web stats

ข่าว

 


Apple & Cinnamon (Second Dishes)-Lesson 14 : Dirty Talk (1)

โพสต์โดย: anhann วันที่: 24 ธันวาคม 2016 เวลา 21:54:58 อ่าน: 311







นิยายเรื่องนี้เปิดให้จองแล้ว  สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  http://www.yuriread.com/index.php?topic=1403.msg2166#msg2166






Lesson 14 :  Dirty Talk (1)



แอ๊บบิเกลชักไม่แน่ใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน  เพราะยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นแบบเดิมห้อมล้อมตัวเธออยู่  หากเมื่อลืมตาขึ้นมา  ก็ชัดเจนแก่ใจว่าไม่ได้อยู่ในบ้านหลังใหญ่อันเป็นมรดกตกทอดมาจากคุณย่าของคู่หมั้นแล้ว  เธออยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งในแวนคูเวอร์  มาดูสถานที่ถ่ายทำซีรีส์ที่นี่ตามที่มิสเตอร์ซูร์แนะนำ  เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย  แล้วเธอก็จำได้นิดๆ แล้วว่าทำไมถึงรู้สึกอุ่นเหมือนเดิมทั้งที่ข้างนอกหนาวมากตอนที่เธอมาถึง 

เพราะสเปนเซอร์มากับเธอด้วย  นอนซ้อนกอดเธออยู่ด้านหลังบนเตียงหลังนี้  มือซนๆ กุมหน้าอกเธอพอดีเป๊ะ  รู้สึกมันจะพอดีมือไปไหมนะ

เธอพยายามจะเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะตัวเตี้ยข้างเตียง  แต่เหมือนแขนจะสั้นเกินไปหรือเหยียดออกไปได้ยากเพราะตัวเธออยู่ในมุมที่ห่างจากโต๊ะตัวนั้นมาเป็นอีกฝั่งของเตียงขนาดคิงไซส์หลังนี้  คาดว่าคงจะโดนคนด้านหลังนี่แหละ  ลากมาจากฝั่งนั้น  หรืออาจจะเป็นเธอที่ล้ำเขตสเปนเซอร์มาเองจนโดนล็อกเอาไว้แบบนี้เหมือนติดกับแมงมุมยักษ์ 

แล้วสเปนเซอร์ก็เหมือนแมงมุมจริงๆ ด้วย  ยิ่งเธอขยับตัวมากเท่าไหร่  แขนยาวๆ นี่ก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นทุกที  มือที่หน้าอกก็ขยับตามอีก  แล้วจะให้เธออยู่เป็นสุขยังไงได้ 

"สเปนซ์  อย่าเกเรสิ  เดี๋ยวสายนะ"

"แป๊บนึงสิ  กำลังพอดีเลย"  สเปนเซอร์พูดอย่างเอาแต่ใจ  กดจมูกลงสูดดมกลิ่นหอมตรงลำคอของคนในอ้อมแขนอย่างมีความสุข  "เวลาหนาวๆ แล้วได้กอดแฟน  มันรู้สึกดีนะ"

"แต่ดูเหมือนตอนนี้คุณจะไม่ได้แค่กอดนะ  สเปนเซอร์"  แอ๊บบิเกลแย้ง  เธอกำลังแย่เพราะนอกจากมือที่กุมอยู่บนอกจะขยับแล้ว  มือที่แทรกผ่านเสื้อนอนตัวยาวที่คลุมถึงเข่าเข้ามาลูบไล้ต้นขา  ก็ทำให้ร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติ  เธอไม่อยากไปตามนัดสาย  แต่จะออกไปทั้งแบบนี้ไม่ได้แน่นอน  แต่ก็ใช่ว่าจะถึงเวลานัดหมายแล้วนี่นา

"นี่... อย่าใจร้อนให้เสียบรรยากาศสิคะ" 

เสียงกระซิบหยอกเย้าอย่างขี้เล่น  เล่นเอาเธอหน้าร้อนผ่าว  เพราะรู้สึกตัวแล้วว่า  เป็นฝ่ายจับมือคนรัก  นำทางให้เข้ามาสัมผัสกันตรงๆ  ตรงจุดไวต่อการรับรู้  แถมยังไปจูบเขาเองอีกด้วย

"ก็คุณชอบแกล้งฉัน"

"ฉันอยากให้เธอมีความสุข  ไม่ใช่สักแต่ว่าจะทำ"

"ฉันรู้  แต่บางครั้ง... ฉันก็แบบว่า...อึ๊บฉันสักทีเถอะ  เลิกเล่นได้แล้ว  ฉันเปียกจนไม่รู้จะเปียกยังไงแล้วแหละ  อะไรแบบนี้น่ะ"

"แอ๊บบี้  เดี๋ยวนี้พูดแบบนี้เหรอคะ"  สเปนเซอร์พูดเสียงขำ  "เมื่อก่อนต้องแกล้ง  ถึงจะยอมพูด"

"ก็ฉันอยู่กับคุณมากี่ปีแล้วล่ะ  มีอะไรต้องอายอีกเหรอ"  แอ๊บบิเกลพูดพลางมองอีกคนค่อยๆ ดึงเสื้อนอนของเธอขึ้น  เธอเผลอกัดปากตัวเองระงับอาการตื่นเต้นราวกับกำลังลุ้นอยู่ว่า  เมื่อไหร่จะได้เห็นร่างกายใต้ร่มผ้าของตน

ดวงตาของเธอหรี่ปรือลงขณะมือข้างหนึ่งประคองศีรษะสเปนเซอร์ไว้  มองดูคู่หมั้นสัมผัสร่างกายเธอด้วยปากและลิ้นแดงๆ  ถึงจะพูดว่าไม่ชอบถูกกลั่นแกล้ง  แต่ก็อดชอบการซักซ้อมก่อนปฏิบัติการจริงจะเริ่มต้นแบบนี้ไม่ได้  ยิ่งเวลาสเปนเซอร์ขบเบาๆ ไปตามผิวหนังของเธอ  เธอก็ยิ่งรู้สึกดี

เธอมองตามสเปนเซอร์ที่ร่นตัวลงไปทางใต้  รายนั้นค่อยๆ รูดกางเกงชั้นในของเธอออกจากเอวอย่างใจเย็น  จูบกระดูกปูนโปนตรงสะโพกนั้นด้วย  และเธอก็รู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังเกร็ง  หน้าท้องหดเกร็งตอนปากซนๆ สัมผัสกับพื้นที่ใต้สะดือ  แทบไม่ต้องคิดเลยว่าตอนนี้แอ๊บบี้น้อยของเธอเป็นยังไงบ้าง  ถ้าต้นขาด้านในของเธอจะชุ่มฉ่ำขนาดนี้แล้ว

"สเปนซ์..."

"ใจเย็นค่ะที่รัก"  สเปนเซอร์ปลอบ  สอดเรียวนิ้วมาประสานกับนิ้วของแอ๊บบิเกลเอาไว้  ยอมรับอาการเกร็งตัวของคนรักอายุน้อยกว่าที่กำลังถูกตนเชยชิมอย่างย่ามใจ  ท่อนขาทั้งสองของแอ๊บบี้บีบศีรษะเธอพร้อมกับมือที่กดมันลงราวกับจะบอกว่า  ห้ามไปไหนก่อนงานจะเสร็จเรียบร้อย

"สเปนซ์!"

"โอเคๆ  เอาจริงแล้ว"

แอ๊บบิเกลอ้าปากจะพูดอะไรสักอย่าง  และคิดว่าพูดไปแล้ว  แต่สิ่งที่ได้ยินกลับเป็นเสียงครางวาบหวิวแทนคำพูดกับเสียงหอบหายใจ  เธออาจจะขาดใจตายก็ได้  ถ้าสเปนเซอร์จะกินเธอไม่หยุดแบบนี้  ทั้งที่บอกว่ามันแค่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น  เธอแน่ใจเลยว่า  สเปนเซอร์ปิดโทรศัพท์มือถือของตัวเองและของเธอด้วย  เพราะโทรศัพท์ตั้งโต๊ะของโรงแรมก็โดนยกหูออกวางไว้ข้างเครื่อง  วางแผนจะกินเธอล่วงหน้าเอาไว้แล้วสินะ  แต่เธอก็ชอบความรอบคอบแบบนี้

เธอออกัสซึ่มเพราะลิ้นซนๆ นั่นกี่ครั้งแล้วก็จำไม่ได้  แต่ตอนนี้กำลังจะแตะสวรรค์อีกครั้งเพราะเรียวนิ้วที่เคลื่อนที่ไปมาอยู่ในตัวของเธอ  สเปนเซอร์ค้นพบจุดกระตุ้นความหรรษาของเธอได้อย่างไม่ยาก  อาจเพราะเราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว  หรืออาจจะเพราะใส่ใจ  และเธอรู้สึกขอบคุณจนต้องจูบพร้อมกับตอนแทนความน่ารักของคนรักของเธอด้วยสิ่งที่เขาก็ต้องการเหมือนกัน

สเปนเซอร์ชอบออกัสซึ่มจากภายในจึงมักจะขอให้เธอทำแบบนั้นให้ด้วย  และมันก็เป็นเรื่องธรรมดามากหากจะพบว่าคนด้านบนโถมน้ำหนักลงมาหาเธออย่างเต็มที่เวลาต้องการเร่งเครื่องให้ถึงจุดหมายเร็วๆ  เมื่อถึงที่หมายก็เหมือนรถโดนกระทืบเบรกอย่างแรงจนท้ายปัด  เพราะการเคลื่อนที่จะหยุดไปเสียดื้อๆ  ก่อนเสียงครางฮือจะดังตามมา  ถัดมาก็มีร่างเปียกชื้นด้วยเหงื่อทาบอยู่บนตัวเธอ  นิ่งสนิทราวกับเชื้อเพลิงหมดถังไปจนเกลี้ยง  แต่สเปนเซอร์ก็ใช้เวลาชาร์ตพลังงานกลับคืนมาไม่ถึงห้านาทีก็เริ่มซนใหม่ได้อีกแล้ว  แล้วถ้าเธอคล้อยตามไป  เธอก็จะต้องโดนอีกรอบและอีกรอบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

ถ้าเพียงมันเป็นวันหยุด  เธอก็ยินดี  แต่ตอนนี้...

"สเปนซ์  อื้อ... พอแล้ว"  แอ๊บบิเกลร้องห้าม  ดันใบหน้าคนด้านบนเอาไว้  แต่คนแรงเยอะก็ยังจับมือเธอออก  เอามันไปใส่ปากอีก  มันทั้งเซ็กซี่และน่ากลัวในความคิดเธอ

"สเปนซ์  คุณไม่ได้เมาใช่ไหม"

"เปล่า  เธอเห็นฉันกินเหล้าเหรอ  แอ๊บบี้"  สเปนเซอร์บอก  พลางเลียนิ้วแอ๊บบิเกลเหมือนเห็นมันเป็นอมยิ้ม  "ถ้าฉันจะเมา  ก็คงเมาเธอนั่นแหละ"

"พูดบ้าๆ อยู่เรื่อย"  แอ๊บบิเกลเขิน  บางทีคู่หมั้นเธอก็พูดตรงเกินไป  ไร้ยางอายเกินไป  แต่ Dirty talk ของสเปนเซอร์ก็ทำให้เธอตื่นตัวดีนั่นแหละ

"นัดกับพวกเขากี่โมงนะ"  สเปนเซอร์ถามขึ้นหลังจากเลิกทำตัวทะลึ่งตึงตังและลงมานอนเคียงกันเฉยๆ แล้ว  แต่ก็ยังไม่เลิกนัวเนียคลอเคลียว่าที่ภรรยาตามกฎหมายอยู่เป็นเนืองๆ  แอ๊บบิเกลก็ต้องคอยตีมือซนๆ อยู่เรื่อยไป

"สิบโมง  เขาบอกว่าไม่ต้องรีบ  แต่จริงๆ ไปแค่งานเลี้ยงตอนเย็นก็พอ  ถ้าฉันไม่กลัวเสียมารยาท  ก็อยากจะทำแบบนั้นอยู่"  แอ๊บบิเกลเล่า  ดวงตามองว่างเปล่าไปยังเพดานสีขาวของห้องพักชั้นกลางในโรงแรมสี่ดาวที่ทางทีมงานจองเอาไว้ให้  อันที่จริงสเปนเซอร์ก็จะขอเปลี่ยนห้องเป็นอะไรที่ดีกว่านี้อยู่หรอก  แต่เธอห้ามเอาไว้  เพราะตรงส่วนนั้นจะต้องเสียเงินเอง  ซึ่งเธอก็ไม่อยากให้คู่หมั้นต้องหมดเปลืองไปกับเรื่องไร้สาระแบบนี้  ถึงสเปนเซอร์จะมีเงินให้เสียมากมาย

"คุณไม่ชอบห้องนี้ใช่ไหม"

"เปล่านี่  แค่ไม่ต้องนอนรวมกับคนอื่นเหมือนในโฮสเทลก็พอแล้ว  ฉันไม่ถนัดแบบนั้น"  สเปนเซอร์ตอบ  จูบไหล่เปลือยของคนถามเบาๆ  แถมด้วยหอมแก้มอีกที 

"กลัวทำแบบนี้ไม่ได้ล่ะสิ"

"ถ้าเธอไม่อายใคร  ก็โอเคอยู่นะ"

"บ้า  ใครจะไม่อาย  ฉันไม่ใช่ดาราหนังโป๊นะ"  แอ๊บบิเกลพูด  แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้  "คุณอ่านบทของฉันหรือยัง  มันมีบางตอนที่ต้องจูบกับใครบางคนด้วยนะ"

"อ่านแล้ว"  สเปนเซอร์ตอบ  สีหน้าเกือบจะว่างเปล่า  "ก็ยังดีที่ไม่ได้ถึงขนาดต้องขึ้นเตียงกัน"

"คุณคะ  ฉันไม่รับงานแบบนั้นหรอก  มันไม่ใช่แนวฉัน"

"โอ  ลืมไป  เธอเล่นหนังสยองขวัญนี่นา"

แอ๊บบิเกลชักสีหน้า  ดึงแก้มนิ่มๆ ของอีกคนจนยืดอย่างหมั่นไส้นิสัยชอบพูดจาเสียดสีแม้แต่กับเธอก็ไม่มีเว้น  สเปนเซอร์ในแบบที่พวกลูกศิษย์เจอ  ไม่ค่อยมีให้เธอดูหรอก  แต่ถ้าเป็นเหมือนตอนอยู่กับคนอื่น  มันก็ไม่มีอะไรพิเศษน่ะสิ  เราเป็นคนพิเศษของกันและกันนะ

"เขาเรียก  ระทึกขวัญ  ไม่ใช่  สยองขวัญ ค่ะ"

"แล้วมันคล้ายกันไหมล่ะคะ"  สเปนเซอร์ย้อน  จับแขนแอ๊บบิเกลมาดู  เจ้าของแขนเลิกคิ้วแปลกใจ  "ฉันควรต้องดูขาเธอมากกว่าสินะ  ยังวิ่งไหวอยู่ไหมเนี่ย"

"ไหวสิ  ฉันปั่นจักรยานไปร้านทุกวันนะ  ไม่ได้ขับเบนซ์เหมือนคุณ"

"แหม  โดนเข้าให้ซะแล้ว" 

แอ๊บบิเกลยิ้มเยาะและหัวเราะเบาๆ เมื่อโดนแกล้งงับจมูก  เราจูบกัน  แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากกว่านั้น  เพราะสเปนเซอร์ปล่อยให้เธอลุกขึ้นไปแต่งตัวเตรียมออกไปตามนัด

"ลุกเลยค่ะ  ห้ามนอนต่อ  คุณเป็นคนร้องมาด้วยนะ  บอกให้อยู่บ้าน  พักผ่อนก็ไม่เชื่อ"  เธอบ่นเมื่อออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นอีกคนยังนอนห่มผ้าสบายใจ 

จริงๆ เธอก็อยากให้สเปนเซอร์นอนต่ออยู่หรอก  เพราะสัปดาห์ที่แล้ว  ก่อนหน้าที่เราจะมาที่นี่กัน  คุณอาจารย์เธอต้องตรวจข้อสอบกลางเทอมของลูกศิษย์จากวิทยาลัยที่สอนอยู่  แถมยังต้องเจียดเวลาไปเขียนนิยายด้วย  เวลาจะนอนจึงไม่ค่อยมี  บางทีเธอหลับไปสองตื่นแล้ว  สเปนเซอร์ยังไม่ได้นอนเลย

แต่ก็ยังมีแรงซนอยู่เนอะ  คนอะไร...

"โอเค  ไม่ลุกก็ไม่เป็นไร  งั้นอยู่คนเดียวไปเลยนะ  เพราะฉันจะกลับหลังจากงานเลี้ยงเลย  มีใครมาบ้างก็ไม่รู้  คริส วูด  จะมาไหมนะ"

"เดี๋ยว  จะลุกเดี๋ยวนี้แหละ  ลุกแล้ว"  สเปนเซอร์ลุกพรวดพราดขึ้นมาจากเตียงทันทีที่ได้ยินชื่อดาราหนุ่ม  เพราะจำได้ว่า  เขานั่นเองที่แอ๊บบิเกลจะต้องเล่นบทจูบด้วย  แน่นอนว่าเธอไม่ชอบใจ  แต่จะทำอะไรได้  ในเมื่อมันเป็นงาน  แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลางานที่ว่านั้นสักหน่อย

"เร็วๆ นะ  ไม่งั้นฉันไม่รอจริงๆ"

"แอ๊บบี้  เธอจะเสียใจนะ  ถ้าไม่มีฉันไปด้วย"

แอ๊บบิเกลกำลังจะเถียง  แต่เธอก็โดนคนที่วิ่งล่อนจ้อนมาจากห้องน้ำ  จูบปิดปากเสียงดัง  แล้วฉีกยิ้มสว่างไสวแบบสุดๆ ให้ก่อนวิ่งหายกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง  ใช้เวลาอยู่ประมาณสองนาทีกว่าเธอจะขยับตัวได้  และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น  แล้วคลี่ยิ้มออกมา


.........................................     



ครึ่งหนึ่งก่อนค่ะ

ลงแต่ละน้อยแต่พองาม  อิอิ 

คนอ่านน้อยไม่เป็นไร  มาอ่านก็ยังดี  ขอบคุณค่ะ   :44:


วันนี้ใครไปปาร์ตี้ที่ไหน  ขอให้มีความสุข  และกลับบ้านกันอย่างปลอดภัยนะคะ   :45:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น