web stats

ข่าว

 


Angels & Devils_S4 - บทที่ 7 Because It's You

โพสต์โดย: anhann วันที่: 05 กุมภาพันธ์ 2018 เวลา 01:36:39 อ่าน: 166



บทที่ 7 Because It's You





เพดานสีครีม...เบย์ลีส์เบาใจได้นิดหน่อย  ค่อนข้างแน่ใจว่าเธอไม่ได้อยู่โรงพยาบาล  และเธอรู้สึกว่าลูกยังอยู่กับเธอ  มันเป็นสัญชาตญาณ  ขอบคุณตัวเองที่ยังหลงเหลือความสามารถพวกนี้อยู่  ไม่ได้อ่อนแอจนไม่เหลือความเป็นเธอ

มือบอบบางเลื่อนไปสัมผัสหน้าท้องอย่างหวั่นๆ  ถอนหายใจโล่งอก  ไม่ใช่เพราะท้องยังกลมดิกอยู่อย่างเดียว  หากเธอรู้สึกด้วยว่าลูกเตะท้องเธอ  ยายหนูตัวแสบยังสบายดี  อาการปวดท้องดุเดือดนั่นก็หายไปเป็นปลิดทิ้งแล้วด้วย  ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครช่วยเธอ

นัยน์ตาสีเขียวจัดเลื่อนจากตัวเองไปมองร่างบนเก้าอี้ข้างเตียงนอน  ริมฝีปากเธอแห้งผากของเธอปรากฏรอยยิ้ม  แค่เห็นเรือนผมสีทองอร่ามสะท้อนกับแสงอาทิตย์ที่ลอดผ้าม่านมา  เบลคคงอยู่เฝ้าเธอทั้งคืน  เธอดีใจด้วยที่เห็นเฟทยืนอยู่ตรงริมหน้าต่าง  ไม่ได้ออกไปตามล่าฆ่าใคร

นัยน์ตาเรียวสีเข้มเหลียวมามองเธอ  ความโล่งใจผุดขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม  เฟทเดินเข้ามา  มือแตะศีรษะเบลคเบาๆ ให้รู้สึกตัว  ก่อนนั่งลงบนเตียงใกล้เธอ  คว้ามือเธอไปจับยกขึ้นจูบด้วยสีหน้าที่ทำให้เธอน้ำตาคลอด้วยความตื้นตันใจ  ตอนนี้ถึงจะตายไปแล้ว  เธอก็ไม่เสียดาย  อย่างน้อยก็ได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งที่รักเธอจริง  แม้เขาจะไม่ได้อยู่ในโลกเดียวกับเธอ

"เช้าแล้วเหรอ" 

เบย์ลีส์ยิ้มให้เด็กสาวที่ลุกขึ้นมานั่งขยี้ตาขณะเธอพยายามยันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียงโดยมีเฟทคอยช่วยเหลือ  และส่งแก้วน้ำให้ดื่มพร้อมหลอด

"เบย์ลีส์  พระเจ้า!"

"เรียกฉันก็ได้  เบลค"  เฟทขัดคอ  ยิ้มขี้เล่นเมื่อเบลคขมวดคิ้วใส่  และถอยออกมาให้สองสาวมนุษย์เขาได้พูดคุยกัน  ถามไถ่อย่างห่วงใย

"ถ้าไม่เป็นอะไรแล้ว  ฉันขอตัวก่อนนะ  แล้วจะรีบกลับ"

"อย่าไปทำแบบนั้นนะ  เฟท"  เบย์ลีส์บอก  แววตาขอร้องมากกว่าน้ำเสียง  แต่เฟทคงเข้าใจ  หรืออย่างน้อยก็พยายามจะเข้าใจว่าเธอเป็นห่วง  ถึงเฟทจะเป็นเทวทูตผู้มีบารมีมาก  ก็ใช่ว่าจะพลาดพลั้งไม่ได้

"ฉันจะรอเธอกลับมา"  เธอย้ำ  หนักแน่นจนเฟทยิ้ม  ใจจริงคงอยากบ่นว่าเธอช่างสั่งน่าดู  แต่คงชอบให้เธอสนใจมากกว่า

"ฝากด้วยนะ เบลค  แล้วตัวเธอเองก็ห้ามซนด้วย"

"ฉันอายุสิบแปดนะคะ  ไม่ใช่แปดขวบ"  เบลคสวนทันที  กลัวนิดๆ ว่าอาจทำให้ผู้มีฤทธิ์มากไม่พอใจ  แต่เฟทไม่มีทางจะทำร้ายเธอ  ไม่รู้ว่าเอาความเชื่อมั่นแบบนี้มาจากไหนเหมือนกัน  เธอรู้ละกันล่ะ!

"คุณทำให้ฉันเกือบหัวใจวาย"

เบย์ลีส์มองหน้าเจ้าของมือที่พยายามป้อนซุปให้เธอ  ไม่ยอมให้เธอตักกินเองทั้งที่เธอพูดแรงๆ ว่าไม่ได้เป็นง่อยสักหน่อย  เธอว่าที่เธอชอบเบลคก็เพราะเด็กคนนี้ดื้อและหัวรั้นเหมือนเธอนี่แหละ  เฟทก็คงคิดแบบนี้

"ฉันตั้งใจจะเป็นแบบนั้นมั้ง"  เธอว่า  พลางเบือนหน้าหลบช้อนที่ส่งมาจ่อปากอีกรอบ  "อิ่มแล้วเบลค  เดี๋ยวฉันอ้วก"

"คุณผอมไปสำหรับคนท้องห้าเดือนนะคะ"

"เธอเป็นหมอหรือ  หมอยังไม่ว่าฉันเลย"

"ฉันพูดเองนี่แหละ"  เบลคยอมรับ  ส่งแก้วน้ำให้เบย์ลีส์แต่ไม่ยอมให้ถือเอง  ตาสีเขียวจึงมองเธอเบื่อๆ แต่เธอไม่สนหรอก  ขอแค่เบย์ลีส์ไม่ปัดมันทิ้งก็พอแล้ว 

ทำไมเธอจะต้องแคร์ผู้หญิงคนนี้นัก  เธอก็ไม่รู้เหมือนกัน  ปกติแล้วแฟนเก่ากับแฟนใหม่ไม่น่าจะเข้ากันได้เลย  แต่เธอกับเบย์ลีส์มันยิ่งกว่าเข้ากันได้  เธอคงรักเบย์ลีส์เหมือนพี่สาว  อยากให้เบย์ลีส์รักเธอแบบนั้นด้วย

"ทำไมเขายังอยู่  ฉันนึกว่าเขาจะ --"

"ฉันด่าเขาเองแหละ"  เบลคสารภาพก่อนเบย์ลีส์จะถามจบ  "เขาโมโหจนตัวแดงเลย  น่ากลัวมากๆ  เหมือนว่าเขาจะเผาทุกอย่างให้ราบได้เดี๋ยวนั้น  ฉันไม่เคยเห็นเขาโมโหขนาดนี้มาก่อน  เขาจะไปทั้งที่คุณยังสลบอยู่บนโซฟาข้างล่าง  ตอนนั้นเขาช่วยคุณได้แล้วละ  แล้วฉันก็ดึงปีกเขาไว้  เขาทำหน้าเหมือนจะหักคอฉัน  แต่อยู่ๆ เขาก็เปลี่ยนใจ  แค่สะบัดปีกให้ฉันปล่อยเขา  แล้วเขาก็อุ้มคุณขึ้นมาบนนี้  เปลี่ยนเสื้อผ้าให้  แต่ฉันไม่ได้อยู่ดูตอนเขาเปลี่ยนชุดให้คุณหรอกนะ  ไม่ต้องกลัว..."

"ฉันไม่ได้กลัวเลย  เบลค"  เบย์ลีส์พูดกึ่งขำให้เด็กสาวหน้าแดงก่ำ  "ฉันเคยเข้าโรงพยาบาลหลายครั้งแล้ว  หมอกับพยาบาลเห็นฉันโป๊จนชินแล้วมั้ง"

"นั่นมันหมอกับพยาบาลค่ะ  มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ"  เบลคดุ  "คุณนี่มัน...ฉันไม่รู้จะว่ายังไงดี  ยังจะมีแก่ใจมายิ้มได้อีกทั้งที่คุณเกือบตายแท้ๆ"

"ฉันอยู่กับความเป็นความตายมาตลอด  เบลค"  เบย์ลีส์พูด  "ที่ฉันกลัวน่ะ  ไม่ได้กลัวตัวเองตายนะ  แต่ฉันอยากให้ฟินน์ยังอยู่  อยู่กับเฟท"

เบลคใจเบาหวิวเมื่อได้ยินแบบนี้  เธอกำมือเบย์ลีส์แน่น  น้ำตาคลอ

"เฟทบอกว่า  ฟินน์ช่วยคุณไว้  เขาคงไม่ได้ออกมาเดินเล่นอีกสักพัก  เขาเสียพลังงานไปเยอะมาก  แต่เขายังอยู่ค่ะ  คุณรู้สึกใช่ไหม"

"เขาเตะท้องฉันจุกอยู่นี่ไง"  เบย์ลีส์บอก  มือข้างที่เหลือลูบท้องกลมๆ ของตัวเอง  พลางกระซิบ  "เก่งมากลูกรัก  เก่งมากจริงๆ"

"ฉันกลัวเขาไปอาละวาดที่อื่นจริงๆ"  เบลคพึมพำ  นึกห่วงเทวทูตใจร้อนองค์นั้น  เฟทดูโกรธมาก  โกรธจนเหมือนจะทำลายโลกได้เลย  เธอคิดว่าเขาทำได้ด้วย  และคงทำไปแล้ว  ถ้าเขาไม่ห่วงคนอื่นๆ ที่เขารัก

"เธอโทรไปบอกออเดรย์ให้บอกเคซีย์สิ  เฟทเกรงใจเคซีย์ที่สุด"

"เออใช่  ฉันลืมไปเลย"

"ถ้าฉันไม่อยู่แล้ว  เธอต้องอยู่กับเขานะ  เบลค"

โทรศัพท์มือถือในมือเบลคแทบร่วงเมื่อได้ยินคำพูดนี้  เธอส่ายหน้าไม่ยอมรับ  "เขาไม่มีทางปล่อยคุณตาย  เชื่อฉัน  และฉันไม่ชอบให้คุณพูดแบบนี้ด้วย  ฉันต้องการคุณเหมือนกัน"

เบย์ลีส์เงียบสนิท  ปล่อยให้เบลคคุยโทรศัพท์กับออเดรย์  มองเหม่อออกไปยังหน้าต่างห้องซึ่งปิดสนิทอยู่ไม่ให้อากาศเย็นๆ ข้างนอกเข้ามาได้  คงไม่เฟทก็เบลคที่เจ้ากี้เจ้าการ  มันสบายดีที่มีคนคอยดูแล  แต่เธอไม่ชอบเลย  รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นภาระให้คนอื่นอยู่ตลอด

"ทำไมเธอไม่เกลียดฉันไปซะนะ  เบลค"

"เพราะการรักคุณมันง่ายกว่า"  เบลคตอบง่ายดาย  มือป้องลำโพงโทรศัพท์ไว้  กลัวพี่สาวที่อยู่ในสายจะตกใจเหมือนคนที่นั่งฟังอยู่ตรงนี้

"ทำท่าดีใจหน่อยสิคะ  หรือมีคนบอกรักบ่อยแล้ว"

"อย่ามาล้อฉันเป็นเพื่อนเล่น"  เบย์ลีส์พูด  ทรุดตัวลงนอน  ตะแคงหันหลังให้เบลคที่ยังอุตส่าห์ใจดีเดินมาห่มผ้าให้

............................

เคซีย์เพิ่งรู้สึกว่าการมีเดสทินีวนเวียนอยู่แถวนี้เป็นเรื่องดี  เพราะเธออาจมาไม่ทันเฟทเผานัวร์จนราบเป็นหน้ากลอง  เนื่องจากมัวต้องแสร้งทำตัวเป็นมนุษย์อยู่

"ฉันจะเหวี่ยงเธอกลับไปข้างบนเดี๋ยวนี้เลยนะเฟท  ถ้ายังไม่เลิกบ้า"  เดสทินีประกาศ  แม้เสียงจะไม่ดังเกินกว่าการกระซิบ  แต่น่ากลัวใช้ได้

เฟททำตาขวาง  สะบัดตัวออกจากมือคนหน้าเหมือนตัวเอง  หันมาอาละวาดใส่เคซีย์ด้วย  "ถ้าไม่คิดจะช่วยก็ไปให้ไกลๆ"

"อย่าลามปามนะเฟท"  เดสทินีเตือน  เสียงดุ  กระชากคอน้องเล็กให้เดินตามกันมาในมุมอับที่ไม่มีคนเดินผ่าน  เคซีย์นึกดีใจที่ตอนนี้เป็นเวลากลางวัน  พวกเธอจึงไม่ต้องตกเป็นเป้าสายตากลุ่มหนุ่มสาวที่มาต่อคิวเข้าไนต์คลับชื่อดังแห่งนี้  ชาวบ้านทั่วไปที่ไม่ใช่นักท่องราตรีก็ไม่มีใครนิยมมา  ตอนกลางวันแถวนี้มันแทบจะร้าง

"ทำไมมันไม่ทำฉัน  มันทำเบย์ลีส์ทำไม"  เฟทพูดเสียงสั่น  ตาแดง  มีหยดน้ำใสๆ มาคลอ  "มันทำเมียกับลูกฉัน  จะให้ฉันอยู่เฉยๆ ได้ยังไง!"

"แล้วมันเป็นใคร  เธอรู้เหรอ"  เคซีย์ถาม  พยายามใจเย็น  เพราะน้องใจร้อนไปแล้ว  ถ้าเธอร้อนไปด้วยอีกคนก็แย่กันหมด  เฟทอ้าปากจะพูด  แต่เดสทินีชิงพูดตัด

"เธอแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นนาง  เธอยังไม่รู้อะไรเลย"

"เพราะมันเกลียดฉันที่สุดไงล่ะ"  เฟทตะคอก  "พี่ก็เห็นเคซีย์  มันเคยต่อยหน้าฉันลงไปกองกับพื้นทีเผลอ  ถ้าไม่ใช่มันจะเป็นใครไปได้"

"ฉันเห็น  ใช่  แต่ครั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่านางทำ"  เคซีย์พูด  ยกมือห้ามไม่ให้เฟทแย้ง  "เธอไม่ได้มีศัตรูคนเดียว  เราไม่ได้มีศัตรูคนเดียว"

เฟทขบฟันกรอด  จำต้องยอมรับว่าเคซีย์พูดจริง  "ถ้างั้นจะเป็นใคร"

"ฉันไม่เคยคิดทำร้ายเบย์ลีส์" 

เทวทูตทั้งสามหันไปทางที่มาของเสียงพร้อมกัน  เคซีย์ดึงไหล่เฟทเอาไว้ไม่ให้พุ่งเข้าใส่ลิลิธเหมือนหมาบ้า 

"แล้วใครทำ"  เฟทถาม  จ้องตาผู้มาใหม่ดุเดือด  "ใครทำ  บอกมาสิ  ใครมันจะทำแบบนี้ได้  ถ้าไม่ใช่แก!"

"ทำไมฉันจะต้องรู้ด้วย"

"ถ้าไม่รู้จะโผล่หัวมาทำไม  กลับไปมุดรูต่อสิ  ขี้ขลาด!"

"หุบปากน่า  เฟท"  เดสทินีปราม  "เคซีย์  เอาเฟทไปทีได้ไหม"

"ฉันไม่ไป  จนกว่ามันจะยอมรับสารภาพ"

"เอาไปเดี๋ยวนี้  เคซีย์  ก่อนที่ฉันจะทำอะไรที่ไม่อยากทำ"

"มาเถอะ  เฟท"  เคซีย์จับแขนเฟทดึงออกมาจากอีกสองคน  เฟทฮึดฮัดไม่พอใจ  แต่คงยังมีสติพอจะนึกถึงเบย์ลีส์อยู่บ้าง  ถ้าเสี่ยงให้เดสทินีทำตามที่พูดจริง  ก็อาจไม่ได้กลับมาอีกเลย

"ตอนนี้โอเคแล้วใช่ไหม"  เธอถามน้องที่สะบัดไหล่ออกไปในที่สุด  เฟทพยักหน้า  หน้าตายังบูดบึ้ง  "ตั้งแต่เมื่อไหร่  ทำไมเธอไม่บอกฉัน"

"ฉันตกใจ"  เฟทสารภาพ  น้ำตาทำท่าจะไหลอีกครั้งเมื่อนึกถึงช่วงที่เบย์ลีส์อาการแย่  "ฉันกลัวมาก  เคซีย์  นึกว่าจะต้องเสียพวกเขาไปแล้ว"

"ไหนเธอเคยบอกว่า  เธอผูกวิญญาณเบย์ลีส์ไว้กับเธอ"

"ฉันลืม  ตอนนั้นฉันลืมทุกอย่าง  ถ้าเบลคไม่อยู่ตรงนั้น  ถ้าเขาไม่ด่าฉัน  ถ้าเขาไม่กล้าพอ  ฉันคงทำอะไรบ้าๆ ไปหลายอย่างเลยละ"  เธอพูด  ลูบหน้าตัวเองด้วยสองมือ  "ถ้าฉันรู้ว่ามันเป็นใครนะ  เคซีย์  ฉันจะฉีกเนื้อมันให้เป็นชิ้นๆ  ทำลายวิญญาณมันให้แหลก  เอาให้กลับมาไม่ได้เลย"

เคซีย์ไม่รู้จะพูดอะไรดี  จึงตบไหล่น้องเบาๆ ปลอบใจ 

"ทำไมนางถึงพูดว่านางไม่เคยคิดจะทำร้ายเบย์ลีส์  ในเมื่อ..."

"เพราะเบย์ลีส์มีความหมายต่อนาง"

เฟทจ้องหน้าเคซีย์นิ่ง  ก่อนสั่นศีรษะไม่เชื่อ  "นางเคยทำร้ายเบย์ลีส์  พี่พูดแบบนี้ได้ยังไง"

"นางไม่ได้ตั้งใจ  มันแค่เป็นธรรมชาติของนางที่หลีกเลี่ยงไม่ได้"

"โอ้  เพิ่งรู้ว่าพี่เข้าใจปีศาจมากขนาดนี้"

"ฉันแค่พูดตามที่เห็น"  เคซีย์บอก  "ถ้าเธอจำไม่ได้  ครั้งที่แล้วที่เธอปล่อยให้เบย์ลีส์ถูกยิงด้วยความใจดำของเธอ  ใครเป็นคนช่วยเขา"

"พี่ช่วย"

"ใช่  ฉันช่วย  แต่ไม่ได้มีแค่ฉัน  และเธอรู้ดีกว่าใคร"

เฟทกลอกตา  เสยผมระบายความหงุดหงิด  "วันนั้นถึงจะไม่มีใครช่วยจริงๆ  พี่คิดหรือว่าฉันจะปล่อยให้เบย์ลีส์ตาย"

"ฉันรู้  ฉันถึงได้พูดว่าเธอใจดำไงล่ะ"  เคซีย์ตอบ  เสียงเย็นชา  "ถ้าฉันเป็นเบย์ลีส์  ฉันคงเกลียดเธอมากกว่าลิลิธซะอีก  เฟท  จริงๆ นะ"

"น่าเสียดายที่เขารักฉัน"  เฟทพูด  มั่นอกมั่นใจ  "ฉันชั่วร้าย  เพราะรักเขาสุดหัวใจ  เพราะเขาย่ำยีหัวใจฉันก่อน  ฉันเอาคืนบ้างมันก็สาสมกันแล้วไงล่ะ  ฉันเป็นใคร  ฉันเป็นใคร  เคซีย์  ฉันเป็นเทวทูตแต่กลับถูกผู้หญิงตัวนิดเดียวทำร้าย  ตลอดเวลาฉันเจ็บปวดเพราะผู้หญิงคนนี้คนเดียว  ฉันไม่เคยหนีไปจากเขาได้เลย  ฉันเฝ้ามองเขายิ่งกว่าเอวาคอยสอดส่องโลกใบนี้เสียอีก  และฉันก็จะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาพรากเขาไปจากฉันอีกแล้ว...  แม้แต่พระองค์"

"เฟท  ไม่"  เคซีย์เตือน  ไม่อยากให้น้องอาจเอื้อมท้าทายผู้สร้างเรา  โดยเฉพาะเมื่อเขาเป็นทหารคนเก่งของพระองค์  "ห้ามพูดแบบนี้เด็ดขาด"

เฟทกัดปากตัวเอง  พยายามนึกถึงหน้าคนที่บ้านระงับสติอารมณ์  มืออุ่นๆ ของเคซีย์ลูบไหล่ปลอบเธอ  เธอสูดลมหายใจเอาอากาศเย็นๆ เข้าปอดลึกๆ และผ่อนมันออกมา  เลียนแบบที่เคยเห็นออเดรย์ปลอบคนอื่น

"ดีขึ้นหรือยัง"  เคซีย์ถาม  เฟทพยักหน้า  แม้จะดูไม่เต็มใจ  "งั้นไปดื่มชาที่ร้านเอวากัน  ออเดรย์รออยู่ที่นั่น"

"แล้วเดสล่ะ  ไม่รอเขาก่อนหรือ"  เฟทลังเล  พอมีสติแล้วก็เริ่มห่วงพี่อีกคนขึ้นมา  แม้จะแน่ใจว่าไม่มีใครทำอะไรเดสทินีได้

"เขาไม่เป็นอะไรหรอก  เดี๋ยวเขาก็ตามเราไปเอง"  เคซีย์บอกน้อง  วาดแขนโอบไหล่  ดึงตัวเฟทให้เดินตามตัวเองมาอย่างบังคับ  ขืนปล่อยไปให้หายไปได้  เธอคงไม่เป็นอันทำอะไรแน่นอน

........................................

แก้วไวน์แดงแกว่งไปมาอยู่ในมือขาวจัด  ลิลิธเหล่มองมือนั้นอย่างระวังตัว  แทบรู้สึกผิดที่เชื้อเชิญใครคนนี้เข้ามาในสถานที่ของตน  เหมือนชักศึกเข้าบ้านไม่มีผิด

เดสทินียกแก้วไวน์ขึ้นใกล้จมูก  หากยังไม่จิบน้ำสีแดงข้างใน  เธอสูดดมกลิ่นหอมของมันก่อน  และเอ่ยชมเจ้าของผู้มีน้ำใจให้เธอได้มีโอกาสลิ้มลองมัน  "ข้าจำไม่ได้เลยว่าเคยกินไวน์รสชาติแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่  ที่ร้านเคซีย์ไม่มีแบบนี้"

"มันแพงมาก  ไม่มีใครนิยมดื่ม  นอกจากพวกชนชั้นสูง  ข้าเก็บไว้สำหรับโอกาสพิเศษเท่านั้น"  ลิลิธพูด  เดสทินีทำหน้าตาพอใจขณะอมไวน์ไว้ในปาก  ปล่อยให้รสชาติไวน์ชั้นเลิศซึมซาบเข้าไปในลิ้นของตน  "ถ้าชอบก็เอาไปทั้งขวดเลยก็ได้"

"ดี  ข้าจะไปแบ่งเจ้าเฟทด้วย  จะได้อารมณ์ดี"  เดสทินีพูดยิ้มแย้ม

"เขาไม่เคยกินของที่นี่สักอย่าง"

"โอ้  เจ้าตัวแสบระวังตัวแจเลยสินะ  ช่างระแวงจริงๆ เลย  ว่าไหม"

ลิลิธไม่แน่ใจว่าควรตอบยังไงดี  จึงแค่ยิ้มรับ  จิบไวน์ในแก้วตัวเอง

"สรุปแล้ว  เจ้าไม่ได้ทำจริงๆ สินะ"

เนื้อเสียงใกล้เคียงกัน  หากเสียงเดสทินีตอนนี้ฟังรื่นหูกว่าเฟทมาก  ลิลิธเหลือบตาขึ้นจากแก้วไวน์และพยักหน้า

"เป็นไปได้ว่า  ผู้หญิงคนนั้นมีความหมายต่อเจ้าจริง  อย่างนั้นสินะ"

"ข้าไม่จำเป็นต้องตอบข้อนี้  แต่ข้าไม่ได้ทำ  ไม่มีวันทำ"

เดสทินีเลิกคิ้ว  ไม่รู้ทำไมจึงเชื่อที่ลิลิธพูด  อาจเพราะแววตานางมันบ่งบอกถึงความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ข้างใน

"จะไม่บอกเหตุผลข้าจริงๆ หรือ  เผื่อว่า --"

"ถามเบย์ลีส์ดู  เจ้าถามได้นี่"  ลิลิธตัดบท  "เท่านี้ใช่ไหม  พอดีข้ามีธุระ  ไม่ได้จะไล่"

"ไล่ก็ได้  ยังไงข้าก็ได้อะไรๆ ที่ข้าต้องการแล้ว"  เดสทินีพูด  ยักไหล่  ยิ้มตาเป็นประกาย  ยกขวดไวน์เก่าแก่ราคาแพงขึ้นโชว์เจ้าของมัน 

ลิลิธพยายามไม่แสดงสีหน้ารำคาญใจสะท้อนความรู้สึกจริงของตัวเอง  แขกผู้นี้จะได้ไปให้พ้นๆ จากที่นี่เสียที

"ข้าคงไม่ต้องส่ง"

"ข้าหาทางกลับเองได้" 

สิ้นเสียงประกาศนั้น  ร่างของเดสทินีก็หายไปจากสายตา  ลิลิธยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ  ขมวดคิ้วและวางมันลงทันที  รสชาติมันเลวร้ายกว่าน้ำเปล่าเสียอีก  ถ้าเธอเคยกินน้ำในส้วมก็คงคิดว่ามันใช่แล้วละ 

"เจ้าเดสทินีตัวแสบ"

"ดูเหมือนจะเอาไปหมดทุกขวดเลยครับท่าน"  บาร์เทนเดอร์ปีศาจรายงาน  เขารีบวิ่งแจ้นหายไปทันทีก่อนที่แก้วในมือของเจ้านายจะโดนหัว

"ไอ้เด็กเวร"  ลิลิธพึมพำ  สั่นศีรษะหน่าย  เดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้เปียโนและเริ่มบรรเลงเพลง

.................................

เบย์ลีส์นั่งจิบนมสดอยู่ในห้องนั่งเล่น  ดีใจที่ได้ลุกจากเตียงสักที  กว่าจะได้มานั่งอยู่แบบนี้  เธอต้องรบกับเบลคอยู่หลายยก  เด็กคนนั้นทำเหมือนเธอเป็นคนป่วยหนักต้องนอนติดเตียงตลอดอย่างนั้น  เธอรู้สึกดีนะ  แต่ก็นั่นแหละ  เธอไม่ชอบอยู่เฉยๆ  หากไม่นึกถึงลูกในท้อง  เธอคงจะทำอะไรหลายอย่างที่ต่อให้เป็นเฟทก็ห้ามเธอไม่ได้

เฟทกลับมาแล้ว  ดูเหมือนเคซีย์จะเป็นคนไปลากตัวกลับมาจริงๆ  แม้พวกเขาจะพูดว่าแค่มาเยี่ยมเธอ  เพราะออเดรย์อยากจะมา  กว่าจะพากันกลับไปได้  เธอต้องตอบคำถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าไม่ได้เป็นอะไรแล้ว  ถึงจะยอมเชื่อกัน  โดยเฉพาะออเดรย์ที่ทำหน้าเหมือนจะตายเสียให้ได้  พอกันเลยพี่น้องคู่นี้  แต่พวกเขาก็ทำให้เธอดีใจนั่นแหละ

เบลคยอมออกไปเรียนสักที  เธอต้องขอร้องให้ออเดรย์ลากตัวน้องออกไปส่งที่มหาวิทยาลัย  รายนั้นก็เกือบจะไม่ทำตาม  ต้องใช้มารยาหลายเล่มเกวียนเลยทีเดียวกว่าจะสำเร็จ  แปลกดีที่มันใช้กับผู้หญิงได้เหมือนกัน

เดสทินีก็มาเยี่ยมเธอด้วย  มาขอสำรวจจับท้องเธอ  พูดจาทะเล้นจนเฟทต้องชวนออกไปนั่งเล่นกันตรงเฉลียงบ้าน  ดีเหมือนกัน  เธอจะได้นั่งเล่นคนเดียวเงียบๆ บ้าง  อ่านหนังสือ  คุยกับลูกในท้อง

หากดูเหมือนแขกที่มาเยี่ยมเยียนเธอจะยังไม่หมด  แม้จะไม่เห็นตัว  เธอก็รู้สึกได้ว่ามีบางคนมาที่นี่  ไม่ได้มาหน้าบ้านที่เฟทกับเดสทินีนั่งกันอยู่ 

และเข้าบ้านไม่ได้ด้วย...

เบย์ลีส์รออยู่เกือบห้านาที  สังเกตรอยสักสีน้ำหมึกบนท่อนแขนซ้าย  มันยังไม่ลุกลามมาจนเกินออกมานอกร่มผ้าถึงหลังมือเธอเช่นตอนเจอกับปีศาจร้ายกาจยามเธอออกไปล่า  แม้สัมผัสรับรู้จะสั่งห้ามว่าเธอไม่ควรจะลุกขึ้นไปดู  หากสัญชาตญาณของมือปราบ  ต่อให้ร่างกายไม่เอื้ออำนวยก็คงจะปล่อยความอยากรู้อยากเห็นไปแบบนี้ไม่ได้

สุดท้ายเธอก็ลุกขึ้นยืน  ลอบมองเฟทกับเดสทินีที่นั่งดื่มเบียร์กันอยู่ตรงเฉลียงหน้าบ้าน  พวกเขายังคุยกันอยู่  ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเคร่งเครียดไม่น้อยจึงไม่ได้สนใจเธอ  คงคิดว่าบ้านหลังนี้ปลอดภัยมากพอหลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน 

เธอเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นในทางที่เฟทหรือเดสทินีจะไม่เห็นจากหน้าต่างหน้าบ้าน  แม้จะรู้สึกเหมือนเป็นขโมยในบ้านของตัวเองก็ตาม  เธอไม่อยากให้พวกเขาเห็นแล้วเข้ามาห้ามเธอ  หรือไล่ใครคนนั้นไป

อะไรบางอย่างบอกว่านั่นเป็นสิ่งน่ากลัว  แต่ไม่อันตรายสำหรับเธอ  และเธอเชื่อสัญชาตญาณตัวเอง  ถึงมันจะไม่ถูกต้องไปเสียทุกครั้ง

"อย่าออกมา  ยืนอยู่ตรงนั้น"

เสียงหนึ่งดังขึ้นเมื่อเธอเปิดประตูหลังบ้านที่ติดกับห้องครัว  เธอจำเสียงนี้ได้  ต่อให้ไม่อยากจดจำ 

"ไม่เป็นอะไรใช่ไหม"  ร่างในเงามืดครึ้มของต้นไม้หลังบ้านเอ่ยถาม

"โดนอาละวาดไปแล้วใช่ไหมคะ"  เธอถามกลับ  ไม่ได้ตอบคำถาม  หากเชื่อว่าทางนั้นได้รับคำตอบไปแล้วเรียบร้อย  เธอรู้สึกได้ถึงความกดดันที่คลายตัว  ความอึดอัดตรงนี้ค่อยๆ หายไป

"ใครทำ  เธอพอจะรู้หรือเปล่า"  ใครคนนั้นถามขึ้นใหม่  เสียงขรึม

"ไม่แน่ใจค่ะ  ฉันแยกแยะไม่ได้ขนาดนั้น  แต่พอรู้ว่าไม่ใช่คุณ"

"ฉันไม่ทำร้ายเธอ  จะไม่ทำ  ถ้าฉันรู้ตัว"

"ฉันรู้ค่ะ"  เธอบอก  "ขอโทษแทนเฟทด้วยนะคะ  เขาแค่..."

"...แค่รักเธอมากไป"  ร่างสูงในเงามืดกระซิบแผ่วเบา  "เธอควรจะดีใจ  ไม่สิ  เธอย่อมดีใจอยู่แล้ว  ในที่สุดก็สมหวังเสียที"

"สักวันคุณก็จะสมหวังเหมือนกันค่ะ"

"ไม่ต้องปลอบใจฉันหรอก  แต่ขอบใจ"

"ขอบคุณค่ะ  ที่เป็นห่วง"

"ไม่เป็นไร  ฉันแค่ --"

"เบย์ลีส์  คุยกับใครคะ" 

เบย์ลีส์สะดุ้งเล็กน้อย  เธอหันไปหาเฟท  พยายามดึงร่างสูงกว่าให้เข้าไปในบ้าน  หากก็ใช่ว่าเธอจะมีแรงมากพอทำแบบนั้นได้  เฟทเดินออกไปนอกบ้าน  กวาดตามองหาคนที่เธอคุยด้วย  ใบหน้าบึ้งตึงเห็นได้ชัด  แถมยังสั่งไม่ให้เธอตามออกไปด้วย 

โชคดีที่ไม่มีใครอยู่ที่นั่นแล้ว...

"เฟท..."  เธอเรียก  เชื่อว่าเสียงตัวเองขอร้องมากพอ  เฟทจึงยอมกลับเข้ามาในบ้าน  ดึงเธอกลับเข้ามาด้วยและปิดประตูล็อกทันที  แขนยาวโอบกอดเธออย่างหวงแหน  เธอจึงลูบแผ่นหลังเขา  ปลอบใจ

"เดสทินีกลับไปหรือยัง  ฉันอยากนอนพัก"

"ยังไม่กลับก็นอนได้"  เฟทตอบ  ทำท่าจะอุ้มเธอแต่เธอห้ามไว้จึงได้แค่ประคองเธอกลับขึ้นห้อง  ไม่สนใจเดสทินีที่นั่งเล่นอยู่บนโซฟาหน้าทีวี

"อย่าไปไหนนะเฟท  กอดฉันไว้"  เธอบอกเฟท  ซุกตัวเข้าหาอกอุ่น  ให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่หายไปอาละวาดใครอีก

"ไม่ต้องกลัวหรอกค่ะ  ฉันจะอยู่ตรงนี้แหละ  ถึงจริงๆ อยากจะไปหักคอใครสักคนก็ตาม"

"อย่าพูดจาใจร้ายแบบนี้ได้ไหม  เฟทคนอ่อนโยนของฉันไปไหน"

เสียงถอนหายใจดังออกมาจากริมฝีปากสวย  เธอขยับตัวขึ้นจูบมัน  เฟทจูบเธอกลับ  แผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหมาย

"เพื่อเธอเลยนะ  เบย์ลีส์  เพื่อเธอ..."  เฟทพึมพำ  กดจมูกลงบนศีรษะภรรยาอย่างแสนรัก

เบย์ลีส์ยิ้มอย่างโล่งอก  เธอจูบอกซ้ายของเฟท  แนบหูนอนฟังเสียงหัวใจเขาเต้น  ให้มันขับกล่อมเธอให้รู้สึกสงบไปด้วย       


.........................


ช่วงนี้มาดึกทุกวัน  หุหุหุ   :61: :15: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

08 กุมภาพันธ์ 2018 เวลา 22:21:27
อีกละใครๆก็รักเบย์ลีย์ เรายังหลงรักเลย
แสดงความคิดเห็น