web stats

ข่าว

 


Cheating On You - บทที่ 2 Mad At You

โพสต์โดย: anhann วันที่: 02 พฤศจิกายน 2019 เวลา 22:09:39 อ่าน: 530



บทที่ 2 Mad At You






เลตันมีรถออดี้สีดำอยู่คันหนึ่ง  จอดไว้ในลานจอดเฉยๆ  ชอบนั่งรถสาธารณะไปทำงานมากกว่า  บางวันก็ขี่จักรยานไป  บอกแล้วว่าเลตันเป็นพวกบ้าออกกำลังกายและรักษ์สิ่งแวดล้อมสุดๆ  ไม่ใช่คนใช้เงินฟุ่มเฟือย  ยกเว้น  เวลาเทเงินไปกับของเล่นซุปเปอร์ฮีโรพวกนั้น  พอกับเธอที่บ้าหนังสือขนาดหนักจนในห้องมีแต่หนังสือ  เลตันบอกว่าถ้าแผ่นดินไหวขึ้นมา  มันคงจะล้มทับเธอตาย  เธอก็ย้อนไปว่าของเล่นของเลตันก็เหมือนกัน  ระวังตรีศูลของอวาแมนจะทิ่มก้นเอาเหอะ

แต่วันนี้เลตันยอมขับรถมา  เรามาซื้อของสดเข้าบ้านกัน  เลตันต้องทำมื้อเช้าทุกวัน  ถ้าไม่มีของสดก็จะไม่มีอะไรทำกิน  เธอเคยถามว่าทำไมไม่กินที่โรงอาหารสปอร์ตคลับ  เขาเปิดขายแต่เช้า  หรือแวะซื้อระหว่างทางก็ได้  เลตันก็ตอบง่ายๆ ว่า  "ก็อยากทำ"  จากนั้นเม็กก็เลิกเซ้าซี้เจ้าของบ้านอีก

เลตันเหมือนไม่ได้เอาแต่ใจเท่าไหร่  แต่ก็เอาแต่ใจนั่นแหละ

"เธอไม่เห็นจะกินอาหารสุขภาพตรงไหนเลย"  เม็กพูดขึ้นขณะเลตันหยิบกล่องไอศกรีมมาพิจารณา  "หรือเธอสอนคนอื่นได้  แต่ทำเองไม่ได้"

"ฉันไม่อยากเครียดกับตัวเองมากไป"  เลตันตอบ  ยัดกล่องไอศกรีมกลับเข้าที่  "เดี๋ยวค่อยมาหยิบเป็นอันสุดท้าย  จะละลายซะหมด"

เม็กเห็นด้วย  เพราะเรายังไม่ได้ของที่ต้องซื้อกันเลย

"นี่  ถ้าเธอไม่ชอบของที่ฉันทำให้กินตอนเช้า  เธอบอกฉันได้นะ" 

อยู่ๆ เลตันก็พูดขึ้นมาระหว่างหยิบกล่องซีเรียลแทนเม็กที่เอื้อมมือไม่ถึง  เม็กมัวแต่มองหน้าเลตันจึงยังไม่ได้ตอบ 

"เธอไม่จำเป็นต้องทนกินมันหรอก"

"ฉันไม่ได้ทนกินมันสักหน่อย  ฉันชอบ  โดยเฉพาะแซนด์วิชหมูย่าง  เธอทำอร่อยยังกับเชฟแน่ะ  ไว้ว่างๆ สอนฉันบ้างสิ" 

"พูดเอาใจกันเหรอ  ตัวเล็ก"  เลตันพูดล้อๆ  เม็กอ้าปากจะเถียง  แต่พอแขนยาวมาโอบไหล่ดึงเธอเข้าไปหาตัว  รัดจนแน่น  เธอก็ได้แต่ร้องแอ้ก

คนบ้านี่แรงเยอะชะมัด

"น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้อยู่ดูตอนเธอกินสักวัน"

"ขอโทษที่ฉันตื่นสาย"  เม็กพูดอย่างรู้สึกผิด  "เอาไว้ฉันจะพยายามตื่นมาให้ทันกินมื้อเช้ากับเธอ  ตกลงไหม"

"อย่าลำบากเลย  ฉันขี้เกียจรอ"  เลตันพูด  สีหน้าเฉยเมย  แต่เม็กสาบานได้ว่าเธอกำลังโดนล้อเลียน  ไอ้คนบ้านี่ชอบแกล้งเธอที่สุด

เม็กเคยคิดนะว่า  ถ้าเลตันเป็นผู้ชาย  คงจะฮอตมาก  ปกติตอนนี้ก็ฮอตอยู่แล้วแหละ  และคงจะมีสาวๆ เดินตามเป็นพรวน  เด็กในคลาสเลตันชอบเลตันกันทุกคน  เวลาสอนเลตันจะขี้เล่น  ปล่อยมุกอยู่เรื่อยๆ เป็นคลาสที่สนุกสนาน  ไม่เหมือนคลาสเธอที่ค่อนข้างจืดชืด  เป็นวิชาการไปเสียหมด  โชคดีที่ยังมีคนมาสมัครเรียนกับเธอ

"เหม่ออีกละ  พักนี้เธอชอบทำเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเลย"  เลตันบ่นอุบ  ดึงกล่องซีเรียลที่เม็กถือค้างไว้  โยนใส่รถเข็นให้  "มัวแต่ฝันเฟื่องถึงหนุ่มๆ อยู่หรือไง  อ้อ  คลาสโยคะมีผู้ชายเรียนด้วยนี่นา  หรือคนที่ให้สบู่เธอจะเป็นหนุ่มๆ ในคลาสเธอเองล่ะ"

"ขอร้องเหอะ  เลตัน  อย่าพูดถึงมัน  ฉันยังขนลุกไม่หายเลย"

"ฉันนึกว่าเธอจะชอบซะอีก"

เม็กกลอกตา  โยกสะโพกชนเลตันที่เซไปนิดหนึ่งก่อนจะล็อกคอเธอจากด้านหลังขณะกำลังพยายามจะหนีตาย  เลตันชอบเล่นแรงๆ  อย่างกับพวกนักมวยปล้ำ  แรกๆ เม็กก็โกรธที่อีกฝ่ายชอบถือวิสาสะทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ได้สนิทกัน  แต่ตอนนี้เธอกลับชอบให้เลตันเล่นด้วย

"คริสต์มาสนี้เธอจะกลับแวนคูเวอร์ไหม"  เลตันถาม  ตาคมเพ่งพินิจบล็อกโคลีราวกับมีเลเซอร์สำรวจเชื้อโรคหรือสารเคมี

"กลับสิ  ฉันกลับทุกปี  เธอล่ะ"

"ฉันไม่มีบ้านให้กลับ  บ้านฉันอยู่ที่นี่  จำได้ไหม" 

เม็กยิ้มแหยๆ  รู้สึกผิดที่จำไม่ได้  เลตันไม่ค่อยพูดถึงครอบครัว  เธอกำลังจะขอโทษ  แต่เลตันโบกไม้โบกมือ

"มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก  ฉันอบไก่งวงกินที่บ้านก็ได้  เธอไม่กินนี่  ใช่ไหมล่ะ  เธอไม่กินไก่  ที่บ้านเธอคงจะทำอาหารเกาหลีใช่ไหม"

"แม่ฉันทำตลอด  ยายก็จะมาด้วยน่ะ" 

"โอ้  วันพบญาติ"

"แล้วญาติเธอล่ะ"  เม็กถาม  หน้าตาเธอคงเต็มไปด้วยความกังวล  เลตันจึงยิ้มให้  เอามือมาโยกหัวเธอเบาๆ  ทำเหมือนอายุมากกว่าเธอ  ทั้งที่เพิ่งจะยี่สิบห้าเท่านั้น 

"พ่อฉันเป็นแคนาเดียน  แม่ฉันเป็นเกาหลี  แต่ตอนนี้ไม่มีใครเหลือสักคน  ฉันอยู่ตัวคนเดียวนี่แหละ  อ้อ  แต่ก็มีพวกญาติอยู่บ้างนะ  ไม่สนิทกันหรอก  ฉันไม่เคยไปบ้านพวกเขาสักที  คิดว่าไม่จำเป็นด้วย"

"เสียใจด้วยนะ"  เม็กอ้อมแอ้ม  เธอรู้สึกผิดกับเลตันจริงๆ ที่ไม่เคยถามเรื่องนี้เลย  แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ใส่ใจอะไรก็ตาม 

"เทศกาลมันก็แค่วันๆ หนึ่งที่เราได้หยุดงานเท่านั้นเอง"  เลตันว่า

"ไปบ้านฉันไหม"  เม็กโพล่งอย่างไม่ทันคิด  บางทีเธออาจคิดแล้ว  สมองเธอคิดและประมวลผลมันก่อนที่เธอจะรู้สึกตัวเอง  ถ้าเลตันถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวในวันคริสต์มาสจะไม่น่าสงสารเกินไปหน่อยหรือ  หรือเธอจะคิดมากไป  เลตันอาจมีแพลนจะออกไปข้างนอกกับใครในวันนั้นก็ได้  ไม่จำเป็นที่เลตันจะต้องรายงานเธอทุกอย่างนี่นา

เลตันออกจะฮอตขนาดนี้  สองปีที่แล้วเธอก็ไม่เคยสนสักหน่อยว่า  เลตันจะอยู่ยังไง  หรือไปเที่ยวกับใคร  เพราะเธอไม่กล้าพอจะถาม  และชอบเดาเอาเองว่าเลตันคงจะไปกับครอบครัว  เธอไม่เคยรู้ว่าเลตันไม่มีใครแล้ว

"ถ้าเธอไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะ  เธอคงไม่ชอบอาหารเกาหลีหรอก  รสชาติมันคงแปลกๆ สำหรับคนที่กินอาหารตะวันตกมาทั้งชีวิตแบบเธอ"

"ตอนมอมมี่ฉันยังอยู่  ท่านทำให้กินประจำ"

เม็กมองหน้าเลตัน  เห็นรอยยิ้มเศร้าๆ แค่วูบเดียว  แล้วมันก็เปลี่ยน  เลตันยิ้มแฉ่ง  ดึงเธอเข้าไปกอดอย่างดีใจ  และยังพูดแต่ว่า...

"ตัวเล็กของฉันใจดีสุดๆ"  พูดย้ำอยู่นั่นแหละ  จนเม็กเขิน  ต้องดันตัวเลตันออกไป  คนในห้างมองกันใหญ่  บางคนก็ทำท่าขำด้วย  พวกเขาจะคิดว่าเราเป็นอะไรกันหรือเปล่า

"เลตัน  ฉันอึดอัด"

"โอ้  โทษที"  เลตันปล่อยตัวเม็ก  เกาหัวแก้เก้อ  แก้มแดงเรื่อ  แล้วเดินไปเลือกของต่อ  เม็กมองอาการนั้นแล้วขำกึ่งสงสัย  ปกติเพื่อนผู้หญิงเขาทำแบบนี้กันหรือเปล่านะ 

เธอไปอยู่ที่ไหนมา  เม็ก  ทำไมเธอถึงไม่เข้าใจว่าเพื่อนมันแตกต่างจากคนที่ชอบกันตรงไหน  เธอเกิดมายี่สิบเจ็ดปีแล้ว  ยี่สิบเจ็ดไม่ใช่สิบเจ็ด  ยี่สิบเจ็ดปีที่ไม่เคยมีแฟนเลยสักคน

แหงละ  เธอจะมีแฟนได้ยังไง  ในเมื่อเธอไม่เคยชอบผู้ชาย

เม็กถอนใจ  เธอไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับใคร  ไม่กล้าจะไปปรึกษาใคร  พ่อแม่ไม่ต้องพูดถึง  บางทีพวกท่านอาจจะรู้แล้วก็ได้  ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รู้หรอกว่าลูกตัวเองเป็นยังไง  นอกจากจะไม่ยอมรับ  ตั้งแต่เด็กมาแล้ว  ที่เธอไม่กล้าพูดมัน  ยิ่งโตมันยิ่งยาก  แม้แต่กับรูมเมทคนเก่า  โดยเฉพาะรูมเมทคนเก่าเลยแหละ  เพราะเธอเคยแอบชอบเพื่อนมาก่อน  ถ้าพูดออกไปก็ต้องมีพิรุธ  และเจ็มมาก็ต้องรู้ว่าเธอคิดไม่ซื่อด้วย  ดังนั้น  เธอจึงบอกเลตันไม่ได้เช่นกัน  ถึงเธอจะไม่คิดว่าตัวเองจะชอบเลตันแบบนั้นก็ตาม  เธอกลัวเลตันจะรังเกียจ  แล้วไม่เล่นกับเธออีก  เผลอๆ จะไล่เธอออกจากบ้านด้วย

ถ้าวันหนึ่งเลตันมีแฟน  ชีวิตเราสองคนจะเป็นยังไงต่อไป  พวกเขาคงจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน  แล้วเธอก็คงจะเป็นส่วนเกินเหมือนที่เคยเป็นตอนกับเจ็มม่า   

ช่างเถอะ  ถึงตอนนั้นเธอก็คงอยู่คนเดียวได้แล้วแหละ  เหงาหน่อยก็ช่างมัน  ยังไงเธอก็ไม่คิดจะกลับไปอยู่กับพ่อแม่หรอก  ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ

"หวัดดี"

เม็กเงยหน้าขึ้นอัตโนมัติเหมือนรู้ว่าคนที่ทักเธอจะต้องสูงกว่าเธอทุกคน  แต่กับคนนี้ก็ใช่จริงๆ  ซาซ่าสูงกว่าเลตันด้วยซ้ำ

"หวัดดี"  เธอทักตอบ  แปลกใจเหมือนกันที่เห็นซาซ่าที่นี่  เมื่อเช้ายังให้เลตันไปคุมคลาสว่ายน้ำแทนเลยนี่นา  แต่นี่มันเย็นแล้ว  แองจีบอกว่าซาซ่ามีสอบช่วงเช้า

"ฉันมาซื้อของกับพี่สาว"  ซาซ่าเล่า  ใช้นิ้วหัวแม่มือชี้ไปด้านหลังที่มีผู้หญิงเอเชียหน้าตาดียืนอยู่ข้างรถเข็น  รูปร่างสูงเพรียวเหมือนซาซ่า  แต่ไม่สูงเท่า  และหน้าตาก็ดูอ่อนหวานกว่าซาซ่าด้วย

"เธอมากับใคร  อ้อ  ไม่น่าถาม"

เม็กมองตามซาซ่าไปก็เจอเลตันมองเราอยู่ด้วยหน้าตาไม่พอใจ

"เขาหวงเธอ  ฉันชอบจริงๆ  เวลาเห็นเขาหวงเธอ"  ซาซ่าพูดกึ่งขำ

"เขาไม่ได้หวงฉันสักหน่อย  เขาแค่ไม่พอใจที่เธอให้เขาสอนแทนเมื่อเช้า"  เม็กแก้ตัว  ที่จริงเธอไม่รู้หรอกว่าเลตันเป็นอะไรไป

"งั้นเหรอ  ถ้าเป็นงั้นทำไมเขาไม่บอกแองจีล่ะ"  ซาซ่าถาม  ท่าทางท้าทายจะให้เม็กตอบโต้ให้ได้

"เอ่อ  ก็เพราะเขาขัดคุณแองจีไม่ได้"

"งั้นเหรอ"

เม็กพยักหน้า  ไม่รู้ว่าหน้าตาเธอซื่อบื้อไปหรือเปล่า  ซาซ่าจึงอมยิ้ม

"เธอรู้อะไรบ้าง  เกี่ยวกับรูมเมทของเธอ  เม็ก"

คำถามนี้เหมือนจี้ใจดำเธอเข้าอย่างจัง  เม็กเพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้เองว่า  พ่อแม่เลตันไม่อยู่แล้วทั้งคู่  และทุกปีรูมเมทของเธอต้องฉลองคริสต์มาสตามลำพังกับไก่งวงระหว่างที่เธอไปช่วยแม่ทำอาหารต้อนรับแขกและกินอาหารเกาหลีฝีมือแม่อยู่แวนคูเวอร์  เต้นรำกับพ่อที่ตัวโตเป็นหมี

"เธอรู้หรือเปล่าว่า  เขากับแองจีน่ะ --"

"เม็ก  เธออยากได้อะไรอีกไหม"  เลตันแทรกขึ้นก่อนที่ซาซ่าจะทันได้พูดจบ  เม็กเสียดายที่ไม่ได้ฟังมัน  และดูเหมือนซาซ่าจะไม่พูดแล้วด้วย

"งั้นฉันไปก่อนละ  เจอกันที่สปอร์ตคลับนะ"  ซาซ่าบอก  แตะไหล่เม็กแบบคนสนิทสนมกัน  และเม็กบอกได้เลยว่าเลตันไม่ชอบมัน  ดูเหมือนซาซ่าจะพูดถูก  เลตันหวงเธอ  แล้วเธอควรจะดีใจไหมนะ

เพราะเลตันไม่มีพ่อแม่แล้วหรือเปล่า  เลตันจึงติดเธอแบบนี้  แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดอะไรเลย  เธอชอบให้เลตันนอนหนุนตักเวลาดูทีวีด้วยกัน  ชอบอ่านโน้ตของเลตันที่แปะไว้บนตู้เย็นตอนเช้า  ถึงมันจะบอกเรื่องเดิมๆ ว่าเจ้าตัวออกไปทำงานแล้ว  และทำของกินเอาไว้ให้  เปิดดูเอาเอง  ชอบที่ได้มาซื้อของเข้าบ้านด้วยกันแบบนี้ด้วย  ตกลงใครติดใครกันแน่นะ

เลตันวาดแขนโอบไหล่เธอขณะมือข้างหนึ่งเข็นรถไปด้วย  เม็กชินกับเรื่องนี้  เพราะเลตันโอบไหล่กอดคอเธอประจำ  แต่พอเธอหันกลับไปหาซาซ่าที่ยังยืนเตร่ช่วยพี่สาวเลือกของอยู่ที่เดิม  ผู้หญิงตัวสูงคนนั้นกลับทำท่าเหมือนกำลังแซวเธอกับเลตัน  อะไรกัน  เราไม่ใช่หนุ่มกับสาวสักหน่อย

"ถ้ายายนั่นพูดอะไรกับเธอ  อย่าไปฟังนะ"

เม็กเงยหน้ามองเลตัน  สีหน้าคนตัวสูงกว่าจริงจัง  แลดูน่ากลัว

"หล่อนเกลียดฉัน  หล่อนอาจจะทำไม่ดีกับเธอก็ได้"  เลตันอธิบาย  กลัวว่าเม็กจะไม่เชื่อ  "ฉันขอโทษ  ถ้าเธอคิดว่ามันงี่เง่า"

"ฉันเปล่า  ฉันแค่สงสัยว่าทำไมซาซ่าจะต้องไม่ชอบเธอด้วย  เธอกับเขารู้จักกันมาก่อนฉัน  ไม่ใช่เหรอ"

"ใช่  เพราะงั้นฉันถึงเตือนเธอไง"

เม็กขมวดคิ้ว  ไม่เข้าใจอยู่ดี 

"เอาเถอะ  แล้วแต่เธอละกัน  เธอมีสิทธิ์จะเลือกคบเพื่อน  ไม่ใช่เด็กแล้วนี่นะ  ฉันก็แค่เป็นห่วง"  เลตันพูด  ยกแขนออกจากไหล่เม็กและเดินไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์  เม็กต้องรีบจ้ำตามหลังคนขายาวกว่า  ไม่อย่างนั้นเลตันจะจ่ายหมดทุกอย่าง  ไม่ให้เธอหารด้วย

.......................................

รุ่งเช้าเม็กพยายามตื่นให้ทันเลตัน  อยากช่วยทำอาหารเช้า  เธอซื้อของที่อยากกินมาหลายอย่าง  ถ้าจะให้เลตันทำทุกอย่างก็คงจะเอาเปรียบกันเกินไป  เธอตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้  จำได้ด้วยว่ามันปลุก  และเธอกระแทกปิดมันไปเอง  แล้วเธอก็ตื่นเวลาเดิมเหมือนทุกวัน

ฉันเอง ตัวเล็ก!  ฉันได้ยินเสียงนาฬิกาปลุกเธอดัง  แต่แป๊บเดียวมันก็เงียบไป  ฉันไม่รู้ว่าเธอตั้งใจจะทำอะไร  โทษทีที่ไม่ได้เข้าไปปลุก  ฉันต้องรีบไป  ยายซาซ่าโดดอีกแล้ว  อ้อ  ในตู้เย็นมีของกิน  เอาออกมาอุ่นซะล่ะ

เม็กยิ้มระหว่างอ่านโน้ตที่เลตันแปะไว้บนตู้เย็น  เธอวางกระดาษแผ่นน้อยไว้บนโต๊ะ  พอกลับห้องเธอก็จะเก็บมันเอากลับไปด้วย  เธอไม่เคยทิ้งโน้ตของเลตันสักแผ่น  ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม  ลายมือเลตันคงน่ารักดี

มันแปลกตรงที่สมัยนี้ไม่ค่อยมีใครเขียนโน้ตใส่กระดาษถึงกันแล้ว  ผู้คนชอบส่งข้อความถึงกันทางโทรศัพท์มากกว่า  มันรวดเร็วกว่าและตอบโต้กันได้ทันที  ขณะเดียวกันมันก็ดูฉาบฉวย  หมดความสวยงามน่าประทับใจ

มันไม่ใช่จดหมายรัก  แต่เป็นเรื่องน่ารักที่มีใครสักคนใส่ใจเธอพอจะทำเรื่องแบบนี้ให้  เขียนมันลงในกระดาษด้วยลายมือตัวเอง

เธอช่างเป็นผู้หญิงเพ้อฝันจริงๆ เลย  เม็ก

เม็กเปิดตู้เย็นและเจอกล่องทัปเปอร์แวร์ที่ใส่อาหารเช้าไว้  กล่องที่เธอจะล้างทำความสะอาดมันไว้ประจำหลังจากกินเสร็จ  เลตันจะไม่บอกว่า  อาหารเช้าคืออะไร  ในโน้ตที่แปะไว้บนตู้เย็น  มันเป็นเซอร์ไพรส์  อยากให้เธอลุ้นเอาเอง  เป็นเรื่องน่ารักอีกอย่างของรูมเมทคนนี้ของเธอ

สโมก  มีต  แซนด์วิชอยู่ในห่อฟอยล์อย่างดี  เป็นอาหารไม่เฮลท์ตี้เลยสักนิด  เพราะมันมีทั้งเบค่อน  ไข่ดาวและชีส  ดีหน่อยที่ยังมีผักกาดหอมกับมะเขือเทศอยู่ด้วย  แต่ตอนเอาใส่ไมโครเวฟอุ่น  เธอต้องเอามันออกก่อน  ไม่อย่างนั้นมันคงเละ  ไม่สดและสวยแบบนี้

เม็กกินมื้อเช้าของเลตันระหว่างดูทีวีไปด้วยเหมือนทุกวัน  รายการไม่ได้น่าดูนัก  แค่เปิดไว้เป็นเพื่อนเฉยๆ  อพาร์ตเมนต์นี้กว้างเกินกว่าจะอยู่ตามลำพังแล้วไม่เหงา  เลตันคงหาเพื่อนมาอยู่ด้วยเพราะแบบนี้

ระหว่างดูทีวีที่เหมือนไม่ได้ดู  เม็กตัดสินใจจะทำแซนด์วิชใส่กล่องไปกินกลางวันกับเลตัน  ตอบแทนอาหารเช้าอร่อยๆ ที่เลตันทำให้กินทุกเช้า  เธออยากจะทำอาหารเกาหลีให้เลตันแบบที่ตอนแม่ของเลตันทำให้  เสียดายที่เธอคิดช้าเกินไป  ในครัวไม่มีของทำ  จึงต้องทำแซนด์วิชง่ายๆ ไปแทน

ถ้าเลตันไม่กิน  เธอก็แค่กินเอง  ไม่เห็นจะยาก  เม็กคิด  แล้วเริ่มลงมือทำ  ฟิลลี  ชีสสเต็ก  แซนด์วิช (สเต็กแซนด์วิชที่นิยมกันในฟิลาเดเฟีย) เธอเคยกินมันอยู่สองหรือสามหนตอนไปเที่ยวอเมริกากับพ่อแม่  พ่อติดใจมันมา  เธอจึงมาหัดทำกินที่บ้าน  และมันอร่อยใช้ได้อยู่  อย่างน้อยพ่อก็บอกแบบนั้น  ไม่รู้ว่าเขาแค่เอาใจเธอหรือเปล่า

โชคดีที่เรามีเนื้อวัว  เลตันชอบกินจึงซื้อมาติดไว้ประจำ  เม็กลงมือทำมันอย่างมุ่งมั่นจนเกือบลืมเวลาไปสอน  คลาสของเธอส่วนใหญ่จะเป็นช่วงบ่ายเสมอ  ไม่ได้สอนทั้งวันแบบเลตัน

เธอจัดมันใส่กล่องอย่างประณีตด้วยรอยยิ้มภูมิใจในผลงานตัวเอง  รู้สึกเหมือนกลับเป็นเด็กสาวอีกครั้ง  ราวกับทำเบนโตะไปฝากแฟน  ยกเว้น  เลตันไม่ใช่แฟนเธอ  และเธอไม่ใช่เด็กสาวญี่ปุ่น 

เม็กไปถึงที่ทำงาน  ยิ้มให้เพจที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์แบบคนรู้จักกัน  รายนั้นก็ยิ้มตอบ  ทำท่าเหมือนจะพูดอะไร  แต่มีพนักงานคนอื่นมาขัดเสียก่อน  เห็นว่าคงไม่ใช่เรื่องสำคัญ  เธอจึงเดินเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  วันนี้ไม่มีอะไรห้อยไว้ตรงล็อกเกอร์  เม็กเกือบจะโล่งใจได้แล้ว  ถ้าไม่เปิดล็อกเกอร์ออกมาแล้วเจอซองจดหมาย  จ่าหน้าซองถึงเธอ

มันไม่ได้ถูกเขียนด้วยลายมือ  เธอจึงเดาไม่ออกว่าเป็นใครในนี้  แต่ก็ใช่ว่าเธอจะรู้จักลายมือทุกคนในสปอร์ตคลับ  เม็กมองไปรอบๆ ตัว  สาวๆ คนอื่นในห้องไม่มีใครมองเธอ 

Life without love is like a tree without blossoms or fruit.
ชีวิตที่ปราศจากความรัก ก็เหมือนกับต้นไม้ที่ไม่มีดอก

เม็กผงะเมื่อได้อ่านข้อความในกระดาษที่อยู่ในซอง  แต่เธอก็อ่านต่อไปด้วยความอยากรู้  และไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนทำแบบนี้  เธอคิดว่าใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้  จะต้องจิตไม่ปกติแน่ๆ 

Sometimes I can't see myself when I'm with you. I can only just see you.
บางครั้งฉันมองไม่เห็นตัวเองเวลาที่อยู่กับคุณ เพราะว่าฉันมองเห็นแต่คุณเพียงคนเดียว

"Come live in my heart  and pay no rent. (เข้ามาอยู่ในหัวใจฉันสิ  ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเช่าเลย)"  เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆ  เม็กเงยหน้าขึ้นมองจึงเห็นซาซ่ายืนเบะปากอยู่  ไหนเลตันบอกว่าซาซ่าโดดงานไง

"ใครส่งข้อความแบบนี้มาเนี่ย  โคตรเสี่ยว  เธออย่าได้ไปหลงกลเชียวนะ  เม็ก"  ซาซ่าพูดต่อ  ฉกกระดาษในมือเม็กไปอ่านต่ออย่างถือวิสาสะ  เม็กอับอายที่คนทั้งห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ยินมันและต่างหัวเราะคิกคัก

"เฮ้  เธอทำอะไรน่ะ"  เลตันเข้ามาในห้องพอดี  รั้งตัวเม็กไปยืนข้างๆ ตัวเองแทน  มองสาวตัวเล็กกับตัวสูงสลับกัน  สาวๆ ที่หัวเราะคิกคักเงียบกันไปหมดแล้ว  แต่ยังไม่มีใครขยับจะออกไปคล้ายยังดูโชว์ไม่จบ 

"ไม่มีอะไรทำกันเหรอ  พวกเธอ  อยากให้ฉันบอกคุณแองจีไหม"

"แหม  ไม่ต้องเอาเจ้านายมาขู่ก็ได้  เล  ใครๆ ก็รู้ว่าเธอสนิทกับเขา  สนิทกันม๊ากมาก"  ซาซ่าลากเสียง  ยิ้มเยาะสะใจ  แล้วตบมือเสียงดัง  "โชว์จบแล้ว  แยกย้ายกันได้  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหละ  เข้าใจไหม"

สาวๆ คนอื่นออกไปกันหมดแล้ว  เหลือแค่เราสามคน  เม็กไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง  ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับเธออยู่คนเดียว  ใครบางคนเกลียดเธอมากจนต้องแกล้งเธอทุกวันเลยหรือ

"ถ้าเธออยากรู้ว่าใครทำ  ก็เอาจดหมายกับข้าวของพวกนี้ไปพิสูจน์ลายนิ้วมือสิ"  ซาซ่าเสนอ  เป็นความคิดที่ฉลาด  แต่เม็กไม่รู้จักใครที่จะทำเรื่องแบบนั้นให้ได้  เธอจึงเงยหน้ามองเลตันที่อารมณ์ขุ่นมัวจนกรามขบแน่น

"เธอคิดอะไรไม่ออกบ้างหรือไง  แม่คนฉลาด"

เม็กเห็นเลตันถลึงตาใส่ซาซ่าที่พูดแบบนั้นใส่หน้า  เธอต้องเอาตัวไปคั่นกลาง  กลัวสองสาวตัวสูงจะลงไม้ลงมือกัน  และแอบจับมือเลตันไว้

"ฉันจะให้แองจีติดกล้องวงจรปิดในที่ที่ไม่มีใครรู้"  เลตันพูดในที่สุด  ก้มมองเม็กที่เงยหน้าขึ้นยิ้มให้  ขณะที่ซาซ่ากลอกตาอย่างหมั่นไส้

"เราจะได้เห็นว่าใครทำ  ดีไหม"

"หัวใสดีนี่"  ซาซ่าชมเลตัน  แต่เหมือนประชดมากกว่า  "เอาละ  ฉันไปสอนดีกว่า  อ้อ  ขอบใจด้วยนะ  เล  เมื่อเช้า"

"ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอ"  เลตันย้อน  ทำตาแข็งใส่ซาซ่าที่หัวเราะคิกคักแล้วเดินออกไป  เม็กมองตามหลังสาวตัวสูงรองผู้จัดการสปอร์ตคลับ  ยังคงงงกับเหตุการณ์ทั้งหมดพวกนี้ 

"เฮ้  เธอถืออะไรมาด้วย" 

เม็กมองถุงกระดาษที่เลตันฉวยไปจากมือเธอ  และแหวกมันดูอย่างสงสัย  เธอกำลังจะพูด  แต่เสียงประกาศเรียกชื่อเลตันก็ดังขึ้นมาก่อน

"โอ้  โทษที  ฉันต้องไปแล้ว  ไว้คุยกันนะ"  เลตันบอก  ส่งถุงกระดาษคืนให้เม็ก  และก้มลงหอมแก้มเพื่อนสาว  "บางทีฉันอาจไม่ได้มากินมื้อเที่ยงด้วยนะ  ไว้กลับมาแล้วจะไปหาที่ห้องเรียน"

"เธอจะไปไหนเหรอ"

"ธุระกับแองจี  เดี๋ยวจะพูดเรื่องกล้องวงจรปิดให้ด้วย  อยู่ดีๆ นะเม็ก  มีอะไรก็โทรบอกฉัน"

เม็กได้แต่พยักหน้า  มองเลตันสวมแจ็กเก็บทับเสื้อยืด  พาดกระเป๋ากีฬาขึ้นบ่าแล้วเดินออกไป  โบกมือให้เพื่อนที่ยังลังเลอยู่ตรงประตู

"จะรีบกลับมานะ  ตัวเล็ก"

"อื้อ"  เธอตอบกลับอย่างไม่เต็มใจ  ถอนใจเฮือกเมื่อเลตันจากไปแล้ว  ยกถุงกระดาษขึ้นดู  อาหารกลางวันที่ตั้งใจทำมาให้เลตันกลายเป็นหมันไปเสียแล้ว  เธอจะต้องกินมันคนเดียวจริงๆ หรือ  มันเยอะมากเลยนะ

"กินคนเดียวก็ได้  ชิ"  เม็กสะบัดเสียง  เคืองเลตันที่ไม่บอกกันก่อน

เพราะตั้งใจจะมากินกลางวันกับเลตัน  เธอจึงเหลือเวลาว่างก่อนที่จะเข้าสอนอีกเป็นชั่วโมง  เม็กเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็จึงถือกล่องอาหารกลางวันออกจากห้องไปด้วย  ตั้งใจจะไปนั่งกินคนเดียวในสวนหย่อม  มันมีม้านั่งสำหรับนั่งเล่นและมีร่มเงาของต้นไม้  เธอเคยซื้อของกินในโรงอาหารมานั่งกินกับเลตันที่นี่  ตอนนี้ต้องมานั่งกินคนเดียวก็เหงานิดหน่อย

"ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ"

เม็กเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงที่ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร  เธอขยับที่ว่างให้เพจได้นั่งด้วยกัน  เห็นอีกฝ่ายถือกล่องนมกับแซนด์วิชห่อเล็กๆ มาด้วย  จึงเข้าใจว่าเพจคงจะเพิ่งได้กินกลางวัน

"ฉันเบื่อคนเยอะ  ตอนเที่ยงโรงอาหารคนเยอะ  ฉันชอบซื้อของมากินแถวๆ นี้  พอดีเห็นคุณนั่งอยู่คนเดียว  ดูเหงาๆ เลยมาทัก  ถ้าฉันรบกวนก็บอกได้นะ  ฉันไปนั่งตรงอื่นก็ได้"  เพจอธิบาย  เม็กส่ายหัวเร็วๆ

"นั่งเถอะค่ะ  ฉันแค่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ น่ะ"  เม็กบอก  ยิ้มแห้งๆ  ยังเคืองเลตันอยู่  ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจจะเบี้ยวนัดกินกลางวันกับตน

"กินแค่นั้นอิ่มเหรอ"  เธอถาม  สังเกตว่าเพจถือของกินมานิดเดียว  เทียบกับขนาดตัวแล้วไม่น่าจะพอ  ประหยัดหรือไงนะ  หรือเบื่ออาหาร

"ของในโรงอาหารฉันกินจนหมดแล้วค่ะ  มันก็อร่อยนะ  แต่มันแบบ... คุณเข้าใจไหมว่า  มันไม่มีอะไรใหม่ๆ เลยน่ะ"

"งั้นกินด้วยกันไหมคะ  ถ้าไม่รังเกียจ"

เพจมองกล่องแซนด์วิชตรงหน้าเม็ก  เลิกคิ้วและยิ้มแห้งๆ

"จะดีเหรอคะ  คุณตั้งใจทำมาให้คนอื่น"

"เขาไม่สนหรอกค่ะ  แต่ถ้าคุณไม่อยากกินส่วนของเขา  ก็กินส่วนของฉันก็ได้  ฉันจะกินส่วนของเขาเอง  ฉันแบ่งไว้แล้วแหละ"  เม็กพูดเร็วจี๋  และหยิบแซนด์วิชยัดใส่มือเพจไปหนึ่งชิ้น  ฉีกยิ้มให้

"เอ่อ..."

"กินเถอะค่ะ  ถ้าคุณไม่กิน  ฉันคงต้องทิ้ง  ฉันกินไม่หมดหรอก"

"งั้นก็ได้ค่ะ"  เพจพูด  ยิ้มอย่างเกรงใจ  กัดแซนด์วิชกินไปหนึ่งคำแล้วนิ่งไป  เม็กตกใจ  คิดว่าตัวเองทำอะไรผิด

"เอ่อ  อย่าบอกนะว่าคุณกินเนื้อไม่ได้  โอ้  ฉันขอโทษค่ะ  เพจ --"

"เปล่าค่ะ  มันแค่อร่อยน่ะ  อร่อยมากๆ" 

เม็กโล่งใจ  มองเพจกินอาหารที่เธอทำด้วยสีหน้าเหมือนมันอร่อยมากจริงๆ  เธอดีใจที่มีคนชอบอาหารของเธอ  กระนั้นวูบหนึ่งเธอก็ยังนึกถึงใครอีกคนที่ควรจะได้กินมันด้วย

"เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"  เพจถาม  เม็กส่ายหน้าให้

"ฉันลืมซื้อน้ำค่ะ  เดี๋ยวมานะ  คุณอย่าเพิ่งไปไหนนะคะเพจ"

"โอเคค่ะ"

เม็กลุกขึ้นจากม้านั่งพร้อมกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์มือถือที่ก้มมองมันจนเกือบจะชนคนที่เดินสวนมา  ไม่มีข้อความอะไรมาจากเลตันเลย  หรือเธอควรจะส่งไปก่อน  เม็กสั่นหัวให้ตัวเอง  เธอติดเลตันมากเกินไปแล้ว

หญิงสาวเก็บโทรศัพท์มือถือยัดเข้ากระเป๋าสะพายใบเล็กที่ใช้เก็บของระหว่างสอนและสะพายไหล่ออกมาด้วย  เธอเดินไปซื้อน้ำในโรงอาหาร  พยายามไม่สนใจมันอีก  อย่างน้อยก็ตลอดเวลาที่นั่งกินแซนด์วิชกับเพจ




......................................


ตัวเล็ก   :02: :61: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

04 พฤศจิกายน 2019 เวลา 06:45:04
จะเอาซาซ่า ชอบผญ. กวนๆ
แสดงความคิดเห็น