web stats

ข่าว

 


ทฤษฎีความรัก ตอนที่ 6

โพสต์โดย: เด็กนรก วันที่: 05 กุมภาพันธ์ 2018 เวลา 10:51:15 อ่าน: 82

แคลรู้สึกเหนื่อยมากปานร่างจะแหลกเป็นสี่แยกอโศก-สุขุมวิทย์ คือการเลี้ยงแมวมันก็ต้องรักษาความสะอาดและต้องดูแลหลายอย่าง ทั้งอาหาร ที่นอนและการขับถ่าย แคลต้องสอนแกมสั่งยาหยีเพราะตกลงกันแล้วว่ายาหยีจะดูแลทุกอย่าง ตอนแรกหล่อนไม่ยอมดึงดันว่าจะจ้างแม่บ้านให้ได้ แต่แคลพยายามพูดจนหล่อนยอมรับ

"ต้องฝึกหวานใจนะยาหยี เรามีกระบะให้หวานใจขับถ่ายแล้ว ทรายแมวก็มีแล้ว เวลาที่หวานใจขับถ่ายเสร็จ เราก็จะต้องมาตักไปทิ้ง"

"เอาไปเททั้งหมดเลยไม่ได้เหรอ?" ยาหยีถาม ในอ้อมแขนมีแมวสีขาวขนปุยอยู่ แคลเงยหน้ามองแล้วรู้สึกเหมือนว่าทั้งยาหยีและหวานใจเจ้าแมวน้อยต่างมองลงมาที่เธอแล้วกำลังแสดงความน่ารักให้เข้าไปคลอเคลียอยู่

"ไม่ได้หรอกนะ เราต้องประหยัดทรายด้วย"

"แต่น่าขยะแขยง หนูไม่ชอบ" ยาหยีว่าพลางสะบัดหน้าหนี ก่อนจะยกแมวมาถูไถคลอเคลีย แคลยิ้มใจดี ดีใจด้วยที่ตอนนี้ยาหยีแทนตัวเองว่าหนูตลอด ไม่ใช่ 'ฉัน' อย่างเหย่อหยิ่ง

"การเลี้ยงแมวมันต้องใช้ความรักและความเอาใจใส่นะ ไหนบอกพี่ว่ารักหวานใจไง ถ้ารักเรื่องแบบนี้ก็ต้องรับได้สิ พี่ไม่รักแมวแต่พี่รักเรา พี่ยังรับเรื่องที่เรารักแมวได้เลย" แคลบอกก่อนจะลุกขึ้นเดินไปเมื่อเตรียมกระบะทรายให้แมวเรียบร้อย "พี่จะเอาวางไว้ห้องน้ำกระบะหนึ่งแล้วก็ห้องน้ำข้างล่างกระบะหนึ่งนะ เราต้องสอน ต้องฝึก ตอนแรกอาจจะลำบากหน่อยแต่มันจะดีขึ้น เราต้องพยายามนะคะ"

"ค่ะ" ยาหยีตอบรับแล้วก้มหน้ายิ้มดีใจที่แคลบอกรักตัวเอง เธอรู้สึกอบอุ่นใจมากขึ้นเมื่อแคลตามใจตัวเองแบบนี้

"ต่อไปตอนนี้จะแอบร้องไห้ไม่ได้แล้วนะเพราะหวานใจเห็นพี่สาวร้องไห้แล้วคงจะอ่อนแอตามพี่ยาหยี" แคลพูดลอยๆ ทิ้งท้าย

"หนูไม่ได้ร้องไห้สักหน่อย!" ยาหยีร้องบอกตามหลังแล้วก้มมองหวานใจ "พี่ไม่ร้องหรอก คนเป็นพี่จะต้องเข้มแข็งและปกป้องน้อง จะไม่อ่อนแอหรอก"

แคลยิ้มเมื่อได้ยินยาหยีพูดกับตัวเอง แม้ว่าเสียงจะเบาเพราะเธอเดินออกห่างจากห้องนั้นมาไกล แต่มันก็ชัดเจนในหูของเธอ?..การมีน้องสาวมันเป็นแบบนี้สินะ?.พี่ชายของเธอจะรู้สึกแบบเดียวกันไหม แม้จะขัดใจแต่ก็ต้องยอมให้น้องอยู่เรื่อย

 

แคลกลับมาจากโรงพยาบาล หากเป็นปกติเธอคงคิดถึงเหนือคนเดียวแต่ตอนนี้ เธอทั้งคิดถึงเหนือและห่วงยาหยีที่อยู่กับหวานใจ กังวลว่ายาหยีจะอยู่ได้รึเปล่า ตอนนี้บ้านจะเละมากแค่ไหน ในระหว่างที่เธอทำงาน แม้ขณะที่มีเคสผ่าตัดใจเธอก็ไม่อยู่กับล่องกับรอย จนเธอต้องตำหนิตัวเองที่เป็นแบบนั้นเพราะหน้าที่หมอต้องมีสติอยู่ตลอดเมื่อกำลังปฏิบัติหน้าที่เพราะชีวิตของคนไข้อยู่ในมือของหมอ

ในระหว่างที่กำลังรอไฟเขียวของสัญญาณจราตร แคลก็เหลือบไปเห็นป้ายของร้านขายตุ๊กตายี่ห้อดังในเซนทรัลขึ้นโชว์หราว่าลดราคาเพราะใกล้ช่วงเทศกาล แคลยิ้มเมื่อคิดถึงวันนั้นที่ยาหยีงอนเธอที่ตุ๊กตาคุณภาพไม่ดี

 

"เมี๋ยว เมี๋ยว เมี๋ยว" เสียงของยาหยีเรียกหวานใจดังมาให้ได้ยิน แคลเดินลงจากรถแล้วเข้าบ้าน

"เป็นไงบ้างคะยาหยี?" แคลถามเมื่อก้าวเข้าบ้าน ยาหยีหันมามองเธอก่อนจะยิ้มให้

"กลับมาแล้วเหรอคะ?"

"วันนี้ได้กินข้าวที่พี่ทำให้ไหม"

"อือ แม้ว่ารสชาติจะห่วยก็ตาม แต่ก็ใช้ได้" ยาหยีตอบแล้วจูบหน้าของหวานใจ ตาก็มองแคล

ซึนเดเระเหลือเกินยัยเด็กคนนี้ แคลคิดก่อนจะคิดได้ว่ามีเรื่องให้ยาหยีทำ "นี่ยาหยี พี่ซื้อแมวมาเป็นเพื่อนของหวานใจล่ะ อยู่หลังรถแหนะ"

"ทำไมไม่เอาเข้ามาอ่ะ"

"พี่ไม่อยากอุ้ม คิดว่าให้เด็กที่แมวรักแมวหลงไปอุ้มดีกว่านะ"

"ช่วยไม่ได้ล่ะนะ จะไปให้ก็ได้" ยาหยีว่า แม้ปากจะว่าแบบนั้นแต่หล่อนรีบวางหวานใจลงกับโซฟาแล้วรีบเดินไปทันที แคลส่ายหัวเล็กน้อยพลางจ้องหวานใจเขม็ง

"อย่าฝนเล็บบนโซฟาหนังนะ เป็นรอยขึ้นมาล่ะก็น่าดู" แคลเตือนก่อนจะเดินไปคอยมองยาหยีจากประตู

ยาหยีเปิดหลังรถแล้วร้องเรียกแมว 'เมี้ยว เมี้ยว เมี้ยว' อยู่แบบนั้น เพราะตอนนี้มันเป็นช่วงค่ำเริ่มมืดแล้ว จึงไม่ค่อยจะเห็นตัวของแมว ยาหยีเรียกเรื่อยๆ พอแมวไม่ออกมาเธอก็ใช้มือคลำแทน แต่มือของยาหยีกลับสัมผัสได้ถึงขนนุ่ม เธอรู้ชัดเลยว่าคืออะไรพอเอาออกมาแล้ว ยาหยีก็กอดแน่นเพราะมันคือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่

"น้องแมวกลายเป็นหมีล่ะคะ" ยาหยีร้องบอกด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นดีใจ

"กลายเป็นหมีจริงๆ ด้วยสิ" แคลพูด. ดีใจที่ยาหยีชอบ "ปิดประตูท้ายรถด้วยพี่จะได้กดรีโมทล๊อครถได้"

ยาหยีทำตามอย่างว่าง่ายแล้ววิ่งกอดตุ๊กตาเข้าบ้านมาด้วยใบหน้าเริงร่า ใบหน้าหมวยหวานมีรอยยิ้มสวยประดับทำให้แคลยิ้มกว้างไปด้วยเมื่อได้เห็น ยัยเด็กแสบคนนี้เวลายิ้มแล้วน่ารัก ดูดีมาก โดยเฉพาะดวงตาสวยกับแก้มยุ้ยน่าบีบ

ยาหยีดูแลแมวดีกว่าที่เธอคิด แม้ว่าจะทำเม็ดทรายแมวเลอะเทอะในห้องน้ำ แต่แคลคิดว่ายาหยีก็พยายามแล้วล่ะ แค่ยอมตักไปทิ้งก็ดีแค่ไหนแล้ว

 

 

"ตอนนั้น พี่ก็เคยซื้อแมวให้หนู" ยาหยีพูดขึ้นในระหว่างที่แคลกำลังจดบันทึกอาการของยาหยี แคลหยุดชะงักแล้วค่อยๆ หันไปมองยาหยีที่นอนบนเตียง หัวหนุนแขนตุ๊กตาหมีตัวใหญ่

"พี่?.จำไม่ได้" แคลบอกไปแบบนั้นเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี มันน่าเศร้าเหมือนกันที่ยาหยีความจำบิดเบือนแบบนี้ ดูเหมือนว่าพี่สาวของยาหยีที่ชื่อหยะหยาจะเป็นพี่ที่น่ารักสำหรับน้องสาว

"แน่ล่ะ?..เรารักแมวตัวนั้นมากนะ แต่คุณแม่ไม่ชอบแมวเราเลยต้องเอาไปเลี้ยงที่เรือนคนใช้"

"พี่มีเรื่องสงสัยนะยาหยี"

"คะ?.มีอะไร?"

"เธอไม่เชื่อเรื่องที่พี่บอก?.เรื่องที่พี่ไม่ได้เป็นพี่สาวเธอ พี่สาวเธอชื่อยะหยาและเธอเชื่อว่าพี่คือยะหยาแต่เธอเรียกพี่ว่า พี่แคล?.มันขัดแย้งกันไปหน่อยนะ"

"ก็ใครๆ ก็เรียกพี่แบบนั้นแม้แต่พี่เองยังแนะนำตัวเองแบบนั้น?.พี่คือพี่ของฉันแต่ไม่ใช่คนที่ฉันรู้จัก ฉันจำได้ว่าพี่เคยอบอุ่นกว่านี้ แสนดีกว่านี้และพี่กอดฉันเสมอ?..แต่พี่ไม่ใช่แบบนั้นอีกแล้ว ดังนั้น พี่คือพี่แคลน่ะถูกแล้ว ส่วนความรู้สึกของฉันที่มีให้พี่ฉันก็ให้พี่เหมือนเดิมแม้จะรู้สึกว่าพี่ไม่ใช่คนเดิมก็ตาม" ยาหยีบอกเสียงเศร้าแลผิดหวังในตัวเธอ แววตาของหล่อนมีความเจ็บปวดจนแคลรู้สึกเจ็บ

ไม่รู้ทำไมแคลถึงรู้สึกเสียใจ เธอเสียใจที่เธอไม่ใช่ยะหยา?.หากเธอใช่ เธอคงจะแสดงความรักเพื่อให้ยาหยีได้รับรู้อย่างเต็มที่ แต่เธอทำไม่ได้เพราะเธอไม่ได้รักยาหยีขนาดนั้น

"มันชื่ออะไรเหรอ" แคลถามเปลี่ยนเรื่อง

"อะไรล่ะ"

"แมวที่เธอเคยเลี้ยง"

"วุ้นเส้น"

"ชื่อนั่นมัน?.."

"เห่ย สำหรับแมว"

"ก็นะ แต่หวานใจก็พอๆ กันเลย" แคลว่า ยาหยีทำปากจู๋แล้วตะแคงข้างกอดก่ายตุ๊กตา

"แต่มันน่ารัก" ยาหยีพูด มือก็ลูบหวานใจที่นอนอยู่บนพุงของหมี

"แล้ววุ้นเส้นเป็นยังไงบ้าง?" แคลถาม ยาหยีทำหน้าเศร้าพร้อมกับขมวดคิ้วคล้ายนึก

"มันโดนตัวเหี้ยกิน" ยาหยีตอบ แคลจุ๊ปาก

"ตัวเงินตัวทองจ้ะ ไม่ใช่เหี้ย" แคลบอก นึกแปลกใจสงสัยที่ยาหยีปากร้ายและพูดคำไม่สุภาพหลายครั้ง ถึงจะเอาแต่ใจปากไม่ดีแค่ไหน แต่คุณหนูที่เกิดมาในตระกูลร่ำรวยน่าจะมีพื้นฐานของมารยาทผู้ดี เพราะเธอเคยอยู่ในแวดวงนั่น เจอคนประเภทเดียวกับยาหยีมาเยอะ แต่จะวีน จะเหวี่ยง ส่วนใหญ่คนพวกนั้นก็ไม่พูดคำหยาบคายกัน

"เหี้ยก็คือเหี้ย จะเรียกดีๆ ไปทำไม" ยาหยีว่า แคลส่ายหัว ก่อนจะหยิบบทเรียนขึ้นมา

"มาหาพี่หน่อยสิ" แคลเรียก ยาหยีไม่ยอมกระดิกตัวลุก "มาสิเด็กดีของพี่ มาหาพี่หน่อย" พอพูดแบบนั้นหล่อนถึงได้ยอมขยับตัว แต่ก็ไม่ได้ลุกนะ ยาหยีเลื้อยลงจากที่นอนพร้อมกับเดินอย่างคนไร้เรี่ยวแรงทำหน้าเซ็งมาหาแคล

"??"

"เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าทำท่าทางแบบนั้นนะ ตัวขี้เกียจสันหลังยาว" แคลว่าอีกคนก่อนจะดึงยาหยีให้นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ แต่ยาหยีไม่นั่งเก้าอี้ที่เธอเตรียมให้ ยาหยีเลือกจะนั่งบนตักของแคลแทนอย่างถือวิสาสะ

"ก็เหนื่อยอ่ะ ตักขี้เช็ดเยี่ยวหวานใจ พอนึกถึงแล้วกินข้าวไม่ลงเลย"

"ถ้ารักก็ต้องทำได้ สัญญากับพี่แล้วนี่น่าว่าจะดูแล"

"ฉันก็ทำไง พี่อย่าบ่นดิ" ยาหยีว่าพลางขยับตัวนั่งบนตักแคลให้ถนัด แคลยอมให้หล่อนนั่งพร้อมกับเปิดแบบฝึกหัด

"ลองทำได้ไหม เธออายุสิบขวบน่าจะปอสี่หรือปอห้า พี่เลยอยากวัดพัฒนาการสมองเธอสักหน่อย"

"พี่ทำเหมือนฉันป่วย" ยาหยีว่าแคลแล้วหยิบปากกาของแคลมาทำแบบฝึกหัด

 

แคลมองยาหยีทำแบบฝึกหัด ซึ่งหล่อนทำได้ดีและรวดเร็วพอสมควร ดูเหมือนว่ายัยเด็กหมวยคนนี้จะหัวดีพอๆ กับปากเลย

'เหมือนเคยทำ ทำไมหนูรู้ล่ะ' ยาหยีพึมพำเป็นรอบที่ 10 ในระหว่างที่ทำแบบฝึกหัด สีหน้าของยาหยีดูเครียดขรึมเหมือนใช้สมองและความคิดหนักมากในตอนนี้

แคลเอื้อมหยิบแบบฝึกหัดของประถมปีที่ 5 มา

"งั้นลองทำอันนี้สิคะ ลองดูว่าจะทำได้ไหม?"

"เราทำแบบนี้เพื่ออะไร?" ยาหยีหันมาถามแคล ใบหน้าของทั้งคู่ใกล้กันมาก

"เพื่อวัดระดับความรู้และมันสมองไง พี่อยากรู้"

"อันนี้หนูก็รู้เหมือนกัน ทำไมหนูรู้ล่ะ?" ยาหยีหันไปมองแบบฝึกหัดแล้วเริ่มทำ

"แปลว่าเคยเรียนมาก่อนไง พี่ว่าไม่แน่เธออาจจะอยู่ชั้นปอห้าแล้วก็ได้ เก่งจังเลยนะน้องใครเนี่ย" แคลชมแล้วยีหัวของอีกคนอย่างเอ็นดู ยาหยียืดตัวแล้วหันมามองแคลอีกครั้ง

"เก่งเหรอ ถ้าอยู่ปอห้านี่เก่งเหรอ?"

"ใช่ค่ะ เก่งสิ ยิ่งอยู่ชั้นปีที่สูงขึ้นแปลว่าอายุเพิ่มมากขึ้นก็จะเก่งมากขึ้น" แคลบอก "พี่น่ะชอบเด็กเก่งๆ อยากมีน้องเก่งๆ แบบเราไง พี่ภูมิใจ"

ทฤษฏีนี้ไม่เป็นจริงหรอก แต่แคลอยากจะใช้กับยาหยี พอดูจากนิสัยของยาหยีแล้วคิดว่าน่าจะได้ผล

"แล้วมีอีกไหม ให้ทำชั้นที่สูงขึ้นหน่อยสิพี่ ฉันจะทำให้ดู" ยาหยียืดตัวขอแคล

"มีสิ มีปอหกด้วยนะ"

"เอาสูงกว่านั้น" ยาหยีว่า แคลยักยิ้มพอใจ ดูเหมือนว่ายาหยีนี่เป็นพวกชอบอวดดีและอยากให้ชมเยินยอ

ตอนนี้ยาหยีทำแบบฝึกหัดรวมทุกวิชาของระดับมัธยมปีที่ 1 ได้แต่ดูเหมือนว่าหล่อนจะยังไม่พอใจ อยากจะเก่งกว่านี้ให้แคลได้เห็น แคลรู้สึกดีนะที่ยาหยีพยายามทำให้เธอชม มันเหมือนเธอสำคัญกับยาหยี

??เธอรู้สึกดีเพราะเธอไม่เคยสำคัญกับใครเลย บางทีสำคัญก็ไม่ที่สุด?.ยาหยีทำให้เธอรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก

 

"แปลว่าตอนนี้หนูอายุสิบสามแล้วสิ" ยาหยีพูดแล้วขยับแบบฝึกของของเด็กมัธยมปีที่ 1 ที่ทำได้แต่ยังไม่เสร็จให้พ้นทาง

"ใช่ อายุสิบสามแล้ว เก่งมากเลยล่ะ" แคลชมพร้อมกับกอดยาหยีที่โอบคอตัวเอง แล้วยาหยีก็ทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง

ยาหยียกมืออีกข้างกอดคอแคลพร้อมกับจูบหน้าผากแคลเสียเฉยๆ แคลมองหน้ายาหยีเมื่อยาหยีผละออกไป เธอพูดอะไรไม่ออกเลยล่ะ

ยาหยียิ้มหวาน "ฉันชอบจังที่พี่ชมฉัน ชอบที่พี่กอดฉัน?..ไม่เหมือนพี่เป็นคนอื่นอีกแล้ว"

"??ค่ะ" แคลตอบออกมาในที่สุดหลังจากนั้น "เอาล่ะลุกขึ้นไปนอนได้แล้ว พี่จะไปอาบน้ำแล้วล่ะ"

"ค่า" ยาหยีลากเสียงยาวแล้วลากสังขารไปบนที่นอน

"แล้วก่อนนอนต้องให้หวานใจเข้าห้องน้ำด้วยนะ"

"รู้แล้วน่า สั่งมากจริงเลย" ยาหยีว่า แคลหันไปมองก่อนจะชี้หน้าให้หล่อนสงบปากสงบคำ แต่ยาหยีก็แลบลิ้นใส่เธอในที่สุด แคลส่ายหน้าเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะยิ้มเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เธอยังรับรู้ถึงริมฝีปากที่ประทับบนหน้าผากเมื่อชั่วครู่อยู่เลย

พี่สาวของยาหยีต้องสนิทกับยาหยีมากจริงๆ ยาหยีถึงได้แสดงออกว่ารักพี่สาวขนาดนี้

 

เสียงร้องของแมวกับความเคลื่อนไหวที่อุ่นร้อนขยับเขยื้อนของอะไรสักอย่างทำให้แคลต้องตื่นขึ้นมาในกลางดึก แคลจึงได้พบว่า แมวน้อยหวานใจกำลังนั่งตะกุยบนหน้าอกของเธอ

"ว่าไงหวานใจ" แคลถามพร้อมกับอุ้มมันลุกขึ้น แต่มันก็ยังร้องไม่หยุด แคลพยายามคิดว่ามันต้องการอะไร ความวิตกที่กลัวมันจะขับถ่ายเรี่ยราดวิ่งเข้ามาในหัว "ไปห้องน้ำไหม?" แคลถามแล้วรีบอุ้มเจ้าแมวน้อยไป

เห็นได้ชัดว่ามันปวดท้องถ่ายหนักเพราะทันทีที่แคลวางมันลงในกระบะทรายมันก็รีบปล่อยระเบิดทันที แคลเดินไปพิงหลังกับอ่างล้างหน้ารอเวลาก่อนจะยิ้มเมื่อเห็นกล่องผ้าเปียกยี่ห้อเดทตอลวางอยู่พร้อมกับข้อความที่เขียนติดผนัง

'สำหรับเช็ดเท้าหวานใจ'

ดูเหมือนว่ายาหยีก็รักสะอาดมากพอตัว เธอที่เคยกังวลเรื่องความสะอาดจากการเลี้ยงแมวรู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อยที่คนดูแลแมวใส่ใจเรื่องเล็กน้อยที่สำคัญ หากแมวลงเหยียบกระบะทรายแล้วไม่ทำความสะอาดก่อนขึ้นบนที่นอนคงแย่

พอเช็ดก้นกับเท้าให้หวานใจจนเป็นที่พอใจและมั่นใจว่ามันสะอาด แคลก็อุ้มเจ้าตัวเล็กไปที่เตียง พอเห็นยาหยีนอนใต้ผ้าห่มหนาซุกหน้ากับหมีตัวใหญ่ ในอ้อมแขนก็กอดตุ๊กตาตัวเล็กไว้ เธอก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ แม้ว่าเตียงของเธอตอนนี้จะแออัดแต่มันก็ไม่ได้แย่มากนัก ดีกว่าต้องนอนฟังเสียงสาวน้อยร้องไห้

"ไปนอนกับพี่สาวเลยป่ะ แข่งกันหลับให้หนำใจเลยนะ" แคลบอกหวานใจ หวานใจร้อง 'หง่าว' เบาๆ พร้อมกับเดินไปนอนบนพี่หมีใหญ่

แคลเดินไปซุกตัวนอนบนที่นอนอีกครั้งแต่เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อหวานใจเดินขึ้นมาบนตัวเธอพร้อมกับซุกตัวนอนบนอกราวกับไม่สนใจว่าเธอจะยอมให้นอนไหม มันก็แค่นอนลงมาหน้าตาเฉยอย่างเอาแต่ใจ นี่เรียกว่าอ้อนได้ไหม

ตอนนี้เธอตกหลุมรักแมวตัวน้อยหวานใจนี่แล้วสิ??เหมียวน้อยขี้อ้อน

 

"นี่ๆ ทำไมนอนกับหวานใจได้อ่ะ ทำไมหวานใจนอนบนอกพี่!"

แคลลืมตามองยาหยีที่ร้องถามตัวเอง เธอจึงพบว่าตอนนี้ยาหยีกำลังนั่งคร่อมเอวเธอแถมยังเขย่าให้เธอตื่น

"อะไรเนี่ยยาหยี พี่หลับอยู่นะ"

"ก็หวานใจทำไมนอนบนตัวพี่อ่ะ ฉันก็จะนอนมั้ง" ยาหยีว่าแล้วซบลงมาที่อกของแคล แคลขยับตัวเล็กน้อยด้วยสีหน้าที่ง่วงเต็มที

"ยาหยี พี่หลับอยู่นะอย่าเพิ่งงอแงได้ไหม ออกไปนอนที่ตัวเองเลย"

"ทำไมทีหวานใจนอนได้"

"หวานใจมานอนเองนี่ อีกอย่างหวานใจตัวเล็กนิดเดียว แต่เราตัวใหญ่ออกจะมานอนนี่ได้ไง"

"อายุสิบสามตัวเล็กนิดเดียวแหละน่า อย่าปากมากแล้วหลับไปเถอะ" ยาหยีว่า คางก็เท้าอยู่ระหว่างอกของแคล

แคลถอนหายใจ ก่อนจะหลับต่อเมื่อเหลือบมองนาฬิกาแล้วเห็นว่าเวลามันอีกยาวนาน ซึ่งยาหยีก็ซุกหน้ากับอกของแคลแล้วยิ้มพอใจ มือก็ลูบหัวของหวานใจที่ตอนนี้ย้ายที่ไปนอนตรงซอกคอเหนือไหล่ของแคล

พอมีแมวน้อยหวานใจมาอยู่ด้วย ทั้งคู่ก็เข้าหากันได้เร็วมากขึ้นและที่แน่นอนคือ หัวใจของทั้งคู่กำลังเชื่อมเข้าหากันเรื่อยๆ อย่างที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว

 

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น