web stats

ข่าว

 


Immortals 2 (Sparkle 5) - บทที่ 8 The Way I Am (1)

โพสต์โดย: anhann วันที่: 15 กันยายน 2018 เวลา 22:49:38 อ่าน: 130



บทที่ 8 The Way I Am (1)







เจสสิก้าแทบไม่ได้ฟังเรื่องที่ยุนอาคุยกับเม็บเลย  เธอเบื่อจะฟังพวกเขาเถียงกันเรื่องการรักษาพยาบาลแม่ของเม็บ  ยายของลูกชายเธอที่พวกเธอเพิ่งไปเยี่ยมกลับมา  อาการของท่านมีแต่ทรงกับทรุด  แทบจะอยู่ได้ด้วยเครื่องช่วยหายใจด้วยซ้ำ  แม้จะยังรู้สึกตัวดี  พูดคุยกันได้บ้างก็ตาม 

"ถ้าคุณแม่คุณอายุสักสี่สิบห้าสิบฉันยังพอจะช่วยอะไรได้มากกว่านี้นะคะ  แต่นี่ --"

"แล้วครั้งก่อนคุณช่วยท่านยังไงคะ  เอาไตมาจากไหน"

"คุณไม่อยากรู้หรอก  เม็ทธานีส์"

เอาอีกแล้ว...ถ้ายุนอาพูดแบบนี้แปลว่าไม่ใช่เรื่องที่สมควรจะบอก  หรือถ้าดึงดันอยากรู้ก็คงจะเสียใจทีหลังแน่ๆ  ถ้าเธอเป็นเม็บตอนนี้เธอจะเลิกตอแยยุนอาแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด  แต่เพราะเธอไม่ใช่  และเม็บดื้อจะตาย

"และฉันเชื่อว่าคนที่จบฮาร์วาร์ดมาอย่างคุณจะเข้าใจว่าการผ่าตัดเปลี่ยนไตกับหัวใจมันต่างกันขนาดไหนนะคะ"  ยุนอาพูดเสียงเย็น  เจสสิก้านึกอยากจะลุกไปเดี๋ยวนี้แล้ว  เธออยู่กับยุนอามาจนรู้นิสัย  ลองแบบนี้ไม่มีทางที่ใครจะเถียงชนะได้  แม้แต่เธอหรือตาเมสันพ่อเธอ  คริสตัลหรือ  จบไปตั้งนานแล้ว  ไม่ได้อ้าปากด้วยซ้ำ

"ทบทวนคำแนะนำของฉันซะ  เม็บ"  ยุนอาสรุป  ตบแฟ้มปิดดังปึง

"คุณจะให้ฉันปล่อยให้แม่ตายหรือ"  เม็บพูดอย่างเจ็บปวด  เสียงรั้งยุนอาที่กำลังจะจากไปเอาไว้  คนตัวสูงหันกลับมามองสายตาเย็นชา  แม้แต่เจสสิก้าก็เตรียมตัวจะหนีแล้ว  แต่เม็บยังพูดต่อ  "คุณมียา --"

"ไม่อนุญาตให้ใช้กับมนุษย์"  ยุนอาประกาศ  เสียงเย็นเฉียบเหมือนแท่งน้ำแข็งแทงหูจนปวด  "สิ่งเดียวที่คุณทำได้ตอนนี้  และดีกับทุกคนที่สุด  ดีกับแม่ของคุณที่สุด  คือปล่อยวาง  ปล่อยให้เธอจากไปอย่างสงบ"

"ยุนอา  ได้โปรด..."

"ฉันช่วยทุกอย่างที่ทำได้แล้วค่ะ  ตอนนี้เหลือแค่สองวิธี  ปล่อยเธอ  หรือรั้งเธอไว้ด้วยยาพิษของคุณ  แต่ถ้าคุณจะเลือกวิธีหลัง  ช่วยถามความสมัครใจของแม่คุณด้วยนะคะ  ไม่อย่างนั้นจะเท่ากับว่าคุณฆ่าท่านทั้งเป็น"

เจสสิก้าอยากจะพูดบ้าง  แต่ยุนอาพูดไปหมดแล้ว  คล้ายคลึงกันกับที่เธอเคยคุยกับเม็บแล้วหลายครั้ง  หากภรรยาเธอไม่เคยฟังเธอเลยจนต้องให้ยุนอามาพูดย้ำอีกครั้งแบบนี้

"เอ่อ  คือว่า..."

"คุณช่วยไปที่อื่นก่อนได้ไหม  เจ"  เม็บพูดโดยไม่ได้มองหน้าคนฟัง  เธอมัวแต่ก้มหน้าซ่อนความเสียใจอยู่  ยุนอาส่ายหน้าให้เจสสิก้า  หมดวิธีจะช่วยให้หญิงสาวรู้สึกดีขึ้นได้ 

"โอเค  งั้นฉันไปดูลูกนะ  --  อ้อ  ฉันว่ายุนอาพูดถูกที่สุดแล้ว  คิดให้ดีๆ นะเม็บ  รักมากแค่ไหนสักวันก็ต้องปล่อยมือ  ถ้ามันสุดทางแล้ว"  เธอว่า  แล้วเดินออกจากห้อง  ปล่อยให้ยุนอาพูดกับภรรยาแทน  ที่จริงเธอก็อยากจะปลอบเม็บเอง  ถ้าอีกฝ่ายจะยอมให้เธอเห็นความอ่อนแอง่ายๆ

เจย์เดนก็เป็นแบบนี้  นิสัยเหมือนแม่ไม่มีผิด  เธอจำได้เวลาลูกถูกเพื่อนที่โรงเรียนเก่าแกล้ง  ลูกไม่เคยร้องไห้ให้เธอเห็นเลย  แต่ให้ครูซกับแคลร์คอยปลอบ  แม้แต่ไอรีนก็ยังช่วยให้เขาหัวเราะได้  เขาเหมือนจะกลัวว่าจะทำให้เธอผิดหวังทั้งที่เธอไม่เคยจะพูดหรือทำอะไรให้เขาคิดแบบนั้นเลย  ได้นิสัยแม่มาเต็มๆ  หน้าตาเหมือนกันยังไม่พอ

บนโถงทางเดินภายในบ้าน  เธอได้ยินเสียงพวกเด็กๆ เล่นกันอยู่  เสียงดังมาจากสนามจึงเดินไปดูตรงระเบียง  และเห็นเจย์เดนกำลังเล่นสนุกอยู่กับพี่ๆ น้องๆ ของเขา  เขาเหมือนจะกลายเป็นลูกชายอีกคนของคริสตัลไปแล้ว  เขาอยู่กับคริสกับฝาแฝดมากกว่าอยู่กับเธอเสียอีก  เขาชอบเล่นกับอาคริสมากๆ มาตั้งแต่เด็ก  เธอคิดว่าเพราะพวกเขาเป็นผู้ชายเหมือนกัน  แต่เจ้าคริสก็เป็นขวัญใจเด็กๆ มาแต่ไหนแต่ไร  แทยอนกับยุนอาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  เพราะเจ้าคริสก็เหมือนเด็กตัวยักษ์คนหนึ่งนั่นแหละ

เจ้าพวกตัวแสบ  นำทีมด้วยเจ้าคริสกำลังเล่นเบสบอลกัน  กีฬาประจำของทีมเลยก็ว่าได้  เพราะถ้าพาไปเล่นบาสเกตบอลก็คงยังยัดห่วงกันไม่ถึงโดยเฉพาะเจ้าตัวเล็กแม็กซ์เวลกับไอรีน  แค่ให้ตีลูกเบสบอลยังไม่ค่อยจะโดน  เธอเห็นแล้วก็ขำทุกที  ทั้งตลกและน่ารัก  แต่ท่ามกลางความสนุกและน่าขำตรงหน้า  เธอกลับเห็นอะไรที่แปลกออกไปอีกอย่าง  ตรงชิงช้าข้างจุดที่พวกเด็กๆ กับคริสตัลเล่นกันอยู่  มีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งอยู่ตามลำพัง 

"แคลร์นี่ไม่ได้เรื่องจริงๆ  เอาเขามาแล้วก็ให้เขานั่งเหงาอยู่แบบนั้น"

เสียงยุนอาดึงให้เธอหันไปมอง  ไม่เห็นท่าทางหงุดหงิดแบบนี้อาจแปลได้ว่า  เรื่องจบได้ด้วยดี  ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่อยากจะฟัง  ขอพักสมองจากเรื่องปวดหัวนั่นก่อนจะดีกว่า

"เด็กฝูงเมอร์ราดหรือ"  เธอถาม  ยุนอาพยักหน้า  ประกายตาไม่น่าไว้ใจ  "คิดจะทำอะไรเด็กมัน  ยุนอา  ห้ามทำอะไรบ้าๆ นะ  ไม่อนุญาต"

"คุณนี่นะ  จับไปมัดติดกับแทยอนดีไหมเนี่ย"

"อย่าดีกว่า  เดี๋ยวทะเลาะกันตายอีก"  เจสสิก้าพูดแล้วกลอกตา  ชำเลืองมองไปตรงนั้นอีกที  ตอนนี้แคลร์นั่งอยู่ในชิงช้าอีกตัวใกล้พีบีแล้ว

"ต้องอย่างนั้นสิ  แคลร์  ถ้าคิดจะเหมือนพ่อก็ต้องเข้าใจคุยกับสาวๆ ด้วยนะ"  ยุนอาเชียร์ลูก  ท่าทางลุ้นจัด 

"นี่  แคลร์แค่สิบสอง  เธอจะให้แต่งเมียแล้วหรือไง  ยุนอา  และอย่าบอกนะว่าเธอไปรายงานตาเมสันแล้วเรียบร้อย"

"ค่ะ"

เจสสิก้าอ้าปากค้าง  มองยุนอาอย่างเหลือเชื่อ  "โอ๊ย  ตาเมสันเป็นพ่อเธอหรือไง!  ทำไมต้องบอกเขาทุกอย่างด้วย"

"พ่อสามีค่ะ"  ยุนอาตอบหน้าตาเฉย  "และอีกอย่าง  พ่อคุณรู้จักกับพ่อของพีบีค่ะ  เจสซี่"

"อ้อ  โลกแคบเนอะ  ว่าไหม"  เจสสิก้าประชด  แต่ยุนอาก็ไม่สนใจเหมือนเดิม  ยังจะทำท่าภูมิใจซะอีก  "นี่รู้ไหม  ฉันกำลังคิดอะไร  ยุนอา"

"อะไรคะ  อย่าถามเรื่องคุณแม่ของเม็บนะ  ขอพักก่อน"

"ไม่หรอก  ฉันก็จะพักเหมือนกัน"

"งั้นก็โอเคค่ะ  ว่ามาเลย"

"ฉันรู้สึกเหมือนเธอกำลังคัดสายพันธุ์ม้าแข่งอยู่  หรือไม่ก็เป็นพวกผสมพันธุ์หมาขายน่ะ  เลือกสายพันธุ์ที่ดีมาผสมกันและได้เป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เจ๋งกว่าเดิมอะไรทำนองนั้น"

"คุณเข้าใจได้ตรงเป๊ะเลยค่ะ  เจสซี่"  ยุนอาชมเปาะ  ไม่สนว่าคนฟังกำลังทำหน้าอิหลักอิเหลื่อขนาดไหน  "มันเป็นงานของนักวิทยาศาสตร์อย่างฉันอยู่แล้วค่ะ" 

"นั่นลูกเธอนะ  ยุนอา  ไม่ใช่หมาหรือม้าที่ไหน"

"ก็ใช่สิคะ  ลูกฉัน  แคลร์เป็นลูกฉันอยู่แล้ว  เขามีเลือดฉันอยู่ในตัว  เขาดื่มเลือดฉันมาตั้งแต่ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ  แต่ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือใคร  ฉันก็ทำได้ทั้งนั้น  คุณกับคริสก็เคยโดนมาแล้วนี่นา  ลืมไปแล้วเหรอ"

เจสสิก้านิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าปลง  "ใช่สิ  ฉันลืมไป  เจดก็เกิดมาเพราะวิทยาศาสตร์บ้าๆ ของเธอ  เจ้าแม็กซ์ที่กำลังกลิ้งอยู่บนสนามนั่นด้วย"

ยุนอาหัวเราะเบาๆ  ไม่สนใจเสียงประชดของเจ้านายหรือพี่สะใภ้  เธอเท้าแขนกับราวระเบียงปูน  มองดูเด็กๆ เล่นกัน  มองคริสตัลอุ้มแม็กซ์เวลตัวลอยและเอาพาดบ่าวิ่งไปรอบสนาม  ปลอบให้ลูกเลิกร้องไห้  เพราะล้มหน้าทิ่มจับลูกเบสบอลไม่ได้เมื่อกี้  แม็กซ์เวลเลิกร้องไห้แล้วและหัวเราะแทน  ตอนนี้กลายเป็นไอรีนโวยวายให้พ่อปล่อยน้องลง  หวงพ่อที่สุดในโลก

"คุณน่าจะไปเล่นกับเด็กๆ แบบคริสนะคะ"

เจสสิก้าเหลือบมองยุนอา  รู้ว่าที่พูดออกมาแบบนี้มันมีความหมายอะไรสักอย่างแน่นอน  "ฉันไม่เป็นบ้าหรอก  เธอไม่ต้องห่วง  ฉันไม่ได้ขี้เบื่อเหมือนเจ้าคริส"

"ฉันรู้ค่ะ  แต่คุณก็มีเรื่องให้เครียดหลายอย่าง  ทั้งงานทั้งที่บ้าน"

"มันก็ปกติมั้ง"  เธอว่า  เท้าคางมองเด็กๆ เล่นกัน  มองแคลร์จับมือพีบีให้เข้ามาเล่นด้วยกันในสนาม  ฟังเสียงครูซแซวแฝดพี่แล้วโดนแคลร์วิ่งไล่กวดเตะ  เจย์เดนร้องเชียร์พี่แฝด  ไม่รู้เข้าข้างใคร  แต่ไอรีนผลักเจดหัวทิ่มไปแล้วเรียบร้อย  และขณะที่เด็กหญิงหัวเราะท้องแข็งอยู่ก็โดนเจดดึงขาให้ล้มลงมาด้วยกัน  แม็กซ์เวลไปนั่งทับบนหลังพี่สาว  เสียงไอรีนโวยวายดังลั่นจนคริสตัลต้องมาอุ้มเจ้าแม็กซ์ยักษ์ออกไป  ต้องปลอบลูกสาวอีก

"นั่นน่ะ  ปวดหัวมากกว่าอีก"  เจสสิก้าพูดกึ่งหัวเราะ  "คริสมันชอบแบบนี้ไปได้ยังไง  หนวกหูจะตาย  ดูนะ  เดี๋ยวอีกไม่เกินห้านาที  แทยอนต้องออกมาจัดการ"

และแทยอนก็ออกมาจริงๆ  ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ  ยุนอาหัวเราะขำ  พลางส่ายหน้าไปมาให้กับพวกเด็กๆ ที่วิ่งกระจายเหมือนผึ้งแตกรังหนีแม่

"เหงาบ้างไหม  เวลาเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันแบบนี้"  เจสสิก้าถาม  อยากรู้มาตั้งนานแต่ไม่กล้าจะถาม  เธอไม่ค่อยเห็นยุนอาปล่อยให้คริสตัลเดินโอบไหล่  กอดคอแบบนี้เหมือนที่เขาทำกับแทยอน  เธอไม่รู้ว่ายุนอาห้ามเขาทำ  หรือเขาไม่ทำเอง  แต่คิดไว้ว่าน่าจะเป็นอย่างแรกมากกว่า

"ก็เฉยๆ มั้งคะ  ชินแล้ว  ฉันเคยเห็นอะไรที่น่าโมโหกว่านี้มาแล้ว  มันเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรหรอก  และเวลาเขาอยู่กับฉัน  แทยอนก็ต้องยอมรับแบบเดียวกัน  อีกอย่าง  ฉันไม่อยากให้เขามาโอบไหล่  กอดคอฉันเวลาอยู่ข้างนอกด้วย  ฉันไม่ชอบสายตาคนอื่นมอง  ฉันอยากให้มันเป็นเรื่องของเราสองคน  แค่ฉันกับเขารู้ว่าเราเป็นยังไงกันก็พอ"

"เรื่องมากจังเลย  เธอเนี่ย"

"คุณก็ไม่เคยสวีตกับเม็บให้ใครเห็นเหมือนกันแหละค่ะ"

"ฉันไม่ได้หน้าด้านแบบเจ้าคริส  แล้วก็ไม่ได้เรื่องเยอะเหมือนเธอด้วย  พวกฉันไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเรื่องของเราหรอก  จะมีแค่เรื่องนั้นแหละ  ที่เธอรู้น่ะ"  เจสสิก้าพูดพลางกลอกตา  "ฉันเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องน่าเศร้า  แต่ฉันไม่แน่ใจว่าควรรู้สึกยังไงดี  แล้วเขาก็ไม่ชอบให้ฉันปลอบด้วย  ดื้อจะตาย"

"เม็บเป็นคนที่ดูแลคนอื่นมาตลอดค่ะ  คงไม่ค่อยชินที่จะให้ใครมาแสดงความเห็นใจ  ดูแล  ปกป้องเขา"

"คล้ายเธอ" 

ยุนอายิ้มรับ  "แต่ก็อย่างคุณว่า  คริสหน้าด้าน  เขาไม่ค่อยปล่อยให้ฉันได้คิดอะไรเงียบๆ คนเดียวเท่าไหร่  ชอบมากวนใจ  แหย่ให้ทุบให้ตีตลอด  ให้ฉันได้ระบายความเครียด  ให้มาทะเลาะกับเขาแทนจะนั่งคิดฟุ้งซ่าน  และลูกๆ ฉันก็แบบนั้น  มีเรื่องให้คิดได้ทุกวัน  วันละหลายๆ เรื่อง  ไหนจะแทยอนอีกล่ะ  นี่ก็จุ้นจ้านที่สุด  สรุปคือฉันไม่ว่างจะทุกข์เลยค่ะ"

เจสสิก้าไม่รู้จะขำหรือสงสารยุนอาดีแล้ว  แต่เธอก็หัวเราะชอบใจ

"จริงๆ ก็น่าสงสารอยู่นะคะ  เธอเป็นคนที่ค่อนข้างไม่ชอบพึ่งพาใคร  คุณคงจะจำได้ที่สเตฟานี่เคยพูดว่า  พี่สาวของเธอหยิ่งจองหองมาก  นั่นละ  เป็นแบบนั้นเลย"

"แล้วตอนนี้สเตฟานี่ไปไหน"

"น่าจะช่วยทิฟฟานี่คิดเรื่องพาเด็กๆ โรงเรียนเราออกไปทัศนาศึกษาอยู่ค่ะ  ต้องเอามาเสนอที่ประชุมอังคารนี้"

"ไม่ใช่วันจันทร์เหรอ"

"วันหยุดประจำเดือนของโรงเรียนค่ะ"

"ฉันลืมไปเลย"  เจสสิก้าอุทาน  "แบบนี้ก็เลยให้แคลร์ชวนแฟนมาได้สินะ"

"เพื่อนค่ะ  พวกเขาบอกเป็นเพื่อนกัน"

"เพื่อนกันมองตาหวานขนาดนั้นเลย" 

"คุณก็ไปล้อหลานนะคะ  ระวังเถอะ  เจดน่ะ"

"เจดยังเด็กอยู่  ไม่รู้เรื่องอะไรหรอก"

"ค่ะ"  ยุนอาตอบ  และหัวเราะเมื่อเจสสิก้าทำหน้าตึงใส่  "ฉันจะลงไปข้างล่างแล้วนะ  คุณจะไปด้วยหรือเปล่า"

"ไปสิ  ไปเล่นกับเจดดีกว่า"

"นั่นแน่  อาการหวงลูกออกมาแล้ว  พีบีเป็นของแคลร์นะคะ  บอกไว้ก่อน"

"ย่ะ  ฉันไม่แย่งหรอก  ลูกสะใภ้เธอน่ะ  ม้าพันธุ์ดีของเธอ"  เจสสิก้าว่าพลางเบะปากหมั่นไส้  แต่แล้วเธอก็เกือบตกบันไดเพราะคริสตัลวิ่งมาจากไหนไม่รู้  มาลากแขนเธอวิ่งไปด้วย  เธอหันไปมองด้านหลังก็พบเจ้าหมาป่าตัวน้อยสีขาวตัวกลมๆ สองตัววิ่งไล่ตามหลังมา  แม็กซ์เวลกับไอรีนแน่นอน!

......................................   

เอาไปครึ่งนึงก่อนนะเออ

ไม่รู้จะเครียด  หรือจะขำดี  อิอิ   :21: :27: :61: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

16 กันยายน 2018 เวลา 06:47:05
เอาเข้าจริงมันก็เป็นเรื่องปกตินะ ใครจะทุกข์หรือสุขตลอดมันคงไม่มี มันก็ปนๆกันไปแบบนี้แหละ
แสดงความคิดเห็น