กระดาษกั้นใจ yuri ตอนที่ 14
โพสต์โดย:
meAyou
วันที่: 25 เมษายน 2019 เวลา 10:22:55
อ่าน: 44
|
ในที่สุดก็ถึงวันที่พนักงานทุกคนรอคอยนั่นก็คือการได้มาพักผ่อนประจำปีที่บริษัทออกงบประมาให้ทั้งหมด เป็นการเชื่อมสัมพันธ์ในที่ทำงานให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ทุกคนดูมีความสุข แต่! ไม่ใช่คนที่ถูกใช้งานเยี่ยงทาสอย่างสมิตรา... "เหนื่อยชะมัด!" เสียงบ่ยพึมพำกับคตัวเองดังขึ้นเมื่อรู้สึกล้ากับการแบกยกกระเป๋าที่ไม่ใช่หน้าที่แต่ก็ถูกบังคับให้ทำ คนยกกระเป๋าก็มีแต่ดันมาให้เธอทำแบบนี้มันจงใจแกล้งกันชัดๆ "ทำไมคุณถึงมาแบกกระเป๋าอยู่ตรงนี้ล่ะคะ" น้ำเสียงตกใจระคนแปลกใจของใครบางคนทำให้คนที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับสัมภาระที่เกินตัวต้องหันไปมองพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ไปให้ "พอดีคนยกของไม่พอน่ะค่ะก็เลย เอ่อ ก็เลย?" "พวกนั้นเอาอีกแล้วใช่มั้ยคะ" เรื่องที่รู้ๆ กันอยู่แล้วถูกเอ่ยออกมาให้สมิตราได้เกิดอาการตกใจเพราะไม่คิดว่าจะมีคนรู้ในเรื่องนี้ แล้วถ้าเลขารู้คนเป็นเจ้านายจะรู้ด้วยหรือเปล่านะ "คุณเลขารู้" "ก็พอจะดูออกค่ะ" "แล้วเอ่อ แล้วพี่ยิกา..." "ฉันไม่ได้รายงานเรื่องนี้ค่ะ" "โล่งอกไปที" "ทำไมล่ะคะอันที่จริงคุณน่าจะบอกคุณฐายิกาจะได้จัดการ" "เจ้านายคุณงานเยอะจะตายฉันไม่กล้าหางานมาเพิ่มให้หรอกค่ะ" "แต่..." "ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ" สมิตราเปิดยิ้มกว้างก่อนจะจัดการลากข้าวของพะรุงพะรังไปต่อต้องรีบจัดการกับเจ้าพวกนี้ให้เสร็จจะได้รีบไปหาฐายิกาเสียที รอยยิ้มเปิดออกเมื่อเดินเข้าห้องมาพบว่าใครบางคนกำลังหลับอยู่ สมิตราก้าวเดินด้วยความระมัดระวังเพราะไม่อยากทำให้คนหลับตื่นและเธอเองก็ยังอยากจะมองใบหน้านี้เวลาหลับด้วยเช่นกัน "สวยจัง" ประโยคสั้นๆ ถูกคัดออกมาจากข้อความชื่นชมมากมายในหัวหากแต่ในความเป็นจริงกลับมีเพียงถ้อยคำสั้นๆ นี้เท่านั้นที่เล็ดลอดออกมาได้ ฐายิกาจะรู้ตัวบางไหมนะว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่น่าหลงใหลมากแค่ไหน แล้วจะรู้ไหมนะว่าเด็กน้อยที่เจ้าหล่อนบอกน่ารำคาญคนนี้หลงใหลคนตรงหน้ามากขึ้นทุกวัน ร่างกายที่ขยับของคนนอนทำให้คนแอบมองตกใจไม่น้อยหากแต่ยังดีที่เป็นเพียงการเคลื่อนย้ายร่างกายหากฐายิกาตื่นแล้วพบว่าถูกเธอลอบมองอยู่คงได้โดนดุอีกเป็นแน่ "พี่ยิกาคะตื่นได้แล้วค่ะ" คนเรียกแตะมือลงที่แขนของคนนอนเพื่อปลุกคนหลับให้รู้สึกตัว ดวงตาคู่ปิดสนิทเปิดออกช้าๆ พร้อมกับจ้องมองไปยังคนปลุกที่ส่งยิ้มละมุนมาให้มันดูน่ารักจนทำให้คนงัวเงียเผลอเปิดยิ้มตอบกลับแต่เมื่อสลัดความง่วนงุนออกไปจนหมดฐายิกาก็เหมือนคิดอะไรได้รอยยิ้มที่หวงแหนจึงถูกเรียกเก็บคืนอย่างรวดเร็ว "เข้ามาได้ยังไง" "ก็ใช้คีย์การ์ดเปิดไงคะ" "เธอจะมีได้ยังไงนี่มันห้อง?" ไม่ทันได้พูดจบสมองก็สามารถประมวลผลได้แล้วและเพียงเหลือบเห็นกระเป๋าที่รู้ว่าเจ้าของคือใครก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำคำตอบว่าถูก "ฉันจำได้ว่าจองห้องแยกให้เธอต่างหากแล้ว" "ใช่ค่ะ" "แล้วทำไมไม่ไปอยู่ห้องตัวเอง" "จะอยู่ได้ยังไงคะห้องตั้งกว้างน่ากลัวจะตาย" คนพูดทำท่ากลัวแบบจริงจังหากแต่คนรู้ไส้รู้พุงมีหรือจะเชื่อและเพียงถูกจ้องมองคนทำท่าเกินจริงก็หยุดทุกสิ่งทุกอย่างลงก่อนจะทำเพียงส่งยิ้มอ้อนให้คนหน้าดุเท่านั้นแม้จะรู้ว่าไม่น่าจะได้ผลแต่ก็ยังอยากที่จะลองทำ เผื่อว่ามันจะได้ผลให้ใครบางคนใจอ่อนลงได้บ้าง "ฉันจะพูดอีกครั้ง?" "คะ?" "ออกไป" น้ำเสียงแข็งถูกเอ่ยออกมาให้คนฟังได้ใจเสียแต่คนอย่างสมิตรามีหรือจะยอมล่าถอยไปง่ายๆ เธอยังมีไม้ตายอีกอย่างอย่าลืมสิ "คุณลุงกับคุณป้าก็บอกว่าให้เรานอนด้วยกัน" "?????" "เพราะฉะนั้นคงขัดคำสั่งท่านไม่ได้" "กล้าเอาพ่อกับแม่มาขู่ฉันงั้นเหรอ" "หรือจะให้โทรหาตอนนี้เลยคะ" "นี่เธอ!" ฐายิกาล่ะเกลียดสถานการณ์แบบนี้จริงๆ เพราะท้ายที่สุดบทสรุปของมันก็คือเธอที่แพ้ "จะนอนที่ไหนก็ตามใจแต่อย่ามาวุ่นวายกับฉันก็แล้วกัน" ในที่สุดก็ได้ในคำตอบที่ต้องการสมิตราเปิดยิ้มออกมาแม้ใครอีกคนจะเดินตูดบิดเข้าห้องน้ำไปแล้วก็ตามแต่ก็ยังไม่สามารถทำลายอารมณ์ดีๆ ของเธอไปได้ ได้นอนห้องเดียวกับฐายิกาในบรรยากาศที่แตกต่างจากเดิมแค่คิดก็ฟินแล้ว กีฬา? เป็นสิ่งที่สมิตราไม่นึกจะเฉียดใกล้เลยสักนิดแต่อะไรที่เราไม่ชอบก็มักจะได้ทำเสมอและครั้งนี้ก็ไม่น่าจะเลี่ยงได้เมื่อคนออกคำสั่งเป็นหัวหน้างานที่เห็นได้อย่างชัดเจนว่าไม่ชอบขี้หน้ากัน วิ่งสามขา! ลำพังเดินสองขาก็สะดุดนั่นสะดุดนี่อยู่แล้วหากเพิ่มมาอีกขาไม่หน้าทิ่มทุกครั้งที่ก้าวเดินเลยเหรอ "เร็วๆ สิชักช้าอยู่ได้" สมิตรามองคนที่เอ่ยเรียกอย่างแปลกใจ อย่าบอกนะว่าเธอต้องคู่กับผู้หญิงคนนี้ คนที่อยู่ในกลุ่มแกล้งเธอมาตลอด มันจะดีเหรอ? "เดี๋ยวฉันมัดเอง" ใครอีกคนเอ่ยบอกเมื่อสมิตราทำท่าจะก้มลงไปผูกเชือกและเพราะไม่อยากจะมีปัญหาเชือดในมือจึงถูกส่งไปยังคนพูดทันที
และเมื่อทุกคู่พร้อมการแข่งขันก็เริ่มขึ้นทันทีทุกอย่างดูคึกครื้นสนุกสนทนด้วยเสียงเชียร์จากด้านข้างสนามหากแต่ก่อนจะถึงเส้นชัยก็ดันเกิดเรื่องที่คาดไม่ถึงเข้าจนได้ สมิตราถูกแรงกระแทกจากผู้ร่วมทีมอย่างจังจนล้มกลิ้งไปกับพื้นดินโดยเชื่อที่มัดไม่มีผลอะไรเมื่อมันหลุดทันทีที่เธอเซออกห่างจากคนข้างๆ รอยยิ้มนั้นเธอเห็นมันแม้เพียงแว๊บเดียวแต่ก็มั่นใจว่าเจ้าของมันจงใจที่จะทำแบบนี้แน่ๆ จะเล่นแรงเกินไปแล้วนะ! ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งเข้ามาช่วยคนล้มที่โชคยังดีมีเพียงแผลถลอกหากแต่ดูเหมือนโชคร้ายจะลอยไปหาใครบางคนเพราะเหตุการณ์ทุกอย่างมันประจักแก่สายตาอย่างชัดเจน "ถอยไปให้หมด!" น้ำเสียงทรงอำนาจดังขึ้นหยุดทุกการก้าวเดินได้ราวกับถูกสาปให้เป็นหินหากแต่ดวงตากลับตวัดกลับไปจ้องคนออกคำสั่งแต่เพียงครู่เดียวทุกคนก็ต่างพากันหลบเลี่ยงการปะทะสายตาก้มมองพื้นดินจนหมด ดูเหมือนว่าผู้บริหารของพวกเขาจะไม่พอใจกับอะไรบางอย่างและในเวลานี้ก็มีอยู่เรื่องเดียวนั่นก็คือเด็กฝึกงานที่ล้มลงเพราะอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา "ลุกไหวมั้ย" น้ำเสียงแข็งอ่อนลงเมื่อเจ้าของมันหันไปเอื้อนเอ่ยกับคนเจ็บที่ส่งสายตาออดอ้อนมาให้ ท่าทางจะเจ็บมากสินะถึงได้น้ำตาคลอออกมาให้เห็นแบบนั้น "เดี๋ยวผมช่วยครับ" ด้วยเพราะเป็นหัวหน้างานแม้จะไม่อยากทำแต่เมื่อคนตำแหน่งสูงอยู่นี่ก็ต้องมีการเอาหน้าเสียหน่อย มือที่กำลังจะเอื้อมไปจับคนเจ็บถูกปัดออกพร้อมกับการถูกมองแรงที่ทำเอาคนอยากเอาหน้าถึงกับเหงื่อตกก่อนจะคอยๆ ถอยออกห่างทีละก้าว "ผมแค่?" "ถ้าฉันไม่สั่งก็อย่ามายุ่ง" "แต่แค่คุณฐายิกาคนเดียวจะแบกยัย เอ่อน้องนักศึกษาฝึกงานนี้ได้ยังไงครับ" "มันก็เรื่องของฉันห่วงเรื่องตัวเองก่อนเถอะอย่าคิดนะว่าฉันไม่เห็น" ฐายิกาเอ่ยเสียงเหี้ยมพร้อมกับไล่สายตาไปยังคนกระทำความผิดทีละคนให้พากันหลบเสี่ยงแทบจะทันทีที่ถูกจ้องมอง "คุณเลขามาช่วยฉันหน่อย" "ค่ะ" เลขาคนสนิทรีบแหวกออกจากฝูงชนออกมาทันทีเมื่อถูกเรียกตัวจากนั้นคนเจ็บก็ถูกประคองพากลับห้องโดยมีสายตาคู่ไม่พอใจมองจ้องไม่วางตา กับแค่เด็กฝึกงานมันจะสำคัญอะไรกันนักกันหนา ยิ่งได้เห็นการดูแลและเอาใจจากผู้เป็นนายก็ยิ่งทำให้ต่อมอิจฉาริษยาเดือดปุ๊ดๆ ครั้งหน้าจะเล่นงานให้หนักเลย คอยดู!
มาถึงห้องสมิตราก็ถูกจับทายาทันทีและด้วยความแสบที่แผลเจ้าตัวจึงแทบจะร้องลั่นออกมาทุกครั้งที่น้ำสีเหลืองแตะโดน "แสบจังไม่ทาแล้วได้มั้ยคะ" "ไม่ได้" "แต่เค้าทรมาน" "แล้วไม่อยากหายหรือไง" "ก็อยากแต่?" "ทนเอา" "ใจร้าย" คนพูดเอ่ยหน้าเศร้าก่อนจะแบะปากน้ำตาคลอกเพราะความแสบที่เพิ่มมากขึ้นทุกที "เป็นเด็กหรือไงแค่นี้ถึงกับร้องไห้" "เค้าเจ็บนิไม่ใช่ตัว" "งอแงอยู่ได้" ฐายิกาทายาที่แผลสุดท้ายก่อนจะส่งยาคืนให้กับเลขาคนสนิทดวงตาคู่ดุจับจ้องไปยังคนงอแงที่ทำหน้าราวกับโกรธกัน นี่ตกลงเธอเป็นคนผิดสินะ "นึกว่าอยู่ที่บ้านหรือยังไง" "????." "อยู่ที่นี่ไม่มีคนเอาใจหรอกนะ" "????" "น่ารำคาญจริงๆ" พูดจบคนพูดบ่นก็ค่อยๆ เบาลมที่แผลของคนตรงหน้าความเย็นทำให้ความแสบคลายลงได้บ้างแม้ไม่มากหากแต่ก็ทำให้เด็กดื้อละความโกรธเคืองไปจนหมดสิ้น "ตัวน่ารักจัง" "เธอบอกว่าฉันใจร้าย" "ก็เมื่อกี้ตัว?" "หยุดชวนคุยได้แล้วถ้าพูดกับเธอฉันจะเป่าแผลได้ยังไง" "??????" ฐายิกาก้มลงเป่าแผลที่ใส่ยาอีกครั้งให้คนเจ็บได้หน้าแดงเพราะความอ่อนโยนที่คาดไม่ถึง หากฐายิกาทำแบบนี้ตั้งแต่แรกเธอคิดว่ายาเหลืองๆ นี่ก็ไม่จำเป็นแล้วล่ะเพราะเธอมียาที่ดีที่สุดในโลกอยู่ใกล้ๆ นี้แล้วยังไง
|
Rating: This article has not been rated yet.
|
|
ความคิดเห็น
|