web stats

ข่าว

 


Photograph - บทที่ 5 By My Side (2)

โพสต์โดย: anhann วันที่: 01 พฤษภาคม 2019 เวลา 00:24:12 อ่าน: 60


บทที่ 5 By My Side (2)




เบนทำหน้าปวดหัวเมื่อเห็นหน้าพนักงานตัวดีของเขา  เพราะวันนี้ไมลส์ไม่ได้มาคนเดียว  มีหมาตัวโตสีขาวตามก้นมาด้วย

"มันจะไม่อึหรือฉี่เลอะร้านฉันแน่นะ"  เขาถาม  พยายามไม่มองดวงตาสีน้ำตาลทองแป๋วแหววที่จ้องเขาอยู่  เหมือนจะตำหนิอยู่ในที  "โอเคๆ  ไม่ต้องมาจ้องแล้ว  แค่อย่ากัดใครก็พอ  และห้ามทำเลอะเทอะด้วย"

"คลาวด์มันรู้เรื่องหรอกน่า  เบน"  ไมลส์ว่า  สั่งคลาวด์ให้นั่งลง

"เออ  เจ้าก้อนเมฆนี่มันก็พูดรู้เรื่องแฮะ"  เบนพูด  นั่งยองๆ ลงข้างคลาวด์ที่มอบอยู่ตรงทางเข้าเคาน์เตอร์ซึ่งไมลส์ยืนนับเงินในเก๊ะอยู่ข้างใน

"ลูบหัวมันได้  มันไม่กัด"  ไมลส์บอก  "แต่อย่าแกล้งดึงหูมันละ"

ไม่ทันขาดคำ  เบนก็สะดุ้งโหยง  ล้มก้นจ้ำเบ้าเพราะโดนเจ้าคลาวด์แง่มเข้าให้  ดีที่มันไม่ได้ตั้งใจจะกัดจริงๆ

"บอกแล้วไง  ว่าอย่าไปทำมัน  --  มา  คลาวด์  มานี่" 

"เธอบอกช้า"  เบนบ่น  เขม่นมองเจ้าหมาขี้อ้อนที่ไปออเซาะไมลส์ให้ลูบหัวแล้ว  แต่มันก็น่ารักดี  "บอกพี่สาวแล้วหรือไง  เอาหมาเข้าบ้านตัวเบ้อเร่ออย่างนี้"

"บอกแล้ว"  ไมลส์ตอบ  ไม่จำเป็นต้องเล่าให้เบนฟังหรอกว่า  จริงๆ บรูคยังไม่เห็นเจ้าคลาวด์เลย  บรูคออกไปทำงานแล้วตอนเธอพามันกลับไปบ้านด้วย  แต่เธอถ่ายรูปมันและส่งไปให้บรูคดูแล้ว  อธิบายแล้วด้วย  แต่พี่คงยังไม่ว่างอ่านเลยไม่ตอบ

"แล้วต้องเอามันมาด้วยทุกวันเลยหรือไง" 

"คงแค่ช่วงแรก"

"เอามาทุกวันก็ได้"

"จะแกล้งมันป่าวเนี่ย"

"งั้นไม่ต้องเอามาเลย  พูดมาก"

"แหม  ทำเป็นน้อยใจ"  ไมลส์แซว  แล้วทำหน้าจริงจัง  "ขอบคุณนะ  ฉันนึกว่าต้องลาออกซะแล้ว"

"ลาออก?  ออกทำไม"

"อ้าว  ทำงานก็ต้องเคารพกฎสิ  ถ้าทำตามกฎไม่ได้  ก็ต้องลาออก  หรือไม่จริง" 

"แปลว่า  เจ้าหมานี่มันสำคัญกว่างานที่นี่หรือไง"

"ไม่หรอก  แต่เพราะมันต้องการฉันไง  อย่างน้อยก็ช่วงแรกๆ ที่มันยังไม่คุ้นกับบ้าน  และฉันก็ดันไปสัญญากับคุณตาไว้แล้วซะด้วยสิ" 

"เออ  ก็ตามนั้นแหละ"  เบนพูด  ไม่รู้จะบ่นให้ได้อะไร  ยังไงก็ยังดีกว่าไมลส์ลาออกไป  ตั้งแต่ไมลส์มาอยู่ที่นี่  ยอดขายหนังสือดีขึ้นเยอะเลย  ท่าทางลูกค้าจะชอบเด็กหน้ามึน

"เฮ้  ไมลส์  คนนั้นไปไหน"

"คนไหนอะ"  ไมลส์งง  จนกระทั่งเบนยื่นโทรศัพท์มือถือของเขามาให้ดู  มันโชว์ภาพของผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งแน่นอนว่าเธอจำได้ว่าใคร

"เขาแท็กเธอ  เห็นไหมล่ะ  ขนาดไปถึงปารีส"  เบนบอก  รับโทรศัพท์คืนมาจากไมลส์ที่ดูจะไม่ได้สนใจไอจีของดาราสาวทั้งที่มันติดแท็กตัวเอง  เขาว่าจะแซวน้องสักหน่อย  แต่ไมลส์เฉยจนเขาหมดสนุก  ต้องไปหาอย่างอื่นทำแก้เซ็ง

เบนห่างจากสายตาไปแล้ว  ไมลส์จึงล้วงโทรศัพท์มือถือตัวเองจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดดู  นิ้วชี้เขี่ยหาไอคอนแอปพลิเคชั่นนั้นที่ไม่ได้ใช้มานานมากจนลืมว่ามันอยู่ตรงไหน  โชคดีที่ยังไม่ลืมวิธีใช้มัน  แม้มันจะอัปเดตเป็นเวอร์ชั่นใหม่แล้ว

เทียไม่เพียงอัปเดตรูปภาพขึ้นในอินสตาแกรมของตัวเองและติดแท็กเธอ  แต่ส่งข้อความมาด้วย  ข้อความที่เธอเห็นเพียงคนเดียว
"ฉันถึงปารีสแล้ว  สบายดี  แค่อยากบอกให้รู้น่ะ  แล้วจะส่งรูปวิวสวยๆ มาให้ดู  อย่าลืมฟอลโล่วฉันด้วยนะ  คุณชายดาร์ซี่" --  เทีย

"คุณชายดาร์ซี่?"  ไมลส์ทวนชื่อนั้นที่ติดอยู่ในหัวเธอที่ใดสักที่  ที่สุดก็ยิ้มออกมา  "Pride and Prejudice ของ Jane Austen  อ่านหนังสือแบบนี้เป็นด้วยเหรอเนี่ย"

เธอส่ายหัวเบาๆ  ไม่คิดว่าคนแบบเทียจะชอบอ่านหนังสือ

ไมลส์กดฟอลโล่วเทียในอินสตาแกรมเรียบร้อยแล้ว  เธอคิดจะตอบข้อความเทียกลับไปบ้าง  แต่ก็มัวคิดนานไปหน่อย  พอลูกค้ามาจ่ายเงินค่าหนังสือ  เธอจึงต้องรีบเอาโทรศัพท์เสียบเก็บใส่กระเป๋าหลังกางเกงยีน  แล้วก็ลืมมันไปเลย

.................................................

บรูคเพิ่งจะได้พักหลังจากยุ่งมาทั้งวัน  เธอจึงเพิ่งจะได้มีเวลาเดินมาโรงอาหารและสั่งกาแฟสดดื่มกับโดนัทสักชิ้น  สนใจโทรศัพท์มือถือ  จึงได้เห็นว่าไมลส์ส่งอะไรมาให้ดู

"ตายละ  ไมลส์"  เธออุทาน  โดนัทในปากแทบร่วง

"อุ๊ย  น่ารัก"  โรบินพูด  เพราะยืนอยู่เลยเห็นรูปสุนัขสีขาวกับไมลส์ในโทรศัพท์บรูคโดยบังเอิญ  "ฉันไม่ได้แอบดูนะคะ  มันเห็นเอง"

"ไม่ใช่ความลับอะไรหรอกค่ะ"  บรูคส่ายหน้า  พยักพเยิดให้อีกฝ่ายนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่าง  เธอเพิ่งเห็นว่าโรบินก็มีกาแฟกับโดนัทหนึ่งชิ้นมาด้วยเหมือนกัน  "ไมลส์รับหมาที่เคยรับจ้างจูงมาเลี้ยงที่บ้านน่ะ"

"หืมม์?"  โรบินฮัมเสียงสูง  ประหลาดใจ

"จากที่เขาบอก  เห็นว่าคุณตาเจ้าของสุนัขจะต้องไปอยู่บ้านพักคนชราน่ะค่ะ"

"ไมลส์นี่ใจดีจัง"

"วุ่นวายน่ะสิไม่ว่า"  บรูคบ่นงึมงำใส่โดนัทที่กัดใส่ปากกิน  แซนด์วิชที่ไมลส์ทำให้เมื่อเช้าย่อยไปหมดแล้ว

"แล้วเอาไปทำงานที่ร้านหนังสือด้วยเหรอ"

"ค่ะ  เห็นบอกว่าเบนไม่ว่าอะไร  มันไม่ดื้อน่ะ"

"คุณเคยเจอเขาแล้วเหรอ  เอ่อ  ฉันหมายถึงหมาน่ะ"  โรบินชี้แจงทั้งที่ไม่จำเป็น  "ไมลส์เคยพาไปเล่นด้วยเหรอคะ"

"ไม่เคยค่ะ  ฉันแค่เคยขับรถผ่านเวลาเขาออกไปเดินจูงมันกับหมาอีกสองตัว  ไม่บ่อย  ส่วนใหญ่เขาจะพาพวกมันเดินเล่นในสวนสาธารณะ"

"เขาก็ดูเหมือนเด็กวัยรุ่นขยันๆ คนหนึ่ง" 

บรูคคิ้วกระตุกเมื่อได้ยินโรบินวิจารณ์น้องสาว  เธอไม่ค่อยชอบให้ใครมาตัดสินหรือวินิจฉัยว่าไมลส์เป็นอะไร  ไมลส์อาจจะเจ็บป่วยทางจิตใจ  แต่เธอยังหวังว่าตัวเองจะช่วยน้องเองได้  และทุกวันนี้ไมลส์ก็ดีขึ้นมากแล้ว 

ตั้งแต่เลิกไปหาหมอที่ลุงแฟรงก์แนะนำนั่นแหละ

"ฉันแค่อยากจะบอกคุณว่า  น้องคุณปกติดี"  โรบินพูดต่อเหมือนอ่านท่าทางบรูคออก  เธอยกกาแฟร้อนขึ้นจิบ  เมินสายตาไม่ชอบใจของบรูคที่ไม่คิดจะปิดบังเลย  ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวกับไมลส์  นี่ไม่ได้เลยจริงๆ  "โอเค  ถ้าคุณไม่ชอบ  ฉันไม่พูดก็ได้"

"เขาเคยร่าเริงกว่านี้ตอนพ่อแม่เรายังอยู่"  บรูคเอ่ยขึ้นเอง  เธอยิ้มให้โรบิน  อับอายและรู้สึกผิด  "บางทีเขาอาจจะแค่โตขึ้น"

"เขาอยากให้คุณสบายใจค่ะ"  โรบินบอก  "เพราะคุณก็มีเรื่องของตัวเองเหมือนกัน  เขารักคุณ  เขาเลยพยายามไม่ทำตัวให้เป็นภาระคุณ"

"แต่เขาเอาหมามาเลี้ยง"  บรูคพูด  แล้วส่ายหน้า  "ช่างเถอะ  แค่หมาตัวเดียว  จะอะไรนักหนาเชียว"

"ที่จริง  ฉันไม่อยากเห็นด้วยเรื่องสัตว์เลี้ยงเลยนะ  เพราะอะไร  คุณรู้ใช่ไหม"

"เพราะมันจะตายก่อนเรา"

"ค่ะ  และในเคสของไมลส์  ฉันไม่แน่ใจว่าเขาจะ..."  โรบินไม่พูดต่อให้จบ  เพราะบรูคย่อมเข้าใจดีอยู่แล้ว 

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ  ฉันคิดว่าเขาเข้มแข็งพอ"

"เพราะเขามีคุณ"

บรูคส่ายหน้ากึ่งยิ้ม  ถึงจะเป็นคำเดียวกับที่ไมลส์บอกเธอเมื่อคืน  แต่ความรู้สึกมันต่างกัน  ทำไมเธอถึงเขินโรบินได้นะ  ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะต้องเขินสักหน่อย

ทำทีเป็นดูนาฬิกาข้อมือและลุกขึ้นยืน  รวบแก้วกาแฟและขยะมาไว้ในมือ  "ฉันไปก่อนนะ  มีงานรออีกเพียบเลย"

"ถ้าฉันพูดอะไรผิด  ฉันขอโทษนะ  บรูค"  โรบินพูดก่อนที่บรูคจะเดินจากไป  อีกฝ่ายจึงเหลียวกลับมามองเธองงๆ  เธออายยังไงไม่รู้เวลาถูกมองแบบนี้  แต่เธอไม่ใช่เด็กวัยรุ่นแล้วนะ 

"ฉันก็แค่พูดตามที่ฉันคิด  ถ้าคุณไม่ชอบก็ไม่เป็นไร"

"ฉันชอบค่ะ  ขอบคุณ"  บรูคตอบ  อมยิ้มน้อยๆ  แล้วจึงหันกลับไปเดินต่อ  ไม่รู้ว่าคนที่มองตามหลังจะหน้าแดงไปถึงไหนถึงไหนแล้ว

................................................

"ไมลส์คุยกับใคร"  มินนีสะกิดถามไมลส์ที่กำลังทำแซนด์วิชเนยถั่วให้อยู่  วันนี้เอลล่ากลับช้า  ไมลส์จึงต้องเป็นคนทำอาหารเย็นให้  แต่ไมลส์ก็เอาแต่คุยกับใครไม่รู้อยู่นานแล้ว 

"เพื่อน"  ไมลส์ตอบ  ย่นคิ้วเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะในหูฟังบลูทูธ

"ทำไมเหรอ  แฟนเจ็ดขวบของเธอหึงขึ้นมาหรือไง"  เทียแซว 

"แฟนอะไรล่ะ  เด็กผู้หญิง"

"อ๋อ  ชอบเด็กผู้ชาย"

"ฉันจะวางสายแล้วนะ  ถ้าเธอพูดไม่รู้เรื่อง"

"โธ่  แค่นี้ก็ต้องดุ"

"ก็ดึกแล้วไม่ใช่เหรอ  ที่นั่น  นอนได้แล้ว"

"ก็ได้  พรุ่งนี้ฉันมีงานเช้าด้วย  เสร็จแล้วก็กลับเลย  แต่ไม่ได้กลับนิวยอร์ก  จำได้ใช่ไหม  บอกให้ชื่นใจหน่อยสิ  ว่าเธอจำได้"

ไมลส์ขมวดคิ้ว  แต่ไม่รู้สึกหงุดหงิดอย่างที่ควรจะรู้สึก  เธอว่าเทียน่ารำคาญ  ชอบตอแย  หากก็ไม่ได้รำคาญอะไรสักเท่าไหร่  สนุกดีด้วยซ้ำ

"ว่ายังไงล่ะ  ไม่งั้นฉันไม่วางนะ"

"เธอจะไปถ่ายหนังที่แอลเอต่ออีกประมาณหนึ่งเดือน"

"ใช่  แต่ถ้าวันไหนหยุด  ฉันจะบินกลับไปหาเธอนะ  หรือเธอจะมา"

"ฉันไม่ว่าง"  ไมลส์พูด  เหนื่อยใจ  เหลือบมองมินนีที่ตอนนี้ไปเล่นกับเจ้าคลาวด์แทนแล้ว  เธอต้องหอบเจ้าก้อนเมฆบก (Land Cloud) มาด้วย  เพราะมันยังกลัวที่จะอยู่บ้านคนเดียว  โชคดีที่เอลล่าไม่ว่าอะไร

"งั้นฉันไปเองก็ได้"

"เธอจะมาทำไม  วันหยุดก็พักผ่อนสิ"

"เป็นห่วงฉันเหรอ"

"คิดแบบที่เธอสบายใจเถอะ"

"ไมลส์  ฉันจะโกรธเธอแล้วนะ"

"งั้นก็วางสายสิ  ฉันจะได้เอาของกินไปให้เจ้านายตัวน้อย"

"ก็ได้  สักวันฉันจะจ้างเธอมาเป็นพี่เลี้ยงส่วนตัวให้ได้เลย  คอยดูสิ  แพงเท่าไหร่ก็ยอม"

ไมลส์แค่หัวเราะในลำคอ  ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเทียให้เหนื่อย  จนคนความอดทนน้อยตัดสายไปโดยไม่ลา  เธอรู้สึกผิดนิดหน่อย  น่าจะพูดดีๆ กับเทียที่อุตส่าห์โทรข้ามประเทศมาหา  ถึงจะเป็นเฟซไทม์ที่โทรฟรี  แต่เทียไม่จำเป็นต้องโทรหาเธอก็ได้นี่นา  --  เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย

"อ้าว  หลับไปซะแล้ว"  ไมลส์ยิ้ม  มองมินนีซึ่งนอนหลับอยู่บนพรมในห้องนั่งเล่นข้างๆ เจ้าคลาวด์ที่ลืมตามามองเพราะได้กลิ่นแซนด์วิชเนยถั่ว  ไมลส์วางจานแซนด์วิชลงบนโต๊ะกาแฟ  และล้วงถุงขนมของคลาวด์มาให้มันแทน  "สี่เม็ดพอ  กินมากจะอ้วน  รู้ไหม"

คลาวด์ทำหน้าเหมือนจะไม่ยอม  หากมันก็ไม่ตอแยไมลส์คล้ายกับจะรู้ว่าไมลส์ไม่ใช่ตาคลากส์  และไมลส์จะไม่ชอบถ้ามันดื้อ 

"นอนตรงนั้นแหละ  ไม่ต้องลุกมา  ฉันไม่ได้จะไปไหน  ถ้าจะกลับก็จะพาแกไปด้วย  ฉันจะไม่ทิ้งแก  บอกแล้วไง"  ไมลส์พูด  เอื้อมมือมาลูบหัวคลาวด์  มันครางหงิงๆ เบาๆ  เสียงฟังดูเศร้าอย่างบอกไม่ถูก  มันคงจะคิดถึงตาคลากส์  ป่านนี้คุณตาก็คงจะคิดถึงมันเหมือนกัน

"อ้าว  หลับกันหมดเลยเหรอ  ไมลส์"  เอลล่าเปิดประตูเข้าบ้านมาเจอลูกสาวตัวเองนอนหลับอยู่กับสุนัขสีขาวสะอาด  ไมลส์นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ  บนโต๊ะมีจานแซนด์วิชที่ยังไม่ได้รับการแตะต้อง

"สงสัยจะชอบเพื่อนใหม่"  ไมลส์ตอบขำๆ  มองมินนีหลับอย่างนึกเอ็นดู  "เอ่อ  แล้วแบบนี้ถ้าคลาวด์ไปแล้วจะร้องไห้ไหมคะ"

"ไม่หรอกค่ะ  มินนีโตแล้ว"  เอลล่ายืนยัน  "ไมลส์ไปเถอะ  กลับช้าจะอันตราย  มันมืดแล้ว"

"วันนี้ฉันมีเพื่อนค่ะ"  ไมลส์ตอบ  เก็บของใส่กระเป๋าเป้แล้วลุกขึ้น  ผิวปากหนึ่งครั้งแบบที่ใช้ประจำเวลาเรียกคลาวด์  รวมถึงสุนัขอีกสองตัวที่เธอจูงในทุกเช้า

"ไมลส์  พรุ่งนี้ฉันหยุด  ไมลส์อยู่บ้านพักผ่อนก็ได้นะ"  เอลล่าร้องบอกขณะเดินมาส่งไมลส์ตรงประตู  พลางมองสุนัขซามอยด์ตัวโตแต่หน้าตาไม่น่ากลัวเลย  มันน่ารักมากต่างหาก

"ค่ะ  แล้วเจอกันวันมะรืนนะคะ"  ไมลส์ตอบ  จูงคลาวด์ออกเดินกลับบ้าน  เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงดัง  เธอดึงมันขึ้นมาดู  ย่นคิ้วให้กับข้อความในนั้น  แต่อมยิ้มไปด้วย 

"กลับถึงบ้านแล้วบอกด้วยนะ  ไม่งั้นโกรธ"               




...............................


อีกครึ่งตอนจ้า   :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

01 พฤษภาคม 2019 เวลา 08:58:11
มีสาวมาตามจีบ ไม่รีบก็ไว้ตัวหน่อย ดูมีคุณค่ายังไงพิกล
แสดงความคิดเห็น