web stats

ข่าว

 


สัญญาซ่อนรัก yuri ตอนที่ 7

โพสต์โดย: meAyou วันที่: 21 ตุลาคม 2016 เวลา 19:04:30 อ่าน: 250

   วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่เจ้าถิ่นอย่างสมิตรารู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่เพราะถูกลากตัวให้มาเป็นไกด์จำเป็นนำเที่ยวอีกหนึ่งวัน
   ลมหายใจถูกพ่นออกมายาวๆ ก่อนที่สายตาจะหันกลับมาจับจ้องยังท้องน้ำเบื้องหน้าเพราะภาพบางอย่างทำให้เกิดความรู้สึกปวดแปลบในใจอยู่บ่อยครั้งแล้วไหนจะความอึดอัดที่ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปในทางของมันนั่นอีกมันทำให้เธอนึกอยากจะหันหัวเรือกลับเสียจริงๆ
   "น้ำมั้ยคะ"
   น้ำเสียงเอื้ออาทรทำให้สมิตราต้องหันไปส่งยิ้มให้กับคนพูดก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ หากแต่ดูเหมือนคนหวังดีก็ยังไม่ยอมลดละความตั้งใจอยู่ดี
   "ดื่มหน่อยเถอะค่ะอากาศมันร้อนร่างกายเสียเหงื่อมากเดี๋ยวจะเป็นลมเอา"
   "เอ่อ ขอบคุณค่ะ"
   เมื่อทนลูกตื้อไม่ไหวสมิตราจึงจำต้องรับน้ำใจนี้เอาไว้หากแต่พอจะปล่อยมือใครอีกคนก็รีบร้องห้ามโดยทันที
   "อย่าปล่อยมือนะคะ"
   "ถ้าไม่ปล่อยก็ดื่มน้ำไม่ได้สิคะ"
   "แต่พี่ว่ามันอันตรายนะคะ"
   "ไม่เป็นไรหรอกค่ะมิขับเรือมาตั้งแต่เด็กใช้มือขับข้างเดียวได้สบายมาก"
   "อย่าเสี่ยงเลยนะคะพี่ว่าเอาแบบนี้ดีกว่า"
   สมิตรามองขวดน้ำที่ยื่นมาเบื้องหน้าอย่างลังเลอันที่จริงแค่ดื่มน้ำแป๊บเดียวมันไม่ได้น่ากลัวหรืออันตรายเลยสักนิดหากแต่สำหรับคนที่ไม่ได้นั่งบ่อยอาจจะเกิดความกลัวได้อย่างที่คนข้างๆ กำลังเป็นและเธอคงไม่อาจที่จะทำให้คนใจดีกลัวไปมากกว่านี้
   
   ภายใต้ท้องฟ้าสีครามและผืนน้ำสีเขียวทำให้อารมณ์ที่ตึงๆ ของปิ่นมณีเบาบางลงไปได้มากหากแต่พอหันไปเห็นการป้อนน้ำของคนสองคนก็ทำให้รอยยิ้มที่มีค่อยๆ จางลงพร้อมกับการยกมือขึ้นกอดอกเพ่งมองไปยังคนทั้งคู่ด้วยความคิดบางอย่างที่อยู่ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัว
   ดูเหมือนว่ากรองแก้วจะมีใจให้สมิตราอย่างที่เธอคิดจริงๆ สินะแล้วหากเธอทำให้สองคนนี้ใจตรงกันได้ล่ะ
   นั่นสิ?หากทำแบบนั้นได้เธออาจจะได้รับอิสระอย่างที่ต้องการก็เป็นได้เพราะหากการแยกทางมาจากความต้องการของสมิตราคงไม่มีใครคิดขัดเป็นแน่
   รอยยิ้มเปิดออกอีกครั้งเมื่อคิดได้ถึงเรื่องราวดีๆ หากแต่เธอคงจะแสดงความรู้สึกนี้เปิดเผยจนเกินไปจึงทำให้คนข้างๆ เอื้อมมือมาสะกิดให้รู้ตัว
   "อะไร"
   "ก็ปิ่นยิ้มน่ากลัว"
   "ฉันมีแผนใหม่ต่างหาก"
   "แผนอีกแล้วเหรอ"
   "ก็ใช่น่ะสิฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อยุติชีวิตคู่สีเทานี้ให้ได้"
   "แล้วแผนเก่ายังจะใช้อีกมั้ยครับ"
   "ใช้สิถามได้บอกแล้วไงต้องทำทุกอย่างเรื่องมันจะได้จบเร็วๆ ฉันเบื่อเกาะบ้านี่จะแย่อยู่แล้ว"
   คนหน้าบูดเอ่ยเสียงห้วนทำให้คนฟังเผลอคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้สึกพอใจที่ปิ่นมณีไม่มีใจพิศวาสรักใคร่ในตัวของผู้เป็นเจ้าของเกาะและที่สำคัญเขาดีใจที่หญิงสาวเลือกขอความช่วยเหลือมายังตัวเองนั่นแสดงให้เห็นว่าเจ้าหล่อนยังให้ความสำคัญกับตัวเขาอยู่แม้จะในฐานะเพื่อนเขาก็ดีใจมากแล้วและหากปิ่นมณีเป็นอิสระเขาก็อยากจะขยับความสำคัญของตัวเองให้มากขึ้น
   รอเพียงเวลาและบทสรุปของแผนการในครั้งนี้ก็เท่านั้น?

   เมื่อเรือจอดสนิทในที่ลงเล่นน้ำได้แล้วทุกคนก็ไม่รอช้ารีบโดดลงไปชื่นชมกับธรรมชาติใต้ผืนน้ำกันอย่างเร็วหากแต่การโผล่ขึ้นเหนือน้ำของใครบางคนก็ทำให้คนพามาต้องรีบเดินเข้าไปใกล้เพื่อช่วยเจ้าหล่อนให้ขึ้นมาบนเรือ
   "ทำไมขึ้นมาเร็วจังคะ"
   "วันนี้ฉันไม่ค่อยอยากเล่นน้ำเท่าไหร่"
   "แล้วทำไมถึงให้พามาล่ะคะ"
   "ก็พศุตม์เค้าอยากเล่นฉันก็เลยอยากเอาใจเค้าหน่อย"
   คนพูดเอ่ยด้วยรอยยิ้มเมื่อจ้องมองลงไปยังตำแหน่งของคนที่ตัวเองเอ่ยถึงหากแต่เพียงไม่นานก็หันกลับมาจ้องคนที่มีสีหน้าสลดลงและที่ทำให้สมิตรารู้สึกเศร้าใจมากกว่าเดิมก็คือรอยยิ้มที่จางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อหันมาทางตัวเอง
   ทุกอย่างชัดเจนหากแต่ก็ยังไม่สามารถทำให้เธอตัดใจได้อยู่ดี
   "ขอน้ำหน่อยสิ"
   "รอแป๊บนะคะ"
   คำขอสั้นๆ ทำให้คนน้อยใจต้องรีบสลัดทุกอย่างออกจากความคิดก่อนจะรีบหันไปควานหาน้ำเย็นให้กับคนตรงหน้า
   "นี่ค่ะ"
   "ขอบใจ"
   ปิ่นมณีรับน้ำมาดื่มก่อนจะหันไปมองยังเพื่อนรักทั้งสองที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะขึ้นมาสักคนและแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏเมื่อนึกถึงแผนใหม่ของตัวเอง
   "เธอว่ายัยกรองสวยมั้ย"
   "คะ!?"
   "ฉันแค่ถามว่ากรองแก้วสวยมั้ยทำไมต้องตกใจขนาดนั้น"
   "ก็มิไม่เข้าใจว่าทำไมอยู่ๆ พี่ปิ่นถึงวนมาถามเรื่องนี้ได้"
   "ฉันก็แค่อยากรู้เธอมีหน้าที่ตอบก็ตอบมาเถอะน่ะ"
   น้ำเสียงห้วนจัดของเจ้าของคำถามทำให้สมิตราหน้าเจื่อนลงทันทีก่อนจะหันไปมองยังบุคคลที่สามที่ถูกเอ่ยถึงอยู่ในขณะนี้
   เธอควรจะตอบคำถามนี้อย่างไรดีนะหากตอบอย่างที่ใจคิดจะถูกใครอีกคนโกรธอีกหรือเปล่า
   "ว่ายังไงคำถามง่ายๆ ทำไมคิดนานจังนะ"
   "ก็?สวยค่ะ"
   "นั่นไงฉันว่าแล้ว"
   "อะไรคะ"
   "เปล่าๆ ฉันก็แค่คิดเหมือนเธอยัยกรองน่ะสวย"
   "ค่ะ"
   "แล้วเธอชอบมั้ย"
   "ชอบ? ชอบอะไรคะ"
   คำถามชวนให้สงสัยทำให้สมิตราต้องคิดหนักเพราะไม่อาจล่วงรู้ถึงความต้องการของเจ้าของคำถามได้และหากพูดตอบออกไปก็เกรงว่าจะทำให้ถูกโกรธเข้าให้อีก
   "ก็ชอบแบบชอบไง"
   ชอบแบบชอบ? มันยังไงกันนะหากแต่เมื่อใครอีกคนทำท่าทางราวกับรอคำตอบสมิตราก็จำใจต้องตอบคำถามในเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้ออกมาในที่สุด
   "ใครไม่ชอบคนสวยๆ กันล่ะคะ"
   "หมายถึงเธอชอบยัยกรองเพื่อนฉันงั้นสิ"
   "ก็ไม่ได้เกลียดอะไรนิคะ"
   "เล่นลิ้นชะมัดแค่บอกว่าชอบมันจะอะไรนักหนา"
   "มันก็ไม่ได้ยากค่ะแต่แค่ไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ปิ่นถึงได้ถามคำถามแบบนี้"
   "ฉันก็แค่อยากจะจับ?"
   เจ้าของประโยครีบงับปากลงทันทีเมื่อคิดได้ว่าเกือบจะหลุดอะไรออกมาแต่ดูเหมือนว่าคงจะไม่ทันเสียแล้วเมื่อเหลือบไปเห็นสายตารู้ทันของคนที่อยู่ในแผน
   "พี่จะจับคู่ให้มิงั้นเหรอคะ"
   "เปล๊า?"
   สมิตราจ้องมองคนมีพิรุธอย่างน้อยใจหากแต่ก็ไม่มีความคิดที่จะตัดใจเลยสักนิดเมื่อใครอีกคนคิดขับไสเธอก็จะยอมเป็นคนหน้าด้านเดินหน้าอย่างไม่อายเอง
   "พี่กรองเป็นคนสวยจริงๆ ค่ะแต่สำหรับมิชอบคนสวยแบบพี่ปิ่นมากกว่า"
   "พูดบ้าอะไรของเธอ!"
   มาอีกแล้วประโยคชวนขนลุกทำเอาคนคิดไม่ทันถึงกับต้องถอยหนีไปตั้งหลักหากแต่ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างสมิตรามากกว่าเพราะเท้าของคนคิดหนีดันไปเกี่ยวเข้ากับเชือดที่ขดอยู่ที่พื้นจนทำเอาเกือบหงายหลังและนั่นเป็นการเปิดโอกาสให้ใครอีกคนเข้าประชิดตัวเธอโดยข้ออ้างว่าช่วยเหลือได้อย่างง่ายดาย
   "ปล่อยฉันนะ"
   "ถ้าปล่อยพี่ปิ่นก็ล้มกันพอดีสิคะ"
   "ช่างฉันยุ่งอะไรด้วย"
   "พี่ปิ่นเป็นคนสำคัญของมิไม่ยุ่งไม่ได้หรอกค่ะ"
   "ยี้! ขนลุกหยุดพูดอะไรแบบนี้ได้แล้วนะ"
   "ไม่ได้หรอกค่ะมิอยากให้พี่รู้จะได้จำไว้ว่าบนโลกนี้ยังมีมิอีกคนที่?"
   "หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!!"
   สมิตราถูกปิดปากจนแน่นไม่ให้พูดคำสำคัญออกมาหากแต่เธอก็รู้ว่าแม้คำนี้จะไม่ถูกเอ่ยออกมาแต่คนตรงหน้าก็คงจะรับรู้ได้ไม่ยากดูได้จากท่าทางรังเกียจที่อีกฝ่ายแสดงออกมาซึ่งมันชัดเจนเหลือเกิน
   "แค่พูดก็ไม่ได้เหรอคะ"
   เมื่อแกะมือทีปิดปากของตัวเองออกแล้วสมิตราก็เอ่ยความข้องใจออกมาทันทีแม้จะรู้ในคำตอบของทุกๆ เรื่องหากแต่เธอก็ยังหวังให้ใครอีกคนใจอ่อนลงมาบ้าง
   ไม่ต้องรักตอบแต่แค่ยอมให้เธอรักก็พอหรือแค่นี้ก็ให้ไม่ได้กันนะ
   "ฉันไม่ชอบเธออย่าพูดหรือว่าทำอะไรแบบนี้อีก"
   "แสดงออกก็ไม่ได้เหรอคะ"
   "เอ๊ะ! ก็บอกว่าไม่ได้ไงล่ะ"
   ปิ่นมณีเอ็ดคนเข้าใจยากเสียงดังก่อนจะออกแรงดิ้นอีกครั้งหากแต่ก็ยังไม่สามารถหลุดออกมาจากใครอีกคนได้อยู่ดี
   "เธอนี่เข้าใจอะไรยากจริงๆ นะพูดขนาดนี้ยังจะหน้าด้านจับตัวฉันไว้แบบนี้อีก"
   "เราสองคนก็พอๆ กันนั่นแหละค่ะ"
   "ฉันเหมือนเธอตรงไหนมิทราบ"
   "ก็ความดื้อไงค่ะ"
   สมิตราเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้คนที่พยายามถอยห่างออกจากตัวเองมากขึ้นและแม้จะถูกแรงดันให้ออกห่างหากแต่เจ้าตัวก็ไม่คิดจะหยุดการกระทำนี้แต่อย่างใด
   "นี่คิดจะทำอะไรเอาหน้าออกไปห่างๆ เลยนะ"
   "รังเกียจกันมากขนาดนี้เลยเหรอคะ"
   "เธอก็รู้อยู่เต็มอกแล้วนิยังจะมาถามให้ได้อะไรอีก"
   "ก็มิหวังนิคะว่าสักวันหนึ่งพี่ปิ่นอาจจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนความรู้สึกที่มีให้กันได้บ้าง"
   "ไม่มีทาง"
   คำตอบที่ชัดเจนทำให้สมิตราต้องหยุดการรุกล้ำลงก่อนจะจ้องมองเข้าไปในดวงตาคู่กลมโตที่มองจ้องตอบมาด้วยความไม่พอใจ
   น่าขันที่เธอหวังว่าจะได้เห็นความสั่นไหวในดวงตาคู่นี้บ้างแต่มันกลับไม่มีความรู้สึกนั้นเจือปนอยู่เลยสักนิด
   สายตาของคนตรงหน้ามีแต่ความชิงชัง รังเกียจและไม่พอใจซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกเสียใจจริงๆ ที่ได้เห็นทุกความเกลียดชังชัดเจนมากถึงเพียงนี้
   "ไม่เกลียดกันไม่ได้เหรอคะ"
   "แค่เธอคืนอิสรภาพให้กับฉันฉันก็จะไม่เกลียดเธอ"
   "พี่ปิ่นก็รู้ว่ามิทำไม่ได้"
   "ทำไมล่ะเธอจะกักขังคนที่ไม่ได้รักเธอไว้ทำไมกัน"
   "วันนี้ไม่รักวันหน้าอาจจะรักก็ได้ไม่ใช่เหรอคะ"
   "ไม่! ฉันไม่มีวันรักเธอ"
   "ทำไมพี่ปิ่นถึงได้มั่นใจแบบนั้นล่ะคะ"
   "เพราะฉันรู้ใจตัวเองยังไงล่ะ ฉันรู้ว่าต่อให้เราอยู่กันไปจนตายฉันก็ไม่มีวันหวั่นไหวไปกับเธอ"
   สมิตรามองเห็นสายตามุ่งมั่นของคนพูดอย่างชัดเจนทุกอย่างเกี่ยวกับเธอจะถูกปิ่นมณีปฏิเสธทั้งหมดรวมถึงความรักความหวังดีที่เธอมอบให้เจ้าหล่อนด้วยและแม้เธอจะจริงใจขนาดไหนก็คงจะไม่มีประโยค
   คนไม่รักยังไงก็ไม่รัก
   ?ส่วน?
   คนที่รักทำยังไงก็ยังคงรัก
   นี่ไงล่ะเรื่องที่เธอกับปิ่นมณีเหมือนกัน
   ปิ่นมณีดื้อปิดตายหัวใจไม่ให้เธอได้เข้าไปส่วนเธอดื้อและปิดตายเพื่อขังหล่อนเอาไว้ข้างในหัวใจเช่นกัน
   น่าสมเพชแต่ก็ไม่อาจทำให้ปล่อยมือไปได้และเมื่อแรงเกาะเกี่ยวลดน้อยลงให้คนคิดขัดขืนได้หลุดออกมาในที่สุดก่อนที่ดวงตาคู่กลมโตจะเบือนหลบไปทางอื่นเพราะไม่อาจทนจ้องสายตาคู่เศร้านั้นได้อีก
   เธอรู้ว่าตัวเองพูดทำร้ายจิตใจใครอีกคนมากจนเกินไปหากแต่มันคือเรื่องจริงที่เธออยากให้สมิตราได้รู้ไว้และเธอก็กำลังแก้ตัวให้กับจิตใต้สำนึกของตัวเองอยู่ในเมื่อเธอรักอีกฝ่ายไม่ได้เธอก็ควรจะหาใครสักคนมาแทนที่ตัวเอง
   ใครสักคนที่จะทำให้สมิตราเปลี่ยนความคิดเสียใหม่
   ใครสักคนที่จะทำให้สมิตราเลิกมองเธอด้วยสายตาน่าขนลุกเสียที

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น