web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 23
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 9
Total: 9

ผู้เขียน หัวข้อ: กำแพงหัวใจ ตอนที่ 21  (อ่าน 4243 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ meAyou

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 69
กำแพงหัวใจ ตอนที่ 21
« เมื่อ: 02 มีนาคม 2014 เวลา 18:15:40 »
   “พ่อ!”
   เสียงเรียกทำให้การสนทนาของคนที่อยู่ภายในห้องหยุดลงก่อนที่คนที่ถูกเรียกจะลุกขึ้นเดินเข้าไปหาบุตรสาวผู้เป็นที่รักด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม สองพ่อลูกหยุดมองหน้ากันอยู่นานก่อนจะโผเข้ากอดด้วยความดีใจ
   “พ่อมาได้ยังไงคะ”
   “พ่อมาเจรจา”
   ทรงวุฒิเอ่ยออกมาเบาๆก่อนจะจูงมือบุตรสาวเข้ามานั่งร่วมสนทนา
   “คุณคงไม่ว่าถ้าผมจะขอให้มัทอยู่ฟังด้วย”
   “ไม่ต้องขอก็ได้มั้งพามาถึงขนาดนี้แล้ว”
   มัทนาอดที่จะสงสารคนข้างๆไม่ได้เพราะพอหทัยภัทรเอ่ยคำพูดประชดประชันออกมาพ่อของเธอก็หน้าเจื่อนลงทันที
   “งั้นมัทออกไปก็ได้ค่ะ”
   “อย่าเรื่องมากเข้าๆออกๆอยู่ได้น่ารำคาญ”
   ทรงวุฒิแทบไม่อยากเชื่อหากไม่ได้มาเห็นกับตา หญิงสาวที่เขารักเปลี่ยนไปมากจริงๆท่าทีก้าวร้าวและสายตาไม่เป็นมิตรที่เมื่อก่อนไม่เคยเห็นก็ได้เห็นทั้งหมดเป็นความผิดของเขาคนเดียวจริงๆถึงทำให้คนที่อ่อนหวานกลับกลายเป็นเย็นชาแบบนี้
   “จะจ้องอีกนานมั้ย”
   หทัยภัทรตะคอกใส่ชายหนุ่มที่เอาแต่จ้องเธอก่อนจะหันไปทำตาเขียวใส่หญิงสาวอีกคนที่เอาแต่ยืนค้ำหัว
   “ส่วนเธอก็นั่งลงสิจะยืนอีกนานมั้ย!”
   มัทนารีบนั่งลงทันทีก่อนจะนึกสงสัยว่าคนตรงหน้าไปกินอะไรมาถึงได้ดุขนาดนี้และยังไม่ทันที่จะเริ่มบทสนทนาก็มีคนขอเข้ามาร่วมวงด้วยซึ่งก็ได้รับการอนุมัติง่ายๆเพราะไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ไหน
   “นี่จะมาไถ่ตัวกันแล้วเหรอเร็วดีจัง”
   ปาลิตาเอ่ยออกมาพร้อมกับมองสองพ่อลูกด้วยหางตาจากนั้นก็ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพี่สาวสุดที่รัก
   “ไปหลอกเงินจากที่ไหนมาล่ะถึงได้เร็วขนาดนี้”
   “นี่คุณพูดจาให้เกียรติกันบ้างก็ดีนะ”
   ทรงวุฒิอดที่จะเอ่ยตำหนิคนพูดไม่ได้เพราะถึงยังไงเขาก็อายุมากกว่าปาลิตาถึงอีกฝ่ายจะเกลียดขี้หน้าเขาก็ตามที
   “ให้ก็ได้แต่ให้เกียจนะ รังเกียจนะเข้าใจมั้ย”
   “คุณปาลิตาพูดดีๆหน่อยได้มั้ยยังไงพ่อฉันก็เป็นผู้ใหญ่ให้เกียรติท่านบ้าง”
   “เงียบไปเลยลูกหนี้อย่างเธอมีสิทธิ์อะไรมาเถียง”
   ปาลิตาตะคอกใส่คนที่ริอาจเถียงตัวเองก่อนจะหันไปหาคนข้างๆเพื่อหาตัวช่วย
   “จริงมั้ยคะพี่หทัย”
   สองพ่อลูกได้แต่จำใจเงียบไปเมื่อหทัยภัทรยิ้มรับกับสิ่งที่น้องสาวพูดนั่นก็เท่ากับว่าคนปากเสียกำลังได้รับการหนุนหลังจากคนที่มีอำนาจมากที่สุดในตอนนี้
   หทัยภัทรจ้องมองเอกสารและเช็คที่คนตรงหน้าส่งมาให้อย่างพินิจพิเคราะห์ก่อนจะค่อยๆวางลงแล้วหันไปจ้องคนตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย
   “เงินจะเข้าวันจันทร์ที่จะถึงแต่ผมขอพายัยมัทกลับวันนี้เลยละกัน”   
   “พ่อเอาเงินมาจากไหนคะ”
   มัทนาอดถามออกมาไม่ได้เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าระยะเวลาสั้นๆพ่อเธอจะทำกำไรได้มากเท่านี้
   “กลับบ้านพ่อจะเล่าให้ฟังนะ”   
   คนพูดกระชับมือบุตรสาวให้แน่นขึ้นก่อนจะหันมาประสานสายตาเข้ากับเจ้าหนี้ที่เอาแต่ทำหน้านิ่งไม่ยอมพูดจา
   “ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วผมขอพาลูกสาวกลับเลยแล้วกัน”
   ทรงวุฒิเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆเพราะเริ่มอึดอัดกับความเงียบที่คนตรงหน้าสร้างขึ้นก่อนจะดึงมือคนข้างๆให้ออกมาพร้อมกันแต่มือที่จับกุมมือบุตรสาวกลับถูกดึงออกเพราะคนที่นิ่งเงียบมาตลอดเดินเข้ามาคว้ามือของมัทนาเอาไว้
   “ฉันไม่ให้ไป!”
   หทัยภัทรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดก่อนจะลากตัวมัทนาให้มายืนอยู่ข้างๆตัวเอง
   “คุณจะเอาอะไรอีกเนี้ย”
   มัทนาเอ่ยออกมาด้วยความสงสัยเธอไม่เข้าใจความคิดที่สลับซับซ้อนของคนข้างๆเลยแม้แต่น้อย ทั้งๆที่พ่อของเธอเอาเงินมาคืนแล้วแต่ทำไมลูกหนี้ขัดดอกอย่างเธอยังไปไม่ได้อีก
   “คุณเห็นไร่ฉันเป็นสนามเด็กเล่นหรือไงนึกจะมาก็มาจะไปก็ไป”
   “แต่ผมเอาเงินมาคืนคุณตามสัญญาแล้วนิคุณก็ควรจะคืนลูกสาวให้ผม”
   “ไหนล่ะเงินมีแต่กระดาษถ้ามันเด้งขึ้นมาฉันก็แย่สิ”
   “หทัยก็รู้ว่าพี่จะไม่ทำแบบนั้น”
   การเปลี่ยนสรรพนามเรียกชื่อไม่ได้ช่วยทำให้อะไรดีขึ้นเลยแต่กลับยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกโมโหมากยิ่งขึ้นจนเผลอออกแรงบีบข้อมือของคนข้างๆอย่างลืมตัว
   “โอ๊ย…เจ็บนะคุณ”
   มัทนาร้องลั่นพร้อมกับการพยายามสะบัดมือให้หลุดแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อคนโกรธไม่แม้แต่จะหันมาสนใจเธอ
   “ชื่อฉันมีไว้ให้คนที่สนิทเรียกเท่านั้นอย่ามาล้ำเส้น”
   “พี่ เอ่อผมลืมตัวขอโทษด้วย”
   ทรงวุฒิเอ่ยเสียงเศร้าพร้อมกับสีหน้าที่สลดลงไปเล็กน้อยไม่คิดว่าอดีตจะย้อนกลับมาทำร้ายได้เจ็บปวดมากมายขนาดนี้แต่มันก็สมควรแล้วกับสิ่งที่เขาได้ทำ
   “ฉันจะเอาเงินสดถ้าได้มาแล้วค่อยคุยกัน ออกไปจากไร่ฉันได้แล้ว”
   พูดจบหทัยภัทรก็ลากตัวประกันออกมาทันทีโดยไม่สนใจคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์เลยสักคน
   “คุณจะใจร้ายไปถึงไหน”
   มัทนาดึงแขนออกมาทันทีเมื่อมีโอกาสก่อนจะพยายามมองให้ลึกเข้าไปในดวงตาของคนตรงหน้า
   “ฉันน่ะเหรอใจร้าย เธอไม่รู้อะไรอย่ามาพูดมาก”
   “ไม่พูดก็ได้ขอตัว”
   “จะไปไหน”
   หทัยภัทรกระชากแขนมัทนาให้หันกลับมาอีกครั้งเพื่อคุยกันให้รู้เรื่องตอนนี้เธอไม่อยากจะปล่อยให้คนตรงหน้าอยู่นอกสายตาเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้ความกลัวกำลังคืบคลานเข้ามายึดครองหัวใจของเธอ
   “จะเอาอะไรอีก”
   “ฉันไม่ให้เธอไปเกิดเธอหนีไปกับพ่อเธอจะทำยังไง”
   “นิ! ไม่มีใครทำแบบนั้นหรอกนะ”
   “ฉันไม่ไว้ใจพ่อเธอ”
   คนฟังได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆก่อนจะพยายามแกะมือตุ๊กแกที่จับแขนของตัวเองออก
   “ปล่อย”
   มัทนาเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิดแถมเจ้าของมือที่เกาะเธออยู่ก็เหมือนจะจับแน่นมากขึ้นกว่าเดิม
   “ฟังนะ มัทไม่ได้จะไปไหนแค่จะไปหาที่นอนให้พ่อมันค่ำมากแล้วเดินทางก็อันตราย”
   คนพูดพยายามปรับน้ำเสียงให้ฟังดูนุ่มหูขึ้นแต่กลับไม่ได้ผลเลยสักนิดเมื่อหทัยภัทรออกแรงบีบแขนเธอมากยิ่งกว่าเดิม
   “ช่างสิ! ถึงยังไงฉันก็ไม่ให้นอนที่ไร่ของฉัน”
   “รู้แล้ว! ไม่ให้นอนที่ไร่ของคุณหรอก”
   “แล้วจะให้ไปนอนไหน หรือว่า…”
   หทัยภัทรมองไปที่ไร่ข้างๆก่อนจะหันมามองหน้าคนที่กำลังจะเดินไปทางนั้น เธอลืมไปเสียสนิท
   “ไม่ให้ไปแล้วก็ไม่ให้นอนด้วย”
   “นี่! ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ให้นอนที่ไร่คุณ”
   “ทำไม จะพาพ่อไปรู้จักลูกสะใภ้งั้นเหรอ คิดดีจังนะ”   “คุณก็คิดได้แต่เรื่องแบบนี้”
   “หรือไม่จริงล่ะ แผนสูงเหมือนกันนะ”
   มัทนามองหน้าคนพูดอย่างระอาใจไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่คุมลูกน้องได้เป็นร้อยๆจะมีความคิดแคบๆแบบนี้
   “ก็คงจะอย่างนั้น พอใจในคำตอบก็ปล่อยมัทซะที”   “ไม่”
   “อะไรของคุณอีก”
   “ฉันไม่ให้เธอไปหายัยหมวยนั่น!”
   “คุณมีสิทธิ์อะไร”
   “สิทธิ์ที่ฉันเป็นเจ้าของเธอไง”
   คนฟังจ้องหน้าคนพูดเหมือนอยากจะหาคำตอบในการสนทนาที่ยิ่งคุยก็ยิ่งไม่เข้าใจก่อนจะเอ่ยออกมาเหมือนไม่มีทางเลือก
   “ถ้าไม่ให้ไปก็ต้องให้พ่อนอนที่นี่”
   “ไม่!”
   “งั้นก็ปล่อย”
   “ไม่!”
   นี่คงเป็นครั้งที่ร้อยแล้วล่ะมั้งที่มัทนาถอนหายใจออกมาและนี่คงจะเป็นวิธีสุดท้ายที่เธอคิดออก มัทนาคุกเขาลงช้าๆก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับคนใจแข็งด้วยสายตาวิงวอน
   “ให้พ่อนอนที่นี่นะคะ”
   มัทนารู้สึกได้ว่ามือที่จับแขนของเธอกำลังคลายออกช้าๆจากนั้นเธอจึงจับมืออีกฝ่ายมาแนบที่แก้มของตัวเอง ไม่รู้ว่าทำไมถึงคิดที่จะทำแบบนี้แต่มันเหมือนกับร่างกายของเธอกำลังทำตามคำสั่งของอะไรสักอย่างที่เธอคนที่เป็นเจ้าของไม่ค่อยแน่ใจนักว่าสิ่งที่สั่งการคือสมองหรือว่าหัวใจ
   “ให้พ่อนอนที่นี่นะคะแล้วมัทจะไม่ไปไหนมัทสัญญา”
   หทัยภัทรถึงกับอึ้งไปไม่คิดว่าการทะเลาะกันรุนแรงจะจบลงด้วยท่าทียอมแพ้แบบราบคาบของอีกฝ่ายแต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกราวกับว่าตัวเธอเองต่างหากที่กำลังเป็นที่ฝ่ายพ่ายแพ้

   ทรงวุฒิมองบุตรสาวที่กำลังจัดที่นอนอย่างขมักเขม้นด้วยความเอ็นดูปนความสงสัยภาพเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปยังติดตาตรึงใจเขาอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะการสนทนาที่ดุเดือนที่เขาเกือบก้าวเท้าเข้าไปห้ามเพราะเกรงว่าคนทั้งคู่อาจจะทำรุนแรงใส่กันแต่พอเดินเข้าไปถึงกลับพบเข้ากับพายุที่สงบได้ภายในพริบตาเพียงแค่สายตาของคนทั้งคู่ประสานเข้าหากันแต่ถึงจะแปลกใจยังไงเขาก็ไม่คิดจะเอ่ยถามเพราะอีกแค่สามวันเขาก็จะพาตัวคนตรงหน้ากลับบ้านเพื่อที่จะจบเรื่องทุกอย่างให้เร็วที่สุด
   “พ่อคิดอะไรอยู่คะ”
   มัทนาเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเธอเรียกคนตรงหน้าตั้งนานแต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่เหม่อเหมือนคิดอะไรอยู่
   “เปล่าพ่อแค่ดีใจที่ในที่สุดเราก็เจอกันซะที”
   “มัทก็ดีใจค่ะนึกว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว”
   “มัทคงลำบากมากพ่อเสียใจจริงๆ”
   ใบหน้าเศร้าๆของบิดาทำให้มัทนาต้องเดินเข้าไปกอดปลอบก่อนจะคลายอ้อมกอดแล้วส่งยิ้มไปให้
   “ลำบากกว่านี้มัทก็ทนได้ค่ะ มัทรู้ว่าพ่อกับแม่ลำบากกว่ามัทหลายเท่า”
   “มัท หายโกรธพ่อหรือยังลูก”
   มัทนาถึงกับกั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่เมื่อได้ยินประโยคนี้ออกมาจากปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ หญิงสาวส่ายหน้าไปมาก่อนจะโผเข้ากอดคนพูดอีกครั้ง
   “มัทขอโทษนะคะที่เคยคิดแบบนั้นแต่ตอนนี้มัทรู้แล้วค่ะว่าพ่อกับแม่ทำเพื่อมัทมากมายขนาดไหน”
   “มัทคือความรักคือทุกอย่างของพ่อพ่อรักมัทนะ รักมาก”
   “มัทก็รักพ่อค่ะ”
   สองพ่อลูกกระชับอ้อมกอดที่ห่างหายไปนานอย่างโหยหา ตอนนี้เพิ่มเติมความรักในครอบครัวด้วยคำว่าเข้าใจมากกว่าเดิม หากแต่หัวใจของมัทนากลับรู้สึกวูบไหวอย่างหาสาเหตุไม่ได้เพียงแค่คิดถึงการเดินทางกลับบ้านในอีกสามวันข้างหน้า   
   หทัยภัทรปิดม่านลงช้าๆก่อนจะเดินไปนั่งที่เตียงเพื่อใช้ความคิด เธอเพิ่งจะทะเลาะกับปาลิตามาเพราะเรื่องที่ยอมให้คนที่ตัวเองเกลียดนอนในไร่ได้แต่เรื่องนั้นไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกหนักใจเลยสักนิดแต่สิ่งที่ทำให้เธอครุ่นคิดถึงขนาดที่ทำให้ข่มตานอนไม่ได้ก็คือจากนี้ไปอีกสามวันต่างหากอีกแค่สามวัน สามวันเท่านั้น…      

หมายเหตุ
1. หนังสือจัดส่งวันจันทร์ 17 แล้วนะคะ ไรท์แจ้งตามเมล์ เฟส line แล้วน๊าหากภายในอาทิตย์นี้ใครยังไม่ได้ให้แจ้งมาน๊า
* ส่วนใครสนใจสามารถสั่งได้อยู่นะคะไรท์สั่งเผื่อมาแล้ว อิอิ
2. แฟนนิยายที่สั่งเป็นไฟล์ pdf ไรท์ส่งให้แล้วนะคะใครยังไม่ได้แจ้งไรท์ด้วยนะคะ
จะได้ส่งให้ใหม่ ^^
3. ส่วนใครที่อยากได้เป็น e-book สามารถเข้าไปโหลดได้แล้วนะคะที่
 http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=10848

นิยายเรื่องอื่นๆ
   คุณหนูที่รัก yuri  http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576
   ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri  http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259
   เกมรัก สะดุดใจ yuri http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672
   ปีกรัก yuri  http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521
   สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri  http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762
   สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
   แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou

   ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ   




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.