พุทธชาดเดินออกมาหลังจากประตูลิฟต์เปิดออก ด้วยตั้งใจว่าจะขึ้นมาเอาเสื้อแขนยาวเพราะข้างล่างเครื่องปรับอากาศเย็นเกินไปสำหรับเธอ เห็นหลังทองทิพย์เดินไวๆ อยู่แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรจนกระทั่งนิมาเดินออกมาจากทางหนีไฟ
“ไปทำอะไรกับแม่สาวร้ายที่ตรงนั้น” พุทธชาดพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกำลังดุเด็กเล็กๆ
“กัดปากคนมา” นิมาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ซึ่งทำให้พุทธชาดแปลกใจมากกับสิ่งที่เพิ่งได้ยินไป
“กัดปาก” พุทธชาดพูดทวนคำพูดของนิมาอีกครั้ง
“ใช่”
“เดี๋ยวก่อนกำลังจะบอกว่ากัดปากแม่สาวร้ายใช่หรือเปล่า” พุทธชาดถาม
“ใช่สิ กวนโมโหจูบอยู่ได้ บอกให้ถอยออกไปก็ไม่ยอมถอย”
“โกรธหรือหึง” พุทธชาดถามยิ้ม”
“อย่ามากวนนะ คุณพุด ยิ่งโมโหอยู่” นิมาบ่นงึมงำ
“ร้ายจริงๆ แล้วสาวร้ายเป็นอย่างไรบ้าง” พุทธชาดถามยิ้มๆ
“ไม่รู้สิ แต่เห็นเลือดออกเยอะเหมือนกัน”
“ใจร้าย” พุทธชาดมองไปทางห้องของทองทิพย์
“ไปเรียกมาทำแผลเดี๋ยวนี้เลย จะใจดำไปนะ นิ่ม” พุทธชาดพูดเหมือนดุ
“เรื่องอะไรล่ะ อยากทำคุณพุดก็ไปทำให้เองก็แล้วกัน” นิมาพูดด้วยความโมโห
“ถ้ามัวแต่เหวี่ยงกันไปมาแบบนี้ ชาติหน้าก็คงไม่รู้เรื่องกันพอดี ทำไมไม่ใช้น้ำเย็นล่ะ ก็รู้ว่าคนของเราน่ะ ร้าย ความอ่อนโยนและใจเย็นหายไปไหน
หมดล่ะจ๊ะ แม่นิ่มนวลจ๋า” พุทธชาดแกล้งพูดแหย่นิมา
“บางทีก็ร้ายจนทนไม่ไหวนะ คุณพุด” นิมาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และนึกถึงสิ่งที่ตัวเองได้ทำให้อีกคนเจ็บตัว
“ก็รักสาวร้าย ก็ต้องทำใจ” พุทธชาดพูดยิ้มๆ
“เคยบอกหรือว่า รัก”
“ปากแข็ง ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยให้เลือดออกตายไปเลยก็แล้วกัน คุณรักมาพอดี ก็ตามใจนะ แม่นิ่มนวล” พุทธชาดยิ้ม
“มีอะไรกันหรือเปล่าคะ นิ่มหน้าง้ำเชียว” รักษาถามในทันทีที่เห็นนิมากับพุทธชาดยืนคุยกันอยู่
“ไปเถอะค่ะ อย่าไปสนใจคนปากแข็งเลย” พุทธชาดยิ้มให้รักษาที่ทำหน้างงๆ กับสิ่งที่ได้ยินพุทธชาดพูด
“ก็ได้ จะให้ทำอย่างไรก็บอกมา พูดเสียจนรู้สึกผิดแล้วนะคะ คุณพุด” นิมาพูดเสียงอ่อยๆ
“รู้สึกผิดหรือใจอ่อนกันนะเพื่อนฉัน”
พุทธชาดเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างนิมากับทองทิพย์ให้รักษาได้รับรู้คนฟังดูเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง แล้วแผนที่ทำให้นิมาต้องรู้สึกอึดอัดก็โดนบอกเล่าออกมาจากปากของรักษา
“ไหวไหมคะ” รักษาอมยิ้มกับหน้าเจื่อนๆ ของนิมา
“ไม่ไหวก็ต้องไหว” พุทธชาดพูดยิ้มๆ มองสบตากับนิมา
“กัดเสียปากเขาเลือดออก สุดท้ายก็ต้องมาทำแผลให้ จะบ้าตาย” นิมาบ่นแต่ก็ไปทำตามอย่างที่รักษาได้บอกกับเธอ
“ว่าแต่จะได้ผลหรือคะ คุณรัก ให้เอาลูกอ้อนของแม่นิ่มนวลไปล้วงความลับเรื่องที่พวกเราสงสัยกันอยู่” พุทธชาดถามรักษา
“ก็สาวร้ายน่ะ แค่เห็นแม่นิ่มนวลไปเดินคุยกับพี่วา ยังต้องตามมาแค่ขอกอดขนาดขัดขืนยังจูบเสียโดนกัดปาก ถ้าโดนลูกอ้อน คุณพุดว่าจะเป็นอย่าง
ไรล่ะ"
“เหมือนจะงงชีวิตอยู่นะสาวร้ายของเรา ไม่รู้จะร้ายหรือจะรักดี” พุทธชาด นึกขำมองตามนิมาที่กำลังกดโทรศัพท์เพื่อเริ่มแผนการที่รักษาได้บอกไป
นิมากำลังฟังเสียงโทรศัพท์จากสายที่เธอโทรออกไป ซึ่งทำให้ในหัวใจรู้สึกแปลกๆ อย่างไรชอบกล เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเฝ้ารอ
การตอบรับจากคนที่เธอกำลังโทรหา
“จะโทรมาด่าซ้ำหรืออย่างไรคะ” ทองทิพย์พูดในทันทีที่กดรับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาก
“เอ่อเปล่าค่ะ โทรมาขอโทษต่างหากค่ะ มีใครทำแผลให้หรือยังคะ” นิมา พยายามรวบรวมสติของตัวเองให้พูดจาดีดีกับทองทิพย์
“ตบหัวแล้วลูบหลังนะแบบนี้” ทองทิพย์พูดเสียงเข้ม
“เรื่องเยอะ ตกลงจะให้ทำให้ไหมแผลน่ะ หรือจะให้แฟนทำให้คะ” นิมาพูดเสียงเข้มใส่เช่นกัน
“คงจะลุกมาทำให้หรอกนะ เมาหลับไม่รู้เรื่องแล้ว” ทองทิพย์บอกและรีบเปิดประตูห้องออกมาดูก็เห็นนิมายืนอยู่ที่หน้าห้องพักของเธอ
“ตามมา” นิมาดึงข้อมือทองทิพย์ให้เดินตามเธอไปที่ห้อง รักษากับพุทธชาดอมยิ้มกับภาพที่ได้เห็นแม่สาวร้ายเดินตามนิมาต้อยๆ ไปที่ห้อง
“แม่นิ่มนวลคงต้องดีบ้างร้ายบ้างนะคะ ถึงจะปราบแม่สาวร้ายทองทิพย์ได้อยู่หมัด” พุทธชาดอมยิ้มมองสบตากับรักษา
“ก็คงชอบกัน แต่แค่มีบางอย่างที่มาขวางกัน เราก็ทำหน้าที่เพื่อนรักกันไป หาสาเหตุให้เจอว่ามันคืออะไร แล้วก็ทำลายเสีย เรื่องราวก็จะจบลงด้วยดี” รักษาอธิบาย
“มันคงไม่ง่ายนักนะ พุดว่า”
นิมาลากเก้าอี้มาให้ทองทิพย์นั่งแต่เจ้าตัวก็ทำท่ารีรอไม่ยอมนั่ง นิมาจึงกดไปที่ไหล่เป็นการบังคับ ทองทิพย์ทำหน้าง้ำ
“ไม่นั่งแล้วจะทำแผลได้อย่างไรกันคะ นั่งลงเดี๋ยวนี้”
“จะมาใจดีอะไรตอนนี้ ตอนทำให้เจ็บทำไมไม่คิดก่อน” ทองทิพย์พูด
“ยังจะมาปากร้ายใส่อีกนะ ก็รู้ว่าไม่ชอบโดนบังคับก็ยังทำ” นิมามองจ้องทองทิพย์เขม็ง
“ก็”
“ก็อะไรคะ” นิมาทำหน้าทะเล้นใส่
“เปล่าไม่มีอะไรค่ะ”
“หึงหรือหวงล่ะสิ” นิมาอมยิ้ม กำลังใช้ผ้าสะอาดที่ชุบน้ำอุ่น ช่วยเช็ดเลือดที่ปากของทองทิพย์
“หลงตัวเองไปไหม” ทองทิพย์บอก
“ยังจะมาทำปากดีอีกนะ อยู่นิ่งๆ ไม่ต้องพูด” นิมาขยับเข้าไปดูแผลที่ปากของทองทิพย์ใกล้ๆ
“เป็นอย่างไรล่ะคะ ผลงาน” ทองทิพย์ยังไม่ยอมลดลา
“พูดมากนัก” นิมาจูบเล็กๆ ไปที่ริมฝีปากที่เป็นแผลทำให้คนที่ถูกจูบตกใจและขยับตัวออกมาเล็กน้อย
“นิ่ม”
“จะได้หายไวไว ไม่ชอบหรือคะ” นิมามองสบตากับทองทิพย์
“กลัวจะโดนกัดเข้าอีกล่ะสิ” ทองทิพย์ขมวดคิ้ว
“ไม่ใช่หมานะ ถ้าไม่รังแกก่อนก็คงไม่กัด” นิมาอมยิ้มแล้วค่อยๆ ใช้ผ้าเช็ดเบาๆ ไปที่แผล
“ดุกว่าอีก”
“นี่อย่ามาว่ากันแบบนี้นะ เดี๋ยวก็โดนอีกจนได้ อยู่เฉยๆ” นิมาแอบยิ้มในใจที่ได้พูดข่มขู่ทองทิพย์ที่ยิ้มจางๆ และทำหน้าจ๋อยๆ
“ก็ได้ไม่เห็นต้องเสียงดังเลย” ทองทิพย์พูดเสียงอ่อยๆ
“ก็แม่คนสวยทั้งร้ายทั้งดื้อก็ต้องโดนดุเป็นธรรมดา” นิมายักคิ้วล้อเลียน
“ทำไมถึงมาทำดีแบบนี้คะ” ทองทิพย์ถามด้วยความสงสัย
“สงสารค่ะ” นิมาพูดยิ้มๆ
“ฟังดูน่าเวทนานะคะ แฟนไม่ว่าเอาหรือ พาคนอื่นมาทำแผลให้ถึงในห้อง นอนแบบนี้” ทองทิพย์มองสำรวจไปรอบๆ ห้องซึ่งก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ
กระเป๋าเสื้อผ้าก็มีเพียงแค่ของนิมาเท่านั้น
“แฟนคงไม่ว่า เพราะก็นั่งหน้าจ๋อยอยู่ในห้องนี้แล้วนี่” นิมาพูดหน้าตาเฉย
“นายเพียบพร้อมต่างหาก” ทองทิพย์แกล้งถาม
“ทำไมถึงชอบยกนิ่มให้คนโน้นคนนี้นักคะ” นิมาจ้องมองดวงตาคู่สวยของทองทิพย์
“ถ้าไม่ใช่นายเพียบพร้อมแล้วหมายถึงใครกันล่ะ”
“ช่างเถอะค่ะ เขาคนนั้นคงไม่อยากเป็นแฟนกับนิ่มนัก” นิมายิ้มจางๆ
“ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยทำแผลให้”
“ถามจริง นิ่มทำอะไรผิดมากมายนักหรือคะ” นิมาถามตรงๆ
“ทำไมถามแบบนั้น”
“ก็ไม่รู้สิคะ นิ่มยิ่งเข้าใกล้ก็เหมือนทิพย์ยิ่งอยากถอยห่างออกไป” นิมาพูดเสียงอ่อยๆ
“ทิพย์ก็เป็นสาวร้ายเหมือนที่เพื่อนๆ นิ่มเรียกนั่นแหละ”
“อยากร้ายเอง หรือมีอะไรบังคับอยู่หรือเปล่า” นิมาถามและค่อยๆ จูบเบาๆ ไปที่แผล ทองทิพย์ถอนใจเล็กๆ พยายามที่จะไม่จูบตอบนิมาแต่ดูเหมือน
หัวใจก็ไม่ยอมที่จะฟังคำสั่งของเธอนัก
“ทิพย์จูบนิ่มได้ใช่ไหม” ทองทิพย์มองสบตานิมาที่ยิ้มแป้นอยู่ตรงหน้า
“ถ้านั่งนิ่งๆ แล้วทนได้ก็ตามใจสิ” นิมายิ้มทะเล้นให้
“ร้ายจริงๆ” ทองทิพย์รวบเอวของนิมาให้เข้ามาอยู่ใกล้กับตัวเธอ
“ขอกอดหน่อยสินะ” นิมาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อน
“ขอบคุณนะคะ ที่ช่วยทำแผลให้ ขอบคุณที่จูบปลอบใจ ขอบคุณที่ยอมให้กอดอยู่แบบนี้” ทองทิพย์พูดทุกสิ่งที่เธออยากพูด
“ขอนอนหนุนตักหน่อยได้หรือเปล่าค่ะ ชักจะเริ่มง่วง” นิมาพูดยิ้มๆ แล้วล้มตัวลงนอนหนุนตักของทองทิพย์ที่กำลังจ้องมองเธอในทุกอิริยาบถ
“ตามสบายค่ะ” ทองทิพย์เขี่ยไปที่ผมที่ลงมาปรกที่แก้มของนิมาที่นอนยิ้มหลับตาพริ้มอยู่ที่ตักของเธอ
“ถ้าอย่างนั้นก็นั่งอยู่แบบนี้ทั้งคืนเลยนะ ตักทิพย์นิ่มดี” นิมายังคงหลับตาอยู่แต่รอยยิ้มสดใสนั้นก็ได้สร้างรอยยิ้มให้กับคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่
“นอกจากปากจะบวมแล้ว ขาก็คงจะบวมอีก” ทองทิพย์หัวเราะเล็กๆ
“หนุนหมอนก็ได้ ทิพย์ไปอาบน้ำเถอะ” นิมาบอกกับทองทิพย์ที่ยิ้มจางลงทันที
“โดนไล่กลับห้อง” ทองทิพย์กำลังทำท่าจะลุกจากเตียงนอนสีขาวสะอาดซึ่งนิมาก็ยิ้มๆ กับหน้าจ๋อยนั้น
“คิดหรือว่าเข้ามาแล้วจะได้ออกไปง่ายๆ อย่าหวังเลยว่าจะได้ไปนอนกับแฟนเก่า” นิมาพูดด้วยน้ำเสียงเข้ม แต่ทองทิพย์กลับยิ้มเมื่อได้ยิน
“ตกใจนึกว่าโดนไล่กลับห้อง ทำอย่างอื่นก่อนได้ไหมค่อยไปอาบน้ำ”
“ทะลึ่งแล้ว ไปอาบน้ำเลย” นิมาแก้มเริ่มแดงระเรื่อและกำลังคิดว่าตกลงที่ทำอยู่นี่ทำตามแผนหรือทำตามใจตัวเองอยู่กันแน่
“ทะลึ่งอะไรกันคะ แค่จะขอไปยืนตากลมเย็นๆ ที่ระเบียงแค่นั้นเองนะ ทะลึ่งตรงไหนกัน คิดอะไรอยู่คะ” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้น กำแพงที่ตัวเธอเอง
พยายามสร้างไว้ดูจะไม่ได้ผลนักเพราะความน่ารักของคนที่อยู่ตรงหน้า
“พูดมากนักนะ” นิมาเริ่มจูบเบาๆ ไปที่ริมฝีปากซึ่งยังคงมีรอยแผล แต่ดูท่า ทางความเจ็บปวดจะหายไปแล้ว เพราะทองทิพย์เริ่มจูบตอบร้อนแรงขึ้น
“ถามอะไรหน่อยสิ ไม่ได้ฝันอยู่ใช่ไหม” ทองทิพย์ถามมองสบตากับนิมาที่ยิ้มๆ แล้วแกล้งจูบแรงๆ ไปที่แผลที่ปากของทองทิพย์
“เจ็บไหมล่ะ”
“เจ็บค่ะ แต่แปลกเนอะ ตอนจูบไม่เห็นเจ็บ” ทองทิพย์เริ่มรุกเร้าค่อยสัมผัสเข้าไปภายใต้เสื้อตัวบางของนิมา
“พอแล้วไปอาบน้ำก่อน ไม่อย่างนั้นล่ะก็โดนไล่กลับไปนอนที่ห้องแน่ๆ”
“โอเคค่ะ ยอมแล้ว ยอมแล้ว ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย แต่ว่าปากเจ็บไม่ไปช่วยอาบหน่อยหรือคะ” ทองทิพย์ยิ้มทะเล้น
“ไว้รอบิดแขนหักก่อน แล้วค่อยอาบน้ำให้ อยากหักตอนนี้เลยไหม”
“อาบเองก็ได้ ดุเหลือเกิน” นิมามองตามทองทิพย์ที่รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปแล้ว แต่ตัวเธอเองต้องมานั่งถอนใจเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี แผนของเพื่อน
กำลังทำให้หัวใจเธอกลับมาหวั่นไหวอีกครั้ง
“มันยากมากเลยนะคะ คุณรัก ที่จะให้ล้อเล่นกับหัวใจแม่สาวร้ายและรวม ถึงหัวใจของนิ่มเองด้วย” นิมารำพึงกับตัวเอง