web stats

ข่าว

 


Immortals 3 (Sparkle 6) - บทที่ 10 Really Bad Boy

โพสต์โดย: anhann วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 21:17:07 อ่าน: 122



บทที่ 10 Really Bad Boy





ระเบียงห้องพักอันแสนหนาว  หิมะโปรยปรายร่วงลงใส่ร่างเธอ  เธอควรจะแข็งตายอยู่ตรงนี้แทนที่จะร้อนรุ่มด้วยไฟตัณหาอย่างนี้  เขานั่งอยู่บนราวระเบียงทำจากวัสดุอะไรเธอไม่อยากรู้  ขอเพียงให้มันรับน้ำหนักเขาบวกกับเธอที่กำลังควบเขาอยู่ได้ก็พอ

โอ้  พระเจ้า!  หวังว่าคงไม่มีใครสะเหล่อตื่นมาส่องระเบียงห้องใครตอนตีสามแบบนี้หรอกนะ

"ให้ฉันกัดนะ  ที่รัก"  เธอถาม  เขาคำรามรับในลำคอ  ดึงสะโพกเธอเข้าหาตัวด้วยมือข้างเดียว  อีกข้างยึดราวเอาไว้ทรงตัวไม่ให้เราร่วงลงตึกไปด้วยกัน  ทำไมเราจะต้องมาเอากันตรงที่หนาวๆ แบบนี้ด้วยนะ  เพราะมันแปลกใหม่ดีอย่างนั้นเหรอ  หรือเพราะเขาทำแบบนี้กับคนอื่นไม่ได้

ไม่มีใครคลั่งไคล้และต้องการเขามากเท่าเธองั้นหรือ

เขี้ยวเล็กๆ แต่คมกริบของเธอฝังลงบนฐานคอเขา  เลือดของเขาอุ่นชุ่มอยู่ในปากเธอ  มันคาวหากหวานล้ำจนเธอไม่อยากจะหยุด  เธอสูบเลือดเนื้อเขาเพื่อประทังชีวิตตัวเอง  แค่ยาจากห้องแล็บไม่พอหรอก  เลือดแช่เย็นนั่นก็ห่วยแตกมากด้วย  ถ้าเธอไม่หิวก็คงไม่กินแน่

แรงกระแทกกระทั้นตรงช่วงล่างส่งสัญญาณสั่งให้เธอหยุดดูดเลือดเขาสักที  เธอยังไม่อิ่มเลย  แต่ของเหลวอื่นที่ทะลักเข้ามาในร่างเธอก็ช่วยได้

"ฉันหนาว  พาเข้าไปข้างในหน่อยสิ"  เธอกระซิบอ้อน  ลูบเส้นผมยาวสีดำสนิทของเขาอย่างรักใคร่  นานเป็นเดือนกว่าเธอจะได้เจอเขาสักครั้ง  คราวนี้เธอต้องถ่อสังขารตามเขามาถึงนิวยอร์ก  เสี่ยงจะโดนลูกเขาหักคอวันละหลายรอบ  แต่มันก็คุ้มนะ  เธอรู้ว่าเขาชอบเธอ  ถึงจะไม่ได้รักเลย

เขาชอบมีเซ็กซ์กับเธอ  แค่นั้นก็พอแล้ว

ร่างสูงใหญ่ยกตัวขึ้นจากราวระเบียง  พาเธอขึ้นไปด้วย  เขายังอยู่ในตัวเธออย่างแข็งแกร่ง  เขาบรรจุกระสุนใหม่ได้เร็วทั้งที่เพิ่งจะยิงออกไปอย่างหนักหน่วง  โด๊ปไวอากร้ามาหรือไง  ไม่จำเป็นหรอก  ของแบบนั้น

ประตูกระจกกั้นระเบียงถูกเปิดทิ้งไว้  อนุญาตให้ลมหนาวกับละอองหิมะปลิวเข้ามาอย่างไม่ไยดี  ผ้าปูที่นอนเย็นเยียบตอนมันสัมผัสกับแผ่นหลังเธอ  เธอช่วยเขาถอดกางเกงที่ร่นอยู่ตรงสะโพกออกจนหลุดจากตัว  เผยให้เห็นก้นขาวๆ น่าหม่ำ  เธอทึ้งเสื้อเขาออกตามอย่างรีบร้อน  รอยสักรูปหมาป่าพาดอยู่ระหว่างอกกับบ่าขวา  ฝ่ามือกับปลายนิ้วเธอลูบไล้มันอย่างหลงใหล  ผิวเขาดีกว่าผู้หญิงบางคนเสียอีก

"เอาฉันให้ขาดใจเลย  ที่รัก"  เธอท้าทาย  จ้องตาสองสีของเขา  ปลุกเจ้าสัตว์ร้ายให้ตื่นขึ้นมาขย้ำเธอ  เธอชอบอยู่ใต้ร่างเขา  ถูกเงาใหญ่โตครอบงำร่างกายระหว่างที่เขาทาบทับลงมา  สอดตัวตนของเขาเข้ามาจนลึก  เอาออกและสอดเข้ามาอีก  เคลื่อนไหวรวดเร็วให้เธอกรีดร้องจนปากสั่น 

เจ็บไหม?  เจ็บสิ  โคตรจะเจ็บ  แต่ถ้าเธอตายเพราะเรื่องนี้  หน้าเธอก็คงจะมีรอยยิ้มฉาบอยู่  เธอรักเขา  รักมากแม้จะเป็นได้แค่ของเล่นของเด็กผู้ชายตัวโตเท่านั้น

"ปิดประตูให้ก่อนสิ"  เธอร้องท้วง  ลืมตาขึ้นมาทันเห็นเขาเตรียมจะออกไปแล้ว  เขาสวมกางเกงเสร็จแล้วแต่กระดุมเสื้อเชิ้ตยังติดไม่ครบ  มันถูกเว้นไว้สองเม็ด  เผยให้เห็นอกขาวๆ รำไร  ผู้ชายบ้าอะไร  เซ็กซี่เหลือเกิน

ประตูกระจกกั้นระเบียงถูกงับปิดและลงกลอนเรียบร้อย  เขาปรายตามองเธอวูบเดียวแทนการบอกลาที่เธอไม่มีสิทธิ์รั้งเขาเอาไว้ได้  จะต้องทนทรมานแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่กัน  จนกว่าจะตายอย่างนั้นหรือ

"ถ้าวันไหนเธอไม่ต้องการฉันแล้วจริงๆ  ฆ่าฉันเถอะนะ  คริส"  เธอเอ่ยขณะมือเขาจับลูกบิดประตู  เขาหยุดแต่ไม่ได้หันกลับมา  น้ำตาเธอไหลอย่างไม่ได้ตั้งใจ  ภายในห้องเริ่มหนาวน้อยลง  แต่หัวใจเธอหนาวกว่า

กี่ปีมาแล้วที่เธอได้แต่นั่งอยู่บนเตียงมองเขาเดินจากไป  เธอไม่ควรตื่นขึ้นมาทันเห็นเขาไป  มันจะได้ง่ายกว่านี้

"เธอได้ยินหรือเปล่า  ฆ่าฉันซะ  ฉันเหนื่อย"

"ฉันทำไม่ได้"

"ทำไม"

เขาไม่ตอบ  เขาจากไปแล้ว  ปล่อยให้เธอนั่งหนาวอยู่ลำพัง

นี่คงเป็นบทลงโทษของเธอที่เสนอตัวให้ปีศาจ

............................................

แคลร์วิ่งเร็วๆ จนถึงบันไดหนีไฟ  ตัดสินใจเสี้ยววินาทีว่าจะขึ้นบนหรือลงล่างดี  แล้วเธอก็ลงไปเพราะเขาอาจจะใช้บันไดเพื่อขึ้นไปชั้นบนก็ได้  เธอต้องวิ่งลงไปหลายชั้น  เขาจะได้ไม่ได้กลิ่นเธอ  เธอน่าจะถือสเปรย์อะไรสักอย่างออกมาด้วย  จะได้ฉีดกลบกลิ่น  นั่นจะทำให้มีพิรุธมากขึ้นมากกว่า

"ป๊านะป๊า  ทำลูกลำบาก"  เธอบ่นพึม  แค้นใจพ่อแต่ทำอะไรไม่ได้  เธอโกรธเขาแทนแม่  หงุดหงิดแม่กับแด๊ดยุนด้วยที่ไม่ทำอะไรสักอย่างเลย  ปล่อยให้เขาทำตามใจตัวเองแบบนี้เรื่อยมา

หรือมันจะมีเหตุผลมากกว่านั้น

ผู้หญิงคนนั้น  นีนา  รอสส์  หรือ  นานะ  นักธุรกิจสาวที่เคยขึ้นปกนิตยสารฟอร์บส์  เธอจำหล่อนได้  เธอเคยอ่านประวัติหล่อนมาบ้าง  หล่อนยังไม่ได้แต่งงาน  อายุมากกว่าพ่อเธอราวๆ หนึ่งปี  หล่อนเก่งมาก  ร่ำรวย  รู้จักคนดังเยอะ  อยู่ในสังคมไฮโซ  หล่อนทำธุรกิจหลายอย่าง  แต่ตัวหลักคือยานยนต์  ทั้งที่เพิ่งเริ่มจับธุรกิจนี้มาไม่นานแท้ๆ  ทำไมถึงประสบความสำเร็จมากขนาดนี้  หล่อนคงจะมีดีอะไรสักอย่างแหละ  และอะไรดีๆ นั่นคงช่วยให้แด๊ดยุนไม่ทำอะไรหล่อน  ปล่อยให้โฉบพ่อไปควงได้เรื่อยๆ แบบนี้

ไม่สิ  มันจะต้องมีอะไรมากกว่านั้นอีกแน่ๆ

"แคลร์  ฉันตามหาเธอตั้งนาน"  พีบีพูดกึ่งโวย  จับผ้าพันคอที่พันแขนตัวเองมาด้วยพันคอให้แคลร์  "ดูสิ  ตัวเย็นหมดแล้ว  จะออกมาเดินเล่นก็ใส่มาด้วยสิ"

แคลร์เกือบจะยิ้มให้กับความห่วงใยของแฟนสาว  แต่ความระแวงในใจยั้งเธอไว้  ทำไมพีบีถึงตามเธอมาถูกทาง  และทำไมพีบีถึงตื่นมาตอนนี้  นี่มันยังไม่เช้าเลย  หรือจริงๆ แล้วพีบีไม่ได้หลับเลยต่างหาก...เหมือนเธอ

"ทำไมเธอมาที่นี่ได้"  แคลร์ถาม  พยายามไม่ไขว้เขวกับมืออุ่นๆ ที่วางทาบบนอกเธออยู่  มือสวยๆ กับสัมผัสแสนรัก  เธออยากจะจับมันมาจูบจริงๆ  แต่เอาไว้ก่อนเถอะ

"ทำไมฉันจะมาไม่ได้ล่ะ  ด้ายแดงตรงนิ้วก้อยเธอลากฉันมาด้วย"

"ไม่ต้องมาปากหวานเลย  บอกความจริงฉันมา"

พีบียักไหล่  มีแฟนฉลาดก็น่าหงุดหงิดนิดๆ แบบนี้แหละ

"ฉันก็แค่ไม่เห็นเธออยู่บนเตียงเลยออกมาดู"

"แค่นั้นจริงอะ"  แคลร์หรี่ตามองแฟนอย่างไม่ไว้ใจ 

"ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ  ฉันจะกลับห้องละ"

"เดี๋ยวสิ" 

แขนพีบีถูกดึงไว้  แคลร์รั้งเธอไว้และยังทำตาเหมือนลูกหมาขี้อ้อนอีกด้วย  กว่าจะรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป   เราก็จูบกันอยู่ตรงบันไดหนีไฟนี้แล้ว

"ไหนว่าลาพักร้อนอยู่ไง"  พีบีแซวเมื่อรู้สึกถึงแรงดันตรงช่วงล่างจากร่างที่เบียดกับเธออยู่บนที่พักบันได  เธอเลื่อนมือลงจับมัน  แคลร์คำรามอยู่ในปากเธอ  "แค่มือนะ  ฉันไม่ได้พกถุงมา"

"ม...ไม่ต้องก็ได้  เดี๋ยวมันก็หาย"  แคลร์ส่ายหน้า  มันไม่ควรจะเป็นแบบนี้  เธอไม่ควรจะมีอารมณ์ตอนนี้  เธอโกรธพ่อและหงุดหงิดพีบีอยู่นี่นา 

แต่ว่า...

มันโคตรอึดอัดเลยว่ะ!

"เมื่อไหร่ล่ะ  เธอจะยืนหนาวอยู่แบบนี้จนกว่ามันจะหายเหรอ"

"อย่าหัวเราะเยาะฉันสิ  พีปส์"

พีบีพยายามกลั้นมันไว้  และมันทำให้ปวดแก้มชะมัด  แคลร์น่ารักดีเวลาพยายามเก๊กจะไม่ให้เธอช่วย  มันยิ่งทำให้เธออยากจะช่วยมากขึ้น

"พีปส์  อย่า!"  แคลร์ร้องห้าม  แต่พีบีไม่ฟังเธอเลย  ตอนนี้เธอได้แต่ยืนตัวสั่น  ปล่อยให้มือสวยๆ ขยำของรักอย่างเอาเป็นเอาตาย  จากที่หนาวๆ ก็ร้อนจะเป็นไฟ  สุดท้ายกางเกงเธอก็เปียกชุ่มเพราะมือมหัศจรรย์ของแฟน

"แค่นี้ก็เรียบร้อย"  พีบีพูดหน้าตาเฉย  เช็ดมือเปียกๆ กับกางเกงยีนแคลร์  เจ้าของมันค้อนเธอขวับทั้งที่ยังหอบจนเป็นไอขาวๆ  เธอจึงจูบปากแดงๆ นั่นซะ

"กลับได้ยัง  เราต้องขึ้นเครื่องกลับบ้านเช้านะ"

แคลร์อ้ำอึ้ง  ไม่กล้าสบตาสีฟ้าใสที่เหมือนรู้ทุกอย่างของพีบี 

"ฉันจะให้เธอทำ  ตอนเราถึงห้องแล้วและเธอมีชุดเกราะเรียบร้อย  ตกลงไหม"

"ทำไมเธอถึงเครียดนัก"

"เพราะฉันยังไม่อยากเช็ดอึเด็ก  หรือตื่นขึ้นมาดึกๆ ดื่นๆ เพื่อมาดูว่าทำไมปีศาจตัวน้อยถึงแหกปากลั่นบ้านไม่หลับไม่นอน  ฉันยังโตไม่พอ"

คำตอบแฝงคำประชดทำให้แคลร์หน้าแหย  ล้มเลิกความคิดอยากแหย่ตัวเองไปในตัวแฟนแบบไร้การปกป้อง  พีบีทำถูกแล้ว  ผู้หญิงฉลาด

"เธอจะไม่ถามฉันเหรอว่าฉันออกมาทำไมดึกป่านนี้"  แคลร์ถามขึ้น  มองอีกคนที่เดินซุกสองมือกับกระเป๋าเสื้อคลุมระหว่างกลับห้องพักด้วยกัน

"ไม่ละ  ถ้าเธออยากจะบอกก็คงบอกเอง"  พีบีตอบ  แอบยิ้มท่าทางเกร็งๆ ของแคลร์ที่ต้องย้ายผ้าพันคอไปพันเอวแทน  กลัวเจอใครระหว่างทางแล้วจะโดนหาว่าฉี่ราดกางเกง

"แล้วทำไมเธอถึงชอบฉัน  ฉันไม่...ไม่ปกติ"  แคลร์ถาม  จำได้ว่าเคยถามแล้วหลายครั้ง  แต่อยากถามอีก  เผื่อคำตอบพีบีจะเปลี่ยน

"คงเพราะฉันก็ไม่ได้ปกติเหมือนกัน"  พีบียิ้ม  ดึงมือข้างหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อและสอดแขนคล้องแขนแคลร์  เดินเบียดกัน  "ฉันชอบตาเธอ  สายตาเธอที่มองฉัน  ฉันรู้สึกถึงคุณค่าในตัวเอง  และฉันหวังให้เธอมองฉันแบบนี้ตลอดไป"

"Your  wish  is  my command."

"ดูสิ  ใครที่ปากหวานกว่ากัน"

แคลร์ยิ้ม  หน้าแดงจัด  จูบตอบพีบีที่ชะโงกหน้ามาจูบเธอขณะเรายืนกันอยู่หน้าห้องพัก  ตาสีทองอมเทามองสีฟ้าใสที่มองมา  ยอมรับเลยว่ามันทำให้เธอไขว้เขวและลืมไปหมดทุกอย่าง  นีนา  รอสส์อะไรนั่น  ไม่เห็นจะสำคัญกับเธอตรงไหนเลย  พีบี  เทย์เลอร์ต่างหากล่ะ

"เข้าห้องกันดีกว่า  ฉันไม่ชอบทำอะไรกลางแจ้งถึงมันจะตื่นเต้นดี"

พีบีดึงเธอเข้าห้องพัก  ปิดล็อกประตูอย่างรวดเร็ว  เราจูบกันไปจนถึงเตียง  เสื้อผ้าหลุดออกจากตัวทีละชิ้นจนหมด  พีบีเอาของนั้นใส่มือเธอ  หยิบมาตอนไหนไม่รู้  เร็วมาก  เธอสวมมันอย่างระวัง  สบตาพีบีที่รออยู่อย่างใจเย็น  มือสวยๆ แข็งแรงรั้งคอเธอลงไปหา  ปากนุ่มๆ จูบเธอ  สักพักเสียงร้องเบาๆ และความรู้สึกอุ่นที่แผ่ไปทั่วร่างเธอก็ตามมา  พีบีโอบกอดเธอไว้อีกครั้ง  เธอรักผู้หญิงคนนี้เหลือเกิน 

ใครหน้าไหนก็มาเอาพีบีไปไม่ได้  ไม่ว่าใครก็ตาม!

"เธอโอเคไหม  พีปส์"  แคลร์ถามปนหอบ  ทิ้งตัวลงนอนข้างๆ คนที่ยังนอนลืมตามองเพดานอยู่  ดูเหม่อลอยยังไงไม่รู้  หรือเธอคิดไปเอง

"เจ็บเหรอ --"

"เรื่องไอรีนน่ะ  อย่าโกรธน้องเลยนะ  เขาแค่โดนรูปลักษณ์ภายนอกของฉันปั่นหัวเท่านั้นเอง"  พีบีพูดแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ 

แคลร์นอนอึ้งมองตามหลังแฟน  ยังไม่ทันจะคิดอะไรออกเลย  พีบีก็กลับมา  ปีนขึ้นเตียงมาซุกตัวกอดเธอ  ดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเราทั้งคู่

"เขารู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน"

เสียงพีบีกระซิบกับจูบตรงมุมปากขับไล่ความขุ่นมัวในใจเธอให้หายไป  แคลร์กอดตอบแฟนสาว  สลัดเรื่องวุ่นวายใจออกไปจนหมดทั้งเรื่องพ่อและเรื่องไอรีน 

มันไม่มีอะไรแย่นักหรอก  เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

...........................................

Mercedes-Maybach S600 Pullman Guard 2017  แล่นอย่างสง่างามเข้ามาในเขตแดนที่แทบจะไม่ต่างจากอาณาจักรของมหาเศรษฐีทั่วไป  ยกเว้นว่าเจ้าของมันไม่ใช่คนธรรมดา  และที่นี่มีหมาป่ามากมายเดินเล่นอย่างไม่เกรงใจใครทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง

เธอยังจำได้ถึงความรู้สึกแรกที่เห็นมัน  ได้สัมผัสกับความอลังการที่แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขามของคฤหาสน์หลังนี้  มันทำให้นึกถึงบ้านตัวเอง  ต้องบอกว่าอดีตสินะ  นั่นแหละ  มันคล้ายกับบ้านที่เธออังกฤษ  มันตั้งอยู่ในแถบชนบทของลอนดอน  ห่างไกลจากผู้คนด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย  มันหลังเล็กกว่านี้  แต่อาณาเขตคงใกล้เคียงกัน  แค่ตัวบ้านที่ไม่ได้สวยหรือใหญ่โตเท่ากัน  เธอไม่ค่อยได้อยู่ที่นั่น  เธออยู่ในอพาร์ตเม้นต์เล็กๆ ของแม่ในเมืองเพื่อจะได้เดินทางไปโรงเรียนได้สะดวก  และอาจจะเพื่อไม่ให้เธอรู้เรื่องอะไรภายในฝูงมากกว่าที่รู้อยู่แล้วด้วยความซุกซนของตัวเอง

บางทีที่พวกเขาให้เธอเรียนหนังสือก็เพื่อเธอจะได้ไม่มีเวลาฟุ้งซ่าน  หาเรื่องเล่นซนจนทำให้พวกเขาต้องอัปเปหิเธอออกไปก่อนเวลาอันควร  แต่ตอนนี้เธอโตจนสามารถแข็งข้อได้แล้ว  การขับไล่เธอออกจากฝูงด้วยการยัดใส่มือคู่หมั้นคงเป็นทางที่ดีที่สุด  เอาเถอะ  เธอก็ไม่ได้อยากจะกลับไปที่นั่นสักเท่าไหร่หรอก  แม่ก็คงไม่ได้คิดถึงเธอ  ไม่งั้นคงพูดอะไรบ้างแล้ว

สิ่งที่เธอเจอมาทำให้เธอเรียนรู้ที่จะอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง  เอาตัวรอดในแบบของเธอ  ปิดปากเงียบในเวลาที่ต้องเงียบ  พูดเฉพาะเวลาที่จำเป็น  อดทนทำเรื่องฝืนใจได้ถ้ามันจะช่วยให้เธอรอด  ถึงจะไม่ดีนักแต่ก็อยู่มาได้จนกระทั่งได้เจอแคลร์  ไม่มีใครอีกแล้วในโลกนี้ที่เธอจะไว้ใจได้เท่าแคลร์  หวังว่าเธอคงไม่ได้คิดผิด

"ไม่เป็นไรค่ะหนูยกเอง"  เธอเอ่ยห้ามเขาที่จะมาช่วยเธอยกกระเป๋าเดินทางให้  แต่เขาก็ไม่ฟัง  แคลร์ชำเลืองตามามองเธอแล้วพยักหน้า  เห็นดีเห็นงามไปด้วยเสียอีก  เธอจึงต้องยอมให้คริสตัลช่วย  ครูซกับเจย์เดนก็มาช่วยยกใบอื่นๆ ไปแล้วพร้อมกับเด็กในบ้าน  แม็กซ์ก็ยังวิ่งมาช่วยเลย  เลยได้ถือถุงขนมที่แคลร์ซื้อมาฝากเข้าบ้านไปด้วยรอยยิ้มแป้นแล้นน่ารัก

ไม่มีไอรีน  เธอควรดีใจหรือเปล่า

"หนูอยากได้อะไรไหม  พีบี" 

เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมองชายร่างสูงที่ปรายตาลงมามองเธอขณะเดินข้างกัน  สีตาของเขาแปลกประหลาดกว่าทุกวันที่มันแปลกอยู่แล้ว 

"หนูมีเงินซื้อเองได้ค่ะ"  พีบีตอบ  มองเขาด้วยแววตารู้ทัน

"เย็นชาจังเลย"

"หนูทำเพื่อแคลร์  ไม่ได้ทำเพื่อคุณ  เพราะงั้นไม่จำเป็นค่ะ  และมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไรด้วย  หนูอยู่กับเขาทุกวันอยู่แล้ว  มันเป็นเรื่องปกติ"

"แต่เขาทำหนูเจ็บ"  คริสตัลแย้ง  มองรอยเขี้ยวสีม่วงคล้ำบนลำคอลูกสะใภ้ที่ยังไม่จางลงไปเท่าไหร่  พีบีรีบจับผ้าพันคอขึ้นเหมือนจะรู้ตัวว่ามันร่นลงมาจนใครๆ เห็นรอยที่มนุษย์ปกติทำไม่ได้  "อย่าให้เขาทำร้ายหนูบ่อยๆ  เขาจะเคยตัว  เข้าใจไหมครับ"

"หนูอาจจะชอบเจ็บๆ ก็ได้นี่คะ"

"งั้นก็อย่าให้เขาเผลอหักคอหนูก็แล้วกัน"

"คุณใจร้าย"  พีบีพูดลอดไรฟัน  ไม่อยากให้คนอื่นได้ยิน  คริสตัลเลิกคิ้ว  ยิ้มมุมปากเหมือนแคลร์ตอนแบดๆ ไม่มีผิด  ถ้าโตขึ้นแคลร์จะเป็นแบบนี้หรือเปล่าเนี่ย  "คุณนอกใจ"

"เปล่า  เธอเป็นภรรยาผม  แค่ไม่ได้จดทะเบียน"  เขาตอบง่ายดาย  พลางส่งกระเป๋าเดินทางเธอต่อให้โมเซ่ยกต่อไปจนถึงห้องให้  "ไปหายุนอา  เธอจะเอายาทาให้หนู  จะได้หายไวไว"

"หนูเกลียดคุณ"

"ดีแล้ว"

พีบีอยากจะกระโดดถีบเขาจริงๆ  แต่เธอทำได้แค่กำหมัดจนแน่นจนข้อนิ้วขาว  ผู้ชายสารเลว  ถ้าแคลร์จะเกลียดเขา  เธอก็ว่าสมควรแล้ว  แต่เขารักลูกๆ มากกว่าที่พ่อเธอรักเธอ  และเขาก็คอยปกป้องเธอด้วย

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ 

"พีบี"  เสียงคุ้นหูฉุดให้อารมณ์ขุ่นเคืองของเธอลดลง  เจ้าของเสียงพยักหน้าเรียกเธอซ้ำ  และหมุนตัวเดินนำไป  พีบีเดินตามอย่างไม่อิดออด  เธอเองก็กำลังต้องการยา  แผลมันเริ่มเจ็บตั้งแต่คริสตัลทัก

ในห้องคลุ้งด้วยกลิ่นยาเหมือนเคย  มันเป็นห้องพยาบาลเล็กๆ ตรงชั้นล่างของตัวบ้าน  ยุนอาจะใช้ห้องนี้แทนเวลาที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในห้องแล็บ

"ถอดเสื้อออกด้วยค่ะ" 

พีบีหน้าแดงกับคำสั่ง  ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ต้องโป๊ครึ่งท่อนต่อหน้ายุนอา  แต่มันก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอ  เธอไม่ใช่เด็กเล็กๆ นี่

"จัดการแผลตรงนี้ก่อนดีกว่า"

มันไม่ใช่คำถามหรือการขอความเห็นจากเธอ  หมอก็แค่พูดคนเดียว  ยุนอาจัดการทำความสะอาดรอยเขี้ยวที่คอพีบีให้พร้อมกับทายาช่วยสมานรอยแผล  พีบีนอนลงบนเตียงตรวจตามคำสั่ง  ยุนอาเอาเสื้อคนไข้มาให้เธอใส่เหมือนรู้ว่าห้องนี้ทำให้เธอหนาวสั่น  ยิ่งหนาวเพราะเหลือแค่เสื้อชั้นในตัวเดียว  คุณหมอจับชีพจรตรงข้อมือเธอ  ใช้สเต็ทโตสโคปฟังเสียงหัวใจ

"ได้โปรดบอกว่าหนูยังโอเค"  พีบีชักกลัวเมื่อยุนอาขมวดคิ้ว  แต่ก็โล่งใจทันทีที่อีกฝ่ายพยักหน้า

"หนูไม่ได้ป้องกันเพิ่มหรือ  ถึงกลัวนัก"

"ป้องกันค่ะ  แต่ใครจะรู้ล่ะ  ถ้าถุงมันแตกขึ้นมา  หรือมีปาฏิหาริย์  หนูก็แย่สิคะ  คุณคงไม่ยอมให้หนูทำแท้งใช่ไหมล่ะ"

ยุนอายิ้ม  ท่าทางใจดี  แต่ยิ้มแบบนี้แหละ  น่ากลัวสำหรับพีบีแล้ว

"ฉันจะเปลี่ยนยาที่ฝังไว้ให้  จะเพิ่มขนาดยาให้แรงขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงที่หนูกลัว  แต่มันอาจมีผลกระทบต่อร่างกายหนูสักหน่อย  หนูอาจจะเวียนหัว  อาเจียน  และอ่อนเพลียในช่วงแรกๆ  ซึ่งไม่เกี่ยวกับอาการแพ้ท้องแต่อย่างใด  เพราะฉะนั้นพักผ่อนเยอะๆ นะคะ  เป็นไปได้ก็อย่าเพิ่งซน"

พีบียิ้ม  รู้สึกอุ่นใจขึ้นเป็นกอง  ยุนอาสมเป็นผู้ปกครองของเธอจริงๆ

"หนูรักคุณ  คุณเหมือนแม่ของหนูเลย  เอ่อ ขอโทษค่ะ  หนูไม่น่า --"

"ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันเต็มใจ  และดีใจ"  ยุนอาเอ่ย  ยิ้มบางๆ และจูบหน้าผากเด็กสาว  "ถ้ารู้สึกไม่สบาย  ต้องบอกนะคะ  ไม่ต้องกลัวฉัน"

"ค่ะ"  พีบีพยักหน้า  ตาเริ่มปรือ  ทั้งเหนื่อยเดินทางและนอนน้อย  แถมยังมึนยาที่ยุนอาฝังใส่แขนให้ใหม่นี้ด้วย

"หนูนอนพักตรงนี้ก่อนละกัน  ฉันจะบอกแคลร์ให้ว่าหนูอยู่ที่นี่" 

"ขอผ้าห่มด้วยได้ไหมคะ"

"ได้ค่ะ"  ยุนอาตอบ  มองพีบีด้วยสายตาเอ็นดู  เธอเดินไปหาผ้าห่มสำรองในตู้มาห่มให้เด็กสาวที่นึกไปแล้วว่าเป็นลูกตัวเองคนหนึ่ง

พีบีหลับง่ายเหมือนเคยแค่เธอเอาหมอนเพิ่มให้อีกใบ  เด็กสาวห่อตัวเองกับผ้าห่มเหมือนเด็กเล็กๆ  ยุนอาส่ายหน้ากึ่งยิ้ม  เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้เมื่อครู่เข้าที่แล้วเดินออกไปสูดอากาศนอกห้อง

"โมเซ่  ไปบอกคุณแคลร์ว่าพีบีอยู่ที่นี่  อีกสักพักจะออกไป"  เธอสั่งเด็กรับใช้ส่วนตัวที่อนุญาตให้ช่วยทำงานอื่นๆ ในบ้านได้แก้เหงา

"รู้สึกยุนจะรักเด็กคนนี้จังนะ" 

ยุนอาเงยหน้าขึ้นมองคนพูดที่ยืนกอดอกพิงผนังอยู่  หน้าตากวนประสาทเหมือนเคย  "ก็ฉลาดดี  ต่อกรกับเธอได้  ใช่ไหมล่ะ  อยู่เป็นด้วย"

"แคลร์ติดเธอยังกับตังเม"

"ไม่ใช่แค่แคลร์" 

คริสตัลเลิกคิ้ว  พยายามคิดตามว่ายุนอาหมายความว่ายังไง

"ไอรีน"

"ไอรีน?"

"ใช่  ไอรีน"  ยุนอาพยักหน้า  "ฉันอาจส่งเขากลับอังกฤษ  เอาแคลร์ไปด้วย  พร้อมกับแม็กซ์  ถ้าลูกสาวเธอทำใจไม่ได้เร็วๆ นี้"

"จริงดิ  ยุน  ไอรีนน่ะนะ"  คริสตัลไม่อยากเชื่อ  "พีบีเป็นผู้หญิง..."

"ถ้ามองข้ามที่เพศไปนะ  นิสัยเขาเหมือนเด็กอัลฟาเกือบทุกอย่าง  กล้าจนฉันกลัว  เมอร์ราดโยนเพชรใส่มือคนอื่นอย่างไม่นึกเสียดาย"

"ยกเว้นว่ามันจะเป็นแผน"

"แผนไม่มีทางสำเร็จได้  ถ้าสายลับไม่ให้ความร่วมมือ"  ยุนอาตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก  พลางแบมือยื่นให้คริสตัลซึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงเอาของที่เธอต้องการมาวางบนฝ่ามือให้อย่างทันที

ไมโครชิฟขนาดเล็กกว่านิ้วก้อยเด็กทารก (ที่ไม่ใช่แม็กซ์เวล)

"หล่อนบอกว่าเกือบตายตอนไปเอามันมา"

"ก็ไม่ได้ตายนี่"

คริสตัลยักไหล่  "พวกเขาอาจจะอยากรู้จักเราเฉยๆ ก็ได้  ยุน"

"อย่าโลกสวยไป  คริส"  ยุนอาว่า  ตาสีฟ้าเย็นชามองของในมือตัวเองอย่างเคียดแค้น  เธอคงบีบมันจนแหลกแล้วถ้าไม่อยากรู้ว่าคนพวกนั้นรู้อะไรเกี่ยวกับพวกเธอบ้าง 

"มนุษย์ชอบหาเรื่องเจ็บตัว"

"เราจะไปทำลายห้องแล็บมันเลยไหม"

"ไม่  ไม่จำเป็นต้องรุนแรงขนาดนั้น  ฉันมีวิธีอื่น"

คริสตัลยิ้มมุมปาก  มองภรรยาอย่างชื่นชม  เขาก้มลงจะจูบเธอ  แต่เธอดันหน้าเขาไว้  ส่งสายตาห้ามปราม

"ไม่ใช่ที่นี่  ลูกสะใภ้เธอนอนอยู่หลังประตูนี่นะ"

"ก็นิดนึงสิ  ยุนใช้งานฉันเยอะนะ  แถมฉันยังโดนเกลียดด้วย"

"เหรอ  แต่ฉันว่าเธอชอบนะ"  ยุนอาย้อน  กระแทกเข่าใส่คนตัวสูงจนตัวงอ  เธอดันบ่าเขาให้ลุกขึ้นมา  "ไปทำตัวเป็นคุณพ่อที่ดี  แล้วฉันจะดีด้วย  ตกลงไหม"

"พีบีน่าจะเห็นว่าคนที่ใจร้ายที่สุดคือใคร"  คริสตัลงอแงแต่ก็ยอม

ยุนอาเหลือบมองประตูห้องพยาบาลที่ปิดสนิทอยู่หลังจากคริสตัลเดินจากไปแล้ว  เธอไม่แน่ใจหรอกว่าพีบีฟังอยู่หรือเปล่า  หลับอยู่จริงไหม  แต่เธอรู้ว่าเด็กคนนั้นจะไม่ปริปากพูดแน่นอน 

..........................................................

ไอรีนแทบจะไม่สนใจคนที่ขับรถมาส่งเลย  แค่ครูซส่งข้อความมาบอกเธอว่าพ่อกับแคลร์กลับมาแล้ว  เธอก็บอกให้โดโรธีพากลับมาส่งบ้าน  โชว์โลมาอะไรนั่นไม่เห็นจะน่าสนใจอะไรเลย

"พี่ไม่ต้องเข้าไปก็ได้ค่ะ  ขอบคุณนะคะ"

"เดี๋ยวสิ  ไอรีน  แต่พี่หิวนะ"

"หิวก็กลับไปกินที่บ้านพี่สิคะ"

โดโรธีหน้าเจื่อน  แต่พอน้องยิ้มและบอกว่าล้อเล่นพลางชวนให้เข้าบ้านไปด้วย  เธอจึงค่อยยิ้มออก  ถึงจะยังงงๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

"อ้าว  โดโด้"  เจสสิก้างงที่เห็นโดโรธีเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับหลานสาวที่เดินมาจับแขนเธออย่างเอาใจ  ไอรีนมาแปลกอีกแล้ว

"ป้าเจมีธุระอะไรไหมคะ  อยู่เป็นเพื่อนพี่โด้หน่อยนะ  หนูไปเก็บของก่อน  แล้วขอให้พี่โด้กินข้าวเย็นด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ"  ไอรีนพูดเร็วๆ แล้ววิ่งขึ้นบันไดบ้านไปทันที 

เจสสิก้ามองตามหลานงงๆ  พอหันมามองโดโรธี  หลานคนนี้ก็งงเหมือนเธอนั่นแหละ  "หวังว่าคงบอกฟานี่นะ  โดโด้  ป่านนี้ฟานี่ถึงบ้านแล้ว"

"หนูเรียนโทแล้วนะคะ  เจ"

"แล้วทิฟฟานี่สนเหรอ"

โดโรธีหัวเราะแห้งๆ  เจสสิก้าจึงพาหลานไปห้องนั่งเล่นและบอกให้เด็กรับใช้จัดของว่างมาต้อนรับ  จริงๆ เธอก็เหนื่อยเดินทางมา  แต่นั่งดื่มชาแค่นี้ก็ไม่ได้ใช้พลังงานอะไร

เจสสิก้าชวนโดโรธีคุยกันจนไม่มีอะไรจะคุยแล้ว  เติมชาหลายแก้วแล้วด้วย  ไอรีนก็ยังไม่มาสักที  จนกระทั่งโดโรธีขอตัวจะกลับ  กลัวที่บ้านจะเป็นห่วง  ครูซกับเจย์เดนก็โผล่มาชวนโดโรธีไปห้องสันทนาการ  ดูหนังกัน

"ไอรีนไปไหน"  เธอกระซิบถามลูกชายขณะเดินออกจากห้องนั่งเล่นด้วยกัน  เจย์เดนก็กระซิบกระซาบกลับมา

"อยู่ห้องแคลร์  อ้อนแคลร์อยู่ฮะ"

"แคลร์แน่นะ"

"แน่สิฮะ  เจ  เพราะพีบีอยู่กับคุณยุน"

เจสสิก้าหรี่ตามองลูกชายอย่างสงสัย  เจย์เดนทำท่าจะเดินหนี  แต่เธอดึงแขนเขาเอาไว้ได้ทัน  "รู้ดีไปหมดทุกเรื่องเลยนะเรา  เป็นกองสอดแนมรึไง  ระวังเถอะ"

"ผมอยู่กองรักษาความสงบของบ้านหรอกฮะ  เจ  ถามครูซสิ  ถามแม่ก็ได้"  เจย์เดนอ้าง  ค่อยๆ แกะแขนตนออกจากมือแด๊ดดี้คนสวย  "เจจะไปดูหนังด้วยกันก็ได้นะ  ผมจะทำป๊อปคอร์นให้"

"เอาสิ"  เจสสิก้าพลั้งปากตอบ  แต่ไม่ได้แก้ไขมัน 

ดูหนังกับกินป๊อปคอร์นก็ไม่เลวนักหรอกน่า  ปวดหัวมาเยอะแล้วนี่           



......................

ชอบคนแบดใช่ไหมล่ะ  หุหุหุ   :21: :57: :61: :44:



Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

17 กุมภาพันธ์ 2019 เวลา 16:59:56
พีบีคุมสติคุมอารมย์ได้ดีกว่าไอ้ลูกหมาน่าถีบเยอะเลย กว่าเป็นจ่าฝูงได้ก็ส่งไปอยู่กะปู่เถอะ
แสดงความคิดเห็น