web stats

ข่าว

 


AGENT K.(Trick or Treat) Vol.2 - บทที่ 7 Deep

โพสต์โดย: anhann วันที่: 31 มีนาคม 2019 เวลา 22:05:40 อ่าน: 113






บทที่ 7 Deep





ทุกคนดูหลอกลวงไปหมด  ทุกคนโกหกเก่ง  เธอเองก็ด้วย  แต่เธอยังพอหวังความจริงจากใครคนหนึ่งอยู่ได้ไหม  เธอภาวนาให้คาโรลีนยังคงเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาเหมือนเด็กสาวที่เธอเคยเจอที่เกาหลีใต้คนนั้น

เคย์ครุ่นคิดเรื่องของตัวเองจนเกือบลืมสนใจความเปลี่ยนแปลงของศพที่นายแพทย์รอยด์กำลังชันสูตรอยู่กับผู้ช่วยชายของเขา  แต่เรื่องเกี่ยวกับศพคงเป็นหน้าที่ของเดน่าส์มากกว่า  เธอดูไปก็ใช่จะรู้เรื่อง  เธอจำเป็นต้องอยู่ที่นี่เพราะนักสืบแกรมห์ยังปักหลักอยู่ที่นี่ราวกับร่างไร้วิญญาณของฮิกสันจะลุกขึ้นมาบอกได้ว่าใครเป็นผู้สังหารหล่อน

ผู้ตายชื่อ "ลอร์เรน  ฮิกสัน" เป็นครูสอนโยคะ  ปกติแล้วหลังจากสอนเสร็จในทุกวันเธอจะตรงกลับบ้านทันที  ผู้ร่วมงานของเธอในโรงเรียนให้การตรงกันทุกคน  พวกเขายืนยันว่าฮิกสันไม่ใช่คนชอบเที่ยวเตร่เพราะเวลาชวนไปไหน  เธอจะปฏิเสธทุกครั้ง  เธอบอกว่าต้องรีบกลับบ้านไปเลี้ยงแมว  แต่บางวันเธอก็จะบอกว่าต้องแวะซุปเปอร์ฯ สักหน่อย  เพราะของกินของคนและแมวหมดแล้ว  บางวันจะมีเพื่อนร่วมงานสาวๆ อีกคนขอไปกับเธอด้วย  พอซื้อของเสร็จแล้วก็แยกย้ายกันไป  เรเชลเพื่อนร่วมงานคนนั้นเป็นคนเล่า

แล้วตอนนี้แมวน่าสงสารนั่นอยู่ที่ไหนล่ะ  เคย์สนใจเรื่องนี้มากพอกับฮิกสันไปเกี่ยวข้องกับเทพีผู้ล้างแค้นฆาตกรได้อย่างไร 

วันที่ฮิกสันเสียชีวิต  เพื่อนบ้านของเธอในอพาร์ตเมนต์คาดการณ์ว่าเธอคงออกไปดื่มกับใครสักคน  และคงจะไม่กลับบ้านด้วย  เพราะเธอเอาแมวมาฝากไว้  โดยสัญญาว่าตอนเช้าจะมารับกลับ  เพื่อนบ้านจึงไม่เอะใจที่เธอไม่กลับมาในคืนนั้น  จนกระทั่งตำรวจไปสอบถามจึงได้รู้ว่าฮิกสันไม่อาจทำตามสัญญาได้อีกต่อไป

แปลว่าแมวคงยังอยู่กับเพื่อนบ้านสินะ

เลิกสนใจแมวสักที  เคย์! 

คำพูดของเพื่อนบ้านค้านกับคำให้การของผู้ร่วมงานฮิกสันราวกับหนังคนละม้วน  ดูเหมือนฮิกสันคนถ้ำคนนั้นจะไม่มีอยู่จริง  เพราะเพื่อนบ้านคนเดียวกันยืนยันว่า  ฮิกสันมักจะออกไปจากห้องเสมอ  ราวๆ สองสามทุ่มและกลับเข้ามาอีกทีตอนเที่ยงคืน  เพื่อนบ้านรีบออกตัวว่าที่รู้เรื่องของฮิกสันขนาดนี้ไม่ใช่เพราะเป็นคนชอบสอด (ป้าน่ะชอบสอดของแท้) แต่เพราะตนอายุมากแล้วจึงนอนไม่ค่อยหลับ  จึงมักจะมานั่งเล่นในห้องโถง  ดูทีวีไปเรื่อยเปื่อยทุกวัน  เวลาได้ยินเสียงคนไขกุญแจห้องหรือเดินผ่านห้องก็ลุกขึ้นมาดูแต่ไม่ใช่ทุกครั้งเพราะตนหัวเข่าไม่ดี  และตนมีสุนัขพันธุ์ยอร์ชเชียร์  เทอร์เรียตัวผู้แก่ง่อมอยู่ตัวหนึ่งแต่ยังแข็งแรง  มันจะคอยเห่าเวลามีคนอื่นที่ไม่ใช่ในอพาร์ตเมนต์เข้ามา  ทำให้ตนซึ่งบางทีผล็อยหลับไปสะดุ้งตื่นทุกครั้ง  แต่เจ้าลีโอ (หมา) มักจะเห่าทุกครั้งที่เห็นฮิกสัน (ห้องฮิกสันอยู่ตรงกันข้ามห้องคุณป้า) ตนเชื่อว่าเจ้าลีโอเห่าลอร์เรนหรือฮิกสันตลอดเพราะต้องการจะทักทายเธอ  หรืออยากจะให้พาเจ้าแชปปี้ (แมวฮิกสัน) มาเล่นด้วย   เจ้าลีโอเป็นมิตรกับเจ้าแชปปี้  พวกมันไม่เคยทะเลาะกันเลยเวลาฮิกสันเอามาฝาก

ขอให้แชปปี้ยังอยู่กับคุณป้าละกัน

"คุณคิดว่าไงคะ  เอเจนท์" 

เคย์ทำหน้าขึงขังขึ้นมาทันทีที่ถูกถาม  แม้จะไม่ได้ฟังคำถามสักนิด   

"คุณคิดว่าคนที่เธอนัดมีสิทธิ์ที่จะเป็นคนร้ายไหม"  นักสืบแกรมห์ถามซ้ำตามประสาคนใจร้อน  ทำให้เคย์ได้อานิสงส์ไปด้วย

"คุณรู้หรือยังว่าเธอนัดกับใคร"

"เรากำลังสืบค่ะ"

เคย์ฮัมรับ  แตะคางครุ่นคิด  คราวนี้คิดเรื่องคดีจริงๆ  ไม่ใช่เรื่องแมว  หรือคาโรลีน  นัยน์ตาคมชำเลืองไปทางหมอนิติเวชสาวที่ยังสนอกสนใจกับศพราวกับเป็นเดวิด  เบคแฮม  เคย์อยากรู้ว่าเดน่าส์รู้จักมักจี่กับลอร์เรนมากน้อยเพียงใด  ทำไมจึงไม่มีอาการเศร้าเสียใจให้เห็นสักนิดเลย

แต่เดน่าส์เก็บอาการเก่ง  เก่งกว่าเธอด้วยซ้ำ

"ขอบคุณค่ะ  ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะคะ"  เคย์พูด  ดูเหมือนจะไม่ทำให้ทีน่าโกรธเธอเหมือนก่อนแล้ว  นักสืบสาวคงจะมองเธอดีขึ้นนิดๆ  แต่ยังคงมีแววไม่วางใจอยู่ในดวงตาที่จ้องเธอเหมือนหนูตื่นภัยตลอดเวลา

"ถ้ายังไงคงต้องขอยืมแฟ้มนี้ไป"

"มันเป็นสำเนาค่ะ  คุณเอาไปเลยก็ได้"

"ขอบคุณมากค่ะ  นักสืบแกรมห์  งั้นฉันลาเลยนะคะ  รบกวนคุณมานานแล้ว"

"ฉันคิดว่าคุณจะหยิ่งกว่านี้ซะอีก"  ทีน่าพูดเหมือนหลุดปาก  แต่ก็ไม่ได้แก้ตัว  "แฟ้มของนิติเวช  รอยด์จะเป็นคนส่งให้หมอมาวิสเอง"

"เยี่ยมเลยค่ะ"  เคย์ตอบ  ฉาบหน้าด้วยรอยยิ้มสุภาพ  เธอกำลังจะจากนักสืบสาวมา  แต่กลับหันกลับไปใหม่  ทีน่าเลิกคิ้วให้เธอ

มันน่าอายนะ  แต่มันจะเสียหายตรงไหน

"คือแมวน่ะค่ะ"

"แมว"  ทีน่าไม่เข้าใจ  แต่พักหนึ่งเธอก็ทำเสียงเหมือนอุทาน  "แมวของฮิกสันน่ะเหรอคะ  ยังอยู่กับคุณนายเชลตันค่ะ"

"เหรอคะ"

"แต่เธอคงจะเลี้ยงมันไม่ไหวหรอกค่ะ  ลำพังสุนัขตัวเดียวเธอก็แทบจะดูแลไม่ไหวแล้ว  เราคงต้องส่งมันไปศูนย์พักพิง  ถ้าไม่มีญาติคนไหนของผู้ตายต้องการ  หรือคุณสนใจ"

"ฉันเลี้ยงสัตว์ไม่ได้หรอกค่ะ"  เคย์ตอบ  นั่นคือเรื่องจริง  เธออยากได้แมวมาตลอด  แต่เพราะเธอไม่ค่อยได้อยู่บ้าน  การปล่อยให้สัตว์เลี้ยงต้องอยู่ตามลำพัง  มันน่าสงสารเกินไปหน่อย  ถึงคุณนายฮัดสันจะแวะมาให้ข้าวมันได้  --  ตอนนี้เธอมีคาโรลีนนี่นา

"บางทีแฟนฉันอาจจะเลี้ยงได้  ฉันต้องไปถามเธอก่อน"

ทีน่าพยักหน้ารับรู้  ดูจะไม่แปลกใจกับการที่เคย์เรียกแฟนว่า "เธอ"  บางทีนักสืบสาวอาจจะดูออกตั้งแต่แรก  จึงตั้งแง่กับเธอตลอด     

เคย์จากทีน่ามาด้วยการค้อมศีรษะให้เล็กน้อย  เดน่าส์สบตาเธอและทำปากขมุบขมิบอ่านได้ว่าให้ไปรอเจอกันข้างนอกเลย  เคย์จึงใช้เวลาระหว่างรอคุณหมอด้วยการอ่านแฟ้มคดีอยู่ในรถ

ร่วมครึ่งชั่วโมง  เดน่าส์ก็เปิดประตูรถเข้ามานั่ง  เคย์ไม่ได้ล็อกรถไว้  เพราะไม่ได้สตาร์ตเครื่องยนต์  เธอลดกระจกฝั่งตัวเองไว้นิดหน่อยระบายลม

"ในกระเพาะเธอไม่มีอะไรนอกจากไวน์  เธอคงไม่ได้กินมื้อเย็น"

"คุณรู้จักเธอหรือเปล่า"  เคย์ถามตรงๆ  "ฉันไม่ได้ปรักปรำคุณ  ฉันแค่อยากรู้  เพราะคุณดูเฉยมาก"

"ไม่ค่ะ  ไม่รู้จัก"  เดน่าส์ตอบ  "พวกเราแต่ละคนแค่ทำงานในหน้าที่ของตัวเอง  ไม่จำเป็นต้องรู้จักกัน  ทุกคนมาด้วยอุดมการณ์เดียวกัน"

"อุดมการณ์  คุณเรียกมันว่า  อุดมการณ์"  เคย์ย้อน  รู้สึกเหมือนนั่งคุยอยู่กับกบฏหัวรุนแรงสักคนหรือผู้ก่อการร้าย  เธอควรทำยังไงต่อไปดี

"คุณจะจับฉันก็ได้นะ  แต่ฉันจะไม่บอกอะไรคุณเลยสักนิด"

"อย่าท้าฉันค่ะ  คุณหมอ"

เดน่าส์ยักไหล่  ไม่ใส่ใจคำขู่ของเคย์  สายลับสาวจึงโยนแฟ้มไปเบาะหลัง  สตาร์ตรถและขับออกไปเงียบๆ  ขณะที่เดน่าส์ปีนกลับไปเอาแฟ้มมานั่งอ่านอย่างถือวิสาสะ  เคย์เห็นว่าไม่ใช่ความลับอะไรจึงแค่มองเฉยๆ

"อยู่ๆ คุณก็มาเป็นสาวตัวแสบซะงั้น"

"ฉันแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ"

"คุณทำผิดกฎหมาย  ที่รัก"

"โอ้  ฉันเป็นที่รักของคุณด้วยเหรอ"

เคย์ย่นคิ้ว  มองคุณหมอด้วยสายตาเหลือเชื่อ  แต่เดน่าส์ไม่สนใจ

"ฉันรู้นะว่า  พวกคุณเค้นความจริงจากผู้ต้องสงสัยยังไง  แต่คุณจะไม่ได้อะไรจากฉันแน่  แล้วมันไม่ใช่การท้าทายอย่างที่คุณเข้าใจด้วย  ฉันแค่ไม่รู้จริงๆ"

"ฉันอยากจะเชื่อค่ะ"  เคย์พูด  ตามองตรงยังถนนด้านหน้า

"แว่วๆ ว่าคุณอยากได้แมว  เลี้ยงเป็นหรือคะ"  เดน่าส์เปลี่ยนเรื่องพูดไปแล้ว  เคย์เกือบจะตามไม่ทัน  --  ได้ยังไงล่ะ 

"ก็แค่สงสาร..."

"เลี้ยงสัตว์ต้องดูแลดีๆ นะคะ  พวกเขาไร้เดียงสา"

"แมวน่ะเหรอคะ  ไร้เดียงสา"

เดน่าส์พยักหน้า  ตาเป็นประกายเหมือนเด็กสาว  ดูไร้เดียงสากว่าแมวที่เจ้าตัวพูดถึงเสียอีก  "ฉันเคยเลี้ยงแมวนะ  ถ้าคุณจะจำได้"

เหมือนถูกเข็มแทงที่หัวใจดังฉึก  เคย์แทบจะพูดไม่ออก  คาโรลีนคงจะเป็นแบบนี้แหละ  เวลารู้ว่าคนที่เราแคร์โกหก  มันเจ็บจริงๆ

"เราไม่พูดเรื่องนี้กันได้ไหมคะ"  เคย์ขอ  แววเจ็บปวดในดวงตาคมทำให้เดน่าส์พยักหน้ารับ  "ขอบคุณค่ะ"

"ฉันขอโทษ  เคย์"  เดน่าส์เอ่ยเสียงอ่อย

"ฉันไม่ได้โกรธค่ะ"  เคย์ตอบ  แต่ไม่ได้หันมามองหน้าคุณหมอเลย

..........................................................

"ร้านอาหารกึ่งผับ"  เคย์บอกคาโรลีน  เปิดประตูค้างรอให้เด็กสาวก้าวเข้ามาข้างในก่อนจึงปล่อยมือให้ประตูมันดีดตัวกลับไปเอง

"ดูเก่าๆ ยังไงไม่รู้นะ"  คาโรลีนพูดเสียงเบา  กวาดตามองร้านทึมๆ ที่บรรยากาศดูเหมือนหนังอเมริกันสมัยก่อนที่พวกตำรวจชอบมานั่งดื่มกินและคุยโม้กันเวลาออกเวร

"คลาสสิก"  เคย์ตอบยิ้มๆ  โอบไหล่คาโรลีนพาเดินเข้าไปด้านใน  เธอชอบที่เด็กสาวไม่ขืนตัว  สะบัดแขนเธอออกเหมือนกลัวโรคร้าย 

คาโรลีนไม่รังเกียจหากจะถูกตัดสินว่าเป็นรักร่วมเพศ  ไม่เคยสนว่าใครจะมองด้วยสายตาอย่างไร  ตั้งแต่อยู่ไฮสกูลที่เกาหลีใต้มาแล้ว  เด็กสาวที่ภายนอกดูนุ่มนิ่ม  ไร้เดียงสา  อ่อนต่อโลก  กลับไม่เคยหวาดกลัวว่าโลกจะมองเจ้าตัวอย่างไร  อาจเพราะคาโรลีนคิดว่ามีพ่อคอยปกป้องอยู่ละมัง  แต่พ่อไม่ได้คอยตามปกป้องไปถึงในโรงเรียนสักหน่อยนี่นา 

เคยมีคนบูลลี่คาโรลีนไหมนะ  มันต้องมีอยู่แล้ว  สังคมบ้านเขาเป็นแบบนั้น  แต่ก็ใช่ว่าที่นี่จะไม่มีพวกเหยียด  ทุกที่มี  ทั่วโลกนั่นแหละ

"ตรงนี้ละกัน"  เคย์พูด  พลางยกมือกดหมวกแก๊ปบนศีรษะโคโรลีนให้ปีกหมวกบังช่วงดวงตาไว้เหมือนกับของเธอ 

"ดูโง่ๆ ยังไงไม่รู้เนอะ"  คาโรลีนงึมงำ  มองเคย์ใช้นิ้วกลางดันแว่นสายตาปลอมๆ ขึ้นไปบนสันจมูก  เธอทำบ้าง  แต่แว่นเธอเป็นแว่นจริง

"แค่เปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆ ค่ะ"  เคย์พูด  รับเมนูที่บริกรหน้าตาเบื่อหน่ายส่งมาให้  เธอส่งอีกเล่มให้คาโรลีน  สายตาเธอดูมัน  แต่หูเงี่ยฟังเสียงจากโต๊ะรอบข้างที่เธอรู้จักเกือบจะหมดทุกคน  --  ตำรวจนิวยอร์ก

เธอไม่ได้ตั้งใจจะปลอมตัว  พวกเขาไม่รู้จักเธออยู่แล้ว  นอกจากพวกที่เคยเจอเธอในจุดเกิดเหตุและจำเป็นต้องโชว์ตราโล่ให้ดู  ยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ  แต่เท่าที่เธอกวาดตามองตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้าน  ยังไม่เจอใครที่เคยพบหน้ากันมาก่อน  เธอเคยเห็นพวกเขาจากในแฟ้มที่วาเลนเซียให้มาศึกษาเท่านั้น  วาเลนเซียเป็นคนแนะนำให้เธอมาลองนั่งในร้านนี้ดูเผื่อจะเจออะไรน่าสนใจ  แต่คุณผู้กองกลับไม่ยอมมากับเธอด้วย  บอกว่ามีงานอื่นต้องทำ  แถมยังบอกให้เธอเอาแฟนมาด้วยอีกแน่ะ 

เอาเถอะ  วาเลนเซีย...

"พวกเขาจะไม่ยุ่งกับคุณหรอก  ถ้าคุณไม่ทำตัวเป็นจุดเด่น" 

เสียงวาเลนเซียแว่บขึ้นมาในหัว  เคย์กลอกตาอยู่ใต้ปีกหมวกขณะแกล้งเลือกอาหารไม่ได้  คาโรลีนไม่ได้มอง  แค่ทำเป็นไม่ได้มอง  ไม่มีคำทักหรือวิจารณ์อะไรด้วย  เด็กสาวเรียนรู้ที่จะอยู่กับเธออย่างสงบสุขได้แล้ว         

"ฉันจะไม่สอนจระเข้ว่ายน้ำให้เหนื่อยหรอก  คุณจะรำคาญเปล่าๆ  เอาเป็นว่า  คุณแค่ไปนั่งฟังว่าหนุ่มๆ ช่างเม้าท์พวกนั้นคุยอะไรกันก็พอ  ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าให้ใครเห็นคุณ"  ผู้กองสาวพูด  พลางหยิบหมวกแยงกีส์สีดำจากโต๊ะทำงานตัวเองมาวางบนศีรษะเคย์

เคย์เกือบจะยิ้มออกมาแล้วเชียว  ถ้าไม่คิดได้ว่า...ไม่สมควร

"คุณเคยมาไหม"

"ไม่เคยค่ะ"

"ว่าแล้วเชียว"  คาโรลีนบ่น  "ต้องลุกไปสั่งเองใช่ไหม"

"ฉันไปสั่งให้  เอาอะไรคะ"

"ไม่เป็นไร  ฉันไปเอง  คุณเอาอะไร"

เคย์บอกรายการอาหารที่ดูธรรมดาที่สุดในเมนูไปกับคาโรลีนซึ่งทำหน้าตารู้ทันเธอจนน่าตี  และบอกว่าจะสั่งมาให้เอง  จากนั้นก็ไปอย่างมั่นใจ

"แฟนสวยนะคะ"  ทีน่าทัก  ถือวิสาสะนั่งตรงกันข้ามเคย์ซึ่งไม่ตกใจเลยสักนิดที่อยู่ๆ นักสืบสาวก็โผล่มาตรงหน้า  ที่นี่เป็นที่ของทีน่าอยู่แล้ว

"ทำไมถึงคิดว่าเป็นแฟนฉันคะ"  เคย์ย้อน  เหลือบตาขึ้นจากหนังสือที่อ่านอยู่  มองสบตาทีน่าอย่างไม่กลัว  ทีน่าดูเซไปนิดหนึ่งด้วยความลังเลก่อนจะเอ่ยตอบ

"สายตาคุณที่มองตามเธอ"

"มันเป็นยังไงเหรอคะ"

"คุณเป็นห่วงเธอ  ในแบบพิเศษ  ไม่ใช่สายตาที่มองน้องสาวแน่"

"ว้าว  สนใจไปเป็นเอฟบีไอไหมคะ" 

"คุณมาที่นี่ทำไม"  ทีน่าไม่หลงกลเคย์  "สอดแนมเราหรือ"

"มองโลกในแง่ร้ายจังคุณ"

"พวกคุณชอบทำแบบนั้น  สอดรู้ทุกๆ เรื่อง"

"ไม่ทุกเรื่องค่ะ  อย่างน้อยฉันก็ไม่รู้ว่าคุณสวมจีสตริงหรือบิกินี่อยู่ตอนนี้"  เคย์พูด  หน้าตาเฉยเมย  ขณะที่ทีน่าแก้มแดงแต่พยายามจะไม่กรี๊ดออกมา  "หรืออาจสวมชั้นในคนแก่"

"ไปตายซะ  ยายเบื้อก!" 

"เธอนั่นแหละ  ไปตายซะ"  คาโรลีนพูด  ชูแก้วน้ำที่ทีน่าจะคว้าสาดใส่หน้าเคย์เอาไว้  เด็กสาวเอ่ยต่อหน้านิ่งๆ แต่สายตาน่ากลัว  "และลุกออกจากที่ของฉันด้วย  ได้โปรด"

เสียงเน้นคำว่า  "ได้โปรด"  กระทบหูนักสืบสาวที่อ่านออกว่าตนอยู่ในฐานะที่ไม่เหมาะไม่ควรจะทะเลาะกับประชาชน  ร้านนี้มีตำรวจนิวยอร์กเต็มไปหมด  ถ้าเธอทำอะไรเด็กสาวคนนี้ละก็  ต้องจบไม่สวยแน่  พวกผู้ชายที่ชอบทำตัวเป็นฮีโร่จะต้องออกมาปกป้อง  ไหนจะเอฟบีไอ

"หมิ่นประมาทเจ้าหน้าที่ส่วนกลางติดคุกไหมคะ" 

ทีน่าขบฟันกรอดเมื่อได้ยินเสียงคำถามตามหลัง  แม้จะหันไปมองแล้วเห็นว่ายายเด็กนั่นคุยกับเอฟบีไอ  ไม่ใช่ตน  แต่เธอแน่ใจว่าเห็นรอยยิ้มมุมปากของเอเจนท์เค

.........................................

ในที่สุดก็ต้องกลับมากินมื้อเย็นที่บ้าน  เพราะหมดอารมณ์จะนั่งกินให้คนมองอยู่ในร้านนั้น  เคย์คิดว่าดีเหมือนกัน  วันนี้เธอเป็นเป้าที่ใหญ่มากพอแล้ว  การอยู่ต่อให้คนอื่นพิจารณาจนรู้สึกว่าเคยเห็นเธอที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า  เป็นเรื่องไม่ฉลาดเลย  แค่นี้เธอก็โดนบ่นจนหูชาไปหมดแล้ว

"เมื่อไหร่คุณจะเลิกทำตัวกวนประสาทชาวบ้านไปทั่วสักทีนะ  รู้ไหม  ยายนั่นตั้งท่าจะเอาเรื่องคุณอยู่  ไหนคุณบอกว่าเธอให้ความร่วมมือดีแล้ว"

เคย์ส่ายหัวไปมา  พลางโรยขนมปังกรอบลงบนสลัดซีซาร์ที่จัดใส่จานแล้วเรียบร้อย  เธอทำสลัดเพิ่มจากอาหารที่ซื้อเทคโฮมมาจากร้านนั้น  คาโรลีนเป็นคนเดินไปบอกพนักงานเองว่าเปลี่ยนใจจะกลับไปกินที่บ้านแทน  พนักงานไม่ถามเหตุผล  แต่คงไม่พอใจนัก  เพราะพวกเขาจัดใส่จานแล้ว

"คุณฟังฉันอยู่ไหม"

"ฟังค่ะฟัง"  เธอกรอกเสียงใส่โทรศัพท์ที่หนีบไว้  วาเลนเซียหัวเสียมากจริงๆ  ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม  ทีน่า  แกรมห์คงเล่นงานหัวหน้าเธออีกแล้ว

"ฉันไปขอโทษเธอให้ก็ได้"

"อย่าประชดฉัน  แคสเปอร์"  เสียงวาเลนเซียเปลี่ยนไป  มันไม่ใช่เสียงที่เจ้านายใช้กับลูกน้องอีกแล้ว  เคย์รู้สึกมันได้  แต่เธอจะไม่ทัก 

เธอชอบแบบนี้เหมือนกัน

"ไม่มีอะไรแล้วละ  พักผ่อนเถอะ  พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน"

"ฉันจะพยายามไม่ทำให้เธออยากจะบีบคอฉันค่ะ"  เคย์ให้สัญญา

"ทำให้ได้ด้วยนะ"  วาเลนเซียว่า  "ขอบคุณข้อมูลวันนี้ด้วยค่ะ"

"หน้าที่ค่ะ"  เคย์ตอบ  "กินมื้อเย็นด้วยกันไหมคะ  หัวหน้า"

เธอรู้ว่าไม่ควรพูด  แต่ก็...

"ตามสบายค่ะ  มีนัดแล้ว"

วาเลนเซียตัดสายไปหลังจากนั้น  เคย์แช่มือที่กำลังล้างอยู่หน้าก๊อกจนคาโรลีนเอื้อมมาปิดมันให้และดึงโทรศัพท์ออกจากไหล่ที่ใช้หนีบมันไว้

"ขอบคุณค่ะ"  เคย์พูดเมื่อนึกขึ้นได้  คาโรลีนส่ายหน้า  และถือจานสลัดออกไปเงียบๆ 

ซวยแล้ว  โดนงอนอีกหรือเปล่านะ

"แคล --"

"สลัดอะไรคะ" 

"ซีซาร์สลัดค่ะ"  เคย์ตอบ  เดินถือจานเปล่าสองใบกับช้อนส้อมที่ถือมาจากในครัวไปวางบนโต๊ะกินข้าวซึ่งมีอาหารจากร้านนั้นจัดอยู่ในจานแล้วเรียบร้อยด้วยฝีมือคาโรลีน

"ชิมหน่อยนะ"  คาโรลีนรับส้อมจากมือเคย์มาจิ้มสลัดจะเข้าปากอยู่แล้ว  เคย์ก็กดจมูกลงบนศีรษะเธอให้ต้องเงยหน้ามอง  แปลกใจ

"ไม่มีอะไรค่ะ  กินเถอะ"

"แค่อยากได้แมว  ไม่ต้องอ้อนก็ได้ค่ะ"

เคย์ทำหน้างงก่อนจะหัวเราะในลำคอ  เข้าใจแล้วว่าคาโรลีนพูดเรื่องอะไร  เจ้าแชปปี้ตัวนั้น...

"ไม่รู้มันจะชอบฉันหรือเปล่า  ฉันไม่เคยเลี้ยงแมวด้วยสิ  ถ้ามันซน  แล้วฉันเผลอตีมันล่ะ  แต่ไม่เป็นไรนะ  เดี๋ยวไปให้เจนนี่ช่วยเลี้ยง"  คาโรลีนพูดเองเออเอง  แล้วก็หันมาตีเคย์เพราะอีกฝ่ายเอาแต่นั่งยิ้ม

"ล้อเลียนฉันเหรอ  ไม่ต้องเอามาเลย  ไม่เลี้ยงแล้ว"

"เธอน่ารักดี"  เคย์พูด  ตักสลัดทำเองใส่จานคาโรลีน  "กินเยอะๆ"

"กินเยอะๆ  จะได้อ้วนใช่ไหมล่ะ"

"มีแก้มนิดๆ  มีพุงนิ่มๆ ก็กอดอุ่นดีนี่นา"

"บ้า"  คาโรลีนเขิน  จัดการสลัดในจานที่เคย์ตักให้  เคี้ยวแก้มป่อง  เคย์ชะโงกหน้ามาหอมแก้มเธอและพึมพำว่ามันหอมดี

"มีแมวอยู่ด้วย  เธอจะได้ไม่เหงาเวลาฉันกลับช้า"  เคย์พูด  คาโรลีน พยักหน้าหงึกๆ  ดูไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่  เธอจึงก้มหน้าก้มตากินต่อ  สักพักเด็กสาวก็ชวนเธอคุยเรื่องทั่วๆ ไปในมหาวิทยาลัย  เรื่องรถไฟใต้ดิน  เรื่องโจที่ตามติดอย่างกับสต็อล์กเกอร์น่ารำคาญ (แต่เคย์ดีใจที่เขาทำหน้าที่แข็งขัน  อยากให้ทิปด้วย  ถ้าเขาจะยอมรับมัน)  เรื่องเจนนิเจอร์  พี่สาวที่อยากให้เธอไปนั่งกินมื้อเย็นด้วยสักมื้อ  ไม่ใช่ไปรับคาโรลีนกลับมาบ้านนี้อย่างเดียว

เราตกลงกันใหม่แล้วว่า  หลังเลิกเรียนแล้วคาโรลีนจะไปรอเธออยู่ที่บ้านเจนนิเฟอร์  และคาโรลีนต้องยอมให้โจคอยดูแล  คาโรลีนจะไปไหนหรือออกนอกเส้นทางก็ให้บอกเขาด้วย  คาโรลีนสัญญาว่าจะทำตาม  ไม่อยากให้เธอไม่สบายใจ  ที่จริงก็เพราะพ่อของเด็กสาวขอร้องมาด้วย  ส่วนพี่สาวคาโรลีนก็มีบอดี้การ์ดส่วนตัวอยู่แล้ว  เจนนิเฟอร์ออกจากบ้านมานานแล้วจึงไม่ค่อยใครรู้จักในฐานะลูกสาวของเบ ยองจิน  ผู้มีอิทธิพลในเกาหลีใต้ผู้สร้างศัตรูไว้ตามก้นมากมาย  พลอยให้ลูกสาวติดหางเลขไปด้วย

"สัตว์มันจะรู้ไหม  ว่าเจ้าของตายไปแล้ว"

คำถามนี้ทำให้เคย์อึ้งไปพักหนึ่ง  นั่นสินะ  มันจะรู้บ้างไหม

"ฉันเคยอ่านข่าว  หมาบางตัวนั่งรอเจ้านายของมันอยู่ที่เดิมตลอด  มันไม่รู้เลยว่าเจ้าของจะไม่กลับมาอีกแล้ว  น่าเศร้าจังเลยนะคะ"

นั่นแหละ  เหตุผลที่เธอนึกสงสารเจ้าแชปปี้ขึ้นมาทั้งที่ยังไม่เคยเห็นหน้ามันเลย  ไม่รู้จัก  ลอร์เรน  ฮิกสัน  ด้วยซ้ำไป

"พรุ่งนี้ถ้าฉันว่าง  เราไปดูมันด้วยกัน"  เคย์พูด  คาโรลีนยิ้มดีใจ

"เดี๋ยวนี้คุณน่ารักขึ้นเยอะเลย" 

"เพราะเธอ"

คาโรลีนกัดปากตัวเอง  แก้มแดงเรื่อ  พอเคย์ขยับเข้ามาจะจูบเธอ  เธอก็ตักกับข้าวยัดใส่ปากเคย์ไปเลย  แล้วก็หัวเราะขำขณะส่งแก้วน้ำให้คนอาหารติดคอที่มองค้อนเธออย่างไม่จริงจังและแก้มแดงไปถึงหู       



................


ขอบคุณค่ะ   :21: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

31 มีนาคม 2019 เวลา 22:30:59
พอมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ดูเคย์อ่อนโยนขึ้นนะ
แสดงความคิดเห็น