web stats

ข่าว

+-User

Welcome, Guest.
Please login or register.
 
 
 
Forgot your password?
ปัญหาการสมัครสมาชิก
วิธีเปลี่ยนสถานะเป็นนักเขียน
วิธีลงนิยาย
วิธีใช้งานบอร์ด

+-สถิติการใช้งาน

Members
Total Members: 880
Latest: Levitra5a
New This Month: 0
New This Week: 0
New Today: 0
Stats
Total Posts: 1553
Total Topics: 886
Most Online Today: 118
Most Online Ever: 190
(08 กรกฎาคม 2022 เวลา 19:00:55 )
Users Online
Members: 0
Guests: 110
Total: 110

ผู้เขียน หัวข้อ: Queen's tales Chapter 8 : The Valkyrie (เทพธิดาแห่งนักรบ)  (อ่าน 2267 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ anhann

  • Moderator
  • ขาประจำ
  • *****
  • กระทู้: 174
    • Crimson Maiden Les-books
Queen's tales Chapter 8 : The Valkyrie (เทพธิดาแห่งนักรบ)
« เมื่อ: 04 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 09:07:40 »


Chapter 8 : The Valkyrie (เทพธิดาแห่งนักรบ)

ไอซิสเกือบจะคลั่งด้วยความโมโหแล้วเมื่อพบคนขัดใจ หากแต่อ้อมกอดของใครคนนี้ที่ไม่รู้มาได้อย่างไรก็ทำให้เรือนกายอันร้อนรุ่มด้วยไฟโกรธกริ้วค่อยๆมอด

หรือเพราะความเย็นจากตัวตนของพระองค์.?

“ไอซิส.. ลืมตามองข้า!” คาร่าสั่ง แขนยาวพยายามประคับประคองร่างน้องสาวเอาไว้ไม่ให้ล้ม โชคดีเหลือเกินที่โอเอซิสพาเธอมาถูกที่และถูกเวลา จำได้ว่า ตอนนั้นหลังจากที่เธอจับโจรได้ หูก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังสนั่นลั่นไปทั้งป่า

วาลคีรีคร่ำครวญ..

“ไอซิส.?”

“คาร่า.?” ดวงตาสีโลหิตเปิดขึ้นมา และเธอโผเข้าหาคนที่เห็นในแว่บแรก กอดร่างสูงแนบแน่นกับตัวเอง หากแต่ภายในความดีใจอันมากมาย เธอยังแปลกใจว่าเหตุใดเสด็จพี่ที่รักจึงตามมาหาเธอถูกได้

“พระองค์ทรงมาได้อย่างไรเพคะ” เจ้าหญิงน้อยกระซิบถามกับอกพี่สาว ปล่อยให้มืองดงามลูบศีรษะอย่างรักใคร่ ลืมสนใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหนไปชั่วคราว

“โอเอซิสพาพี่มา” คาร่าบอก ใช้ดวงตาคมกริบนำทางอีกคนให้มองตามไป ตรงลานดินกว้างใหญ่ เปกาซัสหนุ่มยืนอยู่อย่างสง่างามท่ามกลางแสงไฟจากคบเพลิงและแสงจันทร์นวล ภาพนั้นงดงามจนชาวบ้านที่รายล้อมอยู่ต่างถอยหนีไปยืนเกาะกลุ่มกัน สีหน้าท่าทางพวกเขาดูทั้งกลัวและปลาบปลื้ม

ราวว่า ครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เห็นสัตว์วิเศษอันศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้..

“โอ้..โอเอซิส..” ไอซิสเดินไปหาม้ามีปีก โอเอซิสย่อตัวลงให้เธอได้สัมผัสมัน มันส่งเสียงราวยินดีที่ได้พบเธออีกครั้ง นานมาแล้วที่ไม่ได้เห็น ตั้งแต่เธอยังเด็กก็ว่าได้

“ขอบใจเจ้าม้า.. เจ้าม้าแสนน่ารัก” เปกาซัสหนุ่มคลอเคลียเธอไม่ต่างจากที่เคยเห็นมันทำกับองค์ราชินี หากแต่ตอนนี้กลับมีบางคนส่งเสียงหมั่นไส้ขึ้นมาแทรก

“เจ้าม้าเลือกปฏิบัติ หลายมาตรฐาน!”

เพราะไม่ชินกับเสียงแบบนี้ เจ้าหญิงน้อยจึงชำเลืองตาไปมองจ้องคนพูด แปลกใจที่หล่อนดูไม่สะทกสะท้านกับดวงตาสีแดงแสนพิฆาตของเธอ

“ผู้หญิงเย่อหยิ่งจองหองนั้นเป็นใครคาร่า” ไอซิสหันไปถามพี่สาว พยายามใช้คำธรรมดาสามัญด้วยไม่ไว้ใจผู้คนภายนอกนัก ไม่อยากให้ใครรู้ว่าพวกเธอไม่ใช่สามัญชนแต่เป็นราชวงศ์

“เบลล่า.. เจ้าหญิงแห่งฝูงโจร” องค์ราชินีกระซิบ หากแต่เสียงเบาๆของตนก็ดันไปเข้าหูคนที่ยืนกอดอกฟังอยู่

“รู้ก็ดีแล้ว แล้วรู้ไว้อีกหน่อยด้วยว่า หมู่บ้านนี้เป็นของข้า และพวกเจ้ากำลังบุกรุก!”

“หยุดนะ ห้ามมาตวาดข้า และพี่ของข้า!” เจ้าของดวงตาสีแดงตวาด หันไปดึงดาบจากชาวบ้านใกล้ๆขึ้นมาแล้วจ่อไปที่ลำคอของเด็กสาวปากไม่ดี ทุกคนที่นี่ต่างตกตะลึงกับความว่องไวของเธอ แต่ไม่ใช่กับคาร่าที่เห็นมานานแล้ว เลมมี่ก็เช่นกัน

“โอ้.. เทพธิดาแห่งนักรบ.. ข้าคิดไว้แล้วตั้งแต่ที่ได้ยินเสียงเจ้าลั่นป่า” ผู้เฒ่าคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างชื่นชม เขาพยายามเดินเข้ามาทั้งลำบากกับไม้เท้า

“ท่านหมายความว่าอย่างไร..เนฟิน.?” อิสซาเบลล่าถาม ดวงตาคมมองสลับปลายดาบคมที่จ่อคอและใบหน้าเหี่ยวย่นของผู้เฒ่าที่ตนให้ความเคารพเสมอมาตั้งแต่ครั้งที่บิดาของเธอยังอยู่ เนฟินเป็นผู้สอนวิชาเวทย์ให้เธอติดตัวไว้ป้องกันตัวเอง

“เธอผู้นี้คือ..วาลคีรี” เนฟินตอบเสียงนิ่ง ดวงตามองแน่วแน่ไปที่ดวงตาสีแดงที่มองเขาอย่างแปลกใจ “หากแต่นางต่างจากวาลคีรีในตำนานนัก เมื่อเป็นเทพีแห่งไฟบรรลัยกัลป์ ที่ข้าพูดนี้.. ใช่หรือไม่..องค์โอดิน?”

คราวนี้ดวงตาเขาเหลือบมองคาร่า องค์ราชินีสะดุ้งเล็กน้อยแต่เก็บอาการไว้อย่างดี “เห็นทีว่า ท่านจะเข้าใจผิดแล้วล่ะท่านผู้เฒ่า ในตำนานแห่งนอร์สกล่าวไว้ว่า องค์โอดินเป็นชาย และอยู่ในดินแดนแห่งวัลฮาลา จะเป็นเราไปได้อย่างไร อีกอย่าง น้องสาวของเราก็เป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่เป็นลูกครึ่งแม่มดกับบุรุษชาวบ้านเท่านั้น เช่นเราและฝาแฝดของเรา”

“เจ้ามีฝาแฝด.?” เจ้าหญิงแห่งฝูงโจรอุทานตกใจ แต่อะไรจะตกใจไปกว่าที่ได้เห็นคำตอบนั้นต่อหน้าต่อตา เมื่อม้าตัวมหึมาสีดำทมิฬพาหญิงสาวผมบลอนด์เหลือบเงินวิ่งมาอยู่ตรงหน้า และหน้าเหมือนกับอีกคนเปี๊ยบ...

“ไอซิสของพี่!” ไคล่ากระโดดลงมาจากหลังม้า ไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น รวบตัวน้องสาวที่รักไปกอด จนดาบที่หล่อนถืออยู่หลุดจากการจ่อคอคนที่ทำให้ไม่พอใจ

“ไคล่า.. อายคนอื่น” ไอซิสเตือน ยันตัวพี่สาวคนรองออกไปเพราะอึดอัดกับแรงมากมายของเขา มันต่างจากพี่ใหญ่ของเธอ คาร่าจะค่อยๆกอดเธอถึงเขาจะดีใจแค่ไหน แต่พอเห็นสายตาตัดพ้อ ก็เป็นต้องใจอ่อนเขย่งตัวขึ้นไปหอมแก้ม

“ท่านพอใจได้หรือยัง.?”

“ที่สุดเลยค่ะ” แฝดน้องตอบรื่นเริง และก็แปลกใจกับความรู้สึกที่รู้สึกแล้วว่า ตัวเองเป็นเป้าสายตาอยู่ หันไปมองดูก็เห็นแฝดพี่ตัวเองยืนทำหน้านิ่งเยือกเย็น แต่อีกหลายคนทำหน้าแปลกๆ โดยเฉพาะเด็กสาวหน้าตาดีที่คิดว่าเคยเห็นใน..หมายจับ!

“เจ้า! ลูกสาวโรบิ้น!” ไคล่าชี้หน้าเบลล่าที่กลอกตาอย่างเบื่อๆกลับมาเหมือนฟังคำพูดนี้มาเป็นรอบที่ล้าน “คาร่า.. หมายความว่าไง.?”

“เรื่องมันยาวไคล่า เอาไว้มีเวลาจะเล่าให้ฟัง” แฝดพี่ตัดบทง่ายและหันไปหาคนอื่นแทน ผู้คุยกับเขาอย่างเงียบเชียบ ไม่ต้องการให้ใครได้ยินบทสนทนา

“ท่านผู้เฒ่า เรามีความเสียใจอย่างมากที่จะบอกท่านว่า เราจำเป็นต้องขอตัวเบลล่าไปกับเราด้วย” แม้จะสูงศักดิ์เพียงใด องค์ราชินียังทรงนอบน้อมกับผู้มีอายุมากกว่า ทรงได้รับการอบรบมาเป็นอย่างดีจากพระมารดาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และนั่นเองที่ทำให้ผู้ฟังไม่สามารถจะปฏิเสธได้ แม้จะพยายาม

“เนื่องจากหมายจับของทางการหรือไร.?” เนฟินกระซิบราวไม่ต้องการให้ผู้ใดได้ยินนอกจากเขากับคนที่ถูกถาม ด้วยไม่ต้องการให้ชาวบ้านแตกตื่นหวาดกลัวไปยิ่งกว่านี้ เมื่อเห็นหญิงสาวผู้ถ่อมตนพยักหน้ารับแทนคำตอบ เขาก็ขยับไม้เท้าเล็กน้อยด้วยมืออันสั่นเทา “จะให้สัญญาได้หรือไม่ว่า ท่านจะไม่ฆ่าเด็กคนนี้ เบลล่าจะมีประโยชน์กับท่านมากกว่า หากนางยังมีชีวิตอยู่”

คาร่ามองท่านผู้เฒ่าอย่างสนใจ คราแรกคิดจะโต้แย้งก่อนรับปาก หากแต่เมื่อเหลียวมองกลับไปยังเด็กสาวเจ้าของชื่อ เธอก็รู้สึกเหมือนที่เนฟินพูด

เพราะเจ้าหน่วยก้านดีหรอกนะ..เจ้าหญิงแห่งฝูงโจร..

“เรารับปาก จะดูแลนางเป็นอย่างดี แต่จะต้องมีข้อแลกเปลี่ยน” ดวงตาคมลองเชิงผู้ใหญ่ผู้ที่เป็นที่เคารพของหมู่บ้านป่า แปลกใจที่เขายิ้มราวว่ารู้บางอย่าง

“ท่านมี ข้าก็มีเช่นกัน อย่าได้นึกว่า เป็นเทพจำแลงแล้ว มนุษย์จักต้องกลัว”

เรียวปากสวยเม้มเป็นเส้นตรง เนฟินฉลาดและความรู้มากกว่าที่เธอจะหลอกได้สำเร็จ หากแต่เรื่องอะไรจะต้องยอมรับ จำเป็นหรือที่จะต้องแสดงตัวตนในเวลานี้..

“เราเป็นตัวแทนแห่งแสงสว่าง สิ่งที่เราให้ได้อาจจะตรงข้ามกับที่ท่านต้องการ ท่านจะยินดีหรือ.?”

“แค่เพียงอาหารจากวังของท่านเพียงเล็กน้อย ต่อชีวิตให้กับชาวบ้านผู้ยากไร้ที่นี่ คงไม่หนักหนาเกินไปใช่หรือไม่พระพุทธเจ้าข้า..องค์ราชินี”

องค์ราชินียิ้มเยือกเย็นเมื่อได้ยินคำสุดท้ายที่ผู้เฒ่าขานเรียกพระองค์อย่างรู้เท่าทันกัน “เห็นทีเราจะไว้ใจท่านไม่ได้แล้วสินะท่านผู้เฒ่า”

“แม้ความลับของพระองค์จะตายไปพร้อมกับชีวิตของเกล้ากระหม่อมเช่นนั้นหรือ.?” เนฟินท้าทาย ดวงตาพร่ามัวของคนแก่อายุเกือบร้อยเช่นเขาพยายามสู้สายตาอันทรงอำนาจที่ตวัดมามอง แม้จะทรงสงบนิ่งเพียงใด หากแต่ดวงพระเนตรดั่งมีพายุร้ายอยู่ภายใน ราวจะบั่นคอใครสักคนก็ย่อมได้ หากทำให้ขัดเคือง

“จะไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าพระองค์เป็นใครจากปากของเกล้ากระหม่อม”

“นั่นถือเป็นข้อแลกเปลี่ยนที่เราจะต้องรักษาวิญญาณของเบลล่าเอาไว้ให้อยู่กับตัวนางใช่หรือไม่”

“หาได้เป็นเช่นนั้นไม่พระเจ้าข้า.?”

คาร่ากดหัวคิ้วเล็กน้อย เอียงคอมองผู้เฒ่าชราอย่างสงสัย “เช่นนั้นคือสิ่งใด ท่านรู้หรือไม่ว่า ท่านกำลังทำให้เราเสียเวลามากเกินกว่าที่ควร”

“วาลคีรีของพระองค์”

องค์ราชินีหันไปมองผู้ที่ถูกพูดถึง ไอซิสกำลังคุยกระหนุงกระหนิงกับองค์หญิงรัชทายาท อีกด้านเป็นเบลล่าที่ยืนกอดอกมองตาขวาง ดูอารมณ์ไม่ดีนักแม้จะมีสาวน้อยรุ่นราวคราวเดียวกันมาคุยด้วย

“ท่านมีอะไรจะบอกเรากันแน่ พ่อมดเฒ่า.?” น้ำเสียงเคยนิ่งเย็นเริ่มเปลี่ยนไปเมื่ออารมณ์คนพูดเปลี่ยน เบื่อหน่ายกับความมากท่าของผู้ที่ตนลดตัวมาเจรจา

ความอดทนมี.. แต่มีข้อจำกัด และขีดจำกัด..

“อย่าปล่อยให้นางตกไปเป็นของผู้อื่นนอกจากพระองค์ คุ้มครอง ปกป้องนางให้เป็นสุขและมีความสุข แล้วบัลลังก์ของพระองค์จะเป็นสุขเช่นเดียวกัน”

“ไอซิสมีคู่หมั้นแล้ว.!”

“แต่นางเป็นของพระองค์เท่านั้น ทรงจำคำของเกล้ากระหม่อมเอาไว้” เนฟินพูดหนักแน่นและค่อยๆเดินจากไปช้าๆตามที่ผู้ชราภาพจะทำได้ หนุ่มชาวบ้านสองคนเข้ามาช่วยประคองเขาเดินเพื่อกลับไปยังที่พัก หากแต่ก่อนจะเข้าไป เขายังหันมามองเธอด้วยสายตาเชื่อมั่น คล้ายจะตอกย้ำว่า...

“อย่ายกเทพธิดาองค์นี้ให้ใคร หากไม่อยากเสียใจไปจนวันตาย”

แล้วข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไรกันเล่า พ่อมดเฒ่า.! บอกข้าที..

...............................

คาร่าประคองใบหน้าสาวน้อยที่นั่งคร่อมตัวเธอเอาไว้ หัวใจยังคิดถึงเรื่องที่ได้รับการเตือนมาจากพ่อมดเฒ่าแห่งหมู่บ้านชุมทางโจร แม้จะกลับมายังที่พักอย่างปลอดภัยแล้วพร้อมโจรสาวที่ติดมือมาด้วยในฐานะที่แตกต่างจากนักโทษโดยทั่วไป เธอจำเป็นต้องให้สัญญาว่า เบลล่าจะอยู่ในความดูแลของเธอแบบมีอิสระ เพียงแต่ห้ามออกจากที่ที่เธอกำหนดเอาไว้เพียงเท่านั้น

แล้วต่อไปล่ะ ข้าจะทำเช่นไร... หรือจะต้องเดินทางกลับ.?

หากไม่สามารถยกไอซิสให้ใครได้..

“เสด็จพี่.. ทรงคิดสิ่งใดอยู่หรือเพคะ”

คำถามจากเสียงอ่อนหวานพาให้คนเผลอเหม่อกระพริบตาได้สติ และเพื่อไม่ให้ถูกถามจากแววตาสงสัย จึงต้องดึงตัวสาวน้อยลงมาด้านล่างแทนตัวเอง ล้อเล่นกับริมฝีปากอิ่มช่างจ้อด้วยเรียวปากเธอที่เข้าไปครอบครอง มือขาวงามประคองทรงอวบอัดของสาวย่างสิบแปดปี ไอซิสแอ่นอกรับการนวดเค้น ครางอ่อนหวานให้ซาบซ่านในหัวใจ ขณะเดียวกัน เธอรู้สึกได้ถึงไอความร้อนแผ่ออกมาจากร่างกายนาง

วาลคีรีวัยใสยังไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้ดีนัก แต่นั่นก็เพราะหล่อนยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ตัวเองเป็นอะไร ไอซิสแค่คิดว่า ตัวหล่อนเกิดมาพร้อมความสามารถประหลาดเหมือนพวกเธอฝาแฝดเท่านั้น

แต่มันไม่ใช่เท่านั้นหรอกเจ้า.. น้องสาวข้า..

“ผ่อนคลายช้าๆไอซิส..” คาร่ากระซิบแผ่วเบาแล้วเลื่อนเรียวปากตนลงมายังหว่างอกทรวงสวย มือสวยของสาวน้อยเบื้องล่างยกขึ้นมากดศีรษะเธออย่างไม่ต้องสั่ง หล่อนครวญครางราวทรมานมากมาย “ตัวเจ้าร้อนเหมือนไฟไอซิส”

“ข้า.. ข้าโกรธมาก.. หากท่านมาช้า.. ข้าคงฆ่าคนพวกนั้น!” เสียงหวานถูกกระชากหายลับ เมื่อความสาวสะพรั่งถูกล่วงล้ำลึกเข้าไปด้านใน อีกครั้งที่ความเจ็บปวดถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นความพึงใจอันน่าพิศสมัย สะโพกผายขยับรับจังหวะของคนบนตัวที่บริการกันเป็นอย่างดี

ค่ำคืนนี้คนภายนอกกระโจมจะเป็นเช่นไร ขอหยุดพักความสนใจเอาไว้ชั่วคราว สองหญิงสาวทุ่มเทใจให้เพียงกันและกันเพียงเท่านั้น

เสร็จธุระตรงนี้ก่อนแล้วข้าจะไปจัดการ..

เจ้าด้วย..เบลล่า.. เด็กสาวจอมพยศ!

“เจ้าห้ามฆ่าใครโดยไม่จำเป็น.. อย่าใช้เวทย์พร่ำเพรื่อ.. เข้าใจหรือไม่ อย่าทำให้ข้ากับไคล่าผิดหวังในตัวเจ้า..ไอซิส” เสียงนุ่มกระซิบสั่ง มองหน้าคนที่หลับตาครางด้วยสายตาที่บอกอารมณ์หลากหลาย รอจนกระทั่งหล่อนพยักหน้ารับ เรียวปากเธอก็เผยยิ้มเล็กน้อย “เจ้าเป็นเด็กดีของพวกข้าเสมอ”

ไอซิสยิ้มรับแม้พายุแห่งสวาทจะพัดพาสติหายไปกว่าครึ่ง ยิ่งรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของบางสิ่งในเรือนกายส่วนล่างของเธอ เธอยิ่งเป็นสุข ร่างบอบบางลุกขึ้นมาสลับตำแหน่งกับอีกคน ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ร้อนรุ่มที่สุมในอก สองมือยันที่นอนรับน้ำหนักตัวเองและเพื่อจะถนัดกับการขยับเอวใส่คนด้านล่างที่โอบประคองร่างของเธอไว้ด้วยมือข้างที่ว่างเช่นเดียวกัน ไม่นานเธอก็พบร่างกายตัวเองรัดนิ้วทั้งสามของคนที่หลับนอนด้วยเป็นจังหวะ และตัวเธอก็เกร็งจนตัวแข็ง ต่อมาก็อ่อนปวกเปียกลงทาบทับกัน สองหูได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นดังก้องสอดประสานกับเสียงของอีกคนที่ลูบหลังเธออย่างถนอม

“ไอซิส.. เป็นอย่างไรบ้าง..” น้ำเสียงห่วงใยพาให้บางคนยิ้มแม้จะเหนื่อยล้า ดวงตาสีโลหิตเปิดขึ้นมาสบตาคนที่ตัวเองวางคางไว้กับอก พบกับมือที่เข้ามาไล้เส้นผมยาวที่เกะกะใบหน้า คาร่าน่ารักเหลือเกิน..

“ไม่เคยดีกว่านี้เลยเพคะ” สาวน้อยกระซิบร่าเริงพร้อมยิ้มหวาน คนถามก็ยิ้มรับอย่างอดไม่ได้ “และตอนนี้ก็ถึงคราวหม่อมฉันบ้าง” ไอซิสรีบพูดและขยับขึ้นมาปิดปากคนที่จะแย้ง และคาร่าก็ยินยอมเธอในที่สุด ยอมจะถูกบริการบ้าง

ร่างบางกว่าร่นลงไปด้านล่าง แล้วขอเก็บเกี่ยวสายธารแห่งความหวานของอีกคนที่เธอพบว่า คงปรารถนาสิ่งนี้ไม่ต่างกัน ดวงตาสีโลหิตเหลือบขึ้นมองหน้าคนที่ตนรักราวจะขออนุญาตบางอย่างที่รู้แก่ใจ ครั้นพอได้รับการพยักหน้ารับ รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏ จากนั้นเธอก็ได้สัมผัสส่วนลึกของผู้อันเป็นที่รักอย่างที่ใจโหยหา ฟังเสียงเขาเพรียกหาเธอด้วยอารมณ์พิศสวาท ท้ายที่สุดก็เข้ามา กกกอดเรือนร่างที่คิดถึงทุกยามที่ห่างไกลกัน แม้จะเพียงไม่กี่ชั่วยามก็ราวกับเนิ่นนานนักหนา

ข้าคงรักท่านจนเสียสติไปแล้ว..คาร่า..

ได้โปรดเมตตาให้ข้าได้เป็นของท่านต่อไป..

ไอซิสถอนหายใจอย่างเป็นสุขอยู่กับอกของคนที่หลับสนิทไปแล้วด้วยความเหนื่อยล้า เธอขยับขึ้นกดริมฝีปากลงกับคนรักอีกครั้งคล้ายจะตอกย้ำว่าไม่ได้แค่ฝันไป จากนั้นก็ลงมานอนแนบกายกันตามเดิม หลับตาลงบ้างและเข้าสู่นิทราอย่างรวดเร็ว นั่นเองที่ทำให้เธอพลาดที่จะเห็นประกายตาแปลกๆจากคนที่ลืมตาขึ้นมามองหน้าเธอ ก่อนจะกดจูบลงที่ศีรษะเธออย่างรักใคร่ ทั้งไม่รู้ด้วยว่า คาร่าคิดอะไรในใจ...

เจ้าเป็นของข้าเท่านั้นไอซิส.. แม้ใครจะไม่เอ่ยเตือน.. ข้าก็ไม่ยกเจ้าให้ใคร..

.............................

อิสซาเบลล่านั่งมองคนบางคนตาขวางอยู่ในกระโจมของเขา ป่านนี้แล้วเธอยังไม่เข้าใจว่า เหตุใดเธอถึงเป็นคนที่ถูกหมู่บ้านส่งมาให้เป็นข้อต่อรองกับทางการ แล้วผู้หญิงบ้าบอฝาแฝดกับน้องสาวนั่นเป็นใครกันแน่ มีหน้าที่อะไรในวัง

ทำไมมันถึงมีแต่เรื่องประหลาดแบบนี้..

“เจ้าจะเลิกมองข้าเช่นนั้นได้หรือยัง.. ข้ากินอะไรไม่ลง” ไคล่าบอกเมื่อวางขนมปังลงในจานอย่างสิ้นหวัง ไม่ชอบถูกมองเวลากิน และไม่มีใครเคยกล้าทำ

ข้าคิดถึงเจ้าเสียแล้วสิ..โรซาลี.. คิดถึงเวลาที่ถูกเจ้าป้อนน้ำ ป้อนอาหาร เอาอกเอาใจ แต่ดูสิที่ข้าต้องเจอ..

“ดึกขนาดนี้แล้ว ยังจะกินอีก ตะกละตะกราม” สาวน้อยว่าเข้าให้ คนโดนว่าทำตาโตและลุกพรวดมาหา จับปลายคางเธอขึ้นจ้องหน้า อยากจะปัดมือแข็งแรงนี้ออกไป แต่จะทำได้อย่างไรเมื่อเธอถูกมัดให้ติดกับเสา ไหนว่าให้อิสรภาพกัน..

อิสรภาพแต่โดนมัดกับเสากระโจมเนี่ยนะ!

“ข้าหิว.. ข้าอยากจะกิน เจ้ามีปัญหางั้นหรือ.. หรือเจ้าอยากจะกินบ้าง ข้าจะได้ป้อนให้ ข้าใจดีนะ!” ไคล่าแค่นเสียงรอดไรฟัน เกิดมาไม่เคยเจอสาวไหนลุกขึ้นมาต่อว่าเธอปาวๆแบบนี้ แต่คิดอีกทีอาจจะเพราะว่าหล่อนไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

“ว่าไง จะกินไหม!”

“พวกเจ้าไม่เคยรู้จักอดอยาก เจ้าไม่รู้คุณค่าของอาหารแต่ละมื้อว่าสำคัญเพียงใดกับคนจน เหตุนี้ข้าจึงเกลียดนักพวกคนรวยเห็นแก่ได้ ข้ายอมอดตายดีกว่าจะกินของจากมือเจ้า พวกขุนนางขี้ฉ้อ ดีแต่โป้ปดเอาดีเข้าตัว เก็บส่วยให้ชาวบ้านเดือดร้อน และอ้างว่าราชสำนักสั่งให้มาเก็บ โกหกทั้งเพ!” อิสซาเบลล่าต่อว่าชุดใหญ่ ลืมสนใจว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และว่าใครอยู่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้หญิงที่เป็นฝาแฝดกับคนที่จับตัวเองมานี่เป็นใคร ความจริงคือเธอไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้ว่าพูดแล้วจะตายไหม.!

แต่ทำไมคนฟังจึงทำหน้าตาตกใจแบบนี้ล่ะ !

“อึ้งล่ะสิ ทำเหมือนเพิ่งเคยได้ยินเรื่องชั่วๆของขุนนางงั้นล่ะ” สาวน้อยยังประชดต่อ แล้วก็ตาค้างกับร่างสูงที่ลุกพรวดขึ้น เดินออกไปจากกระโจมกะทันหัน จากนั้นก็กระพริบตาตกใจเมื่อรู้สึกตัวว่าถูกทิ้งให้อยู่ลำพังกับสถานที่ที่ไม่น่าไว้ใจ

ข้าไม่น่าเชื่อท่านเลยเนฟิน.. ดูสิว่า ข้ากำลังเจอกับอะไร.?


.............................

ขอบคุณสำหรับการเฝ้ารอค่ะ อาจมาได้ไม่บ่อยนักเพราะนิยายมีหลายเรื่องต้องรับผิดชอบ แต่จะพยายาม  :45: :45: :45:

แล้วเจอกันค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง

แต่ถ้าจะแวะไปทักกันเวลาไม่เจอที่นี่ล่ะก็ ไปที่แฟนเพจก็ได้ค่ะ ฝากข้อความไว้ คนเขียนอยู่ที่นั่นเสมอค่า https://www.facebook.com/Crimsonmaiden และที่ร้านด้วย http://leslybooks.lnwshop.com/อิอิ   :65: :65: :65:



เจอกันได้อีกที่ที่นี่นะคะ https://www.facebook.com/Crimsonmaiden, https://twitter.com/Anh29, http://leslybooks.lnwshop.com/ (ร้านหนังสือ)

 

 

Powered by EzPortal
    ต้นฉบับในเว็บไซต์เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งต้นฉบับที่นำมาลง
    copyright © Yuriread.com All rights reserved.