web stats

ข่าว

 


Immortals 2 (Sparkle 5) - บทที่ 23 Lone Wolf

โพสต์โดย: anhann วันที่: 17 พฤศจิกายน 2018 เวลา 21:23:44 อ่าน: 223



บทที่ 23 Lone Wolf





แคลร์คว้าไม้แหลมที่พุ่งมาหมายจะปักอกเธอเอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียด  เธอมองคนตรงหน้าตาโต  สวยเฉี่ยว  ตาสีเขียว  ปากแดงจัด  แต่ดาบไม้ในมือข้างขวาดูเหมือนจะไม่น่ามองสักเท่าไหร่

"มาช้านะ  มิสสมิธ"  สเตฟานี่ทัก  ยิ้มมุมปาก  ตาวาวเป็นประกายมองแคลร์ขึ้นๆ ลงๆ  "ถอดเสื้อคลุมออก  หนูน้อย  มันจะเกะกะเวลาฝึก"

แคลร์กะพริบตางง  "ฝึก?  ฝึกอะไรคะ"

"อ้าว  แม่เธอไม่ได้บอกหรอกหรือ"  สเตฟานี่ย้อน  พยักพเยิดหน้าไปทางไม้แหลมในมือแคลร์  เด็กสาวมองมันแล้วอุทาน

"อย่าบอกนะว่าคุณเป็นอาจารย์สอนพิเศษของฉัน"

"เธอคิดว่าไงล่ะ"

แคลร์ส่ายหน้า  ไม่อยากเชื่อเลยว่าแม่จะทำแบบนี้กับเธอ

"ฉันว่าแม่จะต้องเข้าใจอะไรผิดแน่ๆ ค่ะ  ฉันขอตัวก่อนนะคะ"

"เดี๋ยว  ฉันอนุญาตให้เธอออกไปหรือยัง"

"ฉันมีธุระอื่นค่ะ  น้าเตฟ" 

แคลร์ได้ยินเสียงบางอย่างพุ่งตามมาด้านหลัง  มันเร็วมาก  และเธอหลบมันไม่ทัน  มันจึงปักหลังเธอดังฉึก  เสียบทะลุออกมาตรงอก  มันเจ็บจนพูดไม่ออก  แต่เธอเคืองกับเสียงหัวเราะชอบใจของสเตฟานี่มากกว่า 

"โอ้  เพิ่งรู้ว่าเธอชอบถูกแทง"  สเตฟานี่พูดกลั้วหัวเราะ  เดินมาดึงดาบไม้ปลายคมกริบออกจากกลางหลังหลานสาว (หรือหลานชาย) แรงจนแคลร์ตัวกระตุก  เลือดสมิธอันแสนมีค่าไหลทะลักออกมาเปื้อนเสื้อคลุมประทับตราโรงเรียนอย่างน่าเสียดาย

เธอถือวิสาสะจับแคลร์ถอดเสื้อคลุมออก  และถกเสื้อยืดกีฬาขึ้นดูร่องรอยของดาบนั้น  ไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ  ผิวขาวซีดของเด็กสาวยังคงสภาพไร้รอยขีดข่วนเหมือนเดิม  มีแค่คราบเลือดเท่านั้นเอง

"น่าทึ่งชะมัด  พวกสมิธ"  สเตฟานี่พูดเสียงเพ้อฝัน  "ผิวเธอเหมือนพ่อเธอเลยนะ  แต่ก็คงได้แม่มานิดหน่อยละมั้ง  ดูเหมือนจะขาวกว่าเจ้าคริส"

แคลร์คิ้วกระตุก  รีบดึงเสื้อตัวเองลง  เพิ่งนึกได้ว่าสเตฟานี่ลากนิ้วไปตามผิวบนแผ่นหลังเธอและมันทำให้เธอขนลุก

"น้าเตฟ  ฉันไม่ได้ชื่อคริสตัล"  เธอดุ  กระตุกชายเสื้อตัวเองกลับมาจากมือสเตฟานี่  ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็น  แฝดพี่แลนดอนชอบแทะโลมพ่อเธอเป็นประจำ  สเตฟานี่นิสัยคนละแบบกับทิฟฟานี่โดยสิ้นเชิง

"โอ้  โทษที  เธอเหมือนพ่อเธอมากนี่นา  น่ากินเหมือนกันด้วย"

"ฉันไม่ใช่ของกินนะคะ"  แคลร์เตือน  พลางคิดไปว่าแม่เธอจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่ให้สเตฟานี่มาสอนเธอ  "ฉันไปละค่ะ"

"เธอไม่ได้ยินหรือไง  ว่าฉันไม่อนุญาต"

ประตูห้องที่เปิดค้างไว้กระแทกปิดดังปึง  แค่สเตฟานี่ปัดมือทีเดียว  แคลร์เหลียวกลับมามองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ  แล้วก็นึกอะไรขึ้นมาได้

แลนดอนเก่งเรื่องเวทมนตร์ 

เป็นไปได้ว่าสเตฟานี่จะใช้คาถาได้  ถึงจะรู้จักกันมานาน  หากเธอไม่เคยรู้ว่าสเตฟานี่มีความสามารถพิเศษอะไร  รู้แค่ทิฟฟานี่สามารถเผาสมองคนได้แค่จ้องตา  แล้วฝาแฝดคนนี้ล่ะ

"แค่เรื่องจิ๊บจ๋อยน่ะ  โดโรธีก็ทำได้"  สเตฟานี่ออกตัว  เมื่อเห็นหลานทำหน้าประหลาดใจ  "มันอยู่ในสายเลือดเหมือนที่เธอไม่มีวันตายไงล่ะ"

"แต่ฉันว่ามันต่าง  มันน่าจะเป็นพรสวรรค์  หรือพลังพิเศษที่ทำให้เรียนรู้คาถาได้เร็วกว่าคนอื่น"  แคลร์แย้ง  เริ่มสนใจคลาสนี้ขึ้นมานิดๆ

"อาจจะใช่"  สเตฟานี่ยิ้มเจ้าเล่ห์  "แต่หมาป่าราชนิกุลทุกคนจะต้องมีความสามารถพิเศษกันคนละอย่าง  ป้าเจเธออ่านใจได้  พ่อเธอสะกดจิต  ทิฟฟานี่เผาหัวคนเล่นได้  ส่วนฉัน...เธอจะรู้ทีหลัง  อ้อ  คู่หมั้นเธอมีสกิลเป็นโจรแบบเดียวกับทนายซอคนสวย  แล้วตัวเธอล่ะ"

แคลร์ส่ายหน้า  ไม่รู้เลยจริงๆ  เธอคิดว่าครูซก็คงไม่รู้เหมือนกัน

"อืม  จริงๆ มันน่าจะโผล่ออกมาราวๆ เธออายุเท่านี้นะ  เธอสิบสามหรือยังล่ะ"

"เพิ่งสิบสองเมื่อเดือนพฤษภา"

"โอ้  นี่เดือนพฤศจิกา  เพิ่งผ่านมาหกเดือนเองนี่นะ  แปลว่าเธออายุน้อยกว่าคู่หมั้นตั้งเกือบสองปี  เด็กคนนั้นเกิดมกรา  อีกไม่กี่เดือนก็จะสิบสี่... มิน่าล่ะ  มันถึงออกมาเร็วแบบนี้"

"คุณรู้เรื่องพีบีเยอะนะคะ"  แคลร์ติง  สเตฟานี่ยิ้มแป้น

"แน่นอนสิ  ฉันต้องรู้อยู่แล้ว  ฉันเป็นสายของแม่เล็กเธอไง"  เธอว่า  ไม่ได้ขยายความว่ารู้เรื่องนี้ได้เพราะนีนา  รอสส์เป็นคนคาบมาให้  ถ้าแคลร์ได้ยินชื่อนี้คงไม่ดี  ยายนั่นยังมีประโยชน์อยู่  จะตายตอนนี้ไม่ได้

"เอาเถอะ  เรามาเริ่มกันดีกว่า  วันนี้เราจะเรียนฟันดาบกัน" 

แคลร์ถอนใจ  ขี้เกียจจะเถียงแล้วจึงคว้าดาบไม้ที่สเตฟานี่โยนให้มาถือไว้  เธอจำได้ว่าพ่อเคยบอกว่าจะสอนเธอเอง  แต่พ่อก็ไม่ว่างสักที  ติดแต่ไอรีนนั่นแหละ  พ่อรักลูกไม่เท่ากัน

"ฉันเคยเล่นกับครูซตอนเด็กๆ ค่ะ"  แคลร์บอกกับสเตฟานี่

"งั้นเหรอ  งั้นขอดูฝีมือเธอหน่อยสิ  แล้วนี่เธออยากให้ครูซมาเรียนด้วยหรือเปล่าล่ะ  ฉันจะเรียกเขาให้  แต่ฉันว่าเรียนตัวต่อตัวดีกว่านะ"

"ยังไงก็ได้ค่ะ"

สเตฟานี่ยิ้มมุมปากก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีแคลร์อย่างรวดเร็ว  เด็กสาวมองการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายไม่ทัน  เธอได้แต่ยกดาบไม้ขึ้นป้องกันตัวเอง  สเตฟานี่เหมือนจะไม่ได้อ่อนข้อให้เธอเลยสักนิด 

"นี่อย่าเอาแต่หลบสิ  ทำอะไรซะบ้าง"

"ฉัน --"  แคลร์จะพูด  แต่ถูกสันดาบกระแทกปากเสียก่อน  เธอรู้สึกเหมือนฟันโยกเลยทันที  เธอได้ยินเสียงสเตฟานี่หัวเราะในลำคอ  มันแสนจะน่าหงุดหงิด  หากพอคิดจะตอบโต้  แค่เงื้อดาบขึ้นมา  เธอก็ถูกศอกอีกฝ่ายกระแทกท้องจนตัวงอและแทบจะสำรอกทุกอย่างที่กินไปเมื่อเป็นมื้อเที่ยงออกมาจนหมด

"โธ่  เจ้าคริสน้อย  ทำได้แค่นี้เองหรือ"

"ก็คุณไม่ให้ฉันได้ตั้งตัวเลยนี่คะ"

"แล้วพวกศัตรูมันบอกให้เธอตั้งตัวก่อนหรือไง  มันบอกหรือเปล่าว่า  'ข้าจะฟันเอ็งแล้วนะ'  หรือมันพูด  ฉันไม่เคยได้ยิน"

"แต่นี่เราแค่เรียนกัน --"

"แล้วไง  แค่เรียนเธอก็ไม่จำเป็นต้องจริงจังใช่ไหม"  สเตฟานี่ย้อน  ตาวาวอย่างน่ากลัว 

แคลร์ผงะ  จับดาบด้วยสองมือ  แต่ถึงจะทำแบบนั้น  มันก็ยังหลุดกระเด็นออกไปอย่างง่ายดายแค่ถูกดาบของสเตฟานี่ฟาดฟันแค่สองครั้ง  เธอหันขวับไปมองหามันแต่ไม่มีเวลาไปเก็บ  สุดท้ายก็ต้องใช้แขนตัวเองรับแรงฟาดจากดาบไม้นั้น  เธอรู้สึกเหมือนแขนจะหัก  แต่ก่อนมันจะหักจริงๆ เธอก็ถูกถีบเข้าที่ท้องแล้วไปนอนหงายอยู่บนพื้น  มีปลายดาบจ่อดวงตา

"แทยอนสอนลูกยังไงเนี่ย  หรือไม่เคยสอนเลย  ทีกับลูกคนอื่น --"

"อย่าว่าแม่ฉัน!"  แคลร์ตวาดอย่างลืมตัว  ปัดดาบไม้ของอีกฝ่ายไปจากสายตาพร้อมกับผุดลุกพรวดขึ้นมา  คำรามโฮก  เขี้ยวแหลมยาวออกมาแทนฟันมนุษย์  นัยน์ตาสีทองอมเทาปรากฏเป็นวงแหวนแบบดวงจันทร์

"หืม?  ขี้โมโหเหมือนพ่อด้วยหรือ  มิน่าล่ะ  แม่เธอถึงได้เป็นห่วงนัก"

คำพูดสเตฟานี่สะกิดใจแคลร์จนไขว้เขว  เธอจึงถูกสันดาบกระแทกกลางอกอีกครั้งจนจุกและก้าวถอยหลังไปเกือบสองก้าวก่อนจะฮึดสู้กระโจนใส่สเตฟานี่จนคนโตกว่าล้มหงายหลัง  หากก่อนจะโดนเธอขย้ำด้วยเขี้ยวคม  ประตูห้องก็กระแทกเปิดเสียงดัง  แล้วใครบางคนมาหิ้วคอเสื้อเธอดึงขึ้นจนตัวลอยกลางอากาศ  แต่ความโมโหก็ทำให้เธอลืมมองว่าเป็นใครจนเหวี่ยงแขนไปฟาดหน้าพ่อตัวเอง

"แคลร์!" 

เสียงพีบี

แคลร์เบิกตากว้าง  จึงเห็นว่าพีบียืนหน้าซีดอยู่ด้านล่าง  และรู้สึกว่าตนไม่ได้อยู่บนพื้น  พอหันไปมองว่าใครหิ้วคออยู่ก็พบพ่อตัวเองแก้มช้ำจนเขียวก่อนมันจะค่อยๆ จางลงไปจนหน้าเขากลับมาขาวซีดเหมือนเดิม

"ขอบใจ  รูปหล่อ  ฉันเกือบกลายเป็นอาหารหมาเด็กขี้โมโหซะแล้ว"  สเตฟานี่ยังมีอารมณ์พูดเล่น  ความจริงก็ตกใจจนหัวใจร่วงหายไปวูบหนึ่งเหมือนกัน  ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่าแคลร์เหมือนคริสตัลมากกว่าใคร

"ป๊า  ปล่อย"  แคลร์ร้อง  เขี้ยวหดกลับคืน  นัยน์ตาก็หวนกลับเป็นสีดั้งเดิม  คริสตัลจึงปล่อยคอเสื้อลูกเบาๆ ให้ยืนบนพื้น  แต่เขาสะดุดตากับรอยเลือดบนเสื้อด้านหลังของลูกจนต้องถกมันขึ้นดู  แคลร์ร้องแว้ก  หันมาฟาดมือเขาอย่างแรง  หน้าแดงจัด

"ป๊ามาทำแบบนี้ได้ยังไง  หนูเป็นผู้หญิงนะ!" 

"เออใช่"  สเตฟานี่เห็นด้วย  แต่แล้วก็ส่ายหน้า  "จริงๆ ก็ไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่หรอก"

แคลร์งงว่าทำไมครูฝึกพิเศษพูดแบบนั้น  แต่สายตาของสเตฟานี่ก็ทำให้เธอเข้าใจ  ของพ่อกับพีบีด้วย  ซวยชะมัด  กางเกงกีฬามันทั้งสั้นทั้งแนบเนื้อ  แล้วไม่รู้พักนี้เป็นอะไรความเป็นอัลฟาของเธอมันถึงออกมาชัดนัก

"นี่  อย่าลวนลามเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดสิ"  คริสตัลพูด  ก้มหยิบเสื้อคลุมมาให้ลูกผูกเอวปิดความล่อแหลมที่เป็นเป้าสายตาใครๆ โดยเฉพาะคนแบบสเตฟานี่ 

"ขอบใจที่นายมา  แต่นายมาทำไม"  สเตฟานี่ถาม  เซ็งนิดหน่อยที่ไม่มีอาหารตาให้เห็นแล้ว  ทั้งต้นขาขาวๆ และรอยนูนเต็มตึงตรงเป้ากางเกง

"พีบีไปตามฉันมา"  คริสตัลตอบ  มองว่าที่ลูกสะใภ้ที่กำลังคุยกับลูกของตนอยู่ 

"หนูรู้สึกไม่ค่อยดี  แล้วคิดว่าแคลร์จะเป็นอะไร  ก็เลยว่าจะไปตามคุณแทยอน  แต่เจอคุณคริสพอดี  แล้วก็..."

"แล้วนางจิ้งจอกไม่ได้บอกหรือว่า  ส่งลูกมาทำอะไร"  สเตฟานี่พูดแทรกเด็กสาว  "หล่อนเป็นคนสั่งฉัน"

"คุณแทบอกให้ฉันมาดูอยู่แล้ว  แต่พีบีมาพอดี  เราเลยมาด้วยกัน"

"แล้วหนูก็ได้ยินเสียงแคลร์คำราม"  พีบีเล่าต่อ  "เสียงน่ากลัวมาก  หนูก็เลยวิ่งมาที่นี่  แล้วผลักประตูเข้ามา"

"แล้วฉันก็เจอเธอเกือบจะโดนแคลร์ขย้ำคอ"  คริสตัลว่า  ส่งสายตาบอกให้สเตฟานี่อธิบายว่าทำอะไรกับลูกเขา  ถึงโดนแบบนั้น  "ยั่วโมโหเขา  อย่างนั้นสินะ"

สเตฟานี่ยักไหล่  มองเด็กที่เหมือนคริสตัลย่อส่วนด้วยรอยยิ้มกวนๆ  นัยน์ตาซุกซนสำรวจแคลร์จนเด็กมันหนีไปแอบหลังพ่อ  "แค่ฝึกความอดทน"

คริสตัลขมวดคิ้ว  เขาบอกแทยอนแล้วว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย  ให้ใครมาสอนแคลร์ก็ได้  แต่ไม่ควรจะเป็นสเตฟานี่  หากแม่ของลูกก็ยืนยันว่าสเตฟานี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด  ดีจนเกือบจะทำให้ลูกเขาเป็นฆาตกรเลย

"งั้นวันนี้พอแค่นี้ก่อน  แคลร์ไปเปลี่ยนชุดครับ  เสื้อเรามีแต่เลือด  และหากางเกงหลวมๆ ใส่ด้วยนะลูก  มันจะอึดอัด"  เขาบอกลูกที่หน้าแดงกับคำสุดท้ายนั้น  พลางลูบหัวปลอบขวัญ  เขาพอจะเดาได้ว่าสเตฟานี่ทำอะไรกับลูกบ้าง  ไม่อย่างนั้นแคลร์คงจะไม่อาละวาดแบบนั้นแน่

"แล้วไปหาแม่นะ  แคลร์  พีบีด้วยครับ" 

แคลร์พยักหน้า  กอดพ่อครึ่งนาทีก่อนจะเดินออกไปพร้อมพีบี

"ทดสอบสัญชาตญาณและความอดทนต่อแรงกดดัน"  สเตฟานี่พูด  คริสตัลหวนกลับมามองเธอ  นัยน์ตาสีเขียวสบตาสองสี  "ข้อแรกผ่านฉลุย  แต่ข้อสองตก  เหมือนนายเป๊ะ  --  อ้อ  แผลหายรวดเร็วมาก"

คริสตัลขมวดคิ้วกับคำพูดเสริมของสเตฟานี่  แล้วเธอก็พูดต่อโดยที่เขาไม่ต้องขู่ให้เล่าออกมา

"ฉันปาดาบนั่นใส่หลังเขา  เขาไม่หลบ  มันเลยเสียบทะลุอกเขา  แต่เขาไม่เป็นอะไรเลย  แค่ดึงดาบออกมา  มันก็จบ"

"เธอเอาดาบเสียบลูกฉันขนาดนั้นเลยเหรอ"  เขาถามตกใจ  "แต่นั่นมันดาบไม้ไม่ใช่เหรอ"

"ใครว่าล่ะ"  สเตฟานี่พูดเสียงขำ  ใช้เท้าตวัดดาบเล่มนั้นขึ้นมาถือ  แล้วเอาอีกมือรูดมัน  คริสตัลจึงเห็นดาบเหล็กอย่างดีคมกริบเงาวับ

"แล้วถ้าแคลร์ไม่หายขึ้นมา  เธอจะทำยังไง  สเตฟานี่"  คริสตัลถามตกใจ  เขาแทบจะหักคอสเตฟานี่เลยทีเดียว  แต่เธอหนีไปยืนตรงชั้นลอยของห้องฝึกแล้ว  "คุณแทให้เธอทำขนาดนี้เลยเหรอ  นี่ลูกฉันนะ"

"ก็เพราะเป็นลูกนายไง  ถ้าเป็นลูกคนอื่นก็ตายห่าไปแล้วแหละ"

"เธอนี่มัน --"

"ก็ฉันบอกว่าเป็นการทดสอบไง"

"แล้วถ้าฉันทำแบบนี้กับไซม่อนบ้างล่ะ"

"ลูกฉันไม่ได้เป็นอมตะเหมือนลูกนาย  คริสตัล"  สเตฟานี่ตะคอก  ปาดาบลงมาหาชายหนุ่ม  เขาก็จับมันไว้ได้ด้วยนิ้วชี้กับนิ้วกลางโดยที่เลือดไม่ไหลสักหยด  "นายไม่ยอมฝึกเขาเลย  ฝาแฝดเหลาะแหละแทบไม่มีทักษะในการป้องกันตัวเอง  เขาใช้แค่สัญชาตญาณ  และนายก็รู้ว่ามันไม่ถูกต้อง"

"เราไม่ได้จะไปรบกับใคร  แล้วมันไม่ใช่หน้าที่ของพวกเขา"

"เพราะนายจะทำทุกอย่างใช่ไหม"  เธอย้อน  ยิ้มเยาะเมื่อคริสตัลขมวดคิ้ว  "นายอยู่กับพวกเขาไม่ได้ตลอดเวลาหรอก  คริส  พวกเขาโตแล้ว  และนายก็มีงานต้องทำเยอะแยะ  ต่อให้พวกเขาไม่ตาย  แต่ก็อาจถูกใครจับไปทรมานก็ได้  ใครจะรู้  โรงเรียนนี่ก็ใช่จะปลอดภัย  นายก็เห็นแล้วว่าใครๆ ก็เข้าออกได้ทั้งนั้น"

"ก็ใช่  แต่..."

"แคลร์จะช่วยนายได้  ถ้าเขาแข็งแกร่งกว่านี้  ครูซด้วย  ทำพวกเขาให้เป็นนักรบให้สมกับเป็นสมิธหน่อยสิ  ปล่อยลูกชายเจสซี่เป็นคุณชายไว้คนเดียวก็พอ"

"เรื่องนั้นไม่ใช่การตัดสินใจของเธอ"  คริสตัลพูด  หมุนตัวจะเดินออกจากห้องฝึก  และไม่ลืมส่งดาบคืนให้เจ้าของมันด้วย 

สเตฟานี่เบี่ยงหน้าหลบดาบนั้นเกือบจะไม่ทัน  ไม่อย่างนั้นมันคงปักหน้าเธอแทนผนังห้องไปแล้ว

"ลูกนายได้พ่อไปเยอะเลยนะ  น่าสงสารลูกสะใภ้นายเหมือนกันนะเนี่ย  คงเพลียแย่เลย  แต่ละคืน"

"หยุดพูดจาน่ารังเกียจกับเด็กแบบนั้นสักที  สเตฟานี่"

"แหม  ก็ฉันอิจฉานี่  อายุแค่สิบสองมีของขนาดนั้นเลย"

"พูดเหมือนเธอไม่มีอย่างนั้นแหละ"

"ก็ถ้ามันเหมือนกัน  ฉันจะตื่นเต้นทำไมล่ะ  เจ้าโง่"

คริสตัลยืนงงอยู่ตรงประตู  อีกก้าวเดียวเขาจะพ้นออกไปแล้ว  แต่คนไวมากก็กระโดดมาดักหน้า  ทาบริมฝีปากที่มีกลิ่นลิปสติกหอมๆ ลงกับปากเขา  ลูบไล้หน้าอกเขา  แล้วสะบัดหน้าจากไปด้วยรอยยิ้มอิ่มเอมใจ

ให้ตายเถอะ  เขาโดนยายสติเสียลวนลามอีกแล้ว!

........................................

หลังจากปรับน้ำเย็นๆ ให้กลายเป็นน้ำอุ่นแล้วก็ปล่อยให้มันราดหัวตัวเอง  แคลร์หลุบตาลงมองพื้นห้องอาบน้ำ  น้ำสีแดงไหลลงจากตัวเธอไปใส่กระเบื้องสีขาว  มันน่าตกใจทีเดียวที่คราบเลือดมากมายขนาดนี้  นี่ถ้าเป็นคนอื่น (ยกเว้นน้องๆ เธอ) คงไม่มีทางมายืนอาบน้ำอยู่แบบนี้ได้แน่นอน  ป่านนี้คงนอนอยู่ห้องวิกฤตในโรงพยาบาล  หรือจัดงานศพแล้วเรียบร้อย

"เธอจะฆ่าเขาจริงๆ เหรอ  แคลร์"  เสียงพีบีถามดังมาจากด้านนอก  แคลร์หวังว่าคู่หมั้นคงจะไม่ใจกล้าเข้ามาหาเธอตอนนี้  เพราะเธอไม่ไว้ใจตัวเองสักเท่าไหร่  โดยเฉพาะหลังจากที่เกือบจะขย้ำคอสเตฟานี่

"เธอคิดอะไรอยู่  ตอนนั้น"

"เปล่า  ฉันแค่โมโห"  แคลร์ตอบ  ชโลมแชมพูใส่เส้นผมสีบลอนด์ซีด  ตอนนี้ผมเธอไม่มีสีดำหลงเหลืออีกแล้ว  แต่ก็ชินกับมันแล้ว  "เขาแกล้งยั่วโมโหฉัน  ทำร้ายฉัน"

"ฉันได้ยินแม่เธอบอกว่าเป็นการทดสอบ"  พีบีพูดแทรกเสียงสายน้ำจากฝักบัว  ถ้าเป็นเวลาปกติเธอคงเข้าไปแกล้งแคลร์  หากหลังจากเจอเข้ากับความน่าหวาดหวั่นของเชื้อสายหมาป่าสมิธไป  เธอก็ต้องชั่งใจหน่อย

"เธอกลัวฉันเหรอ  พีปส์"  แคลร์ถาม  ได้กลิ่นความกลัวโชยมา

"ก็...ถ้าเธอเห็นตัวเองแบบที่ฉันเห็น..."

"ฉันไม่ทำร้ายเธอ" 

"ฉันรู้"  พีบีพูด  เสียงไม่แน่ใจ  "เธอเจ็บหรือเปล่า  ตอนโดนดาบแทงแบบนั้น  เสื้อเธอมีแต่เลือดเต็มไปหมด  ถ้าเป็นฉันละก็"

"เจ็บสิ  ตอนที่มันยังคาอยู่นะ  แต่พอดึงมันออกไปแล้ว  มันก็เฉยๆ"

"นั่นสิ  ดูเหมือนมันจะไม่มีรอยเหลือเลยสักนิดเดียว"

"ต้องขอบคุณพ่อฉัน"  แคลร์พูด  ยิ้มนิดๆ ตอนนึกถึงพ่อ  เธอถูตัวเอาคราบเลือดออก  ฟอกสบู่ทั่วตัว  รวมทั้งส่วนลับๆ ที่ยังไม่ค่อยชินกับมัน  จำได้ว่าเมื่อก่อนมันยังไม่ได้เป็นลักษณะนี้  มันเพิ่งจะมาเป็นแบบนี้ปีนี้เอง  ทำให้เธอเริ่มกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นผู้ชายไปเลยแบบครูซ

"เขาเป็นห่วงเธอมากเลยนะ  น่ารักดี"

"เธอคิดถึงบ้านอยู่หรือเปล่า  พีปส์"  เธอถาม  ล้างฟองสบู่กับแชมพูออกจากตัว  แน่ใจว่าสะอาดพอแล้วก็ซับน้ำออกด้วยผ้าขนหนู  ลังเลนิดๆ ว่าจะบอกให้พีบีไปรอที่อื่นก่อนดีไหม  ระหว่างเธอแต่งตัว  แต่ก็ตัดสินใจว่าคงจะไม่เป็นไร 

"ก็..."  พีบีกำลังจะตอบ  แต่ประตูห้องอาบน้ำเปิดออกก่อน  โชว์ร่างสูงเพรียวในผ้าขนหนูสีขาว  หัวใจเธอเต้นแรง  นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นแคลร์แบบนี้  ตอนมีอะไรกัน  เราไม่เคยถอดเสื้อผ้าจนหมดเลยสักครั้งเดียว 

"เอ่อ  โทษที  ฉันไปรอข้างนอกแล้วกัน"

แคลร์ทำหน้างง  มองตามหลังคนสูงกว่าไป  พีบีหน้าแดงจัด  แถมยังไม่มองเธอเต็มๆ ตาด้วย  กลัวเธอจะปล้ำเอางั้นเหรอ  แต่จะว่าไปก็ดีอยู่  เธอก็ไม่ค่อยไว้ใจตัวเองเหมือนกันนั่นแหละ

เธอส่ายหน้ากึ่งยิ้ม  เปิดล็อกเกอร์หยิบเสื้อผ้าสำรองออกมาสวมใส่  แต่พอถึงกางเกง  เธอก็มีแต่กางเกงแบบผู้หญิงทั้งนั้น  ยกเว้นตัวหนึ่งที่เป็นกางเกงวอร์มสำหรับเอาไว้ใส่ทับกางเกงกีฬาขาสั้น  เธอจึงตัวนั้น  เป่าผมให้พอแห้งหมาดๆ  ถ้าจะเอาให้แห้งสนิท  พีบีคงรอจนเหนื่อยแน่  ผมเธอยาวมากจนครูซชอบล้อเลียนและชอบดึงมันเล่น  ตอนเด็กๆ เขาก็ชอบดึงผมพ่อเหมือนกัน  บางทีเธอก็จิกหัวเขาคืนไปบ้าง 

"โทษทีที่ให้รอ..."  แคลร์พูดแล้วหยุดกลางคันเมื่อเห็นว่าพีบีไม่ได้อยู่คนเดียว  แต่คุยกับผู้หญิงตัวสูงอยู่  พอลองมองดีๆ ก็พบว่าเธอรู้จัก

"แคลร์  เป็นยังไงบ้างลูก"  ซอฮยอนร้องทัก  ผละจากพีบีมาจับตัวแคลร์หมุนสำรวจดูความเสียหาย  "น้าได้ยินว่าสเตฟานี่ทำอะไรเราเหรอ"

"เอ่อก็...  ก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ  หายแล้ว"  แคลร์ตอบแบบคนติดอ่าง  แปลกใจอาการเป็นเดือดเป็นร้อนของซอฮยอน  แม้อีกฝ่ายจะขึ้นชื่อว่าเป็นน้าสาวของเธออีกคน  ซอฮยอนเคยมาช่วยแม่เลี้ยงเธอกับครูซตอนเล็กๆ  แต่ตอนพวกเธอโตแล้ว  น้าสาวตัวสูงคนนี้ก็ไม่ค่อยว่างมาหาเหมือนก่อน  คงจะยุ่งกับทั้งงานที่ฝูง  บริษัทและที่โรงเรียนนี้ด้วยนั่นแหละ

"โอ้  ดีแล้วจ้ะ"  ซอฮยอนตอบ  ลูบศีรษะแคลร์และดันเข้ามาซบอกตัวเอง  แคลร์หน้าแดงจัดเพราะความนุ่มอุ่นของทรวงอกคุณน้า  เธอมองพีบีขอให้อีกฝ่ายช่วย  แต่รายนั้นก็เอาแต่กลั้นหัวเราะจนหน้าแดง

"น้าบอกพี่แทแล้วว่าให้ยกเลิกไป  ถ้าจะให้ใครสอนเราจริงๆ ก็ให้เป็นพี่ยูลดีกว่า  --  ป้ายูริน่ะค่ะ  จำได้ใช่ไหม" 

แคลร์พยักหน้าหงึกหงัก  เกร็งแทบตายก่อนที่ซอฮยอนจะปล่อยเธอให้ขยับออกมาจากหน้าอกทั้งนุ่มทั้งหอมและน่าซุกนั้นได้สักที  จริงๆ เธอก็เสียดายอยู่หรอก  แต่นี่มันน้าสาวเธอ  แถมพีบีก็ยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ด้วย

"ไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีแล้วค่ะ  งั้นน้ากลับไปทำงานก่อนละกัน"

"ขอบคุณค่ะ  น้าซอ"  แคลร์เอ่ย  ซอฮยอนก็ยิ้มกว้าง  แล้วกลับมาหอมแก้มเธอฟอดใหญ่  ก่อนจะเดินฉับๆ จากไปไวเหมือนตอนมา

"แหม  มีแต่สาวสวยๆ รุมล้อมนะเนี่ย"  พีบีแซว  หัวเราะคิกเพราะแคลร์ทำหน้าหงิกใส่  เธอจับแขนแคลร์ดึงให้เดินไปด้วยกัน  "ไปเถอะ  ต้องไปหาแม่เธอด้วยนี่นา"

"เธอไม่ต้องกลัวฉันนะ  พีปส์  ฉันจะไม่ทำร้ายเธอแน่นอน"  แคลร์พูดขึ้นระหว่างทาง  พีบีหันมายิ้มหวานแล้วชะโงกหน้ามาจูบปากเธอเบาๆ  มันไม่ใช่จูบแบบนั้น  หากให้ความรู้สึกดีจนเธอยิ้มไม่หุบ

"บ้านฉันไม่อบอุ่นแบบนี้  คนที่นี่น่ารัก  ถึงจะมีบางคนเพี้ยนไปบ้าง  แต่ทุกคนก็ดูรักกันดี  ฉันชอบ"  พีบีพูด  ยิ้มแต่นัยน์ตาเศร้านิดๆ  แคลร์จึงบีบมือแฟนสาวให้แน่นขึ้น 

"ที่นี่จะเป็นบ้านหลังที่สองของเธอ  ถ้าเธอต้องการ" 

ความเศร้าในดวงตาสีฟ้าค่อยๆ จางไป  รอยยิ้มของพีบีก็กว้างขึ้น  แคลร์ยิ้มบ้าง  เราจับมือกันเดินไปตลอดทาง  ไม่สนใจว่าใครจะมอง  แม้แต่กลุ่มนายดีนที่ทำตาขวางใส่เธอและเขาคงอยากจะเผาเธอด้วยสายตานั้น  ถ้าทำได้

.............................

เจสสิก้าลูบคางมองภาพจากจอโน้ตบุ๊กที่ยุนอาหันมาให้เธอดูด้วยตาตัวเอง  มันเป็นภาพจากกล้องในโรงฝึกของโรงเรียน  เริ่มต้นตั้งแต่แคลร์เดินเข้าไปในห้อง

"ก็ไม่ถึงขนาดขาดทักษะการป้องกันตัวเองเอาเสียเลยหรอก  เขายังรู้จักปกป้องหน้าเอาไว้"  เธอพูด  เหลือบตาขึ้นก็เห็นยุนอาส่ายหน้าดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นด้วยนัก  "ทำไมล่ะ  คริสมันไม่เคยสนใจหน้าตัวเองเลยนะ  โดนตบหน้าแหกตลอด"

"แคลร์เปิดช่องโหว่ให้ตัวเองโดนโจมตีจุดอ่อนได้แทบทุกจุด  ยกเว้นหน้านะคะ  พอกับคุณเลยเชียว"  ยุนอาชี้แจง  อดแขวะอีกคนไม่ได้

"อ้าว  ก็หน้าฉันมันสำคัญนี่  ใครจะให้หน้าแหกบ่อยๆ ล่ะ  ถึงมันจะหายเร็วก็เหอะ"  เจสสิก้าแย้ง  "แล้วเธอเอามาให้ฉันดูทำไม  จะบอกว่าลูกตัวเองห่วยแตกงั้นเหรอ"

"ฉันกำลังคิดว่าจะให้เขากับครูซเรียนศิลปะการต่อสู้แบบคริสไว้บ้าง  แต่คริสไม่อยากให้เรียน  เขาบอกไม่ใช่หน้าที่ลูก  เขาไม่ยอมสอนด้วย  ทำเหมือนตัวเองจะตามไปช่วยลูกได้ทุกที่อย่างนั้น"

"แล้วอันนี้ได้มายังไง"

"แทยอนค่ะ"  ยุนอาตอบ  "ให้สเตฟานี่ลองทดสอบลูกดูน่ะ  ทักษะพื้นฐาน  แล้วก็เป็นแบบที่เห็น"

"ฉันว่าเจดยังทำไม่ได้อย่างนี้เลยด้วยซ้ำนะ"  เจสสิก้าพูด  นึกถึงลูกตัวเอง  "ถ้าเป็นเจย์เดนก็คงวิ่งชนลูกเดียว  หลบใครก็ไม่เป็นด้วยซ้ำ"

"คุณกับคริสก็พอกันนั่นแหละค่ะ"  ยุนอาพูดแล้วถอนใจ  "นักรบควรฝึกซ้อมตลอดเวลา  ต่อให้ไม่มีวี่แววของข้าศึก  แต่นี่มันเริ่มมีแล้วนะคะ"

"ก็แค่พี่ชายของลูกสะใภ้เธอไม่ใช่หรือ"

"คุณเห็นแค่นั้นจริงเหรอคะ"

เจสสิก้าหน้าชา  คำถามแบบนี้ของยุนอายิ่งกว่าด่ากันตรงๆ ซะอีก  "จะทำอะไรก็ทำไปเลย  ยุนอา  ทีหลังไม่ต้องมาถามกันก็ได้  อ๊ะ  เดี๋ยวนะ"

"อะไรคะ" 

"ดูเอาเองสิ" 

ยุนอาชะโงกมามองจอโน้ตบุ๊ก  เธอเห็นสเตฟานี่ขโมยจูบคริสตัล  แต่ไม่สนใจมันเท่ากับอีกอย่างที่เธอเห็น  แต่เจสสิก้าคงไม่ทันเห็นมัน

สเตฟานี่แอบเอาอะไรบางอย่างไปจากเบลเซอร์ของคริสตัล

คีย์การ์ดสำรองห้องแล็บที่เธอให้เขาไว้หรือเปล่านะ                 




.....................


แอคชั่นบ้างอะไรบ้าง  อิอิ   :21: :61: :44:

Rating: This article has not been rated yet.
***************

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

17 พฤศจิกายน 2018 เวลา 22:42:11
เออฝึกอย่างอื่นบ้างเถอะ นอกจากฝึกผสมพันธ์ุน่ะ เป็นฝูงผู้พิทักษ์ไม่ใช่เหรอ น้าซอดูแปลกๆนะ ต้องมีอะไรในอะไรอีกใช่ไหม
แสดงความคิดเห็น