้วทำไม? เพราะรักแคลร์จริงๆ งั้นเหรอ  เพราะรักก็เลยยอมได้  อย่างนั้นสินะ

พีบีจะรู้สึกยังไงนะ  เวลาทำแบบนั้นกับแคลร์  กลัวไหม  เจ็บมากหรือเปล่า  รังเกียจมันไหม  หรือตอนนี้ชอบมันไปแล้ว  คงจะชอบแล้วละมัง  ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะอยู่กันมาได้ยังไงตั้งหลายปี  แล้วเธอจะชอบมันมั่งได้หรือเปล่า  ถ้าเธอทนได้  เธอก็จะเป็นปกติเหมือนเบต้าคนอื่น 

แต่ใครล่ะ  จะทำให้เธอรักมากพอจนอยากจะเป็นปกติบ้าง

"พี่ไอ"

ไอรีนกะพริบตา  ได้ยินเสียงน้องชายตะโกนเรียกมาแต่ไกล  แม็กซ์เดินจับมือพีบีมาด้วย  เจ้าเด็กบ้านี่น่าอิจฉาตลอดเลย  จะว่าไปแล้วพีบีก็ทำกับเขาเหมือนลูกชายเลยนะ  พีบีตัวใหญ่  สูง  ดูเป็นสาวมาก  เวลาไม่ได้ใส่ชุดนักเรียนก็เหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่งเลย  ยิ่งพวกเขาย้ายมาอยู่ด้วยกันสามคนแบบนี้ก็ยิ่งเหมือนเจ้าแม็กซ์เป็นลูกชายของพวกเขา  แต่อีกไม่กี่ปีพวกเขาคงจะมีลูกของตัวเอง  พีบีเคยพูดว่าอยากมีลูก  ก็ไม่แปลกอะไรนี่  ถ้าพีบีท้องขึ้นมาตอนนี้  ใครจะว่าอะไรได้ล่ะ  ยังไงพวกเขาก็ต้องแต่งงานกัน

น่าอิจฉาจังเลยนะ

"ไปโรงเรียนกันเถอะ"  แม็กซ์เวลพูด  กระตุกแขนเสื้อสูทนักเรียนของพี่สาว  เรียกให้ไอรีนสนใจเขาบ้าง  พี่มัวแต่มองตามพีบีที่เดินไปคุยกับครูซกับเจย์เดน  แคลร์เดินอยู่ข้างๆ พีบี  พวกเขาเดินนำหน้าเราไปก่อนแล้ว

"ไอรีน  ไม่เป็นไรนะคะ  ลูก"  เสียงพ่อถาม  เรียกให้ไอรีนหันไปมอง

"ป๊าไปทำงานเถอะ  หนูไม่เป็นไร"  ไอรีนตอบ  เธอหลับตาลงเมื่อพ่อเดินมาก้มลงจูบศีรษะ  เธอกอดเขา  เขากอดตอบและลูบหลังเธออย่างให้กำลังใจพร้อมกับเขย่าตัวเธอเบาๆ  เธอรักเขามากเลย  จะมีใครทำให้เธอรักได้มากเท่ากับพ่อหรือเปล่านะ

"ตั้งใจเรียนนะคะ  นั่นน่ะ  เพื่อนหนูใช่ไหม"

เธอมองตามพ่อไปก็เห็นลิซ่ายืนยิ้มเกร็งๆ อยู่ตรงทางเข้าตึกเรียน  ยายเด็กไทยแต่หน้าตาเหมือนฝรั่งผงกหัวให้พ่อเธอปะหลกๆ  คงคิดว่าจะยกมือไหว้ดีหรือจะทำยังไงดี  ถึงลิซ่าจะพูดอังกฤษเป็นไฟ  แต่บางทีก็เผลอสบถเป็นภาษาไทยออกมาให้คนอื่นฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกัน

"งั้นหนูไปนะ  ป๊าไปทำงานเหอะ  เดี๋ยวโดนป้าเจดุอีกหรอก"

"ป้าเจก็ดุไปงั้นแหละ  ป้าเจน่ะรักป๊าจะตาย"

"ค่ะ  รักมากเลย"  ไอรีนพูดแล้วหัวเราะขำตามพ่อ  เขาดึงเธอไปกอดอีกที  พอปล่อยแล้วก็อุ้มเจ้าแม็กซ์ไปโยนสองที  เธอต้องทนฟังเสียงกรี๊ดชอบใจของเจ้าเด็กต๊องและต้องปลอบไม่ให้น้องงอแงจะร้องตามพ่อไปด้วย

"ป๊าไปเลย  ไม่ต้องมายุ่งละ  ขึ้นรถไปเลย  ไม่งั้นหนูจะฟ้องแม่นะ"

"ไม่มีใครรักป๊าเลยใช่ไหมเนี่ย"

"ไม่มีหรอก"  เธอหลอกเขาพร้อมกับจับแม็กซ์เวลเอาไว้  ลิซ่าก็มาช่วยปะเหลาะน้องให้และเดินไปเป็นเพื่อนเธอส่งแม็กซ์ไปห้องเรียนน้าซอ

"โหย  เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย"  ลิซ่าพูดหลังจากเจอฤทธิ์เดชน้องคนเล็กของบ้านสมิธ

"โธ่  แค่นี้เอง  นี่ยังถือว่าเขาอารมณ์ดีแล้วนะ"  ไอรีนบอกเพื่อน 

"ตอนแรกฉันคิดว่ามีพี่น้องเยอะๆ ก็สนุกดี  แต่ดูเหมือนจะวุ่นวายมากไปหน่อยเนอะ"

"อยู่ด้วยทุกวันก็ชินไปเองแหละ"  เธอพูด  ลิซ่าก็ทำหน้าเห็นด้วย

"แล้วยายสองคนนั้นไปไหนล่ะ"

"อยู่โรงอาหาร  ฟังคนอื่นโม้เรื่องกีฬาสี  ฉันขี้เกียจฟังเลยมารอเธอ"

"ฉันขอโทษนะที่ไม่ได้เป็นงานฉลองเธอ"  ไอรีนพูดอย่างนึกขึ้นได้  เธอเสียใจจริงๆ ที่ไม่ได้ไปเลี้ยงกับลิซ่าและเพื่อนๆ  แต่ถ้าเธอออกจากบ้านมาตอนนั้น  เธอก็คงจะทำให้งานกร่อยแน่ๆ  คนอื่นก็คงจะไม่สนุกไปด้วย

"ไม่เป็นไรหรอก  เอาไว้คราวหน้าก็ได้  แค่กีฬาสี  ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น"  ลิซ่าพูดแล้วยักไหล่  "อืม  แต่ฉันได้ยินมาว่า  แคลร์กับพีบีย้ายมาอยู่โรงเรียนแล้ว  แม็กซ์ก็มาด้วย  ทำไมเหรอ"

ไอรีนกัดกระพุ้งแก้ม  คิดอยู่แล้วว่าข่าวจะต้องดังแน่ๆ  มันมักจะมีพวกซอกแซกสอดรู้อยากรู้เรื่องเธอกับพี่ๆ อยู่เรื่อย  เลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว  เพราะเราเป็นลูกเจ้าของโรงเรียน  ใครๆ ก็จับตาดู 

"ไม่เป็นไรนะ  เธอไม่ต้องเล่าก็ได้  ฉันแค่อยากรู้ว่าเธอไม่เป็นไร"

"ฉันทะเลาะกับพีบี"  ไอรีนพูดตามตรง  ลิซ่าดูไม่แปลกใจนัก  "ฉันหาว่าเขาคบกับแคลร์เพราะ --"

"ไอรีน  พีบีน่ะรักแคลร์"  ลิซ่าพูดสวนขึ้นมาแล้วยิ้มเจื่อนๆ เมื่อไอรีนจ้องหน้าเธอเหมือนช็อก  "เด็กที่หอเบต้ารู้กันทั้งนั้นว่าพีบีไม่ชอบอัลฟาเลย  ออกจะเกลียดด้วยซ้ำ  จำคู่หมั้นคนเก่าของเขาได้ไหม  นั่นแหละ  โดยเฉพาะนายนั่น  พีบีเกลียดเข้าไส้เลย  แต่เวลาหมอนั่นเรียกไปหา  เขาก็ต้องยอมไปเพราะเป็นคู่หมั้นกัน  แล้วหมอนั่นก็ทำเรื่องน่ารังเกียจกับเขาบ่อยๆ  มีคนพูดกันทั่วไปหมด  ฉันเองก็เคยเห็น  เพราะฉันอยากรู้เลยตามไปดู  แต่ไม่ได้ดูว่าพวกเขาทำอะไรกันหรอกนะ  แค่จะดูให้รู้ว่าพีบีไม่ชอบจริงไหม  และฉันเห็นพีบีเกือบจะฆ่าหมอนั่นแล้วด้วย  แต่พี่ชายเธอ  ครูซกับเจย์เดนโผล่มาก่อน  ไม่อย่างนั้นเขาคงได้เป็นฆาตกรแน่ๆ  ไม่มีใครอยากยุ่งกับพีบีหรอก  ไม่ใช่เพราะแคลร์คนเดียวหรอกนะ  แต่พีบีน่ะเป็นตัวร้าย  ใครๆ ก็กลัวเขา"

"แต่ทุกคนยังเลือกเขาเป็นประธานนักเรียน"

"เพราะมันเป็นปกติของหมาป่าที่จะต้องเลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นหัวหน้าเราไงล่ะ"

"ทั้งที่เขาไม่ใช่อัลฟาน่ะเหรอ"

"เขาเก่งกว่าอัลฟาหลายๆ คนเสียอีก  ไอรีน  เธอไม่รู้เหรอว่าพีบีทำอะไรได้บ้าง  เธอคิดว่าอยู่ๆ พวกเราจะเลือกหัวหน้าเพราะแค่เขาสวยเหรอ"

"เปล่า  แต่ --"

"ที่ฉันพูดก็แค่จะบอกว่า  เธอไม่ต้องกลัวหรอกว่าพีบีจะไม่รักพี่เธอ  ถ้าไม่รักน่ะ  เขาไม่ให้แคลร์แตะเขาหรอก  เชื่อสิ"  ลิซ่าย้ำ  "ถ้าแค่จะให้แคลร์ช่วยให้หมอนั่นถอนหมั้นเขานะ  เขาไม่จำเป็นต้องยอมให้พี่เธอทำแบบนั้นด้วยหรอก  หน้าตา  รูปร่างเขาก็พอจะทำให้ใครๆ ยอมทำอะไรให้โดยไม่ต้องเสียอะไรเลยแล้วละ  จริงไหม"

"ฟังดูเหมือนเธอเข้าข้างเขามากเลยนะ"

"เขาเป็นไอดอลของฉัน  ฉันอยากเก่งแบบนั้นบ้าง  ฉันชื่นชมเขา"

"ว้าว  แล้วเขารู้ไหมเนี่ย"

"ไม่รู้สิ  ฉันไม่เคยพูด  บางทีเขาอาจจะรู้แต่ไม่พูดก็ได้"

"ยายนั่นก็เป็นแบบนั้นแหละ  นิสัยไม่ดี"  ไอรีนพูด  เสียงงอนอย่างไม่รู้ตัว  ไม่รู้ด้วยว่าลิซ่าอมยิ้มขำเธออยู่  เธอเห็นแต่ยายบ้าผมบลอนด์ที่ยืนคุยกับพวกกรรมการนักเรียนอยู่ตรงห้องโถงนั่งเล่น  พีบีเห็นเธอแล้วส่งยิ้มให้นิดหนึ่งก่อนจะสนใจคนที่คุยด้วยต่อโดยไม่ได้มองว่าเธอยิ้มกลับหรือเปล่า

ยายบ้านี่เป็นคนยังไงกันแน่นะ

"พวกที่น่ากลัวๆ ก็มีเสน่ห์ทั้งนั้นแหละ  มันน่าค้นหา  บางครั้งเราก็อยากจะรู้ว่า  เขาจะทำร้ายเราหรือเปล่า  มันท้าทายดี"  ลิซ่าพูด  ท่าทางรู้ดีแบบนี้ดูน่าหมั่นไส้ดีไม่น้อย  ไอรีนจำไม่ได้ว่าเคยเห็นมันมาก่อนหรือเปล่า

"เธอไม่คิดถึงบ้านบ้างเหรอ  ลิซ่า"  ไอรีนชวนคุย  พลางหาที่นั่งรอโรงเรียนเข้าภายในห้องโถงนั่งเล่นที่พีบียืนหัวโด่อยู่กับพวกคณะกรรมการนักเรียน  อยากรู้ว่าถ้าพีบีเลิกคุยแล้วจะมาคุยกับเธอไหม

คนร้ายๆ มันมีเสน่ห์จริงแบบที่ลิซ่าบอกนั่นแหละ  แต่ตอนนี้เธอขอแค่พีบียังไม่เกลียดเธอก็พอ  ไม่ต้องมารักกันหรอก

"คิดถึง  แต่ไม่อยากกลับไป"  ลิซ่าตอบ  ไอรีนจึงหันมาสนใจเพื่อน

"ทำไมล่ะ"

"ปกติฉันก็ไม่ได้อยู่เมืองไทยอยู่แล้ว  ฉันอยู่บ้านพ่อที่ออสเตรเลีย  ฉันจะกลับไทยเฉพาะไปเยี่ยมแม่  เราไม่ได้อยู่ด้วยกันน่ะ  พวกญาติแม่ไม่รู้ว่าฉันเป็นแบบนี้  เมื่อก่อนแม่ก็ไม่รู้ว่าพ่อเป็น  ฉันเป็นครึ่งมนุษย์น่ะ"

"ว้าว  ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย"  ไอรีนอุทาน  "แล้วลำบากหรือเปล่า  มิน่าเธอพูดอังกฤษเป็นไฟ  สำเนียงคล้ายพีบีแต่ไม่ใช่"

"ไม่นะ  อยู่บ้านพ่อไม่ลำบากเลย  ฉันแค่อยากมาเจอคนอื่นๆ บ้างเลยมาเรียนที่นี่  ฉันอยากมีเพื่อนที่เป็นเหมือนกัน  ฉันกลัวจะเผลอไปทำร้ายเพื่อนที่เป็นมนุษย์"

"แคลร์ก็เคยทำ  ตอนเด็กๆ เขากับครูซกับเจดอยู่โรงเรียนกับพวกมนุษย์  แล้วมีคนแกล้งเจด  แคลร์เกือบฆ่าพวกเขาแน่ะ"

"เหรอ  ไม่น่าเชื่อเลย  เขาดูอ่อนโยนออก"  ลิซ่าแปลกใจ

"ปกติก็เป็นแบบนั้นแต่อย่าให้โกรธละกัน  เขาน่ากลัวกว่าครูซเยอะ  เขาเหมือนพ่อฉันมากที่สุดในหมู่พวกเรา"

"เหมือนร่างโคลน"

"ใช่เลย"

"นี่พวกเธอ  ฉันว่าฉันได้ยินเสียงออดแล้วนะ" 

ไอรีนกับลิซ่ายิ้มแห้งๆ ให้หนึ่งในคณะกรรมการนักเรียนที่เอ่ยเตือน

"กำลังจะไปเดี๋ยวนี้แล้วค่ะ"  ลิซ่าพูด  ดูนอบน้อมแบบที่ไอรีนรู้สึกขัดใจยังไงก็ไม่รู้แต่เธอก็ทำตาม  ไม่อยากมีปัญหากับพวกกรรมการนักเรียนให้เรื่องไปถึงหูแม่

(ขอโทษนะ  ไอรีน)

ไอรีนชะงัก  เหลียวกลับมามอง  เธอสบตาพีบีที่กำลังจะเดินไปกับพวกคณะกรรมการนักเรียน  ยายผมบลอนด์นั่นไม่ได้ยิ้มเลยสักนิด  แต่กลับมีความอ่อนโยนอยู่ในดวงตาที่มองมาหาเธอก่อนที่ตาสีฟ้าน่ารำคาญนั่นจะจากไปพร้อมกับร่างสูงระหงซึ่งเดินผ่านเธอไปแล้ว

"เธอโชคดีจัง  ไอรีน"  ลิซ่าพึมพำ  ไอรีนมองหน้าเพื่อนแปลกใจว่าเพื่อนได้ยินด้วยหรือ  และอย่างเธอนี่นับว่าโชคดีได้ยังไงกัน

.....................................

"ไฮบริดเหรอเนี่ย"  เจสสิก้าอุทาน  ตื่นเต้นมากกว่าแปลกใจ  ยุนอาพยักหน้ารับ  ท่าทางน่าหมั่นไส้ยังไงไม่รู้  คงเพราะท่าทางนั่งไขว่ห้างกอดอก  หน้าเชิดๆ แบบนั้น  ขณะที่ทิฟฟานี่นั่งหนีบขา  จิบชาเรียบร้อยอยู่อีกฝั่ง  และคริสตัลนั่งถ่างขากว้างเบียดเธอจนติดที่เท้าแขนโซฟาจนจะโดนมันหนีบแบนเป็นจิ้งจก  ไม่น่าเรียกมันมาเลยจริงๆ 

"คริส  ใหญ่มากนักหรือไง  หุบขาหน่อยได้ไหม"  เธอกระซิบเบาๆ กับน้องชาย  เขาก็ยังหันมาพยักหน้ายอมรับกับเธออย่างน่าไม่อายอีก 

ไอ้เวรนี่!

"ฉันอึดอัดนะ"

"มานั่งตักฉันนี่มา  เจ"  คริสตัลพูดพร้อมกับท่าจะอุ้มพี่สาวมานั่งตักตัวเอง  เจสสิก้าดันหน้าเขาออกไปห่างๆ อย่างรำคาญ  แต่สุดท้ายหัวโตๆ ของเขาก็เอนมาพิงไหล่เธอเพราะเขาพยายามทำตัวเล็กอย่างไม่สำเร็จนัก

"อ้าว  พูดต่อสิ"  เจสสิก้าเร่งยุนอาที่ทำหน้าเอือมๆ ให้เธอ

"ฉันนึกว่าคุณจะเล่นต่อ"  ยุนอาพูด  เสียงกับตาดุเหมือนกัน 

"สามีเธอแกล้งฉันก่อน"  เจสสิก้าอ้าง  แต่ยุนอาไม่ฟังเธอแล้ว  หันไปคุยกับทิฟฟานี่แทน

"สรุปคือ  แม่ของพีบีไม่ใช่หมาป่า"  ทิฟฟานี่ทวนคำยุนอาซึ่งผงกหัวให้เธอนิดหน่อย  "และถ้าฟังไม่ผิด  เลอาเป็นแม่มด"

"ใช่ค่ะ  เธอเป็นแม่มด"  ยุนอายืนยัน  "สืบเชื้อสายมาจากแม่มดกลุ่มที่ทรงพลังมากในยุคเก่า  แม่ของเธอเป็นแม่มดที่เก่งกาจมากในยุคนั้น  แต่ตัวเธอเองไม่ค่อยได้อะไรมาเท่าไหร่"

"แล้วคุณคิดว่ามันถ่ายทอดมาสู่ลูกของเธอด้วยใช่ไหม"

"ฉันสงสัยว่ามันเป็นแบบนั้น"

"คุณคิดว่าสิ่งที่พีบีทำมันมาจากเวทมนตร์ในตัวพีบีไม่ใช่พลังจิต"

"ฉันไม่แน่ใจค่ะ"

ทิฟฟานี่ฮัมรับ  นัยน์ตาสีแดงหรี่ลงเล็กน้อยขณะจ้องยุนอาที่ไม่หลบตาเธอทั้งไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวถ้าเธอคิดจะเผาสมองขึ้นมา 

"ความลับของฟอร์ดคืออะไรคะ"  เธอถามขึ้นในที่สุด  ยุนอานิ่งเฉย  ต่างจากคริสตัลกับเจสสิก้าที่มองเธอเหมือนเธอเป็นบ้าไปแล้ว  แต่ทิฟฟานี่ไม่สนใจ  "คุณไม่กลัวเวทมนตร์  จอมเวทของฉันบอกว่าเขาทำอะไรคุณไม่ได้  และฉันแน่ใจว่า  เขาหมายถึงฉันแตะต้องคุณไม่ได้เช่นกัน"

"เรากำลังพูดเรื่องพีบีอยู่นะคะ  จ่าฝูงแลนดอน"  ยุนอาเตือน

"ฉันทราบ  แต่ฉันถามเพราะฉันอยากจะแน่ใจว่าพลังของแม็กซ์เวลกับพีบีเป็นคนละอย่างกัน  พวกเขาทำอะไรได้คล้ายๆ กันไม่ใช่หรือ  อ้อ  และอีกอย่าง  ฉันลองมาคิดดูแล้วนะ  ฉันว่าที่พีบีเปิดล็อกทุกอย่างได้  ไม่ใช่ว่าเขามีอะไรเหมือนซอฮยอนหรอก  แต่เพราะเขามีเวทมนตร์ในตัวต่างหาก"

ยุนอายิ้มมุมปากเหมือนจะบอกว่าพอใจกับข้อสันนิษฐานนี้

"ยังมีอีก  คุณเคยพูดว่า  พีบีเปิดล็อกได้หมดทุกอย่าง  ยกเว้นอันที่คุณเป็นคนล็อก  มันแปลว่าอะไรคะ  มิสฟอร์ด"

"ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนกำลังโดนสอบสวนอยู่นะ"

"ฉันกำลังวิเคราะห์พลังพิเศษของเด็กๆ จากผู้ให้กำเนิดของพวกเขา  มันก็เหมือนการผสมสารเคมีในงานวิจัยต่างๆ ของคุณไง"  ทิฟฟานี่ชี้แจง

"ฉันเป็นสัตว์เวท  เท่านั้นแหละ  ที่ฉันเป็น"  ยุนอาตอบสั้นๆ ราวกับมันเป็นคำอธิบายของทุกอย่างที่ทิฟฟานี่ต้องการรู้

"แบบนี้เองที่ทำให้แม็กซ์กับพีบีคล้ายกัน"  ทิฟฟานี่สรุป  ชำเลืองตาไปทางเจสสิก้ากับคริสตัลที่ดูจะไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่  คริสตัลจะแปลกใจได้ยังไงกันล่ะ  เขาต้องรู้อยู่แล้วว่ายุนอาเป็นอะไร  ภรรยาทั้งคน  เจสสิก้าเองก็อยู่กับยุนอามาตั้งนาน  ถือเป็นครอบครัวเดียวกันก่อนที่เธอจะรู้จักพวกเขา

"ถ้างั้นก็ไม่มีอะไรต้องสงสัยแล้วสิคะ"

"คุณจะช่วยสอนให้เขาควบคุมตัวเองได้ไหม"  ยุนอาถามตรงๆ  ลดทิฐิลงจนเกือบหมด  "พีบีทำได้  แต่เขาเองก็ยังเด็กมาก  บางครั้งยังควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้เลย"

"ฉันกับซอฮยอนจะช่วยกันดูแลเขาให้เองค่ะ  ไม่ต้องห่วง  แต่พีบีคงดูแลตัวเองได้อยู่แล้วมั้ง  หรือปล่อยให้แคลร์จัดการคงจะง่ายกว่า"  ทิฟฟานี่พูดตรงๆ  "แล้วไอรีนเป็นยังไงบ้าง"

"ไอรีนสบายดี"  คริสตัลตอบเร็วมาก  เขาลุกขึ้นทันทีเหมือนไม่อยากจะฟังอะไรแล้ว  "เจ  ฉันไปก่อนนะ  ยุน  ฉันจะไปดูบ้านเด็กๆ นะ"

เขาจากไปแล้วโดยไม่ลืมค้อมศีรษะลาทิฟฟานี่ก่อนไป 

"อย่าไปแตะไอรีนเชียวนะ  ฟานี่"  เจสสิก้าเตือนเพื่อนอย่างหวังดี

"โอ๊ย  ถึงไม่บอกก็ไม่แตะหรอก  เจ  มีพ่อน่ากลัวแบบนี้"  ทิฟฟานี่พูดทีเล่นทีจริงพลางภาวนาในใจให้โดโรธีคิดเหมือนเธอ

"โดโรธีทำอะไรได้บ้างคะ  ทิฟฟานี่"  ยุนอาถามขึ้นบ้าง  ทิฟฟานี่จึงเข้าใจแล้วว่าทำไมคริสตัลจึงต้องลุกออกไป  เพราะตอนนี้เธอก็อยากจะไปแล้วเหมือนกัน

"ฉันขอผ่านคำถามนี้ค่ะ"

............................................

พีบีมองเก้าอี้ที่ว่างเปล่าข้างๆ  แปลกใจว่าทำไมเธอถึงไม่มีคู่ทำแล็บในวันนี้  แล้วก็นึกได้ว่าจอร์แดนลาป่วย  เธอคงต้องทำแล็บคนเดียว

"เด็กๆ สวมแว่นกันสารเคมีด้วยค่ะ"  ครูชานาประกาศเสียงดังขณะเดินวนดูเด็กนักเรียน  ครูสาวเดินผ่านพีบีแล้วนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไป

"เดี๋ยวจะมีเพื่อนมาช่วยนะ  พีบี  เอ...แต่เพื่อนหรือเปล่านะ"

พีบีเลิกคิ้วงง  ไม่เข้าใจว่าครูพูดอะไร  ว่าจะถามสักหน่อย  ครูก็เดินไปทางอื่นแล้ว  เธอจึงส่ายหัวแล้วหันมาสนใจเตรียมการทดลองแทน  ไม่คิดจะง้อใคร  เธอทำคนเดียวก็ได้ 

"เอ้า  เร็วๆ ค่ะ  เพื่อนรออยู่"  ครูชานาพูดอีก  พีบีจึงเงยหน้าขึ้นมองอย่างสงสัย  แล้วขมวดคิ้วงงๆ กับคนที่เพิ่งเดินยิ้มเขินๆ เข้ามาพร้อมกับเสียงซุบซิบที่ดังหึ่งๆ ขึ้นทันที

"เงียบเลยเด็กๆ  ตั้งใจทำงานกันหน่อย"  ครูทำเสียงดุ  ทุกๆ เสียงซุบซิบจึงเงียบไป  แต่หลายๆ สายตายังมองมาทางพีบีอยู่  เธอก็ต้องทำเป็นไม่เห็นมันเสีย

"เฮ้  โทษทีที่มาช้า  เริ่มทำอะไรไปหรือยัง"

"เธอมาได้ไงน่ะ  นี่มันเกรดสิบเอ็ดนะ"  พีบีกระซิบกระซาบพลางส่งของให้อีกฝ่ายช่วยทำงานเพื่อไม่ให้เสียเวลา 

"ครูให้ฉันมาเป็นคู่เธอแทนเด็กที่ลาไง"  แคลร์ตอบหน้าเป็น  "อันนี้ฉันเคยทำแล้ว  ฉันทำเป็น  ไม่ต้องห่วง"

"ฉันไม่ได้ห่วงเลย  ฉันรู้ว่าเธอเก่ง  แต่..."

"เธอกลัวว่าจะเผลอจุ๊บฉันเหรอ" 

พีบีหยิกเอวแคลร์จนตัวบิด  แคลร์ก็ร้องซี๊ดดังจนคนอื่นๆ ในห้องหันมามองพวกเธออย่างอยากรู้อยากเห็น  บางคนก็ทำท่าล้อๆ เธอด้วย  ถึงเธอจะเคยจูบแคลร์ในที่สาธารณะ  แต่เราไม่เคยเรียนด้วยกันแบบนี้

"ไม่ต้องมาพูดเลย  จะมาก็ไม่เห็นบอกก่อน"  เธอพึมพำพลางจุดตะเกียงแก๊สเตรียมจะต้มสารที่แคลร์กำลังผสมในบีกเกอร์อยู่

"ครูเพิ่งบอกฉันเอง"  แคลร์ตอบ  เทสารจากบีกเกอร์ใส่ถ้วยครูซิเบลที่พีบีส่งให้  เธอยิ้มให้สายตาหงุดหงิดของแฟนสาว  "ทำไมล่ะ  ฉันมาไม่ได้เหรอ  ฉันไม่กวนเธอหรอก  ฉันเรียนจบแล้ว  ว่าง  ไม่มีอะไรทำนี่นา"

"โอเคๆ  ไม่ต้องพูดละ  รีบๆ ทำให้เสร็จ  แล้วจะได้ไปกันสักที"

"ไม่ยักรู้ว่าเธออาย"

"ฉันไม่ได้อายย่ะ  แค่ --"

"แคลร์  มาช่วยฉันทำด้วยสิ  หมอนี่ไม่ได้เรื่องเลย"  เสียงจากโต๊ะด้านหน้าเรียกให้แคลร์กับพีบีเงยหน้าขึ้นมอง  แคลร์ยิ้มให้เจ้าของเสียงนั้นเพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จัก  แต่พีบีหน้าตึงทันที

"แหม  ไม่เห็นต้องทำหน้าดุขนาดนั้นเลย  พีบี  ฉันรู้หรอกว่าของใครเป็นของใคร"  ลิลลี่พูดกึ่งแซว  พอเห็นพีบีไม่เล่นด้วยเธอจึงยักไหล่  "ไม่ได้ก็ไม่ได้สิ  ไม่เห็นต้องทำหน้าตาน่ากลัวขนาดนั้นเลย  อย่าระเบิดของฉันล่ะ"

พีบีสูดลมหายใจเข้าและผ่อนออกเมื่อได้ยินเพื่อนร่วมชั้นเอ่ยเตือนอย่างรู้ทัน  แคลร์จึงช่วยลูบหลังเธอด้วยอีกคน

"ฉันโอเคแล้ว"  เธอพยักหน้าให้แคลร์และหันไปทำงานต่อ  "ไม่ต้องกลัวหรอก  ฉันไม่ทำลายที่นี่ทิ้งหรอกน่า"

"อย่าทำเลย  พีปส์  ฉันโดนแม่หักค่าขนมหมดแล้วเดือนนี้"

พีบีมองแคลร์อย่างนึกสงสาร  แล้วก็เผลอชะโงกหน้าไปจูบแคลร์ด้วยความเคยชิน  มีเสียงร้องแซวดังขึ้นมา  เธอจึงรู้สึกตัวและอายหน้าแดง  แต่แทนที่จะหยุด  เธอกลับทำมันต่อไป  ต้องโทษแคลร์ที่เคลิ้มตามเธอด้วย  และสักพักก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้น  เธอจึงจำใจผละออกจากแคลร์มาดูว่าคนอื่นตื่นเต้นอะไรกัน  พอเห็นเท่านั้นแหละ  เธอก็ตกใจไปด้วยเลย

"เธอทำเหรอ  พีปส์"  แคลร์ถามทั้งตกใจและตื่นเต้น  เธอไม่เคยเห็นการทดลองที่ไหนได้ผลพร้อมกันแบบนี้เลย  สารเคมีในบีกเกอร์ของทุกคนเปลี่ยนเป็นก้อนน้ำกลมๆ สีรุ้งลอยตัวขึ้นมาราวกับฟองสบู่  ขนาดครูชานายังตะลึง  ทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ก่อนจะกระแอมเสียงดัง

"ใครทำ  จัดการให้มันกลับไปเป็นเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้นะ  ไม่งั้นครูจะตัดคะแนน"  ครูชานาประกาศ  มองปราดมาทางแคลร์กับพีบีที่พยายามทำหน้าตาใสซื่อแต่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่เลย


............................


อิอิ   :61: :27: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

11 มีนาคม 2019 เวลา 22:57:51
หมาป่าครึ่งแม่มด ทำไมมันคุ้นๆจังหว่า นึกไม่ออก
แสดงความคิดเห็น