web stats

ข่าว

 


กระดาษกั้นใจ yuri ตอนที่ 13

โพสต์โดย: meAyou วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 10:58:48 อ่าน: 78

   แปลก...?
   ฐายิกาผุดคำๆ นี้มาตลอดครึ่งเช้าล่วงเลยมาถึงตอนบ่ายมันก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นทุกที
   หายไปไหนของเขานะ?
   เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ตามมาติดๆ ให้อดไม่ได้ที่จะชะเง้อไปทางประตูที่ทุกวันจะต้องมีใครบางคนโผล่หน้ามาให้เห็นตลอด
   เธอยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน เวลานี้ล่วงเลยมาถึงบ่ายกว่าแล้วแต่กลับไร้เงาของคนที่ชอบกวนใจ
   แปลก แปลกจริงๆ...
   ความสงสัยทำให้ต้องเอื้อมมือไปกดโทรศัพท์เรียกตัวเลขาให้เข้ามาจากนั้นก็ออกคำสั่งอะไรบางอย่างที่คนรับฟังก็นึกสงสัยไม่ต่างกัน
   สมิตราหายไปไหนกันนะ?

   เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงฐายิกาก็ได้รับการรายงานจากเลขาคนสนิทถึงเรื่องราวที่ชวนหงุดหงิดและไม่ต้องรอให้พูดจบเจ้าตัวก็ลุกเดินออกไปจากห้องทันที
   ทำไมถึงชอบทำตัวน่ารำคาญแบบนี้กันนะ!
   สองเท้าหยุดเดินเมื่อถึงตัวคนที่สร้างปัญหาที่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะยุ่งกับเอกสารตรงหน้ามากจริงๆ ถึงได้ไม่รู้ในการมาของเธอแบบนี้
   ฐายิกาจัดการปิดแฟ้มเอกสารที่ได้รับความสนใจมากกว่าตัวเองลงนั่นทำให้เธอสามารถเรียกความสนใจกลับคืนมาได้หากแต่ก็ต้องหงุดหงิดกับดวงตาคู่ใสแป๋วที่ดูจะไม่เดือดร้อนอะไรเลยสักนิด
   ?ทำไมถึงยังไม่ไปกินข้าว?
   น้ำเสียงแข็งไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกกลัวเลยสักนิดสมิตรากำลังดีใจเพราะรู้สึกราวกับว่าได้รับความห่วงใยจากเจ้าของคำถาม
   ?นี่ฉันจริงจังนะยังจะมีหน้ามายิ้มอีก?
   ?ก็เค้า...?
   สมิตราชะงักไปเล็กน้อยแต่เพียงเสี้ยวนาทีท่าทางทะเล้นที่หายไปก็คืนกลับมาดังเดิมแต่ทุกความผิดปกติในท่าทางกลับไม่สามารถรอดพ้นสายตาของคนที่มีอายุมากกว่าไปได้เลยเพียงแต่ฐายิกาเลือกที่จะไม่พูดเท่านั้น
   ?เค้ายังไม่หิว?
   ประโยคปดอาจจะดูน่าเชื่อถือกว่านี้หากคนพูดไม่ถูกกระเพาะทรยศโดยการส่งเสียงคำรามออกมาเสียก่อน
   ?เอ่อ...?
   ?ชัดเจนขนาดนี้ยังจะอ้างอะไรอีก?
   ?คือเค้า เค้า...?
   การแก้ตัวยังไม่ทันเกิดขึ้นสมิตราก็ได้กลิ่นหอมของอาหารโชยมาแต่ไกลกลิ่นของมันคุ้นมากเสียจนคิดว่าน่าจะเป็นของโปรดของตัวเองแต่ใครกันนะที่เอาอาหารขึ้นมากินแบบนี้
   ไม่เห็นใจคนที่หิวไส้กิ้วอย่างเธอบ้างเลยสินะ
   ?อาหารที่สั่งได้แล้วค่ะ?
   เป็นเลขาของฐายิกานี่เองที่นำอาหารกลิ่นหอมนี้เข้ามายั่วยวนให้คนเร่งทำงานได้เกิดอาการน้ำลายสอแต่ก็พยายามหักห้ามใจเพราะรู้ว่าอย่างไรของน่าอร่อยนี้ก็ไม่น่าจะใช่ของตัวเอง
   ?จัดใส่จานแล้วเอามาวางตรงนี้?
   ?ค่ะ?
   คนส่งอาหารเดินไปทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย
   ?ตัวจะกินข้าว?
   ?ใช่?
   ?ที่โต๊ะเค้า?
   ?ถูก?
   ?เค้าต้องทำ...?
   ?เอาไว้ก่อน?
   ?แต่งานมันเร่งเค้าต้องรีบทำให้เสร็จ?
   ?แล้วยังไง?
   ?ก็งานมันเร่ง?
   ?แต่ฉันไม่รีบ?
   คำพูดเอาแต่ใจดังคืนให้ได้รู้ว่าไม่สามารถขัดความต้องการของอีกคนได้อีกแล้วจึงต้องยอมทำตามในที่สุดความจริงเธอก็รู้อยู่หรอกว่างานนี้ไม่ได้เร่งรีบอะไรเพียงแต่ไอ้คนที่สั่งมานี่แหละที่มันรีบจะเอาเอง
   เมื่อเริ่มลงมือทานอาหารคนที่บอกไม่หิวนี่แหละที่เป็นคนสวาปามทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าจนเกลี้ยงให้คนที่นำอาหารมาให้ได้รู้สึกหมั่นไส้เป็นที่สุด
   ไหนบอกไม่กิน ไม่หิว แต่ทั้งหมดทั้งมวลที่อยู่ในจานนี้หมดได้เพราะใครกันล่ะ
   สมิตราตักกุ้งตัวสุดท้ายเข้าปากด้วยท่าทีเปี่ยมสุขก่อนจะรวบช้อนในมือเป็นการบ่งบอกว่าอิ่มแล้ว
   รอยยิ้มถูกเปิดกว้างเมื่อได้รับการเติมเต็มในส่วนของกระเพาะในทีแรกคิดว่าจะต้องตายด้วยความหิวโซเสียแล้วเกิดมายังไม่เคยต้องปล่อยให้ตัวเองอดขนาดนี้มาก่อน
   เกือบไปแล้วไหมล่ะสมิตราเอ๊ยยยยยยยย
   ?ไม่หิวเลยเนาะ?
   เป็นการเอ่ยล้อหน้าตายที่ทำให้คนฟังเกิดอาการหน้าแดง หูแดงอย่างปิดไม่มิด
   ปากบอกไม่หิวแต่เธอกลับกวาดอาหารที่อยู่ในจานเสียจนเรียบ
   ?ตัวก็รู้ว่าเค้าชอบกิน?
   ?แล้วจะดื้อทำไม?
   ?ก็เค้าต้องทำงาน?
   ?มันคนละเรื่องกันถ้าปล่อยให้หิวแบบนั้นเกิดเป็นโรคกระเพาะขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไง?
   ?เค้า...?
   ?อย่าทำแบบนี้อีก?
   ฐายิกาเอ่ยย้ำเสียงดังทำเอาพนักงานที่ทยอยเข้ามาหลังจากออกไปกินกลางวันพากันตกใจเป็นแถวที่อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตวาดจากคนเป็นนาย
   ?นี่คุณ...?
   ดูเหมือนความโชคร้ายจะมาตกอยู่ที่หัวหน้าแผนกที่สมิตรามาฝึกงานด้วยทั้งๆ ที่พยามยามทำตัวลีบแล้วแท้ๆ แต่ก็ดันโดนแจ๊กพ็อตจากนายสาวอีกจนได้
   ?ครับ?
   ?ช่วยตามแม่บ้านให้ทีนะ?
   ?ตามแม่บ้านมาเอ่อ มาทำไมครับ?
   ?บอกให้เค้ามาเก็บจานพวกนี้หน่อย?
   ?ครับ??
   ใบหน้าฉงนของคนฟังทำให้คนที่คิดว่าตัวเองพูดชัดแล้วนึกหงุดหงิดขึ้นมาแค่ประโยคง่ายๆ ทำไมถึงได้เข้าใจยากแบบนี้กันนะ
   ?เดี๋ยวฝุ่นเก็บเองก็ได้ค่ะ?
   สมิตราเอ่ยแทรกเมื่อมองเห็นสายตาของใครบางคนแลมาทางตัวเองอย่างไม่ชอบใจหากในตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในฐานะเด็กฝึกงานแล้วล่ะก็จะไม่มีวันอ่อนข้อให้กับคนนิสัยแย่แบบนี้เป็นอันขาดและอีกอย่างเธอก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้กับ
   ฐายิกาที่ในตอนนี้มีงานล้นมืออยู่แล้วหากต้องมากังวลเรื่องเธออีกก็คงจะไม่ได้พักกันพอดี
   ?ก็ดีนะกินเอง เก็บเองมันก็ถูกต้องอยู่แล้ว?
   หัวหน้าแผนกเอ่ยเสียงเข้มที่ดูก็รู้ว่ากำลังขู่เด็กฝึกงานอยู่หากแต่เขาลืมอะไรไปหรือเปล่านะ...
   ?ผมว่าให้น้องเค้าเก็บเองก็ดีนะครับแม่บ้านจะได้ไปทำงานที่มีประโยชน์กว่านี้?
   ?คิดแบบนั้นเหรอ?
   ?ครับ?
   คนพูดเอ่ยตอบรับด้วยน้ำเสียงขึงขังดวงตาของเขาจดจ้องไปยังเจ้านายสาวนี่คงเป็นครั้งแรกกระมังที่ได้อยู่ใกล้ชิดกันแบบนี้
   คนอะไรยิ่งมองยิ่งดูสง่า ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งอยู่สวยจนแทบไม่อยากจะกระพริบตากันเลยทีเดียว
   ?แต่ฉันเป็นคนจ่ายเงินจ้างไม่ใช่คุณเพราะฉะนั้นฉันจะสั่งอะไรก็ได้?
   ?.......?
   ?ไปบอกแม่บ้านให้มาเก็บจานนี้ไม่งั้นฉันจะให้คุณเป็นคนเอาไปเก็บ?
   ?อะไรนะครับ?
   ?นี่คุณทำงานอยู่ตำแหน่งอะไรเนี่ยทำไมถึงชอบให้ฉันย้ำคิดย้ำทำอยู่ได้?
   ?ผม...?
   ?ไปบอกแม่บ้านได้แล้วอย่าให้ฉันต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้?
   ?เอ่อ...?
   ?เร็วๆ?
   ?ครับๆ ไปเดี๋ยวนี้เลยครับ?
   สมิตรามองคนที่แทบจะกระโจนทำตามคำสั่งอย่างนึกขันหากแต่เมื่อเรื่องราวออกมาเป็นแบบนี้ก็ให้นึกกังวลกับงานของตัวเอง
   จะถูกแกล้งหนักกว่าเดิมไหมนะ
   ในที่สุดก็ถึงเวลาเลิกงาน...
   สมิตราเก็บกระเป๋าลุกเดินจากโต๊ะทันทีดวงตาคู่กลมมองตรงไปยังเบื้องหน้าไม่สนใจสายตาบางคู่ที่จ้องมาด้วยความไม่พอใจ
   เจ้าตัวกล่าวลาทุกคนก่อนจะเดินตรงไปยังรถที่มีใครอีกคนรออยู่
   วันนี้ฐายิกาไปพบลูกค้าข้างนอกแต่ก็ยังน่ารักที่วนรถกลับมารับเธอ...
   ไม่ใช่หรอก! อีกฝ่ายถูกคุณลุงกับคุณป้าบังคับโดยฝีมือการอ้อนของเธอเองนี่แหละแต่จะทำไงได้ก็เธอเหนื่อยและอยากอ้อนเจ้าหล่อนแล้วนี่นาหากรอกลับถึงบ้านคงได้ขาดใจตายเป็นแน่!

   ทันทึที่เข้าไปนั่งในรถสมิตราก็ทิ้งหัวลงบนตักของคนหน้านิ่งทันทีและแม้จะตกใจในการกระทำแต่ฐายิกาก็เลือกที่จะนิ่งปล่อยให้เด็กเอาแต่ใจได้ทำตามความต้องการอย่างเต็มที่
   ?ไม่คิดเลยว่าทำงานจะเหนื่อยกว่าเรียน?
   คนอายุน้อยบ่นออกมาพร้อมกับจ้องปลายคางของเจ้าของตักไปพลางๆ เพียงเท่านี้ก็ทำให้ความหนักอึ้งในใจของเธอเบาบางลงได้บ้างแล้ว
   พี่ยิกาจัดว่าเป็นยาชนิดไหนกันนะ? ถึงได้มีสรรพคุณรักษาทั้งอาการภายใน และภายนอกได้แบบนี้
   ?ขอบคุณนะคะที่มารับ?
   ?ไปขอบคุณคุณลุงคุณป้าเธอนุ่น?
   ?ขอบคุณไปแล้วแต่ก็อยากขอบคุณตัวด้วย?
   ?ไม่ได้เต็มใจ?
   ความเย็นชาส่งผลให้คนขับรถถึงกับขนลุกหากไม่เพราะรู้จักคุณหนูทั้งสองมาก่อนเขาคงนึกสงสารคนอ้อนที่ไม่ได้รับการตอบสนองเลยสักนิด
   เพียงแต่เพราะเคยเห็นมาแต่อ้อนแต่ออดนี่แหละถึงทำให้นึกเอ็นดูคุณทั้งสองอยู่แบบนี้
   เพียงไม่นานม่านกั้นระหว่างคนขับกับคนนั่งข้างหลังถูกกดเลื่อนปิดลงนั่นหมายถึงความเป็นส่วนตัวที่คนสองคนต้องการ

   ?ตัวคะขอกำลังใจหน่อย?
   ประโยคอ้อนถูกเอ่ยออกมาให้ฐายิกาต้องก้มหน้าเพื่อส่งสายตาคู่ดุไปปรามคนเอาแต่ใจที่เริ่มจะเรื่องเยอะเกินพอดีแต่ดูเหมือนอีกคนจะคิดอีกแบบถึงได้ยื่นหน้าเอาริมฝีปากมาแตะกันอยู่แบบนี้และพอผละออกไปก็หัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีที่ทำให้เธอตกใจจนหน้าเหวอ
   ?ขออีกทีได้มั้ยคะ?
   ?ได้?
   ?ใจดีจัง...โอ๊ยยยยยย?
   ดีใจยังไม่ถึงครึ่งนาทีสมิตราก็ร้องเสียงหลงออกมากับคำขอที่ตัวเองได้รับหากแต่เธอขอจูบนะไม่ใช่มะเหงกโป๊ก โป๊กแบบนี้
   ?จะเอาอีกมั้ยล่ะ?
   ?ไม่เอาแล้วเจ็บ?
   ?สมน้ำหน้า?
   ?คนใจร้าย?
   สมิตราเอ่ยหน้ามุ่ยก่อนจะหลับตาลงอย่างเคืองๆ แค่กำลังใจเองทำไมถึงให้กันไม่ได้นะความน้อยใจวิ่งพล่านอาจเพราะความเหนื่อยสะสมและแรงกดดันที่ได้รับมีมากจนเกินไปแต่แล้วเจ้าของดวงตาคู่ปิดสนิทก็เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อริมฝีปากของคนใจร้ายแนบประทับยังริมฝีปากของตัวเอง
   ดวงตาสองคู่สบกันแต่เพียงครู่เดียวเมื่อคนด้านบนขยับริมฝีปากดวงตาที่จ้องมองกันก็ถูกปิดลงในทันที
   ไม่มีคำพูดอื่นใดต่อจากนี้มีเพียงการกระทำเท่านั้นที่ทำให้ความกระวนกระวายในหัวใจถูกคลี่คลายไปในเสี้ยวนาที
   
   

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น