อุบายรักจับใจ yuri ตอนที่ 10
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 14 พฤศจิกายน 2019 เวลา 12:08:36
อ่าน: 463
|
วันนี้เป็นวันหยุดแต่คนที่เหลือสัญญาทาสวันสุดท้ายก็ยังคงมาทำหน้าที่ของตัวเองแม้จะถูกมองแรงอยู่บ่อยครั้งแต่ธณิกาก็พยายามทำใจดีสู้เสือเข้าไว้ บิดาบอกว่าคุณเพลงพิณเป็นคนใจดีซึ่งนั่นหมายถึงโทษของเธอที่น่าจะได้รับการอภัยแล้ว หรืออาจจะไม่? สายตาแข็งๆ เหมือนผีเข้าแบบนั้นมันจะใช่อย่างที่คิดไว้จริงๆ น่ะหรือ... "สะ สวัสดีค่ะ" "ค่ะ" มีเพียงการทักทายสั้นๆ เท่านั้นที่ได้รับกลับมาให้ธณิกาได้เกิดอาการใจฝ่อหากแต่วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะทำคะแนนให้บิดาเธอก็ต้องสู้ให้ถึงที่สุด อย่างไรเสียวันนี้ก็ต้องพูดข้อดีของคนเป็นพ่อให้ครบจบประโยคให้จงได้! ธณิกาแกต้องรอด! มันต้องเป็วันที่ดีสิ ไฟล์ติ่ง!!! เมื่อเรียกขวัญและกำลังใจคืนกลับมาได้แล้วการปฏิบัติตามความตั้งใจก็เริ่มต้นอีกครั้งพร้อมกับการตีมึนราวกับไม่เคยมีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นให้เพลงพิณได้ทอดถอนใจหากแต่เธอคงจะชินแล้วกระมังถึงได้ไม่รู้สึกขัดเคืองใจหรือติดใจอะไร "วันนี้คุณเพลงพิณจะออกไปไหนอีกหรือเปล่าคะ" รอยยิ้มหวานถูกส่งมาพร้อมกับการเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ให้คนไม่ทันตั้งตัวได้ตกใจแต่ก็สามารถเก็บอาการไว้ได้ทันก่อนที่ใครอีกคนจะสังเกตเห็นความผิดปกติที่หลุดออกมา "คงไม่ค่ะ" เพลงพิณเอ่ยตอบเสียงเรียบดวงตาคู่ดุเหล่มองเจ้าของคำถามชั่วครู่ก่อนจะดึงกลับมายังเบื้องหน้าเพื่อที่ไม่ให้สายตาอีกคู่มองเห็นว่าถูกจ้องมอง คำถามผุดขึ้นในใจว่าเหตุไฉนตัวเองต้องเป็นฝ่ายหลบเลี่ยงเมื่อสถานที่นี้ก็คือบ้านของตัวเอง ไร่ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่นี้ก็เป็นของเธอ คนงานนับร้อยก็เป็นคนของเธอแล้วทำไมกับแค่คนๆ นี้ที่เป็นผู้หญิงเหมือนกันกลับทำให้รู้สึกใจแปลกจนไม่สามารถสบตาได้ในระยะประชิด เกิดอะไรขึ้นกันนะ?
ธณิกายืนวิเคราะห์คำพูดของคนตรงหน้าชั่วครู่ก่อนจะถอยห่างออกมาเมื่อรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดที่เกินพอดีจนอาจก่อให้เกิดการถูกไล่ตะเพิด วันนี้เธอตั้งใจจะทำตัวดีๆ ไม่ก่อกวนอะไรเจ้าของไร่คนสวยอีกดังนั้นสิ่งที่เธอควรจะทำมากที่สุดก็คือ? "วันนี้รักว่างค่ะ" "แล้ว?? เพลงพิณรู้ดีในเรื่องนี้เพราะพบเจอเจ้าของประโยคลอยไปลอยมาให้เห็นจนชินตาและในบางครั้งก็อยากจะถามเขาว่าไม่คิดจะไปทำงานที่ไร่ตัวเองบ้างหรือไง "รักจะมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ? "??????." "เงียบเลย คุณเพลงพิณทำหน้าแบบนี้แสดงว่าดีใจมากใช่มั้ยคะ" "......................" ไร้ซึ่งการตอบรับเป็นครั้งที่สองมีเพียงใบหน้าเฉยชาที่ทำเอาคนพูดเองเออเองมีสีหน้าสลดลงหากแต่เพียงไม่นานรอยยิ้มก็กลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับคำพูดที่เพลงพิณไม่คิดว่าจะได้ยิน นี่เขาไม่รู้ตัวเลยอย่างนั้นหรือ? "เดี๋ยวถ้ารักไม่ไปไหนตอนเย็นจะอยู่กินข้าวกับคุณด้วย" "คะ?" "เรื่องกินข้าวไว้คุยกันนะคะว่าแต่มีอะไรให้รักช่วยมั้ย" ธณิกาเปลี่ยนเรื่องทันทีเมื่อมองเห็นว่าตัวเองอาจจะถูกปฏิเสธความจริงเธอไม่สนหรอกว่าคำตอบรับจะเป็นอย่างไร ในเมื่อตั้งใจไว้แล้วยังไงก็ต้องทำให้ได้ "เอ่อ ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ" "แต่รักอยากช่วยจริงๆ นะคะ" "ถ้าคุณอยากช่วยจริงๆ ก็แค่นั่งตรงนี้ก็พอค่ะ" คนพูดไม่คิดอะไรหากแต่คนฟังนี่สิกลับเปิดยิ้มมโนไปไกลว่าใครอีกคนต้องการกำลังใจหากแต่ไม่บอกกันตรงๆ เพราะอาจจะเขินก็เป็นได้ แต่! เดี๋ยวใจเย็น ใจเย็นเย็๊นนนนน นี่ผู้หญิงของพ่อแกจะมาชงให้ตัวเองไม่ได้! มองหน้าหล่อนแล้วเรียกว่าแม่สิ นี่แม่ยังไง แม่เพลงพิณแม่ของหนูรัก งือออออ น่ารักอะ... ท่าทางและดวงตาประหลาดทำให้เพลงพิณต้องยกแฟ้มขึ้นมาบังหน้าเพราะรู้สึกระแวงอีกคนยังไงบอกไม่ถูก นี่เธอจะต้องพบเจอกับคนประหลาดแบบนี้ไปทั้งวันเลยสินะ วันนี้ทั้งวันไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างที่นึกกลัวทำให้เพลงพิณรู้สึกสบายใจจนเผลอตอบรับคำชวนไปกินข้าวบ้านของธณิกาที่พูดเหมือนเป็นการเลี้ยงขอบคุณแต่คำชวนฟังดูแปลกราวกับว่าเธอนี่แหละที่เป็นคนเอ่ยชวนแต่ก็ช่างเถอะวันนี้จะเป็นวันสุดท้ายแล้วที่เธอจะต้องพบเจอกับเรื่องประหลาดเหล่านี้ "ที่จริงไม่ต้องมารับก็ได้นะคะ" "ไม่ได้หรอกครับถ้ากลับดึกผมจะได้มาส่ง" "เกรงใจคุณกฤษณ์น่ะค่ะที่จริงรถที่บ้านก็มี" "อย่าเกรงจงเกรงใจอะไรครับคนบ้านใกล้เรือนเคียงกันทั้งนั้น อีกอย่างยัยรักก็มารบกวนคุณเพลงพิณตั้งนานน่าจะเป็นผมต่างหากที่ต้องพูดคำว่าเกรงใจ" คนพูดเอ่ยด้วยรอยยิ้มหวานก่อนจะเปิดประตูรถให้เจ้าของไร่คนสวยได้เข้าไปนั่ง แต่! เหมือนจะผิดคิวไปหน่อยคนที่เข้ามาจึงเป็นชายหนุ่มหน้าคุ้นที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ "นี่แก เอ่อคุณทำอะไรเนี่ย!" "ขึ้นรถไงครับเห็นคุณเพลงบอกว่าเราจะไปกินข้าวด้วยกัน" ปลัดทศนาถเปิดยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินไปนั่งในตำแหน่งข้างคนขับให้ที่ตั้งใจเป็นสารถีได้มองเขม่นหากแต่ก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้มากกว่านั้น "ไปสิครับหิวแล้วรออะไร" ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ! หากไม่ติดว่าคุณเพลงพิณอยู่ด้วยละก็คงได้มีการออกแรงกันบ้างแหละ ธณิกามองคนที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มกว้างก่อนจะหุบลงเพราะใครบางคนที่เห็นหน้ากันมาสามวันติดและดูท่าจะถูกพ่อของเธอหมายหัวเอาไว้แล้วด้วยดูได้จากดวงตาคู่โหดที่จ้องมอง หากดวงตาของบิดาเปล่งแสงออกมาได้บ้านหลังนี้คงได้วอดวายจนหมดแน่ๆ บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารดูคึกคักเพราะชายหนุ่มทั้งสองต่างแย่งกันเอาใจหญิงสาวสวยประคบประหงมดูแลยิ่งกว่าเจ้าหญิงเห็นแล้วก็ให้นึก...อึดอัดแทน ธณิกาแอบลอบมองคนถูกเอาใจที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเห็นแล้วก็ให้นึกสงสารหากแต่เวลานี้ใครจะรามือกันล่ะในเมื่อมันคือการเก็บเกี่ยวคะแนนสำหรับชัยชนะ "คุณเพลงลองทานเนื้อจานนี้สิครับผมว่ามันเข้ากันกับไวน์แดงมากๆ เลย? เจ้าของบ้านเอ่ยแนะนำพร้อมกับหั่นชิ้นเนื้อวางในจานของแขกคนพิเศษแต่แล้วก็ให้เกิดความรู้สึกขัดใจเมื่อเนื้อชิ้นนั้นถูกคนที่นั่งข้างกายหญิงสาวโฉกไปต่อหน้าต่อตา "นี่คุณมีมารยาทหน่อยสิครับผมหันให้คุณเพลงพิณนะไม่ได้ให้คุณ? "ใจเย็นๆ สิครับโมโหเป็นวัยรุ่นไปได้? คำพูดแหนบแนมดังขึ้นให้เจ้าของบ้านถึงกับชักสีหน้าใส่หากไม่เห็นว่าผู้ชายคนนี้เป็นแขกของเพลงพิณแล้วหละก็เค้าคงซัดให้หน้าหงายไปแล้ว "คุณเพลงเธอไม่กินเนื้อนะครับผมก็เลยเอามากินแทนจะได้ไม่เสียน้ำใจอีกอย่างดูท่าเนื้อจะแก่แล้ว เคี้ยวยากครับไม่เหมาะกับคนสวยๆ? "นี่คุณ!? คนพูดเปิดยิ้มน้อยๆ ก่อนจะจัดการยัดเนื้อที่ว่าแก่และเหนียวเข้าปาก ท่าทางยียวน กวนประสาททำเอาคนรู้ตัวว่าถูกพูดกระทบกำมือเสียแน่นให้คนกลางได้นึกลำบากใจก่อนจะหันไปสะกิดคนพูดมากเพื่อหวังให้เพลาๆ ลงบ้าง "อาหารที่นี่อร่อยดีนะคะแม่ครัวทำอร่อยกว่าที่ไร่ฉันเสียอีก? เพลงพิณรีบเปลี่ยนเรื่องเพื่อหวังให้บรรยากาศอึมครึ้มลดน้อยลงหากแต่ดูเหมือนในตอนนี้คนสองคนคงจะไม่ได้สนใจเธอมากไปกว่าการฟาดฟันกันด้วยสายตาและแล้วช่วงเวลาแห่งการแข่งขันดวลไวน์ก็เกิดขึ้นให้รู้สึกเป็นกังวลหากแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่าการนั่งมอง อยากทำอะไรก็ทำเธอไม่ขอยุ่งด้วยแล้ว!
ธณิกามองคนสองคนที่เปลี่ยนเป้าหมายจากหญิงสาวสวยมาเป็นขวดไวน์อย่างขำๆ แต่เมื่อนึกย้อนถึงตอนที่ใครคนพูดจาเปรียบบิดาของเธอกับเนื้อในจานก็ทำให้นึกขำจนแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสียง หากแต่ถ้าทำแบบนั้นคาดว่าคนที่จะถูกไล่ออกจากบ้านเป็นคนแรกก็คงจะเป็นตัวเองนี่แหละ "เราไปเดินเล่นกันมั้ยคะ? เมื่อหันไปเห็นสีหน้าเซ็งๆ ของใครบางคนธณิกาก็เอ่ยชวนด้วยความหวังดีเธอพอจะดูออกว่ามื้ออาหารวันนี้เพลงพิณไม่มีความสุขสักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะสถานที่ ตัวบุคคลหรือจะเป็นที่อาหารกันนะที่มันดูปกติธรรมดาไม่แปลกประหลาดเหมือนไร่ของเจ้าหล่อน "จะดีเหรอคะแล้วสองคนนี้? "ปล่อยไว้นี่แหละค่ะ? ธณิกาพูดจบก็ลุกมาดึงตัวคนที่ยังลังเลให้ลุกตามมา ดูสิขนาดเธอฉุดตัวคนสำคัญของโต๊ะมาคนสองคนที่เอาแต่ดวลไวน์กันยังไม่หันมาสนใจ ให้มันได้แบบนี้สิ! ดี ดีจริงๆ การได้ออกมาสูดอากาศข้างนอกทำให้เพลงพิณรู้สึกสบายตัวและสบายใจมากขึ้นความจริงข้างในบ้านก็ไม่ได้ทำให้อึดอัดอะไรมากแต่ถ้าเลือกได้เธอก็ไม่ขออยู่ในบรรยากาศแบบนั้นจะดีกว่า "วันนี้ดาวสวยนะคะ? เพลงพิณเอ่ยขึ้นเมื่อเงยหน้าขึ้นไปแล้วพบว่าท้องฟ้าเปิดสว่างไสวด้วยดวงดาวมากมาย ใช่ว่าที่ไร่ของเธอจะมองไม่เห็นแต่แปลกที่เธอคิดว่ามุมมองในตอนนี้มันสวยกว่าที่เคยเห็นมา "สวยค่ะแต่ก็สู้คุณเพลงพิณไม่ได้? ประโยคสวนกลับทำเอาคนอารมณ์เริ่มดีถึงกันพ่นลมหายใจออกมาดวงตาคู่ดุตวัดไปจ้องคนพูดเกินให้มีสีหน้าเจื่อนลง "ขอโทษค่ะ? ธณิกาเอ่ยเสียงอ่อยความจริงเธอก็ไม่ตั้งใจจะพูดหยอดคำหวานอะไรหรอกเพียงแต่เห็นบรรยากาศดีๆ เลยพานให้นึกไปถึงละครเรื่องเมื่อคืนที่ได้ดู หากแต่เท่าที่ได้เห็นสายตาของคนข้างๆ ที่ใช้มองกันก็ทำให้รู้แล้วว่ามันไม่เข้าท่าเอาเสียเลย ไม่รู้ว่าในละครนางเอกหลงเคลิ้มไปกับคำพูดนี้ได้อย่างไรหรือเป็นเพราะเธอเป็นคนเอ่ยมันออกมาหากเป็นหนึ่งในสองคนที่อยู่ในบ้านเพลงพิณอาจจะหลงใหลเคลิบเคลิ้มก็เป็นได้ นั่นสินะเพราะเป็นเธอคำหวานหูถึงได้เฝื่อนไม่ละมูน ธณิการู้สึกเศร้ากับความคิดนี้ไม่น้อยหากเพียงแต่แค่ชั่วครู่เท่านั้นทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อมานึกๆ แล้วก็คิดได้ว่าตัวเองไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนข้างๆ เลย เธอก็แค่กามเทพเป็นคนแผลงศรรักไม่ใช่เจ้าของศรเสียหน่อย จะต้องมารู้สึกเศร้าไปทำไมกัน?
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|