web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 23
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 14
Total: 14

ผู้เขียน หัวข้อ: กำแพงหัวใจ ตอนที่ 20  (อ่าน 2969 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ meAyou

  • Moderator
  • ขาจร
  • *****
  • กระทู้: 69
กำแพงหัวใจ ตอนที่ 20
« เมื่อ: 24 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 12:38:12 »
   นายหญิงของไร่หทัยภัทรนั่งคอยสังเกตการณ์คนที่ย้ายมาทำงานใหม่อยู่ตลอดเวลาใช่ว่าเธอจะเป็นห่วงหรือสนใจอะไรในตัวของอีกฝ่ายแต่เพราะตอนนี้เธอต้องการจะจับผิดต่างหากและแล้วในที่สุดความพยายามในการหาเรื่องก็เป็นผลเมื่อคนที่ถูกจ้องกำลังแอบหลับ!
   และไม่รอช้าหทัยภัทรตรงดิ่งไปหาคนอู้งานทันทีก่อนจะแกล้งตบโต๊ะเสียงดังจนเจ้าของโต๊ะสะดุ้งเกือบตกเก้าอี้
   “ฉันจำได้ว่าให้เธอมาทำงานนะไม่ได้ให้มานอน”
   คนถูกว่ากำลังอยู่ในช่วงอารมณ์ตกใจถึงกับหน้าถอดสีนึกคำแก้ตัวไม่ออกเพราะตัวเองทำอย่างที่ถูกว่าจริงๆ
   ส่วนคนมาหาเรื่องก็ต้องหงุดหงิดเพิ่มมากขึ้นเมื่อคนตรงหน้านิ่งเงียบไม่มีวี่แววการสนทนาตอบกลับแต่อย่างใด
   “ฉันพูดอยู่ไม่ได้ยินเหรอ”
   “ได้ยินค่ะ”
   “แล้วทำไมไม่พูดอะไร”
   “ก็…ยอมรับผิดค่ะเลยไม่แก้ตัว”
   “จะกวนประสาทฉันใช่มั้ย”
   นั่น! มัทนาต้องพบกับคำว่า “งง” อีกครั้งเพราะเธอตามอารมณ์ของอีกฝ่ายไม่ทันทั้งๆที่ตั้งใจจะอยู่นิ่งๆเพื่อกันไม่ให้เกิดปัญหาแต่กลับกลายเป็นว่าไม่ถูกใจคุณเธอซะงั้น
   “ตั้งใจทำงานด้วยอย่าให้ฉันเห็นอีก”
   จบประโยคคนพูดก็เชิดหน้าเดินกลับไปทันทีทำราวกับว่าความผิดของคนแอบหลับอย่างเธอมันหนักหนาซะเต็มประดาทีคนอื่นหลับคาโต๊ะยังไม่เห็นถูกว่าเลยสองมาตรฐานชัดๆ

   มื้อกลางวันวันนี้มัทนาไม่ได้ออกไปกินกับคนอื่นๆเพราะงานที่ถูกสั่งให้ทำยังไม่เสร็จแถมเธอยังไม่อยากจะไปฟาดฟันกับสายตาที่ดูไม่เป็นมิตรของคนอื่นโดยเฉพาะยัยโหดปาลิตา
   “ทำไมไม่ไปกินข้าว”
   มัทนาหันไปมองเจ้าของเสียงหวานที่กำลังเดินยิ้มเข้ามาใกล้เมื่อรู้ว่าเป็นใครหญิงสาวจึงส่งยิ้มคืนไปให้บ้าง
   “มัทไม่หิวน่ะค่ะ”
   “แต่นี้เวลาพักนะเธอควรจะกินอะไรบ้าง”
   “มัทยังไม่หิวเลยค่ะอีกอย่างต้องรีบปั่นงานให้เสร็จก่อนบ่ายสองด้วย”
   นรีรัตน์ก้มลงดูงานที่ถูกยกมาอ้างจากนั้นก็จัดการปิดแฟ้มลงแล้วอ้อมไปดึงแขนคนบ้างานให้ลุกขึ้น
   “คุณนรีค่ะมัทต้องทำงานนะคะ”
   “ฉันรู้แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง”
   “ทำเสร็จแล้วค่อยกินก็ได้ค่ะ”
   มัทนาเอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมาน้อยๆเธอรู้ว่านรีรัตน์เป็นห่วงเธอจากใจจริงถึงแม้ว่าช่วงแรกๆเธอจะคิดอคติก็ตามทีแต่เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่เคยหยุดส่งความห่วงใยให้เธอเลยสักครั้งนั่นจึงทำให้เธอยอมรับและเปิดใจรับนรีรัตน์เข้ามาสู่วังวนคำว่ามิตรภาพอีกครั้ง
   “ฉันทำกับข้าวมาเผื่อน่ะ”
   คนพูดยิ้มออกมาอย่างอายๆก่อนจะรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับมาหาคนข้างๆ
   “กินเป็นเพื่อนฉันก็ได้นะ นะ”
   มัทนามองกับข้าวสองสามอย่างที่ถูกจัดวางบนโต๊ะอย่างน่ากินจนทำให้เธอนึกหิวขึ้นมาทันทีและเมื่อหันมาสบตาเจ้าของกับข้าวเธอก็ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้อีกเลยเพราะอีกฝ่ายกำลังอ้อนเธอด้วยแววตาวิบวับราวกับเด็กน้อย
   “ชวนแล้วมาไล่ไม่ได้นะคะอีกอย่างมัทกินข้าวเร็วน๊ากินไม่ทันไม่รู้ด้วย”
   คนพูดเอ่ยออกมาทีเล่นทีจริงก่อนจะดึงมือคนที่ยืนอึ้งอยู่ให้นั่งลงข้างๆจากนั้นทั้งสองสาวก็ลงมือกินข้าวพร้อมกับการพูดคุยที่เหมือนจะมีเสียงหัวเราะให้กันอยู่ตลอดเวลาแต่มันคงจะดีกว่านี้ถ้าไม่มีใครดันกลับมาเอาของที่ลืมไว้
   เสียงหัวเราะที่จู่ๆก็หยุดลงของคนข้างๆทำให้มัทนาต้องหันไปมองอย่างแปลกใจก่อนจะได้รับคำตอบง่ายๆที่ทำให้รอยยิ้มของตัวเธอจางหายไปเช่นกัน
   “มีความสุขกันจังเลยนะ”
   ปาลิตาเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มก่อนจะนึกสนุกจูงมือคนข้างๆเข้าไปร่วมวง
   “พี่นรีทำกับข้าวมาก็ไม่ชวนกันเลยนะคะตากับพี่หทัยจะได้ขอร่วมวงด้วย”
   “ที่จริงพี่ไม่ได้จะชวนใครหรอกแต่พอดีเห็นมัทนาไม่ออกไปไหนก็เลยชวนมาทานด้วยกัน”
   นรีรัตน์เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักเธอรู้ดีว่าทำแบบนี้อาจทำให้พี่สาวของตัวเองไม่พอใจแต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้เช่นกัน
   “จะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจงั้นเหรอคะ”
   คนที่ตั้งใจมาหาเรื่องยังคงไม่หยุดเดินเกมส์ใช่ว่า        ปาลิตาอยากไล่ต้อนพี่สาวของตัวเองแต่เหมือนกับมีบางอย่างผลัดดันให้เธอต้องทำแบบนี้
   “ไม่ตั้งใจก็ไม่ตั้งใจค่ะแต่พอดีสองคนเลยเนาะ”
   ปาลิตาหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะดึงมือพี่สาวอีกคนเดินเข้าไปเอาของในออฟฟิศตามความตั้งใจเดิมแต่แปลกที่คนที่เธอจูงมือเอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมเดินตามมาแถมยังดึงมือออกจากนั้นหทัยภัทรก็เดินไปอยู่ระหว่างกลางของคนที่นั่งอยู่
   “พี่เปลี่ยนใจละเราจะกินข้าวที่นี่”
   พูดจบหทัยภัทรก็แทรกกลางระหว่างคนที่นั่งอยู่จากนั้นก็เบียดตัวต้นเหตุให้ขยับจนเกือบตกเก้าอี้
   “มองอยู่ได้ขยับไปซิ!”
   คนถูกสั่งมองที่นั่งของตัวเองที่เหลืออยู่ไม่มากจากนั้นก็หันไปมองหน้าคนออกคำสั่งอย่างอ่อนใจก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจลุกขึ้นยืน
   “มัทว่าพวกคุณกินกันเถอะขอตัวนะคะ”
   พูดจบมัทนาก็หมุนตัวเดินออกไปแต่กลับถูกคนหาเรื่องคว้ามือเอาไว้
   “จะไปไหน”
   “ไปทำงานค่ะ”
   “พอฉันมาเธอก็จะไปรังเกียจกันมากใช่มั้ย”
   หทัยภัทรเอ่ยออกมาเสียงแข็งพร้อมกับจ้องหน้าคนที่คิดจะเดินหนีอย่างคาดคั้น
   “ไม่ใช่นะคะ มัทแค่ไม่อยากรบกวนคุณ”
   “แล้วฉันว่าอะไรมั้ย”
   มัทนาจ้องหน้าคนพูดอย่างชั่งใจก่อนจะยอมแพ้เดินกลับไปนั่งที่เดิม หญิงสาวมองดูมือของตัวเองที่ตอนนี้ถูกคนข้างๆจับไว้ไม่ยอมปล่อยก่อนจะหันไปสบตาเจ้าของมือเล็ก
   “มองอะไรก็ปล่อยสิ”
   หทัยภัทรตะคอกออกมาด้วยใบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจากนั้นก็ดึงมือของตัวเองออกมาแต่จะพูดให้ถูกต้องบอกว่า “ปล่อย” เพราะมือของเธอต่างหากที่จับมือของอีกฝ่ายจนแน่น
 
   เวลาบ่ายการทำงานของทุกคนดูเหมือนจะดำเนินไปเรื่อยๆดังเช่นทุกวันแต่จะมีก็แค่คนเดียวที่รู้สึกอึดอัดมากเป็นพิเศษเมื่อเงยหน้าขึ้นมาทีไรก็ต้องเจอเข้ากับสายตาของคนที่จ้องจะจับผิด
   “กาแฟค่ะ”
   นรีรัตน์เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับยื่นแก้วที่อยู่ในมือให้กับคนที่นั่งอยู่
   “ขอบคุณนะคะ”
   มัทนารับมาช้าๆพร้อมกับการส่งยิ้มกลับคืนไปให้คนใจดี
   “ไม่รู้เธอจะชอบหรือเปล่า”
   “ชอบสิคะคุณนรีอุตสาห์ชงมาให้ มัทจะไม่ชอบได้ยังไง”
   “’งั้นก็กินให้หมดนะคนชงจะได้ดีใจ”
   ไม่ใช่เสียงของนรีรัตน์แต่เป็นเสียงของคนที่จ้องจับผิดเธอมาตลอดและที่แปลกไปกว่านั้นก็คือรอยยิ้มที่หทัยภัทรกำลังส่งมายังเธอมันดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
   มัทนาเกิดความลังเลขึ้นมาทันทีแต่พอหันไปเห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของคนที่ตั้งใจชงมาให้เธอก็ต้องจำใจละความคิดระแวงออกไป
   กาแฟที่ถูกยกขึ้นดื่มแทบจะพุ่งออกจากปากแต่มัทนาก็ยังอุตสาห์กลืนลงคอถึงแม้จะยากเย็นไปสักหน่อยแต่เจ้าตัวก็สามารถทำได้สำเร็จพร้อมกับสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนที่กำลังแอบหัวเราะกับการดื่มกาแฟของเธอ
   “ท่าทางจะไม่อร่อย”
   มัทนามองคนพูดที่เปลี่ยนจากรอยยิ้มเป็นใบหน้าเศร้าอย่างสงสารจากนั้นก็เอื้อมมือไปกุมมือคนหน้าเศร้าเอาไว้หลวมๆ
   “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะมันอร่อยมากต่างหาก”
   คนพูดยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนก่อนจะจัดการกับกาแฟในถ้วยจนเกลี้ยง
   “เห็นมั้ยค่ะหมดเลย”
   “ดีใจจังที่เธอชอบไว้ฉันจะชงให้ใหม่นะ”
   นรีรัตน์เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเป็นปลื้มก่อนจะหันไปส่งยิ้มให้กับคนที่แนะนำถึงจะไม่เข้าใจว่าทำไมพี่สาวถึงยินยอมให้ตัวเองทำเรื่องแบบนี้ก็ตามที

   คนตัวสูงเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นเรื่อยๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นวิ่งทันทีเมื่อถึงหน้าห้องน้ำจากนั้นเจ้าตัวก็ปล่อยของเหลวที่อยู่ในปากลงอ่างล้างมือทันที…ให้ตายเถอะสิ่งที่เธอดื่มเข้าไปมันยังสามารถเรียกว่ากาแฟได้อยู่อีกเหรอเมื่อรสชาติมันไม่ต่างจากน้ำเกลือเลยสักนิด
   “ไส้จะขาดมั้ยเนี้ย”
   มัทนาเอ่ยออกมาพร้อมกับเอามือลูบท้องเบาๆและก่อนที่เธอจะลงมือล้างน้ำเค็มออกจากปากอีกรอบเสียงหัวเราะของคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ทำให้ต้องหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วหันไปมอง
   “อร่อยแบบไหนนะถึงต้องมาเอาออกแบบนี้”
   “คุณหทัยภัทร”
   “ก็ฉันน่ะสิถ้าเป็นยัยนรีคงจะเสียใจแย่”
   มัทนามองหทัยภัทรที่พูดไปยิ้มไปอย่างสงสัยก่อนจะเรียบเรียงเหตุการณ์เข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว
   “คุณใช่มั้ย ฝีมือคุณใช่มั้ย”
   “ฉันทำอะไรมิทราบว่าแต่เค็มมากมั้ยอะ”
   คนพูดหัวเราะออกมาอีกครั้งอย่างสะใจ
   “ว่าแล้วเชียวคุณนรีไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้”
   “เรื่องแบบนี้คือเรื่องแบบไหนพูดมาให้ชัดๆ”
   หทัยภัทรชักสีหน้าทันทีเมื่อถูกคนตรงหน้าเปรียบเทียบตัวเองกับน้องสาว
   “คุณก็รู้ดีแต่ถ้าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ก็แล้วแต่”
   มัทนาเอ่ยออกมาเสียงเรียบก่อนจะเช็ดมืออย่างเร็วเพื่อจะออกไปให้พ้นจากคนจ้องหาเรื่อง
   “เธอลืมไปหรือเปล่าว่าเราเป็นอะไรกันถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับฉัน”
   คนพูดเอ่ยออกมาเสียงดังพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้คนอวดดีอย่างเหลืออด
   “ใช่ฉันทำเองมีอะไรหรือเปล่า”
   “นี่คุณ…”
   “คุณอะไร ฉันทำไม”
   “ไม่มีอะไรหรอกค่ะแต่มัทคงบอกเองไม่ได้ว่าเค็มหรือเปล่าคงต้องให้คุณหทัยภัทรชิมเอง”
   เมื่อคนจ้องหาเรื่องไม่ยอมลดละและความอดทนของมัทนาก็หมดลง หญิงสาวเอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่แสนเจ้าเล่หก่อนจะโน้มใบหน้าฉกริมฝีปากอวบอิ่บมาเป็นของตัวเองพร้อมกับดันตัวหทัยภัทรไปติดกับกำแพงเพื่อตรึงร่างเล็กไม่ให้หนีไปไหนจากนั้นการยัดเยียดรสชาติของกาแฟก็ได้เริ่มต้นขึ้นแต่มัทนาก็ต้องถอนริมฝีปากออกช้าๆเมื่อรู้สึกแปลกใจที่เจ้าของเรียวปากอวบอิ่มไม่โวยวายหรือแม้กระทั่งทุบตีดังเช่นที่ผ่านมา
   “คือมัท…”
   มัทนาไม่รู้จะสรรหาคำแก้ตัวใดๆเมื่อตัวเองเผลอทำผิดในเรื่องเดิมๆอีกแล้วแต่ครั้งนี้เหมือนความรู้สึกผิดจะมากกว่าครั้งไหนๆเพราะท่าทางนิ่งเฉยจนดูไม่ออกของคนตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก
   หทัยภัทรเดินออกมาจากห้องน้ำเงียบๆโดยไม่พูดอะไรใช่ว่าเธอไม่อยากโวยวายแต่ตอนนี้เธอไม่รู้จะเรียบเรียงประโยคอะไรต่างหากแล้วไหนจะการค้นพบครั้งใหม่ที่ว่ากาแฟที่ตัวเองใส่เกลือเกือบหมดขวดเพื่อให้ได้รสเค็มมากที่สุดกลับมีรสหวานเมื่ออยู่ในปากลูกหนี้ของเธอ 
   อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะคิดแบบนั้นได้ก็คือเธอกำลังรู้สึกเสียดายที่ริมฝีปากของมัทนาถอนห่างออกไปและความคิดบ้าๆพวกนี้แหละที่ทำให้เธอต้องพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์เมื่อสักครู่ให้เร็วที่สุด!   

หมายเหตุ
1. หนังสือจัดส่งวันจันทร์ 17 แล้วนะคะ ไรท์แจ้งตามเมล์ เฟส line แล้วน๊าหากภายในอาทิตย์นี้ใครยังไม่ได้ให้แจ้งมาน๊า
* ส่วนใครสนใจสามารถสั่งได้อยู่นะคะไรท์สั่งเผื่อมาแล้ว อิอิ
2. แฟนนิยายที่สั่งเป็นไฟล์ pdf ไรท์ส่งให้แล้วนะคะใครยังไม่ได้แจ้งไรท์ด้วยนะคะ
จะได้ส่งให้ใหม่ ^^
3. ส่วนใครที่อยากได้เป็น e-book สามารถเข้าไปโหลดได้แล้วนะคะที่
 http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=10848

นิยายเรื่องอื่นๆ
   คุณหนูที่รัก yuri  http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=975576
   ลิขิตรักยัยตัวร้าย yuri  http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=552259
   เกมรัก สะดุดใจ yuri http://writer.dek-d.com/melike/story/view.php?id=847672
   ปีกรัก yuri  http://writer.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1003521
   สัญญาวิวาห์กำมะลอ yuri  http://my.dek-d.com/melike/writer/view.php?id=1044762
   สามารถสั่งซื้อได้แล้วจ้า
   แบบe-book ก็มีนะค่ะเข้าไปดูได้ที่ http://www.mebmarket.com/index.php?action=BookSearchResults&type=author&search=meAyou

   ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ   




 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.