ส่องหัวใจเธอให้เจอรัก yuri ตอนที่ 1
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 30 สิงหาคม 2018 เวลา 21:13:12
อ่าน: 221
|
เสียงไซเรนดังระงมให้ได้รู้ถึงเหตุการณ์ร้ายแรงอันเนื่องมาจากเหตุปะทะระหว่างผู้รักษาความยุติธรรมกับกลุ่มคนร้ายที่กระทำการอุกอาจปล้นธนาคารกลางวันแสกๆ แม้จะใช้เวลานานพอสมควรแต่ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถบุกยึดพื้นที่ธนาคารคืนได้และยังสามารถจับตัวคนร้ายได้จนครบแม้จะมีคนได้รับบาดเจ็บบ้างแต่แค่ไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องดีมากที่สุดแล้ว ชิดตะวันรีบรุดไปยังโรงพยาบาลที่ใช้เป็นสถานที่พักฟื้นและรักษาสำหรับผู้ป่วยอาชญากรรมโดยเฉพาะ ความจริงนี่ก็ไม่ใช่หน้าที่ของเธอหรอกแต่เพราะการปรับเปลี่ยนระบบใหม่จึงทำให้ต้องมาทำหน้าที่นี้โดยสมบูรณ์และทันทีที่มาถึงชิดตะวันก็ได้พบกับคนคุ้นหน้าที่ไม่ได้เจอกันมาเกือบเดือน เพราะแบบนี้นี่แหละที่ทำให้เธอไม่อยากเข้ามาเหยียบย่ำในโรงพยาบาลแห่งนี้ "มาด้วยเหรอเรา" เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นทันทีเมื่อหันมาเจอกับคนที่ไม่ยอมกลับบ้านมาเป็นเวลานานแต่เขาก็พอเข้าใจแหละว่าชิดตะวันรู้สึกอย่างไรกับบางเรื่องที่ได้รู้โดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว "ซันมาส่งตัวคนร้ายที่บาดเจ็บน่ะค่ะ" "พี่คิดว่าไม่ใช่หน้าที่เราซะอีก" "เบื้องบนเค้าออกคำสั่งมาน่ะค่ะว่าต่อไปนี้จะต้องช่วยกันทุกฝ่าย" "แบบนี้นี่เองแต่ก็ดีนะพี่ว่า" "ดียังไงคะ" "ก็มันทำให้พี่ได้เห็นหน้าค่าตาน้องสาวตัวเองบ้างนะสิมัวทำแต่งานไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องพ่อกับแม่ก็บ่นคิดถึงทุกวัน" ใบหน้าของคนฟังดูสลดลงให้คนพูดได้นึกสงสารหากแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงไปได้ "ยังติดใจเรื่องนั้นอยู่อีกเหรอ" ชิดตะวันเบี่ยงสายตาหลบไปทางอื่นเพราะความจริงที่ยังติดค้างอยู่ในใจเธอจำวันนั้นได้ดีความรู้สึกราวกับฟ้าถล่มลงมาตรงหน้าเมื่อได้รู้ความจริงว่าตัวเองเป็นคนนอก เป็นเพียงเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ผู้หญิงใจร้ายเอาเธอมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของพ่อแม่อธิปและคนในบ้านก็ใจดีเกินกว่าที่จะปล่อยให้เด็กน้อยอย่างเธออยู่นอกบ้านได้ เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของอธิปได้รับความรักความอบอุ่นจากพวกเขาแต่เพียงเรื่องนี้ถูกเปิดเผยหัวใจที่เคยอบอุ่นกลับเหน็บหนาวราวกลับไม่เคยได้รับความรักจากใครสักคนบนโลกนี้ ชิดตะวันเกลียดผู้หญิงคนนั้นที่ทิ้งเธอไป เกลียดความรักมากมายที่ได้รับเพราะมันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดไปถึงขั้วหัวใจเพียงแค่คิดว่าเด็กกำพร้าอย่างเธอไม่สมควรได้รับมัน และที่ชิดตะวันรู้สึกเกลียดมากที่สุดก็คือ?การเกิดมาของตัวเอง! หากไม่ต้องการกันจะสร้างเธอขึ้นมาบนโลกนี้ทำไม!!! "คุณพ่อคุณแม่แล้วก็พี่คิดถึงเรามากนะ" "ซัน..." ดวงตาคู่สับสนกวัดแกว่งไปมาให้อธิปได้นึกเห็นใจและสงสารตั้งแต่ชิดตะวันรู้เรื่องที่ตัวเองไม่ใช่ลูกของพ่อกับแม่น้องสาวต่างสายเลือดของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน จากที่ยิ้มง่ายก็กลายเป็นคนไม่ค่อยยิ้ม จากที่คุยเก่งก็แทบจะนับคำได้และทันทีที่เรียนจบชิดตะวันก็ตัดสินใจย้ายออกไปอยู่ข้างนอกทันทีโดยอ้างว่าจะได้สะดวกในการไปทำงานแต่ใครๆ ก็มองออกว่าสาเหตุหลักมันไม่ใช่เรื่องนั้นเลยสักนิด "อย่าคิดมากสิตัวเล็กคำว่าครอบครัวหมายถึงเราสี่คนนะจำไม่ได้เหรอ" "..........." "เอาล่ะๆ พี่จะไม่กดดันเราแต่เย็นวันศุกร์ยังไงซันก็ต้องกลับไปทานข้าวที่บ้านให้ได้รู้มั้ย" "มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ" "มีสิสำคัญมากด้วยนะ" อธิปเปิดยิ้มกว้างให้ได้นึกสงสัยดวงตาคู่วาววับทำให้รู้ว่าคนพูดรู้สึกสุขใจแค่ไหนที่ได้เอื้อนเอ่ยมันออกมาเห็นแบบนี้เธอก็พอจะเดาออกว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร "จะพาแฟนเข้าบ้านเหรอคะ" คำพูดรู้ทันยิ่งทำให้อธิปเปิดยิ้มกว้างขึ้นก่อนจะยกมือไปลูบหัวคนอายุน้อยกว่าด้วยความเอ็นดู "แฟนน่ะพาเข้าบ้านตลอดแหละแต่ที่บอกว่าสำคัญเพราะพี่อยากแนะนำให้เค้ารู้จักกับน้องสาวของพี่" "คะ?" "เราเป็นน้องสาวของพี่นะจะไม่ไปทำความรู้จักกับว่าที่พี่สะใภ้หน่อยหรือไง" "จะดีเหรอคะ" ชิดตะวันเอ่ยถามด้วยสีหน้าไม่มั่นใจตั้งแต่ได้รู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาก็ทำให้เธอไม่มั่นใจในความสำคัญของตัวเองแม้จะได้รับความรักและความเอาใจใส่เช่นเดิมแต่ความรู้สึกราวกับคนนอกก็มักจะปรากฏขึ้นเสมอ ยิ่งได้รับความรักมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่สมควรที่จะได้รับมันคนถูกทอดทิ้งอย่างเธอไม่คู่ควรได้รับความรักดีๆ แบบนั้นหรอก "ยังไงก็ต้องมานะไม่งั้นพี่จะไปลากตัวถึงที่ทำงานเลย" "ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวซันไปเอง" "พี่ไม่เชื่อหรอกเสร็จงานแล้วรออยู่ที่นั่นเลยนะพี่จะไปรับเอง" "แต่..." "ไม่มีแต่อะไรทั้งนั่น" อธิปเอ่ยสรุปก่อนจะยกนาฬิกาขึ้นมาดูให้ได้รู้ว่าใกล้เวลาประชุมของตัวเองแล้ว "พี่ต้องเข้าประชุมก่อนมีอะไรเดี๋ยวโทรหานะ" "พี่อธิปคะ..." "ไปล่ะแล้วเจอกันนะน้องสาว" คนพูดเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งความจริงการประชุมก็ไม่ได้เร่งรีบขนาดนั้นแต่เขาไม่อยากที่จะฟังการต่อรองจากคนอายุน้อยกว่าอีกต่างหาก ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาแรงๆ เข้าใจว่าตอนเด็กชิดตะวันก็ไม่ได้ดื้อและใจแข็งขนาดนี้นี่นาแต่ทำไมโตขึ้นถึงได้ทั้งดื้อและพูดยากแบบนี้กันนะ ชิดตะวันมองตามพี่ชายด้วยความหนักใจหลังจากที่ออกมาจากบ้านหลังนั้นเธอก็รู้แล้วว่าคำว่าครอบครัวไม่เหมาะกับตัวเอง ความรักของครอบครัวอธิปที่มอบให้เธอนั้นมากมายก็จริงเพียงแต่แค่คิดถึงเรื่องที่ผู้หญิงใจร้ายทิ้งเธอไว้ท่ามกลางสายฝนความรักที่ได้รับกลับแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดจนไม่อยากที่จะได้รับมันอีก ในค่ำคืนวันฝนตกทำไมเธอถึงไม่ตายๆ ไปเสียให้รู้แล้วรู้รอดกันนะ!
กว่าจะทำตัวให้เป็นปกติได้ชิดตะวันก็ใช้เวลาฟื้นฟูจิตใจอยู่นานหากแต่กำลังจะก้าวเดินเท้าทั้งสองข้างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อสายตาหันไปเห็นความผิดปกติของอะไรบางอย่าง เท้าทั้งสองข้างออกก้าวเดินอีกครั้งก่อนจะหยุดฟังการสนทนาของคนสองคนที่จับใจความได้เพียงว่าคนป่วยกำลังแทะโลมคุณหมอที่ดูถ้าจะหมดความอดทนลงแล้วถึงได้ฟาดฝ่ามือเข้าที่ใบหน้าของคู่สนทนาอย่างเต็มแรงให้ชิดตะวันต้องรีบเข้าไปขวางเพราะดูเหมือนว่าคนถูกตบจะอยากเอาคืนเจ้าของมือเข้าให้เสียแล้ว "หยุดนะคิดจะทำอะไร" ชิดตะวันดึงตัวคุณหมอที่ก่อเรื่องให้มาหลบอยู่ข้างหลังพร้อมกับใช้สายตาคู่คมสะกดคนที่กำลังจะกระโจนมาให้หยุดชะงัก "ผมไม่ได้ทำอะไรนะอยู่ดีๆ คุณหมอนี้ก็มาตบกันเสียได้ผีเข้าหรือไงก็ไม่รู้" "ก็คุณพูดจาแย่ใส่ฉันก่อน" "ไม่จริงผมไม่เคยพูดคุณนั่นแหละอยู่ๆ ก็ผีเข้าเป็นบ้าหรือเปล่านะตบมาเสียแรงเลยเจ็บชะมัด" "สมน้ำหน้าถ้าครั้งหน้ายังกล้ามาพูดจาทุเรศๆ กับฉันอีกล่ะก็นายได้เจอดีกว่านี้แน่" คำขู่ไม่ได้ทำให้คนฟังเกิดความกลัวขึ้นเลยสักนิดหากแต่กลับทำให้เขาเปิดยิ้มและใช้สายตาแทะโลมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสียอีก "นี่ยังจะ..." "เอาล่ะค่ะใจเย็นก่อนนะคะ" "จะให้ใจเย็นได้ยังไงคุณไม่เห็นหรือไงว่าหมอนี่ใช้สายตาแบบไหนมองฉัน" น้ำเสียงเอาแต่ใจดังขึ้นให้ได้รู้ว่าคนพูดโมโหมากแค่ไหนชิดตะวันนึกอ่อนใจกับการเข้ามาเหยียบย่ำในโรงพยาบาลแห่งนี้ครั้งแรกเธอก็ได้เจอเรื่องปวดหัวเข้าให้เสียแล้ว "โอเคค่ะเดี๋ยวฉันจัดการให้" พูดจบก็หันมาทางคนป่วยที่ดูท่าจะแข็งแรงมากพอจะออกไปจากสถานที่แห่งนี้ได้แล้ว แม้จะยังไม่ถึงคิวแต่ก็ช่วยไม่ได้หาเรื่องเองนี่นา "นายอยู่ห้องไหนไปเก็บของเลย" "เก็บทำไม? คุณเป็นใครแต่งตัวแบบนี้คงไม่ใช่หมอมีสิทธิ์อะไรมาสั่ง" คนพูดเอ่ยด้วยท่าทางสบายๆ ไม่มีความกลัวเกรงใดๆ เกิดขึ้นแต่งตัวแบบนี้ต้องไม่ใช่หมอแน่ๆ เขามั่นใจ จะว่าเป็นคนไข้ก็คงไม่ใช่? เอ...แต่รู้สึกคุ้นกับการแต่งตัวแบบนี้อยู่ไม่น้อยเพียงแต่มันติดอยู่ที่ปลายลิ้นทำให้คิดไม่ออกว่าทำไมถึงรู้สึกคุณตาแบบนี้ จะว่าไปเคยเห็นที่ไหนน๊า...? "อ้าวผู้หมวดยังไม่กลับอีกเหรอคะ" เสียงทักทายจากคุณหมอที่เดินผ่านมาทำให้บุคคลทั้งสามต้องหันไปมองพร้อมกันชิดตะวันเปิดยิ้มส่งไปให้คนที่ทักทายก่อนจะหันมามองหน้าคนปากดีที่ตอนนี้บนใบหน้าแทบจะไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงอยู่แล้ว "ตอนแรกว่าจะกลับแล้วค่ะแต่ตอนนี้คงอยู่ต่อเพราะต้องทำเรื่องรับตัวคนร้ายกลับเข้าห้องขัง" "ใครค่ะวันนี้ไม่มีเคสนั้นแล้วนิ" "ตอนแรกก็ไม่มีค่ะแต่ตอนนี้กำลังจะมีแล้ว" ชิดตะวันเปิดยิ้มพร้อมกับก้าวเดินไปประจันหน้ากับคนหน้าซีดที่คงรู้แล้วว่าเคสที่ว่าหมายถึงใคร "ทีนี้นายคิดว่าฉันมีสิทธิ์หรือยังล่ะ" คนฟังถึงกับเหงื่อตกก่อนจะพยักหน้าขึ้นลงด้วยอาการสั่นๆ เขาไม่น่าเลยจริงๆ แทนที่จะได้นอนพักสบายๆ อยู่ที่โรงพยาบาลนี้อีกซักสองสามวันกลับมาดวงซวยเพราะการกระทำที่ไม่ดูน่าดูหลังให้ดีของตัวเอง นึกแล้วก็อยากจะตบกะโหลกตัวเองให้แรงๆ เผื่อขี้หลงขี้เลื่อนมันจะหลุดออกมาบ้าง
แทนที่จะกลับบ้านไปนอนพักกลับต้องมาทำงานเพิ่มไม่น่าหาเรื่องเลยชิดตะวันเอ๊ย! "คุณคะคุณ" สายน้ำเอ่ยเรียกคนที่กำลังจะเดินออกไปความจริงในตอนแรกเธอก็นึกไม่พอใจที่เค้าทำท่าทางเหมือนรำคาญตัวเองแต่หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากเขาเธอก็อาจจะแย่เหมือนกัน "เรียกฉันเหรอคะ" "ก็ใช่น่ะสิคะที่นี่มีแค่ฉันกับคุณใช้เรียกคนอื่นได้ยังไง" "ออ..." คุณหมอจอมวีน...เธอให้ฉายาผู้หญิงคนนี้แบบนี้ได้หรือเปล่านะปกติเห็นแต่หมอใจเย็นมาเจอคุณหมอใจร้อนแบบนี้ก็ให้นึกกลัวแทนคนที่ได้รับการรักษาหากเจ้าหล่อนไม่พอใจจะไม่ปักเข็มลงกลางอกคนไข้เลยหรือ "ขอบคุณ" "คะ?" ใบหน้าที่เหมือนจะมีคำถามทำให้คุณหมอคนสวยรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลยก่อนจะเอ่ยประโยคซ้ำและคำอธิบายเพิ่ม "ขอบคุณที่ช่วยฉันเมื่อกี้ไง" "ออค่ะ" "แค่นี้?" "เอ่อ ก็แค่นี้หรือว่ามีอะไรที่ฉันต้องพูดอีกหรือเปล่าคะ" "มีสิคุณต้องบอกว่าไม่เป็นไรเพราะนี่คือหน้าที่ของคุณ" "คะ?" "คุณเป็นตำรวจก็ต้องดูแลประชาชนทุกคนแค่นี้ไม่เข้าใจหรือไง" "ออ..." "ลิ้นไก่สั้นหรือไงพูดได้แค่คะ ออ คะ ออ" "..........?" "ไม่อยากคุยด้วยแล้วฉันมาบอกคุณแค่นี้แหละ" พูดจบคุณหมอจอมวีนก็เดินออกไปให้คนที่ยังไม่ค่อยเข้าใจได้มองตามตาปริบๆ ก่อนจะมีคำถามตามมาว่าตกลงคนที่เดินห่างออกไปจะมาบอกขอบคุณเธอจริงๆ หรือตั้งใจจะมาหาเรื่องกันแน่ เอะอะวีน เอะอะเหวี่ยง แบบนี้มาเป็นหมอได้อย่างไรกันนะ? เธอล่ะอยากรู้จริงๆ
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|